คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เรื่องฟินๆของเด็กโง่กับพี่เทพบุตร
3
เรื่องฟินๆของเด็กโง่กับพี่เทพบุตร
“ฮึกก....ฮึก..” ชานยอลสะอื้นออกมาเบาๆในขณะที่แขนทั้งสองยังคงกอดร่างสูงไว้แน่น
“นี่นาย..กอดฉันแน่นไปแล้วนะ =_=^”
“อ..เอ่อ ขอโทษครับ”
ชานยอลได้ยินดังนั้นก็ผละออกมาทันที ใบหน้าแดงก่ำขึ้นที่ไม่รู้ว่าเกิดจากการร้องไห้หนักหรือเขินที่ได้กอดคนตรงหน้านี้กันแน่
“ไอ้พวกนั้นมันทำอะไรนาย?” คริสถาม สายตาเหลือบไปมองด้านหลังก็พบว่าชายสองคนนั้นวิ่งหนีกลับไปแล้วเพราะคงเห็นเขามาพอดี
“ม..มัน..จะข่มขืนผม..ฮึก..” ชานยอลตอบพลางสะอึกสะอื้นเล็กน้อย
คริสพยักหน้าเข้าใจ พรุ่งนี้เขาคงต้องจัดการลงโทษไอ้พวกนั้นที่ทำชอบหาเรื่องรังแกคนอื่นเสมอ สายตาคมมองสภาพคนตรงหน้าลงมาเรื่อยจนเห็นเสื้อเชิ้ตนักเรียนสีขาวที่ถูกปลดกระดุมลงมาสองสามเม็ดนั่นที่เผยให้เห็นแผ่นอกขาวบางใต้เสื้อตัวนั้น ซึ่งก็ทำให้ใบหน้าหล่ออดที่จะเหลือบมองไม่ได้
“รีบติดกระดุมเสื้อของนายซะ เดี๋ยวก็โดนฉุดไปอีกหรอก”
“พี่จะฉุดผมรึไง”
“เหอะ..” คริสสบถออกมากับความคิดโง่ๆของชานยอล ร่างโปร่งติดกระดุมเสื้ออย่างเรียบร้อยพร้อมใช้มือเช็ดคราบน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าออก
“ว่าแต่..ผมนึกว่าพี่จะกลับบ้านไปแล้วเสียอีก”
“พอดีลืมของไว้ข้างใน” คริสตอบ ที่จริงเขาลืมรายงานของลู่ฮานที่เขาตั้งใจจะเอาไปลอกคืนนี้ไว้ที่ล็อกเกอร์เก็บของในโรงยิม จึงเดินกลับมาเอาแต่ก็เห็นร่างโปร่งวิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่งมาซะก่อน
“อ้อ งั้นไปพร้อมกัน ผมก็ยังไม่ได้เอากระเป๋านักเรียนออกมาด้วย”
“อืม” คริสส่งเสียงตอบรับในลำคอก่อนจะเดินนำร่างโปร่งเข้าไป ชานยอลรีบเดินตามอีกคนแล้วแอบจับชายเสื้ออีกคนไว้เบาๆ คริสรู้สึกว่ามีคนดึงชายเสื้อไว้ก็หันมามอง
“เอ่อ..ผมกลัวว่ามันจะมาอีกหน่ะ จับพี่แบบนี้ไว้คงไม่เป็นไรใช่ไหม -////-” ชานยอลบอกพร้อมเกาหัวแก้เขิน คริสมองพร้อมเผยยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วก็เดินเข้าไปในโรงยิมต่อไป
อ่า..พี่คริสยิ้มด้วย ถึงจะแค่มุมปากแต่ก็เท่ห์สำหรับชานยอลที่สุดเลย >_<
.....................................
“กลับบ้านยังไง?” คริสถามเด็กร่างโปร่งที่เดินออกมาจากโรงยิมพร้อมกับเขา หลังจากที่ไปเอาของที่ลืมไว้มาเรียบร้อย
“ห้ะ..พี่ถามผมหรอ?” ชานยอลหันไปย้ำถามคนข้างๆ
“อืม”
“ก็เดินกลับนี่แหละ บ้านผมอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่ห้าร้อยเมตรเอง..พี่คริสล่ะ?”
“เหมือนนาย”
ชานยอลกับคริสยังคงเดินไปเรื่อยๆโดยไม่ได้มีบทสนทนาใดๆ แต่ระหว่างเดินชานยอลก็ดันไปสะดุดกับก้อนหินที่วางอยู่ข้างทางทำให้หกล้มคุกเข่าลงกับพื้นทันที
“อ...โอ๊ยยย..!” เสียงหวานร้องลั่นอย่างเจ็บปวด คริสที่เดินนำอยู่ก็หันมามองร่างโปร่งที่นั่งแง่งอยู่บนพื้นคอนกรีต
“เป็นอะไร?”
“สะดุดก้อนหิน T^T”
“โง่ -_-+”
“ชิ!” ชานยอลสบถออกมาอย่างน้อยใจ...พี่คริสว่าชานยอลว่าโง่อีกแล้วอ่าทุกคน TOT
“ลุกขึ้นมา” คริสเดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่งพร้อมดึงแขนให้อีกคนลุกขึ้น
“อ..โอ๊ยย..พี่คริส ผมเจ็บอยู่นะ!” ชานยอลร้องครวญครางออกมาแล้วต่อว่าร่างสูงที่ใช้แรงกับเขานัก
“เรื่องของนาย”
-O- เงิบบบบบบบบบบ..
ชานยอลลุกขึ้นยืนเต็มตัวแต่ก็ทำท่าจะล้มลงไปกับพื้นอีกครั้งเพราะความเจ็บที่แล่นมาจากหัวเข่า คริสมองสภาพของคนตรงหน้าสักพักก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อย
“พี่คริสจะทำอะไรอ่ะ?” ชานยอลถามอย่างแปลกใจ
“นี่โง่หรือแกล้งโง่เนี่ย”
“-O-” พี่คริสว่าชานยอลโง่อีกแล้วอ่ะ...งื้อออออออ
“ขึ้นมาบนหลังฉันสิ”
“ห้ะ?” ชานยอลแทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่ออีกฝ่ายชวนให้เขาขึ้นไปบนแผ่นหลังหนานั่น ทำแบบนี้ก็หมายความว่า…
“พี่คริสให้ผมขี่หลังหรอ? *O*”
“อืม” ชานยอลแทบอยากกรีดร้องออกมาดังๆด้วยความดีใจ...
พี่คริสให้ชานยอลขี่หลัง พี่คริสให้ชานยอลขี่หลัง พี่คริสให้ชานยอลขี่หลัง พี่คริสให้ชานยอลขี่หลัง พี่คริสให้ชานยอลขี่หลัง พี่คริสให้ชานยอลขี่หลัง....อร๊ายยยยยยย >////<
“จะตื่นเต้นอีกนานไหม -_-^” คริสว่าอีกคนที่ยังยืนทำท่าดี๊ด๊าอยู่ เพราะเขารู้สึกเมื่อยเต็มทนล่ะ ที่เขาจะให้ร่างโปร่งขี่หลังนี่ก็ไม่ได้พิศวาสในตัวของอีกคนหรอก แต่แค่สงสารเท่านั้น ถ้าจะปล่อยให้เด็กบ้านี่เดินกลับเป็นไอ้เป๋แบบนี้ก็ดูจะใจดำเกินไป
ร่างโปร่งค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงพร้อมขยับกายขึ้นไปบนแผ่นหลังหนาอย่างช้าๆ พร้อมแขนเรียวยื่นออกไปพาดบนไหล่ของร่างสูงทั้งสองข้าง พอเขาขึ้นได้เต็มแผ่นหลังของร่างสูงพอดี คริสก็จับยึดขาทั้งสองข้างของชานยอลไว้ ก่อนจะก้าวเดินออกไปทันที
“บ้านนายอยู่ตรงไหน?”
“เดินตรงไปเรื่อยๆพอเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินถัดบ้านไปสามหลังก็จะเจอบ้านรั้วสีขาวของผมพอดี” ชานยอลอธิบายพลางทำใช้มือชี้แนะไปด้วย
“อืม”
ระหว่างทางกลับทั้งคู่ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรนัก เพราะปกติคริสก็ไม่ใช่คนช่างพูด ส่วนชานยอลก็เงียบเพราะคงเขินที่ได้ใกล้ชิดเทพบุตรของเขาขนาดนี้ ใบหน้าน่ารักที่แดงก่ำนิดๆ ซบลงบนไหล่หนาอย่างไม่ถือสา
อ่า...พี่คริสจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของเราไหมนะ >///////<
ร่างสูงแบกชานยอลเดินมาเรื่อยๆจนถึงบ้านหลังขนาดย่อมที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก หน้าบ้านหลังนี้เป็นรั้วสีขาวสะอาดมีต้นไม้ประดับประดาอย่างสวยงาม ส่วนตัวบ้านก็ทาสีฟ้าอ่อนพอสบายตาให้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมเยียน คริสรู้สึกได้ว่าบ้านหลังนี้ดูอบอุ่นน่าอยู่ยิ่งนัก
“หลังนี้ใช่ไหม?” คริสถามร่างโปร่งที่ยังอยู่บนหลังของเขา
“ครับ” ชานยอลพยักหน้า แล้วคริสก็ค่อยๆย่อตัวเพื่อให้อีกคนได้ลงมาอย่างสะดวก ชานยอลลงมาอย่างทุลักทุเลเล็กน้อยแต่ก็สามารถยืนทรงตัวเองได้อยู่
“ขอบคุณพี่คริสมากเลยนะครับ ทั้งเรื่องที่โรงยิมและก็ที่มาส่งผมที่บ้านด้วย ^O^” ชานยอลบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“อืม...งั้นฉันขอตัวล่ะ” คริสตอบเพียงสั้นๆก่อนจะขอตัวกลับไปทันที
“กลับบ้านดีๆนะพี่คริส!” ชานยอลโบกมือลาพร้อมตะโกนบอกคนที่หันหลังเดินไปแล้ว เขารอให้ร่างสูงเดินห่างไกลจนลับตาก่อนจะเดินเข้าบ้านของตัวเอง
“กลับมาแล้วหรอลูก..โอ้ะ! แล้วที่ขานั่นไปโดนอะไรมาห้ะ?” ทันทีที่ชานยอลเข้าในบ้านคุณนายปาร์คหรือแม่ของชานยอลก็ถามลูกตัวดีขึ้นพร้อมอุทานแปลกใจที่เห็นลูกเดินขากะเพกมา
“ล้มนิดหน่อยครับแม่”
“เดินยังไงเนี่ยลูกฉัน แล้วนั่นทำแผลยัง ถ้ายังก็รีบไปทำซะ..ชานยอลนะชานยอล ชอบทำให้แม่เป็นห่วงอยู่เรื่อย” คุณนายปาร์คบ่นพึมพำใส่ ชานยอลยิ้มเล็กน้อยถึงความเป็นห่วงของแม่ที่มีต่อเขา
“ผมโตแล้วนะแม่ ไม่ต้องห่วงผมขนาดนั้นหรอก -3-”
“โตแต่ตัวล่ะสิไม่ว่า..ป้ะๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวทำแผลแล้วมากินข้าวซะ แม่ทำกับข้าวเตรียมไว้ให้เราแล้ว”
“คร้าบบบบบบคุณแม่ ^O^” ชานยอลส่งยิ้มแป้นให้ผู้เป็นแม่ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง คุณนายปาร์คส่ายหัวอย่างเอ็นดูกับลูกชายที่น่ารักของเธอ
ถึงจะโตแค่ไหน แต่ลูกก็เป็นเด็กน้อยในสายตาของแม่เสมอนะชานยอล...
ชานยอลเดินขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองถึงแม้จะลำบากไปสักหน่อยเพราะความเจ็บจากแผลที่หัวเข่า ร่างโปร่งนำเอากระเป๋าของตัวเองที่สะพายไว้ถอดออกมาตั้งไว้บนโต๊ะวางหนังสือ แล้วเขาก็ปลดเสื้อผ้าออกเพื่อจะไปชำระร่างกายในห้องน้ำ
“อ..โอ๊ย แสบชะมัด T^T” ชานยอลร้องลั่นเมื่อแผลถูกกับน้ำที่เขากำลังใช้ชำระร่างกาย ใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บของแผล ในหัวก็พลางแต่คิดนึกโทษตัวเอง
ทำไมเขาถึงชอบทำแต่เรื่องโง่ๆ ให้เดือดร้อนแก่ตัวเองเสมอนะ..ไม่เข้าใจจริงๆ -_-
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง ชานยอลก็เดินออกมาเลือกเสื้อผ้า เขาหยิบชุดนอนเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวสีฟ้าลายลิงพอลแฟรงค์การ์ตูนโปรดของเขา ก่อนที่จะเดินไปบนโต๊ะแล้วเปิดสมุดหนาสีน้ำตาลเล่มหนึ่งซึ่งหน้าปกเขียนไว้ว่า ไดอารี่ของชานยอล
ชานยอลนั่นเริ่มเขียนไดอารี่ตั้งแต่อยู่เกรดสี่จนปัจจุบันเพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างขี้ลืมนัก เขาจึงต้องบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำวันที่สำคัญๆลงในสมุดเล่มนี้เสมอ ซึ่งวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาจะลงมือเขียนอย่างที่เคยทำ
ก็แค่ไม่อยากให้ความทรงจำดีๆในทุกวันลบเลือนไปอย่างน่าเสียดายนี่หน่า J
..........................
“เมื่อวานพี่คริสไปส่งแกที่บ้านจริงหรอชานยอล!”
เสียงหวานที่ดังลั่นขึ้นด้วยความแปลกใจจากคนตัวเล็ก ทำให้คนในห้องเรียนที่กำลังทำกิจกรรมของตัวเองหันมามองร่างเล็กเป็นตาเดียวโดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงหลายคน จนชานยอลต้องรีบห้ามปรามทันที
“เบาๆหน่อยสิแบคฮยอน คนอื่นหันมามองกันหมดแล้ว”
“ช่างเขาสิ แคร์อะไร -3-” แบคฮยอนยักไหล่อย่างไม่สนใจ “ว่าแต่ ทำไมพี่คริสถึงไปส่งแกที่บ้านได้วะ หรือว่าแกไปอ่อยพี่เขาเหมือนยัยเค้กมะม่วงในหนังเรื่องสิ่งเล็กๆหรอ?”
“จะบ้าหรอ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“มีให้ขี่หลังด้วยเนี่ยนะ มันไม่พระเอกเกินไปหน่อยหรอ ” คนตัวเล็กบอกพร้อมทำหน้าครุ่นคิดอย่างสงสัย “หรือว่าพี่เขาจะชอบแกอยู่ลึกๆเหมือนกันหรือเปล่าเนี่ย”
“ใช่ที่ไหนเล่า พี่เขาก็ช่วยในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกคนนึงเท่านั้นแหละน่า” ชานยอลตอบอย่างหวั่นๆ ทั้งที่ในใจก็หวังอยากจะให้เป็นเหมือนที่แบคฮยอนพูด
“แกก็คิดดูนะ ถ้าพี่คริสไม่ชอบแก เขาคงตวาดไล่แกออกไปจากชีวิตพี่เขาตั้งแต่วันที่แกไปพูดประโยคงี่เง่าที่ให้พี่เขามาชอบแกตอนนั้นแล้ว เขาคงไม่ปล่อยแกแบบนี้หรอก แถมยังไปส่งแกที่บ้านโดยที่แกไม่ได้ขอร้องอีก แบบนี้มันน่าคิดนะชานยอล *O*”
“แต่ถ้ามันไม่จริงอย่างที่พวกเราคิด ฉันก็กลัวว่ามันจะเจ็บเปล่าๆนะสิ” ใบหน้าของชานยอลเจือนลงอย่างทันตา
เพราะเขาก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป แล้วจะมาเจ็บในภายหลังนะสิ
“เอาน่า ยังไงก็ต้องคิดในสองแง่ไว้ ถ้าจะคิดแต่ทางลบมันก็เสียใจไปเปล่าๆ ถ้านายอยากมีความสุขกับการที่นายได้ชอบพี่คริส ก็หัดคิดแต่เรื่องดีๆที่พี่เขาให้ทำแก่นายด้วยสิ”
“อืม..ฉันจะพยายามทำอย่างที่นายว่านะตัวเล็ก ^O^” ชานยอลบอกพร้อมรอยยิ้มให้แบคฮยอน ร่างเล็กยิ้มตอบรับก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้น
“ถึงนายจะเศร้าเพราะเรื่องอะไรก็ตามเถอะ...” แบคฮยอนว่าก่อนจะเว้นสักพัก “แต่อย่าลืมว่านายยังมีฉันเคียงข้างเสมอนะ...ไอ้หยอย ^3^” ร่างเล็กบอกพร้อมใช้แขนพาดรอบไหล่อีกคนแล้วโยกเบาๆ ชานยอลมองการกระทำของคนตัวเล็กด้วยใบหน้าสดใสที่เริ่มมีน้ำใสคลอในตาโตๆนั่นเล็กน้อย
“งื้อออออ..นายกำลังทำฉันซึ้งนะแบคฮยอน T////T”
TBC.
เม้าท์มอยท้ายบท♥
กว่าจะอัพตอนที่สามเสร็จปาไปสี่วัน โฮกกกกกก
รู้สึกมันกากแปลกๆอ่ะตอนนี้ ไม่รู้จะแต่งยังไงให้คนอ่านฟิน
เข้าเดือนกุมภาแล้ว เป็นเดือนของเทศกาลสั่งงาน
และการสอบที่เยอะที่สุดแล้วล่ะสิ T^T
อาจจะอัพช้ากว่าปกตินะ แต่สัญญา่ว่าจะมาอัพแน่นอน
อ่านแล้วอย่าลืมแม้นนะ เราอยากเห็นคอมเม้นยาวๆ
มากกว่าจำนวนเม้นอ่ะ อยากรู้ว่าฟิคเรื่องนี้ยัง
มีผลต่อคนอ่านมากหน่อยแค่ไหนอ่ะ
ความคิดเห็น