คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Things out of reach part.1
Chapter 1: Things out of reach
รังสีของดวงอาทิตย์ย้อมสีฟ้าของท้องฟ้าด้วยเฉดสีชมพูอ่อน ในขณะที่ดวงอาทิตย์สีแดงคล้อยตกไปเบื้องหลังของขอบฟ้าอย่างช้า เป็นสัญญาณการสิ้นสุดตอนบ่ายของฤดูใบไม้ผลิ นกต่างพากันบินข้ามทะเลที่เปล่งแสงระยิบระยับ พากันส่งเสียงขับร้องโน้ตสุดท้ายของวันในขณะที่บินกลับไปยังยอดไม้สีเขียว ชีวิตที่วุ่นวายของเมืองใหญ่ค่อยๆชะลอตัวลงเมื่อช่วงเวลาสุดท้ายของช่วงบ่ายนำสันติสุขมาสู่ประชาชนที่ทำงานกันอย่างหนัก พร้อมกับสัมผัสเย็นของสายลมยามค่ำคืนที่เกิดขึ้น
แสงแดดที่อบอุ่นซ่อนเร้นเล็ดรอดผ่านความมืด ผ้าม่านสีม่วง (burgundy)ในห้องที่เงียบสงบ ห้องที่ใหญ่โตมโหฬาร ความกว้างขวางของห้องสมุดนี้เทียบได้กับความรู้สึกเหมือนพวกเขาว่ายน้ำข้ามไปสู่ความลับ ชั้นไม้สีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยหนังสือโบราณ ตกแต่งด้วยภาพวาดสดใส ตกแต่งผนังด้วยกระดาษสีเบจ ประดับด้วยเก้าอี้เลานจ์รูปแบบ gently caressing the fifteenth century style* ทางเชื่อมที่เงียบสงบปูด้วยพรหมสีม่วง (burgundy)บนพื้นไม้ขัดมัน
แต่ดวงอาทิตย์ก็ได้สาดแสงมาพบกับชายหนุ่มรูปงามผู้มีเรือนผมสีน้ำตาล เขาดูสงบ สุขุม เขานั่งอยู่ด้านหน้าหน้าต่างคริสตัล เขามีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ จมูกของเขาตรงเป็นสัน กระตุ้นให้มองลงไปยังริมฝีปากอิ่ม เลื่อนลงและเลื่อนลงผ่านลำคอระหงของเขา ข้ามไปยังหน้าอกที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาว มือที่นุ่มนวลวาดไปตามความคิดอันใหม่ ลายเส้นโค้งที่สมบูรณ์แบบและความมุ่งมั่นที่แน่นอนลงบนกระดาษแผ่นเรียบ
แสงยังคงตามการเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างรวดเร็วในขณะที่เขาบิดหลอดสีดำและสีขาวบางส่วน เขาดูร่าเริงขึ้นเมื่อสามารถวาดรอยยิ้มบนปากบนภาพวาดได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ และยินดีกับงานใหม่ของเขาที่เขาทำอย่างระมัดระวังพลางยืดตัวบนเก้าอี้ขับความเมื่อยล้า เบนนัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาไปยังหน้าต่างด้านหน้าช้าๆมองดูความสวยงามของพระอาทิตย์คล้อยตกไปยังสวนหลังบ้าน...และพบแสงแห่งความสอดเสียดภายใต้เปลือกตาของผู้ที่มีความอิจฉาริษยา ดวงตาสีน้ำตาลหวานที่ชัดเจนที่ส่องแสงอย่างอบอุ่นแสดงทุกอย่างในตัวเขา
เขาได้ยินเสียงบ่นพึมพำก่อนที่ประตูจะเปิดออกไป ปรากฏร่างของลูกชายตัวน้อยของเขายืนอยู่ ฉับพลันก็วิ่งเข้ามาโอบกอดพร้อมรอยยิ้มกว้างโค้งขึ้นบนใบหน้าหวาน และเอื้อมมือไปจับมือเขา เขามองดูอย่างตั้งใจ ลูกชายตัวน้อยเดินอย่างใจเย็นไปกับเขา ลูกชายของเขาคือความทรงจำที่สดใสของตัวเองในวัยเด็ก คือการผสมกันระหว่างความงามตามธรรมชาติของแม่ของเขาและความไร้เดียงสาของเด็ก 6 ขวบ......ลูกชายคือชีวิตของเขา จิตวิญญาณที่ส่องแสงและการหายใจ ผ่านดวงตาสีน้ำตาลกลมบริสุทธิ์ซึ่งมักจะมองเขาออกเสมอ
“พ่อฮะ พวกเขาสาย...” ลูกชายตัวน้อยหน้ามุ่ยหลังจากพูดด้วยเสียงสะอื้น แขนเล็กๆกอดอกแน่นพลางมองมายังเขา
นิชคุณยิ้มเพียงเล็กน้อย แล้วก้มจูบด้วยความเอ็นดูไปยังกลุ่มผมสีน้ำตาลที่หัวเล็กของลูกชายตัวน้อย
“เมสัน ลูกก็รู้ว่าพวกเขามักจะสายเล็กน้อย ลูกต้องอดทนนะ” เขาบอกเบาๆ มองดูลูกชายถอนหายใจและพยักหน้าแบบไม่จริงจังเท่าไรนัก
“พ่อฮะ พ่อทำงานเกี่ยวกับอะไร” เมสันถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นภาพ พร้อมทั้งเขย่งเท้าเพื่อมองดูกระดาษที่อยู่บนโต๊ะ
“แนวความคิดที่จะใส่ในหนังสือเล่มใหม่นะ” นิชคุณตอบอย่างใจเย็น พร้อมทั้งพาเด็กน้อยอุ้มมานั่งบนตักของเขา
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งใดครับ” ลูกชายของเขาสงสัยใน curios อีกครั้งหนึ่ง เฝ้าดูอย่างสนใจกับภาพของเขา
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับสาวน้อยและลูกสุนัข พวกเขาไม่ทราบวิธีการที่พวกเขาจะได้เป็นเพื่อนเพราะพวกเขามาจากสายพันธุ์ที่แตกต่างกันโดยพวกเขาต้องผ่านอุปสรรคมากมาย” เขาบอกอย่างง่ายๆ แล้วจูบที่แก้มนุ่มของลูกชาย
“เหมือน ซังฮยอนกับผมหรอ ซังฮยอนมีผมสีดำ ส่วนผมมีสีน้ำตาล” เมสันถามด้วยความสงสัย ดวงตาของเขาโตอย่างน่ารักและมองกลับมาที่เขา
“ไม่ใช่ลูก มันไม่เกี่ยวกับสีผมมันเป็นเรื่องของความแตกต่างกันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ...” เขาพยายามที่จะอธิบายให้เห็น เด็กชายขมวดคิ้วอย่างสับสน
“แต่ซังฮยอนและฉันจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ... นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่ชอบเขาในตอนแรก” เมสันออกความเห็นอย่างหงุดหงิด หน้านิ่วคิ้วขมวดบนใบหน้าที่บริสุทธิ์ของเขาเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้น
นิชคุณหัวเราะกับการแสดงออกน่ารักของลูกชาย “พ่อคิดว่าลูกจะชอบซังฮยอน ลูกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะ” เขากล่าวพร้อมหัวเราะน้อย พลางทำหน้ามุ่ยเหมือนลูกชายเขา
“ตอนแรกไม่ใช่...” เด็กน้อยพึมพำ “พ่อก็รู้ซังฮยอนดีจริงๆและเป็นมิตรกับทุกคน ทุกคนในโรงเรียนอนุบาลอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา ... ผมอิจฉามากเพราะไม่มีใครต้องการเป็นเพื่อนกับผมดังนั้นผมจึงไม่สนใจเขา”
“อ้าว ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมลูกสองคนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในตอนนี้กันล่ะ”นิชคุณถาม และสงสัยว่าทำไมลูกชายของเขาถึงไม่เคยพูดคำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
“เมื่อพี่สาวบอกให้เราเลือกคู่นั่งซังฮยอนเลือกผม และเมื่อพวกเขาถามเขาว่าทำไมเขาเลือกผมเขาบอกว่า ‘เพราะฉันต้องการเพื่อนกับนาย’
“ลูกอยากหยุดความอิจฉาและยอมรับเขาใช่ไหม” นิชคุณแกล้งถามอย่างแปลกใจ ลูกชายของเขาพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“แน่นอน! ผมอยากให้ทุกคนเป็นเพื่อนของผมฮะ” เด็กน้อยอุทาน รอยยิ้มวาดอยู่บนใบหน้าของเขา
ที่จริงคงอยากจะบอกกับเขาว่า ‘ช่วยสนใจผมหน่อย’ และยากที่จะพูดว่า ‘ไม่’ กับซังฮยอน เด็กน้อยช่างปากแข็งเสียจริงๆ
“เมสัน ลูกน่ารักขนาดนี้ มันคงยากที่ทุกคนจะเพิกเฉยกับลูกนะ” เขาบอกในขณะที่กำลังลงรายละเอียดบางอย่างลงบนงานของเขา
เขารู้ดีที่สุดว่าเมสันรักซังฮยอนเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเลยทีเดียว
“แม่เป็นยังไงบ้างฮะ” เสียงแผ่วเบาของลูกชายตัวน้อยถามขึ้น และจ้องมองมายังเขา
นิชคุณถอนหายใจเบาๆและยิ้มมองกลับไปที่ลุกชายที่น่ารักของเขา “แม่สบายดี แม่บอกว่าเมืองจีนสวยงามมาก ได้เห็นแพนด้า...และยังคิดถึงลูกมากๆด้วย แต่แม่ยังกลับมาหาไม่ได้นะลูก” เขาจำได้ทุกคำที่วิคตอเรียโทรมา
“ผมคิดถึงแม่มากเลย!” เมสันอุทานอีกครั้งด้วยเสียงที่สดใส “พ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกันใช่ไหมฮะ”
ความรู้สึกที่ไม่สบายใจเกิดขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ ร่างกายของเขารู้สึกชา และหัวใจของเขารู้สึกหนักอึ้งเหมือนหิน ในตอนที่เขาจะต้องมองตรงเข้าไปในดวงตาที่ตื่นเต้นของลูกชายของเขา ... มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจะรู้สึกดี ความจริงที่เลวร้ายยิ่งขึ้นกว่าเมสันเชื่อเขา ว่าเขามั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดถึงเธอแล้ว เขาไม่ได้รักเฮอแล้ว ไม่มีแม้แต่พื้นที่เล็กๆ ในหัวใจของเขาสำหรับเธอ
มันไม่ได้เป็นเพราะวิคตอเรียใช้เวลาเกือบตลอดทั้งปีการเดินทางรอบโลกกับวงดนตรีของเธอแทนที่จะอยู่ที่บ้านกับเมสันและเขา และเป็นครอบครัว นิชคุณรู้สึก.....ไม่สนใจเรื่องเกี่ยวกับแม่ของลูกของเขา
มันเป็นเพียงเพราะเขาไม่ได้รักเธอ
“เคยรักเธอไหม?” เขาสงสัยและได้แต่ถามตัวเอง แต่เขาก็หาคำตอบไม่ได้จริงๆ
แต่มีดวงตาที่ไร้เดียงสายังคงรอคอยคำตอบจากเขา เขาสูดหายใจลึกเพื่อทำทุกอย่างที่ถูกต้องและบังคับตัวเองให้ยิ้มเท่าที่เขาจะสามารถ เขากำลังจะใช้ประโยชน์จากจิตใจที่บริสุทธิ์ลูกชายของเขาเอง แววตาที่รู้สึกผิดของเขามองลูกชายที่น่ารัก เขาได้แต่กรีดร้องในใจ
แต่ทันทีที่ริมฝีปากของเขาจะอ้าออกไป เหมือนมีเสียงกระดิ่งดังสะท้อนในหูของเขา ฆ่าคำที่น่ากลัวเหล่านั้นก่อนที่พวกมันจะโผล่พ้นออกจากปากของเขาและเข้าถึงหัวใจที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย
เมสันกระโดดลงจากตักของเขาอย่างตื่นเต้นและวิ่งออกไปจากห้องพักและตะโกนเสียงแจ๋ว “พวกเขาอยู่ที่นี่” ที่ทำให้นิชคุณรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ที่เขาหนีออกมาจากสถานการณ์น่าอึดอัดและเขาได้ให้อภัยในคำโกหก ... อย่างน้อยแค่ตอนนี้
“พ่อ เร็วๆ” เขาได้ยินสียงเมสันตะโกนอย่างรีบเร่ง เขาหัวเราะน้อยๆ ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องแสงแดดที่อบอุ่นส่องมาจากหน้าต่างทุกบานต้อนรับเขาพร้อมกับเสียงสะท้อนของเมสันไปตามผนัง
แสงไฟสีเหลืองสดใสสาดส่องตามเขาในขณะที่เขาเดินอย่างใจเย็นไปตามทางเดิน เขาหัวเราะเบาๆอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงที่ออกอาการหงุดหงิดนิดของเมสัน แสงแดดยังคงตามเขาไป ผ่านห้องครัวสีขาวและห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ ลูกชายของเขายืนอย่างตื่นเต้นอยู่ที่หน้าประตู รอยยิ้มวาดอยู่บนใบหน้าของเขาสายตาที่... เหมือนกับยึดจับความเศร้าเมื่อหัวใจของเขาจำได้ทุกครั้งที่เขาโกหกเมสัน
“พ่อฮะ เร็วๆ” เสียงกังวลของลูกชายของเขาหยุดเขาจากความคิด กลับมาอีกครั้ง และยอมโดนเด็กน้อยลากเขาไปที่ประตูด้วยพลังทั้งหมดที่เมสันมีอย่างรวดเร็ว นิชคุณถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะมองไปยังประตูไม้สีขาว
เขารู้สึกเดือดปุดๆ คนที่อยู่เบื้องหลังประตูทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาทั่วร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกห่วงใย แต่กังวลในเวลาเดียวกัน หัวใจของเขาเต้นแรง ส่งคลื่นความร้อนไปยังทุกส่วนของร่างกาย ฝ่ามือของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและหายใจยากมาก ... แต่สิ่งที่อยากรู้อยากเห็น...ทั้งหมด...มันให้ความรู้สึกที่ดี...ดีมาก
“พ่อฮะ!” เมสันบ่น และดึงแขนเสื้อของพ่อเขาอย่างงอแง ลูกชายของเขาไม่รออีกต่อไปรวมถึงตัวนิชคุณด้วย
เขาเคลื่อนมือไปจับลูกบิดเพื่อเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ความงดงามตามธรรมชาติของพระอาทิตย์ตกด้วยรังสีสีเหลืองกระทบเข้าไปในดวงตาของเขา แต่สิ่งที่จะทำให้ตาของเขาบอดคือรอยยิ้มที่สดใสราวภาพวาด ริมฝีปากสีชมพูตัดกับผมสีบลอนด์ ชายหนุ่มยืนอยู่ข้างหน้า เขาแทบจะไม่ได้ยินเมสันและซังฮยอนเดินผ่านเขา และขึ้นบันได เมื่อดวงตาของเขาในที่สุดก็ย้ายออกจากปากที่ล่อลวงนั้นไปยังดวงตาสีดำ แสงจากดวงตากลมนั้นทำให้เขาอบอุ่นกว่าแสงจากดวงอาทิตย์
สองปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกที่เขารู้สึกแบบนี้และในวันนี้เขาก็ยังคงรู้สึกบ้าคลั่ง กระโดดไปรอบหัวใจของเขา เพียงแค่การปรากฏของเด็กคนนี้...
to be continued.....
* burgendy คือ สีเหมือนไวน์แดง
ความคิดเห็น