ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [khunwoo]Us Against The World

    ลำดับตอนที่ #2 : Things out of reach part.1

    • อัปเดตล่าสุด 9 ม.ค. 56


    Chapter 1: Things out of reach


     

    รังสีของดวงอาทิตย์ย้อมสีฟ้าของท้องฟ้าด้วยเฉดสีชมพูอ่อน ในขณะที่ดวงอาทิตย์สีแดงคล้อยตกไปเบื้องหลังของขอบฟ้าอย่างช้า เป็นสัญญาณการสิ้นสุดตอนบ่ายของฤดูใบไม้ผลิ นกต่างพากันบินข้ามทะเลที่เปล่งแสงระยิบระยับ พากันส่งเสียงขับร้องโน้ตสุดท้ายของวันในขณะที่บินกลับไปยังยอดไม้สีเขียว ชีวิตที่วุ่นวายของเมืองใหญ่ค่อยๆชะลอตัวลงเมื่อช่วงเวลาสุดท้ายของช่วงบ่ายนำสันติสุขมาสู่ประชาชนที่ทำงานกันอย่างหนัก พร้อมกับสัมผัสเย็นของสายลมยามค่ำคืนที่เกิดขึ้น

     

    แสงแดดที่อบอุ่นซ่อนเร้นเล็ดรอดผ่านความมืด ผ้าม่านสีม่วง (burgundy)ในห้องที่เงียบสงบ ห้องที่ใหญ่โตมโหฬาร ความกว้างขวางของห้องสมุดนี้เทียบได้กับความรู้สึกเหมือนพวกเขาว่ายน้ำข้ามไปสู่ความลับ ชั้นไม้สีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยหนังสือโบราณ ตกแต่งด้วยภาพวาดสดใส ตกแต่งผนังด้วยกระดาษสีเบจ ประดับด้วยเก้าอี้เลานจ์รูปแบบ gently caressing the fifteenth century style* ทางเชื่อมที่เงียบสงบปูด้วยพรหมสีม่วง (burgundy)บนพื้นไม้ขัดมัน

     

    แต่ดวงอาทิตย์ก็ได้สาดแสงมาพบกับชายหนุ่มรูปงามผู้มีเรือนผมสีน้ำตาล เขาดูสงบ สุขุม เขานั่งอยู่ด้านหน้าหน้าต่างคริสตัล เขามีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ จมูกของเขาตรงเป็นสัน กระตุ้นให้มองลงไปยังริมฝีปากอิ่ม เลื่อนลงและเลื่อนลงผ่านลำคอระหงของเขา ข้ามไปยังหน้าอกที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาว มือที่นุ่มนวลวาดไปตามความคิดอันใหม่ ลายเส้นโค้งที่สมบูรณ์แบบและความมุ่งมั่นที่แน่นอนลงบนกระดาษแผ่นเรียบ

     

    แสงยังคงตามการเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างรวดเร็วในขณะที่เขาบิดหลอดสีดำและสีขาวบางส่วน เขาดูร่าเริงขึ้นเมื่อสามารถวาดรอยยิ้มบนปากบนภาพวาดได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ และยินดีกับงานใหม่ของเขาที่เขาทำอย่างระมัดระวังพลางยืดตัวบนเก้าอี้ขับความเมื่อยล้า เบนนัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาไปยังหน้าต่างด้านหน้าช้าๆมองดูความสวยงามของพระอาทิตย์คล้อยตกไปยังสวนหลังบ้าน...และพบแสงแห่งความสอดเสียดภายใต้เปลือกตาของผู้ที่มีความอิจฉาริษยา ดวงตาสีน้ำตาลหวานที่ชัดเจนที่ส่องแสงอย่างอบอุ่นแสดงทุกอย่างในตัวเขา

     

    เขาได้ยินเสียงบ่นพึมพำก่อนที่ประตูจะเปิดออกไป ปรากฏร่างของลูกชายตัวน้อยของเขายืนอยู่ ฉับพลันก็วิ่งเข้ามาโอบกอดพร้อมรอยยิ้มกว้างโค้งขึ้นบนใบหน้าหวาน และเอื้อมมือไปจับมือเขา เขามองดูอย่างตั้งใจ ลูกชายตัวน้อยเดินอย่างใจเย็นไปกับเขา ลูกชายของเขาคือความทรงจำที่สดใสของตัวเองในวัยเด็ก คือการผสมกันระหว่างความงามตามธรรมชาติของแม่ของเขาและความไร้เดียงสาของเด็ก 6 ขวบ......ลูกชายคือชีวิตของเขา จิตวิญญาณที่ส่องแสงและการหายใจ ผ่านดวงตาสีน้ำตาลกลมบริสุทธิ์ซึ่งมักจะมองเขาออกเสมอ

     

     

     

    พ่อฮะ พวกเขาสาย... ลูกชายตัวน้อยหน้ามุ่ยหลังจากพูดด้วยเสียงสะอื้น แขนเล็กๆกอดอกแน่นพลางมองมายังเขา

    นิชคุณยิ้มเพียงเล็กน้อย แล้วก้มจูบด้วยความเอ็นดูไปยังกลุ่มผมสีน้ำตาลที่หัวเล็กของลูกชายตัวน้อย

     

    เมสัน ลูกก็รู้ว่าพวกเขามักจะสายเล็กน้อย ลูกต้องอดทนนะเขาบอกเบาๆ มองดูลูกชายถอนหายใจและพยักหน้าแบบไม่จริงจังเท่าไรนัก

     

    พ่อฮะ พ่อทำงานเกี่ยวกับอะไร เมสันถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นภาพ พร้อมทั้งเขย่งเท้าเพื่อมองดูกระดาษที่อยู่บนโต๊ะ

    แนวความคิดที่จะใส่ในหนังสือเล่มใหม่นะนิชคุณตอบอย่างใจเย็น พร้อมทั้งพาเด็กน้อยอุ้มมานั่งบนตักของเขา

     

    เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งใดครับลูกชายของเขาสงสัยใน curios อีกครั้งหนึ่ง เฝ้าดูอย่างสนใจกับภาพของเขา

     

    เป็นเรื่องเกี่ยวกับสาวน้อยและลูกสุนัข พวกเขาไม่ทราบวิธีการที่พวกเขาจะได้เป็นเพื่อนเพราะพวกเขามาจากสายพันธุ์ที่แตกต่างกันโดยพวกเขาต้องผ่านอุปสรรคมากมายเขาบอกอย่างง่ายๆ แล้วจูบที่แก้มนุ่มของลูกชาย

     

    เหมือน ซังฮยอนกับผมหรอ ซังฮยอนมีผมสีดำ ส่วนผมมีสีน้ำตาลเมสันถามด้วยความสงสัย ดวงตาของเขาโตอย่างน่ารักและมองกลับมาที่เขา

     

    ไม่ใช่ลูก มันไม่เกี่ยวกับสีผมมันเป็นเรื่องของความแตกต่างกันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ... เขาพยายามที่จะอธิบายให้เห็น เด็กชายขมวดคิ้วอย่างสับสน

     

    แต่ซังฮยอนและฉันจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ... นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่ชอบเขาในตอนแรกเมสันออกความเห็นอย่างหงุดหงิด หน้านิ่วคิ้วขมวดบนใบหน้าที่บริสุทธิ์ของเขาเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้น

     

    นิชคุณหัวเราะกับการแสดงออกน่ารักของลูกชาย พ่อคิดว่าลูกจะชอบซังฮยอน ลูกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะเขากล่าวพร้อมหัวเราะน้อย พลางทำหน้ามุ่ยเหมือนลูกชายเขา

     

    ตอนแรกไม่ใช่... เด็กน้อยพึมพำพ่อก็รู้ซังฮยอนดีจริงๆและเป็นมิตรกับทุกคน ทุกคนในโรงเรียนอนุบาลอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา ... ผมอิจฉามากเพราะไม่มีใครต้องการเป็นเพื่อนกับผมดังนั้นผมจึงไม่สนใจเขา

     

    อ้าว ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมลูกสองคนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในตอนนี้กันล่ะนิชคุณถาม และสงสัยว่าทำไมลูกชายของเขาถึงไม่เคยพูดคำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน

     

    เมื่อพี่สาวบอกให้เราเลือกคู่นั่งซังฮยอนเลือกผม และเมื่อพวกเขาถามเขาว่าทำไมเขาเลือกผมเขาบอกว่าเพราะฉันต้องการเพื่อนกับนาย’

     

    ลูกอยากหยุดความอิจฉาและยอมรับเขาใช่ไหมนิชคุณแกล้งถามอย่างแปลกใจ ลูกชายของเขาพยักหน้าอย่างตื่นเต้น

     

    แน่นอน! ผมอยากให้ทุกคนเป็นเพื่อนของผมฮะเด็กน้อยอุทาน รอยยิ้มวาดอยู่บนใบหน้าของเขา

    ที่จริงคงอยากจะบอกกับเขาว่า ช่วยสนใจผมหน่อยและยากที่จะพูดว่า ไม่กับซังฮยอน เด็กน้อยช่างปากแข็งเสียจริงๆ

     

    เมสัน ลูกน่ารักขนาดนี้ มันคงยากที่ทุกคนจะเพิกเฉยกับลูกนะเขาบอกในขณะที่กำลังลงรายละเอียดบางอย่างลงบนงานของเขา

    เขารู้ดีที่สุดว่าเมสันรักซังฮยอนเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเลยทีเดียว

     

    แม่เป็นยังไงบ้างฮะเสียงแผ่วเบาของลูกชายตัวน้อยถามขึ้น และจ้องมองมายังเขา

    นิชคุณถอนหายใจเบาๆและยิ้มมองกลับไปที่ลุกชายที่น่ารักของเขา แม่สบายดี แม่บอกว่าเมืองจีนสวยงามมาก ได้เห็นแพนด้า...และยังคิดถึงลูกมากๆด้วย แต่แม่ยังกลับมาหาไม่ได้นะลูกเขาจำได้ทุกคำที่วิคตอเรียโทรมา

     

    ผมคิดถึงแม่มากเลย!”  เมสันอุทานอีกครั้งด้วยเสียงที่สดใส พ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกันใช่ไหมฮะ

    ความรู้สึกที่ไม่สบายใจเกิดขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ ร่างกายของเขารู้สึกชา และหัวใจของเขารู้สึกหนักอึ้งเหมือนหิน ในตอนที่เขาจะต้องมองตรงเข้าไปในดวงตาที่ตื่นเต้นของลูกชายของเขา ... มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจะรู้สึกดี ความจริงที่เลวร้ายยิ่งขึ้นกว่าเมสันเชื่อเขา ว่าเขามั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดถึงเธอแล้ว เขาไม่ได้รักเฮอแล้ว ไม่มีแม้แต่พื้นที่เล็กๆ ในหัวใจของเขาสำหรับเธอ

     

    มันไม่ได้เป็นเพราะวิคตอเรียใช้เวลาเกือบตลอดทั้งปีการเดินทางรอบโลกกับวงดนตรีของเธอแทนที่จะอยู่ที่บ้านกับเมสันและเขา และเป็นครอบครัว  นิชคุณรู้สึก.....ไม่สนใจเรื่องเกี่ยวกับแม่ของลูกของเขา

    มันเป็นเพียงเพราะเขาไม่ได้รักเธอ

     

    เคยรักเธอไหม?” เขาสงสัยและได้แต่ถามตัวเอง แต่เขาก็หาคำตอบไม่ได้จริงๆ

     

    แต่มีดวงตาที่ไร้เดียงสายังคงรอคอยคำตอบจากเขา เขาสูดหายใจลึกเพื่อทำทุกอย่างที่ถูกต้องและบังคับตัวเองให้ยิ้มเท่าที่เขาจะสามารถ เขากำลังจะใช้ประโยชน์จากจิตใจที่บริสุทธิ์ลูกชายของเขาเอง แววตาที่รู้สึกผิดของเขามองลูกชายที่น่ารัก เขาได้แต่กรีดร้องในใจ

     

    แต่ทันทีที่ริมฝีปากของเขาจะอ้าออกไป เหมือนมีเสียงกระดิ่งดังสะท้อนในหูของเขา ฆ่าคำที่น่ากลัวเหล่านั้นก่อนที่พวกมันจะโผล่พ้นออกจากปากของเขาและเข้าถึงหัวใจที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย

     

    เมสันกระโดดลงจากตักของเขาอย่างตื่นเต้นและวิ่งออกไปจากห้องพักและตะโกนเสียงแจ๋ว  พวกเขาอยู่ที่นี่ที่ทำให้นิชคุณรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ที่เขาหนีออกมาจากสถานการณ์น่าอึดอัดและเขาได้ให้อภัยในคำโกหก ... อย่างน้อยแค่ตอนนี้

     

    พ่อ เร็วๆเขาได้ยินสียงเมสันตะโกนอย่างรีบเร่ง เขาหัวเราะน้อยๆ ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องแสงแดดที่อบอุ่นส่องมาจากหน้าต่างทุกบานต้อนรับเขาพร้อมกับเสียงสะท้อนของเมสันไปตามผนัง

    แสงไฟสีเหลืองสดใสสาดส่องตามเขาในขณะที่เขาเดินอย่างใจเย็นไปตามทางเดิน เขาหัวเราะเบาๆอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงที่ออกอาการหงุดหงิดนิดของเมสัน แสงแดดยังคงตามเขาไป ผ่านห้องครัวสีขาวและห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ ลูกชายของเขายืนอย่างตื่นเต้นอยู่ที่หน้าประตู รอยยิ้มวาดอยู่บนใบหน้าของเขาสายตาที่... เหมือนกับยึดจับความเศร้าเมื่อหัวใจของเขาจำได้ทุกครั้งที่เขาโกหกเมสัน

     

    พ่อฮะ เร็วๆเสียงกังวลของลูกชายของเขาหยุดเขาจากความคิด กลับมาอีกครั้ง และยอมโดนเด็กน้อยลากเขาไปที่ประตูด้วยพลังทั้งหมดที่เมสันมีอย่างรวดเร็ว นิชคุณถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะมองไปยังประตูไม้สีขาว

     

    เขารู้สึกเดือดปุดๆ คนที่อยู่เบื้องหลังประตูทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาทั่วร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกห่วงใย แต่กังวลในเวลาเดียวกัน หัวใจของเขาเต้นแรง ส่งคลื่นความร้อนไปยังทุกส่วนของร่างกาย ฝ่ามือของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและหายใจยากมาก ... แต่สิ่งที่อยากรู้อยากเห็น...ทั้งหมด...มันให้ความรู้สึกที่ดี...ดีมาก

     

    พ่อฮะ!” เมสันบ่น และดึงแขนเสื้อของพ่อเขาอย่างงอแง ลูกชายของเขาไม่รออีกต่อไปรวมถึงตัวนิชคุณด้วย

     

    เขาเคลื่อนมือไปจับลูกบิดเพื่อเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ความงดงามตามธรรมชาติของพระอาทิตย์ตกด้วยรังสีสีเหลืองกระทบเข้าไปในดวงตาของเขา แต่สิ่งที่จะทำให้ตาของเขาบอดคือรอยยิ้มที่สดใสราวภาพวาด ริมฝีปากสีชมพูตัดกับผมสีบลอนด์ ชายหนุ่มยืนอยู่ข้างหน้า เขาแทบจะไม่ได้ยินเมสันและซังฮยอนเดินผ่านเขา และขึ้นบันได เมื่อดวงตาของเขาในที่สุดก็ย้ายออกจากปากที่ล่อลวงนั้นไปยังดวงตาสีดำ แสงจากดวงตากลมนั้นทำให้เขาอบอุ่นกว่าแสงจากดวงอาทิตย์

     

     

    สองปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกที่เขารู้สึกแบบนี้และในวันนี้เขาก็ยังคงรู้สึกบ้าคลั่ง กระโดดไปรอบหัวใจของเขา เพียงแค่การปรากฏของเด็กคนนี้...



    to be continued.....


    * burgendy คือ สีเหมือนไวน์แดง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×