คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ ๔
๐๔
และแล้วตอนนี้ผมก็มาอยู่บนรถตุ๊กตุ๊กจนได้...
ผมนับถือพี่คนขับจริงๆครับ...พี่เขาปฏิบัติหน้าที่ได้ซื่อสัตย์สุดๆ... หลังจากที่ไอ้คนข้างๆผมมันบอกให้พี่เขาขับเร็วๆ หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าแกเก็บกดมาจากไหน เหยียบคันเร่งซะมิด เหมือนเพิ่งทะเราะกับเมียที่บ้าน แถมท้องถนนก็ยังเป็นใจที่ไม่มีรถสัญจรมากมาย ทำให้พี่แกได้ปลดปล่อยเต็มที่ เล่นเอาหัวที่เซตมาก่อนออกจากบ้านเป็นอย่างดีกระเจิงอย่างกับถูกเฮอร์ริเคนถล่ม!
เย็นครับ เย็นมาก... เย็นสันหลังวาบ... หวังว่าผมคงจะถึงที่หมาย โดยไม่ได้แวะไปทัวร์ยมโลกแพ็คเก็ทไปไม่กลับ
โอยย เมียไม่ให้ตังมาเหรอพี่...
ผมหันไปมองต้นตอที่ทำให้ต้องมานั่งเกร็งสันหลังเกาะเบาะนั่งอย่างกับตุ๊กแกแบบนี้ มันนั่งชิวๆ สบายๆอย่างกับขับสปอร์ตเปิดประทุนกินลมชมวิว
ความจริงผมก็เป็นคนขับรถเร็วนะ แต่ในสถานการณ์แบบนี้มันก็ต้องมีกันบ้างดิ ยิ่งเห็นพี่คนขับเขาขับแบบบ้าระห่ำด้วยแล้ว... ไอ้เชี่ย! ถึงที่กูจะฆ่ามึง ไอ้ฟัค!
แต่ดูเหมือนจะรอดแล้ว เมื่อเครื่องเริ่มผ่อนแรงลงหลังจากที่มองเห็นได้ว่าอีกไม่กี่เมตรข้างหน้ามีไฟแดงหัวใจที่เต้นโครมครามเมื่อกี้ก็ค่อยๆผ่อนลงตามกำลังของเครื่องยนต์... ผมหันขวับไปหาไอ้เด็กเวรข้างๆนี่ทันที ซึ่งมันก็มองผมอยู่ก่อนแล้ว แถมอมยิ้มเหมือนกลั้นขำ
ทีใครทีมันนะมึง....
“แน่จริงก็ขำออกมาดิ” ผมยักคิ้วสองจึ๊กให้มันเป็นภาพประกอบ เล่นเอามันกลับมาทำหน้าตายก่อนจะหันหน้ากลับไปมองตรง ไม่กล้าอ่ะดิ...ไม่เป็นเพราะจะเก๊กมาดนิ่ง ก็คงกลัวเหล็กดัดฟันสีใหม่ออกมาให้ชาวโลกได้เชยชม เหอะๆ
“พี่น่าจะได้เห็นหน้าตัวเองนะ” ขึ้นเลย
“ใครจะไปหน้าตายทั้งปีทั้งชาติเหมือนมึง” ผมพูดเรียบๆ
พี่คนขับก็อีกคน นี่รับจ๊อบส่งวิญญาณลงนรกด้วยรึเปล่าพี่? ความจริงผมไม่ควรอยู่บนนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ขับรถชิวๆ เปิดแอร์เย็นๆ ฟังเพลงสบายๆ นั่นย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
“พี่ครับ ต่อจากนี้ขับแบบธรรมดาๆก็ได้นะ” ผมบอกพี่คนขับ ซึ่งแกก็ขับมายิ้มพยักหน้าให้สองสามที ไม่เอาแล้ว... โลกยังต้องการผมอยู่นะครับ
ก็อย่างที่รู้กันว่าไฟแดงกรุงเทพแม่งติดนานเกิน แถมแดดก็เปรี๊ยง ผมนี่สาปแช่งไอ้ตัวต้นเหตุข้างๆ ถอนหายใจแรงๆ เขย่าคอเสื้อให้ลมมันเข้าเผื่อจะเย็นขึ้น แล้วมองไปรอบๆตัวเพื่อฆ่าเวลาไปกับทัศนียภาพเดิมๆที่เห็นอยู่ทุกๆวัน นั่งรออีกประมาณ 2 นาที ในที่สุดป้ายไฟข้างหน้าก็เปลี่ยนสีจากแดงเป็นเขียว ทำให้ตุ๊กตุ๊กซิ่งท้านรกเมื่อกี้ค่อยๆออกตัวช้าๆ คราวนี้พี่เขาขับไปเรื่อยๆ พอให้มีลมอ่อนๆ ก็ให้ความรู้สึกดีเหมือนกัน ถึงแม้มันจะขัดกับแดดที่สาดเข้ามาแบบไม่กลัวหมด
ผมเช็ดเหงื่อที่เกาะประปลายบนหน้าออกด้วยแขนเสื้อ ก่อนจะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยใจไปกลับไอ้ทัศนียภาพเดิมๆที่เห็นอยู่ทุกๆวัน….
เอี๊ยดดดด!!!
“เหี้ย!!!”
เสียงล้อตุ๊กตุ๊กเสียดสีกับถนนดังแสบแก้วหู ตามมาด้วยเสียงอุทานสั้นๆของผม ที่ดูท่าจะแสบแก้วหูกว่า? มันไม่ใช่เสียงเบรก แต่เป็นเสียงหักเลี้ยวรถแบบกะทันหัน เล่นเอาผมที่มัวแต่นั่งเหมอตัวปลิวไปเบียดไอ้เด็กข้างๆ ก่อนจะคว้ามันเป็นที่ยึดไว้แน่นตามสัญชาตญาณ
รู้ตัวอีกที หน้าก็ซุกอยู่ใกล้ๆรักแร้ไอ้โฟล์คแล้ว... เออ อกนั้นแหละครับ ไม่อยากใช้คำนี้ แลดูอุบาทว์แปลกๆยังไงไม่รู้ ซุกอกผู้ชาย? โห ข้าวกลางวันแทบจะไหลย้อนออกมาใหม่ หรือว่าซุกรักแร้มันจะทุเรศกว่าวะ?
กลิ่นโคโลญอ่อนๆบวกกลับกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อไอ้โฟล์คลอยมาแตะจมูกๆเบาๆ ไม่ฉุน แต่ให้กลิ่นสบายๆ ผ่อนคลายดีเหมือนกัน
เดี๋ยว... นี่กูมานั่งบรรยายกลิ่นตัวมันทำไมวะเนี๊ย!
ผมผละออกทันทีเมื่อรู้สึกตัว แล้วเขยิบออกมานั่งตำแหน่งเดิมพลางลูบจมูกป้อยๆ ก็เมื่อกี้มันกระแทกเข้าไปจังๆเลยนิ
“เจ็บไหม?” มันถามขึ้นมาพร้อมหน้านิ่งๆ
“เฮ๊ย! น้อง เป็นไรป่าว พี่ขอโทษ เมื่อกี้ลืมน่ะว่าต้องเลี้ยว เลยเลี้ยวกะทันหันไปหน่อย ขอโทษจริงๆนะ” ตามมาด้วยเสียงพี่คนขับที่พูดพร้อมมองหน้าผมผ่านกระจกส่องหลัง
“ไม่เป็นไรครับพี่” ผมไม่สนใจไอ้โฟล์ค แต่หันไปพูดถนอมจิตใจพี่คนขับ อุบัติเหตุนี่เนอะ
“พี่ขอโทษจริงๆนะ”
“ชั่งมันเถอะครับ ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ” ผมยิ้มให้พี่เขาผ่านกระจก ก่อนจะเตรียมตัวหยิบกระเป๋าสะพายคล้องคอเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่าข้างหน้ากำลังจะถึงที่หมาย พอรถจอดสนิทก็ดันๆไอ้เด็กเวรนี่ให้ลงรถไปแล้วก้าวตาม
ผมออกมายืนบิดขี้เกียจสองสามที ให้กล้ามเนื้อมันคลายตัวหนังจากที่นั่งแช่บนตุ๊กตุ๊กมาประมาณเกือบๆ 20 นาที แล้วยืนรอไอ้โฟล์ครับเงินทอน
-------------------------------------------
ผมกับมันเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อย หลังจากที่มันไม่รู้ว่าจะกินอะไร ส่วนผมก็ไม่มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษ ทำให้ต้องค่อยๆเดินๆส่องๆหาไป สงสัยคำถามที่ว่า มื้อนี้จะกินอะไร? คงเป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆนั้นแหละ
“อุ๊ย! พี่โฟล์ค” เสียงจากข้างหลัง ทำให้ผมต้องหันไปมอง ถึงจะไม่ใช่ชื่อผมก็เถอะ มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองน่ะครับ เพราะชื่อในประโยคอุทานเมื่อกี้ มันคือไอ้เด็กสูง... ไม่สิ มันคือไอ้เด็กเปรตข้างๆผมนี่เอง
อือ เพิ่งสังเกตนี่แหละครับ ว่ามันสูงกว่าผมประมาณ 7-8 เซนได้ หัวผมอยู่ประมาณกลางๆหูมันล่ะมั๊ง ทำไมเด็กสมัยนี้มันสูงกันจังวะ โตไวเป็นบ้า นมกระป๋องสูตรมันพัฒนากว่าหรอ?... แต่ผมก็ห่างกับมันแค่ไม่กี่ปีนี่หว่า
“พี่โฟล์คจำเฟิร์นกับโบว์ได้ไหมคะ” หนึ่งในน้องสองคนพูดด้วยท่าทางระริกระรี้
“...” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลที่เธอเรียก เมื่อมันมีมีปฏิกิริยาเพียงแค่จ้องหน้าด้วยสายตามึนๆ อืม คงได้คำตอบแล้วล่ะ
“อ่า...แล้วนี่ เพื่อนพี่โฟล์คหรอคะ”
“รุ่นพี่น่ะครับ” มันตอบ
“อุ๊ย...ยางสีใหม่หรอคะ...” เหยดดดดด มีคนเห็นแล้ว! “...น่ารักจัง” แล้วอ่า...โบว์มั๊ง ก็หันไปกรี๊ดกับเฟิร์น
...ผู้หญิงสมัยนี้เขาชอบผู้ชายแบบไหนกันวะเนี๊ย!
หลังจากนั้นพวกเธอก็ถามนู้นนี้อะไรไปเรื่อยๆ แล้วก็จบด้วยการที่น้องสองคนนั้นขอพวกเราถ่ายรูปโดย ถูกต้อง ผมต้องติดร่างแหยืนยิ้มถ่ายรูปกับสองสาวไปสองสามรูป ก่อนจะจากไปเมื่อโฟล์คมันไม่ค่อยพูดอะไรเลย ไม่รู้มันทำตัวไม่เป็นมิตรอย่างนี้ตลอดเวลา หรือเพราะยังกลัวกับไอ้สีเหล็กดัดนั่นอยู่
-------------------------------------------
ทอดน่องกันมานานผมก็ลากไอ้โฟล์คเข้ามาในร้านอาหารที่เป็นแบบบุฟเฟ่ย์ครับ ต่อให้มันกินเท่าไหร ผมก็จ่ายแต่ราคาเดิม ฉลาดใช่ไหมล่ะ
ในร้านเป็นร้านชาบูน่ะครับ มีสายพานลำเรียงเนื้อ ผักผ่านหน้าตลอดเวลา แต่เหมือนจะโชคร้ายหน่อยตรงที่วันนี้เป็นวันครอบครัวมั๊ง ร้านเลยดูจะแน่นเป็นพิเศษ ผมจริงต้องระเห็จระเหมานั่งปลายๆสายพายที่ไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์โผล่มาทักทายเท่าไหรเลย จะมีก็แต่พืชผักใบเขียว ผมเองไม่ชอบกินผักด้วยสิ
“ไม่กิน?” ไอ้คนข้างๆผมถามขึ้นหลังจากที่เห็นผมควักไอโฟนขึ้นมานั่งเล่น
“มึงกินไปเหอะ มีแต่ผักว่ะ”
“อ่ะ” มันยื่นจานหมูสไลด์ให้ผม
“ไม่กิน?” ผมถามมันกลับด้วยคำถามแรกที่มันถามผม นี่มันแรร์ไอเท็มเลยนะมึง นานๆจะมีโผล่มาที
“เดี๋ยวมันก็มาอีก”
ผมหยักหน้าหงึกๆ ไม่อยากคุยอะไรกับมันมาก จัดการเอาไอ้หมูสามสี่แผ่นลงน้ำ
Ice cream Ice cream . I'll melt you down like Ice cream. Ice cream Ice cream. I'll melt you down like Ice cream~~~~.
เสียงน้องฮยอนอาจากไอโฟนข้างตัว ทำให้ผมหันไปมองไอ้เบอร์ที่เมมไว้ว่า Milk พร้อมรูปเจ้าของชื่อตอนหลับปากหวอน้ำลายหกสมัยมัธยม อ่า...ไอ้เวรนี่มันเป็นผู้ชายครับ เพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยม พอเข้ามหา’ลัยดันติดที่เดียวกันอีก ชื่อแม่งดูน่ารักใช่ไหมล่ะ แต่ให้เรียกเต็มๆก็ไวตามิลค์ มีแฝดด้วยนะ ชื่อกระแดะคือๆกัน วิตามิน ผมล่ะโคตรนับถือสกิลการตั้งชื่อของพ่อแม่พวกมันเลย เคยถาม มันบอกแม่มันเชื่อว่ากินนมถั่วเหลืองจะทำให้ลูกเกิดมาฉลาด เลยคิดว่าจะเอายี่ห้อนมที่กินทุกวันมาตั้งชื่อลูก แต่ดันได้แฝด ไอ้อีกคนก็เลยได้ชื่อคล้ายๆกัน
(เฮ้~! กัซซี่ คืนนี้กูว่าง ตั้งวงกันไหมจ๊ะ~) หลังจากกดรับสาย ปลายสายก็เอ่ยเสียงทะเล้นๆโดยไม่รอให้ผมพูดอะไรก่อนเลย
“ซี่พ่อง”
(ฮ่าๆๆ ตกลงไปป่าวมึง)
“ไม่รู้วะ คืนนี้กูบอกแม่ไว้แล้วด้วยว่ากูจะนอนบ้าน” ผมพูดไปพลางคีบหมูเคี้ยวตุ้ยๆ
(งั้นไปแดกบ้านมึง)
“ไอ้เหี้ย พรุ่งนี้ไม่เรียนรึไง” ผมถาม ไอ้พวกนี้เวลามันจะกินเหล้ากันนี่กินแบบเอาเป็นเอาตายเลยครับ ไม่มีหรอกที่มามาจิบเล่นๆชิวๆ
(กูอ่ะไม่มี คนอื่นไม่รู้ แต่มันอยากกิน)
“แต่กูมี” ผมว่าเสียงเนือยๆ ถึงจะเรียนบ่าย หายแฮงค์ทันก็เหอะ แต่ไม่ค่อยอยากเท่าไหรเลย
(โหย กูจำได้ว่ามึงเรียนบ่ายนะไอ้เวร มีพวกไอเท็น ไอเจฟมาด้วยนะมึง)
“จริงอ่ะ” ไอ้เท็น กับไอ้เจฟก็เพื่อนกันตั้งแต่มัธยม เสียใจที่มันเลือกไปเรียนขอนแก่นเพราะเบื่อบรรยากาศเดิมๆ ยังติดต่อกันอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้เจอมันมาเป็นเดือนแล้วล่ะ
“เอาอีกป่ะ.....?” ไอ้โฟล์คถามขึ้นเบาๆ ในมือถือจานเนื้อ
“แดกไปเหอะ”
(ฮะ?)
“ป่าว”
(คุยกับใครวะ ไอ้ปั้นป่ะ เอามันไปด้วยดิ)
“ไม่ใช่ๆ ปั้นไม่น่าจะได้ว่ะ กลับบ้านมันมั๊ง กลับพรุ่งนี้”
(แล้วอยู่กับใครวะ?) อยากรู้อยากเห็นจริงๆ
“เด็กม.ปลาย”
(ฮั่นแน่! ร้ายนะเรา)
“ผู้ชาย” ผมตอบเสียงเนือย
(เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมหรอ ฮ่าๆๆ เอามันมาด้วยก็ได้นะ คนเยอะๆ สนุกดี)
“มันยังเด็ก” ผมบอกปัดๆ อายุอานามที่แน่นอนของมันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ บางทีมันอาจจะ 20 แล้วแต่ซ้ำชั้นก็ได้ ใครจะไปรู้
(ทำอย่างกับมึงเพิ่งแดกเหล้าเป็นงั้นแหละ) มันประชด เหล้าสุราเมลัยนี่ ผมสนิทกับมันตั้งแต่ม.3 แล้วมั๊ง
“มันไม่ไปหรอก ใช่มั๊ย?” ประโยคหลังผมหันไปถามไอ้เด็กข้างๆ
“หืม? วันนี้ผมว่างนะ”
สัส
(ฮ่าๆ มันต้องอย่างนี้ดิ) ไอ้นี่ก็หูดีจริง
ผมหันไปมองไอ้โฟล์คที่นั่งจ้องผมอยู่ ดูท่าทางแม่งน่าจะเป็นลูกคุณหนู จับไปแกล้งมอมเหล้าก็น่าสนุกดีเหมือนกัน
“อือ ก็ได้วะ แต่พวกมึงออกค่าเหล้ากันเองนะ กูบริการสถานที่ให้แล้ว” ไอ้มิลค์เออๆออๆ บอกเวลาคร่าวๆแล้วตัดสายไป
“มีอะไรหรอ?”
“ไปแดกเหล้ากัน” ผมพูดสั้นๆแล้วยกไอโฟนแนบหู ต้องบอกม๊าให้ช่วยเตรียมสถานที่แล้วก็ห้องรับแขกให้ไอ้พวกนั้น เวลาเมาทีไรแม่งไม่เคยกลับบ้านอ่ะ ชอบนอนกองแก้ผ้าระเนียระนาดอยู่ห้องผม พร้อมกองอ้วกเต็มพื้น เต็มเตียงเป็นออฟชั่นเสริม
-------------------------------------------
ผมนั่งเล็งหาจานเนื้อจนครบเวลาที่กำหนด ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับบทเรียนว่าไม่ควรเข้าร้านพวกนี้ในวันหยุดช่วงหลังบ่ายอีกแล้ว แม่งไม่แตะอะไรเลย
“พี่กลับไงอ่ะ” ไอ้โฟล์คเร่งฝีเท้าเดินมาข้างๆผม เออวะ แล้วกูจะกลับไงเนี๊ย รถก็ไม่ได้เอามา
“แท็กซี่มั๊ง ต้องกลับไปเอารถ แม่งเห็นมั๊ย เพราะมึงนั้นแหละ” ผมโวย
“ไปด้วยกันดิ ของผมก็อยู่นั่น”
“ออกตังนะ” ผมเดินนำมันออกมามองหาแท็กซี่ซักคัน
“อ่ะ” มันยื่นกุหลาบสีแดงในซองพลาสติกมาให้ผม
“อะไร?”
“ให้”
“ไอ้เหี้ย เล่นอะไรของมึงวะ” ขนนี่ลุกไปทั้งตัวเลยพับผ่า
“เจอน้องมาขายเมื่อกี้อ่ะ ดอกสุดท้ายแล้ว ซื้อไว้ จะได้รีบกลับบ้าน” มันพูดน้ำเสียงอ่อนลงนิดนึง สายตาอ่อนโยนทอดมองออกไปทำให้ผมต้องมองตาม เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ในมือมีตะกร้าเปล่า
หืม? ก็เป็นคนดีมีมุมน่ารักกับเขาเหมือนกันนี่
ผมมองหน้ามันแล้วคิดในใจ รู้ตัวอีกที กุหลาบสีแดงๆก็ถูกเสียบไว้ในกระเป๋าเป้ผมแล้ว
“เฮ๊ย!!”
“เอาไปเถอะน่า ของแบบนี้ใครเขาซื้อให้ตัวเอง”
“แล้วใครเขาให้ผู้ชายด้วยกันวะ”
“ไม่อยากได้หรอ? น้องเขาคงเสียใจนะ” มันว่าแล้วทำตาละห้อย
เฮ้อ..... ถนัดนักใช่ไหม ไอ้มุขที่ทำให้ตัวเองเป็นพระเอกแล้วกูเป็นไอ้เลวเนี่ย!
แก้ + รีไรท์ใหม่รอบที่ 2 ค่า อิอิ
ความคิดเห็น