ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Twins number [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ ๑๕

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 59


     

    ๑๕

     

     

    5 มกราคม 25xx

     

    วันนี้เป็นวันเสาร์ แต่เป็นเสาร์ที่ไม่มีโอกาสได้หยุดพักเอาเสียเลย เพราะวันพฤหัสหน้านี้มีพรีเซ็นต์งานใหญ่ แต่ผมเพิ่งมานั่งแก้งานโมเดลตั้งแต่คราวก่อน หลังจากแผนที่กะไว้ว่าจะทำตอนปีใหม่มันพังพินาศลงด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลาไปจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่นเลยด้วยซ้ำ เพราะตลอดทุกคืนที่ผ่านมาสมองผมอยู่แต่กับไอ้บ้านหลังเล็กๆตรงหน้า ดังนั้นอย่าถามถึงเวลานอนเลยครับ เวลาหายใจยังแทบไม่มี

     

    ห้องผมมีเศษวัสดุอุปกรณ์อะไรต่างๆนานาเกลื่อนกระจัดกระจายไปทั่วจนแอบกลัวนิดๆว่าถ้ามีตัวอะไรเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนด้วยก็คงไม่รู้เป็นแน่ แถมอาทิตย์นี้ยังสั่งระงับแม่บ้านอีกตางหาก ก็แหม เดี๋ยวมันก็รกอีก และอย่างผมก็ไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น วันนี้กะจะเคลียร์โมเดลให้เสร็จ ส่วนพรุ่งนี้ก็ลุยวางแผนพรีเซ็นต์ต่อ

     

    โอเค... ไฟท์!

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงง

     

    กดครั้งเดียวกูก็ได้ยินแล้วไอ้ห่า..

     

    ผมจำยอมลุกขึ้นจากกองงานอันบานตะไทนี่แล้วก้าวขาหลบหลีกสิ่งกีดขวางหรือเรียกง่ายๆว่าขยะที่วางระเกะระกะบนพื้นอย่างพริ้วไหวประดุจนักบัลเล่ต์ทีมชาติ แล้วตรงไปที่ประตูที่เสียงกริ่งยังคงดังไม่หยุด

     

    กวนตีนๆแบบนี้นี่เฮียชัวร์

     

    เหี้ย!!ผมร้องคำสบถติดปากออกมาเบาๆแล้วมองไอ้เด็กตัวสูงปรี๊ดที่ยืนอยู่หน้าห้องที่ไม่ได้เจอมันตั้งแต่กลับจากหัวหินแล้ว

     

    โอเค เหตุการณ์นี้คุ้นๆ เพียงแค่วันนี้มันไม่ได้ถือถุงผัดไทยพร้อมหน้ามึนๆ แถมนี่ยังสี่ทุ่มกว่าแล้วด้วย

     

    ไอ้โฟล์คยืนเอามือข้างหนึ่งดันประตูไว้เหมือนจะกันล้มเพราะมันดูไม่มีแรงแปลกๆ หน้าก็แดง แถมมีเหงื่อไหลซึมออกมาเยอะมากจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามึงวิ่งขึ้นมาแทนการใช้ลิฟต์เพื่อช่วยชาติประหยัดไฟรึไง ลมหายใจก็แรง แรงมาก เหมือนจะติดหอบหน่อยๆ

     

    ขะ... ขอเข้าไปหน่อยได้ไหมมันพูดน้ำเสียงขัดๆ ผมลังเลนิดหน่อยก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้มันเดินเข้ามา ขามันแทบทรุดลงไปจนผมต้องรีบปรี่เข้าไปประคองไว้ พามันเดินหลบหลีกขยะทั้งหลายแล้วทิ้งมันลงบนโซฟา ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสที่หน้าผากมัน ที่ร้อนจนผมรู้สึกตกใจนิดหน่อย

     

    อย่าตายในห้องกูนะ....

     

    รออยู่ตรงนี้นะ อย่าขยับตัว รู้มั๊ย?” ผมสั่งก่อนจะวิ่งโร่เข้าห้องน้ำไปหาผ้าหมาดๆหวังจะเช็ดตัวให้ โดยไม่ลืมสั่งให้มันอยู่เฉยๆ ไม่ใช่อะไร เดี๋ยวงานกูพัง -.-

     

    ผมวิ่งออกมาแล้วก็ใจชื้นนิดหน่อยเมื่อมันยังนอนหอบอยู่ที่เดิมไม่ได้กระดิกกระเดี้ยวกายไปทำให้อะไรเสียหาย

     

    มึงเป็นไรวะฮะ? หอบ? โรคประจำตัว?” ถามเสร็จผมก็ทิ้งตัวลงข้างมันแล้วเอาผ้าขนหนูพับแล้ววางไว้บนหน้าผากอย่างที่ในละครเขาทำกัน... เหอๆ ให้เช็ดตัวหรอ ทำเป็นซะที่ไหนหละ ได้แค่นี้แหละครับ มึงมาหาผิดคนและ

     

    “.....พี่....... ไปเถอะให้ไปไหน ได้ข่าวนี่ห้องกูนะ...

     

    กูถามว่ามึงเป็นไรผมเค้น

     

    มันไม่ตอบ แค่หลับตาลงเหมือนทรมานอะไรซักอย่าง หน้ามันแดงขึ้นกว่าเก่า แดงไปจนถึงหู หอบหนัก กัดกรามแน่น แถมมือมันก็กำจนเกร็งขึ้นข้อขาว

     

    ไอ้ฟัค!!

     

    “...ย ยา.... ผมโดนยาคำตอบมันทำให้ผมกระจ่างแจ้งปนอึ้ง แน่นอน อาการณ์แบบนี้คงไม่ใช่ยาถ่ายหรือยาชักมดลูก...

     

    ........ยาปลุกเซ็กส์?

     

    แล้วมึงมาหากูทำม๊ายยยยยยยยยยยยยยยย?!!!??

     

    อ อะไร? ได้ไง? ใครทำมึง?” ผมงงเป็นไก่ตาแตก แบบนี้มันต้องทำไงถึงหายวะ? ขึ้นชื่อว่ายาปลุกเซ็กส์ มันก็ต้องมีเซ็กส์ป่ะ? .......แล้วทำไมมึงไม่ไปหาผู้หญิงซักคนวะครับ!!!

     

    ไอ้โฟล์คยังคงนอนติดโซฟาอยู่ แต่เหมือนมันจะพยายามเอามากๆที่จะข่มตัวเองให้อยู่อย่างนั้น มันดูเป็นเอาหนักขึ้นเรื่อยๆ

     

    ด เดี๋ยวกูให้ยืมห้องน้ำนะ .....มึงไปใช้มือเอา นะหัวผมพยายามคิดหาทางแก้ที่ดีที่สุด ทั้งที่สติดูเหมือนจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลย

     

    “.....ล แล้วก็อ่าง.... อ่างอาบน้ำ มึงลงไปแช่นะ มันน่าจะช่วยให้เย็นขึ้นอาจจะต้องเพิ่มน้ำแข็งซักหน่อย...

     

    ฮะ เฮ๊ย!!!!ผมแหวขึ้นเมื่อยู่ดีๆก็ถูกกระชากลงไปตามด้วยน้ำหนักที่ทาบทับลงมา

     

    “....ม ไม่ไหวแล้ว.... ขอโทษนะน้ำเสียงมันแหบพร่าจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง

     

    ไม่ทันให้ตั้งตัวมันก็โน้มหน้าลงมากดริมฝีปากลงกับผมที่เบิกตาโพล่ง พยายามดิ้นแต่เหมือนเรี่ยวแรงเหมือนจะหายไปหมดสิ้นเพราะอดหลับอดนอน ยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งกดน้ำหนักลงมามากขึ้นจนผมเริ่มเจ็บ

     

    ผมเม้มริมฝีปากแน่นจนเจ็บเพื่อไม่ให้ลิ้นร้อนๆรุกล้ำเข้ามา แต่เหมือนมันจะยังไม่พอใจกับอีแค่บดริมฝีปาก สองมือที่เคยขึงแขนผมแน่นเปลี่ยนมาเป็นรวบไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็เปลี่ยนมาบีบคางผมให้อ้าออก และใช้ มันทำสำเร็จ ผมเผลอเผยอปากด้วยความเจ็บปวดแล้วมันก็อาศัยจังหวะนั้นรุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก...

     

    เหมือนไม่ใช่มันเลย....

     

    ผมพยายามขืนสุดชีวิต แต่ต่อให้ดิ้น หรือพยายามร้องห้ามยังไงมันก็ไม่ยอมปล่อย กลับเพิ่มแรงกดขึ้นอีกจนผมแทบจมลงไปกับโซฟา ลิ้นมันที่พยายามเกี่ยวกวัดอยู่ในปากทำให้ผมรู้สึกอึดอัด พยายามผละหนีแต่ก็ดูเหมือนจะเป็นการตอบรับมันกลายๆ

     

    ผมโล่งใจขึ้นมาเมื่อมันละมืออกจากหน้า แต่ก็ได้ไม่นาน... เมื่อมือข้างนั้นเริ่มสอดเข้าไปใต้สาบเสื้อ...

     

    น้ำใสๆที่เริ่มเอ่อคลอทำให้ผมมองอะไรได้ไม่ชัด... น้ำตา... นี่ผมกำลังร้องไห้? ผมไม่ใช่เด็กขี้แยเจ้าน้ำตา ถึงจะเป็นลูกคนเล็ก แต่ผมว่าผมเข้มแข็ง... แต่นี่เสือกร้องไห้เนี่ยนะ?

     

    โอเค การ์ด..... ไม่เป็นไร... เดี๋ยวมันรู้ว่ามึงไม่มีนมมันก็เลิกไปเอง...

     

    ผมพยายามปลอบใจตัวเอง ถึงจะโดนยายังไงแต่เมื่อได้สติว่าไอ้คนที่มึงวุ่นอยู่ด้วยมีดุ้นเหมือนกันเนี่ย ให้ตายไงก็ต้องหยุด... ใช่ไหม?

     

    มือมันลูบหน้าท้องผมก่อนจะค่อยๆขยับมาไล้แถวๆสีข้าง ฟันซี่ขาวๆนั่นขบริมฝีปากผมเบาๆเหมือนอยากให้มีอารมณ์ร่วมตามที่มันชักนำ... และให้ตาย ผมรู้สึกว่ามันจูบเก่งชิบหาย...

     

    เสื้อยืดที่ผมใส่ถูกเลิกขึ้นมาอยู่ตรงลำคอก่อนที่มือจะลูบไล้ไปทั่ว ทันทีที่มันถอนริมฝีปากออก ไอ้ที่คิดว่าจะร้องห้ามหรือด่าเตือนสติมันก็ทำได้แค่คิดเพราะผมไม่มีแรง ทำได้มากสุดแค่พยายามตักตวงอากาศเข้าปอด ตาพร่าเลือนพยายามปรับโฟกัสไปมองหน้ามัน....

     

    และนั่นทำให้ผมกลัว... ตามันไม่สื่อความหมายอื่นเลยนอกจากสั่นระริกเพราะความต้องการ...

     

    อ๊ะ....ผมสะดุ้งจนเผลอร้องขึ้นมาเบาๆเมื่อถูกริมฝีปากร้อนๆแนบลงที่อก มันไล้เลียปนกับขมเม้มไปทั่ว

     

    ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยย มึงน่าจะรู้แล้วนะว่ากูไม่มีนม กูไม่มีนม ฟัง! กู-ไม่-มี-นม!!! ส๊าสสสสสสสส!!!

     

    อ ไอ้เหี้ย หยุด! พ อา....คำร้องห้ามกลืนหายไปในลำคอแทนที่ด้วยเสียงครางต่ำ เมื่ออยู่ๆมันก็ครอบริมฝีปากลงที่...ห หัว...หัวนม?

     

    ผมกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้มีเสียงหลุดรอด หลับตาปี๋อย่างไม่ยอมรับ แต่เมื่อประสาทสัมผัสถูกปิดไปทางหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ดูเหมือนจะรับรู้ได้ดีขึ้น... สัมผัสชื้นร้อนที่โลมเลียดูดดุนบริเวณยอดอก.... ทำเอาร่างกายร่างกายมันอ่อนระทวยไปหมด

     

    อา...อะ อือ อ๊า...และแล้วสิ่งที่ผมพยายามกลั้นไว้มันจะไม่เป็นผล เมื่อความเปียกร้อนชื้นนั่นเหมือนกับจะแกล้งกัน วนเวียนอยู่แต่กับตุ่มไตตรงนั้นไม่จบไม่สิ้น มือที่ว่างก็สกิดเบาๆแล้วเปลี่ยนมาเค้นคลึงที่อีกข้างจนผมต้องแอ่นอกขึ้นตอบรับความเสียวที่ได้รับอย่างห้ามไม่อยู่

     

     

    น้ำตาที่เคยคลอเป็นเพียงม่านน้ำใสๆเพิ่มปริมาณขึ้นจนหยดไหลเป็นทาง เหตุหนึ่งก็เพราะกลัว... แต่อีกเหตุหนึ่ง... ผมเองก็ไม่อยากยอมรับเลยว่าตัวเองกำลังมีอารมณ์ร่วม...

     

    คิดแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายตรงนี้...

     

    อ๊ะ...!ผมเผลอร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อมือใหญ่ๆนั่นลูบไล้ต่ำลงไปถึงขอบกางเกง....

     

     

     



                    ซะที่ไหนล่ะ....

     

    สุขสันต์วันโกหกค่ะ #โดนถีบไปดาวอังคาร 555555 ง่า อย่าเพิ่งเงิบกันนะ ถ้าจะบอกว่า...ไอ้ข้างบนนั่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาค่ะ...คงเพราะต้องการสนองต่อมเกรียนของตัวเอง... 555555555555 เนื้อเรื่องหนักจะตามมาเร็วๆนี้ และคิดว่าจะต่อลงไปในบทเดียวกันเลย... 

                    สุดท้ายนี้ก็ Happy April fool’s day กันถ้วนหน้าค่ะ อิอิ

                          ขอย้ำอีกที เนื้อเรื่องส่วนข้างบน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักนะคะ 

    01/04/2557

     

    PS.คนขอตอนต่อจากนี้กันมาเยอะค่ะ เลยเอามาแปะไว้ตรงนี้แล้วกันเนอะ >>>>>>>>>> คลิก<<<<<<<<<<<
    เนื่องจากบล็อกมันยังใหม่ เอาคีย์เวิร์ดไปเสิร์ชยังไม่น่าจะเจอ ก็เลยขออนุญาติแปะลิ้งค์โปรไฟล์บล็อกเอาแล้วกันนะคะ จากนั้นก็จะเจอแถบ 4 แถบ คลิกที่แถบ 
    All Entry และเลือก Twins number : special Apill fool's day ค่ะ


    16/06/2557






     

    ๑๕
         
      [REAL] 






     

     

    5 มกราคม 25xx

     

    วันนี้เป็นวันเสาร์ แต่เป็นเสาร์ที่ผมไม่มีโอกาสได้หยุดพักเอาเสียเลย เพราะวันพฤหัสหน้ามีพรีเซ็นต์งานใหญ่ แต่ผมเพิ่งมานั่งแก้โมเดลตั้งแต่ความก่อน ลังากแผนที่กะไว้ว่าจะทำหลังปีใหม่มันเละไม่เป็นท่าเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรียกได้ว่าไม่มีเวลาไปจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่นเลยด้วยซ้ำ เพราะตลอดทุกคืนที่ผ่านมาสมองผมอยู่แต่กับไอ้บ้านหลังเล็กๆตรงหน้า ดังนั้นอย่าถามถึงเวลานอนเลยครับ เวลาหายใจยังแทบไม่มี

     

    ห้องผมมีเศษวัสดุอุปกรณ์อะไรต่างๆนานากระจัดกระจายไปทั่ว จนรู้สึกแอบกลัวไม่ได้ว่าถ้าหากมีตัวอะไรเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยคงจะไม่รู้เป็นแน่ แถมอาทิตย์นี้สั่งระงับแม่บ้านอีกตางหาก ก็แหม เดี๋ยวมันก็รกอีก อีกอย่างผมเองก็ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น วันนี้กะจะเคีลยร์ตัวโมเดลให้เสร็จไปอย่างหนึ่งก่อน พรุ่งนี้ค่อยวางแผนพรีเซ็นต์ต่อ...

     

    โอเค.... ไฟท์!!

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

     

    กดครั้งเดียวกูก็ได้ยินแล้วไอ้ห่า

     

    ผมจำยอมลุกขึ้นจากกองงานบานตะไทแล้วก้าวหลบหลีกสิ่งกรีดขวางหรือเรียกง่ายๆว่าขยะที่วางระเกะระกะบนพื้นอย่างพลิ้วไหวประดุจนักบัลเลต์ทีมชาติ ตรงไปยังบานประตูที่เสียงกริ๊งยังคงดังไม่หยุดหย่อน...

     

    กวนตีนๆแบบนี้มีไม่กี่คน...

     

    “โย่! น้องชาย” นึ่งในนั้นก็พี่ชายผมนี่แหละ... เฮียแกยืนหอบหิ้วอะไรพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือ นั่นคือสิ่งที่บอกผมว่าทำไมพี่แกถึงเลือกกวนตีนด้วยการกดกริ่งเรียกแทนการแอบเข้ามาเงียบๆแล้วทักทายด้วยการตะครุบหลัง -___-

     

    “ซื้อมาทำไมเยอะแยะวะ” ผมบ่นอุบอิบแล้วยื่นมือไปรับถุงพลาสติกที่ใส่ของที่กินคนเดียวได้เป็นอาทิตย์

     

    “บ่นเยอะแต่กูเห็นมึงแดกหมดทุกที” เฮียว่าแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้อง เดินหลบขยะบนพื้นมุ่งไปที่ครัว เปิดตู้เย็นแล้วค่อยๆจัดเรียงของในถุงไว้เป็นระเบียบอย่างสวยงาม...

     

    เนี๊ยยยยยยยยยย เริ่มฉายออร่าความเนี๊ยบของหมอ

     

    ผมแอบแซวเฮียในใจแล้วรื้อๆถุงที่หิ้วมาเพื่อเอานมขวดใหญ่ขึ้นมากระดกทั้งอย่างนั้น

     

    “เดี๋ยวคืนนี้กูนอนนี่”

     

    “อีกและ....ไม่ต้องอ่ะ บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรดิ”

     

    “อย่าคิดว่ากูไม่รู้นิสัยมึงนะ...” โอเค... ยอมพี่แกแล้ว... ผมยอมรับเลยว่าบางครั้งเรื่องพวกนั้นก็ชอบโผล่มาให้ผมปวดหัวจนต้องทิ้งงานมาอัดบุหรี่บ้างเป็นระยะๆ... แต่นั่นก็ยังน้อยถ้าเทียบกับที่ผมจินตนาการสภาพตัวเองไว้ในคราวแรก

     

    เพราะอย่างนั้นแหละครับ ทั้งบรรดาเพื่อนๆทั้งสามหน่อและเฮียแม่งก็เลยชอบเซ้าซี้บอกจะมาอยู่เป็นเพื่อน ไอ้สามตัวนั้นก็พอห้ามได้อยู่หรอก แต่พี่แกนี่สิ จนปัญญาเว่ย

     

    ช่วงนี้พอเฮียเคลียร์อะไรที่คลินิกเสร็จก็เลยชอบมาขลุกอยู่กับผมที่คอนโดตลอดทุกวันตั้งแต่กลับมาและ

     

    ผมยู่หน้าแล้วยักไหลตั้งขวดนมที่พร่องไปเกือบครึ่งไว้บนโต๊ะแล้วกลับไปจมกับงาน ซักพักก็ได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากครัว เห็นเฮียแกเป็นงี้ทำกับข้าวอร่อยนะครับ! ฮ่าๆๆๆๆๆ โสดด้วย สนติดต่อทางผมได้เลยโดยตรง คิดค่านายหน้านิดหน่อย ส่วนเบอร์ผมก็หาได้ง่ายๆถ้าคุณรู้เบอร์ไอ้โฟล์คน่ะ อิอิ

     

    ด้วยความที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่บ่าย ซึ่งนี่ก็ปาเข้าไปใกล้ทุ่ม ผมรีบทิ้งงานอย่างไม่รีรอ แล้วรปรี่เข้าไปในครัว ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้โต๊ะกินข้าวก่อนจานที่มีแฮม ไส้กรอม ไข่ดาวจะวางตรงหน้า...

     

    “อยากกินข้าวผัดอ่ะ...” แบบนี้ก็ทำกินเองได้นะ...

     

    “ช่วยดูหน่อยครับคุณชาย... ข้าวคุณไม่มี ได้แค่นี้ก็ดีตายห่า” ผมมองตามนิ้วเฮียที่ชี้ไปที่หม้อข้าวที่ตั้งอยู่จนฝุ่นแทบจับเพราะไม่ได้แตะ...

     

    แล้วไมตอนนั้นไอ้โฟล์คมันทำข้าวผัดได้ทั้งๆที่ไม่มีข้าวสวยวะ...

     

    ผมพยายามนึกไปถึงไอ้ภาพข้าวผัดไหม้ๆในกระทะ ก่อนที่ความรู้สึกอยากเอาหัวโขกโต๊ะจะตามมาเมื่อนึกดูดีๆแล้วข้าวในกระทะนั่นมันข้าวสารเป็นเม็ดๆ...

     

    “เป็นไรวะ” เฮียวางจานของตัวเองแหมะกับโต๊ะแล้วทิ้งตัวลง สงสัยผมจะแสดงปฏิกิริยาเอือมระอาออกมามากไปหน่อยจนพี่ท่านสังเกตเห็น

     

    “.....เคยมีเด็กเอาข้าวสารมาผัดให้กิน...” ผมเล่าด้วยเสียงเอือมๆ มือก็บีบซอสพริกราดลงไปบนมื้อเย็นวันนี้

     

    “เนี่ยยย เด็กที่ไหนจ๊ะ” ช่วยสนใจประเด็นหลักหน่อยเหอะเพ่!

     

    “ยุ่งน่า” ผมยู่ปาก แล้วใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกชิ้นเล็กๆมางับ

     

    “ผู้หญิงทำกับข้าวไม่เป็นน่ารักจะตาย” ประโยคนี้ทำให้ผมเหลือตาขึ้นมอง

     

    “ตรงไหน?”

     

    “มึงลองคิดดิ การที่ผู้หญิงพยายามทำอะไรให้ ทั้งๆที่ไม่เป็นมันน่ารักดีออก” แต่มันไม่ใช่ผู้หญิงดิ... “ท่าทางเก้ๆกังๆ ....หรือไม่เราก็เข้าไปโอบเขาไว้แล้วช่วยสอน...”

     

    “หื่นและๆ” ผมเอาส้อมไปตวัดกลางอากาศข้างหน้าไอ้คนที่เหมือนจะหลุดนอกประเด็นออกไปทุกทีๆให้ได้สติ

     

    “ฮ่าๆๆๆ” แล้วพี่แกก็หัวเราะทั้งๆที่อะไรเต็มปาก “น่ารักจริงๆน้า~

     

    “เชิญน่ารักคนเดียวเหอะ... ครัวแทบไหม้...”

     

    “นี่มึงพาเขาขึ้นห้องเลย?!” ไปกันใหญ่และ...

     

    “ชั่งมันเถอะน่า”

     

    “ร้ายนักนะ” ผมตั้งหน้าตั้งตากินต่อแบบไม่สนใจ “น้องการ์ดของเรามีสาวมาดามใจแบบนี้ก็หมดห่วงแล้วสิเนอะ”

     

    บอกว่าไม่ใช่ผู้หญิงไงว่อยยยยยยยยยยย!!!

     

    ผมได้แต่ร้องคำรามในใจแล้วยัดของที่เหลือบนจานเข้าปากให้หมด เดินไปล้างจาน เปิดตู้เย็นหยิบน้ำมาเทดื่มพรางทอดสายตามองไปมองซิงค์ทำครัวที่ไม่ได้น่ามองอะไรมากมาย... จู่ๆคำพูดเฮียก็ไหลย้อนเข้ามาจนผมเห็นเป็นภาพไอ้โฟล์คในผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววกำลังยืนผัดข้าวผัดโดยมีผมประคองอยู่ข้างหลัง...

     

    เอิ่ม... แค่คิดยังรู้สึกอุบาทขนาดนี้เลย...พอเถอะ อีกอย่างผมทำกับข้าวไม่เป็นด้วย...

     

    โอยยยยยยย!!!! ทำไมมึงพูดเหมือนถ้ามึงทำอาหารเป็นแล้วไอ้ภาพแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นจริงได้วะการ์ด สยอง!!!

     

    ผมปัดๆความคิดสยองๆทิ้ง กลับมานั่งจมจ่อมอยู่กับงานเหมือนเดิมโดยมีพี่หมอฟันนั่งเล่น PS4 อยู่ใกล้ๆ แถมยังเปิดซาวน์เอฟเฟคซะดังลั่นเหมือนจะทรมานกันยังไงยังงั้น ช่างเป็นพี่ที่วิเศษดีจริงๆ

     

    “เบาๆหน่อยดิวะ” สุดท้ายก็ตะบะแตก บ่นออกมาจนได้ เมื่อเสียงที่มีไม่ใช่แค่เอฟเฟ็คจากเกมส์ในทีวี แต่เป็นเสียงคนเล่นที่เริ่มสวมบทบาทนักแคสเกมส์

     

    “อิจฉาเหรอจ๊ะ” ในขณะที่ตายังไม่ละออกจากทีวี มือก็ยังรัวยิกๆที่จอย แต่หน้าเฮียกลับยิ้มแป้นกวนผมอยู่ได้

     

    และไม่นานก้อนกระดาษก็ลอยฟิ้วไปปะทะกับไหล่ไอ้คนกวนตีน

     

    แหม่ ความจริงเล็งหน้านะ สงสัยกระดาษมันเบาไปหน่อย แต่นั่นก็ไม่ทำให้คนโดนมันกระทบกระเทือนเลย

     

    “ตอนนั้นมึงเอาเบอร์ใครโทรมาวะ” เฮียวางมือจากจอยเกมส์ปล่อยให้มันตายแล้วหันมานั่งขัดสมาธิล้วงขนมมาเคี้ยวแล้วมองผมที่ทำงานอย่างสนอกสนใจ

     

    “ตอนไหน”

     

    “ที่ไปทะเลไง”

     

    “อ๋อ.... คนรู้จักน่ะ”

     

    “แล้วไมเบอร์เหมือนกันวะ”

     

    “เรื่องมันยาว....ว่างมากก็ช่วยทำประโยชน์ให้หน่อยดิ ที่คาดผมสีดำๆในห้องน้ำอ่ะ หยิบให้หน่อย”

     

    “ค๊าบๆ ท่านชาย”

     

    ไม่นานเฮียก็กลับมาพร้อมของที่ผมสั่ง ผมเอามันมาคาดไว้ที่หัวจนหน้าม้าน่ารำคาญๆมันขึ้นไปชี้ๆเหมือนสิงโต น่าจะหาเวลาไปตัดซักหน่อย...

     

    -------------------------------------------

     

    11 มกราคม 25xx

     

    งานใหญ่ของผมเพิ่งแล้วเสร็จไปเมื่อวานทำให้รู้สึกเหมือนยกโลกทั้งใบออกจากอก จนมีเวลามานั่งตากแอร์รอคิวอยู่ในร้านตัดผมร้านหนึ่งในตัวห้าง คิวยาวๆนี่ทำให้ผมขี้เกียจรอนิดหน่อย แต่ผมอยากได้ทรงเดิม และครั้งก่อนก็ตัดร้านนี้  เลยจำยอมนั่งรอเพราะไหนๆก็มาแล้วทั้งที ยังไงซะตัดที่เก่ามันก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจหน่อยๆว่าจะต้องได้ทรงตามที่ต้องการ

     

    หนังสือการ์ตูนแปลที่ผมเพิ่งสอยมาจากร้านก่อนหน้าถูกยกขึ้นมาอ่านแก้เบื่อ ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ แต่ขอจำกัดความไว้ที่หนังสือเบาสมองแล้วกัน อย่างพวกการ์ตูนความรู้ หรือการ์ตูนญี่ปุ่น อะไรที่เล่มหนาๆสาระแน่นเอี๊ยดน่ะ ไม่ค่อยได้เตะหรอกครับ เว้นจำเป็น

     

    “เหย มึง น้องสองคนนั้นน่ารักว่ะ” เสียงไอ้คนข้างตัวดังขึ้นพร้อมมือที่สกิดยิกๆที่แขนผม ไอ้ปั้น เพื่อนร่วมชะตากรรมที่ปั่นงานจนผมยาวและไรหนวดจางๆ

     

    ผมมองตากนิ้วมันอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเจอกับเด็กผู้หญิงม.ปลายในชุดนักเรียนคอนแวนต์สองคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล.... แต่คนนึงนี่คุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน...

     

    อ๋อ... เมเปิ้ล

     

    ดูเหมือนสองสาวนั่นจะรู้สึกตัว เปิ้ลเงยหน้าขึ้นมาจากจอไอโฟน ขมวดคิ้วมองผมเหมือนนึกอะไรซักอย่างแล้วยิ้มร่า โบกไม้โบกมือให้

     

    “เหย เขาโบกมือให้มึงด้วยอ่ะ รู้จักหรอ” ไอ้ปั้นถามเสียงระริกระรี้

     

    “อือ ก็นิดหน่อย” ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหาเปิ้ลที่ยิ้มให้ไม่ขาด

     

    “พี่การ์ด ....มาตัดผมหรอคะ?” เธอชวนคุยพรางยิ้มโชว์เหล์กดัดฟันสีฟ้าน้ำทะเล

     “ครับ เหมือนกันหรอ?”ผมทิ้งตัวลงบนที่ว่างที่เปิ้ลขยับให้แล้วยิ้มเป็นมิตร

     

    “มาเป็นเพื่อนเพื่อนเฉยๆค่ะ ฮะๆ นี่จีนค่ะ” เปิ้ลพยักพเยิดไปหาเด็กผู้หญิงผมสั้นประบ่า ท่าทางดูห้าวๆหน่อยแต่ก็น่ารักดี

     

    คนนี้ป่าววะ ที่ไอ้โฟล์คมันชอบ...?

     

    ว่าแต่ตั้งแน่วันนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับมันอีกเลยวุ๊ย... รึว่า....

     

    เรื่องวันนั้นก็....หายกันและกัน

     

    อยู่ๆคำพูดของตัวเองก็เข้ามาในหัว... บางทีมันอาจจะกลับไปคิดใหม่อีกที เปลี่ยนใจแล้วก็ได้...ผมให้มันเลือกเองนี่หว่า...

     

    ......แล้วจะสนทำไมล่ะ?

     

    “พี่การ์ดอ่า คนรู้จักโฟล์ค” เปิ้ลแนะนำผมให้จีนเสร็จสรรพ

     

    “พี่มาขัดอะไรไหมเนี๊ย”

     

    “ฮ่าๆ ไม่หรอกค่ะ นี่คิดกันอยู่ว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนผู้ชายอ่า.... อ๊ะ! พี่การ์ดช่วยคิดหน่อยสิคะ ผู้ชายเหมือนกัน”

     

    “โหว... เล่นงี้เลย ฮ่าๆ อา...ของอย่างนี้มันต้องแล้วแต่คนชอบนะ...ทำไมไม่ลองทำเองดูล่ะ มีชิ้นเดียวในโลกบวกกับความตั้งใจ”

     

    “จะดีหรอค่ะ... ให้เปิ้ลทำนี่ต้องออกมาห่วยสุดๆแน่ๆอ่ะ”

     

    “ของแบบนี้ก็ต้องลองนะ” ผมว่าแล้วยิ้มขำๆ

     

    “อืม.... แล้วจะจัดที่ไหนดีค่ะ รู้สึกอายๆจัง รับมาทำกับจีนแต่ไม่ค่อยรู้อะไรเลย” เปิ้ลทำคอตกเหมือนหมดหวัง

     

    “อา....ก็ต้องแล้วแต่นะ ว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน”

     

    “แบบนี้โอเคไหมคะ” ไอโฟนสีขาวในเคสสีฟ้าสดใสที่เปิดแอพพริเคชั่นร้านอาหารแสดงภาพบรรยากาศร้านอาหารกึ่งบาร์

     

    “ใช้ได้นะ” ผมยิ้มให้

     

    “จริงหรอคะ” ท่าทางคอตกเมื่อกี้กลายเป็นอาการตื่นเต้นแทน

     

    “อื้มมม”

     

    “งั้นต้องรีบจองและอีก 2 วันเอง...” เปิ้ลพึมพำบอกเพื่อนข้างๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมเป็นการตอบแทน

     

    “ขอบคุณนะคะ” เด็กสาวสองคนพูดขึ้นมาพร้อมกันก่อนที่ผมจะขอตัวออกมาเพราะถึงคิว แอบเห็นไอ้ปั้นทำหน้ากระแนะกระแหนใส่นิดหน่อย ก็เลยเก๊กหล่อใส่มันให้อิจฉาเล่น ฮ่าๆๆๆ

     

    -------------------------------------------

     

    ครืด....ครืด.....ครืด.......

     

    โทรศัพท์เครื่องบางสั่นครืดอยู่ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมที่กำลังไขกุญแจเข้าห้องรีบรับแล้วเอาคอหนีบไว้แล้วใช้มือไขกุญแจ

     

    “สวัสดีคร๊าบบบบบ”

     

    (เฮ๊ย อาทิตย์ตอนเย็นว่างป่าววะ) ไม่มีการทักทายพี่แกก็เปิดประเด็นเลยครับ ใช้ไม่ได้เลยพี่รหัสผมเนี่ย

     

    ครับ พี่แทน อีกหนึ่งคนที่เคยโผล่มาแค่ชื่อ ฮ่าๆๆๆๆ

     

    “ก็ว่างอ่ะ” ผมเข้าห้องแล้วโยนๆเป้ไว้บนโซฟา

     

    (อยู่ๆพี่บาสก็อยากเลี้ยงสายรหัสว่ะ) พี่บาสคือพี่สายรหัสผมปี 5 ครับ

     

    “เฮียแกเลี้ยงหรอ?” ต้องเช็คให้มั่นใจว่าฟรี...

     

    (มั๊ง)

     

    “อ่าว...”

     

    (ตกลงมึงว่างไหมเนี่ย คนอื่นเข้าโอเคกันหมดเหลือมึงนี่แหละ)

     

    “ว่างคร๊าบว่างงงง” แหม นานๆทีสายรหัสในคณะที่งานบานตะไทแบบนี้จะว่างพร้อมกันซักที พลาดได้ไง

     

    (โอเค เจอกันวันอาทิตย์)

     

    “เดี๋ยวดิ ที่ไหนอ่ะพี่” ผมท้วง

     

    (ไม่รู้ว่ะ... เหมือนยังคิดกันไม่ได้) เอิ่ม.... (มึงรู้จักร้านอะไรใหม่ไหมอ่ะ กูเบื่อหมูกระทะแถวม.และ)

     

    XXXX...”

     

    (ฮะ?)

     

    “อะ เอ่อ..... ร้าน XXXX อ่ะ” ผมสะดุ้งเล็กน้อย เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดชื่อร้านที่เปิ้ลเอามาให้ดูออกไป...

     

    (เออว่ะ... กูเคยผ่านๆ  น่าสนๆ เดี๋ยวลองถามดู โอเค แค่นี้นะ บาย เปลืองตัง...) และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงตัดสาย เออ มาเร็วเคลมเร็วดีครับ...

     

    ว่าแต่... นั่นมันวันเดียวกับวันเกิดเพื่อนเปิ้ลป่ะวะ? .....แต่เปิ้ลอยู่หญิงล้วนนะ ถ้ามีผู้ชายก็.... เพื่อนไอ้โฟล์ค?

     

    -------------------------------------------

     

     ไอ้ที่อัพไว้เมื่อวานได้ผลตอบรับดีจังเลยค่ะ 555555555555 คอมเม้นท์พุ่งมาก อิอิ เมีใครโกรธกันรึเปล่าคะ ขอโทษน้า วันนี้เลยมาอัพเร็วเป็นพิเศษเพื่อไถ่โทษค่ะ สัญญาเลยว่าจะไม่ทำอีกแล้ว ถึงแม้จะนั่งมีความสุขกับการที่เห็นคนโอดครวญไม่ก็ข่มขู่เราก็เถอะ... 55555555555555555 ล้อเล่นค่ะ...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×