ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter - 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.31K
      8
      21 เม.ย. 57

    มาแล้ววววววววววววว หลังจากที่ไปงมอยู่ในโอ่งมา TvT 
     
    ตอนนี้เปิดจองแล้วนะคะ ใครที่อยากได้ก็จัดไปเลย ดูรายละเอียดได้ที่หน้าบทความนะคะ
     
    บอกเลยว่า 20คนแรกมีของพิเศษให้ด้วยนะ หุหุ
     
    ถึง คุณ บีเพื่อนคราย หว่า
     
    เม้นยาวได้ค่ะเราชอบอ่าน อ่านแล้วตลกดี อินดี แลดูว่าอ่านของเขาแล้วชอบจริงๆ ฟินจุงเบยยยย >< #บอกตงรักจุงเบย คุณพิศาลไม่ว่างบตนนเลยกำกับเองค่ะ ตบจูบอะไรไม่มี ไม่รู้จักนี่ใสๆนะ ><
     
    น้องยอลฝากมาบอกว่า ก็คนอยู่บนเป็นสามีไง~ ลูกพี่พูดผิดตรงไหนกันนนนน ส่วนเรื่องดราม่าน้ำตาตกอะไรนั่น.. เราจะไม่สปอย 55555555 สรยุทธ์ก็ดีค่ะ นัดมาดีเเบทกันหน่อยอยากจะว่าด้วยเรื่องขอไลน์ผู้ชายเกาหลีหน่อย 5555555
     
     
    ใครมีข้อข้องใจก็สอบถามได้นะคะ ทั้งทวิตทั้งเมล พร้อมตอบค่ะ 
     
    ปล. 20คนแรกมีของพิเศษนะ #สปอยเข้าไป
     
     

     
    ____________________________________
     

     
     
     
    ชานยอลที่ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นนั่งทำหน้ามุ่ยแล้วหันมองที่ข้างๆที่ว่างเปล่า ก็แหงล่ะคริสตื่นแล้วแล้วก็ลุกไปไหนก็ไม่รู้ปล่อยให้เขานอนอยู่คนเดียวเฉยเลย! พอจะลงจากเตียงก็เห็นโน๊ตเล็กๆที่ข้างเตียงบอกไว้ว่าจะกลับมาตอนเย็น อะไรของมันวะ เออช่างไปเลยไปไม่ต้องกลับจะได้ยึดห้องยึดบ้านไปเลยเถอะ! 
     
    ลุกจากเตียงได้ก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วลงไปหามื้อเช้ากินแต่ดูเหมือนว่าวันนี้บ้านจะเงียบๆ คุณป๊ากับออมม่าก็ไม่อยู่ คริสไม่อยู่ น้องแบคก็ไม่อยู่อยู่แล้ว น้องฮุนก็...ยังไม่เจอเลยสงสัยน้องจะหายตัวได้ ถ้างั้นก็เหลือเทากับจุนมยอน เอาวะยังไงวันนี้ก็ต้องพูดให้ได้!
     
    เมื่อตัดสินใจแล้วชานยอลก็เลยเดินขึ้นไปยังชั้นสองแล้วเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเทาแล้วก็ลองเคาะประตูดู ก็แหมไม่อยากจะเห็นอะไรๆเหมือนเมื่อคืนอีกนะ ขอบอกเลยว่าเจอแบบนี้แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว! แต่เคาะอยู่นานก็ไม่เห็นประตูบานนี้จะเปิดออกเลย ลองเพิ่มแรงเคาะอีกหน่อยก็ไม่เห็นว่าคนข้างในจะออกมาเปิดประตูให้เลย ถ้างั้นก็ต้องลองเรียกดู
     
    “เทาเทาเปิดประตูให้หน่อย ... น้องเทาเทาเปิดประตูหน่อย! ... ฮวางจื่อเทาเปิดประตู!! ... ไอ้เทาโว๊ยเปิดประตู!!!!” แล้วบานประตูก็เปิดออกแต่ไม่ใช่บานที่ชานยอลเคาะแต่เป็นบานตรงข้ามห้องของคริสต่างหาก
     
    “อะไร!” น้ำเสียงนั้นห้วนจัด ชานยอลหันไปแล้วก็ยิ้มให้เทาที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูห้องของจุนมยอน
     
    “อ้าวอยู้โน้นเหรอ มีเรื่องจะให้ช่วยอ่ะ” ชานยอลยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปหาเทา แต่เจ้าตัวกลับแค่ปรายสายตามอง
     
    “ต้องช่วยด้วยเหรอไง” ชานยอลยู่ปากใส่
     
    “ช่วยดิ ป่ะเร็วเข้าห้อง!” แล้วชานยอลก็ลากจื่อเทาเข้าห้องไป แม้จะอยากถามว่าจุนมยอนนั่งก้มหน้าทำไมก็เหอะแต่ไม่เอาดีกว่ากลัว
     
    ถ้าจะให้พูดกันตรงๆชานยอลก็อยากจะสระเอือกกับเทากับจุนมยอนอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ก็แหมตั้งแต่เห็นน้องเทาเทาที่น่ารักองค์ลงผีออกจนน้องกลายร่างแล้วนั้น... มันก็ดูสยองใช่ย่อย เขาก็ว่าอยู่แล้วนั่นแหละว่าพี่ชายโหดโฉดเถื่อนซะขนาดนี้น้องชายจะมาน่ารักมุ้งมิ้งมันก็ไม่ใช่ที่ แล้วเป็นไงล่ะพอน้องกลายร่างขึ้นมาเขาก็ได้แต่ทำหน้าตกใจเนี่ยแหละ พี่เป็นไงน้องก็เป็นอย่างนั้น.. สยองชะมัด!
     
    ส่วนไอ้เรื่องที่จะเต๊าะน้องจุนนี่ ขอกบอกไว้ตรงนี้เลยว่าชานยอลขย้ำมันทิ้งไปตั้งนานล่ะ.. ก็ตั้งแต่เห็นฮวางจื่อเทากลายร่างนี่ล่ะ ขนาดเขาเต๊าะน้องจุนคริสมันแทบจะจับเขาหักคอแล้วคิดดูสิว่าถ้าเขาไปเต๊าะน้องจุนให้เทาเห็นอีกล่ะก็... สงสัยโลกนี้จะไม่มีคนน่ารักที่ชื่อชานยอลเสียแล้วน่ะสิ จะสงสารก็แต่น้องจุนที่สุดแสนจะน่ารักและมุ้งมิ้งของลูกพี่ชานยอลนี่แหละ คนน่ารักแบบน้องจุนจะรับมือความเถื่อนของน้องเทาได้แค่ไหนกันนะ ขนาดลูกพี่ยังเอาตัวแทบจะไม่รอด
     
    ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้นะ สู้ต่อไป(อดีต)คนมุ้งมิ้งของลูกพี่!!
     
    “ห๊ะชานชานว่าอะไรนะ!!” จุนมยอนเอ่ยเสียงดังอย่างตกใจ ใบหน้าขาวนั้นแดงเรื่อก็ไม่รู้ว่าร้องไห้มาหรือตกใจกับเรื่องที่เพิ่งพูดไปเมื่อกี้
     
    “นะเทาสอนขับรถหน่อย”
     
    “ทำไมต้องสอนจะหนีเฮียไปไหน” ฮวางจื่อเทาปากเสียว่ะ!
     
    “หนีอะไรเล่า! ก็แค่อยากขับเองบ้างไง ใครจะกล้าหนีเฮียมึงกันล่ะวะ” จื่อเทาหรี่สายตามองแล้วก็กรอกตาไปมา จุนมยอนที่นั่งมองอยู่ก็ทำหน้างงว่าชานยอลจะอยากขับรถไปทำไมก็ทุกวันนี้เห็นว่าจะไปไหนหรือทำอะไรพี่ใหญ่ของเขาก็ทำให้ตลอด
     
    “อ่ะๆ สอนให้ก็ได้ถือว่าสอนลูกนกลูกกา” ไอ้ฮวางจื่อเทาแรงนะมึง!! ลูกพี่ขึ้นเลย!!!
     
    “กูลูกคนเว๊ย!!” พอชานยอลเถียงกลับ จุนมยอนที่นั่งอยู่บนเตียงเงียบๆก็หัวเราะสนุกเขาล่ะ
     
    “ชานชานกับน้องเทาเทานี่ก็สนิทกันดีเนอะ” จุนมยอนยิ้มให้ทั้งเทาและชานยอล ทั้งสองคนที่โดนบอกว่าสนิทกันหันมองหน้ากันก่อนที่จะถอนหายใจแล้วแบะปากคว่ำหันกันไปคนละทาง
     
    “อย่าลืมนะเว๊ยห้ามบอกเฮียมึงนะ” ชานยอลหันมาชี้นิ้วใส่เทาที่ปรายหางตามองแล้วพยักหน้ารับส่งๆ
     
    “รู้แล้วล่ะน่า ขับให้เป็นไวๆก็พอเหอะจะได้ไม่ต้องยุ่งยากอีก” หนอยปากดีนัก!! แต่ด่ามันไม่ได้ต้องให้มันสอนขับรถก่อน! นี่บอกเลยนะว่าถ้าเขาขับรถเป็นนะไอ้โหดก็ไอ้โหดเถอะมีเรื่องเมื่อไหร่ล่ะก็หนีแน่! หมั่นไส้จะไปไหนก็ไม่บอกทำมาเป็นความลับเยอะนัก!
     
    “แล้วนี่เฮียไม่อยู่เหรอถึงมาบอกให้ไปสอบขับรถเนี่ย” ชานยอลพยักหน้า
     
    “เออดิไปไหนก็ไม่บอกแม่ง! ทิ้งให้กูนอนคนเดียวเฉยเลย” เทาเลิกคิ้วกับคำบ่นของชานยอลแต่จุนมยอนกลับก้มหน้าลงแล้วแอบหัวเราะเบาๆ งอนเขาล่ะสิที่ไม่มีคนนอนกอดน่ะชานชานนี่น่ารักจังเลยนะ พี่ใหญ่ของเขานี่โชคดีจังเลยที่ได้คนน่ารักๆอย่างชานชานเป็นแฟนน่ะ
     
    “บ่ายๆเจอกันงั้นก็ออกไปได้แล้วไป” เทาปัดมือไล่ชานยอล ลูกพี่ที่โดนไล่ก็ของจะขึ้นน่ะสิ อยากจะไฝว์มากบอกเลยแต่ก็ยังไฝว์ไม่ได้เพราะต้องใช้งานมันก่อน ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้จื่อเทา!!
     
    “เออๆๆ ไปแล้วก็ได้ไม่ขัดการเล็มยอดใบไผ่แล้วไอ้หมีแพนด้า!” แล้วชานยอลก็รีบวิ่งออกจากห้องไปเลย ก็กลัวว่าจะโดนสวนเอาน่ะสิบอกเลยว่าปาร์คชานยอลกลัวนะเว๊ยอยู่ตัวคนเดียวเนี่ย
     
    “แล้วมันไปไหนก็ไม่ยอมบอกเลยนะไอ้บ้า!” ลองกดโทรศัพท์ไปหาก็ไม่มีการตอบรับเลย เซ็งว่ะบอกเลย
     
    “ทำไมไปไหนไม่บอกวะ เอากูไปด้วยสิทิ้งกูอยู่เรื่อยเลย” ชานยอลทิ้งตัวลงนอนแผ่ที่เตียงแล้วก็บ่นอย่างน้อยใจ ก็ไม่ได้อยากสอดรู้ไปซะทุกเรื่องหรอกแต่ก็แค่อยากรู้ว่าไปไหน บอกแล้วจะไม่เอาเขาไปด้วยก็ได้ ชานยอลไม่ใช่คนที่สอดรู้อะไรขนาดนั้นแต่ก็แบบ... เป็นห่วงนั่นแหละ ก็อยากรู้ว่าจะไปไหนก็แค่นั้นเอง
     
    “ไอ้บ้าใจร้ายไม่ต้องมานอนกอดด้วยนะ!!” บ่นกับหน้าจอมือถือที่เป็นรูปคู่แล้วก็จิ้มหน้าจอตรงหน้าของคนที่หายไปจนมือถือแทบจะพัง 
     
    ชานยอลกำลังเหงา.. และเหงามากด้วยตอนที่ไม่มีคริสอยู่ ไม่รู้ว่าช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้คริสหายไปทำอะไรมาเจ้าตัวถึงออกไปก่อนเขาตื่นแล้วก็กลับมาตอนที่เขากำลังจะหลับทุกที ชานยอลจะรู้สึกตัวว่าคริสกลับมาก็ตอนที่คริสขึ้นเตียงมานอนกอดเขานี่ล่ะ ก็อยากจะเล่นตัวนะแต่ความง่วงมันก็ครอบงำเขาทุกทีเลยก็เลยได้แต่นอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของคริสไปแบบนั้น
     
    วันนี้คริสก็ไม่อยู่อีกแล้ว นี่ก็ทนไม่ไหวแล้วนะ! ตื่นมาทุกเช้าแล้วไม่เห็นใครอีกคนที่เป็นเจ้าของห้องเลยนี่มันรู้สึกหน่วงๆยังไงก็ไม่รู้ วันนี้ล่ะมันต้องให้รู้ดำรู้แดงกันไป! ก็แค่บอกมาว่าไปไหนก็แค่นั้นเอง ไปบริษัทกับป๊าหรือไปออกงานกับออมม่าอะไรก็บอกมาสิจะมาปิดบังกันทำไม! วันนี้ล่ะเขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าคริสหายไปไหน!!
     
    ชานยอลคว้ามือถือมากดจะโทรออกแต่ทว่าอยู่ๆก็มีข้อความส่งเข้ามา คนได้รับก็เลยทำหน้างงแล้วก็มองว่าเบอร์แปลกๆที่ส่งมานั้นเป็นใคร อาจจะเป็นคนรู้จักที่ไม่ได้กดบันทึกชื่อก็ได้แต่มันก็ไม่ใช่เพราะเบอร์ไม่คุ้ยเลยสักนิด ชานยอลก็เลยไม่สงสัยเรื่องที่ว่าเป็นใครแล้วแต่มาสงสัยแทนว่าใครส่งอะไรมาให้ พอกดดูเท่านั้นแหละ.. อยู่ๆก็รู้สึกตัวสั่น มือมันสั่นและแทบจะหมดแรง หัวใจมันเต้นรัวเร็วจนเจ็บแน่นในอกไปหมด มือถือในมือร่วงลงไปนอนอยู่บนพื้นเสียแล้ว
     
    ดวงตากลมยังคงเบิกกว้างอย่างตกใจ นัยน์ตาสีอ่อนสั่นระริกมองจับหาจุดโฟกัสไม่ได้ ม่านน้ำคลอที่หน่วยตากลมพร้อมที่จะหยดได้ทุกเมื่อ คนที่ส่งเข้ามาน่ะไม่ได้มีผลกระทบต่อจิตใจอะไรขนาดนั้นหรอกแต่เป็นสิ่งที่ส่งเข้ามาต่างหาก รูปของคริสกำลังยิ้มให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวเขาไม่รู้จัก มันทำให้ชานยอลรู้สึกวูบโหวงข้างใน สั่นไปหมดทั้งตัวและใจ หยดน้ำตาไหลหยดผ่านแก้มไปโดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้
     
    “ไปแล้วไม่ต้องกลับมาเลยนะไอ้เห.!!” ชานยอลขยับชันเข่าขึ้นแล้วนั่งกอดเข่าซุกหน้าลงไป 
     
    ก็พอจะรู้หรอกว่าบนโลกใบนี้ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงแต่เขาไม่เข้าใจ... ถ้าคริสจะมีคนอื่นทำไมถึงยังไม่ปล่อยมือจากเขาไป คำว่ารักที่เคยบอกกันนั้นมันคือเรื่องโกหกอย่างนั้นเหรอ ทุกวันนี้ที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันในความรู้สึกที่อยากอยู่ด้วยกันเหรอ ถ้าคริสจะเปลี่ยนไปทำไมไม่ปล่อยมือเขาไปตอนที่เขายังไปได้ ตอนนี้เขาไม่สามารถไปไหนได้แล้วจริงๆ
     
    มันเหมือนกับคนที่ลอยเคว้งอยู่ในทะเลพอมีคนมาช่วยก็ต้องเกาะเขาไว้เพราะไม่เช่นนั้นเราก็จะจมน้ำ ขนาดที่ว่ามีแพลอยผ่านมาเราก็ไม่ยอมทิ้งคนมาช่วยเราเพื่อไปหาแพอันนั้นจนมันลอยไปไกล.. แล้วถ้าจะให้ชานยอลปล่อยมือตอนนี้เขาก็ต้องจมน้ำน่ะสิ 
     
    แต่การที่อยู่โดยที่ไม่มีคริสอยู่ข้างๆกับการจมน้ำ... มันก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่เลย
     
    คริสที่วันนี้กลับบ้านมาเร็วก็เดินยิ้มร่าอารมณ์ดีเข้ามาในบ้าน เห็นในบ้านเงียบๆแบบนี้ตัวเขาก็ชินซะแล้วล่ะ คริสเดินขึ้นชั้นสองแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไปก็หวังว่าจะเห็นคนตัวบางหันมายิ้มให้เขาแต่ทว่ามันก็ไม่เป็นแบบนั้น ชานยอลนั่งกอดเข่าซุกหน้าอยู่บนเตียง คนตัวบางยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่เมื่อเจ้าตัวนั่งซุกหน้านิ่งๆอยู่แบบนั้น ภาพตรงหน้ามันดูเศร้าจนบรรยายไม่ถูก
     
    ชานยอลของเขาเป็นอะไรหรือจะโกรธที่เขาหายไป ช่วงนี้ตัวเขาก็หายไปจริงๆนั่นแหละแต่ที่เขาหายไปเขาก็มีเหตุผลนะไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็หายไปเสียเมื่อไหร่ล่ะ เรื่องเซอร์ไพรส์ถ้าบอกก่อนมันก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์น่ะสิ คริสเดินเข้าไปที่ข้างเตียงแล้วยื่นมือเข้าไปลูบหัวคนที่นั่งซุกเข่าเบาๆ
     
    “คนดีเป็นอะไรครับ” ชานยอลส่ายหน้าแล้วยกขาลงก่อนที่จะยกมือป้ายที่หน้าแล้วก็ก้าวเท้าลงจากเตียงเดินเลี่ยงตัวของคริสไปที่ห้องน้ำ
     
    “ชานยอล” ลองเรียกดูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเลยสักนิด ชานยอลที่หนีไปล้างหน้ามาเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็ไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงฝั่งของตัวเอง คริสเดินตามไปนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้วมองใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้แดงเรื่อคล้ายกับเพิ่งร้องไห้อย่างหนักมา
     
    “เด็กดีของคริสเป็นอะไรครับ” ชานยอลมองจ้องคนที่อยู่ไม่ไกลแล้วก็กัดปากตัวเอง ม่านน้ำคลอรอบดวงตาอีกแล้ว
     
    “เด็กดีของคริส? มึงฝันอยู่เหรอกูยังเป็นเด็กดีของมึงอยู่อีกเหรอ” คริสขมวดคิ้วกับคำพูดของชานยอล ไม่ได้ไม่พอใจกับคำพูดหยาบคายเช่นเดิมแต่กำลังไม่เข้าใจว่าทำไมชานยอลต้องตัดพ้อเขาแบบนี้ ทั้งสายตา สีหน้าและน้ำเสียงมันทำให้เขาใจไม่ดี
     
    “แล้วทำไมถึงจะไม่เป็นล่ะ” ชานยอลหลับตาแล้วถอนหายใจก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง
     
    “มึงยังกล้าพูดอีกเหรอ! ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจถึงกูจะดูโง่แต่กูก็ไม่ได้โง่นะเว๊ย!!” ชานยอลผลักคริสจนอีกฝ่ายล้มลงหงายหลังกับพื้น ชานยอลที่นั่งอยู่บนเตียงทำหน้าไม่พอใจและดูก็รู้ว่าโกรธมากแต่น้ำตาที่ไหลนั่นน่ะทำให้คนมองรู้สึกไม่ดีเลยสักนิด
     
    “เดี๋ยวมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน ใครว่ามึงโง่แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น” คริสลุกขึ้นยืนแล้วคว้ามือของชานยอลที่จะเดินหนี คนที่โดนรั้งไว้ก็หันมาสะบัดมือหนีทั้งทุบทั้งตีใส่จนคริสเจ็บไปหมด
     
    “ปล่อยกูนะ ปล่อย! กูบอกให้ปล่อยไง!!” ชานยอลพยายามแล้วที่จะสะบัดทั้งมือและตัวหนีแต่ก็ไม่อาจรอดพ้นอ้อมแขนของคริสที่รั้งชานยอลมากอดไว้แนบชิดไมได้
     
    “ฮือ... ไอ้บ้า ไอ้นิสัยไม่ดี ไม่ต้องมากอดเลยปล่อย! ถ้าไม่รักไม่อยากอยู่ด้วยก็บอกกูดีๆสิวะทำไมต้องมาทำแบบนี้” คริสลูบหลังปลอบคนที่ร้องสะอื้นในอ้อมอกแล้วก็ได้แต่สงสัยว่าชานยอลเป็นอะไร
     
    “เดี๋ยวใครบอกไม่รักแล้วใครไม่อยากอยู่อะไร” ชานยอลผละตัวออกแล้วทุบอกคริสแรงๆ คริสจับมือของชานยอลให้หยุดทุบเขาแล้วดึงชานยอลมากอดไว้พร้อมกับกดจูบข้างขมับ
     
    “ตัวเล็กบอกคริสหน่อยว่านี่เกิดอะไรขึ้น ใครมาพูดอะไรให้ได้ยิน” ชานยอลสะอื้นฮักๆแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “ไม่ได้บอกแต่มีรูปเลย มึงชอบผู้หญิงคนนั้นเหรออยากไปอยู่กับเขาหรอก” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองคริส ดวงตากลมโตที่มีน้ำตาคลอหน่วยไหนจะแสงประกายในห้วงสีอ่อนนั้นอีก มันดูสวยงามและน่าหลงใหลอย่าบอกไม่ถูก
     
    “ผู้หญิงคนไหนแล้วรูปอะไร” คริสเชยคางชานยอลขึ้นแล้วปาดเช็ดหยดน้ำตาให้ ชานยอลชี้ไปที่ด้านหลัง
     
    “ก็มีคนส่งรูปมาให้อ่ะ เป็นรูปของมึงกับผู้หญิงคนนั้น” คริสขมวดคิ้วทำหน้างงก่อนที่จะผละจากชานยอลแล้วไปลองเดินหาดูว่ามือถือของชานยอลอยู่ไหน คริสหยิบมือถือที่ตกอยู่ข้างเตียงฝั่งที่นอนเขาขึ้นมากดดู เพียงแค่เห็นก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว
     
    “ชานยอลครับ... กับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีอะไรเลยจริงๆ คนนี้ชื่อเหม่ยหลงเป็นพี่ข้างบ้านตอนที่อยู่ที่จีนก็เลยสนิทกัน เขามาเปิดร้านที่เกาหลีได้หลายปีแล้วพอดีมีเรื่องขอให้เขาช่วยก็เลยไปหาเขาเฉยๆและที่สำคัญเหม่ยหลงแต่งงานมีลูกแล้วนะ” ชานยอลที่ได้ฟังคำอธิบายยืดยาวก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ พอประมวลผลได้ก็เกิดอาการอายขึ้นมาเฉียบพลัน คนที่ยังโวยวายเมื่อกี้ก็เลยหนีมุดเข้าใต้ผ้าห่มแล้วนั่งจับผ้าไว้ไม่ให้คริสได้ดึงออก แหงล่ะโวยวายไปตั้งเยอะอายเป็นนะเว๊ย! 
     
    “ชานยอลหึงเหรอ” คริสเดินมานั่งตรงหน้าชานยอลแล้วยื่นมือไปลูบหัวของชานยอลผ่านผ้าห่ม คนที่แอบอยู่ในผ้าห่มจะทำอะไรได้ล่ะ จะพูดก็ไม่ได้จะปฎิเสธก็ไม่ใช่ที่เพราะงั้นก็เงียบมันไปเลย!! ตอนแรกก็อาละวาดไปสิพอรู้ความจริงก็ได้แต่อายล่ะ ใครจะกล้าสู้หน้ากันล่ะโวยวายไปตั้งเยอะ
     
    “ถึงไม่ตอบก็รู้หรอกน่า ถึงกับร้องไห้โวยวายเป็นตุเป็นตะเลย” ชานยอลดึงผ้าห่มที่คลุมตัวออกแล้วก็ทำหน้ามองค้อนใส่
     
    “อะไรเป็นตุเป็นตะอะไรอย่ามามั่วนะ!!” อยากจะช่วนหน้าไอ้คนที่ยิ้มหน้าบานนี่ให้แหกอยู่เหมือนกันแต่ติดตรงที่คริสรวบมือของชานยอลไว้ทั้งสองข้างนี่น่ะสิก็เลยได้แต่นั่งนิ่งๆ
     
    “ดีใจนะที่เด็กดื้อหึงน่ะ หึงได้แต่อย่าร้องไห้อีกได้ไหม” คริสละมือข้างหนึ่งไปลูบแก้มกลมของชานยอลเบาๆ
     
    “อย่าร้องไห้ตอนที่ไม่มีฉันอยู่ข้างๆอีก ถ้าจะร้องไห้ก็มาร้องไห้กับฉันนะ” ชานยอลที่มองสบกับดวงตาคมก็พยักหน้า
     
    “ก็อย่าทำให้ร้องไห้อีกสิ” คริสยกยิ้มขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้าไปป้อนจูบ ชานยอลเองก็หลับตาตอบรับจูบนั้น
     
    “จะไม่ทำให้ร้องไห้แล้วแต่ถ้าร้องครางก็ไม่แน่นะ” ชานยอลหัวเราะแล้วฟาดไหล่คริสแรงๆ
     
    “ไอ้หื่นกาม!!” คริสหัวเราะแล้วยื่นหน้าเข้าไปกดจูบย้ำๆ ชานยอลก็จูบตอบและเต็มใจที่จะทิ้งตัวลงนอนตามที่คนตัวโตกว่านั้นค่อยๆดันตัวเขาลงมา
     
    เขาว่ากันว่าบทรักหลังจากที่ทะเลาะกันนั้นมักจะพิเศษและหอมหวานน่ารัญจวนกว่าทุกครั้ง ทีแรกชานยอลก็ไม่เชื่อหรอกแต่หลังจากที่ได้ลองแล้วมันก็เป็นดั่งเช่นคำกล่าวนั้นจริงๆ ความรักที่ค่อยๆหลอมรวมอีกครั้งกับความอ่อนโยนที่ถูกสัมผัสนั้นมันทำให้ตัวเขาล่องลอยมากกว่าครั้งไหนๆ เคลิ้มจนเผลอเรียกชื่อของคนที่สัมผัสตัวเขาด้วยความอ่อนโยนไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
     
    เสียงกระซิบต่ำที่ชิดใบหูนั้นก็น่าฟังมากกว่าทุกครั้งและคำรักที่ได้ยินก็รู้สึกเต็มตื้นมากกว่าครั้งไหนที่เคยได้ยินมา ชานยอลแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอบกลับคำว่ารักของคริสไปกี่ครั้ง ดวงตาของทั้งสองที่มองสบกันนั้นแสดงความรู้สึกต่อกันอย่างไม่ปิดบังเพียงแค่มองก็รู้สึกถึงความข้างในหัวใจ ชานยอลที่เหนื่อยอ่อนก็พล็อยหลับไปก่อน คริสที่ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะให้ชานยอลดูอะไรบางอย่างก็เลยลองปลุกเรียกดู
     
    “งื้อ.. อย่ามายุ่งนะจะนอน!” ชานยอลบ่นงุ๊งงิ๊งแล้วก็พลิกตัวหนีหลับไปเลย คริสระบายยิ้มแล้วก้มลงหอมแก้มกลมฟอดใหญ่ๆ ชื่นใจหลังจากที่หายไปเป็นอาทิตย์ กลับมาก็แค่ได้นอนกอดกันแค่นั้นเองแต่รู้สึกว่าวันนี้จะเต็มเติมได้หมดเลยล่ะ นี่บอกเลยนะว่าอู๋อี้ฟานไม่ได้หื่นกามอย่างที่ชานยอลบอกนะก็แค่รู้สึกว่าอยากสัมผัสคนน่ารักคนนี้ก็แค่นั้นเอง ก็ถ้าไม่ทำตัวน่าฟัดเขาก็ไม่ฟัดจนช้ำไปทั้งตัวแบบนี้หรอกน่า
     
    “ไว้ตื่นก่อนค่อยดูก่อนได้ หลับสบายจริงเลยนะ~” คริสบีบปลายจมูกรั้นของชานยอลเบาๆ คนที่นอนหลับสบายก็ปัดมือคริสออกอย่างรำคาญบ่นงึมงำอีกสักแปบแล้วก็หลับไปอีก คริสหัวเราะเบาๆแล้วก็ก้าวเท้าลงจากเตียงเพื่อไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะมาจัดการกับชานยอลที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงให้เรียบร้อย ของแบบนี้จะให้ใครเห็นได้ยังไงกันล่ะ... เขาเห็นคนเดียวก็พอแล้ว
     
    ชานยอลพลิกตัวอีกครั้งก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้นตื่น ตัวเขาหลับไปนานไหมก็ไม่รู้หรอกรู้แต่ว่าพอตื่นมาแล้วก็เริ่มจะรู้สึกอายแล้วล่ะ ก็แหมก่อนนอนก่อคดีอะไรไว้ล่ะน่าอายชะมัด! เผยไต๋หมดเลยว่าเขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคริสน่ะ มันเป็นเรื่องน่าอายนะแต่ก็นั่นแหละมันก็เป็นเรื่องจริง.. แต่บางทีคนฉลาดๆอย่างคริสอาจจะรู้นานแล้วก็ได้ว่าปาร์คชานยอลน่ะอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีตัวเขาน่ะ 
     
    ดวงตากลมมองแผ่นหลังของคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงแล้วก็นึกให้หมั่นไส้คนอะไรแค่ใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวนั่งหันหลังก็ดูดี แต่แล้วสายตาก็เหมือนกับมองเห็นอะไรสักอย่างที่ช่วงเอวด้านหลังของคนนั่งนิ่งๆ ชานยอลขมวดคิ้วแล้วเพ่งสายตามองว่ามันคืออะไร พอออกมองริมฝีปากอิ่มก็ค่อยๆวาดรอยยิ้มเต็มแก้มเลย
     
    คริสนั่งไล่ดูมือถือของชานยอลอยู่ข้างเตียงรอคนน่ารักตื่น จริงๆมันก็เป็นประจำนะที่เขาแอบดูมือถือของชานยอลน่ะแต่เจ้าตัวไม่รู้หรอกเพราะฉะนั้นก็อย่าไปบอกล่ะ ก็แค่อยากรู้ว่าคุยอะไรที่ไหนกับใครบ้าง มีควาลับอะไรที่แอบเขาบ้างหรือเปล่า ทุกอย่างก็ปกติดีแต่จะไม่ปกติก็ไอ้เบอร์นั้นนั่นแหละที่ส่งรูปมาให้ชานยอล เขาว่าเบอร์มันคุ้นๆนะ พอลองกดโทรไปหาดูด้วยมือถือของตัวเองก็รู้เรื่องเลยกับคนรับสายที่เรียกชื่อเขาถูก.... ผู้ช่วยของออมม่า เรื่องนี้คงต้องสะสางให้จบแล้วล่ะมั้งถ้าถึงขั้นชานยอลร้องไห้มาสองรอบแล้วแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแล้วนะ
     
    “รอยสักสวยจังเลย” ชานยอลขยับตัวมากอดรอบคอจากด้านหลังแล้วก็ยื่นหน้ามาจุ๊บที่แก้มของคริส คริสเองก็หันไปมองแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากอิ่มก่อนที่จะยิ้มให้ มือก็แอบวางมือถือของชานยอลไว้ที่เตียงไม่ให้เจ้าตัวเห็น
     
    “เจ้าของชื่อน่ารักมั้ง” ชานยอลหัวเราะแล้วกระชับอ้อมแขนกอดแน่นจนแนบแก้มกับแก้มของคริสแล้วพยักหน้ารับ
     
    “แน่นอนอ่ะน่ารักสุด หล่อสุดๆในโลกแล้วอ่ะ” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะสุขใจเขานัก คริสเองก็ยิ้มตามไปด้วย
     
    “แล้วคิดยังไงไปสักชื่อฉันที่หลังแบบนั้นอ่ะ” คริสยกมือขึ้นขยี้เส้นผมของชานยอลเบาๆ
     
    “ก็ชานยอลบอกเองนิว่าให้สักชื่อตัวเองบ้าง” 
     
    “จำได้ด้วยเหรอ” ที่ถามน่ะเพราะว่าตัวเขาจำไม่ได้หรอก แหะๆ ก็แหมใครจะไปจำได้กันล่ะวะก็เมาอ่ะแค่ตื่นมารู้ว่าเสียตัวให้เพื่อนนี่ก็ช็อคพอทนแล้วนะ ใครจะไปจำได้วะว่าคุยอะไรกัน
     
    “เรื่องของตัวเล็กคริสก็จำได้ทุกเรื่องนั่นแหละ” แล้วคริสก็หันไปป้อนจูบให้คนด้านหลัง ชานยอลเองก็ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ก็แหงล่ะพูดดีลูกพี่ก็ให้รางวัลไงไหนจะรอยสักชื่อปาร์คชานยอลสวยๆที่หลังเอวอีกล่ะ 
     
    แบบนี้ก็แปลว่าอู๋อี้ฟานน่ะเป็นของปาร์คชานยอลแล้วใช่ป่ะ?
     
    จะใช่หรือไม่ใช่ลูกพี่ก็ไม่ปล่อยไปให้คนอื่นหรอกนะบอกไว้เลย!
     
    ชานยอลนั่งเล่นมือถือพิงคริสที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนเตียง กิจวัตรประจำวันคือส่งข้อความแชทหาลู่หานก็รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่อ่านและไม่ตอบแต่ก็นะขอให้ได้ส่งไว้ก่อนอ่านไม่อ่านก็ว่ากันอีกที เผื่อบางทีสักวันอาจจะตอบก็ได้ คิดถึงลู่หานนะเป็นห่วงด้วยแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ได้เจอเหมือนกัน ขนาดว่าตอนนี้พี่ชายเขาอยู่ไหนชานยอลก็ยังไม่รู้เลย พูดแล้วก็เศร้าอยากจะดราม่าเหลือเกิน
     
    พอไม่มีอะไรจะทำก็เลยเปิดดูปฏิทินในมือถือก็เห็นว่าอีกเดือนกว่าๆก็จะถึงวันเกิดของคริสแล้วและแน่นอนว่ามันก็จะต้องเป็นวันเกิดเขาเหมือนกัน แหมอะไรมันจะชะตาฟ้าลิขิตแบบนี้ลูกพี่กับเมียรักของลูกพี่ก็เกิดเดือนเดียวกันเลย นี่บอกเลยนะว่าถ้าไม่เดสตีนี่จริงนี่ไม่ได้ขนาดนี้นะเนี่ย จะว่าไปแล้วก็ต้องให้องขวัญวันเกิดใช่ไหมล่ะ มันก็เป็นธรรมเนียมทุกปีนะที่จะต้องให้ของขวัญกันน่ะ แต่ตอนนี้คุณพ่อกับไอ้ลู่ไม่อยู่การเงินของลูกี่ก็เลยไม่ค่อยดี ของขวัญเอาเป็นลูกพี่ผูกโบว์แทนได้ไหม? อยากถามแต่ไม่เอาดีกว่ากลัวมันเอาจริง
     
    “คริสช่วงนี้อยากได้อะไรป่ะ” ชานยอลหันไปถามแล้วก็ใช้ศอกกระแซะเอา คริสละสายตาจากทีวีในห้องมามองคนในอ้อมแขนที่หันมามองด้วยดวงตากลมๆ แหมน่ารักน่าฟัด
     
    “ไม่อยากได้อะไรแต่อยากเอาคนข้างๆอ่ะ” ชานยอลแบะปากใส่แล้วก็ฟาดขาไปหนึ่งทีแรงๆ
     
    “หื่นกามเกินไปล่ะ นี่ถามจริงๆเป็นการเป็นงานนะเว๊ย!” คริสหัวเราะในลำคอแล้วรั้งหัวของชานยอลให้เอนมานอนอิงที่ไหล่
     
    “อยากได้อะไรน่ะเหรอ.. อืม.. ไม่รู้สึกอยากได้อะไรนะก็มีหมดแล้วอ่ะ” ชานยอลแอบแบะปากให้สักหนึ่งที เออไอ้พ่อคนมีทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไว้ในกำมือ!!
     
    “แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งนะที่อยากได้เหมือนกันแต่ไม่รู้จะได้หรือเปล่า” คริสหันไปยิ้มให้ชานยอลที่ทำหน้าตาอยากรู้เสียเหลือเกิน เจ้าตัวก็แอบหมายมั่นปั้นมือไว้ในใจนั่นแหละว่ายังไงจะต้องหามาให้ได้ ก็แหมมันเป็นวันพิเศษแรกของเราเลยนะเว๊ย!! ลูกพี่ทุ่มสุดตัว!!
     
    “อะไรเหรอๆๆ” สาบานได้ว่านี่พยายามคุมน้ำเสียงไม่ให้อยากรู้อยากเห็นแล้วนะแต่ก็ไม่รู้ทำไมคนฟังถึงต้องหลุดขำด้วยก็ไม่รู้แต่ลูกพี่ไม่ใส่ใจหรอกเพราะสิ่งที่สนใจคือคำตอบต่างหาก
     
    “ก็.... อยากให้คนข้างๆอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตล่ะมั้ง” เออไอ้สายตาวิบวับที่มามองสบตาน่ะก็ไม่ได้เขินเท่ากับคำพูดประโยคนั้นบวกกับรอยยิ้มละมุนที่ส่งมาให้หรอก ตอนนี้ลูกพี่เลยไม่รู้ว่าจะเขินหรือจะข่วนหน้าคนพูดดี พูดมาได้ไม่อายปาก!!!
     
    “พูดแบบนี้ขอแต่งงานเลยมะ?” ชานยอลมองค้อนแล้วแบะปากใส่ หมั่นไส้จังเลยว่ะคนอะไรวะพูดมามันไม่อายแต่ทำไมคนฟังอย่างลูกพี่ต้องอายแทนมันด้วยวะเนี่ย!! แต่ลูกพี่คงไม่รู้ว่าคำพูดนั้นขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ
     
    “ขอได้เหรอ? เดี๋ยวให้ป๊าไปขอ” ชานยอลทำตาโตอ้าปากค้างแล้วมองไอ้คนที่บอกจะให้ป๊ามาขอแล้วก็อยากจะข่วนหน้ามันให้หน้าแหกไปเลย
     
    “อะไรใครจะให้ขอไม่มีอ่ะ! อย่ามามั่วไม่อยู่ด้วยหรอก!!” ชานยอลแบะปากใส่แล้วก็ขยับตัวลงจากเตียง
     
    “จะไปไหนน่ะ” 
     
    “จะลงไปหาขนมกิน ไม่ต้องตามมาเลยนะไอ้บ้า!” ชานยอลชี้นิ้วแล้วทำหน้าโหดใส่ คริสก็หัวเราะแล้วมองชานยอลเดินฟึดฟัดไปทางประตู
     
    “เอาขนมขึ้นมาให้กินด้วยอ่ะ!” ชานยอลหันกลับมาแล้วชูกำปั้นจะต่อยให้ก่อนที่จะปิดประตูห้องแรงๆเลย คนที่อยู่ข้างในก็เลยได้แต่หัวเราะสนุกเขาล่ะที่ได้แกล้งชานยอลแต่คำพูดที่บอกไปว่าเขาอยากอยู่กับชานยอลไปตลอดชีวิตน่ะ... เรื่องจริงนะ
     
    ชานยอลเดินลงมาด้านล่างบ้านแล้วก็รู้สึกหม่นๆใจก็บ้านนี้มันมักจะเงียบทุกทีเลยน่ะสิ ลองเป็นที่บ้านเขาสิมีเสียงโน้นนี่ตลอดนั่นแหละ บ้านนี้ก็แปลกๆนะทุกคนก็ชอบจะอยู่ห้งอใครห้องมันเพราะแบบนี้ไงตัวเขาถึงไม่เคยรู้เลยว่าใครอยู่ห้องไหน แต่จะว่าไปก็คิดถึงที่บ้านเหมือนกันนะก็ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
     
    ตัวเขาก็สงสัยเหมือนกันนั่นแหละว่าที่บ้านมีอะไรกัน มีความลับหรือปกปิดอะไรไว้ อยากจะถามหาความจริงเหมือนกันแต่ก็ไม่รู้ว่าจากที่ไหนหรือจากใคร คนที่จะให้คำตอบก็คือคุณพ่อและลู่หานที่หายไปกันหมดนั่นแหละ อยากจะรู้ใจจะขาดแต่ก็ไม่รู้จะไปถามใคร 
     
    ชานยอลหยิบขวดน้ำกับขวดนมแล้วก็ห่อขนมอีกสองถุงเดินขึ้นไปด้วยแต่แล้วก็คิดได้ว่าเขาควรที่จะเริ่มหาซื้อของขวัญให้คริสได้แล้วเมื่อคิดได้ดังนั้นคนที่เขาจะขอความช่วยเหลือก็คือจุนมยอนคนแบ๊ว ไปเคาะห้องสามสามทีคนมุ้งมิ้งสุดน่ารักก็เปิดประตูออกมาต้อนรับแล้วล่ะ
     
    “ชานชานมีอะไรเหรอ” จุนมยอนเอ่ยถามพร้อมกับหยิบหมอนหนุนมากอดไว้ ชานยอลวางของที่หอบมาลงบนโต๊ะเล้กข้างเตียงของจุนมยอนแล้วก็ทำตัวไม่ถูกว่าจะพูดออกไปอย่างไรดี
     
    “คือมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือหน่อยน่ะ แหะๆ” มาพูดแบบนี้ก็อายเหมือนกันนะเว๊ยแต่ก็เอาเหอะเพื่อเป็นการขอบคุณที่มันอุตส่าห์ดูแลอย่างดีเลยนะ เอาวะลูกพี่ชานยอลไฝว์!!
     
    “มีอะไรล่ะบอกมาได้เลยเราจะช่วยทุกอย่างเลย” จุนมยอนก็ยังคงยิ้มอยู่ ชานยอลที่ยืนเกาต้นคออย่างเขินๆนั้นก็ได้แต่ยืนหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะวางมือวางไม้ไว้ที่ไหน มันก็น่าเขินนะเว๊ยเฮ้ย!
     
    “คือแบบนี้ เดือนหน้ามันก็ถึงวันเกิดคริสแล้วใช่ไหมล่ะ” จุนมยอนพยักหน้า ชานยอลก็เลยพูดต่อไปแบบรวดเดียวจบ!
     
    “น้องจุนไปช่วยเลือกของขวัญให้คริสหน่อยดิไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้มันดี นะช่วยหน่อย” จุนมยอนมองชานยอลตาฟริบๆแล้วก็ยิ้มหวาน
     
    “ชานยอลนี่รักพี่คริสดีจังเนอะ เราไปช่วยก็ได้แต่ชานยอลเลี้ยงไอติมเราด้วยนะ” 
     
    “ได้แน่นอนอยู่แล้ว” ยังไงก็เงินไอ้คริส แต่ไม่ได้พูดหรอกเก็บไว้เป็นความลับจุ๊ๆ
     
    “แล้วชานชานอยากให้อะไรล่ะ” ชานยอลถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “เพราะนี่ล่ะถึงมาขอความช่วยเหลือ ก็ไม่รู้ว่าจะให้อะไรดีน่ะสิ” จุนมยอนพยักหน้าเข้าใจแล้วก็ยิ้มให้
     
    “เดี๋ยวเราจะช่วยชานชานเอง!” 
     
    แล้วชานยอลก็เดินอารมณ์ดีกลับเข้าห้องของคริสไป ไอ้คนที่นั่งๆนอนๆสบายดูทีวีก็หันมามองว่ากลับมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรทั้งนั้นยังจะมีหน้ามาแบมือของขนมอีกแน่ะ น่าเอาขวดนมฟาดมันให้ตายไปเลย ชานยอลนั่งบนเตียงแล้วก็ดื่มนม ปล่อยขนมและน้ำให้คริสไป ดูหนังไปก็ดื่มนมไปจนหมดขวดไอ้คนข้างตัวก็มาสะกิดยิกๆเลย
     
    “อะไร” 
     
    “กินนมบ้างดิ” ชานยอลชูขวดให้ดู
     
    “หมดแล้ว จะเอาเหรอลงไปเอาเองนะ” ชานยอลยิ้มให้แล้วก็หันหน้ากลับไปดูหนังเหมือนเดิมแต่คริสก็รั้งใบหน้าชานยอลให้หันมาหา
     
    “กินแบบนี้ก็ได้” แล้วคริสก็ยื่นหน้าเข้าไปชิมนมในปากของชานยอล ลูกพี่ก็ตกใจตาโตเลยน่ะสิ ดันมันออกก็ไม่ได้ก็เลยต้องทุบมันแทน จนคริสกินนมจนพอใจนั่นแหละถึงได้ยอมปล่อย
     
    “นมยี่ห้อนี้อร่อยจริงๆด้วย
     
    “ไอ้หื่นกาม!!” ชานยอลดันหน้าของคริสให้ออกห่างแล้วก็แบะปากใส่ คริสก็หัวเราะแล้วขยับตัวไปนั่งเอนหลังพิงหัวเตียงดูหนังต่อ
     
    “ก็หื่นกามด้วยคนเดียวนั่นแหละหรือจะให้ไปหื่นกามกับคนอื่น?”
     
    “ก็ลองดูสิ!!” ชานยอลหันมาทำหน้าเอาเรื่องแล้วก็ยกกำปั้นขึ้นหมายว่าถ้าลองได้ไปหื่นกามกับคนอื่นนะลูกพี่จะต่อยหน้าหันเลย! คริสหัวเราะแล้วอ้าแขนรั้งชานยอลให้มานอนพิงที่อก
     
    “ไม่ทำหรอกน่า หื่นกามกับตัวเล็กคนเดียวก็พอแล้ว” คริสะกดจูบที่กระหม่อมสวยของชานยอลหนัก ชานยอลก็ขมุบขมิบปากให้ศีลให้พรไปสิ
     
     
     
     
     
     
     
    วันนี้ไปฤกษ์ดีที่ชานยอลจะหนีคริสเดท!! ใช่เดท.. ไปเดทกับน้องจุนสุดมุ้งมิ้ง~ ก็พูดไปแบบนั้นเองก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก.. จริงๆนะ แหะๆ ก็แอบคุยกับน้องจุนไว้แล้วนะเราจะแอบมาเจอกันโดยที่ไม่ให้คริสและเทารู้ แน่นอนว่าจะรับรู้ไม่ได้เด็ดขาด! วันนี้ป๊าเรียกคริสให้ไปหาก็เลยถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะแอบหนีได้เพราะทางสะดวก ส่วนน้องจุนวันนี้ต้องไปมหาลัยก็หวังว่าน้องจุนจะแว่บมาหาพี่ชานยอลได้นะ.. เอาจริงๆนี่เหมือนชู้แอบลักลอบมาเจอกับชู้เลยอ่ะให้ตายสิ
     
    ชานยอลมาถึงที่ห้างก่อนด้วยรถแท็กซี่ พอมาถึงก็เลยไปนั่งรอน้องจุนที่ร้านไอศกรีมร้านอร่อย ไม่นานน้องจุนก็มาทั้งสองคนก็เลยนั่กงกินไอศกรีมกันก่อนแต่ก็ไม่ได้มีฉากมุ้งมิ้งป้อนไอศกรีมกันไปมาหรอกนะ ก็กินถ้วยใครถ้วยมันนี่แหละ แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าตามันกระตุกๆขาขวาจังวะ เขาว่ากันว่าขวาร้ายซ้ายดีแต่บางทีมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้
     
    “ชานชานคิดหรือยังว่าอยากจะซื้ออะไรให้พี่คริส” ชานยอลโคลงหัวไปมาแล้วก็ส่ายหน้า
     
    “คิดไม่ออกอ่ะ”
     
    “แล้วปกติวันเกิดกันทุกปีให้อะไรกันเหรอ” ชานยอลยกมือเกาหัวแล้วก็หัวเราะแหะๆ
     
    “ก็พามันไปเลี้ยงเหล้าอ่ะแค่นั้น ไม่ค่อยได้ให้อะไรกันหรอก” เพราะทุกปีที่ผ่านมาไม่เคยจะให้ของขวัญกันเป็นชิ้นเป็นอันเลยน่ะสิก็เลยต้องมีกำลังมาร่วมพลสุมหัวกันแบบนี้ บางปีที่เขาไม่ว่างเลี้ยงคริสในวันเกิดเราก็จะหาวันกลางๆระหว่างวันเกิดของเราสองคนแล้วก็ไปนั่งกินเหล้าหารสองกัน.. ก็แล้วพอจะต้องมาทำตัวแมนๆหาของขวัญให้ทีก็ลำบากลูกพี่เลยไง
     
    “ก็ลองให้อะไรที่คริสชอบหรืออยากได้ดูสิ” พอได้ยินจุนมยอนพูดแบบนั้นประโยคของคริสที่บอกว่าอยากได้อะไรก็ลอยขึ้นมาในโสตประสาทเสียอย่างนั้น พอคิดแล้วก็ตัวจะระเบิดทุกทีเลย!
     
    “มันบอกว่าไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษอ่ะ” เพราะถ้ามันบอกว่าอยากได้อะไรนะเขาก็ไม่ต้องให้น้องจุนมาเป็นเพื่อนหรอก
     
    “พี่คริสชอบแว่น เสื้อแล้วก็พวกรองเท้าเราลองไปดูกันก่อนไหมว่าถูกใจหรือเปล่า”
     
    “เอาแบบนั้นก็ได้”
     
    แต่สิ่งที่จุนมยอนลองเสนอมามันก็ไม่ถูกใจชานยอลสักอย่าง ไม่ใช่ว่าของพวกนั้นมันไม่ดีแต่เขาไม่รู้สึกว่ามันจะถูกใจคริสเลยสักนิด คนชวนมายังไม่ได้ของเลยแต่จุนมยอนได้เสื้อไปแล้วหนึ่งตัวคิดว่านั่นคงเป็นของน้องเทานั่นแหละเพราะลายกราฟฟิคสวยๆแบบนั้นน้องจุนที่แสนน่ารักคงไม่ได้ใส่เองแน่ๆ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ก็ยังไม่ได้อะไรเลยสักอย่างก็เลยขอพักเหนื่อยก่อนดีกว่า
     
    ชานยอลอาสาเดินไปซื้อน้ำมาให้จุนมยอนเพราะเป็นคนชวนเขามาลำบากเองแท้ ชานยอลกับจุนมยอนเดินดูดน้ำสีสรรน่ากินในมือแล้วก็พากันเดินดูของไปเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่มีอะไรถูกใจ จนมาถึงร้านเครื่องประดับสร้อยข้อมือสวยๆที่วางโชว์อยู่หน้าร้านมันทำให้ชานยอลเดินเข้าไปมองใกล้ๆ จุนมยอนก็เลยตามไปด้วย 
     
    ชานยอลที่ก้มมองสร้อยข้อมือเส้นนั้นกำลังชั่งใจว่าเขาควรซื้อไหมอย่างน้อยมันก็มีอีกเส้นที่เหมือนกันวางอยู่ข้างกัน ถ้าซ้อสองเส้นใส่ด้วยกันก็คงจะดีอยู่ไม่น้อย ก็เพราะมัวแต่คิดอะไรมากมายในหัวนั่นแหละก็เลยก้มหัวชนกับจุนมยอนเสียอยย่างนั้น ทั้งสองคนหัวเราะให้กันแล้วก็ลูบตรงที่โดนโขกกันปอยๆ ชานยอลยืดตัวเงยหน้าขึ้นมองกระจกของร้านแล้วก็เบิกตาแทบจะเหลือก..
     
    ก็จะไม่ตกใจหรอกถ้าคนที่ยืนข้างหลังเขามันจะไม่ใช่.... คริสและจื่อเทา
     
    “คริส... มาได้ไงอ่ะ” ชานยอลหันไปมองแล้วก็ทำตาโตตกใจ จุนมยอนก็เลยหันหลังกลับไปมองด้วยความตกใจบ้าง จื่อเทามองจุนมยอนอย่างตัดพ้อและน้อยใจ
     
    “เดินมา” ไอ้หอก! ถ้าเป็นเวลาปกติเขาคงจะฟาดขาใส่ไปแล้วแต่นี่มันสถานการณ์ไม่ปกติไง เลวร้าย.. เลวร้ายมาก... เลวร้ายมหาบรรลัยมากอ่ะ ลูกพี่จะร้อง!!
     
    “อะ.. เอ่อ... คือคริส เทา คือฟัง..” แต่ดูท่าว่าคนหน้าโหดและสันดารโฉดจะไม่อยากฟังแล้ว คริสเดินเข้ามาคว้ากำข้อมือของชานยอลแล้วลากออกไปเลย
     
    “กลับบ้านกับกูเดี๋ยวนี้ชานยอล” สงสัยว่าคริสจะโกรธมากเลยนะ ลูกพี่ตายแน่ๆ
     
    ชานยอลนั่งเกร็งตัวภาวนาให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัยเพราะคริสเล่นเหยียบซะมิดเกขนาดนั้นใครจะไม่กลัววะ!! พอถึงบ้านได้คริสก็ลงมาลากชานยอลดึงห้องนอนอีก อยากจะบอกมันเหลือเกินว่าเบาๆหน่อยข้อมือเขาช้ำเป็นรอยมือมันหมดแล้วแต่ก็ไม่กล้าพูดกลับมันหันกลับมาแล้วโยนเขาลงจากบันไดเอาน่ะสิ ลูกพี่ยังไม่อยากตายเพราะตกบันไดนะศพมันไม่สวย
     
    คริสเปิดประตูห้องนอนได้ก็เหวี่ยงชานยอลเข้าไป เสียงปิดประตูห้องนอนของคริสทำเอาชานยอลสะดุ้งโหยงสุดตัว ไหนจะใบหน้าที่ดูเหมือนไปโกรธใครมาสักร้อยปีอย่างนั้นแหละ ฮือ... กูจะร้องไห้แล้วนะเว๊ย!! คริสยืนเท้าเอวแล้วหลับตาสูดลมหายใจลึกๆเพื่อระงับอารมณ์โกรธ 
     
    ถ้าจะให้พูดตรงๆเลยก็คือตอนนี้คริสกำลังโกรธมาก... มากที่สุดด้วย! นี่ความคิดที่อยากจะเต๊าะน้องเขามันยัไม่หมดออกไปจากสมองของชานยอลอีกหรือไงแล้วไอ้ที่บอกว่าจะนอนอยู่บนห้องดูหนังที่เขาเช่ามานี่โกหกใช่ไหม!! กล้ามากเกินไปนะปาร์คชานยอล
     
    “คือคริส...”
     
    “มึงไปกับน้องจุนทำไม มึงก็รู้ว่าน้องจุนกับไอ้เทามันได้กันแล้วยังจะไม่แทรกมันอีกทำไม!!” ชานยอลพูดไม่ต้องจบคริสก็สวนขึ้นมาด้วยเสียงดังทำเอาคนฟังตกใจจนสะดุ้ง
     
    “ก็ไม่ได้ไปแทรกก็มีเหตุผลนะเว๊ย”
     
    “แล้วมึงมีเหตุผลอะไรก็พูดมาสิวะ!!” คริสตะคอกใส่เสียงดังทำเอาชานยอลสะดุ้งอีกรอบ
     
    “ก็.. ก็บอกไม่ได้อ่ะ” ถ้าบอกไปมันก็รู้หมดน่ะสิว่าเขาคิดที่จะทำอะไรเพราะฉะนั้นก็บอกไม่ได้ คริสหันห้าหนีแล้วลูบหน้าตัวเองอย่างกลั้นอารมณ์โกรธ
     
    “ตกลงจะไม่บอกใช่ไหม” ชานยอลก้มหน้าลงแล้วกัดปากตัวเอง
     
    “งั้นมึงก็ออกจากห้องกูไปเลยก่อนที่กูจะตบมึงให้เลือดอาบ” แล้วคริสก็จับชานยอลเหวี่ยงออกไปนอนห้อง ไอ้คนที่ยังตกใจอยู่ก็ได้แต่ทำตาโตเคาะประตูเรียกไปสิ
     
    “ไอ้คริสเปิดประตูนะเว๊ยมึงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะเว๊ย!!” เคาะประตูไป ตะโกนเรียกไปคริสก็ไม่ยอมเปิดประตูให้แล้วทีนี้คนที่ยืนเคว้งอยู่หน้าห้องจะทำอย่างไรกันล่ะ 
     
    ถามว่าชานยอลโกรธไหม คำตอบคือโกรธมาก!
     
    แต่ก็อย่างว่าถ้าเป็นเขาโดนคริสโกหกเขาก็โกรธเหมือนกัน ..... แล้วทีนี้ลูกพี่จะไปนอนที่ไหนกันละวะเนี่ย
     
    ชานยอลมองซ้ายมองขวาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาคงจะไปขอนอนกับเทาหรือจุนมยอนไม่ได้แน่ๆ แล้วยิ่งน้องฮุนก็อย่าให้พูดถึงเลย ห้องน้องแบคเหรอ? ลองไปดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่น่ะ.. คิดได้แบบนั้นชานยอลก็เลยลองเดินเข้าไปด้านในสุดห้องของน้องแบคแต่พอลองหมุนลูกบิดแล้วห้องน้องแบคก็ล็อคประตูไว้เหมือนกัน ถ้าไม่มีใครอยู่ก็มักจะล็อคประตูกันทั้งนั้นนั่นแหละ 
     
    เอาไงล่ะทีนี้... พอคิดไม่ออกทางเดียวก็คือต้องกลับไปง้อคริสเหมือนเดิม เอาวะ! ลูกพี่ชานยอลทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วแต่ขอหลบไปทำใจข้างล่างก่อนนะ พอชานยอลเดินกลับมาจะลงบันไดไปชั้นล่างบานประตูห้องนอนของคริสก็เปิดออกพร้อมกับคริสที่ดึงแขนชานยอลที่เดินอยู่หน้าห้องให้ถลาเข้ามาในห้องซะ ชานยอลหลับตาแน่นอย่างตกใจอยู่ในอ้อมแขนของคริส
     
    “บอกมาว่าทำไมต้องไปกับจุนมยอน” ชานยอลผละตัวออกแล้วก้มหน้าหนี
     
    “บอกไม่ได้จริงๆ มันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์บอกไม่ได้” คริสเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างสงสัย
     
    “เซอร์ไพรส์อะไร.. บอกมาก่อนที่จะหมดความอดทนแล้วจับตบให้เลือดกลบปาก” ชานยอลแบะปากใส่ ไอ้คริสผู้ชายแสนดีมันไปไหนแล้ววะเอามันมาช่วยกูที ฮือ...!!
     
    “ชานยอลกูจะนับแค่3นะ” เมื่อเห็นชานยอลยังเงียบอยู่ก็เลยต้องใช้โหมดโหด
     
    “...1...” ชานยอลทำท่าลุกลี้ลุกลนแต่ยังไม่เอ่ยปากบอก
     
    “...2...” ทำไมสองมันมาไวจังวะให้กูหาข้ออ้างก่อนดิ
     
    “คริสอ่ะอย่าถามเลยนะ” พยายามยิ้มเอาใจแต่ผลก็คือไม่มีการอุทรณ์ในคดีนี้
     
    “...สะ...”
     
    “บอกแล้วๆๆ อย่าตีกูนะ!!” นับไม่ทันจบชานยอลก็โพร่งออกไปพร้อมกับยกสองแขนขึ้นกั้นปิดหน้าตัวเองด้วยแต่เมื่อไม่เห็นว่าคริสจะทำอะไรก็เลยค่อยๆลดแขนลง
     
    “ก็ว่ามา” ชานยอลแอบลอบถอนหายใจ เอาวะยังไงก็ยังไม่โดนมันตีเอา
     
    “ก็เดือนหน้าวันเกิดมึงไงก็เลยให้น้องจุนไปช่วยเลือกของขวัญ” คริสขมวดคิ้วมุ่นแล้วแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องที่ชานยอลพูด ไม่นานมานี้ชานยอลถามเขาว่าอยากได้อะไร.. แล้วมันก็ใกล้วันเกิดเขาจริงๆนั่นแหละ
     
    “ก็ไม่เห็นจะต้องไปหาอะไรให้มันวุ่นวายเลย แค่เอาโบว์ผูกคอมาให้เอาถึงเตียงก็พอแล้ว” รู้สึกอยากกระทืบคนจังเลยว่ะ ลูกพี่ชายขอเปิดมันคนแรกเลยได้ไหมวะ
     
    "ตลกเหอะ แล้วนั่นยิ้มทำไมไม่โกรธแล้วหรือไง” คริสที่ยิ้มมุมปากเลิกคิ้วขึ้นแล้วดึงชานยอลมากอดไว้
     
    “ก็ไม่ได้โกรธนิ” ชานยอลผละตัวออกแล้วมองหน้าคริสอย่างไม่เข้าใจ
     
    “แล้วเมื่อกี้นี้.....” นี่กูโดนหลอกเหรอ!!?
     
    “ถ้าถามดีๆจะตอบไหมล่ะ” ชัดเจนในคำตอบ..
     
    “ไอ้ห่ากูก็ตกใจหมดแม่ง!! กูกลัวนะไอเห.!!” คริสหัวเราะแล้วรวบตัวชานยอลมากอดไว้ก่อนที่จะกระซิบเสียงทุ้มชิดใบหู
     
    “ของขวัญวันเกิดปีนี้ไม่ขออะไรมากหรอก อย่าลืมผูกโบว์มาให้เอาก็พอ” ชานยอลฮึดฮัดแล้วผลักคริวสให้ออกห่าง
     
    “ไม่ให้เว๊ย ไม่ผูกโบว์ ไม่ให้เอาอะไรทั้งนั้นแหละฝันไปเถอะ!!!” คริสกอดอกแล้วหัวเราะขำที่เห็นชานยอลทำท่าจะสติหลุดเข้าสักวินาที
     
    “งั้นไม่ต้องใส่อะไรมานอนให้เอาก็ได้” ชานยอลเบิกตากว้างแล้วอยากจะถีบให้คว่ำเลยแต่ติดที่อยู่ไกลเกินขาเอื้อมถึงหรอกนะ ไม่งั้นล่ะก็โดนแน่!!
     
    “กูจะใส่เสื้อคอเต่ากับกางเกงขายาวปิดแม่งให้หมดทุกส่วนเลย!!” แล้วชานยอลก็หมุนตัวหันหลังเดินออกจากห้องไปเลย
     
    “แล้วนั่นจะไปไหนน่ะ” 
     
    “ลงไปหาอะไรกินตกใจแล้วหิว!” ชานยอลโผล่หน้าเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูเสียงดังๆ คริสที่มองอยู่ก็ได้แต่หัวเราะอารมณ์ดีถูกใจเจ้าตัวเขานักหนาล่ะ
     
    ก็ชานยอลน่าแกล้งขนาดนี้ทำไมเขาจะไม่อยากแกล้งล่ะจริงไหม..........?
     
    แต่ก็ยอมรับนะว่าตอนที่เห็นชานยอลกับจุนมยอนอยู่ด้วยกันอารมณ์มันก็ขึ้นจริงนั่นแหละ โกรธมากก็ยอมรับเลย เขาไม่อยากให้ชานยอลโกหกเขาแต่พอเห็นชานยอลมีความสุขกับการเลือกของที่ถ้ามันไม่ใช่ของชานยอลก็ต้องเป็นของเขาแน่ๆแล้ว... อารมณ์โกรธมันก็หายไปหมดจนเหลือแต่อารมณ์อยากแกล้งนี่แหละ
     
    แต่ครั้งนี้แกล้งชานยอลให้ร้องไห้ไม่สำเร็จ.. ว๊า~ ครั้งหน้าเอาใหม่เนอะ
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×