ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter - 11

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.42K
      8
      12 ก.ค. 57

    ไม่ค่อยมีคนหลงกลเราเลยแหะ 55555555 #ยังๆมันยังไม่สำนึก
     
     
     
    ___________________________________________
     
     
     
     
     
    “จะรีบเดินไปไหนน่ะเดินช้าๆก็ได้มั่งน่ะ” คริสเอ่ยเรียกชานยอลที่เดินนำหน้าลิ่วๆ ตั้งแต่ลงจากรถมาได้ชานยอลก็เดินลิ่วมาไม่สนใจใครแล้วก็ไม่รอเขาเลยสักนิดเดียว อยากจะถามเหมือนกันควายหายหรือไงแต่ก็กลัวจะโดนฟาดปากเข้าให้น่ะสิอู๋อี้ฟานเลยต้องสงบปากสงบคำเอาไว้ก่อน
     
    นี่ก็บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถึงจะโหดและเถื่อนกับคนอื่นแต่กับคนตัวเล็กตรงหน้านี่... ไม่กล้าโหดใส่เยอะหรอกเดี๋ยวร้องไห้งอแงขึ้นมามันจะลำบาก …อู๋อี้ฟานไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กแต่ก็แค่เป็นแฟนของคนตรงหน้าแค่นั้นเอ๊ง~
     
    “คริสก็เดินให้มันไวๆหน่อยได้ไหมเล่าถ้าอาจารย์ชองแกเข้าแล็บไปก่อนก็ต้องมาพรุ่งนี้อีกอ่ะไม่อยากมาแล้วนะพรุ่งนี้ไม่มีเรียนนะเว๊ย!” หันมาว๊ากใส่เขา สองขาก็ก้าวขึ้นบันไดไปแล้วคนซุ่มซ่ามแบบชานยอลจะเดินขึ้นบันไดแบบไม่มองขั้นบันไดรอดหรือ?.. คำตอบก็คือไม่น่ะสิ
     
    “เฮ้ยระวัง!” คริสรีบก้าวเข้าไปรับชานยอลที่เดินก้าวไม่พ้นขั้นบันไดแล้วจะหงายหลังลงมา ชานยอลหลับตาแน่นไม่กล้าลืมตาเพราะกลัวว่าตัวเองจะกลิ้งตกบันไดแต่สิ่งที่สัมผัสได้ก็คือแผ่นอกอุ่นๆแล้วก็อ้อมแขนยาวที่กอดรัดตัวเองเอาไว้
     
    “เป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างหูนั้นเรียกให้ชานยอลค่อยๆลืมตาขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นใบหน้าหล่อคมนั้นก้มลงมาหาห่างกันแค่ลมหายใจกั้น ริมฝีปากของคริสวาดรอยยิ้มส่งให้คนมองก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ
     
    “เป็นอะไรหรือเปล่าหื้ม?” คริสช่วยพยุงชานยอลให้ยืนดีๆ ชานยอลที่ได้สติก็สะบัดหัวไล่ความมึนนิดหน่อย ไม่ได้มึนที่เกือบจะตกบันไดหรอกแต่มึนความหล่อของคนมาช่วยต่างหาก นี่บอกเลยนะว่าลูกพี่จะไม่ทน!!
     
    “ไม่ๆๆ” ชานยอลส่ายหน้าไปมาซะผมยุ่ง คริสก็หัวเราะแล้วจัดทรงผมให้เข้าที่
     
    “ขึ้นไปได้แล้วเดินดีๆ” คริสจับมือพาชานยอลเดินขึ้นบันไดไปด้วยกัน
     
    “ไม่ด่าเหรอ” ชานยอลถามด้วยความแปลกใจ เพราะทุกทีเวลาที่ตัวเองซุ่มซ่ามทีไรก็มักจะโดนด่าตลอด
     
    “ด่าแล้วได้อะไร ยังไงครั้งหน้าก็ซุ่มซ่ามอีกเหมือนเดิม” คริสละมือที่จับกันออกแล้วกอดล็อคคอชานยอลให้เข้ามาใกล้แล้วแอบจุ๊บที่ข้างขมับไปหนึ่งที ชานยอลหันไปแบะปากใส่
     
    “พูดไม่ถูกใจเดี๋ยวผลักตกบันไดเลยนี่” แอบบ่นเข้าให้แต่คนที่โดนหมายหัวว่าจะถูกผลักตกบันไดกลับหัวเราะเสียอย่างนั้น ประสาทแล้วหรือไง?
     
    “อ้าวมาทำอะไรกันแถวนี้” ทั้งสองหันไปมองคนทักก็รู้สึกเหมือนเห็นสรวงสวรรค์อยู่ข้างหน้ารำไร อาจารย์จองที่สนิทด้วยและใจดีกว่าอาจารย์ประจำภาคเสียอีก 
     
    “อาจารย์จองช่วยหน่อยสิ” ชานยอลยิ้มกว้างเข้าอ้อน อาจารย์จองน่ะใจดีจะตายถึงแม้หน้าจะดุก็เหอะ ไม่เหมือนกับอาจารย์ชองที่หน้าตาน่ากลัวแถมยังชอบมองแปลกๆใส่อีก บอกตรงๆปาร์คชานยอลกลัว!
     
    “ช่วยเรื่องอะไรล่ะ”
     
    “อาจารย์ช่วยทำเรื่องขอลาหยุดให้ไอ้ลู่หานหน่อยสิ มีเหตุด่วนมากถึงมากที่สุดที่ทำให้มันมาสอบไม่ได้อ่ะ” อาจารย์จองขมวดคิ้วแล้วก็ส่ายหน้า
     
    “ถ้าเป็นเรื่องลู่หานไปคุยกับอาจารย์ชองเองเถอะ ยังอยู่ในห้องน่ะเข้าไปคุยดู ไปล่ะ” แล้วอาจารย์จองแกก็เดินไปเลย ทิ้งลูกศิษย์ตาแป๊วๆไปเสียแล้ว พอจะเดินไปที่ห้องก็เจออาจารย์ชาเดินสวนมา ว่าแต่อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์มาเดินอะไรที่ตึกวิศวะกันล่ะนั่น
     
    “อาจารย์ชามาทำอะไรที่นี่น่ะ นี่มันตึกวิศวะนะ” ชานยอลเอ่ยทักแล้วยักคิ้วให้ อาจารย์ชาหันมายิ้มให้ทั้งคริสและชานยอล
     
    “มาหาคนไปเป็นหนูทดลองน่ะ ไปก่อนนะรีบ” แล้วอาจารย์แกก็เดินผ่านไปเลย คิดว่าเป้าหมายก็คงเป็นอาจารย์จองแหงๆเพราะเดินไปทางเดียวกัน ชานยอลหันไปมองหน้าคริสหาคำตอบที่สงสัยแต่คริสก็ทำแค่ยักไหล่เบาๆ
     
    “อาจารย์น่ากลัวว่ะ บรึ๋ย~” ชานยอลทำท่ากลัวขนลุกขนพอง คริสหัวเราะแล้วยื่นมือไปขยี้ผมของชานยอลแรงๆจนผมยุ่งไปหมด
     
    “ข้างในนั้นน่ากลัวกว่าอีก” คริสชี้นิ้วไปที่ประตูห้องทำงานของอาจารย์ชอง แค่ได้เห็นบานประตูปาร์คชานยอลก็กลัวแล้วเถอะ อาจารย์ชอบจ้องเขาแปลกๆด้วยสายตาดุๆเป็นใครจะไม่กลัวกันล่ะ ฮือ..
     
    “เข้าไปเหอะน่า” คริสจัดการเคาะประตูแล้วรั้งเอวชานยอลให้ตามมา อาจารย์ชองที่กำลังนั่งอ่านเอกสารบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามองคริสและชานยอลที่เดินเข้ามา
     
    “อ่า.. อาจารย์ชองครับผมมีเรื่องจะให้ช่วย” ชานยอลมองอาจารย์ชองที่มองจ้องมาด้วยอาการประหม่า แหงล่ะก็ดูอาจารย์มองสิ ฮือ... ไอ้คริสมึงอย่าทิ้งกูนะ นี่แน่ะจับมือมันไว้ซะเลยกันหาย!
     
    “มีอะไรก็ว่ามา” อาจารย์ชองวางเอกสารลงบนโต๊ะแล้วนั่งพิงหลังกับพนักพิงเก้าอี้งทำงาน
     
    “ผมจะมาขอทำเรื่องลาหยุดตอนช่วงสอบให้ลู่หานน่ะครับ พอดีว่ามีเหตุด่วนนิดหน่อย” อาจารย์ชองระบายยิ้มน้อยๆที่เห็นลูกศิษย์ในปกครองเป็นห่วงกันและทำตัวเรียบร้อยขนาดนี้ แหมไม่เสียแรงจริงๆ
     
    “ถ้าเป็นเรื่องของลู่หานล่ะก็ฉันทราบแล้วแล้วก็ทำเรื่องขอลาให้แล้วเรียบร้อยถ้าเป็นเรื่องของลู่หานล่ะก็เป็นกรณียกเว้นอยู่แล้ว ว่าแต่พวกเธอมีอะไรอีกไหมฉันจะเข้าแล็บแล้ว” เมื่อไม่เห็นว่าลูกศิษย์จะตอบอะไรอาจารย์ชองก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับหนังสือที่ต้องใช้ทันที
     
    “รู้ได้ไงวะ” ชานยอลมองหน้าคริสอย่างสงสัยซึ่งคริสเองก็สงสัยเช่นกัน
     
    “มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย” ชานยอลขมวดคิ้วมุ่นทำหน้าคิด ซึ่งตัวของคริสเองก็ลงความเห็นแบบนั้นเหมือนกัน
     
    “ขมวดคิ้วมากๆเดี๋ยวก็หน้าย่นหรอก” คริสยื่นนิ้วไปแตะระหว่างคิ้วของชานยอลแล้วก็นวดวนเบาๆ ชานยอลแบะปากใส่ก่อนที่จะยกสองมือกอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้น
     
    “หน้าย่นแล้วรักป่ะล่ะ!!” คริสยกยิ้มมุมปากแล้วเกี่ยวเอวชานยอลเข้ามาใกล้
     
    “ต่อให้หน้าย่นเป็นหมาบลูด็อกก็ยังรักหน่า~” ว่าแล้วก็เอาใจคนที่ของจะขึ้นด้วยการก้มหน้าลงไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากอิ่ม
     
    “ปากดีกูหมามึงก็หมาแหละ” คริสกัดริมฝีปากอิ่มสีสดเบาๆ
     
    “ลงโทษคนพูดไม่เพราะ” ชานยอลมองค้อนใส่แล้วแลบลิ้นให้
     
    “ไม่ต้องเลยๆ ไปเรียนกันเถอะป่านนี้เข้าเรียนแล้วมั้งเนี่ย” ชานยอลดันคริสออกแล้วเดินนำออกจากห้องไปก่อน คริสก็เดินตามหลังมาแล้วเอื้อมมือไปจับเอวเล็กของชานยอลเดินตามหลัง
     
    “มาเกาะเอวทำไมปล่อยเลย” คริสส่ายหน้าไปมาแล้วก้มหน้าลงมาฉกหอมแก้มกลมอีกสักฟอดใหญ่
     
    “แม่หมูก็เดินเร็วๆสิ” ชานยอลทำตาโตแล้วหันไปหาคนด้านหลังอย่างโมโห
     
    “มึงว่ากูอ้วนเหรอห๊ะ!!!” นี่ขอบอกเลยว่าปาร์คชานยอลเท้าเอววีนแล้วตาเขี้ยวปั๊ดด้วยนะ กล้ามากนะที่มาพูดว่าปาร์คชานยอลอ้วนน่ะ!!
     
    “ยังไม่ได้พูดเลย พูดเองเออเองนิหว่า” คริสตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ไอ้คนที่ของจะขึ้นก็ยิ่งขึ้นหนักน่ะสิ
     
    “กูอ้วนมึงก็อ้วนด้วยนั่นแหละ ไม่รู้หรือไงพุงห้อยแล้วน่ะ!” ชานยอลฟาดเข้าที่ท้องของคริสสักทีแล้วก็เดินสะบัดตัวหนีไปเลย ร้อนถึงคนที่ยังหัวเราะขำไม่เลิกต้องตามไปง้อเอาน่ะสิ
     
    “โอ๋ๆตัวเล็กของคริสอย่างอนเลยนะ เดี๋ยวพาไปเที่ยวที่ทำงานป๊าแล้วไง นะ~” ชานยอลหันไปแบะปากใส่แต่ก็ยอมไม่งอนต่อก็ได้เพราะถ้างอนต่ออาจจะอดไปก็ได้ นี่ตัวเขายังต้องอาศัยอยู่กับมันอีกนานนะ
     
    “ไม่งอนก็ได้แต่เย็นนี้พาไปกินหมูย่างด้วยนะ~” คริสมองคนอยากกินหมูย่างที่ยิ้มหวานส่งมาแล้วก็นะ... ไม่ตามใจยังไงไหว
     
    “โอเคตามนั้น”
     
     
     
     
     
     
    หลังจากเลิกคลาสชานยอลกับคริสก็รีบออกจากห้องให้ไวเลยแต่ก็ไม่วายโดนเพื่อนในคลาสบอกว่าพรุ่งนี้ให้มาที่ตึกคณะด้วยมีเรื่องจะประชุมและขอร้องโดยการขู่เข็ญว่าถ้าไม่มาจะให้อาจารย์ชองทำโทษ คือขอบคุณทุกคนมากที่รักกันถึงขนาดนี้!! แม้จะไม่อยากแต่ก็ต้องมาเพราะคงไม่มีใครอยากซ่อมของอาจารย์ชองหรอกนี่บอกไว้ก่อนเลย
     
    คริสขับรถพาชานยอลมาที่ทำงานของป๊า แน่นอนว่าถ้าป๊าของคริสเป็นสส.ที่ทำงานก็ต้องมีเรื่องสนุกแน่ๆเพราะงั้นไอ้คนที่ขึ้นรถมาทีไรจะหลับทุกทีก็เลยไม่ยอมหลับไง เพราะกำลังนึกฝันถึงของเล่นสนุกๆในที่ทำงานพรรคของคุณป๊าคิม คริสเหลือบตามองแล้วก็แอบยิ้มก็แหมเวลาชานยอลยิ้มนี่มันก็น่ารักนะจะบอกให้
     
    พอจอดรถได้เจ้าตัวคนที่อยากมาเสียเหลือเกินก็เร่งเร้าให้เขารีบลงมาจากรถไวๆ พอลงมาได้ก็รีบเดินนำเข้าตึกไปก่อนเลย ชานยอลดูอะเลิทเกินไปหน่อยไหมน่ะ ตอนนี้คริสกำลังสงสัยว่าตกลงว่าลูกของป๊านี่ใช่เขาหรือเป็นชานยอลกันแน่
     
    “คุณป๊า~~” เมื่อถึงชั้นห้องทำงานของคุณคิมประตูลิฟต์ก็เปิดออก ชานยอลที่มองเห็นคุณคิมกำลังเดินมาทางนี้ก็รีบวิ่งออกไปหาทันที
     
    “โอ๊ะหนูชานยอล” คุณคิมอ้าแขนรับเจ้าตัวแสบที่วิ่งร่ามากอดหมับเข้าให้
     
    “ว่ายังไงมาถึงนี่เชียวจะมาชวนป๊าไปกินข้าวเย็นด้วยล่ะสิ” ชานยอลมองคุณป๊าแล้วทำหน้าตาตกใจ
     
    “ป๊ารู้ได้ไงอ่ะนี่ชานยอลยังไม่ได้พูดเลยนะ” คุณคิมหัวเราะแล้วลูบหัวชานยอลเบาๆ
     
    “ป๊าเก่งไง” แล้วก็ตบท้ายคำยอตัวเองด้วยการยักคิ้วให้อีกสักหนึ่งทีงามๆ
     
    “แหมคุณป๊าสุดหล่อของชานยอลนี่เก่งจริงๆด้วย ป๊าไปไหมไปเถอะชานยอลอยากกินข้าวกับป๊า~” ชานยอลกอดแขนคุณคิมไว้แล้วอ้อนใหญ่ ลูกชายตัวจริงของคุณคิมที่เดินตามหลังมาก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ตกลงใครเป็นลูกบ้านนี้กันแน่ล่ะเนี่ย
     
    “หนูชานยอลอุตส่าห์มาทั้งทีมันก็ต้องตอบรับคำชวนกันอยู่แล้ว รอป๊าก่อนนะป๊าต้องไปประชุมก่อน” 
     
    “ได้อยู่แล้วครับ แค่นี้เองชานยอลรอได้แต่อย่าประชุมนานนะชานยอลหิว~” คุณคิมหัวเราะแล้วลูบหัวชานยอลที่ทำหน้าอ้อนแล้วบึนปากใส่
     
    “เดี๋ยวป๊าจะรีบเข้าไปดริฟฟ์แล้วรีบออกมาเลยนะ ไปนั่งรอในห้องทำงานป๊าก่อนนะอยากกินอะไรก็บอกแม่บ้านเอานะ”
     
    “เฮ้! รักคุณป๊าที่สุด!!” ชานยอลกอดคุณคิมไว้แน่น ไอ้คนที่ยืนกอดอกมองอยู่นานแล้วก็หมั่นไส้ไงเลยเตะขามันไปสักที
     
    “ป๊าดูดิไอ้คริสแกล้งชานยอลอ่ะ ป๊าจัดการเลยนะจับไปโยนลงทะเลเลยนะ” คุณคิมมองลูกชายตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “นิสัยไม่ดีจริงๆ เดี๋ยวป๊าจะจับมัดแล้วโยนลงทะเลเลยนิ” ชานยอลที่ได้ยินแบบนั้นก็กอดแขนคุณป๊าแล้วแลบลิ้นใส่ ไอ้คนที่โดนป๊าตัวเองจะจับโยนทะเลก็ถอนหายใจสักเฮือก
     
    “นี่ตกลงใครลูก ใครเพื่อนลูกเนี่ย” คุณคิมหัวเราะอารมณ์ดีใหญ่ก่อนที่จะชี้นิ้วไปหาชานยอล
     
    “นี่อ่ะลูกฉัน แกน่ะเด็กเก็บมาเลี้ยง” 
     
    “ใช่ๆเด็กเก็บมาเลี้ยง” ชานยอลชี้นิ้วไปที่คริสตามคุณป๊าแล้วก็หัวเราะสนุกเขานักแหละ คริสก็ยิ้มขำตามชานยอล
     
    “ท่านคิมครับ” เสียงของใครอีกคนที่อยู่นอกบทสนาทนาอยู่นานแทรกขึ้นมา พอคุณคิมหันไปมองก็เหมือนจะเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมีภารกิจต่อ
     
    “เดี๋ยวป๊าไปประชุมก่อนนะเดี๋ยวมา ไปนั่งเล่นที่ห้องป๊าก่อนนะ” แล้วคุณป๊าก็เดินไปกับคุณเลขาทันที ทีนี้พอหมดคุณป๊าชานยอลก็เลยหันมาอ้อมคริสต่อด้วยการกระโดดเข้าไปหาแล้วยกสองมือคล้องรอบคอของคริส
     
    “ห้องทำงานป๊าอยู่ไหนเหรอ” ชานยอลเอียงคอแล้วยิ้มหวานให้ด้วย คริสเลิกคิ้วแล้วเลื่อนมือจับเอวเล็กของชานยอลไว้
     
    “ไม่บอก” ชานยอลยู่ปากใส่
     
    “บอกหน่อยดิ”
     
    “จูบก่อนดิ” ชานยอลหันหน้าไปมองด้านหลังของคริสที่เป็นลิฟต์แล้วก็โบกมือลาคุณคิมที่ยืนอยู่ด้านในของตัวลิฟต์ คริสก็เลยหันไปมองบ้างก็เห็นพ่อตัวเองยืนโบกมืออยู่ในลิฟต์
     
    “จะมาจูบอะไรตรงทางเดินเล่า เข้าห้องก่อนดิ” ฟาดไหล่คนสูงกว่าไปสักทีหนัก คริสก็ยิ้มมุมปากแล้วหมุนตัวชานยอลให้เดินนำไปโดยมีเขาเดินโอบเอวอยู่ข้างๆ
     
    คริสพาชานยอลมาที่ห้องทำงานของป๊า พอปิดประตูได้ก็เกี่ยวเอวคนที่บอกจะให้จูบในที่รโหฐานได้เข้ามาจับจูบซะให้เข็ดเลย เข็ดไม่เข็ดไม่รู้แต่ชานยอลก็ดันคริสออกแล้วหัวเราะทิ้งท้ายใส่ก่อนที่จะหันหลังวิ่งไปสำรวจห้องทำงานของคุณป๊า
     
    “โห้โต๊ะทำงานป๊าใหญ่จังเลยอ่ะ” เพราะพ่อของตัวเองทำสวนดอกไม้ไงก็เลยไม่เคยเห็นโต๊ะทำงานใหญ่ๆแบบนี้พอเห็นทีก็เลยตื่นเต้นใหญ่ ชานยอลเดินสำรวจไปทั่วโต๊ะแล้วก็ไล้มือที่ป้ายชื่อแกะสลักอักษรชื่อทองคิมยองอุนอย่างชอบใจ ก็แหมป้ายชื่อสวยดีอยากขโมยป๊าไปตั้งที่บ้านเหมือนกันนะเนี่ย
     
    “อย่าซนจนทำห้องรกล่ะ” คริสเดินเข้ามาหาแล้วหมายจะหอมแก้มนิ่มเสียหน่อยแต่ชานยอลรู้ทันเอี้ยวตัวหลบแล้ววิ่งหนีไปทิ้งตัวลงนอนคว่ำที่โซฟาสีขาวตัวใหญ่ที่ลงนอนได้ทั้งตัวอย่างกับเตียงเลย ชานยอลที่นอนคว่ำหน้าหนุนหมอนก็ตีขาสลับกันไปมา โซฟาตัวนี้สบายจริงๆอ่ะ นิ่มด้วยลงมานอนทีอย่างกับนอนอยู่บนเตียงแน่ะ
     
    “อย่ามาทำตัวน่ารักให้มันมากนัก” คริสเดินกลับไปนั่งลงที่ข้างชานยอลแล้วเอื้อมมือไปขยี้เส้นผมนิ่มของคนที่นอนคว่ำแรงๆ ชานยอลปัดมือคริสออกแล้วพลิกตัวกลับมานอนหงายคริสก็เลยกางแขนคร่อมตัวชานยอลไว้
     
    “แล้วจะทำไม?” ทำหน้าตาท้าทายด้วยบอกเลย คริสยิ้มมุมปากแล้วก้มหน้าลงป้อนจูบให้ กดแรงย้ำเป็นจังหวะหยอกเย้าซึ่งคนที่นอนอยู่ก็ตอบรับจูบกลับไป คริสละจูบออกแต่ก็ยังคลอเคลียที่ริมฝีปากอิ่มคู่นั้นแทบไม่ห่าง
     
    “เดี๋ยวจะโดนเอาไม่รู้ตัว” ชานยอลดันคริสออกแล้วแบะปากใส่
     
    “ไม่ทำหรอกรู้ ถอยออกไปเลยไป” แต่คริสก็ไม่ได้ขยับถอยหนีกลับก้มหน้าลงเคลียปลายจมูกที่แก้มนิ่มไล่ลงมายังตามแนวลำคอ
     
    “ไม่เอา ไม่เล่นนะนี่ห้องทำงานป๊านะ!” คริสเงยหน้าขึ้นไปสบตาแล้วยกมุมปากขึ้นยิ้ม
     
    “ก็ไม่ได้เล่นนิ นี่เอาจริง” ทำหน้าตาตกใจไปเถอะเพราะยังไงก็หนีไม่รอดอยู่แล้วล่ะนะ
     
     

     
     
    ตัด ฉับ....... ฉับ....... ฉับ.......
    เอาผ้าคลุมกล้องไว้
     
     

     
     
    ชานยอลที่นอนหอบหายใจจนตัวเองพอจะมีแรงก็ทุบไหล่คริสหลายๆทีเลย คริสกอดชานยอลแล้วรวบมือข้างที่ทุบไหล่ของเขาเอาไว้ ปลายจมูกโด่งเคล้าคลอแก้มใสไม่ห่าง
     
    “ไอ้คริสบ้า!! ไหนบอกอยู่ข้างบนไม่เจ็บไงหลอกกันนิ! ทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บเลยวันหลังไม่เอาแล้ว!!” บ่นไปก็พยายามจะทุบอีกคนไป คริสแอบกลั้นหัวเราะแล้วโอบกอดชานยอลไว้
     
    “วันหลังก็นอนเหมือนเดิมนั่นแหละ โอเคมะ?” ชานยอลพยักหน้ารับ จะไม่โอเคได้ยังไงล่ะ ก็นอนอยู่ข้างล่างน่ะไม่ต้องทำอะไรเลยนะ ทำไมอยู่ข้างบนต้องทำเยอะขนาดนี้ด้วยอ่ะ เหนื่อยก็เหนื่อยกว่า เจ็บก็เจ็บกว่าอี ถึงจะรู้สึกดีมากก็เหอะแต่ลูกพี่ไม่ชอบอ่ะ! ขอนอนสบายๆดีกว่า..
     
    “เหนื่อยอ่า..” คริสหันหน้าไปจูบซับที่แก้มใส
     
    “นอนก่อนก็ได้นะคงอีกสักพักใหญ่ๆกว่าป๊าจะประชุมเสร็จ” ชานยอลผละตัวออกแล้วมองคริสด้วยหน้าตาง่วงนอนจริงๆ ดวงตากลมโตก็จะหลับเหล่ไม่หลับเหล่อยู่แล้ว
     
    “เหนียวตัวอ่ะ” คริสไล้ปลายนิ้วแล้วทัดปอยผมขึ้นแนบหูให้จนเห็นดวงหน้าใสได้ทั้งใบหน้า
     
    “เดี๋ยวจัดการให้  นอนไปเลย” ชานยอลพยักหน้ารับแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืนแต่ทว่าทั้งเจ็บ ทั้งรู้สึกดี ทั้งหมดแรงจนหลุดเสียงครางให้ได้ยินอีกนิด คริสจับประคองให้ชานยอลลงนอนที่โซฟาเหมือนเดิม
     
    “นอนก่อนนะคนดีเดี๋ยวป๊ามาจะปลุก” คริสโน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากมนก่อนที่จะไล้แก้มกลมเบาๆ ชานยอลพยักหน้ารับแล้วก็ปิดเปลือกตาหลับไปเลย ทีนี้ก็หน้าที่ของอู๋อี้ฟานแล้วล่ะที่ต้องดูแลชานยอลน่ะ
     
    การที่จะหลอกชานยอลน่ะมันง่าย.. แต่การที่จะหลอกล่อให้ชานยอลหลับน่ะมันไม่ง่ายเลยถ้าไม่ใช่บนรถของเขาและที่บ้าน คนตัวบางไม่ค่อยชอบนอกนอกสถานที่เสียด้วยสิ อย่างน้อยถ้าจะทำให้หลับแบบไม่รู้ตัวก็ต้องจัดการแบบนี้ล่ะ ถึงจะดูได้กำไรมากโขก็ตามเถอะ
     
    คริสที่จัดการเช็ดตัวให้ชานยอลและสวมเสื้อผ้ากลับให้เรียบร้อยแล้วก็ไปจัดการตัวเองบ้างก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของบิดาแล้วจัดการเปิดหน้าจอค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูล เขาอยากรู้เรื่องของที่บ้านชานยอล เขารู้มาตลอดว่าพ่อของชานยอลเปิดร้านดอกไม้เพราะตั้งแต่รู้จักกันท่านก็ทำร้านดอกไม้อยู่แล้ว แต่นอกเหนือจากนั้นเขาไม่รู้และบางทีเรื่องนี้มันก็มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
     
    ด้วยความที่บิดาของตัวเองเป็นนักการเมืองระดับสูงยังไงการที่จะมีข้อมูลของทางตำรวจหรือจะเจาะเข้าไปดูฐานข้อมูลมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร คริสจัดการปลดล็อคแล้วคีย์สิ่งที่อยากรู้แต่ทว่าในหน้าประวัติของพ่อชานยอลและลู่หานกลับขาวสะอาด.. สะอาดจนไม่มีอะไรเลย มีแค่ชื่อและภูมิลำเนาแค่นั้น มันผิดวิสัยและมันดูมีพิรุธเกินไป
     
    ตามปกติแล้วในฐานข้อมูลจะต้องบอกเรื่องจำเพาะอื่นๆอีกด้วยแต่นี่กลับไม่มีอะไรเลย เหมือนกับถูกใครลบทิ้งไป... แล้วมันคือใครกันล่ะ เขากำลังคิดว่าบ้านตระกูลปาร์คต้องมีอะไรปิดบังแน่ๆและมันไม่น่าจะใช่เรื่องดีด้วยถ้าถึงขั้นกับลบทุกอย่างทิ้งให้ขาวสะอาดแบบนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ ชานยอลที่กำลังนอนขยับพลิกตัวนอนตะแคงข้าง คริสละสายตาจากหน้าจอไปมองที่ชานยอลแล้วก็ถอนหายใจ
     
    “มึงรู้เรื่องอะไรของที่บ้านบ้างหรือเปล่านะชานยอล รู้เห็นเป็นใจหรือไม่รับรู้อะไรจริงๆ” คริสพิงหลังกับพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่แล้วก็เท้าศอกไว้ที่ที่เท้าแขนแล้วกุมขมับตัวเอง เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไปสงสัยไม้แข็งที่เขามีจะใช้ไม่ได้ ก็คงต้องเล่นไม้เบอร์ใหญ่กว่านี้ 
     
    คริสมองชานยอลแล้วก็ถอนหายใจอีกรอบ ถ้าสมมติว่าที่บ้านตระกูลปาร์คทำเรื่องไม่ดีจริงๆ ถ้าเขาเป็นพ่อหรือลู่หาน เขาก็จะปกปิดความลับทุกอย่างไว้ไม่ให้ชานยอลรู้เด็ดขาด ชานยอลขาวสะอาดเกินกว่าที่จะมาซึมซับความสกปรกให้ผ้าขาวเปลี่ยนสี ชานยอลถูกเลี้ยงมาอย่างดีและเลี้ยงมาให้ขาวสะอาดแบบนี้ บางทีอาจจะเพราะปกปิดสีอื่นจริงๆและกลัวว่ามันจะมาเปื้อนผ้าขาวให้ด่างพร้อยจึงทำให้ทุกคนทิ้งชานยอลไว้กับเขา
     
    สมมติฐานมันก็แค่สมมติฐาน... แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นจริงไม่ได้เสียเมื่อไหร่กัน
     
    คริสลุกขึ้นเดินมาคุกเข่าที่ข้างโซฟาแล้วลูบกลุ่มผมสีเข้มของชานยอลเบาๆก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ขมับและแก้ม เขาหวังอยากให้ชานยอลไม่เคยรับรู้อะไรที่บ้านเลยและเขาก็ไม่อยากให้ที่บ้านของชานยอลทำอะไรไม่ดีด้วย ถ้าให้บอกตามตรงเขากลัวที่จะเสียชานยอลไป… ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขากลัวการสูญเสียชานยอลจากข้างกายไป
     
    ทุกอย่างและทุกเรื่องราวของเราคงเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแล้วล่ะมั้ง
     
    คริสขยับตัวมานั่งที่โซฟาแล้วยกหัวของชานยอลให้หนุนที่ขาของเขาแทน ฝ่ามือใหญ่สอดไล้ลูบเส้นผมเบาคล้ายดั่งกล่อมให้คนที่หลับไปแล้วฝันดี คริสนั่งรอป๊าตัวเองและฆ่าเวลาโดยการนั่งมองชานยอลที่นอนหนุนตักเขาหลับ ไม่ว่าชานยอลจะหลับหรือตื่นก็ดูน่ารัก น่าถนุถนอมและน่าแกล้งสำหรับเขาอยู่ดี ริมฝีปากของคริสประดับด้วยรอยยิ้มอยู่แทบตลอดเวลาที่อยู่กับคนตัวบางคนนี้
     
    บานประตูห้องถูกเปิดเข้ามา คริสหันไปมองก็เห็นว่าเป็นป๊าของตัวเองก็จัดการยกหัวของชานยอลขึ้นแล้วให้หนุนนอนที่หมอนตามเดิม ตัวเองก็เดินเข้าไปหาป๊าที่เดินมาดูว่าชานยอลกำลังหลับน่ะน่ารักขนาดไหน คุณคิมมองหน้าลูกชายที่ดูจะมีอะไรในใจหนักหนาเสียเหลือเกิน
     
    “ป๊าผมอยากคุยด้วย”
     
    “ก็ว่ามาสิ” คุณคิมพยักหน้าอนุญาต คริสหันไปมองชานยอลที่ยังหลับอยู่แล้วหันมามองหน้าพ่อตัวเอง
     
    “ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่าป๊า” แล้วคริสกับคุณป๊าก็เดินออกจากห้องไป
     
     
     
     
     
     
     
     
    ชานยอลที่ก็ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนลืมตาขึ้นก็ไม่เห็นใครในห้องเสียแล้ว ลุกขึ้นบิดขี้เกียจได้ก็นั่งพิงพนักโซฟาแล้วสอดส่ายสายตาไปรอบๆห้องแก้เบื่อ ไม่นานคริสกับคุณคิมก็เดินกลับเข้ามาพอเห็นว่าคุณป๊าประชุมเสร็จแล้วชานยอลก็ยิ้มดีใจใหญ่เลยทีนี้ จะได้ไปกินข้าวแล้วเฮ้~!!
     
    “ตื่นแล้วเหรอหนูชานยอล หิวหรือยังอยากกินอะไรคิดได้หรือยัง” คุณคิมยิ้มให้แล้วเดินมานั่งข้างๆชานยอลก็เตรียมรออ้อนอยู่แล้ว
     
    “ชานยอลอยากกินหมูย่าง คุณป๊าไปกินไหม~” ชานยอลกอดแขนแล้วอิงหน้าซบแขนอ้อนด้วย คริสที่ยืนกอดอกมองอยู่ก็ส่ายหน้าไปมา เขารู้ว่าชานยอลอ้อนเก่งแต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าอ้อนป๊าเขาที่ดูดุจนป๊าติดขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่าคนเขาน่ารักทำอะไรใครๆก็เอ็นดู
     
    “โอ๊ะได้เลยป๊ามีร้านแนะนำนะ รับรองหนูชานยอลของป๊าต้องชอบแน่ๆ” ชานยอลยิ้มกว้างแล้วร้องเย้ดีใจเต็มกำลังล่ะ 
     
    “งั้นเราไปกันเลยนะป๊าชานยอลหิ๊วหิว~” เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็ได้เวลาเคลื่อนทัพ คุณป๊าลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทำงานก่อน ชานยอลก็ลุกขึ้นยืนแต่ทว่ารู้สึกเหมือนว่าขาจะอ่อนแรงก็เลยจะล้ม คริสที่อยู่ใกล้ๆก็รีบพุ่งตัวเข้ามารับไว้ได้ทันเส้นยาแดงผ่าแปด ถ้ามารับไม่ทันล่ะก็เซกองกับพื้นแน่ๆ
     
    “เป็นอะไร เจ็บเหรอหรือยังไง” คริสสอดมือกอดเอวแล้วถามชานยอลด้วยสีหน้าคิ้วขมวดแต่เจ้าตัวยังคงยิ้ม
     
    “เจ็บไม่เยอะแต่รู้สึกเหมือนขาเบาๆ ไม่มีแรงเลย” พอฟ้องเสร็จก็บึนปากใส่ซะเลย คริสกอดคนตัวบางแล้วลูบเส้นผมนิ่มของชานยอลที่ซบหน้าอยู่ที่ไหล่ตัวเอง
     
    “ขอโทษนะวันหลังจะไม่ทำรุนแรงอีกแล้ว” ชานยอลหัวเราะคิกคักแล้วใช้นิ้วจิ้มอกคริสไปหลายจึก
     
    “รุนแรงได้แต่ไม่อยู่ข้างบนแล้วนะ เจ็บ” คริสหัวเราะเสียงเบาในลำคอแล้วเอียงหน้ากดจูบที่กระหม่อมของชานยอลหนักๆ
     
    “รู้แล้วต่อไปจะให้นอนอย่างเดียวเลย ที่เหลือจัดการเอง” ชานยอลผละตัวออกแล้วแบะปากใส่ก่อนที่จะทุบอกเข้าให้
     
    “เอ้าสวีทกันเบาๆคนแก่อิจฉา” ชานยอลกับคริสหันไปมองก็เห็นคุณป๊าเดินมาหาแล้ว 
     
    “ป๊ายังไม่แก่เลย เอาอะไรที่ไหนมาพูดว่าแก่กัน~” ชานยอลหันไปยกนิ้วโป้งให้คุณป๊าทั้งๆที่ยังกอดและโดนคริสกอดอยู่แบบนั้น
     
    “แล้วถ้าป๊ากับคริสหนูชานยอลจะเลือกใคร” ชานยอลผละตัวออกมองหน้าคริสทีแล้วก็มองหน้าป๊าที
     
    “ป๊ารวยกว่าเพราะฉะนั้นชานยอลเลือกป๊า!” คุณคิมหัวเราะเสียงดังลั่นเลยที่ลูกชายตัวเองโดนทิ้ง
     
    “พูดดีมากเดี๋ยวพาไปช็อปเลย” ชานยอลก็ทำตาโตลุกวาวเลยน่ะสิ คริสหมั่นไส้ก็ยื่นมือไปผลักหัวเข้าไห้หนึ่งที ชานยอลกุมหัวแล้วหันมาแบะปากคว่ำใส่
     
    “รักป๊าที่สุดอ่ะ ไม่รักไอ้โหดนี่หรอก แบร่~!” แลบลิ้นให้ด้วยหนึ่งทีแล้วก็ไม่เจียมสังขารจะยกขาเตะเขา แต่ขายังไม่ค่อยมีแรงไงก็เลยเซจะล้ม ร้อนถึงคริสต้องดึงแขนไว้ไม่ให้ล้มอีก
     
    “รู้ว่าเดี้ยงก็อยู่เฉยๆ อย่ามาซ่าส์ในถิ่นเดี๋ยวจะโดนดี” คริสทำหน้าขู่แล้วชี้นิ้วใส่แต่ชานยอลก็แลบลิ้นส่งคืนแค่นั้นแหละ 
     
    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวคนจะเต็มร้านซะก่อน” แล้วทั้งสามคนก็เดินออกจากห้องทำงานของคุณคิมไป เลขาที่อยู่หน้าห้องลุกขึ้นยืนแล้วก้มหัวลงอย่างนอบน้อม คุณคิมยื่นอะไรบางอย่างให้คุณเลขาโดยที่ชานยอลและคริสไม่เห็น คุณคิมและเลขาก็ไม่ได้พูดอะไรแค่มองหน้าแล้วก็เป็นอันรู้กัน
     
    “จะทำอะไรก็เบาๆหน่อยนะเด็กเขามีพ่อมีแม่” ในระหว่างที่ยืนรอลิฟต์กันคุณคิมก็แอบกระซิบกับลูกชายด้วยสีหน้าท่าทางล้อเลียนเต็มที่ ก็แหม.. อายุก็ปูนนี้แล้วก็ใช่ว่าจะดูไม่ออกสักหน่อยว่าลูกชายของเขาคิดอะไรกับเด็กหน้าตาน่ารักอย่างชานยอล
     
    “ป๊าก็ไปขอให้หน่อยดิจะได้ทำอะไรๆไม่ต้องเบาได้” คุณคิมยกยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้าไปมา ไอ้นี่นิมันห่ามเหมือนใครกันวะ!
     
    “โอ๊ะลิฟต์มาแล้วๆๆ” ชานยอลตีมือคริสที่โอบเอวตัวเองแล้วชี้ไปที่ประตูลิฟต์ที่กำลังเปิดออก คนน่ารักที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็หันมายิ้มกว้างสดใส คริสประคองชานยอลเข้าไปในลิฟต์ คุณคิมก็เดินตามเข้ามาพอบานประตูปิดลงคริสก็แอบฉกแก้มกลมๆหอมไปสักฟอดใหญ่ ชานยอลยู่ปากแล้วถองศอกใส่เข้าให้แต่คริสก็ไม่สลดหรอกยังมีหน้าหันไปยักคิ้วใส่คุณป๊าอีกแน่ะ
     
     
    เออเอาเข้าไปสงสัยต้องได้ไปขอหนูชานยอลกับตระกูลปาร์คจริงๆซะแล้วมั้งน่ะ
     
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×