ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Love Project] KrisYeol : Only U เพราะรักคือนาย

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 58


    กลับมาแล้วนะทุกคนนนนนนนนนนนนนนนนน #เอคโค่ อิอิ

    งานยุ่งมากกกกกกก เหนื่อยมากกกกกกกกกก ร่างเหนื่อยมากกกกกกกกกกกก #แต่เราก็ยังคิดถึงทุกคนเหมือนเดิมนะ #คิดถึงเราไหม #เงียบจุงเบย

    สารภาพจริงๆว่าเกือบลืมรหัสผ่านเเล้ว 55555555555

    ปล. คิดถึงคนอ่านและคริสยอลซาเหมอ >3< #รักคริสยอลให้ทำปากจู๋ 







    _______________________________________








    “น้องชานยอล!~” เป็นที่ชินตาของคณะพืชศาสตร์ไปเสียแล้วเมื่อทุกเช้าจะมีพ่อคนตัวดำเอกประมงปั่นจักรยานมาส่งคนน่ารักของพืชศาสตร์และตอนเย็นก็จะปั่นมารับแบบนี้ แม้ว่าขาของชานยอลจะหายดีแล้วแต่พ่อสารถีคนดีก็ยังไม่ยอมปล่อยให้คนน่ารักตากลมเดินมาที่คณะเอง
     
    ชานยอลไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่ก็เอาเถอะเขาอยากมาส่งก็ดีจะได้ไม่ต้องเดินเอง
     
    “วันนี้สอบเป็นยังไงบ้างคนดีของพี่” คริสยิ้มกว้างมองชานยอลที่เดินทำหน้ามุ่ยมาหา สงสัยข้อสอบวิชานี้จะไม่หวานหมูเสียแล้วสิ
     
    “ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เซ็ง” บอกไปก็ทำหน้ามุ่ยใส่คนมารับไป คริสหัวเราะแล้วยื่นมือไปจิ้มแก้มกลมเบาๆ
     
    “พี่รู้ว่าคนดีของพี่เก่งจะตาย ไม่ต้องเครียดมากไปกินน้ำแข็งใสหลังมอกัน” ชานยอลยู่ปากใส่แล้วก็เดินไปซ้อนด้านหลัง เมื่อคนพร้อมแล้วคริสก็ปั่นจักรยานไปหลังมหาวิทยาลัย ไม่ต้องถามถึงฮวางจื่อเทาหรอก โน้นเลยซ้อนเซฮุนไปโน้นแล้ว
     
    ดวงตากลมกวาดมองสองข้างทางพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ประดับอยู่บนใบหน้า ชานยอลกำลังถูกใจและอารมณ์ดีกับลมเย็นๆที่พัดมาปะทะผิวกายและคนด้านหน้าที่ปั่นจักรยานช้าๆพอให้เขาได้กินลมชมวิวสองข้างทาง แม้มันจะดูไม่ค่อยมีอะไรน่าภิรมย์เท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ทำไมชานยอลถึงได้ยิ้มกว้างแบบนี้
     
    ไม่นานก็ถึงร้านน้ำแข็งใสที่คริสพาชานยอลมากินให้หายเครียดและฉลองที่พวกเขาสอบเสร็จแล้วกัน ... ซะเมื่อไหร่ล่ะ คณะประมงเหลืออีกหนึ่งตัวแต่พืชศาสตร์สอบเสร็จแล้ว วันนี้ก็เลยถือโอกาสเลี้ยงฉลองไว้ก่อนล่วงหน้า (จงแดว่าไว้อย่างนั้นน่ะนะ)
     
    เมื่อรถสปอร์ตคาร์คันหรูจอดหน้าร้านชานยอลก็ลงมายืนมองเมนูที่หน้าร้านก่อนปล่อยให้พ่อสารถีเอารถสปอร์ตไปจอดล็อคล้อ ดวงตากลมกวาดมองเมนูก่อนที่จะตัดสินใจสั่งปังเย็นจัมโบ้ จริงๆตัวเขาก็ว่ากินไม่หมดหรอกแต่แบบ.. ไงล่ะ ก็สั่งเผื่อมาแบ่งกันกินกับคนที่อุตส่าห์ปั่นจักรยานมารับเช้าเย็นไง
     
    “น้องชานยอลสั่งหรือยังครับคนดี” คริสที่จอดรถเสร็จเรียบร้อยก็เดินเข้ามาถามชานยอลที่โต๊ะ 
     
    “สั่งแล้วๆ”
     
    “งั้นเดี๋ยวพี่ไปสั่งก่อนนะ” คริสกำลังจะหมุนตัวเดินไปชานยอลก็คว้าหมับเข้าที่มือใหญ่
     
    “เราสั่งให้แล้ว นั่งๆ” ชานยอลดึงให้คริสนั่งลงที่เก้าอี้ข้างตัว พ่อคนที่โดนน้องนางฟ้าประจำใจก็ยิ้มกริ่มเลยสิ ยิ้มจนเหงือกบานไปไหนต่อไหนแล้ว
     
    “น้องชานยอลของพี่ใจดีจังเลย” คริสยิ้มกว้างปลื้มปริ่มทำตาประกายมองชานยอลอย่างซาบซึ้ง ทำเอาชานยอลหัวเราะเสียงร่ากับความตลกปนน่ารักของคริส ส่วนเพื่อนคนอื่นก็ได้แต่แบะปากแล้วหันหน้าหนีไปกันคนละทาง
     
    “ตอนนี้พวกเราก็สอบเสร็จกันแล้วใช่ไหมล่ะ~” จงแดเอ่ยขึ้นหลังจากที่น้ำแข็งใสของพวกเขามาเสิร์ฟมากับครบแล้ว
     
    “สอบเสร็จอะไรกันเรายังเหลืออีกวิชานึงพรุ่งนี้นะ” จงอินใช้นิ้วเคาะหัวของจงแดเบาๆ ทำเอาเจ้าตัวดีหันมามองค้อนใส่
     
    “ก็รู้แล้ว แต่เดี๋ยวก็เสร็จแล้วไง .. เข้าเรื่องๆ ตกลงว่าเราไปเที่ยวไหนดีปิดเทอมเนี่ย” ทุกคนกำลังนึกมโนภาพในหัวว่าอยากไปเที่ยวเล่นที่ไหนกันดี คริสยกมือขึ้น
     
    “ไปทะเลกัน” ชานยอลหันไปมองคริสที่หันมามองอยู่ก่อนแล้ว ริมฝีปากได้รูปนั้นยิ้มกว้างจนเหงือกโผล่ 
     
    “จะไปทำไมทะเล ร้อนจะตายคนก็เยอะ” จื่อเทาขัด คริสหันดวงตาดุหันไปมองจ้องอย่างกับจะจับจื่อเทามาหักคอแล้วโยนลงทะเลให้ไอ้หลามลูกรักกิน แพนด้าตัวน้อยที่ทำหน้างงๆว่าทำไมคริสถึงมาจ้องอย่างกับจะกินตัวเองแบบนั้นก็ได้แต่เอียงคอทำหน้าสงสัย
     
    “ก็จะไปอ่ะ พวกมึงจะเอาไง” คริสหันไปมองหน้าเพื่อนๆด้วยสายตาดุและกดดัน ชานยอลนั่งเท้าคางแล้วระบายยิ้มพร้อมกับตักกินปังเย็นเข้าปากไป
     
    “เออๆไปทะเลก็ได้ไม่เห็นจะต้องโหดกับเพื่อนกับฝูงเลยวุ้ยไอ้นี่นิ” จงแดมองค้อนเข้าให้ “ตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวจัดการให้เอง” ทุกคนมองรอยยิ้มของจงแดแล้วก็รู้หวาดๆยังไงก็ไม่รู้แหะ
     
    “งั้นพวกฉันก็ว่างอีกหนึ่งวันน่ะสิ” จื่อเทาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับกินน้ำแข็งใสไปด้วย
     
    “ถ้าว่างก็มาเฝ้าหน้าห้องสอบสิ” เซฮุนใช้ข้อศอกสะกิดแล้วยิ้มให้ จื่อเทาหันมามองค้อนใส่
     
    “จะไปทำไม นอนอยู่ห้องดีกว่า” ว่าแล้วก็หันหน้าหนี เซฮุนหัวเราะแล้วยื่นมือไปขยี้เส้นผมสีสว่างของจื่อเทาหยอกเย้า ทำเอาเจ้าตัวหันมาทำท่าจิ๊จ๊ะใส่ คนที่ดหลือบนโต๊ะยกเว้นคริสก็มองเซฮุนกับจื่อเทาที่เล่นกันงุ๊งงิ๊งสองคนไม่สนใจคนอื่น แหมพอได้ไปเดทกันเข้าหน่อยรู้สึกว่าจะสนิทกันซะเหลือเกินนะ
     
    “น้องชานยอลจ๋าอ่ะขนมปังที่น้องชอบ” คริสยังก้มหน้าก้มตากับปังเย็นไม่ได้สนใจและใส่ใจเพื่อนรักและคู่อริที่กำลังงุ๊งงิ๊งกันเลย ทำไมต้องสนใจแค่พี่บ่าวมีน้องนางฟ้าคนดีตัวเล็กประจำใจข้างๆก็พอแล้ว จะใครหน้าไหนพี่ก็ไม่สนหรอก~~
     
    “ไม่กินหรือไงตักมาให้เราหมดเลย” ชานยอลขมวดคิ้วแล้วมองคนข้างตัวที่ยื่นช้อนที่มีขนมปังชุ่มน้ำหวานมาทางตัวเอง คริสส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มกว้างจนตาหยี
     
    “ไม่เอาอ่ะพี่ไม่ชอบกิน ให้น้องชานยอลกินดีกว่า” แต่ชานยอลกลับส่ายหน้า
     
    “ไม่เอาอ่ะแบ่งกันกินสิ” ว่าแล้วก็แย่งช้อนของคริสมาแล้วป้อนให้เจ้าตัวกิน ตอนแรกคริสก็ส่ายหน้าแล้วหันหน้าหนีหรอก ก็เขาอยากให้น้องตัวเล็กคนดีของพี่บ่าวได้กินนี่นาก็เห็นชอบพี่ก็เลยอยากจะให้คนดีได้กิน แต่ชานยอลก็ไม่ลดละจนคริสต้องยอมอ้าปากรับขนมปังชิ้นนั้นมาลิ้มรสเอง เมื่อป้อนเขาได้ก็ยิ้มกว้างดีใจแล้ววางช้อนคืนก่อนที่จะหยิบช้อนตัวเองขึ้นมาตักเนื้อน้ำแข็งปั่นที่เริ่มจะละลายเสียแล้ว
     
    “น้องชานยอลของพี่ใจดีที่สุดเลยแถมยังน่ารักอีกด้วย แบบนี้ใครได้เป็นแฟนน้องนะโชคดีตายเลยเนอะ~” มานงมาแนะอะไรไอ้พี่คริสตัวดำ!!! แก้มขาวนวลซับสีเลือดจางๆพอให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆได้มองเห็น 
     
    “ไม่รู้พูดไปเรื่อย รีบๆกินเข้าไปเลยละลายหมดแล้วเนี่ย” พอเขินก็ไปแหวใส่เขาเสียอย่างนั้น แต่เอาเถอะพี่คริสคนหล่อคนนี้รับได้ทุกอย่าง ริมฝีปากได้รูปยังคงยิ้มกว้างจนคนมองนึกหมั่นไส้ถองศอกเข้าใส่ไปสักที
     
    “โอ๊ย! พี่เจ็บนะคะคนดี” ทำหน้าตาสงสารเข้าอ้อนและหวังว่าจะอุธรณ์ให้คนที่ทำตัวว่ากำลังจะงอนนั้นหายงอน พี่บ่าวว่ามันไม่โอเคเลยนะถ้าคนน่ารักจะมาทำหน้างอนตุ๊บป่องใส่อ่ะ
     
    “ไม่ต้องพูดมากเลยรีบๆกินไปเลย” ชานยอลดันถ้วยปังเย็นไปให้คริส เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างแล้วนั่งกินไปมองแก้มแดงๆของคนที่หันหน้าหนีไป มือข้างที่ว่างก็เลื่อนไปกุมมือของชานยอลที่วางไว้บนหน้าขา ดวงตากลมปราบสายตามองก็เห็นดวงตาคมวาดโค้งเป็นขีดพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆก็ทำเอาสะบัดมือไม่ลง
     
    “พรุ่งนี้สอบตัวสุดท้ายเอาให้ผ่านนะ” ชานยอลค่อนข้างเป็นห่วงเพราะมันเป็นวิชาภาษาอังกฤษ คนข้างๆที่นั่งกุมมือเขาไม่ค่อยจะเก่งวิชานี้ซะด้วยสิ
     
    อะไรล่ะ.. อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้นนะ ก็เป็นคนติวให้ไงจะรู้ตารางสอบก็ไม่แปลกใช่ไหมล่ะ ... ไม่ได้เป็นห่วง .. เออก็บอกว่าไม่ได้ห่วงไง .. เออเป็นห่วงนิดนึงก็ได้
     
    “พี่ไม่ค่อยมั่นใจเลยแต่มีน้องมาติวให้พี่ว่าพี่ต้องผ่านฉลุยแน่ๆ” ชานยอลมองร่างสูงข้างตัวที่พูดสำเนียงทองแดงแล้วก็ระบายยิ้ม 
     
    “ต้องสอบให้ผ่าน .. ถ้าผ่านเดี๋ยวมีรางวัลให้ด้วยนะอยากได้หรือเปล่าล่ะ” ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้ คริสขมวดคิ้วแล้วเอียงคอใส่
     
    “ถ้าน้องชานยอลจะให้อะไรพี่ พี่ก็อยากได้ทั้งนั้นแหละจ๊ะ” แล้วก็ยิ้มกว้างขว้างจนหางปากแทบจะจรดขึ้นไปถึงหู โอ๊ย! หยุดยิ้มเถอะพ่อคนแดนใต้ ไม่รู้ยังไงใจมันสั่นๆยังไงก็ไม่รู้เนี่ย!
     
    จะให้ดีหุบยิ้มทั้งตา ทั้งปากนั่นไปเลยนะอู๋อี้ฟาน!!!
     
    “ถ้าชานยอลบอกให้มึงไปโดดหน้าผานี่จะไปไหมครับพี่คริสครับ” จงอินที่อดรอนทนไม่ไหวถามโพล่งขึ้นมา คริสสะบัดสายตาหันไปจิกกัดใส่ เอามันให้พรุนไปเลย!! แต่พอหันกลับมามองสบตากับลูกแก้วกลมโตสีสวยก็ทอดแววประกายหวานรักใคร่ ไอ้คริสอู๋โคตรหลายมาตรฐาน!!
     
    “ถ้าน้องชานยอลต้องการ อยากให้พี่ไปไหนทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละแค่บัญชามาพี่ก็พร้อมที่จะทำตามทุกอย่างเลย” ไม่รู้ว่าถ้อยคำนั้นคริสตอบคำถามของจงอินหรือจงใจบอกกับชานยอลกันแน่ ดวงดาวประกายในท้องฟ้าสีมืดนั้นมันส่องสว่างเป็นประกายมากกว่าครั้งไหนๆ และทอสายแววอ่อนโยนมาให้จนชานยอลอุ่นวาบในใจ
     
    ชานยอลไม่ตอบรับหรืออะไรทั้งนั้น เจ้าตัวเพียงแค่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเท่านั้น แต่ถึงแม้อย่างนั้นคริสก็ยังยิ้มกว้างไม่จางก็ริ้วแดงที่พาดผ่านแก้มขาวนั่นแหละ ..... แค่ได้เห็นแก้วแดงๆของคนดีหวานใจพี่บ่าวแล้วพี่ก็อารมณืดียิ้มได้ทั้งวันแล้วบอกเลย ฮือ... น้ำตาจะไหลคนดีของพี่น่ารักเกินจะห้ามใจแล้วนะ!!
     
     
     
    หลังจากที่กินน้ำแข็งไสกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาแยกย้ายกันกลับ เพราะพวกพืชศาสตร์ต้องกลับไปอ่านหนังสือต่อเพราะยังสอบไม่เสร็จ แต่ถึงแม้ว่าชานยอลกับจื่อเทาจะสอบเสร็จแล้วแต่ก็ยังอยากที่จะไปนอนพักเอาแรงมากกว่า การสอบในแต่ละวัน แต่ละวิชาดูดพลังงานเหลือเกิน
     
    คริสปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ด้วยแสงอาทิตย์ที่ทอแสงอ่อนเพราะพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าและลมเย็นของฝนหลงฤดูที่พัดผ่านมาทำเอาคนนั่งซ้อนวาดรอยยิ้มกว้างก็เลยพาลให้คนปั่นไม่ได้เร่งรีบที่จะปั่นกลับหอเร็วๆ แต่ถึงอย่างนั้นคริสก็ยังแอบหันไปมองรอยยิ้มน่ารักๆของชานยอลแล้วก็ยิ้มตาม
     
    ปั่นไปได้อีกสักพักอยู่ดีๆสารถีที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานอยู่นั้นก็รู้สึกว่ามีอะไรหนักๆเอนมาพิงที่หลัง พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นว่าชานยอลที่เกาะเสื้อตรงเอวเขาโน้มใบหน้ามาซบที่หลัง โอ๊ยบอกเลยคืนนี้พี่จะไม่ซักผ้า จะไม่อาบน้ำ!!!
     
    “คริส”
     
    “ว่าไงครับคนดี”
     
    “ที่พูดว่าถ้าเราบอกแล้วจะทำตามทุกอย่างแม้แต่จะไปโดดหน้าผาน่ะ....” ชานยอลเงียบเสียงไปนาน
     
    “ทำไมเหรอน้องชานยอล”
     
    “ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก แค่....” ชานยอลสูดลมหายใจลึกๆ “แค่อยู่ข้างๆกันก็พอ” 
     
    ริมฝีปากได้รูปค่อยๆวาดรอยยิ้มขึ้น ขึ้นจนกว้างฉีกเต็มใบหน้า และคนด้านหลังที่ก้มหน้าซุกหลังก็เผยรอยยิ้มเขินอายกับแก้มสีแดงเรื่อ พูดเองก็เขินเองไหวไหมน่ะปาร์คชานยอล!
     
    แต่ดูท่าแล้วจะไม่ไหวก็ตอนที่ได้ยินน้ำเสียงทุ้มนั้นตอบกลับมานี่ล่ะ ปาร์คชานยอลขอลาตาย!!
     
    “ครับ พี่ก็จะอยู่ข้างๆน้องชานยอลตลอดไปเลย”
     
    ทั้งสองคนอาจจะไม่รู้ ไม่เห็นแต่คนอื่นๆเขาก็มองเห็นกันว่าทั้งสองคนบนรถจักรยานคันน้อยนี้กำลังยิ้มและมีความสุขกันแค่ไหน รอยยิ้มมีความสุขที่ทำเอาผู้คนที่บังเอิญหันมาเจอก็ต้องยิ้มตามกัน
     
    ชานยอลก็นึกสงสัยและหาคำตอบไม่ได้ ตัวเขาเคยได้ยินและหลายๆอย่างที่มันลอยเข้าหูเรื่องของเขากับพี่บ่าวตัวดำที่ยังคงทำหน้าที่ปั่นจักรยานไม่บ่นสักคำอยู่นี้ ทุกคนมักจะพูดว่าเขาน่ะดูดี ดูมีสกุล ดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่าที่จะไปคบกับผู้ชายตัวดำที่มองยังไงก็หาความหล่อไม่เจออย่างคริส ชานยอลก็ไม่รู้ หาคำตอบไปตอบไม่ได้เหมือนกัน 
     
    เท่าที่รู้ก็เพียงว่า..... เวลาที่ตัวเขาอยู่กับคริสแล้วมันสบายใจ อยากอยู่ด้วยกันไปนานๆ
     
    เขาไม่สนหรอกว่าคริสจะตัวดำ จะดูกาก ดูเกรียน จะหาความหล่อไม่เจอ หรือจะดูล้นเกินมนุษย์มนาเขาไปมาก แต่ขอแค่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอ เอ.. แบบนี้มันเรียกความรักได้หรือยังนะ
     
    “พรุ่งนี้ตั้งใจสอบนะ” ชานยอลบอกทิ้งท้ายหลังจากที่รถจักรยานมาจอดที่หน้าหอพักของเขาแล้ว
     
    “แน่นอนครับ พี่ทำได้อยู่แล้ว” คริสยกยิ้มอวยตัวเอง ชานยอลก็ยิ้มขำ ปลายเรียวนิ้วเสลายื่นมาทัดปอยผมข้างแก้มนวลขึ้นทัดใบหู
     
    “คืนนี้นอนฝันดี ห่มผ้าด้วยนะครับคนดี ไม่ต้องฝันถึงพี่ก็ได้เดี๋ยวพี่จะฝันถึงน้องชานยอลเอง” ชานยอลหัวเราะแล้วยื่นมือไปทุบแขนของคริสสักที
     
    “พูดมากไปได้แล้ว อย่าอ่านหนังสือจนดึกนะนอนเยอะๆล่ะ” คริสยิ้มแล้วตะเบ๊ท่ารับทราบขึงขัง
     
    “ฝันดีครับน้องชานยอลคนดีของพี่” โบกมือลาก่อนที่จะปั่นจักรยานกลับไปคนเดียวเพราะไอ้พวกที่เหลือไม่รอแล้ว แหมวันนี้ล่ะสุขใจ มีความสุข พี่บ่าวที่หล่อเหลาไปสามโลกคงจะฟินไปสามบ้าน แปดซอย!!
     
    “.....เฮ้ย!” ชานยอลที่ยืนมองคริสปั่นจักรยานกลับไปแทบลับสายตาพอหมุนตัวกลับมาจะเดินเข้าหอก็สะดุ้งโหยงเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองยืนกอดอกพิงผนังมองมาด้วยสายตาล้อเลียน โอ๊ยปาร์คชานยอลพลาให้ฮวางจื่อเทาได้ล้ออีกแล้ว!!
     
    “กำลังใจดีแบบนี้สงสัยพรุ่งนี้เอบวกแหงๆ” 
     
    “อ๋อเหรอ? เหมือนที่เซฮุนก็ได้กำลังใจดีจากนายป่ะ??” แล้วชานยอลก็รีบชิ่งหนีขึ้นไปเลย ปล่อยให้จื่อเทาเดินบ่นตามหลังมา
     
    ตัวเขาก็หวังว่าพรุ่งนี้คริสจะสอบวิชาภาษาอังกฤษผ่าน ก็เขามีรางวัลจะให้นินา~ หวังว่าคริสจะผ่านนะ
    แต่จะว่าไปแล้วถึงจะสอบไม่ผ่าน ปาร์คชานยอลก็ไม่ใจร้ายถึงขนาดไม่ให้รางวัลหรอกน่า... ชานยอลชอบทำอะไรตามใจตัวเองนะ และชานยอลก็อยากได้คริสมาอยู่ข้างๆตลอดไปอย่างที่ใครอีกคนบอกด้วย
     
    โอ๊ยอยู่ดีๆก็ฟุ้งซ่านซะแล้วอ่ะ!! เพราะนายเลยคริสชอบมาก่อกวนหัวใจฉัน!!! 
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “ปาร์คชานยอล” เสียงเรียกด้วยน้ำเสียงงัวเงียทำให้เจ้าของชื่อหันไปมองเพื่อนตัวดีที่ยังดูเหมือนจะลืมตายังไม่ขึ้น
     
    “อะไรล่ะจื่อเทาเดินเร็วๆ” ชานยอลลากเพื่อนตัวดีที่บอกว่าจะมารอพวกที่มีสอบวันนี้ด้วยกัน แต่เมื่อคืนก็ดันนั่งคุยโทรศัพท์เสียดึกเลย หวังว่าคงจะไม่มีใครแอบหลับในห้องสอบหรอกนะ
     
    “ไม่ต้องรีบก็ได้มั้ง” จื่อเทาหาวหวอดๆ
     
    “ไม่ห่วงว่าเซฮุนจะทำข้อสอบไม่ได้หรือไง” จื่อเทาพยายามหรี่สายตามองเพื่อน
     
    “รายนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงคริสก็บอกมาเหอะ โอเคไปด้วยก็ได้” ว่าแล้วก็กอดคอเพื่อนพากันเดินไปที่ตึกคณะพืชศาสตร์ที่ใช้สอบวิชาภาษาอังกฤษของพวกประมง
     
    เพราะเวลาสอบทางมหาวิทยาลัยจะไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายที่หน้าห้องสอบ หรือแม้แต่พวกสอบเสร็จแล้วก็ต้องรีบลงมา ดังนั้นชานยอลและจื่อเทาก็เลยนั่งรอที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนข้างทางขึ้นตึก จื่อเทาอาสาไปซื้อขนมมาให้เอง ปล่อยให้ชานยอลนั่งรอพ่อคนตัวดำไปเถอะ 
     
    เอาจริงๆจื่อเทาไม่ค่อยเข้าใจอาการเพื่อนสักเท่าไหร่หรอก ทำไมจะต้องห่วงพ่อคนตัวดำถึงขนาดนั้น แต่ก็นะคริสน่ะอ่อนวิชานี้จริงๆจนจื่อเทายอมใจเลยล่ะ ก็ไม่แปลกหรอกที่ชานยอลจะห่วงมาก แต่มันมากเกินไปไหม .. สงสัยจะต้องสืบเสียแล้วสิว่ามันมีอะไรในกอไผ่อีก
     
    นั่งรอจนเกือบจะหมดเวลาสอบพวกคริส เซฮุน จงอิน และจงแดก็เดินลงจากตึกมา สีหน้าทุกคนดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ คิดว่าอาจจะยากเกินไปเพราะเอาจริงๆตอนที่พวกเขาสอบก่อนออกมาก็แทบจะอ้วกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าอาจารย์แกเปลี่ยนข้อสอบด้วยไหมเพราะวิชานี้อาจารย์เป็นคนจัดเรียกสอบเอง
     
    “ทำไมไม่ได้เหรอ” ชานยอลเดินเข้าไปหา คริสทำหน้าไม่ค่อยดีนัก
     
    “เอาน่าไม่เป็นไรเนอะ” ชานยอลเอียงคอแล้วยิ้มให้ แต่คริสก็ยังทำหน้าหงอย
     
    “แต่พี่เสียดาย”
     
    “เสียดายอะไร” ไม่ใช่แค่ชานยอลแค่ทุกคนก็สนใจ อะไรกันที่ทำให้พี่คริสตัวดำทำหน้าหงอยเหงาเหมือนหมาตายอย่างนั้น
     
    “เสียดายที่พี่จะไม่ได้รางวัลจากน้องชานยอลน่ะสิ” แดกจุดไปครับพี่น้อง!
     
    “ไอ้นี่นิ! กูก็คิดว่าแม่งกลัวได้เอฟ” เซฮุนผลักหัวเพื่อนซะแทบหงาย แล้วคริสก็หัวเราะออกมาแต่ก็ยังไม่ลืมเนียนที่จะจับมือของชานยอลแต่เจ้าตัวสะบัดมืออก
     
    “อุตส่าห์เป็นห่วงเสียดายความรู้สึกชะมัด” ชานยอลปรายหางตาใส่ ไอ้คนที่หัวเราะร่าก็ทำหน้าหงอยเข้าเขยิบเข้าหาเป็นลูกหมาน้อยแสนเชื่องเลย
     
    “น้องชานยอลคนดีของพี่~” ถึงจะมาอ้อนก็ไม่ยอม(เลิกแกล้ง)หรอกนะ
     
    “เอาน่าๆ บ่ายนี้เจอกันนะเดี๋ยวเราจะไปทะเลกัน” จงแดเข้ามายุติให้ ไม่งั้นคงอีกยาวล่ะ
     
    “แล้วไปกันยังไงวะ จองอะไรหมดแล้วเหรอ” เซฮุนจำได้ว่าพวกนี้บอกจะค้างกัน
     
    “แน่นอนบอกให้ป๊าจัดการให้แล้ว” จงแดยิ้มกริ่ม บอกได้เลยว่าเจ้าเล่ห์กว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ!
     
    และสายตาวิบวับมีเลศนัยก็ไม่พ้นส่งไปให้คริสกับชานยอล บอกได้เลย สนุกแน่ๆ
     
     
     
     
     
    หลังจากที่เก็บของและมานั่งกินข้าวกันเรียบร้อย รถตู้ที่จงแดบอกว่าให้คุณป๊าจัดการให้ก็มารับ รถตู้คันสีดำคันใหญ่ที่ดูจะหรูหราไม่น้อยพร้อมกับคนขับรถให้อีกหนึ่งคน เข้าไปด้านในรถก็ยังมีถังแช่เครื่องดื่มและมีขนมไว้อีก ถ้าไม่เรียกว่าโคตรสบายแล้วจะเรียกว่าอะไรกัน!!
     
    ที่นั่งมีสามตอน ที่นั่งหลังเบาะคนขับเป็นของจงอินและจงแดที่พอขึ้นรถไดก้ก็นั่งเสียบหูฟังฟังเพลงกันแล้วก็เอนซบกันหลับไปเสียแล้ว เบาะแถวกลางเป็นของเซฮุนและจื่อเทาที่เถียงกันเรื่องเล่นเกมในมือถือ และแถวหลังสุดเป็นของชานยอลและคริส 
     
    ชานยอลนั่งเท้าแขนกับขอบหน้าต่างรถแล้วมองออกไปด้านนอกปล่อยให้คริสนอนหนุนตัก แม้คริสจะตัวสูงจนนอนไม่พอเบาะแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เจ้าตัวจะสามารถล้มนอนหนุนตักได้ จริงๆก็ไม่อยากนอนหนุนขาคนดีให้เมื่อยหรอกแต่ต้องบอกเลยว่าถ่วงหนังตาไว้ไม่ไหวจริงๆ ชานยอลก็เลยให้คริสนอนหนุน กะว่าจะได้ให้พ่อคนที่อ่านหนังสือหนักให้นอนพักสบายๆ 
     
    ทัศนียภาพข้างทางนอกหน้าต่างนั้นก็ไม่ได้ดูแปลกตาอะไร แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงได้สุขใจจนเผยยิ้มออกมาแบบนี้นะ ชานยอลละสายตาจากนอกหน้าต่างก้มลงมองที่ตักที่มีใครบางคนหลับหนุนอยู่ พร้อมกับมือของตัวเองที่กำลังลูบไล้เส้นผมของคนนี้อยู่ ไม่รู้ทำไม.. แต่ชานยอลรู้สึกดีจังที่มีพี่บ่าวคนนี้อยู่ใกล้ๆ ยิ่งนานวันก็เหมือนจะแน่ใจกับอะไรข้างใน
     
     
    บางทีมันคงเป็นความรัก .. 
     
     
    หรือบางทีคริสอาจจะเป็นคนนั้น คนที่เคยเฝ้าฝันไว้ว่าอยากเจอ อยากให้อยู่เคียงข้าง .. อยู่ข้างๆตลอดไป
     
     
    “น้องชานยอล” คริสที่งัวเงียลืมตาขึ้นตื่นคว้ามือที่ลูบหัวตัวเองมากุมไว้ที่อก
     
    “หื้ม?” ชานยอลละสายตาจากด้านนอกแล้วก้มลงมองคนที่นอนมองจ้องหน้าแล้วก็ยิ้มกริ่มไปทั้งหน้า
     
    “ไม่ง่วงเหรอ” ชานยอลยิ้มขำแล้วส่ายหน้า คริสกระพริบตามองแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง
     
    “นอนไหมพี่จำได้ว่าเมื่อกี้ไอ้แพนด้ามันพูดว่าตื่นเช้ามากเหรอครับ” ชานยอลโคลงหัวไปมา  ก็ไม่คิดว่าจะได้ยินนะเนี่ยเพราะตอนที่จื่อเทาพูดน่ะมันแอบคุยงุบงิบกับเซฮุนสองคนเพื่อล้อเขานี่ล่ะ
     
    “ยังไม่ง่วงหรอกน่า ถ้าคริสง่วงก็นอนก่อนเลย” รอยยิ้มหวานๆกับคำพูดคล้ายจะเอาใจนั้นทำเอาพี่บ่าวคนหล่อยิ้มหน้าบานเป็นจานข้าวไอ้ด่างแถวบ้านที่ใต้เลย นี่บอกเลยว่าน้องชานยอลน่ารัก ใจดี แล้วก็เป็นนางฟ้าประจำใจของพี่เลย!!
     
    “แอบงีบสักหน่อยเถอะกว่าจะถึงคงจะอีกนานล่ะ” คริสเอื้อมปลายนิ้วไปปัดปอยผมที่ข้างแก้มใสออกขึ้นทัดใบหูให้ “นะ”
     
    “ก็ได้ๆ ยอมแพ้แล้ว” ชานยอลยกสองมือขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ ไม่กล้าเสียงดังกลัวคนอื่นจะตื่นเอา คริสก็ยิ้มกว้างเชียว
     
    “มานอนนนะครับเด็กดี” คริสวาดแขนโอบแล้วรั้งให้ชานยอลเอนตัวมานอนพิงซบที่ไหล่
     
    “เดี๋ยวเถอะ!” ฟาดที่ขาของคริสไปสักที เจ้าตัวก็หัวเราะไปสิ
     
    “ถึงพี่จะสอบตกแล้วไม่ได้รางวัลของน้องชานยอลก็ไม่เป็นไร แต่ขอแค่ในทุกๆวันพี่ได้เห็นเราก็พอแล้ว” สาบานสิว่าคนพูดไม่ได้ละเมอ! บอกสิว่าตอนนี้คนๆนี้มีสติครบถ้วนดีไม่ได้ละเมอขึ้นมาน่ะ!
     
    “ถ้าเห็นทุกวันแล้วเบื่อกันล่ะ”
     
    “ไม่มีทางพี่จะเบื่อคนที่พี่รักได้ยังไง น้องชานยอลนางฟ้าคนดีของพี่บ่าว” ชานยอลเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นของคริส สองแขนดันตัวผละออกจากคริสแล้วมองหน้าหมายว่าจะคุยกันให้รู้เรื่องก่อน แต่ทว่า.. พอเงยหน้าขึ้นมองกลับเห็นไอ้พี่บ่าวมันนอนพิงพนักหลับไปแล้ว
     
    “ไอ้คริส!!”
     
     
     
     
    ปาร์คชานยอลขอฟันธง!! มันละเมอแน่นอน ............ โว๊ย!!!
     
     
     
     
    จะบ้าตาย แล้วไอ้ที่ใจเต้นไม่เป็นวรรค เป็นเวรนี่ใครจะรับผิดชอบกันล่ะวะเฮ้ย!!!
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×