ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [LF] คุณหนูสุดเอาแต่ใจกับบอดี้การ์ดสุดเนี้ยบ - 4 [END]
เราว่า เราจะไม่แต่งฟิคยาวเกิน2ตอนล่ะ รู้สึกเหมือนมันไม่เวิร์คเลย ทุกคนคิดงั้นไหม??
แต่พล็อตนี่เราชอบนะ T T
ปล. ดูเอ็มวีแล้วใช่ไหมคะ? ดีใจจังที่เด็กๆคัมแบ็คสักที นูนารอจนจะแก่แล้วลูกขร๊า~~ พอดูไลฟ์จบร้องไห้เลยล่ะ มีใครเป็นเหมือนเราไหม?
ปล2. ดูจากช่องออฟฟิคเชียลของเอสเอ้มเท่านั้นนะคะ อย่ารีอัพหรือกดดูจากที่อื่น เราต้องทำยอดวิวเพื่อใช้ชิงรางวัลในการขึ้นเสตรจของน้องๆนะคะ ^^
___________________________________________
เช้านี้เซฮุนตื่นขึ้นมาก็ไม่พบใครอีกคนที่นอนร่วมห้องเลยสักนิด จะเจอก็แต่พื้นที่ว่างเปล่าที่เย็นเหยียบตามอุณหภูมิห้อง คาดว่าคุณบอดี้การ์ดจะลุกขึ้นไปนานแล้ว คุณหนูแสนเอาแต่ใจลุกขึ้นนั่งแล้วทำหน้ายุ่งๆตามผมเผ้า เรียวปากบางได้รูปก็บ่นพึมพำอะไรที่ไม่ได้ศัพท์
“หายไปไหนของเขาเนี่ย ถ้าเจอตัวล่ะน่าดู” ขยี้ผมเผ้าให้ยุ่งเหยิงพอใจแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเสียที
ชานยอลที่หนีลงมาเดินเล่นเลียบชายหาดก็เดินไปเรื่อยๆตามแนวความยาวของหาด เดินไปเรื่อยๆ เกลี่ยวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งและเท้าของชานยอลที่ย่ำอยู่บนทรายนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนที่ปลดแอกวางไว้เบื้องหลังได้ไม่ยากเลย
ยามที่ไม่ต้องแบกภาระอะไรไว้บนบ่าอีก ดวงตากลมก็ฉายแววผ่อนคลายและประกายในตาที่สว่างสดใส ริมฝีปากสีคล้ายผลเชอร์รี่วาดรอยยิ้มกับสายลมที่พัดผ่านเอาซะเสื้อผ้าและเส้นผมลู่ไปตามแรงลม ชานยอลรู้สึกสบายและผ่อนคลายที่สุด
“พี่ชานยอล~~” จะไม่สบายก็เพราะเสียงนี้นี่ล่ะ ชานยอลไม่ตอบแต่กลับเดินไปต่อเรื่อยๆโดยที่ไม่ยอมหยุด เจ้าของเสียงเรียกก็รีบวิ่งมาแล้วล็อคแขนของบอดี้การ์ดหนุ่มไว้
“ทำไมพี่ไม่ปลุกผมแล้วหนีลงมาเดินเล่นแบบนี้คนเดียวได้ยังไง” ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและทำปากยื่นปากยาวแต่ชานยอลแค่ปรายตามองเดินต่อไป เซฮุนก็ต้องเดินตามไปโดยปริยาย เจ้าตัวสอดมือเข้าประสานกับฝ่ามือนิ่ม
คนทั้งสองที่เดินจับมือกันเดินเลียบชายหาด เพียงแค่เดินไปเงียบๆไม่ได้เอ่ยบทสนทนาอะไรกันอีกแต่คนทั้งสองกลับอุ่นใจที่มีกันและกันอยู่ข้างกาย เงาของทั้งสองที่ทอดยาวไปตามพื้นทรายก็เคียงคู่กัน สายลมแสนสบายนั้นพัดแผ่วพลิ้วแต่ก็ทำให้ชานยอลรำคาญปอยผมที่คอยจิ้มหน้าจิ้มตา
เซฮุนหยุดเดินส่งผลให้ชานยอลต้องหยุดเดินตาม ชานยอลหันมามองคุณหนูข้างกายพร้อมกับคอยทัดเส้นผมที่ใบหู เซฮุนปล่อยมือที่จับกันอยู่ก่อนที่จะเอื้อมออกไปเสยเส้นผมนิ่มให้ลู่ไปด้านหลังก่อนที่จะรวบมันแล้วทัดใบหูขาวให้ ชานยอลที่เผลอมองสบตากับคุณหนูในปกครองก็แก้มแดงเรื่อ เซฮุนไล้ปลายนิ้วกับสีแดงๆนั้นแผ่วพลิ้วก่อนที่จะพากันเดินจับมือเลียบตามแนวหาดทรายไปเรื่อยๆ
“พี่ชานยอล” อยู่ๆเซฮุนก็เอ่ยเรียกคนข้างกาย ชานยอลหันมามองแล้วยิ้มบางให้ แต่เซฮุนกลับแย้มยิ้มเสียเต็มแก้มกลับคืน เซฮุนน่ะชอบให้พี่ชานยอลยิ้มจังเลยนะ~
“ผมถามอะไรพี่ได้ไหม?” ชานยอลไม่ตอบแต่พยักหน้าให้อนุญาต ชานยอลเบี่ยงตัวไปยืนหันหน้าเข้าหาทะเลแล้วยืนมองพราวน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์
“ผมอยากรู้เรื่องของพี่ ความลับของพี่ ... และพี่ต้องตอบในฐานะที่ผมเป็นคนที่พี่ต้องดูแล” ชานยอลหันหน้ากลับมาแล้วยิ้ม ภาพนั้นทำเอาเซฮุนตาพร่าไปคล้ายดั่งเห็นภาพนางฟ้ากับปีกสีขาวท่ามกลางแสงของอาทิตย์ที่แผดแสงอันร้อนแรงมายังโลกมนุษย์
“นายสงสัยไหมว่าทำไมฉันถึงมาเป็นบอดี้การ์ดให้นาย .. นายสงสัยไหมทำไมฉันถึงรู้ว่าต้องปลุกนายยังไงทั้งๆที่ฉันเพิ่งเข้ามาทำงาน” ชานยอลแล้วมองหน้าเซฮุนที่กำลังทำหน้าสงสัยเต็มที่เลย ชานยอลหมุนตัวกลับไปแล้วใช้นิ้วจิ้มที่หัวใจของอีกฝ่ายอีกครั้ง
“นายจำฉันไม่ได้จริงๆสินะ ... ฉันบอกว่าฉันเป็นของนายมาตั้งแต่ต้น ซึ่งมันก็หมายความตามนั้น” แต่เซฮุนก็ยังไม่เข้าใจ เจ้าตัวเลยใช้นิ้วมือแตะริมฝีปากของเซฮุนเบาๆ
“สัญญาของนายฉันไม่เคยลืมนะ พ่อของนายส่งฉันกลับมาหานายเพื่อกลับมาเป็นของนายอีกครั้งยังไงล่ะเซนี่”
เพียงแค่ได้ยินชื่อเล่นที่ลืมเลื่อนไปแล้ว ในห้วงความคิดของเซฮุนก็นึกไปถึงเด็กตัวเล็กผอมและผิวขาวนวลที่มักจะมาเล่นกับตนที่บ้านเสมอ เด็กน้อยอายุ5ขวบที่เป็นพี่ของเขาแต่กลับอ่อนแอและชอบโดนคนอื่นแกล้งเป็นประจำจนเซฮุน3ขวบต้องตามไปปกป้องเสมอ เซฮุนมักจะโดนดุเสมอที่ชอบไปหาเรื่องเด็กนักเรียนคนอื่นแต่เด็กตัวเล็กก็มักจะออกโรงปกป้องน้องเซนี่เสมอ
“ชานนี่เหรอ?” ชานยอลยิ้มแล้วสวมกอดเซฮุนไว้ก่อนที่หยดน้ำตาแห่งความปิติจะไหลริน
“จำฉันได้สักทีนะ ฉันคิดว่าชาตินี้นายจะลืมฉันไปหมดแล้วเสียอีก”
เดี๋ยวนะ.. นี่มันเรื่องอะไรกัน? ถึงจะจำได้ว่าคนตรงหน้าคือเด็กตัวเล็กผอมๆที่ชื่อชานนี่ แต่ทำไมเขาถึงลืมล่ะ? แล้วสัญญาอะไร?
คนที่จะให้คำตอบได้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นล่ะ ... ป๊าของเขาเอง!!
หลังจากที่ทานอาหารเช้าแล้วก็ออกเดินทางกลับมาบ้านให้ไวที่สุด เซฮุนอาสาขับรถเองแล้วชานยอลก็เลยได้นอนพักอีกครั้ง ส่วนสองเพื่อนซี้ก็ไม่ต้องไปส่งเพราะยังไงมันก็เอารถมา ตอนนี้สิ่งที่คิดในหัวคือต้องกลับบ้านไปถามป๊าให้ไวที่สุด!
เมื่อกลับมาถึงบ้านเซฮุนก็รีบลากชานยอลให้ขึ้นไปยังห้องทำงานของป๊าทันทีเพราะรู้ว่ายังไงป๊าก็ต้องทำงานอยู่ที่ห้องนี้ยามที่ป๊าไม่ต้องบินไปต่างประเทศ บานประตูถูกเปิดเข้าไปเลยโดยที่ไม่มีการเคาะขออนุญาต เออไอ้ลูกชายคนนี้นิ!
“อะไรของแกห๊ะไอ้เซฮุน อ้าวแล้วลากบอดี้การ์ดแกมาทำไมล่ะนั่น”
“ป๊าบอกมานะว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง” ดวงตาคมดุเบนจากลูกชายไปที่บอดี้การ์ดของลูกชายที่ยักไหล่ให้อย่างไม่รู้ไม่ชี้
“ความลับแตกแล้วสินะ” ว่าแล้วคุณชายท่านก็วางงานแล้วยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเสียเสียงดัง จริงๆไม่ต้องปิดก็ได้มั้ง
“ป๊าเล่าทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!” เลิกคิ้วขึ้นสูงมองลูกชายที่แง๊วๆแถมยังจับมือของบอดี้การ์ดคนใหม่ไม่ยอมปล่อย คุณท่านก็ยิ้มมุมปากแล้วยกสองมือประสานกันบนโต๊ะทำงาน
“ก็คนที่แกจับมือน่ะ น้องชานนี่ของแกไง ถึงแกจะลืมเรื่องบางเรื่องไปแต่ในใจของแกก็ต้องมีเขาบ้างใช่หรือเปล่าล่ะ” เมื่อไม่มีทีท่าว่าลูกชายจะตอบผู้เป็นพ่อก็ถอนหายใจเบาๆ
“ฉันเป็นคนพรากเขาไปจากแก ตอนนี้ฉันก็เอาเขามาคืนแกแล้วไงตามคำสัญญาของแกที่บอกว่าจะแต่งงานกับเขาน่ะ”
“แง๊~” เสียงร้องของเด็กชายตัวเล็กผอมแห้งทั้งๆที่อายุก็5ขวบเข้าไปแล้วแต่ตัวก็ยังเล็กกว่าเพื่อนคนอื่นๆจนเด็กตัวโตๆในห้องแกล้งเอาน่ะสิ พอได้ยินเสียงร้องไห้เท่านั้นล่ะเด็กน้อยที่มักจะตามติดพี่ชายตัวเล็กมาโรงเรียนด้วยก็รีบวิ่งไปทันที
“ทำอะไรชานนี่ของเรา!! อยากตายใช่ไหม!!” แล้วเซฮุนเด็กตัวสูงพอๆกับเด็กพวกนั้นก็ตรงเข้าไปผลักตัวการที่ทำให้พี่ชานนี่ของตัวเองร้องไห้ แล้วตามด้วยกำปั้นที่ทุบเด็กอีกคน
“เซนี่พอแล้ว ฮือ...” เซฮุนละจากเด็กคนนั้นที่ร้องไห้จ้าแล้วเข้ามาดูพี่ชานนี่ที่นั่งยกสองมือปาดน้ำตา
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว” เซฮุนกอดพี่ชายไว้แล้วลูบผมเบาๆ
“เพี้ยง~ ไม่เจ็บนะฮะ เซนี่จะเป่าๆให้นะ เซนี่จะปกป้องชานนี่เอง”
แล้ววันนั้นเซฮุนก็โดนคุณป๊าฟาดไม้เรียวไปหนึ่งทีถ้วน เด็กน้อยร้องไห้แล้วกอดพี่ชานนี่เอาไว้แล้วบอกว่าป๊าไม่เข้าใจๆๆๆ
“ป๊าไม่เข้าใจอะไรไหนพูดมาสิเซฮุน” เด็กน้อยปาดน้ำตาทิ้งแล้วเดินมายืนจังก้ากางแขนปกป้องพี่ชานนี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาไว้
“ก็ชานนี่โดนแกล้ง เซฮุนก็ต้องปกป้อง จะให้เจ้าสาวของเซฮุนร้องไห้ได้ยังไงกัน!!” ผู้เป็นบิดาหัวเราะแล้วเลิกคิ้วจิ้มหน้าปากลูกชายเบาๆ
“แล้วพี่เขาบอกเหรอว่าจะเป็นเจ้าสาวของเราน่ะเซฮุน” แล้วสองสายตาก็พุ่งตรงไปหาเด็กน้อยตัวเล็กที่นั่งทำตาแป๋วอยู่
“ชานนี่จะแต่งงานกับเซนี่ไหม?” ตากลมกระพริบปริบๆมองคนโน้นที คนนี้ทีแล้วก็ก้มหน้าลงด้วยความอาย
“อื้อ แต่งสิ” พยักหน้ารับเบาๆ เซฮุนหันไปหาคุณป๊าแล้วยิ้มกว้าง
“เห็นไหมล่ะ ชานนี่จะเป็นเจ้าสาวของเซฮุนเพราะฉะนั้นคุณป๊าห้ามตีเซฮุนอีกนะ!” แล้วคุณป๊าก็หัวเราะร่าเสียงสดใส
พี่ชานนี่ของเซฮุนนั้นน่ารัก ตากลมโต กลีบปาก็สีหวานน่ารัก เซฮุนเลยทั้งหวงและติดกับพี่คนนี้ขนาดว่าพี่ชานนี่ไปเรียนเซฮุนก้ต้องไปด้วยแม้ว่าจะได้นั่งในห้องเรียนบ้าง นอกห้องบ้างก็ตาม ความสุขของเด็กน้อยมีอยู่ได้ไม่นาน พี่ชานนี่ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่จีนเพื่อไปขยายธุรกิจของบริษัทที่ร่วมหุ้นกับป๊าของตัวเอง
วันนั้นเซฮุนร้องไห้ไม่ยอมหยุดแถมยังกอดพี่ชานนี่ของตนไม่ยอมปล่อย พี่ชานนี่เองก็เช่นกันถึงจะไม่เข้าไปใจกับคำว่า ‘บอกลาน้องสิลูก เราจะย้ายไปอยู่ที่จีน’ เท่าไหร่นักก็ตาม แต่แค่รู้ว่าจะไม่ได้อยู่กับน้อง หยดน้ำตามันก็ไหล พอเซฮุนรู้ว่าพี่ชานนี่ในอ้อมกอดร้องไห้เจ้าตัวก็ปาดน้ำตาทิ้งแล้วช่วยปาดน้ำตาให้พี่ชานนี่ด้วย
“อย่าร้องนะฮะชานนี่ เซนี่จะไม่ให้พาชานนี่ไปได้หรอก โตขึ้นเราจะแต่งงานกันแล้วก็จะอยู่ด้วยกันนะ” พี่ชานนี่พยักหน้ารับ เซฮุนก็กอดพี่ชายตัวเล็กไว้ไม่ยอมให้ใครมาพรากไปได้หรอก
“อื้อ...” เหมือนดั่งคำสัญญาเซฮุนกอดพี่ชานนี่ไว้แน่น
ผ่านไปไม่นานเด็กน้อยทั้งสองก็หลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน และผู้เป็นบิดาเลยถือโอกาสมาแยกเด็กตัวน้อยออกด้วยความที่เป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้วก็เลยลืมตาขึ้นมอง ก็รู้อยู่หรอกว่าต้องไปแต่ใจจริงก็ไม่อยากไป ไม่อยากให้น้องลืมตัวเอง แม้ไม่มีอะไรรับประกันว่าเซนี่จะลืมตนเองหรือไม่ ก็แค่หวังว่าน้องชายที่รักจะไม่ลืมตัวเอง
...เซนี่อย่าลืมพี่นะ แล้วพี่จะกลับมา ห้ามลืมพี่นะ พี่จะกลับมาแต่งงานกับเซนี่...
หลังจากที่ตื่นมาแล้วเซฮุนก็ไม่เห็นพี่ชานนี่ก็ร้องไห้ไม่หยุด หายใจไม่ทันจนเกือบช็อคจนต้องพาตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเด็กน้อยก็จำพี่ชานนี่ไม่ได้แล้ว ความทรงจำบางส่วนหายไปเนื่องจากช็อคและสมองหยุดจดจำเรื่องราวบางส่วน
แม้ว่าน้องเซนี่จะลืมตัวเองแต่ชานนี่ หรือ ชานยอลก็ยังคงได้รับข่าวสารเกี่ยวกับน้องชายที่ตัวเองรักอยู่เรื่อยๆ จนตัวเองเรียนจบมหาวิทยาลัยเพราะสอบเทียบได้ระดับชั้นสูงกว่าอายุ เจ้าตัวก็เข้ามาฝึกงานในบริษัทของตัวเองและคุณลุงหรือป๊าของเซฮุนก็สร้างเรื่องให้ชานยอลกลับมาเจอลูกชายของตนอีกครั้ง เป็นเพราะตนที่ส่งครอบครัวของชานยอลไปดูแลบริษัทที่จีนเอง
“แล้วพี่ยังยืนยันคำเดิมไหมฮะ?” เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจบเซฮุนก็หันไปถามพี่ชายที่พ่วงตำแหน่งคนรักและบอดี้การ์ดข้างกาย
“แล้วพี่ควรตอบว่าไงล่ะ?” เซฮุนยิ้มกว้าง
“พี่มีแค่คำตอบเดียวครับ คือ พี่รักผม” ชานยอลดันหน้าผากน้องชายแก่แดดของตัวเองเบาๆ
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาเป็นว่าชานยอลก็ไม่ต้องทำหน้าที่บอดี้การ์ดแล้วล่ะมาฝึกงานเตรียมตัวเป็นเลขาให้ไอ้เด็กนี่ได้เลย ยังไงก็ช่วยสอนมันด้วยนะ ลุงเหนื่อยมาพอแล้ว”
“ไม่ๆ ป๊าก็ทำงานไปสิ ผมจะให้พี่ชานยอลเป็นบอดี้การ์ดให้ผม จะให้อยู่กับผม ป๊าต้องตามใจผมนะป๊าพรากเราสองคนมาแล้วนะ” คุณบิดาบังเกิดเกล้าถอนหายใจ
“เออๆ ยาวเชียวนะ จะไปไหนก็ไปเลยไปจำทำงาน” เซฮุนลากชานยอลออกจากห้องทำงานของป๊าแล้วเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง
“ผมรักพี่ที่สุดเลย ขอบคุณครับที่พี่กลับมา”
“รู้แล้วน่า ต่อจากนี้อย่าดื้ออีกนะ ถ้าดื้อล่ะก็นายตายแน่เซฮุน” เซฮุนยิ้มกว้างแล้วชูสามนิ้ว
“สัญญาฮะไม่ดื้อแน่นอน พี่ชานยอลผมจูบพี่ได้ไหม” คนโดนขอแก้มแดงแล้วเบนสายตาหนี
“เรื่องแบบนี้ใครเขาขอกันล่ะไอ้เด็กบ้า”
จูบหวานๆกับความรักหอมๆที่ลอยอวลอยู่รอบกายเรียกให้ชานยอลและเซฮุนตกอยู่ในห้วงรักของกันและกัน สายเชือกทอความสัมพันธ์นี้ให้แน่นยิ่งขึ้น และจะมิมีผู้ใดมาพรากเขาทั้งสองออกจากกันได้อีก
......
....
...
..
.
แม้แต่คุณป๊าที่แอบย่องตามมาดูนี่ก็เถอะ
“อย่างน้อยก็จบลงด้วยดีสินะ” ถ้าเซฮุนจำชานยอลไม่ได้ คิดดูสิว่าคุณป๊าจะเป็นตราบาปละน่าสงสารแค่ไหน แค่คิดน้ำตาก็จะไหล(ขอแชร์นะคะ)อยู่แล้วเนี่ย *กระซิกๆ*
แต่พล็อตนี่เราชอบนะ T T
ปล. ดูเอ็มวีแล้วใช่ไหมคะ? ดีใจจังที่เด็กๆคัมแบ็คสักที นูนารอจนจะแก่แล้วลูกขร๊า~~ พอดูไลฟ์จบร้องไห้เลยล่ะ มีใครเป็นเหมือนเราไหม?
ปล2. ดูจากช่องออฟฟิคเชียลของเอสเอ้มเท่านั้นนะคะ อย่ารีอัพหรือกดดูจากที่อื่น เราต้องทำยอดวิวเพื่อใช้ชิงรางวัลในการขึ้นเสตรจของน้องๆนะคะ ^^
___________________________________________
เช้านี้เซฮุนตื่นขึ้นมาก็ไม่พบใครอีกคนที่นอนร่วมห้องเลยสักนิด จะเจอก็แต่พื้นที่ว่างเปล่าที่เย็นเหยียบตามอุณหภูมิห้อง คาดว่าคุณบอดี้การ์ดจะลุกขึ้นไปนานแล้ว คุณหนูแสนเอาแต่ใจลุกขึ้นนั่งแล้วทำหน้ายุ่งๆตามผมเผ้า เรียวปากบางได้รูปก็บ่นพึมพำอะไรที่ไม่ได้ศัพท์
“หายไปไหนของเขาเนี่ย ถ้าเจอตัวล่ะน่าดู” ขยี้ผมเผ้าให้ยุ่งเหยิงพอใจแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเสียที
ชานยอลที่หนีลงมาเดินเล่นเลียบชายหาดก็เดินไปเรื่อยๆตามแนวความยาวของหาด เดินไปเรื่อยๆ เกลี่ยวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งและเท้าของชานยอลที่ย่ำอยู่บนทรายนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนที่ปลดแอกวางไว้เบื้องหลังได้ไม่ยากเลย
ยามที่ไม่ต้องแบกภาระอะไรไว้บนบ่าอีก ดวงตากลมก็ฉายแววผ่อนคลายและประกายในตาที่สว่างสดใส ริมฝีปากสีคล้ายผลเชอร์รี่วาดรอยยิ้มกับสายลมที่พัดผ่านเอาซะเสื้อผ้าและเส้นผมลู่ไปตามแรงลม ชานยอลรู้สึกสบายและผ่อนคลายที่สุด
“พี่ชานยอล~~” จะไม่สบายก็เพราะเสียงนี้นี่ล่ะ ชานยอลไม่ตอบแต่กลับเดินไปต่อเรื่อยๆโดยที่ไม่ยอมหยุด เจ้าของเสียงเรียกก็รีบวิ่งมาแล้วล็อคแขนของบอดี้การ์ดหนุ่มไว้
“ทำไมพี่ไม่ปลุกผมแล้วหนีลงมาเดินเล่นแบบนี้คนเดียวได้ยังไง” ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและทำปากยื่นปากยาวแต่ชานยอลแค่ปรายตามองเดินต่อไป เซฮุนก็ต้องเดินตามไปโดยปริยาย เจ้าตัวสอดมือเข้าประสานกับฝ่ามือนิ่ม
คนทั้งสองที่เดินจับมือกันเดินเลียบชายหาด เพียงแค่เดินไปเงียบๆไม่ได้เอ่ยบทสนทนาอะไรกันอีกแต่คนทั้งสองกลับอุ่นใจที่มีกันและกันอยู่ข้างกาย เงาของทั้งสองที่ทอดยาวไปตามพื้นทรายก็เคียงคู่กัน สายลมแสนสบายนั้นพัดแผ่วพลิ้วแต่ก็ทำให้ชานยอลรำคาญปอยผมที่คอยจิ้มหน้าจิ้มตา
เซฮุนหยุดเดินส่งผลให้ชานยอลต้องหยุดเดินตาม ชานยอลหันมามองคุณหนูข้างกายพร้อมกับคอยทัดเส้นผมที่ใบหู เซฮุนปล่อยมือที่จับกันอยู่ก่อนที่จะเอื้อมออกไปเสยเส้นผมนิ่มให้ลู่ไปด้านหลังก่อนที่จะรวบมันแล้วทัดใบหูขาวให้ ชานยอลที่เผลอมองสบตากับคุณหนูในปกครองก็แก้มแดงเรื่อ เซฮุนไล้ปลายนิ้วกับสีแดงๆนั้นแผ่วพลิ้วก่อนที่จะพากันเดินจับมือเลียบตามแนวหาดทรายไปเรื่อยๆ
“พี่ชานยอล” อยู่ๆเซฮุนก็เอ่ยเรียกคนข้างกาย ชานยอลหันมามองแล้วยิ้มบางให้ แต่เซฮุนกลับแย้มยิ้มเสียเต็มแก้มกลับคืน เซฮุนน่ะชอบให้พี่ชานยอลยิ้มจังเลยนะ~
“ผมถามอะไรพี่ได้ไหม?” ชานยอลไม่ตอบแต่พยักหน้าให้อนุญาต ชานยอลเบี่ยงตัวไปยืนหันหน้าเข้าหาทะเลแล้วยืนมองพราวน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์
“ผมอยากรู้เรื่องของพี่ ความลับของพี่ ... และพี่ต้องตอบในฐานะที่ผมเป็นคนที่พี่ต้องดูแล” ชานยอลหันหน้ากลับมาแล้วยิ้ม ภาพนั้นทำเอาเซฮุนตาพร่าไปคล้ายดั่งเห็นภาพนางฟ้ากับปีกสีขาวท่ามกลางแสงของอาทิตย์ที่แผดแสงอันร้อนแรงมายังโลกมนุษย์
“นายสงสัยไหมว่าทำไมฉันถึงมาเป็นบอดี้การ์ดให้นาย .. นายสงสัยไหมทำไมฉันถึงรู้ว่าต้องปลุกนายยังไงทั้งๆที่ฉันเพิ่งเข้ามาทำงาน” ชานยอลแล้วมองหน้าเซฮุนที่กำลังทำหน้าสงสัยเต็มที่เลย ชานยอลหมุนตัวกลับไปแล้วใช้นิ้วจิ้มที่หัวใจของอีกฝ่ายอีกครั้ง
“นายจำฉันไม่ได้จริงๆสินะ ... ฉันบอกว่าฉันเป็นของนายมาตั้งแต่ต้น ซึ่งมันก็หมายความตามนั้น” แต่เซฮุนก็ยังไม่เข้าใจ เจ้าตัวเลยใช้นิ้วมือแตะริมฝีปากของเซฮุนเบาๆ
“สัญญาของนายฉันไม่เคยลืมนะ พ่อของนายส่งฉันกลับมาหานายเพื่อกลับมาเป็นของนายอีกครั้งยังไงล่ะเซนี่”
เพียงแค่ได้ยินชื่อเล่นที่ลืมเลื่อนไปแล้ว ในห้วงความคิดของเซฮุนก็นึกไปถึงเด็กตัวเล็กผอมและผิวขาวนวลที่มักจะมาเล่นกับตนที่บ้านเสมอ เด็กน้อยอายุ5ขวบที่เป็นพี่ของเขาแต่กลับอ่อนแอและชอบโดนคนอื่นแกล้งเป็นประจำจนเซฮุน3ขวบต้องตามไปปกป้องเสมอ เซฮุนมักจะโดนดุเสมอที่ชอบไปหาเรื่องเด็กนักเรียนคนอื่นแต่เด็กตัวเล็กก็มักจะออกโรงปกป้องน้องเซนี่เสมอ
“ชานนี่เหรอ?” ชานยอลยิ้มแล้วสวมกอดเซฮุนไว้ก่อนที่หยดน้ำตาแห่งความปิติจะไหลริน
“จำฉันได้สักทีนะ ฉันคิดว่าชาตินี้นายจะลืมฉันไปหมดแล้วเสียอีก”
เดี๋ยวนะ.. นี่มันเรื่องอะไรกัน? ถึงจะจำได้ว่าคนตรงหน้าคือเด็กตัวเล็กผอมๆที่ชื่อชานนี่ แต่ทำไมเขาถึงลืมล่ะ? แล้วสัญญาอะไร?
คนที่จะให้คำตอบได้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นล่ะ ... ป๊าของเขาเอง!!
หลังจากที่ทานอาหารเช้าแล้วก็ออกเดินทางกลับมาบ้านให้ไวที่สุด เซฮุนอาสาขับรถเองแล้วชานยอลก็เลยได้นอนพักอีกครั้ง ส่วนสองเพื่อนซี้ก็ไม่ต้องไปส่งเพราะยังไงมันก็เอารถมา ตอนนี้สิ่งที่คิดในหัวคือต้องกลับบ้านไปถามป๊าให้ไวที่สุด!
เมื่อกลับมาถึงบ้านเซฮุนก็รีบลากชานยอลให้ขึ้นไปยังห้องทำงานของป๊าทันทีเพราะรู้ว่ายังไงป๊าก็ต้องทำงานอยู่ที่ห้องนี้ยามที่ป๊าไม่ต้องบินไปต่างประเทศ บานประตูถูกเปิดเข้าไปเลยโดยที่ไม่มีการเคาะขออนุญาต เออไอ้ลูกชายคนนี้นิ!
“อะไรของแกห๊ะไอ้เซฮุน อ้าวแล้วลากบอดี้การ์ดแกมาทำไมล่ะนั่น”
“ป๊าบอกมานะว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง” ดวงตาคมดุเบนจากลูกชายไปที่บอดี้การ์ดของลูกชายที่ยักไหล่ให้อย่างไม่รู้ไม่ชี้
“ความลับแตกแล้วสินะ” ว่าแล้วคุณชายท่านก็วางงานแล้วยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเสียเสียงดัง จริงๆไม่ต้องปิดก็ได้มั้ง
“ป๊าเล่าทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!” เลิกคิ้วขึ้นสูงมองลูกชายที่แง๊วๆแถมยังจับมือของบอดี้การ์ดคนใหม่ไม่ยอมปล่อย คุณท่านก็ยิ้มมุมปากแล้วยกสองมือประสานกันบนโต๊ะทำงาน
“ก็คนที่แกจับมือน่ะ น้องชานนี่ของแกไง ถึงแกจะลืมเรื่องบางเรื่องไปแต่ในใจของแกก็ต้องมีเขาบ้างใช่หรือเปล่าล่ะ” เมื่อไม่มีทีท่าว่าลูกชายจะตอบผู้เป็นพ่อก็ถอนหายใจเบาๆ
“ฉันเป็นคนพรากเขาไปจากแก ตอนนี้ฉันก็เอาเขามาคืนแกแล้วไงตามคำสัญญาของแกที่บอกว่าจะแต่งงานกับเขาน่ะ”
“แง๊~” เสียงร้องของเด็กชายตัวเล็กผอมแห้งทั้งๆที่อายุก็5ขวบเข้าไปแล้วแต่ตัวก็ยังเล็กกว่าเพื่อนคนอื่นๆจนเด็กตัวโตๆในห้องแกล้งเอาน่ะสิ พอได้ยินเสียงร้องไห้เท่านั้นล่ะเด็กน้อยที่มักจะตามติดพี่ชายตัวเล็กมาโรงเรียนด้วยก็รีบวิ่งไปทันที
“ทำอะไรชานนี่ของเรา!! อยากตายใช่ไหม!!” แล้วเซฮุนเด็กตัวสูงพอๆกับเด็กพวกนั้นก็ตรงเข้าไปผลักตัวการที่ทำให้พี่ชานนี่ของตัวเองร้องไห้ แล้วตามด้วยกำปั้นที่ทุบเด็กอีกคน
“เซนี่พอแล้ว ฮือ...” เซฮุนละจากเด็กคนนั้นที่ร้องไห้จ้าแล้วเข้ามาดูพี่ชานนี่ที่นั่งยกสองมือปาดน้ำตา
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว” เซฮุนกอดพี่ชายไว้แล้วลูบผมเบาๆ
“เพี้ยง~ ไม่เจ็บนะฮะ เซนี่จะเป่าๆให้นะ เซนี่จะปกป้องชานนี่เอง”
แล้ววันนั้นเซฮุนก็โดนคุณป๊าฟาดไม้เรียวไปหนึ่งทีถ้วน เด็กน้อยร้องไห้แล้วกอดพี่ชานนี่เอาไว้แล้วบอกว่าป๊าไม่เข้าใจๆๆๆ
“ป๊าไม่เข้าใจอะไรไหนพูดมาสิเซฮุน” เด็กน้อยปาดน้ำตาทิ้งแล้วเดินมายืนจังก้ากางแขนปกป้องพี่ชานนี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาไว้
“ก็ชานนี่โดนแกล้ง เซฮุนก็ต้องปกป้อง จะให้เจ้าสาวของเซฮุนร้องไห้ได้ยังไงกัน!!” ผู้เป็นบิดาหัวเราะแล้วเลิกคิ้วจิ้มหน้าปากลูกชายเบาๆ
“แล้วพี่เขาบอกเหรอว่าจะเป็นเจ้าสาวของเราน่ะเซฮุน” แล้วสองสายตาก็พุ่งตรงไปหาเด็กน้อยตัวเล็กที่นั่งทำตาแป๋วอยู่
“ชานนี่จะแต่งงานกับเซนี่ไหม?” ตากลมกระพริบปริบๆมองคนโน้นที คนนี้ทีแล้วก็ก้มหน้าลงด้วยความอาย
“อื้อ แต่งสิ” พยักหน้ารับเบาๆ เซฮุนหันไปหาคุณป๊าแล้วยิ้มกว้าง
“เห็นไหมล่ะ ชานนี่จะเป็นเจ้าสาวของเซฮุนเพราะฉะนั้นคุณป๊าห้ามตีเซฮุนอีกนะ!” แล้วคุณป๊าก็หัวเราะร่าเสียงสดใส
พี่ชานนี่ของเซฮุนนั้นน่ารัก ตากลมโต กลีบปาก็สีหวานน่ารัก เซฮุนเลยทั้งหวงและติดกับพี่คนนี้ขนาดว่าพี่ชานนี่ไปเรียนเซฮุนก้ต้องไปด้วยแม้ว่าจะได้นั่งในห้องเรียนบ้าง นอกห้องบ้างก็ตาม ความสุขของเด็กน้อยมีอยู่ได้ไม่นาน พี่ชานนี่ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่จีนเพื่อไปขยายธุรกิจของบริษัทที่ร่วมหุ้นกับป๊าของตัวเอง
วันนั้นเซฮุนร้องไห้ไม่ยอมหยุดแถมยังกอดพี่ชานนี่ของตนไม่ยอมปล่อย พี่ชานนี่เองก็เช่นกันถึงจะไม่เข้าไปใจกับคำว่า ‘บอกลาน้องสิลูก เราจะย้ายไปอยู่ที่จีน’ เท่าไหร่นักก็ตาม แต่แค่รู้ว่าจะไม่ได้อยู่กับน้อง หยดน้ำตามันก็ไหล พอเซฮุนรู้ว่าพี่ชานนี่ในอ้อมกอดร้องไห้เจ้าตัวก็ปาดน้ำตาทิ้งแล้วช่วยปาดน้ำตาให้พี่ชานนี่ด้วย
“อย่าร้องนะฮะชานนี่ เซนี่จะไม่ให้พาชานนี่ไปได้หรอก โตขึ้นเราจะแต่งงานกันแล้วก็จะอยู่ด้วยกันนะ” พี่ชานนี่พยักหน้ารับ เซฮุนก็กอดพี่ชายตัวเล็กไว้ไม่ยอมให้ใครมาพรากไปได้หรอก
“อื้อ...” เหมือนดั่งคำสัญญาเซฮุนกอดพี่ชานนี่ไว้แน่น
ผ่านไปไม่นานเด็กน้อยทั้งสองก็หลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน และผู้เป็นบิดาเลยถือโอกาสมาแยกเด็กตัวน้อยออกด้วยความที่เป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้วก็เลยลืมตาขึ้นมอง ก็รู้อยู่หรอกว่าต้องไปแต่ใจจริงก็ไม่อยากไป ไม่อยากให้น้องลืมตัวเอง แม้ไม่มีอะไรรับประกันว่าเซนี่จะลืมตนเองหรือไม่ ก็แค่หวังว่าน้องชายที่รักจะไม่ลืมตัวเอง
...เซนี่อย่าลืมพี่นะ แล้วพี่จะกลับมา ห้ามลืมพี่นะ พี่จะกลับมาแต่งงานกับเซนี่...
หลังจากที่ตื่นมาแล้วเซฮุนก็ไม่เห็นพี่ชานนี่ก็ร้องไห้ไม่หยุด หายใจไม่ทันจนเกือบช็อคจนต้องพาตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเด็กน้อยก็จำพี่ชานนี่ไม่ได้แล้ว ความทรงจำบางส่วนหายไปเนื่องจากช็อคและสมองหยุดจดจำเรื่องราวบางส่วน
แม้ว่าน้องเซนี่จะลืมตัวเองแต่ชานนี่ หรือ ชานยอลก็ยังคงได้รับข่าวสารเกี่ยวกับน้องชายที่ตัวเองรักอยู่เรื่อยๆ จนตัวเองเรียนจบมหาวิทยาลัยเพราะสอบเทียบได้ระดับชั้นสูงกว่าอายุ เจ้าตัวก็เข้ามาฝึกงานในบริษัทของตัวเองและคุณลุงหรือป๊าของเซฮุนก็สร้างเรื่องให้ชานยอลกลับมาเจอลูกชายของตนอีกครั้ง เป็นเพราะตนที่ส่งครอบครัวของชานยอลไปดูแลบริษัทที่จีนเอง
“แล้วพี่ยังยืนยันคำเดิมไหมฮะ?” เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจบเซฮุนก็หันไปถามพี่ชายที่พ่วงตำแหน่งคนรักและบอดี้การ์ดข้างกาย
“แล้วพี่ควรตอบว่าไงล่ะ?” เซฮุนยิ้มกว้าง
“พี่มีแค่คำตอบเดียวครับ คือ พี่รักผม” ชานยอลดันหน้าผากน้องชายแก่แดดของตัวเองเบาๆ
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาเป็นว่าชานยอลก็ไม่ต้องทำหน้าที่บอดี้การ์ดแล้วล่ะมาฝึกงานเตรียมตัวเป็นเลขาให้ไอ้เด็กนี่ได้เลย ยังไงก็ช่วยสอนมันด้วยนะ ลุงเหนื่อยมาพอแล้ว”
“ไม่ๆ ป๊าก็ทำงานไปสิ ผมจะให้พี่ชานยอลเป็นบอดี้การ์ดให้ผม จะให้อยู่กับผม ป๊าต้องตามใจผมนะป๊าพรากเราสองคนมาแล้วนะ” คุณบิดาบังเกิดเกล้าถอนหายใจ
“เออๆ ยาวเชียวนะ จะไปไหนก็ไปเลยไปจำทำงาน” เซฮุนลากชานยอลออกจากห้องทำงานของป๊าแล้วเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง
“ผมรักพี่ที่สุดเลย ขอบคุณครับที่พี่กลับมา”
“รู้แล้วน่า ต่อจากนี้อย่าดื้ออีกนะ ถ้าดื้อล่ะก็นายตายแน่เซฮุน” เซฮุนยิ้มกว้างแล้วชูสามนิ้ว
“สัญญาฮะไม่ดื้อแน่นอน พี่ชานยอลผมจูบพี่ได้ไหม” คนโดนขอแก้มแดงแล้วเบนสายตาหนี
“เรื่องแบบนี้ใครเขาขอกันล่ะไอ้เด็กบ้า”
จูบหวานๆกับความรักหอมๆที่ลอยอวลอยู่รอบกายเรียกให้ชานยอลและเซฮุนตกอยู่ในห้วงรักของกันและกัน สายเชือกทอความสัมพันธ์นี้ให้แน่นยิ่งขึ้น และจะมิมีผู้ใดมาพรากเขาทั้งสองออกจากกันได้อีก
......
....
...
..
.
แม้แต่คุณป๊าที่แอบย่องตามมาดูนี่ก็เถอะ
“อย่างน้อยก็จบลงด้วยดีสินะ” ถ้าเซฮุนจำชานยอลไม่ได้ คิดดูสิว่าคุณป๊าจะเป็นตราบาปละน่าสงสารแค่ไหน แค่คิดน้ำตาก็จะไหล(ขอแชร์นะคะ)อยู่แล้วเนี่ย *กระซิกๆ*
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น