ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF/Fic EXO] HunYeol's Home Sweet Home [Sehun x Chanyeol]

    ลำดับตอนที่ #8 : [LF] คุณหนูสุดเอาแต่ใจกับบอดี้การ์ดสุดเนี้ยบ - 4 [END]

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 56


    เราว่า เราจะไม่แต่งฟิคยาวเกิน2ตอนล่ะ รู้สึกเหมือนมันไม่เวิร์คเลย ทุกคนคิดงั้นไหม??

    แต่พล็อตนี่เราชอบนะ T T


    ปล. ดูเอ็มวีแล้วใช่ไหมคะ? ดีใจจังที่เด็กๆคัมแบ็คสักที นูนารอจนจะแก่แล้วลูกขร๊า~~ พอดูไลฟ์จบร้องไห้เลยล่ะ มีใครเป็นเหมือนเราไหม?

    ปล2. ดูจากช่องออฟฟิคเชียลของเอสเอ้มเท่านั้นนะคะ อย่ารีอัพหรือกดดูจากที่อื่น เราต้องทำยอดวิวเพื่อใช้ชิงรางวัลในการขึ้นเสตรจของน้องๆนะคะ ^^

    ___________________________________________





    เช้านี้เซฮุนตื่นขึ้นมาก็ไม่พบใครอีกคนที่นอนร่วมห้องเลยสักนิด จะเจอก็แต่พื้นที่ว่างเปล่าที่เย็นเหยียบตามอุณหภูมิห้อง คาดว่าคุณบอดี้การ์ดจะลุกขึ้นไปนานแล้ว คุณหนูแสนเอาแต่ใจลุกขึ้นนั่งแล้วทำหน้ายุ่งๆตามผมเผ้า เรียวปากบางได้รูปก็บ่นพึมพำอะไรที่ไม่ได้ศัพท์

    “หายไปไหนของเขาเนี่ย ถ้าเจอตัวล่ะน่าดู” ขยี้ผมเผ้าให้ยุ่งเหยิงพอใจแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเสียที

    ชานยอลที่หนีลงมาเดินเล่นเลียบชายหาดก็เดินไปเรื่อยๆตามแนวความยาวของหาด เดินไปเรื่อยๆ เกลี่ยวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งและเท้าของชานยอลที่ย่ำอยู่บนทรายนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนที่ปลดแอกวางไว้เบื้องหลังได้ไม่ยากเลย

    ยามที่ไม่ต้องแบกภาระอะไรไว้บนบ่าอีก ดวงตากลมก็ฉายแววผ่อนคลายและประกายในตาที่สว่างสดใส ริมฝีปากสีคล้ายผลเชอร์รี่วาดรอยยิ้มกับสายลมที่พัดผ่านเอาซะเสื้อผ้าและเส้นผมลู่ไปตามแรงลม ชานยอลรู้สึกสบายและผ่อนคลายที่สุด

    “พี่ชานยอล~~” จะไม่สบายก็เพราะเสียงนี้นี่ล่ะ ชานยอลไม่ตอบแต่กลับเดินไปต่อเรื่อยๆโดยที่ไม่ยอมหยุด เจ้าของเสียงเรียกก็รีบวิ่งมาแล้วล็อคแขนของบอดี้การ์ดหนุ่มไว้

    “ทำไมพี่ไม่ปลุกผมแล้วหนีลงมาเดินเล่นแบบนี้คนเดียวได้ยังไง” ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและทำปากยื่นปากยาวแต่ชานยอลแค่ปรายตามองเดินต่อไป เซฮุนก็ต้องเดินตามไปโดยปริยาย เจ้าตัวสอดมือเข้าประสานกับฝ่ามือนิ่ม

    คนทั้งสองที่เดินจับมือกันเดินเลียบชายหาด เพียงแค่เดินไปเงียบๆไม่ได้เอ่ยบทสนทนาอะไรกันอีกแต่คนทั้งสองกลับอุ่นใจที่มีกันและกันอยู่ข้างกาย เงาของทั้งสองที่ทอดยาวไปตามพื้นทรายก็เคียงคู่กัน สายลมแสนสบายนั้นพัดแผ่วพลิ้วแต่ก็ทำให้ชานยอลรำคาญปอยผมที่คอยจิ้มหน้าจิ้มตา

    เซฮุนหยุดเดินส่งผลให้ชานยอลต้องหยุดเดินตาม ชานยอลหันมามองคุณหนูข้างกายพร้อมกับคอยทัดเส้นผมที่ใบหู เซฮุนปล่อยมือที่จับกันอยู่ก่อนที่จะเอื้อมออกไปเสยเส้นผมนิ่มให้ลู่ไปด้านหลังก่อนที่จะรวบมันแล้วทัดใบหูขาวให้ ชานยอลที่เผลอมองสบตากับคุณหนูในปกครองก็แก้มแดงเรื่อ เซฮุนไล้ปลายนิ้วกับสีแดงๆนั้นแผ่วพลิ้วก่อนที่จะพากันเดินจับมือเลียบตามแนวหาดทรายไปเรื่อยๆ

    “พี่ชานยอล” อยู่ๆเซฮุนก็เอ่ยเรียกคนข้างกาย ชานยอลหันมามองแล้วยิ้มบางให้ แต่เซฮุนกลับแย้มยิ้มเสียเต็มแก้มกลับคืน เซฮุนน่ะชอบให้พี่ชานยอลยิ้มจังเลยนะ~

    “ผมถามอะไรพี่ได้ไหม?” ชานยอลไม่ตอบแต่พยักหน้าให้อนุญาต ชานยอลเบี่ยงตัวไปยืนหันหน้าเข้าหาทะเลแล้วยืนมองพราวน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์

    “ผมอยากรู้เรื่องของพี่ ความลับของพี่ ... และพี่ต้องตอบในฐานะที่ผมเป็นคนที่พี่ต้องดูแล” ชานยอลหันหน้ากลับมาแล้วยิ้ม ภาพนั้นทำเอาเซฮุนตาพร่าไปคล้ายดั่งเห็นภาพนางฟ้ากับปีกสีขาวท่ามกลางแสงของอาทิตย์ที่แผดแสงอันร้อนแรงมายังโลกมนุษย์

    “นายสงสัยไหมว่าทำไมฉันถึงมาเป็นบอดี้การ์ดให้นาย .. นายสงสัยไหมทำไมฉันถึงรู้ว่าต้องปลุกนายยังไงทั้งๆที่ฉันเพิ่งเข้ามาทำงาน” ชานยอลแล้วมองหน้าเซฮุนที่กำลังทำหน้าสงสัยเต็มที่เลย ชานยอลหมุนตัวกลับไปแล้วใช้นิ้วจิ้มที่หัวใจของอีกฝ่ายอีกครั้ง

    “นายจำฉันไม่ได้จริงๆสินะ ... ฉันบอกว่าฉันเป็นของนายมาตั้งแต่ต้น ซึ่งมันก็หมายความตามนั้น” แต่เซฮุนก็ยังไม่เข้าใจ เจ้าตัวเลยใช้นิ้วมือแตะริมฝีปากของเซฮุนเบาๆ

    “สัญญาของนายฉันไม่เคยลืมนะ พ่อของนายส่งฉันกลับมาหานายเพื่อกลับมาเป็นของนายอีกครั้งยังไงล่ะเซนี่”

    เพียงแค่ได้ยินชื่อเล่นที่ลืมเลื่อนไปแล้ว ในห้วงความคิดของเซฮุนก็นึกไปถึงเด็กตัวเล็กผอมและผิวขาวนวลที่มักจะมาเล่นกับตนที่บ้านเสมอ เด็กน้อยอายุ5ขวบที่เป็นพี่ของเขาแต่กลับอ่อนแอและชอบโดนคนอื่นแกล้งเป็นประจำจนเซฮุน3ขวบต้องตามไปปกป้องเสมอ เซฮุนมักจะโดนดุเสมอที่ชอบไปหาเรื่องเด็กนักเรียนคนอื่นแต่เด็กตัวเล็กก็มักจะออกโรงปกป้องน้องเซนี่เสมอ

    “ชานนี่เหรอ?” ชานยอลยิ้มแล้วสวมกอดเซฮุนไว้ก่อนที่หยดน้ำตาแห่งความปิติจะไหลริน

    “จำฉันได้สักทีนะ ฉันคิดว่าชาตินี้นายจะลืมฉันไปหมดแล้วเสียอีก”

    เดี๋ยวนะ.. นี่มันเรื่องอะไรกัน? ถึงจะจำได้ว่าคนตรงหน้าคือเด็กตัวเล็กผอมๆที่ชื่อชานนี่ แต่ทำไมเขาถึงลืมล่ะ? แล้วสัญญาอะไร?

    คนที่จะให้คำตอบได้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นล่ะ ... ป๊าของเขาเอง!!


    หลังจากที่ทานอาหารเช้าแล้วก็ออกเดินทางกลับมาบ้านให้ไวที่สุด เซฮุนอาสาขับรถเองแล้วชานยอลก็เลยได้นอนพักอีกครั้ง ส่วนสองเพื่อนซี้ก็ไม่ต้องไปส่งเพราะยังไงมันก็เอารถมา ตอนนี้สิ่งที่คิดในหัวคือต้องกลับบ้านไปถามป๊าให้ไวที่สุด!

    เมื่อกลับมาถึงบ้านเซฮุนก็รีบลากชานยอลให้ขึ้นไปยังห้องทำงานของป๊าทันทีเพราะรู้ว่ายังไงป๊าก็ต้องทำงานอยู่ที่ห้องนี้ยามที่ป๊าไม่ต้องบินไปต่างประเทศ บานประตูถูกเปิดเข้าไปเลยโดยที่ไม่มีการเคาะขออนุญาต เออไอ้ลูกชายคนนี้นิ!

    “อะไรของแกห๊ะไอ้เซฮุน อ้าวแล้วลากบอดี้การ์ดแกมาทำไมล่ะนั่น”

    “ป๊าบอกมานะว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง” ดวงตาคมดุเบนจากลูกชายไปที่บอดี้การ์ดของลูกชายที่ยักไหล่ให้อย่างไม่รู้ไม่ชี้

    “ความลับแตกแล้วสินะ” ว่าแล้วคุณชายท่านก็วางงานแล้วยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเสียเสียงดัง จริงๆไม่ต้องปิดก็ได้มั้ง

    “ป๊าเล่าทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!” เลิกคิ้วขึ้นสูงมองลูกชายที่แง๊วๆแถมยังจับมือของบอดี้การ์ดคนใหม่ไม่ยอมปล่อย คุณท่านก็ยิ้มมุมปากแล้วยกสองมือประสานกันบนโต๊ะทำงาน

    “ก็คนที่แกจับมือน่ะ น้องชานนี่ของแกไง ถึงแกจะลืมเรื่องบางเรื่องไปแต่ในใจของแกก็ต้องมีเขาบ้างใช่หรือเปล่าล่ะ” เมื่อไม่มีทีท่าว่าลูกชายจะตอบผู้เป็นพ่อก็ถอนหายใจเบาๆ

    “ฉันเป็นคนพรากเขาไปจากแก ตอนนี้ฉันก็เอาเขามาคืนแกแล้วไงตามคำสัญญาของแกที่บอกว่าจะแต่งงานกับเขาน่ะ”



    “แง๊~” เสียงร้องของเด็กชายตัวเล็กผอมแห้งทั้งๆที่อายุก็5ขวบเข้าไปแล้วแต่ตัวก็ยังเล็กกว่าเพื่อนคนอื่นๆจนเด็กตัวโตๆในห้องแกล้งเอาน่ะสิ พอได้ยินเสียงร้องไห้เท่านั้นล่ะเด็กน้อยที่มักจะตามติดพี่ชายตัวเล็กมาโรงเรียนด้วยก็รีบวิ่งไปทันที

    “ทำอะไรชานนี่ของเรา!! อยากตายใช่ไหม!!” แล้วเซฮุนเด็กตัวสูงพอๆกับเด็กพวกนั้นก็ตรงเข้าไปผลักตัวการที่ทำให้พี่ชานนี่ของตัวเองร้องไห้ แล้วตามด้วยกำปั้นที่ทุบเด็กอีกคน

    “เซนี่พอแล้ว ฮือ...” เซฮุนละจากเด็กคนนั้นที่ร้องไห้จ้าแล้วเข้ามาดูพี่ชานนี่ที่นั่งยกสองมือปาดน้ำตา

    “พี่ไม่เป็นไรแล้ว” เซฮุนกอดพี่ชายไว้แล้วลูบผมเบาๆ

    “เพี้ยง~ ไม่เจ็บนะฮะ เซนี่จะเป่าๆให้นะ เซนี่จะปกป้องชานนี่เอง”


    แล้ววันนั้นเซฮุนก็โดนคุณป๊าฟาดไม้เรียวไปหนึ่งทีถ้วน เด็กน้อยร้องไห้แล้วกอดพี่ชานนี่เอาไว้แล้วบอกว่าป๊าไม่เข้าใจๆๆๆ

    “ป๊าไม่เข้าใจอะไรไหนพูดมาสิเซฮุน” เด็กน้อยปาดน้ำตาทิ้งแล้วเดินมายืนจังก้ากางแขนปกป้องพี่ชานนี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาไว้

    “ก็ชานนี่โดนแกล้ง เซฮุนก็ต้องปกป้อง จะให้เจ้าสาวของเซฮุนร้องไห้ได้ยังไงกัน!!” ผู้เป็นบิดาหัวเราะแล้วเลิกคิ้วจิ้มหน้าปากลูกชายเบาๆ

    “แล้วพี่เขาบอกเหรอว่าจะเป็นเจ้าสาวของเราน่ะเซฮุน” แล้วสองสายตาก็พุ่งตรงไปหาเด็กน้อยตัวเล็กที่นั่งทำตาแป๋วอยู่

    “ชานนี่จะแต่งงานกับเซนี่ไหม?” ตากลมกระพริบปริบๆมองคนโน้นที คนนี้ทีแล้วก็ก้มหน้าลงด้วยความอาย

    “อื้อ แต่งสิ” พยักหน้ารับเบาๆ เซฮุนหันไปหาคุณป๊าแล้วยิ้มกว้าง

    “เห็นไหมล่ะ ชานนี่จะเป็นเจ้าสาวของเซฮุนเพราะฉะนั้นคุณป๊าห้ามตีเซฮุนอีกนะ!” แล้วคุณป๊าก็หัวเราะร่าเสียงสดใส

    พี่ชานนี่ของเซฮุนนั้นน่ารัก ตากลมโต กลีบปาก็สีหวานน่ารัก เซฮุนเลยทั้งหวงและติดกับพี่คนนี้ขนาดว่าพี่ชานนี่ไปเรียนเซฮุนก้ต้องไปด้วยแม้ว่าจะได้นั่งในห้องเรียนบ้าง นอกห้องบ้างก็ตาม ความสุขของเด็กน้อยมีอยู่ได้ไม่นาน พี่ชานนี่ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่จีนเพื่อไปขยายธุรกิจของบริษัทที่ร่วมหุ้นกับป๊าของตัวเอง

    วันนั้นเซฮุนร้องไห้ไม่ยอมหยุดแถมยังกอดพี่ชานนี่ของตนไม่ยอมปล่อย พี่ชานนี่เองก็เช่นกันถึงจะไม่เข้าไปใจกับคำว่า ‘บอกลาน้องสิลูก เราจะย้ายไปอยู่ที่จีน’ เท่าไหร่นักก็ตาม แต่แค่รู้ว่าจะไม่ได้อยู่กับน้อง หยดน้ำตามันก็ไหล พอเซฮุนรู้ว่าพี่ชานนี่ในอ้อมกอดร้องไห้เจ้าตัวก็ปาดน้ำตาทิ้งแล้วช่วยปาดน้ำตาให้พี่ชานนี่ด้วย

    “อย่าร้องนะฮะชานนี่ เซนี่จะไม่ให้พาชานนี่ไปได้หรอก โตขึ้นเราจะแต่งงานกันแล้วก็จะอยู่ด้วยกันนะ” พี่ชานนี่พยักหน้ารับ เซฮุนก็กอดพี่ชายตัวเล็กไว้ไม่ยอมให้ใครมาพรากไปได้หรอก
    “อื้อ...” เหมือนดั่งคำสัญญาเซฮุนกอดพี่ชานนี่ไว้แน่น

    ผ่านไปไม่นานเด็กน้อยทั้งสองก็หลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน และผู้เป็นบิดาเลยถือโอกาสมาแยกเด็กตัวน้อยออกด้วยความที่เป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้วก็เลยลืมตาขึ้นมอง ก็รู้อยู่หรอกว่าต้องไปแต่ใจจริงก็ไม่อยากไป ไม่อยากให้น้องลืมตัวเอง แม้ไม่มีอะไรรับประกันว่าเซนี่จะลืมตนเองหรือไม่ ก็แค่หวังว่าน้องชายที่รักจะไม่ลืมตัวเอง

    ...เซนี่อย่าลืมพี่นะ แล้วพี่จะกลับมา ห้ามลืมพี่นะ พี่จะกลับมาแต่งงานกับเซนี่...

    หลังจากที่ตื่นมาแล้วเซฮุนก็ไม่เห็นพี่ชานนี่ก็ร้องไห้ไม่หยุด หายใจไม่ทันจนเกือบช็อคจนต้องพาตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเด็กน้อยก็จำพี่ชานนี่ไม่ได้แล้ว ความทรงจำบางส่วนหายไปเนื่องจากช็อคและสมองหยุดจดจำเรื่องราวบางส่วน

    แม้ว่าน้องเซนี่จะลืมตัวเองแต่ชานนี่ หรือ ชานยอลก็ยังคงได้รับข่าวสารเกี่ยวกับน้องชายที่ตัวเองรักอยู่เรื่อยๆ จนตัวเองเรียนจบมหาวิทยาลัยเพราะสอบเทียบได้ระดับชั้นสูงกว่าอายุ เจ้าตัวก็เข้ามาฝึกงานในบริษัทของตัวเองและคุณลุงหรือป๊าของเซฮุนก็สร้างเรื่องให้ชานยอลกลับมาเจอลูกชายของตนอีกครั้ง เป็นเพราะตนที่ส่งครอบครัวของชานยอลไปดูแลบริษัทที่จีนเอง



    “แล้วพี่ยังยืนยันคำเดิมไหมฮะ?” เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจบเซฮุนก็หันไปถามพี่ชายที่พ่วงตำแหน่งคนรักและบอดี้การ์ดข้างกาย

    “แล้วพี่ควรตอบว่าไงล่ะ?” เซฮุนยิ้มกว้าง

    “พี่มีแค่คำตอบเดียวครับ คือ พี่รักผม” ชานยอลดันหน้าผากน้องชายแก่แดดของตัวเองเบาๆ

    “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาเป็นว่าชานยอลก็ไม่ต้องทำหน้าที่บอดี้การ์ดแล้วล่ะมาฝึกงานเตรียมตัวเป็นเลขาให้ไอ้เด็กนี่ได้เลย ยังไงก็ช่วยสอนมันด้วยนะ ลุงเหนื่อยมาพอแล้ว”

    “ไม่ๆ ป๊าก็ทำงานไปสิ ผมจะให้พี่ชานยอลเป็นบอดี้การ์ดให้ผม จะให้อยู่กับผม ป๊าต้องตามใจผมนะป๊าพรากเราสองคนมาแล้วนะ” คุณบิดาบังเกิดเกล้าถอนหายใจ

    “เออๆ ยาวเชียวนะ จะไปไหนก็ไปเลยไปจำทำงาน” เซฮุนลากชานยอลออกจากห้องทำงานของป๊าแล้วเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง

    “ผมรักพี่ที่สุดเลย ขอบคุณครับที่พี่กลับมา”

    “รู้แล้วน่า ต่อจากนี้อย่าดื้ออีกนะ ถ้าดื้อล่ะก็นายตายแน่เซฮุน” เซฮุนยิ้มกว้างแล้วชูสามนิ้ว

    “สัญญาฮะไม่ดื้อแน่นอน พี่ชานยอลผมจูบพี่ได้ไหม” คนโดนขอแก้มแดงแล้วเบนสายตาหนี

    “เรื่องแบบนี้ใครเขาขอกันล่ะไอ้เด็กบ้า”

    จูบหวานๆกับความรักหอมๆที่ลอยอวลอยู่รอบกายเรียกให้ชานยอลและเซฮุนตกอยู่ในห้วงรักของกันและกัน สายเชือกทอความสัมพันธ์นี้ให้แน่นยิ่งขึ้น และจะมิมีผู้ใดมาพรากเขาทั้งสองออกจากกันได้อีก




    ......

    ....

    ...

    ..

    .



    แม้แต่คุณป๊าที่แอบย่องตามมาดูนี่ก็เถอะ


    “อย่างน้อยก็จบลงด้วยดีสินะ” ถ้าเซฮุนจำชานยอลไม่ได้ คิดดูสิว่าคุณป๊าจะเป็นตราบาปละน่าสงสารแค่ไหน แค่คิดน้ำตาก็จะไหล(ขอแชร์นะคะ)อยู่แล้วเนี่ย *กระซิกๆ*



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×