ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] KrisYeol : A Tale of Love [Kris x Chanyeol]

    ลำดับตอนที่ #8 : SF :: Next to you [Ft. LuMin]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 58


    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เขามาแว๊วววววววววววววววววววว

    มีคนคิดถึงเราไหม ขอเสียงโหน่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย #ทำไมเงียบล่ะ

    คิดถึงทุกคน คิดถึงคริสยอลเหมือนเดิม TT3TT #อ้อนไทม์ งานเยอะแยะมากเลย ฮืออออออออ


    ปล. always with KrisYeol





    ________________________________________________







    "พี่มินซอกครับทำไมเมื่อคืนพี่ไม่เห็นตอบข้อความผมเลยล่ะครับ" มันคงดูน่ารักที่เห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่มาทำหน้ากระเง้ากระงอด ทำตัวโยเยเป็นเด็กน้อยอายุสามขวบ แต่ไม่ใช่กับคิมมินซอกคนนี้
     
    "ขอโทษนะพอดีพี่อ่านหนังสือน่ะ พี่ขึ้นเรียนก่อนนะ" แล้วรุ่นพี่ตัวกลมก็เดินเลี่ยงไปทันที ดวงตาคมมองตามไปก็เห็นว่ารุ่นพี่ที่แอบชอบกำลังเดินเข้าไปใครอีกคน .. รุ่นพี่ลู่หาน คนที่ลือกันว่าเป็นแฟนกับมินซอก
     
    "ไง.. กินข้าวมายังมึง" แรงตบที่ไหล่เบาๆเรียกให้คริสที่เหม่อมองตามมินซอกและลู่หานที่คุยเล่นหัวเราะอย่างสนุกให้หันกลับมามองข้างตัว
     
    "ยังเลยว่ะ" เพื่อนสนิทยิ้มร่าแล้วยกแขนขึ้นกอดคอคริส
     
    "งั้นก็ไปกินข้าวกัน" รอยยิ้มกว้างที่มองยังไงก็สดใสคล้ายกับพระอาทิตย์ที่ทอแสงยามเช้าเผยให้เพื่อนร่างสูงกว่าที่ยืนทำหน้าหงอยหมดอาลัย รู้ว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ทำหน้าแบบนี้ ..และก็รู้ด้วยว่าคริสชอบรุ่นพี่มินซอก
     
    "กินไม่ลงว่ะไอ้ชานยอล" เจ้าของชื่อมุ่ยหน้าใส่
     
    "ไม่ได้ยังไงมึงก็ต้องไปกินข้าวเดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาหรอกมึง ไปกับกูเลยเร็วๆ" แล้วชานยอลก็ลากคอคริสจากใต้ตึกคณะไปโรงอาหารกลางทันที คนที่โดนลากคอก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์แต่ก็ยอมเดินไปตามแรงลากนั้น
     
    เมื่อมาถึงโรงอาหารกลางได้ชานยอลก็จับไหล่คริสให้ลงนั่งที่โต๊ะว่างแล้วอาสาเดินไปซื้อข้าวเช้ามาให้  ไม่นานชานยอลก็เดินยิ้มร่ามาพร้อมกับถาดอาหารเช้า ถาดใบใหญ่ที่ชานยอลยกมาให้แทบจะทุกเช้า
     
    ชามข้าวต้มร้อนๆถูกดันไปให้ตรงหน้าของคนที่นั่งทำหน้านิ่ง ชานยอลยิ้มให้กับคนข้างตัวกว้างๆก่อนที่จะก้มหน้าลงจัดการกับมื้อเช้าของตัวเอง แต่คริสก็เซ็งเกินกว่าที่จะกินอะไรได้ลง ไม่ใช่เขาไม่รู้นะว่าทำไมเมื่อคืนมินซอกถึงไม่ตอบข้อความเขา เพราะเอาแต่คุยกับลู่หาน... อะไรๆก็ลู่หาน
     
    "อ้าปากสิ" ชานยอลตักข้าวต้มร้อนๆขึ้นมาเป่าให้เย็นลงแล้วยื่นช้อนไปจ่อที่ริมฝีปากของคริส ดวงตาคมปรายสายตามองแต่ก็ไม่ยอมอ้าปากสักที
     
    "กินเถอะมึง เดี๋ยวปวดท้องนะ" ชานยอลยิ้มให้ขยับปลายช้อนเข้าไปใกล้อีก คริสก็เลยจำใจอ้าปากรับข้าวต้มช้อนนั้นมา
     
    "วุ่นวายจริงว่ะมึง" ชานยอลยู่ปากใส่ทำท่าเหมือนจะงอนแต่แล้วก็ยิ้มกว้างแล้วตักข้าวต้มป้อนเพื่อนตัวสูงไปโดยไม่บ่นและไม่ยอมแตะชามตัวเองจนกว่าคนตัวสูงข้างๆจะกินหมด
     
    เป็นภาพที่ค่อนข้างชินตาของนักศึกษาหลายคนที่จะเห็นผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีแต่ทำหน้าดุมานั่งนิ่งๆโดยมีเพื่อนอีกคนที่ยิ้มแย้มสดใสมาคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ถ้ามองแค่ภายนอกมันก็คงจะน่ารักดี
     
    แต่ไม่ใช่สำหรับชานยอลเลยสักนิด ...
     
    คริสชอบรุ่นพี่มินซอกที่อยู่คณะเดียวกัน .. ชานยอลรู้
     
    คริสไม่ชอบรุ่นพี่ลู่หาน เพราะพี่ลู่หานดูจะพิเศษกับพี่มินซอก .. ชานยอลรู้
     
    คริสแคร์แค่พี่มินซอก .. ชานยอลรู้
     
    ชานยอลรักคริส .. คริสไม่รู้
     
    เพราะแบบนี้ตัวเขาถึงต้องคอยทำให้เพื่อนร่างสูงคนนี้ยิ้มให้ได้ ต้องคอยดูแลเพราะคริสจะไม่ดูแลตัวเอง ชานยอลไม่ยอมหรอกนะถ้าคริสจะป่วยน่ะ มันไม่ดีเลย..
     
    "เย็นนี้ไปเกมเซ็นเตอร์กันไหม" หลังจากที่ชานยอลจัดการอาหารของตัวเองจนหมดก็เงยหน้าขึ้นถามเพื่อนที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน
     
    "ก็ดีว่ะเบื่อๆ" ชานยอลวาดรอยยิ้มสดใสแต่ข้างในมันเจ็บแปลบ ข้อดีของชานยอลคือ ไม่ว่าจะรู้สึกแบบไหนรอยยิ้มที่ฉายออกมามักจะเป็นรอยยิ้มที่สดใสดั่งพระอาทิตย์ยามเช้าเสมอ
     
    "เอาน่า.. เดี๋ยวเลี้ยงเกมนึง~" ชานยอลยกแขนขึ้นกอดคอคนตัวสูงไว้แล้วชะโงกหน้าส่งยิ้มทะเล้นใส่ คริสปรายสายตามองแล้วก็หลุดยิ้ม
     
    "ฮั่นแน่~~" ชานยอลยิ้มล้อเลียนใส่ คริสก็ยกยิ้มแล้วผลักหัวเพื่อนไปสักที คริสยิ้มได้หัวใจมันก็พองโต
     
    "ขอบใจนะมึงนี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยว่ะ" ลูกแก้วสีสวยไหววูบเพียงเสี้ยวก่อนที่จะวาดโค้งมน
     
    "รู้แล้วน่า" หัวใจที่พองโตค่อยๆฟีบลงจนไม่เหลือสภาพ หัวใจสั่นไปหมดทั้งอก
     
     
     
    ทำดีให้ตายก็เป็นได้แค่เพื่อนเหรอ ... มองฉันบ้างสิคริส มองมาที่ตรงนี้ ข้างๆนายบ้างสิ
     
     
     
     
     
     
     
     
    "พี่มินซอกครับ" มินซอกยิ้มแหยๆใส่ วันนี้มินซอกมาเรียนพร้อมลู่หาน
     
    "โทษทีนะพวกพี่มีควิซว่ะ มินซอกไปกันเถอะ" ว่าแล้วลู่หานก็โอบไหล่แล้วจะพามินซอกขึ้นตึกเรียน
     
    "เดี๋ยว!" คริสเอื้อมไปคว้าข้อมือของมินซอกไว้ 
     
    "คริสพวกพี่รีบ" มินซอกปัดมือคริสออกแล้วเดินขึ้นตึกไปพร้อมกับลู่หาน ดวงตากวางเฉี่ยวหันกลับมามองแล้วยกยิ้มเย้ยใส่
     
    "คริสไป...." คริสสะบัดมือที่จับไหล่ตัวเองออกแล้วเดินขึ้นตึกตามไป
     
    "คริส..." ชานยอลที่วันนี้ไม่ค่อยสบายก็ไม่มีแรงที่จะตามไป ขนาดแค่เดินมามหาวิทยาลัยยังแทบจะล้มอยู่แล้ว
     
    "ไปห้องพยาบาลเถอะชานยอล เดี๋ยวไอ้คริสพวกกูไปดูให้เอง" เพียงแค่นั้นชานยอลก็โอนอ่อนไปตามแรงจูงแล้ว
     
    ไม่รู้ว่านอนหลับไปนานหรือเปล่า แต่พอชานยอลลืมตาขึ้นมาก็เห็นขาของใครสักคนที่วางอยู่ข้างตัว พอเงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นว่าเป็นคริสที่นั่งกอดอกพิงหัวเตียงแล้วนั่งหลับ
     
    ริมฝีปากสีอ่อนระบายยิ้มก่อนที่จะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นเบาๆเพื่อไม่ให้คนที่มาแอบนั่งหลับตื่นแต่เพียงแค่ชานยอลขยับคริสก็สะดุ้งตื่นเสียแล้ว
     
    "เฮ้ยหน้ามึง!!" ชานยอลที่หัวเราะขบขันเพื่อนแต่พอเห็นใบหน้านั้นชัดๆก็ต้องตกใจตาโตที่เห็นรอยช้ำที่มุมปากของคนมาเฝ้า
     
    "จิ๊บๆว่ะ" คริสไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ชานยอลขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วแตะปลายนิ้วใกล้รอยช้ำนั้น ดวงตากลมฉายแววระริกพร้อมกับม่านน้ำคลอหน่วย คริสเจ็บแค่ไหน ชานยอลปวดมากกว่า
     
    "คริส.. กูขอล่ะเลิกยุ่งกับพี่มินซอกเถอะนะ" ชานยอลกลัว.. กลัวว่าคริสจะเจ็บตัวมากกว่าอะไรทั้งนั้น
     
    "อะไรของมึง" ดวงตาคมมองเพื่อนด้วยสายตาดุดัน
     
    "กูไม่อยากเห็นมึงเจ็บ" ชานยอลหรุบสายตาลงต่ำ "กูไม่ชอบเลย"
     
    "แล้วมึงจะมายุ่งอะไรกับเรื่องของกู" แค่ประโยคเดียวของคริสก็ทำให้หัวใจชาวาบ ลูกแก้วสีสวยไหวระริก ม่านน้ำที่คลอหน่วยไหลหยด คริสที่ไม่เคยเห็นชานยอลในรูปแบบนี้ก็เงอะงะทำอะไรไม่ถูก
     
    "กูก็ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอก... ถ้ากูไม่ได้รักมึง" ชานยอลก้มหน้าหลบสายตา แค่คำพูดก็ทำให้ทั้งตัวชาวาบแล้ว ถ้าได้มองสบกับดวงตาคมคู่นั้นอีกร่างคงแหลกสลาย
     
    "กูไม่อยากเห็นมึงเจ็บอีกแล้ว มึงคงไม่สนใจแต่กูก็เจ็บไม่แพ้มึงหรอก" หัวคิ้วเข้มขมวดมุ่น
     
    "มึง... รักกู?" ชานยอลเงยหน้าขึ้นมอง หยดน้ำตายังหยดแหมะลงมาที่แก้มใส คริสเกลี่ยปลายนิ้วเช็ดให้ เห็นหยดน้ำใสๆนั่นแล้วใจมันกระตุกยังไงก็ไม่รู้สิ
     
    "มึงไม่เคยมองรอบตัวมึงเลยสักนิด มึงก็มองแค่พี่มินซอกแค่นั้นแหละ" ชานยอลขยับตัวลงจากเตียงแต่อาการมึนหัวก็ทำเอาพื้นเอียงอีกรอบ คริสถลาเข้ามารับร่างของชานยอลไว้ 
     
    "ปล่อย" ชานยอลสะบัดตัวออกแล้วเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายที่มุมห้องแล้วเดินออกไปเลยทิ้งให้คริสมองตามด้วยสายตาอ่อนล้า
     
     
     
    เขาไม่เคยเห็นชานยอลเป็นแบบนี้ ชานยอลไม่เคยผลักไส ชานยอลไม่เคยเมิน ชานยอลมักจะอยู่ข้างๆและคอยเข้ามาหาเขาเสมอ .... ตอนนี้ทำไมรู้สึกเจ็บจังเลยวะ
     
     
     
     
     
     
     
     
    คริสยังคงมานั่งแกร่วอยู่ที่ใต้ตึกแต่เช้าเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือไม่มีชานยอลอยู่ใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อวานที่ชานยอลเดินหนีไปแล้วคริสก็ติดต่อชานยอลไม่ได้อีกเลย
     
    วันนี้พวกเขามีเรียนเช้า วิชาที่มินซอกลงมีเรียนบ่าย ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆก็ไม่เห็นเงาของชานยอลเลยสักนิด ปกติชานยอลจะเข้ามาหาเขา จะมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆเสมอ
     
    นั่งแกร่วอยู่ไม่นานชานยอลก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสเช่นเดิม จะต่างออกไปหน่อยก็ตรงที่รอบดวงตานั้นบวมจนสังเกตเห็น
     
    "มาแล้วหรอมึงมาไวจังวะ กินข้าวยังไปกินข้าวกันไหม" ชานยอลเอียงคอยิ้มกว้างใส่ เป็นชานยอลคนเดิม เป็นแฮปปี้ไวรัสคนเดิม เป็นชานยอลเพื่อนที่ดีของคริสคนเดิม
     
    "ไปดิ"
     
    ชานยอลยังคงเป็นเหมือนเดิม ยังดูแลคริส ยังคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้เช่นเดิม ใบหน้าน่ารักนั้นยังคงประดับด้วยรอยยิ้มกว้างเหมือนเดิม ...แต่ใครล่ะจะรู้ว่าข้างในใจมันกำลังร้องไห้จนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว
     
    "มึง"
     
    "หื้ม?" ชานยอลเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวของตัวเองแล้วส่งยิ้มให้
     
    "ที่มึงพูดเมื่อวาน....." ชานยอลวางช้อนลงแล้วหันหน้ามามองคริสด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม
     
    "กูพูดว่ายังไง มึงได้ยินยังไงก็แบบนั้นนั่นล่ะ ไม่ต้องคิดอะไรหรอกกูรู้คำตอบและความรู้สึกของมึงดี" ว่าเสร็จก็ก้มหน้าลงกินข้าวต่อ ไม่ยอมเงยหน้าสบดวงตาคมคู่นั้นอีกเลย จะสบตาอีกทำไมให้หัวใจยิ่งเจ็บ
     
    "มึงว่ากูควรเลิกชอบพี่มินซอกไหม" ชานยอลทำหน้าสงสัยมองคริสแต่แล้วก็ยกยิ้มให้
     
    "แล้วแต่มึงเถอะถามตัวเองถามหัวใจมึงดู.. แต่แค่อย่าลืมว่ากูยังอยู่ข้างๆมึงเสมอ ถ้าเหนื่อยก็มาพิงไหล่กูก็ได้"
     
    "ทำไมมึงต้องทำเพื่อกูมากมายด้วยวะ" คริสขมวดคิ้วมุ่นแต่ชานยอลกลับยกยิ้มหวาน หวานละมุนที่มาจากใจ หวานจนคริสเผลอตัวจ้องเสียนาน
     
    "เหตุผลของกู... ก็แค่รัก เหมือนมึงที่อยากทำอะไรให้พี่มินซอกนั่นแหละ กูแค่อยากให้มึงมีความสุข ... เอาล่ะกูไปเก็บจานก่อน" แล้วชานยอลก็ลุกขึ้นรวบจานของตัวเองและคริสไปเก็บให้ คริสทำได้แค่มองตามแผ่นหลังเล็กแต่ทว่ามันกลับดูเข็มแข็งแต่ก็อ่อนล้าเช่นเดียวกันเดินห่างออกไป
     
    "ต่อให้มึงจะเลิกหรือไม่เลิกรักพี่เขา มึงก็ไม่เคยมองเห็นกูอยู่ดีนั่นแหละ"
     
     
     
    คิดว่าชานยอลแอบรักคริสมากี่ปี 1ปี 2ปี อย่างนั้นหรือ? ไม่เลย... ชานยอลแอบชอบคริสมา 6ปีแล้ว
     
     
     
    ต่อให้คริสจะเลิกชอบมินซอกได้จริง คนที่จะได้ครอบครองหัวใจของเพื่อนคนนี้ก็คงไม่ใช่ปาร์คชานยอลอยู่ดี .. แต่ถ้ามันจะเป็นตัวเขาเองก็คงจะดีไม่น้อยเลย
     
     
     
     
    ช่วยหันมามองตรงนี้ มองข้างๆตัวหน่อยได้ไหม ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ... โปรดรับรู้หน่อยว่าตรงนี้ยังมีฉัน
     
     
     
     
     
     
     
     
    "พี่มินซอกครับ" แทบจะทุกวันที่ต้องเห็นภาพผู้ชายตัวสูงที่มาตามอ้อร้อมินซอก ชินตาแต่ไม่ชินใจสักนิด ฟันขาวกัดริมฝีปากอย่างห้ามใจไว้ไม่ให้สั่น
     
    "คริส.. เลิกยุ่งกับพี่เถอะนะ"
     
    "พี่รำคาญผมใช่ไหม" มินซอกไม่กล้าตอบน้อง คริสไม่ใช่คนนิสัยไม่ดี แต่เขาไม่ชอบให้คริสมาตามจีบเขาแบบนี้ ไม่รู้หรือไงว่าคนที่ยืนหันหน้าหนีอยู่ข้างหลังนายเขาจะขาดใจเอาน่ะ
     
    "พี่ไม่ได้รำคาญ" คริสวาดรอยยิ้มกว้างก่อนที่มันจะค่อยๆจางหายไป "แต่พี่มีแฟนแล้ว เลิกตามพี่เถอะ"
     
    "พี่ลู่หานใช่ไหมครับ" มินซอกพยักหน้ารับเบาๆ ดวงตาเรียวหันไปมองที่นอกตึกก็เห็นว่าลู่หานขับรถมาจอดที่หน้าตึกพร้อมกับลดกระจกลงมามองเขา
     
    "พี่กลับแล้วนะ คริสก็มีคนที่ดีพร้อมอยู่ข้างตัวแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ลองหันไปมองดูล่ะ" มินซอกทิ้งรอยยิ้มใจดีไว้ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถของลู่หานที่ขับมาจอดรอรับ
     
    "ข้างๆตัวอย่างนั้นเหรอ" คริสทอดสายตามองตามมินซอกที่เดินไปขึ้นรถ ชานยอลที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไว้ คริสคงเสียใจมากแน่ๆ
     
    "คริส" เสียงเอ่ยเรียกมาพร้อมกับสองแขนที่วาดกอดเอวเขาจากด้านหลัง ชานยอลไม่สนแล้วว่าใครจะมองหรือพูดว่ายังไง ชานยอลไม่สนใครทั้งนั้นเพราะในสายตาตอนนี้มีแค่แผ่นหลังกว้างที่สั่นเบาๆเท่านั้น
     
    "ไม่เป็นไรนะ มึงยังมีกูอยู่นะ" ชานยอลอิงแอบหน้าผากซบแผ่นหลังกว้าง คริสที่มองไกลออกไปก้มหน้าลงมองสองมือที่โอบกอดเขาเอาไว้พร้อมกับเสียงพูดเบาๆที่บอกเขาว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เขาจะต้องไม่เป็นไรอีกแปบมันก็จะดีขึ้นเอง
     
    "คนข้างตัวเหรอ" พลันคำพูดของชานยอลที่เคยพูดไว้ก็แล่นผ่านโสตอีกครั้ง คนที่อยู่ข้างๆ...
     
    หรือบางทีเขาอาจจะต้องหยุดเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายแล้วหันมองข้างตัวเสียบ้าง
     
    "ชานยอล" น้ำเสียงทุ้มแต่ทว่าอบอุ่นเอ่ยขึ้นพร้อมกับสองมือที่จับแขนของชานยอลที่โอบเขาออกจากตัว
     
    "อ... อะไร" น้ำเสียงสั่นๆเอ่ยถาม ใจหายวาบตอนที่ได้ยินเสียงทุ้มนั้นเรียกตัวเอง หรือเขาจะยุ่งวุ่นวายมากไปกันนะ ขอโทษแต่ฉันรักนายมากจนไม่อยากเห็นนายเจ็บเลย
     
    "มึงว่ากูควรทำยังไงดี" ดวงตากลมหม่นแสงลงแล้วก้มหน้าซ่อนสายตาและสีหน้าที่เจ็บปวดเอาไว้
     
    "เดี๋ยวมึงก็เข้มแข็งเอง เชื่อกูสิ" ชานยอลเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้างให้ รอยยิ้มสดใสของแฮปปี้ไวรัส
     
    "แล้วกูต้องทำยังไง" ชานยอลเอียงคอทำหน้างง คริสเพียงแค่ระบายยิ้มบางตอบกลับให้
     
    "ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่เป็นมึงแบบที่มึงเป็น" เป็นแบบที่มึงไม่เคยมองเห็นกูคนเดิมต่อไป .. คิดเองก็เจ็บเอง
     
    "ไม่ว่ะ กูอยากเป็นคนใหม่" ชานยอลทำหน้างงแต่ก็พยักหน้ารับ
     
    "ดีแล้วล่ะ อ่า.. เรากลับบ้านกันเถอะ" ชานยอลจะผละตัวเดินออกมาก่อนแต่คริสก็คว้าข้อมือของชานยอลไว้แล้วดึงเข้าหาตัว
     
    "นี่ชานยอล เย็นนี้ขอไปกินข้าวบ้านแล้วก็ขอนอนค้างด้วยนะ" ริมฝีปากค่อยๆวาดรอยยิ้มขึ้นมาจนเต็มแก้มแล้วพยักหน้ารับ
     
    "ได้ดิวะ งั้นเราก็กลับบ้านกัน" ชานยอลเดินนำออกไปโดยที่มีมือของคริสที่จับข้อมือตัวเอง มือใหญ่ที่กำรอบข้อมือเล็กนั้นค่อยๆเลื่อนมือลงมาจับสอดประสานกัน ลูกแก้วกลมมองมันแล้วก็ยิ้มให้กับคนข้างๆ ขอแค่คริสไม่เศร้าชานยอลก็มีความสุขที่สุดแล้ว
     
    "เย็นนี้มึงว่าแม่มึงจะทำอะไรกิน" คริสเอ่ยถามพร้อมกับก้าวเท้าขึ้นมาเดินอยู่ข้างๆชานยอล
     
    "อืม... ไม่รู้ดิ" ชานยอลโคลงหัวไปมา "แต่อะไรก็กินได้" แล้วก็หัวเราะอารมณ์ดี
     
    คริสระบายยิ้มแล้วแอบมองคนข้างๆตัวที่เดินพูดเจื้อยแจ้ว เพียงเพราะอยากให้เขาอารมณ์ดี ตัวเขาไม่เคยมองเพื่อนสนิทคนนี้แบบใกล้ในระยะประชิดขนาดนี้มาก่อน
     
    ดวงตากลมโตแสนพราวระยับดูน่าค้นหา แก้มกลมขาวนวลที่ซับสีเลือดจางๆ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูสดน่าลิ้มลอง มือที่เล็กกว่ามือเขาทำไมมันถึงได้นุ่มและนิ่มแบบนี้นะ ตัวเขาไม่เคยสังเกตเพื่อนคนนี้อย่างเป็นจริงเป็นจังเลย
     
    และตอนนี้ปาร์คชานยอลก็ทำให้คริสรู้สึกดีและอยากจะค้นหาความเข้มแข็งของชานยอลว่าเพราะเหตุใดถึงมองเขามีความสุขกับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองได้
     
     
    เขาต้องมองคนข้างตัว คนที่อยู่ข้างๆเหมือนที่มินซอกบอกเสียแล้วสิ...
     
     
     
    คนข้างๆที่คอยอยู่กับเขาเสมอมา
     
     
     
     
    "ชานยอล มึงเงียบสักสองนาทีดิวะ" ชานยอลโวยวายแล้วหันมารัวหมัดใส่ คริสเองก็ปัดป้องไปมาแล้วหัวเราะเสียงร่า
     
    คริสลอบมองเสี้ยวดวงหน้าขาวที่ซับสีเลือดจางๆ ปากก็ขมุบขมิบด่าไม่หยุด แต่มือของเราที่จับกันไว้จะไม่ยอมปล่อยจากกัน
     
    บางทีการเริ่มเป็นคนใหม่ของคริส ... อาจจะต้องเริ่มต้นจากการสังเกตมองชานยอลเสียแล้วล่ะมั้ง
     
    "ชานยอล"
     
    "หื้อ??" 
     
    "มึงมีความสุขไหม"
     
    "ถ้ามึงมีความสุข กูก็มีความสุข"
     
     
     
    ความสุขของชานยอลคือคริส และความสุขของคริสก็กำลังจะเป็นคนที่กำลังเดินจับมือและเดินอยู่เคียงข้างเขาไม่ไปไหนคนนี้
     
     
    สักวันฉันจะบอกว่าฉันมองเห็นคนข้างๆแล้ว คนที่ไม่เคยปล่อยมือจากกันเลย คนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่หันไปก็จะเจอเสมอ ...ปาร์คชานยอล...
     
     
    ฉันก็อยากเป็นความสุขที่สุขจริงๆของนายเหมือนกันนะชานยอล
     
     
    รอยยิ้มสดใสหันมายิ้มตอบเมื่อรู้สึกว่าคนข้างตัวกำลังมองตัวเองอยู่ ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มขึ้นตาม สองมือที่สอดประสานกันขยับกุมกันแน่นคล้ายว่าจะไม่ยอมปล่อยกันและกัน..
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×