ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [LF] คุณหนูสุดเอาแต่ใจกับบอดี้การ์ดสุดเนี้ยบ - 3
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เรามาแล้ว *โบกมือ*
ขอโทษค่ะ ไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่เราหาต้นฉบับเรื่องนี้ไม่เจอ OTL ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว #แต่งใหม่ซะเลย #ไม่ง้อ #ควรคิดได้นานแล้ว 5555555
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด *รอบ2* ฟิคเรามีคำวิจารณ์เพิ่มอีกแ้ล้ว ฮือออออออออออ น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ~♥
ขอบคุณ คุณ อรุณรัตน์ มากค่ะ ดีใจจังที่ชอบฮุนยอลที่เราแต่ง ยังไงก็ฝากติดตามและรักฮุนยอลต่อไปนะคะ ถึงแม้เราจะเกเรบ้างอะไรบ้างก็อย่าเลิกรักฮุนยอลนะคะ~ ยังไงก็มารับสายไหมไปทานอีกสักไม้นะคะ ^^ ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ พลังงานอาจจะขาดหายไปบ้างแต่จะไม่ให้ขาดหายไปอีกแล้วค่ะ อิอิ
ทุกคนลืมเราได้เราไม่ว่า แต่อย่าลืมและเลิกรักฮุนยอลนะคะ ^^ ขอให้ความรักหวานๆคล้ายปุยเมฆสีชมพูนี้ล่องลอยสู่ใจของทุกคนค่ะ
ด้วยรักจากใจ
ขอโทษค่ะ ไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่เราหาต้นฉบับเรื่องนี้ไม่เจอ OTL ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว #แต่งใหม่ซะเลย #ไม่ง้อ #ควรคิดได้นานแล้ว 5555555
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด *รอบ2* ฟิคเรามีคำวิจารณ์เพิ่มอีกแ้ล้ว ฮือออออออออออ น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ~♥
ขอบคุณ คุณ อรุณรัตน์ มากค่ะ ดีใจจังที่ชอบฮุนยอลที่เราแต่ง ยังไงก็ฝากติดตามและรักฮุนยอลต่อไปนะคะ ถึงแม้เราจะเกเรบ้างอะไรบ้างก็อย่าเลิกรักฮุนยอลนะคะ~ ยังไงก็มารับสายไหมไปทานอีกสักไม้นะคะ ^^ ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ พลังงานอาจจะขาดหายไปบ้างแต่จะไม่ให้ขาดหายไปอีกแล้วค่ะ อิอิ
ทุกคนลืมเราได้เราไม่ว่า แต่อย่าลืมและเลิกรักฮุนยอลนะคะ ^^ ขอให้ความรักหวานๆคล้ายปุยเมฆสีชมพูนี้ล่องลอยสู่ใจของทุกคนค่ะ
ด้วยรักจากใจ
BettyNoona
_____________________
“อ๊ะ.. ท่านประธานผมเมื่อยแล้วนะ เมื่อไหร่จะพอล่ะครับ”
นี่หรือเปล่าคือเหตุผลที่ว่าทำไมป๊าถึงหวงบอดี้การ์ดคนนี้?
คิดไม่ซื่อเหรอ? นายโดนฉันสั่งสอนแน่ปาร์คชานยอล!!
กลับบ้านไปเมื่อไหร่ล่ะก็ ป๊าเจอดีแน่!!!!
...มึงเอาจริง?... เซฮุนยิ้มกับคำถามจากปลายสาย
“อื้ม” ว่าไงแค่นั้นก็วางสายกันไป เซฮุนวางมือถือไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนเพื่อที่จะไปหาน้ำดื่ม
เซฮุนเดินออกจากห้องนอนไปตามระเบียงทาง ห้องนอนของเซฮุนอยู่ห้องสุดท้าย ห้องถัดไปก็จะเป็นห้องนอนของบิดาและห้องแรกก่อนถึงบันไดคือห้องทำงานประจำของบิดา แสงไฟยังลอดออกจากร่องประตูและเสียงเบาๆที่เล็ดลอดออกมา
“อ๊ะ.. ท่านประธานผมเมื่อยแล้วนะ เมื่อไหร่จะพอล่ะครับ”
“อีกนิดเดียวน่า จะเสร็จแล้ว นายนี่ก็เก่งไม่เบานะ”
“แน่นอน ก็ผมเป็นใครล่ะฮะ โอ๊ย! เบาๆสิ ผมเจ็บนะ”
“ไม่ต้องพูดมาก เดี๋ยวเสร็จตรงนี้เธอก็ไปพักได้แล้ว”
“แต่ว่ามันก็ยังไม่เสร็จไม่ใช่เหรอครับ”
“เอาน่า ฉันจัดการต่อเองได้”
นี่หรือเปล่าคือเหตุผลที่ว่าทำไมป๊าถึงหวงบอดี้การ์ดคนนี้?
คิดไม่ซื่อเหรอ? นายโดนฉันสั่งสอนแน่ปาร์คชานยอล!!
วันนี้ที่คฤหาสน์หลังนี้ช่างเงียบสงบนักเพราะเป็นวันหยุด และวันหยุดคุณหนูของบ้านก็จะตื่นสายเป็นประจำ ชานยอลเลยตัดสินใจขอไปเดินเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้านเสียหน่อยดีกว่า วันที่ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส หมูมวลก้อนเมฆก็น้อย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ลมเย็นๆก็พัดสบายแค่นี้คนที่ทำงานเคร่งเครียดในทุกวันก็ระบายยิ้มได้ไม่ยาก
ใจก็พลันนึกไปถึงคุณหนูของบ้านที่อยากให้มาเดินเล่นหน้าบ้านด้วยกัน แล้วสองเท้าที่ก้าวเดินก็หยุดชะงัก ทำไมต้องไปคิดถึงคุณหนูเอาแต่ใจนั่นด้วย ชอบหาเรื่องให้ปวดหัวได้ทุกวันสิน่า! แต่กลีบปากอิ่มสีสดก็วาดรอยยิ้มยามที่นึกถึงคุณหนูของบ้าน ใครบางคนที่ชอบทำตัวให้ใจสั่นอยู่เรื่อย ใครบางคนที่คงไม่รู้ความลับบางอย่าง
“คุณหนูเซฮุนยังไม่ตื่นอีกเหรอครับคุณป้าแม่บ้าน” หลังจากที่เดินเล่นชมความงามของท้องฟ้าจนอิ่มใจแล้วชานยอลก็เดินเข้ามาในตัวบ้านที่ยังคงเงียบเหงาเช่นเคย มันชักจะแปลกๆแล้วนะ
“ยังเลยจ๊ะ นี่ป้ากะว่าจะขึ้นไปเรียกคุณหนูให้ลงมาทานข้าวแล้วนะ นี่ก็สายแล้ว” ชานยอลยกข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนที่จะส่ายหน้าเบาๆ สงสัยเมื่อคืนคงจะเล่นเกมหนักไปล่ะสิ
“งั้นเดี๋ยวผมไปตามเองครับ คุณป้าไปตั้งโต๊ะเถอะครับ”
ชานยอลเดินขึ้นไปยังชั้นสองแล้วตรงไปยังห้องในสุด พอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าในห้องยังคงเย็นเหยียบเช่มเดิมแต่ทว่าไม่พบร่างของเจ้าของห้องเลยสักนิดเดียว บอดี้การ์ดตัวสูงเดินหาทั่วทั้งห้องแล้วก็ไม่พบว่าคุณหนูหายไปที่ไหน
ล้วงมือหยิบไอโฟนของตัวเองออกมาตรวจจับสัญญาณว่าคุณหนูของตัวเองอยู่ที่ไหน ดีนะที่เคยแอบไปจูนสัญญาณเครื่องไว้ไม่งั้นวันนี้ละจบกัน ไม่นานสัญญาณก็จับได้ว่าตอนนี้ทั้งเครื่องและเจ้าของเครื่องอยู่ที่ไหน หัวคิ้วขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่าตัวสัญญาณนั้นจับได้ที่ใด
“ทะเล?”
หลังจากนั้นคุณบอดี้การ์ดก็รีบออกไปยังจุดหมายนั้นทันที ชานยอลไม่ใช่นักแข่งรถระดับอาชีพหรอกแต่ตอนนี้ก็เหยียบมิดเกแล้วปาดซ้าย แซงขวาเพื่อที่จะไปให้ถึงสถานที่แห่งนั้นไวๆ ในใจก็ร้อนรุ่มว่าคุณหนูในปกครองจะเป็นอะไรหรือเปล่า จะมีเหตุร้ายหรือไม่
“ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ”
ลมทะเลพัดเอาไอความเค็มลอยมาปะทะจมูก สองหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผ้าใบยกมือขึ้นจับปีกหมวกแก็ปที่สวมที่ปิดลูกตาออกแล้วมองเห็นเพื่อนตัวเล็กตาโตที่สาละวนกับการก่อร้างสร้างปราสาทอยู่คนเดียว จงอินที่มองอยู่ก็ระบายยิ้ม เซฮุนที่เห็นก็อดที่จะถองศอกใส่ไม่ได้
“แล้วเมื่อไหร่มึงจะขอคยองซูเป็นแฟนวะ” จงอินหันมายิ้มใส่ก่อนที่จะใช้สองมือหนุนหัวต่างหมอนด้วยท่าทีสบายๆ
“ไม่ล่ะ ค่อยเป็นค่อยไปอยู่แบบนี้แหละดีแล้ว ว่าแต่มึงอ่ะพี่ชานยอลบอดี้การ์ดของมึงน่ะหนีมาจะดีเหรอวะ เขาจะหามึงเจอหรือเปล่าวะน่ะ” เซฮุนไหวไหล่อย่างไม่สนใจ
“หาไม่เจอก็ดี”
“มึงทะเลาะกับพี่เขาหรือเปล่า” เซฮุนหันมองเพื่อนที่ดูจะสนใจเหลือเกินแล้วก็หันกลับไปมองเพื่อนตัวเล็กที่มีความสุขกับการก่อกองทรายเสียเหลือเกิน ริมฝีปากบางวาดรอยยิ้มบางๆ
“ก็ไม่เชิงทะเลาะ มันเป็นเรื่องของกูกับเขาที่ต้องเคลียร์ว่ะ กูแค่ไม่ชอบใจอะไรบางอย่างแค่นั้นแหละ” จงอินเองก็พยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อให้มากความ ถ้ามันอยากเล่าเมื่อไหร่เดี๋ยวก็เปิดปากเองนั่นล่ะ
“จงอิน! มาช่วยก่อทรายหน่อย!!” คยองซูกระโดดเหยงๆแล้วโบกมือตะโกนเรียก ซึ่งเจ้าตัวก็ผงกหัวขึ้นมองแล้วก็เห็นคนตัวเล็กยิ้มร่ากระโดดไปมา เหมือนหนูแฮมเตอร์กระโดดเล่นเลย
“ไปสิมึง เมียเด็กเรียก” จงอินต่อยท้องเพื่อนไปหนึ่งทีก่อนที่จะลุกออกขากเตียงผ้าใบไปหาคยองซูที่กำลังก่อทราย
เซฮุนหลับตาลงเพื่อซึมซับบรรยากาศแสนปลอดโปร่งนี้ได้ไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกว่ามีใครเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ก็คงจะเป็นจงอินกลับมานั่นแหละ แต่คนนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับหรือพูดอะไรเลย แต่เซฮุนก็ได้ยินเสียงหอบหายใจของอีกคนได้ชัดเจน นี่แค่ไปก่อกองทรายถึงกับเหนื่อยหอบเลยเหรอ?
“คุณหนูเซฮุน” เซฮุนรีบลืมตาแล้วหันมองข้างกายด้วยความตกใจ ก็ไม่คิดว่าจะตามหาเจอเร็วขนาดนี้หรอกนะ แค่มองก็รู้แล้วว่าบอดี้การ์ดประจำตัวคนนี้รีบมาแค่ไหน ทั้งๆที่ยังสวมชุดสูทอยู่เลย แถมผมเผ้าก็ยุ่งเชียว คงรีบออกมาตามหาเขาเลยสินะ
“มาช้านะ” ชานยอลก้มหัวลงต่ำ
“ขอโทษครับ” เซฮุนหันหน้ากลับไปมองยังเบื้องหน้าที่เป็นทะเลที่กำลังซัดเกลียวคลื่นเข้าฝั่ง สองเพื่อนซี้ก็กำลังปกป้องปราสาททรายของตัวเองไว้ไม่ให้น้ำทะเลมาซัดสาดมันพัง
“กลับไปซะ” เป็นครั้งแรกที่ชานยอลได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาแบบนี้ และเป็นครั้งแรกที่ดวงตาคู่เรียวนั้นไม่หันมามอง ไม่มีแววตาประกายหยอกล้อเหมือนเช่นเคย
“แต่คุณหนูเซฮุนครับ...”
“ฉันบอกให้กลับไปไง ไม่ได้ยินหรือไง!!” เซฮุนลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับบอดี้การ์ดที่ยังคงยืนนิ่ง
“ผมกลับไม่ได้ ผมต้องดูแลคุณหนู...”
“ไม่ต้องการ!! จะไปไหนก็ไปเลยไป” แค่ประโยคนี้บอดี้การ์ดสุดนิ่งก็ขมวดคิ้วฉับและไม่พอใจทันที จงอินกับคยองซูรีบวิ่งเข้ามาหมายว่าถ้าเซฮุนเกิดอยากจะต่อยพี่ชานยอลเขาจะได้จับเซฮุนให้อยู่นิ่งๆ
“แล้วคิดว่าที่รีบมาแทบตายนี่คิดว่ามาทำไมกันห๊ะ!!! จะไปไหนก็ไม่บอกแล้วจะมาพูดพร่อยๆแบบนี้อีกเหรอ!!! เป็นคุณหนูแล้วยังไง? ทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้น่ะสิคุณพ่อของนายถึงคอยแต่กำหนดกะเกณฑ์ไปซะทุกอย่างแบบนี้ คิดว่าทุกวันนี้ฉันไม่เหนื่อยหรือไงวะห๊ะไอ้เด็กเอาแต่ใจ!!!!!!” คยองซูกับจงอินได้แต่กระพริบตาปริบๆ ส่วนเซฮุนน่ะเหรออ้าปากค้างไปตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว ชานยอลหอบหายใจน้อยๆก่อนที่จะเสยผมที่ปรกหน้าไปด้านหลัง
“อยู่นี่ จะไปเช็คอินห้องแล้วก็จะไปซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ถ้าครั้งนี้หายไปโดยที่ไม่บอกอีกล่ะก็ น่าดู!” เมื่อสั่งความครบถ้วนกระบวนการชานยอลก็เดินหันหลังกลับไปเลยทันที
“เฮ้ย!! เดี๋ยวดิ ไปด้วย!!” เซฮุนที่ได้สติครบร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้วนก็รีบวิ่งตามหลังคนที่ก้าวเดินฉับๆไป คว้าข้อมือของคนที่เดินสบถด่าตัวเองให้หันกลับมาประชันหน้ากัน
“อะไรอีก” ชานยอลยังคงขมวดคิ้วมุ่นและอารมณืเสียอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ไม่ต้องเช็คอินหรอกนอนห้องผมได้ เดี๋ยวพาออกไปซื้อเสื้อผ้านะ”
“เลิกเหวี่ยงแล้วหรือไง?” เซฮุนพยักหน้ารับ
“ก็แค่ลองใจนิดเดียวเอง อย่าโกรธนะๆๆ” เซฮุนยกมือข้างที่จับขึ้นมากุมแล้วทำตากลมๆ โตๆเข้าอ้อน ชานยอลที่เห็นแบบนั้นก็พลันนึกไปถึงลูกหมาของตนที่อยู่จีนแล้วก็หยุดยิ้มออกมา
“จะไปก็ไปสิ” แล้วชานยอลก็หันหลังเดินไปต่อ และเป็นครั้งแรกของเซฮุนที่เห็นคุณบอดี้การ์ดอายจนแก้มแดง
กว่าที่จะซื้อเสื้อผ้าสำหรับการมาอยู่ทะเลสี่คืน สามวันได้ครบก็เลยเวลามาจนใกล้จะเย็นย่ำอยู่แล้ว เซฮุนเลยหามื้อเย็นกินในตัวเมืองแทนการกลับไปทานที่โรงแรม ร้านอาหารที่เซฮุนเลือกก็เป็นร้านอาหารง่ายๆที่ได้บรรยากาศทะเลยามเย็น ไอลมเย็นพัดผ่านเอื่อยตลอดเวลา
ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันมากนัก ก้มหน้าจัดการกับอาหารทะเลหลากหลายที่เลือกสั่งมา หลายครั้งที่ช้อนของทั้งคู่กระทบกันและก็เป็นชานยอลที่เบี่ยงหน้าหลบสายตา ด้วยเพราะรู้ว่าอารมณ์กรุ่นๆในใจยังคงไม่จาง ถึงแม้ว่าคุณหนูที่ดูแลจะมีศักดินาสูงกว่าก็ตาม
“พี่อยากกินอะไรอีกไหมครับ” ดวงตาเรียวเป็นประกายมองมายังคนตรงหน้าที่ก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้า ชานยอลเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะส่ายหน้า
“ไม่ครับ” ตอบรับสั้นๆก่อนที่จะก้มลงจัดการกับกุ้งเผาในจานของตัวเองต่อ
“พี่ยังโกรธผมอยู่อีกเหรอ? ผมขอโทษ” ชานยอลถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองคุณหนูในปกครองที่ทำหน้าเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน
“แค่อย่าหายไปไหนโดยไม่บอกอีกก็พอครับ ผมจะถือว่าวันนี้ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย” เซฮุนวาดส่งรอยยิ้มให้ โอเซฮุนถึงจะเอาแต่ใจยังไงก็เป็นแค่เด็กม.ปลายเท่านั้นแหละนะ
“แล้วพี่อยากรู้ไหมว่าทำไมผมถึงหนีพี่มาโดยที่ไม่ยอมบอก”
“ทำไมล่ะครับ” เซฮุนยกยิ้มมุมปาก
“มากับผมสิแล้วผมจะบอก”
หลังจากจ่ายเงินเสร็จชานยอลก็โดนเซฮุนลากไปขึ้นรถแล้วก็ขับรถกลับโรงแรมกัน ครั้งนี้เซฮุนเป็นคนขับ แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าเซฮุนขับรถได้แล้ว คุณหนูเซฮุนก็ขับรถไปผิวปากไปแต่ก็ไม่ได้บอกหรือขยายความว่าไอ้ที่จะให้ไปน่ะไปที่ไหน ไม่นานด้วยไอเย็นจากแอร์ในรถคุณบอดี้การ์ดที่ขับรถมาไกลนับร้อยโลก็ค่อยๆพล็อยหลับไป
เสียงเกลียวคลื่นที่ลอยกระทบพื้นทราย กลิ่นไอเค็มที่ลอยเข้ามา ลมเย็นที่ลอยเอื่อยโอบล้อมกาย และสัมผัสอุ่นๆที่ริมฝีปากช่างหวานล้ำจนนึกเผลอไผลอยากสัมผัสมากกว่านี้ ลมร้อนที่รดใบหน้ายังคงตามมาสัมผัสผิวเนื้อและสัมผัสอุ่นนั้นก็ตามลากไล้ไปทั่วใบหน้าและลำคอ ฉับพลันคนที่พล็อยหลับไปก็ลืมตาตื่นแต่ว่ารอบกายกลับไม่มีใครเลย ภายในรถที่เผลอบหลับไปก็ไม่มีคุณหนูที่เป็นสารถีแล้ว ประตูรถถูกเปิดออกทั้งสองฝั่งนั่นทำให้ชานยอลสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอทะเลเย็นๆ
“หายไปไหนของเขาอีกล่ะ” ชานยอลลงจากรถแล้วมองหาไปรอบๆแต่ก็ไม่เจอ บางทีคุณหนูของเขาอาจจะไปเดินเล่นอยู่ที่ชายหาดก็ได้ คิดได้ดังนั้นร่างเพรียวบางก็เดินลงไปยังชายหาดที่แสนจะสงบเงียบแต่ก็ซัดเสียงคลื่นมาเป็นระยะ
บนชายหาดก็ไม่เจอร่างของคุณหนูอีกเช่นกัน ชานยอลก็เลยตัดสินใจขอเดินเล่นบนชายหาดแสนสงบนี่สักหน่อย ยังไงคุณหนูในปกครองก็คงไม่ไปไหนไกลเพราะรถก็ยังอยู่ สองเท้าเดินเอื่อยเฉื่อยไปตามแนวชายหาด มีบ้างครั้งที่ละอองน้ำสาดมาโดนแต่ชานยอลก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกลับเพลิดเพลินกับบรรยากาศแสนเงียบสงบนี้
ชานยอลยืนมองท้องทะเลสีมืดที่ยังคงซัดเกลียวคลื่นเข้าหาฝั่งอยู่เรื่อยๆด้วยอารมณ์ที่สงบและจิตใจที่ผ่อนคลาย ฉับพลันก็สะดุ้งกับอ้อมแขนของใครสักคนที่ตวัดกอด ปลายคางของเจ้าของอ้อมกอดวางลงที่ลาดไหล่ เอียงหน้าหันมองเพียงนิดก็รู้แล้วว่าคนนี้เป็นใคร คนที่ทำให้ใจสั่นไหว คนที่อยู่ๆก็หายตัวไป
“คุณ...”
“พี่ชานยอล.. พี่ไม่ต้องทำหน้าที่บอดี้การ์ดแล้วได้ไหม” เซฮุนคงไม่รู้ว่าชานยอลน่ะเจ็บไปทั้งใจเลย
“ทำไม” เสียงของชานยอลช่างเบาเหลือเกิน เซฮุนกระชับอ้อมกอดที่กอดคนตัวบางไว้
“ผมไม่อยากให้พี่เป็นบอดี้การ์ดแล้ว ผมไม่อยากให้พี่เป็นของป๊า พี่ไม่ทำแล้วได้ไหม” ชานยอลกระพริบตาปริบๆกำลังคำนวณประโยคนั้นของคุณหนูเซฮุนอยู่
“เป็นของป๊า?” เอ่ยทวนคำเบาๆแต่ก็ยังคงสับสนในความหมายของมันอยู่
“เมื่อคืนผมได้ยินที่พี่อยู่กับป๊า ผมไม่อยากให้พี่เป็นคนของป๊าแล้วเปลี่ยนมาอยู่กับผมเถอะนะ”
“นี่กำลังสารภาพรักอย่างนั้นเหรอ?” เซฮุนไม่ตอบแต่พยักหน้ารับก่อนที่จะซุกหน้าลงกับไหล่ลากของคุณบอดี้การ์ดที่ยิ้มกว้าง
“นายเข้าใจอะไรผิดแล้วมั้งเซฮุน” ชานยอลค่อยๆแกะมือที่โอบรอบเอวออกแล้วหันหลังกลับไปส่งยิ้มกว้างให้คุณหนูที่ทำหน้าตาสงสัย
“ฉันไม่ได้เป็นของพ่อนายสักหน่อย แล้วเมื่อคืนพ่อนายสอนฉันทำงานตั้งหากคิดไปถึงไหนน่ะ” แล้วคุณบอดี้การ์ดมาดเนี๊ยบก็หัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะใสๆที่เซฮุนเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
“จริงๆพ่อของนายมีความลับที่ยังไมได้บอกแล้วฉันก็มีความลับที่ไม่ได้บอกนายเหมือนกันนั่นแหละ อย่างอื่นนายคงต้องไปคุยกับพ่อนายนะแต่เรื่องของฉัน” เซฮุนมองคนที่ก้มหน้าลงแล้วอยู่ๆชานยอลก็ยกสองมือขึ้นปิดแก้มตัวเองเสียเลย มาดเนี๊ยบๆคงต้องพับเก็บไปก่อนละนะ ก็กำลังสารภาพรักอยู่เหมือนกันล่ะนะ
“ความลับของฉันน่ะ” ชานยอลค่อยๆเงยหน้าแล้วใช้นิ้วจิ้มอกข้างซ้ายของเซฮุนไว้
“ฉันเป็นของนาย ไม่ใช่ของพ่อนาย” คราวนี้ถึงตาเซฮุนบ้างที่จะกระพริบตาปริบๆประมวลผล แรมต่ำกันไป
“พี่หมายความว่าไง...”
“ฉันเป็นของนายมาตั้งแต่ต้นแล้วเซฮุน ... ถ้าอยากรู้อะไรมากกว่านี้ก็ไปถามพ่อของนายเอาเองแล้วกัน” ชานยอลเดินหนีแต่เซฮุนคว้ามือของชานยอลไว้แล้วรั้งไม่ให้คนตัวบางเดินหนีไป
“พี่ชานยอล แปลว่า...”
“ไม่รู้ๆๆๆ อย่ามาเซ้าซี้ ฉันจะกลับไปนอนแล้ว” แล้วชานยอลก็สะบัดมือหลุดจากเซฮุนก่อนที่จะรีบเดินไปขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องรอ
“จะกลับไหมหรือจะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืน!!” เซฮุนรีบวิ่งมาขึ้นรถทันที
“นี่แปลว่าพี่ก็รักผมใช่ไหม?” เซฮุนยิ้มกว้างแล้วถามคนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ชานยอลเงียบไม่ตอบแต่เซฮุนก็รู้แล้วล่ะว่าคำตอบของคำถามเมื่อครู่คืออะไร
กลับบ้านไปเมื่อไหร่ล่ะก็ ป๊าเจอดีแน่!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น