ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [LF] คุณหนูสุดเอาแต่ใจกับบอดี้การ์ดสุดเนี้ยบ - 2
เฮ้ย!!! เข้ามาตกใจมากอ่ะ!!! ฟิคเรามีคำวิจารณ์ด้วยอ่ะะะะะะะะะะะะ ไม่เคยได้อ่ะะะะะะะะะ ดีใจอ่าาาาาาาาาาาาาาา TvT
ขอบคุณ คุณ P.K.Ciel มากค่ะ *น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ* เราจะแต่งต่อไปค่ะ ไม่ทิ้งแน่นอน สัญญาค่ะ *เกี่ยวก้อย* ขอบคุณสำหรับคำชมเรื่องภาษา เราว่าก็ไม่สวยนะ ยังมีนักเขียนอีกหลายท่านที่เขียนได้สวยกว่าเรา แต่เราก็จะพยายามให้ดีที่สุด เท่าที่หัวสมองเราจะเข็น(?)ออกมาได้ค่ะ *ปาดน้ำตา* เม้นครบไม่ครบเราไม่วอรี่หรอกค่ะ แค่ชอบ แค่รัก แต่ติดตามและสนับสนุนเราก็พอแล้วค่ะ กำลังใจของเราก็คือสิ่งเหล่านั้นแหละค่ะ
ลู่หมินกับแบคโด้นี่ ถ้าเราไม่ได้ยัดใส่ในนี้ก็ติดตามได้ที่รวมฟิคคู่แปลก IML (Impossible Miracle Love) ของเราได้นะคะ ที่ http://writer.dek-d.com/bettynoona/story/view.php?id=898378 เพราะส่วนใหญ่ ช่วงที่เรากำลังแต่งแล้วใครแว่บเข้ามาเราก็จะจับมารับเชิญทันที 555555
ดีใจจังเวลาที่คนมาบอกว่าชอบคู่ที่เราพยายาม(ยัดเหยียด #ผิด)ให้ทุกคนอ่าน แล้วมีคนบอกว่าชอบเพราะเรา เราชอบอ่ะ ตื้นตันมากกกกกกกกกกก ขอบคุณทุกๆคนค่ะ ที่จะเม้นหรือไม่เม้น จะแสดงตัวหรือไม่ แค่คุณเข้ามาอ่าน ชอบมัน รักมัน รักฮุนยอล แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว มีความสุขมากค่ะ เราจะพยายามต่อไป จะทำให้ดีที่สุด ถ้ามีอะไรที่เราอาจจะเขียนดรอปไปหรือไม่ถูกใจก็ขอโทษด้วยนะคะ ^^ (ไม่ใช่แค่ฮุนยอล แต่เราหมายถึงในทุกๆเรื่องที่เราสรรสร้างขึ้นมา)
ด้วยรักจากใจ
BettyNoona
_____________________
บานประตูถูเปิดดั่งเช่นทุกเช้า ร่างของบอดี้การ์ดหนุ่มเดินไปเปิดผ้าม่านออกก่อนเป็นอย่างแรกก่อนที่จะเดินวกกลับมาปลุกเจ้านายในความดูแล เขย่าร่างปลุกไม่นานเจ้าตัวก็ลืมตาตื่น นัยน์ตาเรียวที่มองจ้องสบกลับมาก็พาลให้รู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งตัว แต่ชานยอลก็เลือกที่จะแสร้งทำสีหน้าเรียบนิ่งเอาไว้
“ได้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วครับคุณหนูเซฮุน” ใบหน้าของเจ้านายยังคงฉาบรอยยิ้มที่ดูยังไงก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย
“พี่ชานยอลครับ” เอ่ยเรียกเสียงเบา ชานยอลค่อยๆเขยิบไปชิดเตียงนอนก่อนที่จะค้อมตัวลงเมื่อคุณหนูกวักมือเรียก
“จุ๊บ.... มอร์นิ่งคิสครับ” เซฮุนที่ยืดตัวขึ้นจุ๊บที่กลับปากสีสดนั้นยิ้มมุมปากอย่างถูกใจก่อนที่จะเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้บอดี้การ์ดหนุ่มที่ภูมิต้านทานไม่แข็งแรงเบิกตากกว้างค้างอยู่ท่าเดิม
“อะไรวะเนี่ย” ชานยอลสบถกับตัวเองก่อนที่จะลงมือจัดการกับภารกิจในทุกเช้าที่จะต้องเตรียมชุดนักเรียนและเก็บเตียงให้เรียบร้อยก่อนที่จะลงไปรอยังห้องรับประทานอาหารด้านล่าง
เช้านี้เซฮุนทานมื้อเช้าอย่างไม่เร่งรีบด้วยกำลังยียวนกวนประสาทคุณบอดี้การ์ดที่ยืนสงบอยู่ด้านหลัง แม้ว่าเวลาจะเดินไปใกล้ถึงเวลาที่จะต้องไปโรงเรียนแล้วก็ตามแต่คุณหนูก็ยังคงนั่งละเลียดทานเบรคฟาสท์ บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะก้าวเท้าเข้ามาหาคุณหนูที่ยังคงนั่งกินอย่างสบายอารมณ์
“คุณหนูเซฮุนครับ ใกล้จะได้เวลาต้องไปโรงเรียนแล้วนะครับ” เซฮุนวางส้อมลงกับจานก่อนที่จะหันหน้ามาหาบอดี้การ์ดด้วยรอยยิ้มกว้างจนดวงตาเล็กยิ่งเล็กเข้าไปอีก
“ก็ผมยังไม่อิ่มเลยนี่ครับพี่ชานยอล” ชานยอลมองจ้องตากับคุณหนูตรงหน้าก่อนที่จะเอ่ยปากถามประโยคที่ดูก็รู้ว่าถูกใจคุณหนูคนนี้ยิ่งนัก
“ถ้าจะไปโรงเรียนตอนนี้คุณหนูเซฮุนต้องการอะไรครับ” เมื่อคำนี้ที่รอคอย เซฮุนยิ้มกว้างแล้วเอียงคอทำท่าคิด
“เอ? ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออก ... เอาไว้ผมคิดได้จะบอกนะครับ”
การสนทนาจบไว้แค่นั้นเมื่อเซฮุนยอมลุกจากโต๊ะไปขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน คุณหนูเซฮุนนั่งด้านหน้าข้างคนขับซึ่งถึงจะคัดค้าสิ่งใดไปก็ไม่เกิดผลอยู่ดี เพราะฉะนั้นปล่อยให้คุณหนูได้ทำตามใจไปนั่นแหละดีที่สุดแล้ว ไม่นานรถลีโมสีดำก็แล่นไปจอดที่หน้าประตูรั้วโรงเรียนเพื่อให้เซฮุนลงจากรถ แต่คุณหนูเซฮุนกลับไม่ยอมลงเสียนี่จนชานยอลต้องหันมามอง พอหันกลับมาดวงตาเรียวก็มองจ้องอยู่แล้ว
“เดี๋ยวพี่จะไปไหนครับ” ดวงตาเรียวนั้นเป็นกระกายวิบวับเกินกว่าที่จะทนมองสบตาอยู่ได้ ชานยอลจึงเลือกที่จะเลนหน้าหนี
“ไปบริษัทของคุณท่านครับแล้วช่วงเย็นผมจะมารับคุณหนูเซฮุนกลับบ้าน”
“พี่ชานยอลฮะ” เซฮุนเอ่ยเรียกแล้วจับมือของชานยอลมากุมไว้ “ไม่ไปไม่ได้เหรอฮะ วันนี้อยู่ที่โรงเรียนกับผมไม่ได้เหรอครับ” เมื่อคุณหนูขอมีหรือที่บอดี้การ์ดจะไม่ยอมทำตาม
“แต่ผมมีงานที่จะต้องทำ .. ถ้าอย่างนั้นอีกสักสองชั่วโมงผมจะกลับมาได้ไหมครับ” แล้วคุณบอดี้การ์ดก็ใจอ่อนจนได้ เมื่อตกปากรับคำเซฮุนก็ยิ้มกว้างแล้วลงจากรถเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมๆกับรถยนต์คันหรูแล่นออกไป เซฮุนยิ้มแล้วมองตามหลังรถคันนั้นไป
เซฮุนที่กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้องเหลือบมองไปยังนอกหน้าต่างห้องเรียนเป็นระยะๆ โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ถูกจับจองด้วยร่างของบอดี้การ์ดแสนนิ่งกับกองแฟ้มมากมายที่กองไว้เต็มพื้นที่โต๊ะ ชานยอลนั่งก้มหน้าดูแฟ้มโน้น เปิดแฟ้มนี้ เขียนอะไรไม่รู้ยุกยิกในแฟ้มนั้นที แล้วก็เปิดไปเรื่อยๆเหมือนว่าจะไม่มีทางหมด พอเปิดแฟ้มใหม่แล้วก็ต้องย้อนกลับมาเปิดแฟ้มเก่าจดอะไรเพิ่มเสริมเข้าไป ดูวุ่นวายเกินกว่าที่คนชอบนั่งสบายๆจะอยากทำ
เซฮุนเปลี่ยนท่าจากการนั่งสนใจอาจารย์หน้าห้องก็เป็นนั่งเท้าคางแล้วมองออกไปยังที่ใต้ต้นไม้นั้น แม้ว่าอากาศจะไม่ถึงกับร้อนอบอ้าวมากแต่เรือนร่างเพรียวนั้นก็ไม่ยอมถอดชุดสูทเลย ซ้ำยังคงนั่งก้มหน้าทำงานได้โดยไม่ขยับกายสักนิด ข้างกายมีเพียงกองแฟ้มมากมายและขวดน้ำดื่มหนึ่งขวดเท่านั้น ชานยอลยังคงก้มหน้าทำงานเช่นเดิม และเซฮุนเองก็นั่งเท้าคางมองลงมาจากตึกเรียนเช่นกัน
“เฮ้ยพี่เขามาได้ไงวะ” เมื่อจบชั่วโมงเรียนเพื่อนซี้ทั้งสองก็หันกลับมาหาจากโต๊ะเรียนตรงหน้า เซฮุนหันกลับมามองสองเพื่อนแล้วก็เลิกคิ้ว
“บอดี้การ์ดของเอ็งไง ทำไมมานั่งตรงนั้นล่ะ” คยองซูถามแล้วชี้นิ้วลงไปยังใต้ต้นไม้ เซฮุนยิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือไปดีดหน้าผากเพื่อนเบาๆ
“ก็มาตามเฝ้าเราไง” เซฮุนยักคิ้วให้เพื่อนไปสามที ซึ่งจงอินเองก็หมั่นไส้นะ เรื่องอะไรมาดีดเหม่งน้อยของคยองซูเล่า~!
“แล้วไปให้พี่เขาไปนั่งตรงนั้นมันร้อนนะ แล้วพี่เขาต้องทำงานอีกนะ” เซฮุนยิ้มให้คยองซูก่อนที่จะผินหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างที่จุดเดิม
“เซฮุนใจร้ายอ่ะ ... ชอบบอดี้การ์ดคนใหม่มากเหรอ?” เซฮุนไม่ตอบแต่ยิ้มกว้างๆให้แม้ว่าจะไม่ได้หันหน้ากลับไปมองแต่คยองซูก็รู้คำตอบ
“รักแรกพบเลยสิ” จงอินกลั้วหัวเราะอย่างขำขันก่อนที่จะเอ่ยต่อ “ตกลงว่าที่จะไปทะเลกันอ่ะว่าไงวะ?”
“ก็ไปดิ” เซฮุนหันกลับมาแล้วเลิกคิ้วคล้ายกับคำถามว่า แล้วมีปัญหาอะไรตรงไหน
“แล้วบอดี้การ์ดมึงอ่ะ?” เซฮุนกระตุกยิ้มกว้าง
“แน่นอน ไม่มีพลาด”
หลังจากทานมื้อเที่ยงแล้วเซฮุนก็เดินแยกกับเพื่อนซี้ตัวเล็กและตัวดำมาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ชานยอลยังคงนั่งดูรายละเอียดพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย พอเซฮุนเดินไปใกล้คุณบอดี้การ์ดก็วางสายพอดีและก่อนที่จะกล่าวลากันนั้นกลีบปากอิ่มก็วาดรอยยิ้มอีกด้วย แก้มกลมดันดวงตาโตให้ยิบหยีพร้อมกับสีแดงเรื่อๆที่แก้มนั่นด้วย เรียวคิ้วของคนมองขมวดมุ่น ...ใครกันนะ ที่คุยด้วยน่ะ...
“คุณหนูเซฮุน” ชานยอลหันมาก็พบกับคุณหนูที่เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาหาด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง
“พี่ชานยอลกินมื้อเที่ยงหรือยังครับ” เซฮุนเอียงคอส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินมาลงนั่งเคียงข้าง ดวงตาเรียวมองแฟ้มที่กองอยู่บนโต๊ะก็ขมวดคิ้วสงสัย เพราะตราชื่อของบริษัทนั้นคือบริษัทของบิดาตน
“ทานแล้วครับ” คุณหนูเลิกคิ้วก่อนที่จะมองหา เซฮุนเอี้ยวตัวไปมองซากข้างกายของบอดี้การ์ดก็พยักหน้า ถุงขยะที่มีซากของกล่องบะหมี่ ขนมปังและขวดน้ำ
“คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าครับ” เซฮุนยักไหล่แล้วลุกขึ้นยืน
“ผมขึ้นห้องเรียนก่อนนะครับ ก็แค่มาหาพี่กลัวว่าพี่จะเหงาแต่ใกล้จะหมดเวลาพักแล้ว” เซฮุนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ชานยอลพยักหน้ารับแล้วค้อมตัวให้คุณหนูไปหนึ่งทีก่อนที่จะก้มหน้าลงทำงานต่อ
ชานยอลก้มหน้าอยู่ก็เลยไม่เห็นว่าเซฮุนที่หันหลังเดินไปแล้วนั้นค่อยๆย่องกลับมายืนอยู่ด้านหลัง สองแขนกางออกแล้วรวบหมับเข้าที่รอบคอของใครอีกคน ชานยอลสะดุ้งตกใจหลุดสบถไปสองคำ เซฮุนหัวเราะเบาๆชิดริมหูของคนตกใจ ชานยอลเหลือบตามองคนที่โน้มตัวก่อนตนอยู่ด้วยปลายหางตาด้วยไม่กล้าที่จะหันกลับไปเพราะใบหน้าของคุณหนูนั้นใกล้ชิดเสียจนรับรู้ถึงไออุ่น
“มาขอกำลังใจก่อนเรียนคาบบ่ายครับ” ว่าแค่นั้นก่อนที่จะจรดปลายจมูกเข้ากับแก้มกลมๆของใครอีกคนที่นั่งตัวแข็งไปเสียแล้ว เซฮุนกลั้วขำในลำคอก่อนที่จะปล่อยอ้อมแขนที่โอบอีกคนแล้วถอยเดินจากไปขึ้นห้องเรียน เซฮุนหันกลับมามองอีกคนเป็นระยะก่อนที่จะยกยิ้มมุมปากแล้วส่งเสียงหัวเราะเบาๆเมื่อหันกลับไปบอดี้การ์ดคนเก่งยังนั่งทำตาโตตกใจอยู่เลย
เมื่อเซฮุนขึ้นมายังห้องเรียนแล้วมองลงไปยังใต้ต้นไม้ก็ไม่พบชานยอลแล้วเหลือไว้ก็แต่เพียงกองแฟ้มงานเหล่านั้น สักพักใหญ่ๆชานยอลถึงจะกลับมาพร้อมกับกาแฟในมือของร้านชื่อดังในระแวกแถวนี้ ชานยอลที่เหลือบตาขึ้นมองว่ามีใครอีกคนมองอยู่ก็ก้มหน้าลงจัดการกับงานและกาแฟตรงหน้าไม่เงยหน้าขึ้นมองอีกเลย เซฮุนก็นั่งเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเคย ริมฝีปากบางประดับด้วยรอยยิ้มยามที่นัยน์ตาจับจ้องไปที่ร่างใต้ร่มเงาไม้
วันนี้เรียนคาบบ่ายต่ออีกแค่เพียงสองคาบก็ต้องเลิกเรียนเพราะทางโรงเรียนมีประชุมเหล่าคณาจารย์ด่วนก็เลยเป็นการดีของเหล่านักเรียนที่จะได้กลับบ้านเร็วเซฮุนเดินลงมาพร้อมเพื่อนอีกสองคน ชานยอลยืนคอยอยู่แล้วที่ใต้ต้นไม้ต้นเดิม เมื่อทั้งสามมาถึงชานยอลก็ค้อมตัวให้ทั้งสามก่อนที่จะเดินนำไปยังรถที่จอดไว้ที่ลานจอดรถของโรงเรียน
“พี่ชานยอลครับ ถ้าส่งเพื่อนผมเสร็จแล้วเราไปกินข้าวกันไหม” เซฮุนก้าวยาวๆไปเดินเคียงข้างแล้วสอดมือจับกับมือของคุณบอดี้การ์ด ชานยอลสะดุ้งแล้วหลุดเสียงร้องตกใจออกมา เซฮุนกระพริบตาปริบๆมองอีกคนแล้วยิ้มกว้าง
“... ครับคุณหนูเซฮุน”
บรรยากาศในรถนั้นไม่อึดอัดอย่างที่ควร แน่นอนล่ะก็สองเพื่อนซี้ของคุณหนูที่นั่งด้านหลังคุยงุ๊งงิ๊งกันสองคน ส่วนคุณหนูที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็แทรกบทสนทนาบ้างเป็นครั้งคราวแต่ส่วนใหญ่จะหันมองสารถีเสียมากกว่า เมื่อส่งคยองซูกับจงอินลงจากรถแล้วเซฮุนก็เริ่มปฏิบัติการแกล้งบอดี้การ์ดทันที คุณหนูวางมือทับกับมือเรียวของอีกคนที่กำพวงมาลัยไว้อยู่ ชานยอลที่กำลังตั้งสมาธิกับการขับรถก็สะดุ้งตกใจ รถยนต์ที่ขับตรงทางก็เป๋ไปแว่บหนึ่ง
“คุณหนูอย่าเล่นแบบนี้สิครับ มันอันตราย” ชานยอลหันกลับมาตีสีหน้าดุใส่ เพราะถ้าเมื่อกี้รถที่ตามหลังมาขับชิดล่ะก็คงได้เกิดอุบัติเหตุไปแล้ว
“ผมไม่ได้เล่นนะ ก็ผมอยากจับมือพี่ชานยอลนิครับ” ว่าแล้วก็ตีสีหน้าแบ๊วเข้าใส่ ชานยอลเหลือบสายตามองก่อนที่จะถอนหายใจ
“คุณหนูเซฮุนครับ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ผมว่าคุณก็ควรที่จะให้เกรียติผมด้วยนะครับ ถึงสถานะผมจะต่ำกว่าคุณแต่ผมก็อายุมากกว่าคุณนะครับ” เซฮุนยิ้มก่อนที่จะยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง
“แล้วพี่อยากจะอยู่สถานะเดียวกับผมไหมล่ะครับ?” น้ำเสียง ท่าทางและแววตาของคนถามนั้นจริงจังเสียจนชานยอลยังนึกร้อนที่แก้ม แต่คำถามนั้นก็ไร้ซึ่งคำตอบ
มื้อเย็นนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเงียบๆ เงียบจนมาถึงในบ้าน ชานยอลส่งกระเป๋านักเรียนและเสื้อสูทเครื่องแบบนักเรียนให้คุณแม่บ้านเอาขึ้นไปเก็บที่ห้อง เซฮุนเดินเข้าไปยังห้องครัวเพื่อสั่งให้เด็กรับใช้เตรียมของว่างให้ เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วเซฮุนก็ถือถาดนั้นเองโดยที่ปฏิเสธคำขอของเด็กรับใช้หรือแม้แต่บอดี้การ์ดที่จะเข้ามาช่วยถือ เซฮุนเดินผ่านชานยอลที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ๆไปยังบันไดเพื่อขึ้นสู่ชั้นสองของบ้าน
“ไม่ต้องขึ้นมาที่ห้องผมแล้วนะครับ คืนนี้ผมต้องอัดเสียงทำรายงาน” พูดไว้แค่นั้นก่อนที่จะก้าวเท้าขึ้นบันไดไป ชานยอลเองก็มองตามไป คำสั่งเมื่อครู่นั้นเซฮุนก็ไม่ยอมหันมามอง ก็ไม่เข้าใจว่าคุณหนูของบ้านเป็นอะไรไป บอดี้การ์ดหนุ่มก็ได้แต่คิดเองในหัวแล้วก็ตกกระกอนได้คำว่า ‘ช่างมันเถอะ’ เจ้าตัวเลยจัดการเดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่คนละฟากกับห้องนอนของเจ้านายทั้งหลาย
และคืนนั้นเซฮุนก็ไม่ออกมาจากห้องทั้งคืน ...
และเช้าวันนี้ก็เป็นดั่งเช่นทุกวันที่บานประตูห้องสีมืดนี้จะเปิดออกด้วยฝีมือของบอดี้การ์ดหนุ่มในยามเช้า ผ้าม่านสีดำสนิทถูกเปิดออกแล้วเกี่ยวเข้ากับที่มัดเก็บด้านข้างเพื่อให้แสงสว่างลอดเข้ามา เรือนร่างบางสะองค์ผละจากบานหน้าต่างไปยังตู้เสื้อเพื่อจัดเตรียมชุดนักเรียนไว้ให้ และไม่นานร่างบนเตียงนอนแสนเย็นเหยียบก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น
เซฮุนก้าวเท้าลงจากเตียงนอนแล้วเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังบอดี้การ์ดประจำตัวก่อนที่จะสอดมือเข้าแล้วล็อคเอวเล็กให้ถอยรั้นมาแนบชิด ใบหน้าหวานตระหนกตกใจแต่ก็มีได้ส่งเสียงร้องออกไปดั่งเช่นทุกครั้งที่โดนโอบกอดโดยไม่รู้ตัว ก็โดนแกล้งซ้ำๆมาสหลายวันแล้วมันก็ย่อมที่จะเคยชินและหาทางหนีทีไล่ได้แล้ว(ล่ะมั้ง) เซฮุนชะโงกหน้ามามองคนในอ้อมแขนที่ตีหน้านิ่งสนิทก็เบ้ปากอย่างขัดใจ ...สงสัยต้องหาวิธีแกล้งแบบใหม่เสียล่ะ...
“ถ้าคุณหนูตื่นแล้วก็เข้าไปอาบน้ำแล้วลงไปทานมื้อเ=hานะครับ” ชานยอลหันกลับมาแล้วก้มหัวลงก่อนที่จะเดินผละออกจากห้องนอนของคุณหนูไป เมื่อบานประตูปิดลงบอดี้การ์ดหนุ่มแสนน่ารักก็พรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เพียงแค่เข้าไปปลุกคุณหนูของบ้านแค่นี้เองทำเสียอย่างกับไปวิ่งมาสักห้าสิบกิโล แล้วอยู่ๆบานประตูที่อยู่ข้างกายก็ถูกเปิดออกมา ชานยอลสะดุ้งแล้วยืนตัวตรงทันที
“ดีเลยที่ยังไม่ลงไปไหน เดี๋ยวมาช่วยผมแต่งตัวให้ด้วยนะครับ” ว่าแค่นั้นแล้วเจ้าของห้องก็เดินเข้าห้องนอนไปแต่ก็ไม่ได้ปิดประตู ชานยอลยืนสูดลมหายใจสักครู่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องนั้นไปแล้วไม่ลืมที่จะหันกลับมาปิดประตูด้วย
จากใจจริงก็ไม่ได้กลัวหรืออะไรขนาดนั้นหรอก แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกบางอย่างที่แว่บขึ้นมาในหัวเท่านั้นว่า ถ้าไม่อยากยุ่งยากไปกว่านี้ก็ไม่ควรเข้าใกล้คนนี้มากไปกว่านี้ ชานยอลเลือกที่จะเดินไปลงนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ ทั้งห้องที่จะนั่งได้ถ้าไม่นับพื้นห้องกับเตียงนอนก็มีเก้าอี้ไม้ตัวนี้เนี่ยแหละ พอนั่งแล้วก็เหลือบเห็นลิ้นชักของโต๊ะที่ปิดไม่สนิท ชานยอลหันกลับไปมองยังบานประตูห้องน้ำอีกครั้งว่ามันคงจะไม่เปิดออกมาเร็วๆนี้แน่ก็ค่อยๆยื่นมือออกไปเลื่อนลิ้นชักนั้นออกมาดู
ของด้านในถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ มีทั้งเครื่องเขียนและปากกาสีที่ใช้สำหรับวาดรูป แฟ้มรูปที่วาดเสร็จแล้ว รีมห่อกระดาษห่อเล็ก ไม้บรรทัด ยางลบ และสมุดไดอารี่หนังสีดำที่เรียกความสนใจได้มากโข ปลายเรียวนิ้วแตะสัมผัสมันและหมายที่จะหยิบออกมาแต่ทว่าบานประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกมาเสียก่อน ชานยอลดันปิดลิ้นชักนั้นก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพียงเสี้ยวนาทีก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ชุดนักเรียนครับคุณหนู” เซฮุนรับมาก่อนที่จะเลี่ยงไปเปลี่ยนชุดที่หน้าตู้เสื้อผ้า ชานยอลก็หันหลังแล้วยืนรอให้คุณหนูสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เซฮุนหันมามองก่อนที่จะยิ้มมุมปากเหมือนคิดแผนการแกล้งคุณบอดี้การ์ดคนเก่งได้แล้ว เมื่อสวมชุดเรียบร้อยเซฮุนก็ถือเนคไทสีดำมาลงนั่งที่ปลายเตียง ชานยอลเห็นก็เดินตามไปยืนอยู่ใกล้เคียง
“ผูกไทให้ให้ผมหน่อยสิฮะพี่ชานยอล” บอดี้การ์ดหนุ่มรับเนคไทเส้นนั้นมาแล้วมองหน้าคุณหนูที่มองตรงมาอย่างไม่ปิดบังเลยว่ากำลังท้าทายอยู่ ชานยอลคล้องเนคไทเส้นสีดำนั้นกับลำคอของคุณหนูที่ยกขาขึ้นไขว้ห้างดูสบายอารมณ์ สองมือพับทบไขว้กันเพื่อให้เนคไทขมวดเป็นปม ดวงตาเรียวเล็กของคุณหนูฉายแววระริกอย่างยั่วเย้า
นัยน์ตาสีเข้มมองจ้องสบตากับบอดี้การ์ดที่ค้อมตัวลงผูกเนคไทอยู่นี้ มองสบตาเพียงครู่เซฮุนก็เลื่อนสายตาลงมายังกลีบปากสีสดแล้วจึงมองกลับขึ้นไปสบกับดวงตากลมโตด้วยแววยิ้มเยาะ เมื่อรูดปมให้ขึ้นสุดที่ปกเสื้อ เรียวนิ้วเสลาก็ค่อยๆละมือออกจากเส้นสีดำนั้นอย่างช้าๆ ดวงตาเรียวเล็กยังคงไม่เลิกส่งสายตาเยาะเย้ยมาหา ชานยอลกำเส้นเนคไทนั้นแล้วกระตุกให้คุณหนูถลาใบหน้าเข้ามาหา กลีบปากนิ่มทาบทับเข้ากับริมฝีปากเย็นชืด นัยน์ตาของทั้งสองมองจ้องกันไม่มีใครยอมลดละสายตา บดเบียดเข้าหากันอย่างแผ่วพลิ้วและจาบจ้วงอยู่ในที แววตาในนัยน์ตาของเซฮุนนั้นฉายแววชอบใจและพอใจแต่กับชานยอลแล้วนั้นช่างนิ่งสนิท ก่อนที่จะละจูบออกจากกันชานยอลส่งยิ้มมุมปากคล้ายถากถางกลับคนที่ยังนั่งนิ่งลอยหน้าลอยตาอีกสักทีก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปยังชั้นล่าง
ก็บอกแล้วไงว่า ถ้าจะอยู่กับคุณหนูโอเซฮุนให้ได้น่ะ ภูมิต้านทานต้องแข็งแกร่ง!!
ขอบคุณ คุณ P.K.Ciel มากค่ะ *น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ* เราจะแต่งต่อไปค่ะ ไม่ทิ้งแน่นอน สัญญาค่ะ *เกี่ยวก้อย* ขอบคุณสำหรับคำชมเรื่องภาษา เราว่าก็ไม่สวยนะ ยังมีนักเขียนอีกหลายท่านที่เขียนได้สวยกว่าเรา แต่เราก็จะพยายามให้ดีที่สุด เท่าที่หัวสมองเราจะเข็น(?)ออกมาได้ค่ะ *ปาดน้ำตา* เม้นครบไม่ครบเราไม่วอรี่หรอกค่ะ แค่ชอบ แค่รัก แต่ติดตามและสนับสนุนเราก็พอแล้วค่ะ กำลังใจของเราก็คือสิ่งเหล่านั้นแหละค่ะ
ลู่หมินกับแบคโด้นี่ ถ้าเราไม่ได้ยัดใส่ในนี้ก็ติดตามได้ที่รวมฟิคคู่แปลก IML (Impossible Miracle Love) ของเราได้นะคะ ที่ http://writer.dek-d.com/bettynoona/story/view.php?id=898378 เพราะส่วนใหญ่ ช่วงที่เรากำลังแต่งแล้วใครแว่บเข้ามาเราก็จะจับมารับเชิญทันที 555555
ดีใจจังเวลาที่คนมาบอกว่าชอบคู่ที่เราพยายาม(ยัดเหยียด #ผิด)ให้ทุกคนอ่าน แล้วมีคนบอกว่าชอบเพราะเรา เราชอบอ่ะ ตื้นตันมากกกกกกกกกกก ขอบคุณทุกๆคนค่ะ ที่จะเม้นหรือไม่เม้น จะแสดงตัวหรือไม่ แค่คุณเข้ามาอ่าน ชอบมัน รักมัน รักฮุนยอล แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว มีความสุขมากค่ะ เราจะพยายามต่อไป จะทำให้ดีที่สุด ถ้ามีอะไรที่เราอาจจะเขียนดรอปไปหรือไม่ถูกใจก็ขอโทษด้วยนะคะ ^^ (ไม่ใช่แค่ฮุนยอล แต่เราหมายถึงในทุกๆเรื่องที่เราสรรสร้างขึ้นมา)
ด้วยรักจากใจ
BettyNoona
_____________________
บานประตูถูเปิดดั่งเช่นทุกเช้า ร่างของบอดี้การ์ดหนุ่มเดินไปเปิดผ้าม่านออกก่อนเป็นอย่างแรกก่อนที่จะเดินวกกลับมาปลุกเจ้านายในความดูแล เขย่าร่างปลุกไม่นานเจ้าตัวก็ลืมตาตื่น นัยน์ตาเรียวที่มองจ้องสบกลับมาก็พาลให้รู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งตัว แต่ชานยอลก็เลือกที่จะแสร้งทำสีหน้าเรียบนิ่งเอาไว้
“ได้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วครับคุณหนูเซฮุน” ใบหน้าของเจ้านายยังคงฉาบรอยยิ้มที่ดูยังไงก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย
“พี่ชานยอลครับ” เอ่ยเรียกเสียงเบา ชานยอลค่อยๆเขยิบไปชิดเตียงนอนก่อนที่จะค้อมตัวลงเมื่อคุณหนูกวักมือเรียก
“จุ๊บ.... มอร์นิ่งคิสครับ” เซฮุนที่ยืดตัวขึ้นจุ๊บที่กลับปากสีสดนั้นยิ้มมุมปากอย่างถูกใจก่อนที่จะเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้บอดี้การ์ดหนุ่มที่ภูมิต้านทานไม่แข็งแรงเบิกตากกว้างค้างอยู่ท่าเดิม
“อะไรวะเนี่ย” ชานยอลสบถกับตัวเองก่อนที่จะลงมือจัดการกับภารกิจในทุกเช้าที่จะต้องเตรียมชุดนักเรียนและเก็บเตียงให้เรียบร้อยก่อนที่จะลงไปรอยังห้องรับประทานอาหารด้านล่าง
เช้านี้เซฮุนทานมื้อเช้าอย่างไม่เร่งรีบด้วยกำลังยียวนกวนประสาทคุณบอดี้การ์ดที่ยืนสงบอยู่ด้านหลัง แม้ว่าเวลาจะเดินไปใกล้ถึงเวลาที่จะต้องไปโรงเรียนแล้วก็ตามแต่คุณหนูก็ยังคงนั่งละเลียดทานเบรคฟาสท์ บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะก้าวเท้าเข้ามาหาคุณหนูที่ยังคงนั่งกินอย่างสบายอารมณ์
“คุณหนูเซฮุนครับ ใกล้จะได้เวลาต้องไปโรงเรียนแล้วนะครับ” เซฮุนวางส้อมลงกับจานก่อนที่จะหันหน้ามาหาบอดี้การ์ดด้วยรอยยิ้มกว้างจนดวงตาเล็กยิ่งเล็กเข้าไปอีก
“ก็ผมยังไม่อิ่มเลยนี่ครับพี่ชานยอล” ชานยอลมองจ้องตากับคุณหนูตรงหน้าก่อนที่จะเอ่ยปากถามประโยคที่ดูก็รู้ว่าถูกใจคุณหนูคนนี้ยิ่งนัก
“ถ้าจะไปโรงเรียนตอนนี้คุณหนูเซฮุนต้องการอะไรครับ” เมื่อคำนี้ที่รอคอย เซฮุนยิ้มกว้างแล้วเอียงคอทำท่าคิด
“เอ? ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออก ... เอาไว้ผมคิดได้จะบอกนะครับ”
การสนทนาจบไว้แค่นั้นเมื่อเซฮุนยอมลุกจากโต๊ะไปขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน คุณหนูเซฮุนนั่งด้านหน้าข้างคนขับซึ่งถึงจะคัดค้าสิ่งใดไปก็ไม่เกิดผลอยู่ดี เพราะฉะนั้นปล่อยให้คุณหนูได้ทำตามใจไปนั่นแหละดีที่สุดแล้ว ไม่นานรถลีโมสีดำก็แล่นไปจอดที่หน้าประตูรั้วโรงเรียนเพื่อให้เซฮุนลงจากรถ แต่คุณหนูเซฮุนกลับไม่ยอมลงเสียนี่จนชานยอลต้องหันมามอง พอหันกลับมาดวงตาเรียวก็มองจ้องอยู่แล้ว
“เดี๋ยวพี่จะไปไหนครับ” ดวงตาเรียวนั้นเป็นกระกายวิบวับเกินกว่าที่จะทนมองสบตาอยู่ได้ ชานยอลจึงเลือกที่จะเลนหน้าหนี
“ไปบริษัทของคุณท่านครับแล้วช่วงเย็นผมจะมารับคุณหนูเซฮุนกลับบ้าน”
“พี่ชานยอลฮะ” เซฮุนเอ่ยเรียกแล้วจับมือของชานยอลมากุมไว้ “ไม่ไปไม่ได้เหรอฮะ วันนี้อยู่ที่โรงเรียนกับผมไม่ได้เหรอครับ” เมื่อคุณหนูขอมีหรือที่บอดี้การ์ดจะไม่ยอมทำตาม
“แต่ผมมีงานที่จะต้องทำ .. ถ้าอย่างนั้นอีกสักสองชั่วโมงผมจะกลับมาได้ไหมครับ” แล้วคุณบอดี้การ์ดก็ใจอ่อนจนได้ เมื่อตกปากรับคำเซฮุนก็ยิ้มกว้างแล้วลงจากรถเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมๆกับรถยนต์คันหรูแล่นออกไป เซฮุนยิ้มแล้วมองตามหลังรถคันนั้นไป
เซฮุนที่กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้องเหลือบมองไปยังนอกหน้าต่างห้องเรียนเป็นระยะๆ โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ถูกจับจองด้วยร่างของบอดี้การ์ดแสนนิ่งกับกองแฟ้มมากมายที่กองไว้เต็มพื้นที่โต๊ะ ชานยอลนั่งก้มหน้าดูแฟ้มโน้น เปิดแฟ้มนี้ เขียนอะไรไม่รู้ยุกยิกในแฟ้มนั้นที แล้วก็เปิดไปเรื่อยๆเหมือนว่าจะไม่มีทางหมด พอเปิดแฟ้มใหม่แล้วก็ต้องย้อนกลับมาเปิดแฟ้มเก่าจดอะไรเพิ่มเสริมเข้าไป ดูวุ่นวายเกินกว่าที่คนชอบนั่งสบายๆจะอยากทำ
เซฮุนเปลี่ยนท่าจากการนั่งสนใจอาจารย์หน้าห้องก็เป็นนั่งเท้าคางแล้วมองออกไปยังที่ใต้ต้นไม้นั้น แม้ว่าอากาศจะไม่ถึงกับร้อนอบอ้าวมากแต่เรือนร่างเพรียวนั้นก็ไม่ยอมถอดชุดสูทเลย ซ้ำยังคงนั่งก้มหน้าทำงานได้โดยไม่ขยับกายสักนิด ข้างกายมีเพียงกองแฟ้มมากมายและขวดน้ำดื่มหนึ่งขวดเท่านั้น ชานยอลยังคงก้มหน้าทำงานเช่นเดิม และเซฮุนเองก็นั่งเท้าคางมองลงมาจากตึกเรียนเช่นกัน
“เฮ้ยพี่เขามาได้ไงวะ” เมื่อจบชั่วโมงเรียนเพื่อนซี้ทั้งสองก็หันกลับมาหาจากโต๊ะเรียนตรงหน้า เซฮุนหันกลับมามองสองเพื่อนแล้วก็เลิกคิ้ว
“บอดี้การ์ดของเอ็งไง ทำไมมานั่งตรงนั้นล่ะ” คยองซูถามแล้วชี้นิ้วลงไปยังใต้ต้นไม้ เซฮุนยิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือไปดีดหน้าผากเพื่อนเบาๆ
“ก็มาตามเฝ้าเราไง” เซฮุนยักคิ้วให้เพื่อนไปสามที ซึ่งจงอินเองก็หมั่นไส้นะ เรื่องอะไรมาดีดเหม่งน้อยของคยองซูเล่า~!
“แล้วไปให้พี่เขาไปนั่งตรงนั้นมันร้อนนะ แล้วพี่เขาต้องทำงานอีกนะ” เซฮุนยิ้มให้คยองซูก่อนที่จะผินหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างที่จุดเดิม
“เซฮุนใจร้ายอ่ะ ... ชอบบอดี้การ์ดคนใหม่มากเหรอ?” เซฮุนไม่ตอบแต่ยิ้มกว้างๆให้แม้ว่าจะไม่ได้หันหน้ากลับไปมองแต่คยองซูก็รู้คำตอบ
“รักแรกพบเลยสิ” จงอินกลั้วหัวเราะอย่างขำขันก่อนที่จะเอ่ยต่อ “ตกลงว่าที่จะไปทะเลกันอ่ะว่าไงวะ?”
“ก็ไปดิ” เซฮุนหันกลับมาแล้วเลิกคิ้วคล้ายกับคำถามว่า แล้วมีปัญหาอะไรตรงไหน
“แล้วบอดี้การ์ดมึงอ่ะ?” เซฮุนกระตุกยิ้มกว้าง
“แน่นอน ไม่มีพลาด”
หลังจากทานมื้อเที่ยงแล้วเซฮุนก็เดินแยกกับเพื่อนซี้ตัวเล็กและตัวดำมาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ชานยอลยังคงนั่งดูรายละเอียดพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย พอเซฮุนเดินไปใกล้คุณบอดี้การ์ดก็วางสายพอดีและก่อนที่จะกล่าวลากันนั้นกลีบปากอิ่มก็วาดรอยยิ้มอีกด้วย แก้มกลมดันดวงตาโตให้ยิบหยีพร้อมกับสีแดงเรื่อๆที่แก้มนั่นด้วย เรียวคิ้วของคนมองขมวดมุ่น ...ใครกันนะ ที่คุยด้วยน่ะ...
“คุณหนูเซฮุน” ชานยอลหันมาก็พบกับคุณหนูที่เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาหาด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง
“พี่ชานยอลกินมื้อเที่ยงหรือยังครับ” เซฮุนเอียงคอส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินมาลงนั่งเคียงข้าง ดวงตาเรียวมองแฟ้มที่กองอยู่บนโต๊ะก็ขมวดคิ้วสงสัย เพราะตราชื่อของบริษัทนั้นคือบริษัทของบิดาตน
“ทานแล้วครับ” คุณหนูเลิกคิ้วก่อนที่จะมองหา เซฮุนเอี้ยวตัวไปมองซากข้างกายของบอดี้การ์ดก็พยักหน้า ถุงขยะที่มีซากของกล่องบะหมี่ ขนมปังและขวดน้ำ
“คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าครับ” เซฮุนยักไหล่แล้วลุกขึ้นยืน
“ผมขึ้นห้องเรียนก่อนนะครับ ก็แค่มาหาพี่กลัวว่าพี่จะเหงาแต่ใกล้จะหมดเวลาพักแล้ว” เซฮุนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ชานยอลพยักหน้ารับแล้วค้อมตัวให้คุณหนูไปหนึ่งทีก่อนที่จะก้มหน้าลงทำงานต่อ
ชานยอลก้มหน้าอยู่ก็เลยไม่เห็นว่าเซฮุนที่หันหลังเดินไปแล้วนั้นค่อยๆย่องกลับมายืนอยู่ด้านหลัง สองแขนกางออกแล้วรวบหมับเข้าที่รอบคอของใครอีกคน ชานยอลสะดุ้งตกใจหลุดสบถไปสองคำ เซฮุนหัวเราะเบาๆชิดริมหูของคนตกใจ ชานยอลเหลือบตามองคนที่โน้มตัวก่อนตนอยู่ด้วยปลายหางตาด้วยไม่กล้าที่จะหันกลับไปเพราะใบหน้าของคุณหนูนั้นใกล้ชิดเสียจนรับรู้ถึงไออุ่น
“มาขอกำลังใจก่อนเรียนคาบบ่ายครับ” ว่าแค่นั้นก่อนที่จะจรดปลายจมูกเข้ากับแก้มกลมๆของใครอีกคนที่นั่งตัวแข็งไปเสียแล้ว เซฮุนกลั้วขำในลำคอก่อนที่จะปล่อยอ้อมแขนที่โอบอีกคนแล้วถอยเดินจากไปขึ้นห้องเรียน เซฮุนหันกลับมามองอีกคนเป็นระยะก่อนที่จะยกยิ้มมุมปากแล้วส่งเสียงหัวเราะเบาๆเมื่อหันกลับไปบอดี้การ์ดคนเก่งยังนั่งทำตาโตตกใจอยู่เลย
เมื่อเซฮุนขึ้นมายังห้องเรียนแล้วมองลงไปยังใต้ต้นไม้ก็ไม่พบชานยอลแล้วเหลือไว้ก็แต่เพียงกองแฟ้มงานเหล่านั้น สักพักใหญ่ๆชานยอลถึงจะกลับมาพร้อมกับกาแฟในมือของร้านชื่อดังในระแวกแถวนี้ ชานยอลที่เหลือบตาขึ้นมองว่ามีใครอีกคนมองอยู่ก็ก้มหน้าลงจัดการกับงานและกาแฟตรงหน้าไม่เงยหน้าขึ้นมองอีกเลย เซฮุนก็นั่งเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเคย ริมฝีปากบางประดับด้วยรอยยิ้มยามที่นัยน์ตาจับจ้องไปที่ร่างใต้ร่มเงาไม้
วันนี้เรียนคาบบ่ายต่ออีกแค่เพียงสองคาบก็ต้องเลิกเรียนเพราะทางโรงเรียนมีประชุมเหล่าคณาจารย์ด่วนก็เลยเป็นการดีของเหล่านักเรียนที่จะได้กลับบ้านเร็วเซฮุนเดินลงมาพร้อมเพื่อนอีกสองคน ชานยอลยืนคอยอยู่แล้วที่ใต้ต้นไม้ต้นเดิม เมื่อทั้งสามมาถึงชานยอลก็ค้อมตัวให้ทั้งสามก่อนที่จะเดินนำไปยังรถที่จอดไว้ที่ลานจอดรถของโรงเรียน
“พี่ชานยอลครับ ถ้าส่งเพื่อนผมเสร็จแล้วเราไปกินข้าวกันไหม” เซฮุนก้าวยาวๆไปเดินเคียงข้างแล้วสอดมือจับกับมือของคุณบอดี้การ์ด ชานยอลสะดุ้งแล้วหลุดเสียงร้องตกใจออกมา เซฮุนกระพริบตาปริบๆมองอีกคนแล้วยิ้มกว้าง
“... ครับคุณหนูเซฮุน”
บรรยากาศในรถนั้นไม่อึดอัดอย่างที่ควร แน่นอนล่ะก็สองเพื่อนซี้ของคุณหนูที่นั่งด้านหลังคุยงุ๊งงิ๊งกันสองคน ส่วนคุณหนูที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็แทรกบทสนทนาบ้างเป็นครั้งคราวแต่ส่วนใหญ่จะหันมองสารถีเสียมากกว่า เมื่อส่งคยองซูกับจงอินลงจากรถแล้วเซฮุนก็เริ่มปฏิบัติการแกล้งบอดี้การ์ดทันที คุณหนูวางมือทับกับมือเรียวของอีกคนที่กำพวงมาลัยไว้อยู่ ชานยอลที่กำลังตั้งสมาธิกับการขับรถก็สะดุ้งตกใจ รถยนต์ที่ขับตรงทางก็เป๋ไปแว่บหนึ่ง
“คุณหนูอย่าเล่นแบบนี้สิครับ มันอันตราย” ชานยอลหันกลับมาตีสีหน้าดุใส่ เพราะถ้าเมื่อกี้รถที่ตามหลังมาขับชิดล่ะก็คงได้เกิดอุบัติเหตุไปแล้ว
“ผมไม่ได้เล่นนะ ก็ผมอยากจับมือพี่ชานยอลนิครับ” ว่าแล้วก็ตีสีหน้าแบ๊วเข้าใส่ ชานยอลเหลือบสายตามองก่อนที่จะถอนหายใจ
“คุณหนูเซฮุนครับ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ผมว่าคุณก็ควรที่จะให้เกรียติผมด้วยนะครับ ถึงสถานะผมจะต่ำกว่าคุณแต่ผมก็อายุมากกว่าคุณนะครับ” เซฮุนยิ้มก่อนที่จะยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง
“แล้วพี่อยากจะอยู่สถานะเดียวกับผมไหมล่ะครับ?” น้ำเสียง ท่าทางและแววตาของคนถามนั้นจริงจังเสียจนชานยอลยังนึกร้อนที่แก้ม แต่คำถามนั้นก็ไร้ซึ่งคำตอบ
มื้อเย็นนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเงียบๆ เงียบจนมาถึงในบ้าน ชานยอลส่งกระเป๋านักเรียนและเสื้อสูทเครื่องแบบนักเรียนให้คุณแม่บ้านเอาขึ้นไปเก็บที่ห้อง เซฮุนเดินเข้าไปยังห้องครัวเพื่อสั่งให้เด็กรับใช้เตรียมของว่างให้ เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วเซฮุนก็ถือถาดนั้นเองโดยที่ปฏิเสธคำขอของเด็กรับใช้หรือแม้แต่บอดี้การ์ดที่จะเข้ามาช่วยถือ เซฮุนเดินผ่านชานยอลที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ๆไปยังบันไดเพื่อขึ้นสู่ชั้นสองของบ้าน
“ไม่ต้องขึ้นมาที่ห้องผมแล้วนะครับ คืนนี้ผมต้องอัดเสียงทำรายงาน” พูดไว้แค่นั้นก่อนที่จะก้าวเท้าขึ้นบันไดไป ชานยอลเองก็มองตามไป คำสั่งเมื่อครู่นั้นเซฮุนก็ไม่ยอมหันมามอง ก็ไม่เข้าใจว่าคุณหนูของบ้านเป็นอะไรไป บอดี้การ์ดหนุ่มก็ได้แต่คิดเองในหัวแล้วก็ตกกระกอนได้คำว่า ‘ช่างมันเถอะ’ เจ้าตัวเลยจัดการเดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่คนละฟากกับห้องนอนของเจ้านายทั้งหลาย
และคืนนั้นเซฮุนก็ไม่ออกมาจากห้องทั้งคืน ...
และเช้าวันนี้ก็เป็นดั่งเช่นทุกวันที่บานประตูห้องสีมืดนี้จะเปิดออกด้วยฝีมือของบอดี้การ์ดหนุ่มในยามเช้า ผ้าม่านสีดำสนิทถูกเปิดออกแล้วเกี่ยวเข้ากับที่มัดเก็บด้านข้างเพื่อให้แสงสว่างลอดเข้ามา เรือนร่างบางสะองค์ผละจากบานหน้าต่างไปยังตู้เสื้อเพื่อจัดเตรียมชุดนักเรียนไว้ให้ และไม่นานร่างบนเตียงนอนแสนเย็นเหยียบก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น
เซฮุนก้าวเท้าลงจากเตียงนอนแล้วเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังบอดี้การ์ดประจำตัวก่อนที่จะสอดมือเข้าแล้วล็อคเอวเล็กให้ถอยรั้นมาแนบชิด ใบหน้าหวานตระหนกตกใจแต่ก็มีได้ส่งเสียงร้องออกไปดั่งเช่นทุกครั้งที่โดนโอบกอดโดยไม่รู้ตัว ก็โดนแกล้งซ้ำๆมาสหลายวันแล้วมันก็ย่อมที่จะเคยชินและหาทางหนีทีไล่ได้แล้ว(ล่ะมั้ง) เซฮุนชะโงกหน้ามามองคนในอ้อมแขนที่ตีหน้านิ่งสนิทก็เบ้ปากอย่างขัดใจ ...สงสัยต้องหาวิธีแกล้งแบบใหม่เสียล่ะ...
“ถ้าคุณหนูตื่นแล้วก็เข้าไปอาบน้ำแล้วลงไปทานมื้อเ=hานะครับ” ชานยอลหันกลับมาแล้วก้มหัวลงก่อนที่จะเดินผละออกจากห้องนอนของคุณหนูไป เมื่อบานประตูปิดลงบอดี้การ์ดหนุ่มแสนน่ารักก็พรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เพียงแค่เข้าไปปลุกคุณหนูของบ้านแค่นี้เองทำเสียอย่างกับไปวิ่งมาสักห้าสิบกิโล แล้วอยู่ๆบานประตูที่อยู่ข้างกายก็ถูกเปิดออกมา ชานยอลสะดุ้งแล้วยืนตัวตรงทันที
“ดีเลยที่ยังไม่ลงไปไหน เดี๋ยวมาช่วยผมแต่งตัวให้ด้วยนะครับ” ว่าแค่นั้นแล้วเจ้าของห้องก็เดินเข้าห้องนอนไปแต่ก็ไม่ได้ปิดประตู ชานยอลยืนสูดลมหายใจสักครู่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องนั้นไปแล้วไม่ลืมที่จะหันกลับมาปิดประตูด้วย
จากใจจริงก็ไม่ได้กลัวหรืออะไรขนาดนั้นหรอก แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกบางอย่างที่แว่บขึ้นมาในหัวเท่านั้นว่า ถ้าไม่อยากยุ่งยากไปกว่านี้ก็ไม่ควรเข้าใกล้คนนี้มากไปกว่านี้ ชานยอลเลือกที่จะเดินไปลงนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ ทั้งห้องที่จะนั่งได้ถ้าไม่นับพื้นห้องกับเตียงนอนก็มีเก้าอี้ไม้ตัวนี้เนี่ยแหละ พอนั่งแล้วก็เหลือบเห็นลิ้นชักของโต๊ะที่ปิดไม่สนิท ชานยอลหันกลับไปมองยังบานประตูห้องน้ำอีกครั้งว่ามันคงจะไม่เปิดออกมาเร็วๆนี้แน่ก็ค่อยๆยื่นมือออกไปเลื่อนลิ้นชักนั้นออกมาดู
ของด้านในถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ มีทั้งเครื่องเขียนและปากกาสีที่ใช้สำหรับวาดรูป แฟ้มรูปที่วาดเสร็จแล้ว รีมห่อกระดาษห่อเล็ก ไม้บรรทัด ยางลบ และสมุดไดอารี่หนังสีดำที่เรียกความสนใจได้มากโข ปลายเรียวนิ้วแตะสัมผัสมันและหมายที่จะหยิบออกมาแต่ทว่าบานประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกมาเสียก่อน ชานยอลดันปิดลิ้นชักนั้นก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพียงเสี้ยวนาทีก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ชุดนักเรียนครับคุณหนู” เซฮุนรับมาก่อนที่จะเลี่ยงไปเปลี่ยนชุดที่หน้าตู้เสื้อผ้า ชานยอลก็หันหลังแล้วยืนรอให้คุณหนูสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เซฮุนหันมามองก่อนที่จะยิ้มมุมปากเหมือนคิดแผนการแกล้งคุณบอดี้การ์ดคนเก่งได้แล้ว เมื่อสวมชุดเรียบร้อยเซฮุนก็ถือเนคไทสีดำมาลงนั่งที่ปลายเตียง ชานยอลเห็นก็เดินตามไปยืนอยู่ใกล้เคียง
“ผูกไทให้ให้ผมหน่อยสิฮะพี่ชานยอล” บอดี้การ์ดหนุ่มรับเนคไทเส้นนั้นมาแล้วมองหน้าคุณหนูที่มองตรงมาอย่างไม่ปิดบังเลยว่ากำลังท้าทายอยู่ ชานยอลคล้องเนคไทเส้นสีดำนั้นกับลำคอของคุณหนูที่ยกขาขึ้นไขว้ห้างดูสบายอารมณ์ สองมือพับทบไขว้กันเพื่อให้เนคไทขมวดเป็นปม ดวงตาเรียวเล็กของคุณหนูฉายแววระริกอย่างยั่วเย้า
นัยน์ตาสีเข้มมองจ้องสบตากับบอดี้การ์ดที่ค้อมตัวลงผูกเนคไทอยู่นี้ มองสบตาเพียงครู่เซฮุนก็เลื่อนสายตาลงมายังกลีบปากสีสดแล้วจึงมองกลับขึ้นไปสบกับดวงตากลมโตด้วยแววยิ้มเยาะ เมื่อรูดปมให้ขึ้นสุดที่ปกเสื้อ เรียวนิ้วเสลาก็ค่อยๆละมือออกจากเส้นสีดำนั้นอย่างช้าๆ ดวงตาเรียวเล็กยังคงไม่เลิกส่งสายตาเยาะเย้ยมาหา ชานยอลกำเส้นเนคไทนั้นแล้วกระตุกให้คุณหนูถลาใบหน้าเข้ามาหา กลีบปากนิ่มทาบทับเข้ากับริมฝีปากเย็นชืด นัยน์ตาของทั้งสองมองจ้องกันไม่มีใครยอมลดละสายตา บดเบียดเข้าหากันอย่างแผ่วพลิ้วและจาบจ้วงอยู่ในที แววตาในนัยน์ตาของเซฮุนนั้นฉายแววชอบใจและพอใจแต่กับชานยอลแล้วนั้นช่างนิ่งสนิท ก่อนที่จะละจูบออกจากกันชานยอลส่งยิ้มมุมปากคล้ายถากถางกลับคนที่ยังนั่งนิ่งลอยหน้าลอยตาอีกสักทีก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปยังชั้นล่าง
ก็บอกแล้วไงว่า ถ้าจะอยู่กับคุณหนูโอเซฮุนให้ได้น่ะ ภูมิต้านทานต้องแข็งแกร่ง!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น