ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : SF :: 0627 KrisYeol Day
เฮลโหล๊วววววววววววววววววววววววววววว มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาเนอะ #มาสายตั้ง5ชั่วโมง 55555
0627 #HappyKrisYeolDay อิอิ
ขอให้มยคยมีความสุขตลอดๆๆไป ไม่ว่าวันไหนๆก็เป็นวันที่มีความสุขและมีเรื่องราวดีๆ เป็นวันคริสยอลของเรา ^^
____________________________________
“น้องคริสกำลังทำอะไรอยู่น่ะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยถามเด็กตัวเล็กอายุ5ขวบที่กำลังก้มหน้าระบายอะไรสักอย่าง
“น้องคริสกำลังระบายสีอยู่” เด็กตัวน้อยหันกลับมาตอบ คนเป็นพี่ก็เลยชะโงกหน้าข้ามไปดูแต่คริสก็เบี่ยงตัวหนี
“พี่ชานยอลอย่ามาแอบดูสิ!” ชานยอลทำหน้าสงสัยแต่ก็ยอมพยักหน้าปล่อยไป
“งั้นพี่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” คริสส่งเสียงครางรับโดยที่ไม่หันหน้าไปหาคนเป็นพี่ ชานยอลก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้าตัวก็เดินขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะคุณแม่บอกว่าถ้ากลับมาแล้วต้องเปลี่ยนชุดนักเรียนออกแล้วล้างมือให้สะอาด
คริสเด็กน้อยตัวป้อมอายุห้าขวบกับชานยอลตัวเล็กที่อายุสิบสองขวบแล้ว คริสเป็นลูกของเพื่อนแม่ที่เอามาฝากไว้ที่บ้านและชานยอลก็มีหน้าที่ดูแลน้อง หลังจากที่รถโรงเรียนมาส่งคริสที่บ้านแล้วและชานยอลกลับมาถึงบ้านก็จะต้องดูแลน้องเพื่อให้คุณแม่ได้ทำมื้อเย็น
ชานยอลที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินลงมาจากชั้นบนพร้อมกับสมุดการบ้านหนึ่งเล่ม พอเดินมาถึงโต๊ะเล็กหน้าโซฟาที่ประจำของคริสแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นเด็กตัวป้อมเลย หันซ้ายมองขวาก็ไม่เจอ หรือบางทีคริสอาจจะวิ่งไปหลังบ้านขอขนมกินก็ได้ ก็เอาแต่กินขนมนั่นแหละถึงได้ตัวอ้วนป้อมแบบนั้นน่ะ!
พอลงนั่งที่พื้นเตรียมกางสมุดทำการบ้านได้อยู่ๆก็โดนโถมตัวใส่ข้างหลังเสียอย่างนั้น ทำเอาหน้าแทบโขกโต๊ะแน่ะ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครนอกจากแขนสั้นๆที่กอดคอแล้วก็เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากนั่นอีกน่ะ ไม่ต้องสืบก็รู้เลย
“น้องคริสเล่นอะไรเนี่ย~” ชานยอลแกะแขนของคนแกล้งออก คริสที่ยังหัวเราะก็สนุกไปสิ ชานยอลจับคริสให้เดินอ้อมมายืนข้างๆแล้วก็ยืดแก้มเด็กตัวกลมไปหนึ่งทีถ้วน
“พี่ชานยอล!!” เจ้าของชื่อหัวเราะร่าเมื่อเด็กตัวกลมทำหน้าบึงพร้อมกับปัดมือเขาออกไม่ให้ยืดแก้ม
“น้องคริสแก้มย้วยๆ~~” คนที่โดนบอกว่าแก้มย้วยก็ไม่ยอมเอาสิก็เลยยื่นมือไปยืดแก้มคนเป็นพี่บ้าง
“พี่ชานยอลแก้มย้วยๆ~~” เมื่อคริสหัวเราะเสียงร่าเริง ชานยอลก็เลยหัวเราะไปด้วย
“พี่ชานยอลทำอะไร” หลังจากที่ยืดแก้มกันจนพอใจแล้วน้องคริสก็นั่งคุกเข่าเท้าโต๊ะมองการบ้านของคนเป็นพี่
“ทำการบ้าน” วันนี้ชานยอลมีการบ้านคณิตศาสตร์ คริสที่นั่งอยู่ใกล้ๆก็เอียงคอไปมา
“เลขเยอะอ่ะปวดหัว” แล้วเจ้าตัวน้อยก็ทำท่าปวดหัวเอียงหัวไปมา
“เดี๋ยวน้องคริสก็ต้องเรียนแบบนี้แหละ” คริสมุ่ยหน้าใส่
“งั้นพี่ชานยอลไปเรียนกับน้องคริสนะ” ชานยอลส่ายหน้า
“ไม่เอาหรอก ถ้าไปเรียนด้วยก็ซ้ำชั้นน่ะสิ” คริสกอดอกแล้วพองแก้มใส่
“พี่ชานยอลต้องเรียนกันน้องคริสสิ พี่ชานยอลเป็นแฟนน้องคริสนะ!!”
“ไปเป็นตอนไหน มั่ว!” ชานยอลแลบลิ้นกลับไป คริสก็แลบลิ้นกลับ
“เป็นทุกตอน!!” แล้วคริสกับชานยอลก็เถียงกันว่าไปเป็นแฟนกันตอนไหน สงสัยการบ้านของชานยอลจะไม่เสร็จเสียแล้วมั้ง
แต่ถึงจะยังเถียงกันอยู่แต่พอถึงมื้อเย็นก็เลิกเถียงกันพักรบสงบศึกชั่วคราว ชานยอลก็ดูแลน้องตัวกลมเช่นเดิม คอยช่วยป้อนข้าวน้อง ดูแลน้องไม่ให้กินหก ทำทุกหน้าที่ที่คนเป็นพี่สมควรทำ หลังจากกินข้าวเสร็จชานยอลก็จูงมือน้องขึ้นข้างบนไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนเพราะพรุ่งนี้มีเรียน
คุณแม่ปล่อยให้ชานยอลกับคริสจัดการกันเองเพราะเธอรู้ว่าลูกชายของเธอจะดูแลน้องได้และชานยอลก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง จัดการอาบน้ำทั้งตัวเองและน้องเรียบร้อยก็พากันออกมาแต่งชุดนอน วันนี้ชุดนอนของคนน้องเป็นหมี คนพี่เป็นกระต่าย
ชานยอลนั่งพิงหมอนที่เอามารองหลังกางหนังสือนิทานเล่มใหญ่โดยมีเด็กตัวกลมอยู่ข้างๆยื่นหน้าเข้ามามองอย่างสนใจ ชานยอลกำลังเปิดหน้านิทานให้ไปถึงเรื่องล่าสุดที่อ่านค้างไว้เมื่อคืน คริสเองก็พยายามจะช่วยเปิดด้วย พอหาเจอชานยอลก็เริ่มเล่านิทานไป
หมีตัวกลมอิงซบที่แขนของพี่กระต่ายไว้แล้วมองภาพนิทานเรื่องเล่าตรงหน้าไป น้ำเสียงเล็กที่เอ่ยเล่านิทานไปตามตัวหนังสือก็ถ่ายทอดให้เด็กข้างตัวฟัง เล่าไปอยู่ดีๆก็ง่วงงาวหาวนอนเสียแล้วสิ ชานยอลที่หันมาเห็นคริสทำท่าสัปหงกก็ปิดหนังสือนิทานแล้วพาลูกหมีตัวกลมให้ลงนอนกับเตียง
ตัวเองก็เดินไปเก็บหนังสือนิทานที่ชั้นวางหนังสือแล้วก็ปิดไฟในห้องก่อนที่จะปีนขึ้นเตียงมานอนกับลูกหมีกลมๆที่คิดว่าหลับไปแล้ว พอชานยอล้มตัวลงนอนได้ลูกหมีก็กลิ้งเข้ามาหาพร้อมกับกอดพี่กระต่ายเสียหมับเบ่อเร่อ
“น้องคริสยังไม่หลับอีกเหรอ” ลูกหมีส่ายหน้า
“น้องคริสรอจุ๊บๆจากพี่ชานยอลอยู่” ชานยอลก็เลยยื่นหน้าไปจุ๊บๆหมีน้อยสักหนึ่งที ลูกหมีก็ยิ้มแล้วยื่นหน้ามาจุ๊บที่แก้มคืน
“พี่ชานยอล~”
“อืม..”
“พี่ชานยอลเป็นแฟนน้องคริสนะ” ชานยอลมองเด็กน้อยที่นอนตาปรืออยู่ข้างตัว
“ทำไมต้องเป็นด้วยอ่ะ” ลูกหมีมุ่ยหน้าใส่
“ก็น้องคริสจะเป็นแฟนกับพี่ชานยอลไง! เพราะฉะนั้นพี่ชานยอลก็ต้องเป็น” มาแล้วอาการชอบเอาแต่ใจกับชานยอล
“แต่เรายังเด็กนะจะเป็นแฟนกันได้ยังไง” ลูกหมีตาปรือที่ทำท่าใกล้จะหลับก็ยิ้มกว้าง
“ถ้าน้องคริสโตแล้ว..... พี่ชานยอลเป็นแฟนน้องคริสนะ” แล้วลูกหมีก็พล็อยหลับไปเลยไม่ทันได้ยินคำตอบรับหรือคำปฏิเสธเลยสักนิดเดียว ชานยอลก็หัวเราะเบาๆกลัวว่าถ้าเสียงดังไปแล้วลูกหมีจะตื่นจากการจำศีลแล้วงอแงเอาน่ะสิ
“ถ้าโตแล้วมาขอก็จะเป็นนะ” ชานยอลพูดเบาๆก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มลูกหมีตัวกลมอีกครั้งก่อนที่จะตัวเองจะหลับไปบ้าง
เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง บ้านทั้งบ้านก็อวลไปด้วยกลิ่นหอมๆของไข่ม้วนแสนอร่อยที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กตัวน้อยทั้งสองคน บรรยากาศอุ่นๆทำให้คนที่ตื่นมาแล้วก็อารมณ์ดี วันนี้อะไรๆก็ดูเหมือนจะดีไปหมดนั่นแหละ
บานประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคุณแม่คนสวยที่โผล่หน้าเข้ามาดูก็เห็นว่าลูกชายคนเธอกำลังช่วยน้องแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียนอยู่ เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มแล้วออกจากห้องไป ชานยอลที่คุกเข่าอยู่ก็ช่วยน้องติดกระดุมเสื้อไป
“พรุ่งนี้วันหยุดน้องคริสอยากไปเล่นที่สนามเด็กเล่นหรือเปล่า” ชานยอลถามพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองกับของเด็กตัวกลมมาด้วย
“ถ้าพี่ชานยอลไปน้องคริสก็ไป” คริสจับมือของชานยอลที่ยื่นมาหาแล้วก็พากันเดินออกจากห้องนอนลงไปด้านล่างเพื่อนกินข้าวเช้าก่อนที่จะไปโรงเรียนด้วยกัน
“ถ้าพี่ไม่ไปล่ะ” ชานยอลหันไปมองเด็กตัวกลมที่พยายามจะก้าวลงบันไดด้วยท่าทีตลกแต่ก็น่าเอ็นดู
“น้องคริสก็จะไม่ไปเพราะน้องคริสเป็นแฟนพี่ชานยอล” ว่าแล้วเจ้าตัวกลมก็ยิ้มแป้นเชียวเอาซะคนมองเอ็นดูอยากจะจับมาฟัดซะเหลือเกิน
“ไม่เป็นแฟนด้วยหรอก” ชานยอลแลบลิ้นใส่ เด็กน้อยมุ่ยหน้าใส่
“ทำไมอ่ะ!” คริสกระโดดลงจากบันไดขั้นสุดท้ายมายืนกอดอกมองหน้าคนตัวสูงกว่าที่เป็นพี่อย่างขัดใจ
“ตัวก็แค่นี้จะมาเป็นแฟนได้ยังไง” ชานยอลทำมือที่สูงเกือบถึงเอวเขา
“แล้วมือก็เล็กแค่นี้เองจะมาปกป้องพี่ได้ยังไง” ชานยอลเอื้อมมือไปจับสองมือเล็กขึ้นมา มือเล็กๆนั้นอยู่ในอุ้งมือของชานยอลแม้ว่าชานยอลจะตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นแต่มือของคริสก็เล็กกว่ามือของชานยอลอยู่มากทีเดียว
“เดี๋ยวน้องคริสก็โต ตัวจะสูงกว่า มือก็จะใหญ่กว่าด้วย!” ชานยอลหัวเราะแล้วส่ายหน้า
“ไม่มีทาง ไปกินข้าวได้แล้วเดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก” ชานยอลจับมือเล็กน้อยแล้วจูงพาไปที่โต๊ะกินข้าว คริสก็ทำหน้ามุ่ยขัดใจไปสิ ทำไมพี่ชานยอลพูดแบบนี้!!!
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยชานยอลก็จูงมือน้องพาน้องไปโรงเรียนทันที เพราะโรงเรียนกับที่บ้านไม่ได้ห่างกันมากคุณแม่ก็เลยให้ชานยอลทำหน้าที่พี่ชายพาน้องไปส่งที่โรงเรียนได้ จริงๆแล้วเพราะเด็กตัวป้อมอยากให้พี่ชานยอลไปส่งที่โรงเรียนทุกเช้าต่างหาก
ตลอดทางที่เดินมาด้วยกันคริสก็เอาแต่ทำหน้ามุ่ยแล้วก็มองค้อนใส่ ชานยอลที่เห็นก็แอบอมยิ้มกับตัวเองพยายามไม่ทำให้น้องเห็นเพราะเด่ยวจะมาค้อนทำหน้ามุ่ยใส่มากกว่าเดิมน่ะสิ เดี๋ยวอดใจไม่ไหวจับฟัดซะเลยจะทำยังไง
“พี่ชานยอล~” พอเดินมาถึงหน้าโรงเรียนน้ำเสียงน้อยๆก็เอ่ยเรียกขึ้น
“หื้ม ว่าไง” ชานยอลหันไปยิ้มให้ เด็กน้อยตัวป้อมทำสีหน้าหงอยๆ
“พี่ชานยอลจะไม่เป็นแฟนกับน้องคริสจริงๆเหรอ” ชานยอลขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า
“แต่ถ้าน้องคริสตัวโตกว่ามือใหญ่กว่า พี่ชานยอลจะยอมเป็นแฟนน้องคริสไหม” ดวงตาเรียวนั้นดูคล้ายกับมีม่านน้ำตาคลอขังอยู่ด้านใน ไอ้คนที่คิดอยากจะแกล้งน้องต่อก็เป็นอันพับเก็บความคิดนั้นไป ชานยอลลงนั่งยองให้ตัวเท่ากับน้องแล้วก็จับสองมือของน้องเอาไว้
“ถ้าโตขึ้นน้องคริสตัวสูงกว่า มือใหญ่กว่าพี่ชานยอลจะยอมให้น้องคริสปกป้องก็ได้” คริสยิ้มร่าจนแก้มดันดวงตาเป็นขีด
“พี่ชานยอลจะยอมเป็นแฟนน้องคริสใช่ไหม” พอชานยอลพยักหน้าคริสก็ร้องเย้ลั่นแล้วกอดคนเป็นพี่เสียเต็มอ้อมแขนเลย
“น้องคริสรักพี่ชานยอลที่สุดในโลก!!” ว่าแล้วก็จุ๊บแก้มให้ด้วยหนึ่งทีเพื่อบอกว่าเนี่ยรักจริงจริงจังนะ ชานยอลหัวเราะแล้วจุ๊บที่แก้มน้องคืน
“รู้แล้ว เข้าโรงเรียนไปได้แล้วเร็ว~” ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วดันหลังคริสให้เดินเข้าห้องเรียน เด็กตัวกลมก็วิ่งเข้าประตูโรงเรียนไปแล้วก็หันกลับมาโบกมือบ๊ายบายให้ด้วย ชานยอลก็โบกมือกลับมา
ชานยอลไม่เคยขัดใจน้องหรอก ก็เวลาที่คริสยิ้มน่ะมันดูร่าเริง สดใสแล้วก็น่าเอ็นดูขนาดนั้น ใครจะกล้าขัดใจได้ลงกันล่ะ
ก้นแก้วของกาแฟหอมกรุ่นกระทบกับจานรองดังแกร๊กพร้อมกับมือที่หยุดพรมลงบนคีย์บอร์ดโน้ตบุค ดวงตากลมภายใต้แว่นสีดำละสายตาจากหน้าจอเงยขึ้นมองเบื้องหน้าที่เป็นภาพการสัญจรบนท้องถนนที่วุ่นวายต่างจากร้านกาแฟที่ตัวเขามาอาศัยนั่งทำงานนี้
ร้านกาแฟที่หอมอวลไปด้วยกลิ่นเมล็ดกาแฟและกลิ่นหวานๆของขนม ช่างเงียบสงบและพาให้จิตใจล่องลอยจริงๆ ร้านนี้เหมาะกับนักเขียนอย่างปาร์คชานยอลเสียเหลือเกิน ชานยอลนั่งเท้าคางแล้วมองไปนอกกระจกร้านแล้วก็ปล่อยใจไปเรื่อยๆ
เขาชอบมานั่งเขียนนิยายที่ร้านกาแฟเป็นประจำเพราะมันทั้งสงบและได้ไอเดียอะไรดีๆเยอะแยะเลย ตัวเขาชอบด้านการเขียนก็เลยผันตัวมาเขียนนิยายดีกว่า ที่บ้านก็ไมได้ว่าอะไรเห็นว่าเขาชอบอะไรก็ตามใจเอาที่ตัวเขาชอบจริงๆ
ในขณะที่กำลังปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับภาพตรงหน้าเพื่อผ่อนคลายจากการโหมพิมพ์เนื้อหาไม่หยุดมาหลายชั่วโมงนั้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงอ้อมแขนที่โอบกอดที่รอบคอ กลิ่นหอมเย็นลอยมาแตะจมูก กลิ่นนี้ช่างตัดกับกลิ่นหอมหวานในร้านเสียเหลือเกิน และก็เป็นกลิ่นที่ชานยอลจำมันได้ดี
“เลิกเรียนแล้วหรือไงคริส” คนที่โดนจับได้ก็คลายอ้อมกอดออก ชานยอลก็เลยหมุนตัวมามอง ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้างแล้วพยักหน้า
“เลิกแล้วก็เลยมารับคนน่ารักกลับบ้านได้ยังไงล่ะ” ชานยอลยิ้มกับสรรพนามที่คริสเรียกเขาแล้วก็ยื่นมือไปชกที่อกคนพูดเบาๆ
“หิวหรือเปล่าจะสั่งอะไรกินก่อนไหม” คริสส่ายหน้าแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับยักคิ้ว
“วันนี้มีนัดว่าคนน่ารักจะทำมื้อเย็นให้กินไง นี่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยนะเนี่ย” ว่าแล้วก็ลูบที่หน้าท้องของตัวเอง ชานยอลขมวดคิ้ว
“ก็แล้วทำไมไม่กิน ไม่หิวหรือไง” คริสยิ้มแล้วยื่นมือมาจิ้มแก้มนิ่มของคนเป็นพี่
“ไม่อ่ะ อยากกินมื้อเย็นที่ชานยอลทำให้กิน” ชานยอลค้อนขวับ
“ฉันเป็นพี่นายนะคริส เรียกชานยอลเฉยๆได้ยังไงกัน!” คริสหัวเราะแล้วยกสองมือยอมแพ้
“โอเคๆเอาใหม่ ก็แฟนที่น่ารักจะทำกับข้าวให้กิน.. โอ๊ย!” ไม่ต้องพูดให้จบประโยคก็โดนไปเลยหนึ่งป๊าบ
“พูดมากนักนะ ถ้าไม่กินอะไรก่อนก็กลับบ้านกัน” ชานยอลหมุนตัวมาปิดโน้ตบุคให้เรียบร้อย คริสก็ก็ช่วยเก็บสมุดจดและเครื่องเขียนให้
เมื่อเก็บเสร็จเรียบร้อยคริสก็คว้ากระเป๋าโน้ตบุคของชานยอลมาถือรวมกับกระเป๋าของตัวเอง ชานยอลที่จะหันไปคัดค้านเจอคริสที่ยิ้มกว้างแล้วเลิกคิ้วมาให้ก็เลยไม่ค้านล่ะให้ถือไปซะเลย ชานยอลลุกขึ้นแล้วสำรวจอีกครั้งว่าตัวเองลืมอะไรหรือเปล่าเมื่อไม่ลืมอะไรก็พากันเดินออกจากร้าน เจ้าของร้านเอ่ยลาชานยอลกับคริสก็หันไปบอกลากลับ ก็ร้านนี้เป็นร้านประจำของชานยอลนี่นะ
บานประตูกระจกถูกเปิดด้วยแรงผลักจากแขนยาวๆของคริส ชานยอลเดินนำออกมาก่อนเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหันควับไปมองเด็กข้างกายที่อยู่ๆก็มาเกี่ยวเอวเขาไปกอดเสียอย่างนั้น ชานยอลเงยหน้าขึ้นทำท่าจะหาเรื่องส่วนมือก็ตีที่มือที่โอบกอดตัวเองไว้ คริสไม่ยอมปล่อยซ้ำยังจะมาเลิกคิ้วทำหน้ากวนใส่อีกแน่ะ เมื่อไม่เห็นประโยชน์ก็ปล่อยเลยตามเลยก็แล้วกัน
คริสยิ้มอารมณ์ดีเมื่อชานยอลไม่ได้ว่าอะไรต่อและยังยอมให้เขาเดินโอบเอวไปด้วยกันอีก ชานยอลส่ายหน้าไปมากับนิสัยเด็กๆของคริสที่ต้องมาจับมือจับแขนโอบเอวกลัวว่าเขาจะหาย ก็คริสเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วนินะ
ดวงตากลมภายใต้กรอบแว่นมองมือที่เกาะเกี่ยวอยู่ที่เอวตัวเองแล้วก็วาดรอยยิ้มบางๆติดริมฝีปากอิ่มสีชมพู ก็มือข้างนั้นที่เคยมองว่าเล็กกว่าเขาตอนนี้มันใหญ่จนกุมมือเขามิดเลยนะ จากนั้นก็ผินหน้าเงยขึ้นไปมองเด็กข้างตัวที่เดินจนแนบสนิทกำลังเดินระบายยิ้มพาดมือถือกระเป๋าไว้ที่ไหล่ตัวเอง คริสตัวสูงกว่าเขาแล้วก็ตัวใหญ่กว่าจนบังชานยอลมิดเลย
ไม่รู้ว่าคริสจะยังจำคำพูดตอนเด็กของตัวเองได้หรือเปล่านะ ที่บอกว่าถ้าตัวสูงกว่ามือใหญ่กว่าจะมาขอเป็นแฟนน่ะ.. จริงๆตอนนี้คริสกับชานยอลน่ะเป็นแฟนกันแล้วแต่เขาก็อยากรู้ว่าเด็กคนนี้จำคำพูดของตัวเองได้หรือเปล่าก็เท่านั้นแหละ คำพูดพวกนั้นชานยอลยังจำได้ดี ก็มันน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็พาให้ใจเต้นน้อยเสียเมื่อไหร่กันล่ะ
“ยิ้มอะไรน่ะ” คริสที่รู้สึกตัวว่าโดนมองในระยะประชิดก็ก้มหน้าลงถาม ชานยอลที่ยังคงยิ้มค้างติดริมฝีปากก็ส่ายหน้าไปมา
“ไม่รู้สิ~” ตอบกวนๆกลับไปก็เลยโดนหัวโขกสักหนึ่งทีเบาๆ
“ทำโทษข้อหาทำตัวน่ารัก” ชานยอลที่ได้ฟังก็หัวเราะ
“ฉันก็น่ารักของฉันทุกเวลา~” ชานยอลยักคิ้วกลับ คริสยิ้มมุมปากแล้วก้มหน้าลงกระซิบเสียงเบา
“ถ้างั้นก็จะโดนลงโทษทุกเวลาแต่ยกยอดไปตอนกลางคืนได้นะ”
“ทะลึ่งใหญ่แล้วนะเรา!” ชานยอลฟาดมือเข้าให้ คริสก็หัวเราะร่าอารมณ์ดีไปสิ
“ก็ชานยอลอยากน่ารักเองทำไมล่ะ” ชานยอลมุ่ยหน้าใส่
“ไม่ใช่ความผิดฉันสักหน่อย”
“ใช่สิ ชานยอลน่ะผิด.. ผิดที่ทำให้รักจนหัวปักหัวปำอยู่นี่ไงล่ะ” พอได้ยินแบบนั้นก็เขินเอาน่ะสิ แล้วไหนจะใบหน้าหล่อๆนั่นที่ส่งยิ้มละมุนมาอีก
“ประสาทเถอะ” คริสหัวเราะกับอาการเขินอายของคนในอ้อมแขน
คริสกับชานยอลเดินไปด้วยกันเพื่อกลับบ้านที่แสนอบอุ่นและอวลไปด้วยความรักของเรา ฝ่ามือที่โอบเอวเล็กขยับกอดให้แนบขึ้นอีกเมื่อรู้สึกว่าลมของพายุฝนมันกำลังพัดมา โอบขยับชิดให้ชานยอลเข้ามาใกล้เพราะกลัวว่าจะหนาว ก็ชานยอลขี้หนาวนินะ
ชานยอลระบายยิ้มเหลือบมองคริสแล้วก็วางทับมือของตัวเองกับด้านหลังของคริสที่โอบเอวตัวเองก่อนทาจะสอดปลายนิ้วเข้าเกาะเกี่ยวกันไว้ คริสกับชานยอลหันหน้ามายิ้มให้กัน ดวงตาของทั้งคู่เป็นกระกายแวววาวคล้ายดั่งพราวน้ำ ก็คริสกับชานยอลกำลังมีความสุขก็ต้องยิ้มเป็นธรรมดา
“น้องคริสรักพี่ชานยอลนะ”
“รู้แล้ว พี่ชานยอลก็รักน้องคริสนั่นแหละ” ชานยอลยิ้มแล้วเอียงคอไปซบคริสหนึ่งทีก่อนที่จะผละออก
สองมือที่เกาะเกี่ยวกันนั้นก็เกี่ยวกระชับกันและกันให้แน่นขึ้น เพื่อให้รู้ว่าเราจะไม่ปล่อยมือจากกันต่อให้เกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราสองคนก็ยังจะจับมือประคองกันไป... ตลอดไป
…Happy 0627 KrisYeol Love Story Ending…
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น