ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter - 4

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 56


    หายไปนานเลยเนอะ คิดถึงกันม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
     

    #เงียบกริบ
     

    เราคิดถึงทุกคนนะคะฮ๊าาาาา
     



     
    _________________________________________________
     



     
     
    “ปาร์คชานยอลแด.!!” แต่คนโดนเรียกก็กอดอกแบะปากแล้วหันหน้าหนี
     
    “หรือจะให้กูป้อน?” แต่ชานยอลก็ไม่ยอมตอบ
     
    “อ่ะไม่ต้องแด.แม่งกัน” คริสโยนมีดและส้อมไว้บนจานแล้วนั่งพิงพนักเก้าอี้ กอดอกมองคนตรงข้ามที่แบะปากใส่ ไม่สนหรอกว่าคนรอบๆร้านจะว่ายังไงทำไมเขาจะต้องสน?
     
    “มีอะไรมึงพูดออกมาชานยอลอย่าให้กูโมโหไปมากกว่านี้” ชานยอลเม้มปากแล้วขยับตัวนั่งดีก่อนที่จะมองจ้องหน้าสบตากับคนตรงข้ามที่ทำท่าว่ากำลังจะอาละวาดแล้ว
     
    “กูมีเรื่องจะพูด.. ต่อจากนี้มึงห้าม.. ห้ามแบบ.. คือ..”
     
    “เป็นเห.อะไร จะพูดก็พูดมา” ชานยอลจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาแล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ
     
    “มึงห้ามจูบกูอีกนะ” คริสขมวดคิ้วมุ่น
     
    “ทำไม?”
     
    “ก็เพื่อนกันเขาไม่ทำกันแบบนี้ไม่ใช่หรือไงวะ แล้วอยู่ๆมึงจะมาอย่างนั้นมันก็ไม่ได้นะเว๊ย!!”
     
    “แล้วเพื่อนที่ไหนเขาจูบกันไม่ได้วะ”
     
    “ห๊ะ?” ชานยอลเอียงคอทำหน้าสงสัยใส่ คริสกระตุกยิ้มนิดหนึ่งก่อนที่จะเขยิบตัวชะโงกหน้าเข้ามาบ้าง
     
    “เพื่อนสนิทกันที่ไหนเขาก็ทำ”
     
    “จริง?” เมื่อได้รับคำยืนยันเป็นการพยักหน้ารับอย่างหนักแน่นจากคริสแล้ว ชานยอลก็ทำหน้ายุ่งบ้าง
     
    “จริงเหรอวะ มึงหลอกกูเปล่าเนี่ย”
     
    “ใครจะกล้าหลอกมึงครับลูกพี่” ชานยอลทำท่าคิดก่อนที่จะพยักหน้ารับในที่สุด
     
    “เออหรืออาจจะเป็นแบบนั้นวะ อืมๆ แต่ไม่เอาที่สาธารณะนะเห็นแบบนี้กูก็อายเป็น” คริสเม้มปากไว้ทันก่อนที่จะเผลอหัวเราะออกมา.. ติดกับเขาจนได้ปาร์คชานยอล
     
    “แน่นอนลับตาคนแน่ๆ.. ตกลงจะแด.ได้หรือยังครับ?” ชานยอลถอนหายใจอย่างปลงชีวิตก่อนที่จะพยักหน้า
     
    “อือ แด.ก็แด.วันนี้มีเจ้ามื้อเลี้ยงทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม!”
     
    แล้วจากนั้นไม่นานชานยอลก็องค์ลง คนอดอยาก(อยากกินไก่ทอด)อย่างชานยอลก็โซ้ยแหลกจนผู้อุปถัมภ์รับไม่ได้ ด่าสถุนแล้วเตะขาใต้โต๊ะไปหนึ่งทีก่อนที่จะลุกขึ้นไปซื้ออีกเซ็ทมาให้ คนกินฟรีก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อารมณ์ดีนั่งกินไก่ไปสิ ไอ้โหดตรงข้ามก็ได้แต่นั่งยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมาอย่างระอา คริสตักไก่ทอดชิ้นใหญ่ให้ เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างอารมณ์ดีเชียวล่ะ ก็ไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าชานยอลจ้องชิ้นนั้นมาตั้งแต่ไอ้เพื่อนรักถือมันมาจากเคาน์เตอร์แล้วเถอะ!!!
     
    พอกินเสร็จก็พากันเดินออกมานอกร้าน เมื่อกินของคาวก็ต้องหาของหวานล้างปากต่อ ชานยอลวิ่งพุ่งเข้าร้านไอศกรีมทันที ไปยืนต่อแถวไม่รอคนจ่ายเงินกันเลยทีเดียว คริสเดินตามมาต่อแถวซ้อนหลังคิวแถวยาวอย่างกับแจกฟรี
     
    “ไปกินร้านอื่นดิวะ คนเยอะจะตายห่.” ชานยอลหันไปทำหน้ามุ่ยใส่
     
    “ไม่เอาอ่ะ ร้านนี้มะนาวเชอร์เบทอร่อย” โอเคเป็นอันจบก็ยืนรอต่อแถวกันไป ชานยอลหยิบมือถือขึ้นมากดดูข้อความเข้าแล้วก็พยักหน้ารับกับมือถือนั้นทำเอาคนที่ยืนซ้อนด้านหลังต้องชะโงกหน้าไปดูบ้างก็เห็นว่าเป็นคุณพ่อของชานยอลนั่นแหละส่งมาแต่เนื้อความว่ายังไงก็ไม่รู้
     
    “อยากไปไหนอีกหรือเปล่าวะ” คริสสะกิดที่เอวถาม ชานยอลหันมาแล้วก็ส่ายหน้า
     
    “ไม่อ่ะ ไปไหนก็ได้” ชายอลขยับเดินเข้าไปที่หน้าเคาน์เตอร์ เพราะว่าถึงคิวของตัวเองแล้ว “เอาคุกกี้แอนด์ครีมใส่ถ้วยครับ”
     
    โฮลี่ชิท!!! ไหนบอกมะนาวเชอร์เบทอร่อย แล้วสั่งคุกกี้แอนด์ครีมคือส้นตี.!!? 
     
    ...ปาร์คชานยอลสไตล์สินะ...
     
     
    “อร่อยเนอะ~ กินเปล่า~~” ชานยอลตักไอศกรีมรสหวานแล้วยื่นไปทางคนข้างตัวที่เดินทำหน้าโฉดอยู่ คริสหันไปมองด้วยหางตาหนึ่งที ก็ไม่ได้ชอบกินไอติมหวานๆหรอกนะยังจะมาคะยั้นคะยอขอชิมไอติมรสนั้นหน่อย รสนี้ด้วยอีก นี่ยังหวานปากไม่หายเลยให้ตายสิ.. ต้องหาอะไรล้างปากนะเนี่ย
     
    “กินดิอร่อยนะ” ชานยอลยื่นช้อนมาอีก คริสก็เลยต้องอ้าปากรับไอศกรีมหวานเย็นนั้น รสหวานของมันทำให้อารมณ์หงุดหงิดคลายลงได้..... หน่อยนึง แต่ไอ้รอยยิ้มของคนป้อนนี่สิทำเอายิ้มตามจนลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ยังหงุดหงิดอยู่เลย
     
    “ไหนว่ามะนาวเชอร์เบทอร่อยแล้วนี่สั่งไอ้นี่มาทำหอกอะไร” ชานยอลแบะปากใส่
     
    “ก็อยากกินนิหว่าอร่อยจะตาย ไม่แบ่งแล้ว!” แล้วชานยอลก็ทำปากยื่นโอบถ้วยไอศกรีมหวงยิ่งกว่าหมาหวงลูกเสียอีก ไอ้ตัวสูงหน้าโฉดก็หัวเราะเบาๆก่อนที่จะผลักหัวเพื่อนสักทีเบาๆ... แต่หัวแทบหลุด
     
    “ไอ้เห.นี่ผลักอยู่ได้ ผมยุ่งเดี๋ยวกูก็หมดหล่อกันพอดี” คริสเลิกคิ้ว
     
    “เวลาไหนที่มึงหล่อบ้าง?” ชานยอลทำตาโตหันมองคนที่กระตุกยิ้มมุมปากกวนเบื้องล่างกระตุกยิ่งนัก
     
    “โห้ย!! พูดแบบนี้ขึ้นเลยมึงขึ้นเลย กูหล่อทุกเวลานั่นแหละไอ้หน้าโหดทรามนิสัย!!”
     
    “แต่กูก็หล่อกว่ามึง” แถมท้ายด้วยยักคิ้วให้อีกสักสามที 
     
    “กูเกลียดมึง!” หันมาค้อนตาแทบคว่ำแล้วก็เดินหนีนำเข้าร้านขายเสื้อผ้าไปเลย
     
    ชานยอลเดินดูไปเรื่อยๆพอคริสเข้ามาใกล้ก็แบะปากใส่แล้วเดินหนีซะเลย กินไอศกรีมในมือหมดก็ฝากพี่พนักงานสาวทิ้งให้หน่อย ส่วนตัวเองก็เดินดูเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นใหม่ที่เพิ่งออก เสื้อแขนยาวเนื้อนิ่มกับลายกราฟฟิคนิดหน่อยที่ดูเท่และลงตัวกับเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นใกล้หน้าหนาว ชานยอลสนใจสีดำ ก็แหงล่ะตัวเขาชอบสีดำนี่นะ จับเนื้อดูแล้ว ดูไซส์แล้วขอบอกเลยว่าตัวนี้ได้ใจชานยอลสุดๆ!!!
     
    “ตัวนี้สวยกว่านะมีฮู้ดด้วย ชอบฮู้ดไม่ใช่เหรอ” คริสเดินมาซ้อนหลังแล้ววางมือไว้ที่ไหล่คล้ายกับโอบชานยอล ส่วนมืออีกข้างก็ชี้ไปที่เซ็ทเสื้อข้างๆกัน ชานยอลหันมาค้อนใส่แล้วก็ปัดมือที่ไหล่ออกแล้วก็คว้าเสื้อที่ตัวเองจับๆนั้นติดมือมาด้วยแล้วก็เดินหนีไปที่ราวเสื้ออื่นซะเลย คริสส่ายหัวก่อนที่จะเดินไปคว้าฮู้ดที่ตัวเองบอกไว้มาสองตัวแต่สีเดียวกัน
     
    ชานยอลที่กำลังยืนดูกางเกงอยู่นั้นพอเห็นว่าคริสกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆก็ยื่นมือไปหยิบกางเกงสักตัวมาส่งๆแล้วก็เดินหนี แต่คริสก็ไวพอที่จะคว้าข้อมือของคนงอนไว้ได้ทัน 
     
    “ตัวนั้นไม่ใช่ไซส์มึง นี่ไซส์มึง” คริสเอี้ยวตัวไปหยิบมาให้ ชานยอลยู่หน้าใส่ก่อนที่จะดึงตัวที่คริสหยิบมาไว้กับตัวส่วนอีกตัวในมือก็ยัดคืนใส่อกของคนที่ทำให้หงุดหงิดซะเลย พูดมาได้ยังไงว่าปาร์คชานยอลไม่หล่อ เรื่องอื่นยอมได้เรื่องนี้ปาร์คชานยอลไม่ยอมนะเว๊ย!!
     
    คริสหัวเราะในลำคอก่อนที่จะเดินตามคนตัวเล็กกว่าไปยังเคาน์เตอร์เพื่อคิดเงิน ชานยอลวางเสื้อผ้าไว้บนเคาน์เตอร์ พนักงานสาวก็หยิบไปสแกนบาร์โค้ดทีละตัว คริสเองก็วางไว้ข้างกันแล้วก็บอกให้คิดรวมไปด้วยกันเลย ชานยอลที่จะส่งการ์ดของตัวเองให้รูด คริสก็ดึงเก็บไว้กับตัวแล้วก็ส่งของตัวเองให้แทน ชานยอลมองค้อนใส่แล้วก็เดินหนีออกจากร้านไปเลย ร้อนถึงคริสอีกสิที่ต้องถือถุงพวกนั้นคนเดียวแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ออกจะขำเสียด้วยซ้ำ
     
    ชานยอลน่ะเหมือนเด็กนะ... เด็กเอาแต่ใจ แบบนี้เขาจะปล่อยมือจากชานยอลได้ยังไงกัน
     
    คนงอนที่เดินออกจากร้านมาได้ก็ไม่รู้จะเดินไปไหน ก็เดินเลี้ยวออกจากร้านไปขึ้นบันได้เลื่อนไปซะเลย ไม่รู้ล่ะว่าจะไปไหนแต่ขอไปสงบสติอารมณ์ก่อน ขอบอกเลยว่าโกรธอ่ะ งอนด้วย ไอ้คริสก็นิสัยไม่ดีไม่ยอมง้อด้วยอ่ะ ชานยอลดูไม่มีเหตุผล ดูโกรธไร้สาระ ดูเด็กนะ.. แต่ก็แค่อยากโดนชมบ้างอ่ะ ก็เพราะรู้ไงว่าตัวเองอ่ะด้อยกว่าไอ้เพื่อนตัวสูงนั่นแทบทุกด้าน หึ๊ย! พูดแล้วขึ้น!!
     
    ชานยอลที่รู้สึกถึงแรงสั่นในกระเป๋ากางเกงก็ล้วงมันขึ้นมาดู ปลดสไลด์หน้าจอแล้วก็เห็นว่าเป็นข้อความของมันที่กำลังให้ศีลให้พรอยู่ในใจ ดวงตากลมละสายตาจากหน้าจอมองขั้นบันไดเลื่อนแล้วก้าวเท้าขึ้นไปก่อนที่จะหันกลับมาอ่านข้อความ
     
    ...อย่างอนเลยน่า มึงไม่หล่อแต่ก็น่ารักสำหรับกูนะ... ชานยอลกำลังกลั้นยิ้มกับข้อความนั้น แบบนี้ดิค่อยคบกันได้หน่อย เอาจริงๆเรื่องความน่ารักของปาร์คชานยอลนี่ดังไกลไปยันมหาลัยชั้นนำเลยนะ! แล้วยิ่งตอนมัธยมนี่ขอบอกว่าดังไกลไปยังโรงเรียนอื่นเลยเถอะ!!! ถึงไม่หล่อแต่ปาร์คชานยอลจะเอาความน่ารักเข้าสู้อ่ะ!! ในขณะที่กำลังกลั้นยิ้มกับข้อความอยู่นั้น อยู่ๆก็รู้สึกว่าที่หลังมีอะไรหนักๆมาพิง
     
    “หายงอนหรือยัง” คนที่อยู่บันไดขั้นต่ำกว่าเอ่ยถามเสียงทุ้ม ชานยอลพยักหน้ารับแบบแกนๆ
     
    “หายก็ได้” ชานยอลหันกลับมาหาคนที่ยืนพิงหัวกับหลังของเขา คริสยิ้มเมื่อเห็นว่าชานยอลกำลังยิ้มกว้างๆ นั่นก็แปลว่าเจ้าตัวหายงอนแล้ว หรือบางที.. ที่งอนนี่จะให้เขาจ่ายค่าเสื้อในถุงที่เขาถืออยู่หรือเปล่าวะ? มึงก็เนียนเกินไปล่ะไอ้หูกาง!
     
    “แล้วนี่ขึ้นมามึงจะไปไหน” ชานยอลส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะหัวเราะ
     
    “ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ” คริสกระตุกยิ้มแล้วใช้หน้าผากโขกที่ไหล่ของชานยอลไปสักหนึ่งที
     
    “เห.จริง หันไปได้แล้วจะสุดบันไดแล้ว” ชานยอลหันกลับไปยืนทรงตัวได้ก็ถึงสุดปลายของบันไดเลื่อนพอดี คริสวาดมือโอบเอวชานยอลแล้วประคองให้ก้าวเท้าไปดีๆ เมื่อทั้งสองทรงตัวได้แล้วคริสก็ไม่ยอมปล่อยมือและชานยอลก็ไม่ได้สนใจที่จะทักท้วง
     
    “พรุ่งนี้ไม่มีเรียนคืนนี้ไปนอนกับกูไหม” คริสหันมาถาม เพราะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ถ้าวันไหนไม่มีเรียนชานยอลจะต้องมานอนค้างที่บ้าน ชานยอลยู่หน้าแล้วก็ถอนหายใจอย่างน่าเสียดาย คิดถึงน้องจุนใจจะขาด!! แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่พี่ต้องทำเพื่อเก็บหอมรอมริบไว้ขอน้องจุนแต่งงานทำให้พี่ชานคงต้องไมได้เจอยาใจสักคืน~
     
    “ไปไม่ได้อ่ะ พรุ่งนี้ต้องช่วยพ่อดูแลสวนแล้วไม่รู้ว่าแม่จะให้เข้าร้านด้วยหรือเปล่า หนักใจจริงๆเกิดมาเป็นคนสำคัญเนี่ย” บ้านชานยอลอย่างที่ทุกคนรู้ก็คือทำร้านดอกไม้และปลูกดอกไม้บางชนิดเอง คริสพยักหน้ารับแบบขอไปที ใจจริงอยากตบหัวมันสักทีเหมือนกันแต่ก็ไม่มีมือจะตบมันแล้ว
     
    “งั้นให้กูไปนอนด้วยล่ะกันจะได้ไปร้านกับมึงด้วย” 
     
    “ไม่ต้องเลยมึงอ่ะ กลับไปนอนบ้านเลยเบื่อหน้ามึงจะแย่! พรุ่งนี้กูจะอยู่กับครอบครัวกูมั่งสิ” ชานยอลหันไปจิ๊ปากใส่ คริสที่มือไม่ว่างก็ใช้หัวโขกหัวของอีกคนซะเลย หมั่นไส้นัก!
     
    “โอ๊ยเห.เจ็บ!!” ชานยอลกระเด้งตัวออกแล้วกุมหัว ทำหน้ามุ่ยใส่ ส่วนไอ้คนโฉดที่ทำน่ะเหรอก็หัวเราะสบายใจน่ะสิ
     
    “ดีก็ทำให้เจ็บ” ชานยอลสะบัดหน้าแล้วก็หมุนตัวว่าจะเดินหนีแต่ก็หันไปชนกับคนข้างๆเสียอย่างนั้น แล้วคนหลักไม่ดีอย่างชานยอลก็จะล้มแต่คริสก็รีบเข้ามาประคองไว้ได้ทัน
     
    “ขอโทษครับ” ชานยอลก้มหัวลงขอโทษคนที่โดนตัวเองชน แต่ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจ
     
    “คิดว่าขอโทษแล้วหายเหรอไอ้น้อง ถ้าขอโทษแล้วหายจะมีตำรวจไว้ทำซากอะไรวะ!” อีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่ มองดูจากการแต่งตัวและการวางท่าแล้วก็คงจะเป็นเด็กกร่างของแถวนี้น่ะสิ
     
    “ก็ขอ...” คริสเอื้อมมือมาปิดปากชานยอลไว้ ชานยอลหันไปมองคนที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังแต่คริสกลับมองไปที่คนตรงหน้า
     
    “ขอโทษไปแล้วจะเอาอะไรอีก เรียกน้องนี่ดูรุ่นพวกกูหรือยัง” เพราะกะจากสายตาแล้วถ้าว่ากันตามตรงไม่น่าจะเกินพวกเขาหรอก อาจจะเด็กกว่าด้วยซ้ำ
     
    “นี่มึงพูดกับกูแบบนี้เหรอวะ!!”
     
    “เออก็ได้ยินอยู่หรือต้องให้กูแคะหูให้ด้วยตี.? เปรี้ยวมากนักระวังจะตายห่.เข้าสักวันล่ะ กูขอเตือนด้วยความหวังดี”
     
    “มึงอย่ามาขู่กูซะให้ยาก! กูไม่กลัวมึงหรอกทำมาเป็นพูดนั่นพูดนี่ ไม่ต้องพูดมากจ่ายค่าหมอค่ายามาเลย” คนตรงหน้าแบมือเต๊ะจุ้ย คริสหัวเราะหนึ่งเหอะพรัอมกับกระตุกยิ้ม มือก็ยังไม่ยอมปล่อยปากชานยอล ไอ้ตัวคนโดนปิดปากก็พยายามแกะแล้วแต่แกะไม่ออก คือชานยอลคันปากคันตี.อยากไฝว์มากเลยไง
     
    “เอาเลขบัญชีธนาคารมาสิเดี๋ยวกูโอนให้.. หลังจากที่กูกระทืบมึงตายห่.แล้วน่ะ เอาไหม? รับรองศพมึงคงไม่เหลือที่บ้านคงหาไม่เจอแต่เงินคงได้ใช้” 
     
    “ไอ้เห.!! กูไปก็ได้ทีหลังก็ดูแลเมียมึงดีๆอย่าให้กูเจออีกเป็นครั้งที่สองนะ กูไม่เอาพวกมึงไว้แน่ฝากไว้ก่อนเถอะ!” แล้วมันก็จากไป ชานยอลที่พยายามแกะมือของคริสก็หลุด จริงๆคือคริสปล่อยมือเองนั่นแหละ
     
    “กูไม่ใช่เมียมันไอ้เห.!!!” คือตะโกนไปมันจะรับรู้หรือเปล่าล่ะ แต่คนรอบข้างน่ะหันมาสนใจกันเต็มเลย ชานยอลหันไปเตะขาใส่ขาของคริสแรงๆสักที
     
    “ไอ้เห.นี่ก็ไม่ปฏิเสธ! น้ำหน้าอย่างปาร์คชานยอลไม่เป็นเมียใครหรอกเว๊ย!!” คริสหัวเราะหึหึที่ชานยอลลงความเห็นในใจว่าแม่งโคตรกวนตี.เลยให้ตายสิ
     
    “หน้าอย่างมึงจะไปกดใครเขาได้วะ”
     
    “น้องจุนไง~ สักวันมึงคงจะได้เป็นพี่เมียกูแล้วล่ะ” คริสยกขาถีบชานยอลไปสักที ไอ้คนโดนถีบก็ถลาไปสามก้าว ดีนะไม่ล้ม! 
     
    “ไอ้หอก!! กูเกลียดมึง!!” แล้วชานยอลก็สกายคิกใส่สักทีก่อนที่จะเดินหนีไปเลย ไม่ได้กลัวมันเอาคืนหรอกแต่อายสายตาคนรอบข้างมากกว่า มองมาซะอย่างกับดูผัวเมียตีกันในละครหลังข่าวอ่ะบอกตรงๆ
     
    ชานยอลรับไม่ได้อ่ะบอกตรงๆ!! ปาร์คชานยอลที่เกิดมามาดแมน ฉอนซั่มหล่อไปยันโลกหน้าแบบนี้จะมาโดนคนอื่นกดได้ยังไง!!! มันต้องไปกดคนอื่นสิถึงจะถูก!!! แล้สคนยที่จะต้องโดนชานยอลกดนี่ขอบอกได้เลยว่าต้องเป็นคิมจุนทยอนคนเดียวเท่านั้น!!
     
    “กูเอามึงตายแน่ไอ้ชานยอล!!!” คริสสาวเท้าก้าวมาเร็วๆ ชานยอลหันกลับไปชูนิ้วกลางใส่
     
    “ถ้ามึงทำอะไรกู กูจะฟ้องให้ไอ้ลู่มากระทืบมึง!!!” เมื่อกี้ว่าโมโหแล้ว ตอนนี้โคตรโมโหกว่าเก่าเลยให้ตายเถอะ!!
     
    “มึงคงไม่มีหน้าไปฟ้องไอ้ลู่หรอก มากับกูนี่!!!” แล้วคริสก็คว้าโอบเอวชานยอลแล้วลากให้เดินตามมาด้วยกันซะเลย ช่วงขาที่ยาวกว่าของคริสก็ก้าวไวจนชานยอลขาแทบจะพันกัน เดินตามแทบจะไม่ทัน แล้วไอ้มือที่เกี่ยวเอวลากไปนี่ขอบอกว่าเจ็บมาก!!
     
    “กูเจ็บนะเว๊ย!!”
     
    “มึงเจ็บกูไม่ได้เจ็บนิ! ก้าวไวๆ” อ้าวไอ้เห.!!! พูดจาแมวๆ
     
    คริสลากชานยอลจนมาถึงลานจอดรถแล้วผลักชานยอลให้ขึ้นรถไป แถมยังใจดีปิดประตูรถกระแทกให้อีก ชานยอลก็สะดุ้งไปตามระเบียบ คนตัวบางกว่านั่งกอดอกพิงหลังลงกับเบาะรถอย่างหงุดหงิด คริสที่ยืนอยู่นอกรถก็อยากจะฟาดไม้ฟาดมือลงกับอะไรสักอย่างเหมือนกัน 
     
    ยืนหงุดหงิดอยู่ไม่นานก็เดินมาขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วก็โยนถุงเสื้อผ้าในมือไปไว้เบาะหลังลวกๆ คริสจับพวงมาลัยไว้แล้วกระแทกพิงหลังกับเบาะอย่างหงุดหงิด ชานยอลก็เหลือบสายตามองแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจและไม่เอ่ยปากพูดอะไรก่อน เพราะถ้าพูดตอนนี้โดนมันด่ายับแน่ๆ ผู้ชายห่.อะไรด่าไวกว่าผู้หญิงอีก!! คริสลูบหน้าตัวเองสอง สามทีก่อนที่จะหันมาหาชานยอล
     
    “เวลาทะเลาะกันไม่พูดถึงไอ้ลู่ได้ไหมวะ” ฟังดูก็รู้ว่าคนพูดต้องเก็บอารมณ์ไว้มากแค่ไหน แต่ชานยอลกลับไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับลู่หานตรงไหน
     
    “ไม่เข้าใจอ่ะ ขออธิบายให้กระจ่างกว่านี้ได้ป่ะวะ” คริสปรายตามองสีหน้างงงวยของอีกฝ่ายแล้วก็ถอนหายใจทิ้งไปสักเฮือกใหญ่ๆ
     
    “เวลาอยู่กับกู.. ไม่ว่าจะปกติหรือทะเลากันอย่าพูดถึงชื่อคนอื่น” ก็ยิ่งงงกันไปใหญ่หรือเปล่าล่ะทีนี้
     
    “ทำไมอ่ะ อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ.. มึงหวงไอ้ลู่เหรอ?” คริสลูบหน้าตัวเองอีกรอบ ส่วนไอ้คนไม่เข้าใจก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่แบบนั้น วอทแฮปเพ่นวะเนี่ย?
     
    “คนที่มึงจะพูดถึงได้ก็คือกูเท่านั้น ห้ามพูดถึงคนอื่นไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ถ้ามึงไม่ฟังกูจะตบมึงให้เลือดกลบปากเลยคอยดู” ชานยอลยู่หน้าใส่ก่อนที่จะสะบัดตัวมานั่งกอดอกพิงหลังกับเบาะรถอย่างหงุดหงิด
     
    “อะไรๆก็ทำร้ายกูตลอดอ่ะ กูยังไม่เข้าใจเลยนะเนี่ยว่ากูทำอะไรผิด” 
     
    “เออ! กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนั่นแหละ” คริสซบหน้าลงกับพวงมาลัยก่อนที่จะพึมพำเบาๆ ซึ่งชานยอลไม่ได้ยิน คริสเอียงหน้าหันไปมองชานยอลที่นั่งทำหน้ายุ่ง มุ่นคิ้วแล้วก็ยกยิ้มบางๆ ใบหน้าแบบนี้น่ะ มันน่ารักน่าฟัดมากเลยให้ตายสิ ไม่อยากให้ใครเห็นเลยว่ะ! เก็บมันขังล่ามโซ่ไว้ในห้องซะดีไหมวะ!!
     
    “เข้าใจที่กูพูดหรือเปล่า” ชานยอลหันมามองแล้วก็แบะปากใส่ซะแทบคว่ำ
     
    “เข้าใจก็ได้ แม้กูจะไม่เข้าใจก็เถอะ” คริสหัวเราะเสียงเบาในลำคอ
     
    “แล้วไม่คิดจะขอบใจกูเหรอ” เอ้า งงอีกแล้ว เปลี่ยนอารมณ์ไว้แท้ไอ้หน้าโหดสันดารทราม
     
    “ขอบใจอะไร”
     
    “ก็ที่ช่วยเมื่อกี้ไง ถ้าไม่มีกูป่านนี้มึงคงเละเป็นโจ๊กไปแล้วมั้ง”
     
    “เออๆ ขอบพระคุณคุณท่านอย่างสุดซึ้งครับ” ชานยอลยกมือไหว้ประหลกๆท่วมหัว คนมองก็หัวเราะเบาๆ อารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น
     
    “ยื่นหน้ามาหากูดิ๊” คริสขยับตัวนั่งดีๆแล้วก็กระดิกนิ้วเรียกให้ชานยอลยื่นหน้าเข้ามาหา ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามแบบงงๆ
     
    “จะขอบคุณกูมันต้องแบบนี้ดิ” คริสช้อนแก้มของชานยอลให้เงยหน้าขึ้นก่อนที่จะแนบริมฝีปากลงมาที่กลีบปากอิ่มของชานยอล บดเบียดเพียงนิด ชานยอลที่เบิกตากว้างอย่างตกใจก็ค่อยๆหลับตาลงเพราะแรงบดที่ริมฝีปากนี่ล่ะ จะว่าไปก็รู้สึกดีเหมือนกันแหะ..
     
    ปลายเรียวนิ้วยาวลากไล้ผ่านลำคอขาวแล้วลากผ่านช่วงลำคอไปช้อนใต้ท้ายทอยสวยแล้วดันให้เงยหน้าขึ้นรับจูบเขาให้ถนัดขึ้น ปลายลิ้นอุ่นสอดผ่านกลีบปากอิ่มเข้าไปไล่ต้อนสัมผัสกับเรียวลิ้นเล็กที่สนองตอบอย่างไม่ประสา สองมือของคนโดนริดรอนลมหายใจกำอกเสื้อของคริสไว้เสียแน่น เมื่อเรียวลิ้นพันกระหวัดกันแล้วคริสก็ขยับรุกต่อโดยที่ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยจนชานยอลทุบอกให้หยุดนั่นแหละคริสถึงละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง
     
    “ถ้าจะขอบคุณกูต้องทำแบบนี้ จำไว้” 
     
    “ไอ้หื่นกาม!!” ชานยอลที่ยังหอบหายใจทุบอกฟาดไปสักที คริสเพียงแค่หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีแค่นั้น
     
    ทั้งสองจะรู้หรือเปล่านะว่า... ตอนนี้จังหวะเต้นหัวใจของทั้งคู่นั้นกำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกันเสียแล้วสิ
     
     
     
     
     
     
     
    “น้องชานยอลถ้าตื่นแล้วก็ลงมากินข้าวเช้านะลูก” เสียงเรียกของมารดากับเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นปลุกให้คนที่นั่งหัวยุ่งเพราะขยี้หัวอยู่บนเตียงหันไปมอง ชานยอลยังไม่ได้นอนทั้งคืน!! ถ้าถามว่ากลับบ้านมาได้ยังไง... เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
     
    หลังจากที่จูบกันเสร็จ โวยวายพอเป็นพิธีชานยอลก็นั่งหันหลังให้พิงกระจกแล้วแกล้งทำเป็นหลับไปซะเลย คือเอาจริงๆนะไม่รู้เลยว่าจะต้องทำตัว ทำสีหน้าหรืออะไรยังไง ไอ้จูบกันมันก็เรื่องธรรมดาของเพื่อนสนิทกันใช่ป่ะล่ะ? แต่ไอ้อาการที่หัวใจเต้นรัวแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดนี่.. มันปกติหรือเปล่า? เพื่อนกันถ้าจูบกันได้มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไอ้อาการที่หัวใจเต้นรัวยิ่งกว่ากลองรัวนี่ปาร์คชานยอลว่ามันอันตรายสุดๆ
     
    แกล้งหลับไปได้ไม่นานก็รู้สึกว่ารถจอดสนิท คนข้างตัวก็นิ่งจนชานยอลเริ่มอึดอัด จะลืมตาขึ้นมาเลยหรือยังไงดี หรือทำเป็นละเมอเดินลงจากรถเลยดีวะ คือถ้าตอนนี้มันจอดรถติดไฟแดงนี่แบบ.. สงสัยร่างคงเละแหงๆ 
     
    ขณะที่กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี อยู่ๆคนที่ทำให้หัวใจเต้นก็ขยับโน้มตัวมาหาแล้วฝากรอยสัมผัสไว้ที่หัวของชานยอลไม่หนักแต่ก็พอจะรู้สึกถึงความอบอุ่นนั้น ขยับถอยออกไปแล้วก็ลูบเส้นผมสีเข้มของคนหลับเบาๆพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ... และนั่นก็ทำให้คนที่แกล้งหลับยิ่งใจเต้นมากยิ่งขึ้น ไอ้ความอบอุ่นแบบนี้ชานยอลไม่เคยได้รับ มันอบอุ่นจนทำให้คนที่แกล้งหลับรู้สึกดีจนอุ่นไปทั้งใจ
     
    “ตื่นได้แล้วมึง” คริสเขย่าไหล่ให้ตื่น พอลืมตาขึ้นมาหันไปหาคนปลุกก็เห็นมันขยับไปนั่งที่เดิมแล้วก็เลิกคิ้วมองด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงตื่นง่ายจัง ชานยอลมองรอบกายก็เห็นว่าทีนี้เป็นหน้าบ้านตัวเองแล้วก็เลยรีบลงจากรถไปเลย
     
    เข้าบ้านมาได้ก็ชานยอลก็รีบวิ่งขึ้นห้องนอนไปเลย พ่อกับแม่เรียกก็ไม่ทักไม่หัน วิ่งขึ้นไปได้ก็ล็อคกลอนประตูเสร็จสรรพ แล้วก็มานั่งจุ๊มปุ๊กอยู่บนเตียงทั้งคืน ข่มตาหลับก็ไม่ได้ พอหลับตาทีไรก็นึกถึงความอบอุ่นนั้นที่มันคอยตามมาหลอกหลอน พอหลับตาก็จะรู้สึกสัมผัสนั้นสัมผัสลงมาที่หัวของเขา
     
    “โอ๊ย!! ไอ้เห.ออกไปจากหัวกูเดี๋ยวนี้!!! กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆๆๆ!!” ขยี้หัวจนมันไม่เป็นทรงอีกรอบก่อนที่จะตัดสินใจลงจากเตียงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นี่นั่งเน่ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ ทุเรศสุดๆ
     
    หลังจากอาบน้ำเสร็จชานยอลก็ลงมาจากชั้นบนด้วยสภาพกางเกงขาสั้นใส่สบายๆกับเสื้อกล้ามสีขาว เพราะวันนี้เขาจะต้องช่วยพ่อจัดการแปลงดอกไม้หน้าบ้าน วันนี้ที่โต๊ะอาหารมีพ่อและแม่นั่งรออยู่แล้ว ขาดก็แต่ลู่หานที่ไม่ยอมกลับมานอนที่นี่เลย คิดแล้วก็เซ็ง รู้หรอกว่าต้องทำงานแต่งานมันจะหนักอะไรนักหนากัน พ่อเขาใช้งานลู่หานหนักเกินไปแล้วนะ
     
    อาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มไก่ที่ชานยอลบ่นว่าอยากกินเมื่อ 2วันก่อน เจ้าตัวก็ขอเติมไปอีก 2ชามก็หิวนินะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ไหนจะต้องมานั่งทุกข์ใจอีกขอบอกเลยว่าพลังงานของปาร์คชานยอลแทบไม่เหลือ
     
    กินข้าวเช้าเสร็จก็เตรียมตัวใช้แรงงานได้เลย วันนี้มีรถขนปุ๋ยมาส่งตัวเขาและพ่อก็ต้องช่วยกันยกเข้ามาเก็บที่โรงเรือน ด้วยความที่เป็นลูกผู้ชายเต็มตัวก็ช่วยกันยกกับพ่อ บางทีก็คนละข้าง แบกกันจนหน้าจะมืดนั่นแหละ แล้วก็ต้องมาต่อที่ใส่ปุ๋ย พรวนดิน ลงต้นกล้า โอ๊ย.. สนุกล่ะ
     
    “พ่อ เมื่อไหร่จะให้ลู่กลับมานอนที่บ้านบ้างอ่ะใช้งานมันหนักเกินไปเปล่าอ่ะ คอยดูนะชานยอลจะไปฟ้องกกต.” คุณพ่อก็หัวเราะขำๆ
     
    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกกต.ล่ะห๊ะไอ้ลูกหมา”
     
    “เกี่ยวดิพ่อนี่ไม่รู้อะไรกกต.อ่ะ กรมการปกป้องการทำงานตามเวลานะ พ่ออ่ะใช้งานลู่หนักจนมันหน้าเหี่ยวหมดแล้วเนี่ย พ่อหาเวลาว่างชวนลู่ไปเที่ยวกันนะๆๆ” เมื่อคุณพ่อทำหน้าลังเล ชานยอลก็ทิ้งส้อมพรวนดินในมือแล้วเข้าไปกอดแขนอ้อนทันที
     
    “นะ~ คุณพ่อสุดที่รัก~~” กอดแขนแล้วก็เอาหน้าไถไหล่พ่อ แค่นี้คุณปาร์คก็หลงลูกชายจนไม่รู้จะโงหัวยังไงแล้วเนี่ย
     
    “ก็ได้ๆ อยากไปไหนก็บอก”
     
    “เย้~~ ใจดีที่สุดอ่ะคุณชายปาร์ค!! ว่าแต่ชวนไอ้คริสไปด้วยได้เปล่าอ่ะ” คุณพ่อเลิกคิ้วมองลูกชายที่ทำหน้าตาแป๋ว น่าจับมาฟัดเหลือหลายล่ะ
     
    “ชวนทำไม? ไปกันครอบครัวเราไม่ใช่หรือไง”
     
    “โห้ย~ เอามันไปพ่อจะได้ไม่ต้องออกเงินคนเดียวไง ให้มันออกให้หมดเลยสบายเราดิ” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะร่วนเสียงดังอารมณ์ดีเลย
     
    “ไอ้นี่นิ.. เอ้าพรวนดินต่อพ่อจะได้ใส่ปุ๋ย”
     
    แล้วพ่อลูกก็ช่วยกันจัดการแปลงดอกไม้ วันนี้คุณพ่อจะลงกุหลาบสีขาวกับสีแดงเพิ่ม ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้สั่งแต่ดอกกุหลาบสีนี้กันนะ.. หรือบางทีคนมีความรักก็อยากจะมอบสิ่งแทนความรักและความบริสุทธิ์ให้กันและกัน
     
    “น้องชานยอลคริสมาหาแน่ะ” พอได้ยินชื่อเท่านั้นแหละ เจ้าตัวก็ทำตาโตหันไปมองไปมองก็เห็นคริสกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่ที่คงจะเดินไปรับมาจากหน้าประตูใหญ่เลยล่ะ พอมันเดินมาใกล้ก็ขมวดคิ้วใส่ แว่บหนึ่งที่ชานยอลเห็นแววไม่พอใจ.. วันนั้นของเดือนอีกแล้วเหรอวะ
     
    “สวัสดีครับคุณอา ลงดอกไม้อยู่เหรอครับ” 
     
    “ใช่ๆ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้มีแต่ออเดอร์พวกดอกกุหลาบเลยว่าจะลงเพิ่มสักหน่อยจะได้ไม่ต้องไปสั่งเจ้าอื่นให้เปลืองเงิน ว่าแต่มาทำอะไรล่ะมาชวนเจ้านี่ไปไหนหรือไง” คนที่โดนบุ้ยหน้ามาหาก็ทำหน้ายู่ใส่
     
    “เปล่าครับ ผมมาช่วยต่างหากเห็นชานยอลบอกว่าวันนี้คุณอาจะลงแปลงใหม่แล้วก็จะเข้าร้านด้วย”
     
    “คริสจะเข้าร้านแทนอาเหรอลูก ดีจังเลยจ๊ะอาก็เมื่อยๆตัวอยากจะไปนวดสักหน่อย” คุณแม่ของชานยอลยิ้มแล้วก็เห็นดีเห็นงาม
     
    “เออก็ดีนะงั้นเดี๋ยวอาไปนวดกับแม่เขาดีกว่า เอาเป็นว่ายังไงที่ร้านก็ฝากด้วยก็แล้วกันนะ” ลงความเห็นกันไม่สนใจชานยอลเลยสักคน ไอ้คนที่ถูกลืมก็นั่งบ่นขมุบขมิบไปตามเรื่องตามราว ขัดอะไรได้ที่ไหนล่ะถ้าพ่อกับแม่ประสานเสียงกันแล้วน่ะ
     
    “เดี๋ยวเตรียมมื้อเที่ยงไว้ให้นะจ๊ะ” แล้วคุณแม่ก็เดินเลี่ยงเข้าบ้านไป
     
    “เออชานยอลเดี๋ยวลูกไปเอาถุงปุ๋ยออกมาอีกนะแล้วก็หยิบบัวรดน้ำมาด้วย คริสไปช่วยหน่อยไป”
     
    “แค่นี้เองชานยอลทำได้นะ” คุณพ่อหันไปเลิกคิ้วใส่
     
    “คิดว่าจะเชื่อเหรอไง ไปเลยไปเร็วๆให้ว่องชานยอล เดี๋ยวสายแล้วแดดแรงอีก”
     
    ก็เลยต้องจำใจเดินไปกับมันไง วันนี้คริสแต่งตัวสบายๆแต่พร็อบประกอบฉากก็มาเต็มเหมือนเดิม ชานยอลที่เดินนำก็ไม่ได้จะหันไปสนใจหรอก เห็นหน้ามันทีไรแล้วใจก็พลันจะกระตุกวูบๆทุกทีเลย ก็เลยเลี่ยงที่จะเดินมองตรงไปด้านหน้าอย่างเดียว
     
    โรงเรือนเป็นเรือนชั้นเดียวที่เก็บของพวกที่เกี่ยวกับแปลงดอกไม้ไว้ แน่นอนว่าเป็นห้องที่มีประตูปิดมิดชิด เมื่อประตูปิดคริสก็ดึงชานยอลให้หันมาหาทันที คนที่อยู่ๆก็โดนดึงก็ตกใจหน้าเหวอเลยน่ะสิ ดวงตาคมดุมขมวดคิ้วฉับแล้วมองตรงหามาคนตรงหน้าที่ยังกำรอบแขนไม่ปล่อย คริสกวาดสายตามองทั้งตัวก่อนที่จะมาหยุดที่หน้าตาเหรอหราของชานยอล
     
    “ใครให้ใส่เสื้อกล้ามเนี่ย” 
     
    “เอ้า ก็ต้องออกมาทำสวนนิจะให้ใส่แขนยาวได้ยังไงกันเล่า” ยู่หน้าใส่แต่คริสกลับดีดหน้าผากมนไปสักหนึ่งที
     
    “ก็ควรใส่แขนสั้นหรือเปล่า ใส่เสื้อกล้ามนี่แม่งเห็นไปไหนต่อไหนแล้วห๊ะ” ชานยอลเอียงคอใส่แบบโคตรจะไม่เข้าใจ
     
    “แล้วทำไมวะ ก็ใส่อยู่ในบ้านใครจะมาเห็นอะไรต่อไหนของมึง” 
     
    “เอออยู่ในบ้านก็ไม่ได้ มึงไม่เห็นสายตาพวกคนสวนที่อยู่อีกฟากหรือไง มองอย่างกับจะแด.มึง” ชานยอลยกกำปั้นขึ้นทุกไหล่คริสแรงๆ
     
    “ประสาทกลับแล้วมึงเอาอะไรมาพูดน่ะ เขาจะมามองอะไรกูเล่าบ้า” ชานยอลหัวเราะแล้วก็เดินผละไปยกถุงปุ๋ยที่เพิ่งจะขนเข้ามาเก็บออกมา ก็เตรียมไว้แล้วล่ะที่ตรงแปลงนั้นน่ะแต่มันไม่พอไง แล้วก็ผละไปหยิบบัวรดน้ำด้วย
     
    “มึงขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อเดี๋ยวนี้เลย” ชานยอลหันกลับมามองคริสที่ขมวดคิ้วทำหน้าโฉดอยู่ด้านหลังแล้วก็ไม่เข้าใจ
     
    “นี่มึงไข้ขึ้นหรือกินยาลืมเปิดฝาปะวะ” ชานยอลเดินเข้ามาแล้วก็ทาบหลังมือที่หน้าผากของคริสเพื่อวัดอุณหภูมิของคนประสาทกลับแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ บางทีสมองอาจจะไม่ผิดปกติแต่อาจจะเป็นช่วงย่างก้าวสู่วัยทองก็เป็นได้ .. อืม.. อาจจะเป็นอย่างนั้นช่วงนี้อารมณ์ของไอ้โหดถึงไอ้ขึ้นๆลงๆ บอกตรงๆปาร์คชานยอลตามไม่ทัน
     
    “ไปเปลี่ยนเสื้อเลยไป” ชานยอลแบะปากใส่
     
    “ไม่เปลี่ยน ขี้เกียจเดินขึ้นๆลงๆกูก็เหนื่อยนะ เปื้อนไปแล้วก็ให้เปื้อนไปตัวเดียวดิจะใส่ให้เปื้อนทำไมหลายๆตัว เร็วๆเลยมาช่วยกูยกถุงปุ๋ยได้แล้วเดี๋ยวพ่อรอนาน” ชานยอลจะผละออกแต่คริสก็ไม่ยอมกลับคว้าข้อมือของชานยอลไว้
     
    “ถ้ามึงจะไม่เปลี่ยนก็ห้ามอยู่ห่างจากกูนะ” ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆก่อนที่เจ้าของดวงตากลมนั้นจะหัวเราะเสียงร่า
     
    “ไม่ผูกกูไว้เลยล่ะแหม~~”
     
    “เออถ้าทำได้กูก็อยากจะล่ามโซ่มึงไว้เหมือนกันนั่นแหละ” เหมือนจะซึ้งนะ.... แต่ก็เปล่า
     
    “ไอ้เห.นี่!! กูไม่ใช่หมานะจะมาล่ามโซ่กูน่ะไปล่ามหมาในปากมึงเถอะไป!!” คริสหัวเราะอารมณ์ดีเมื่อกวนประสาทไอ้ลูกหมาตรงหน้าได้ ชานยอลเดินฟึดฟัดไปคว้าบัวรดน้ำมาถือแล้วก็หันมาค้อนใส่
     
    “มึงยกถุงปุ๋ยไปคนเดียวเลย รีบๆตามมาไม่งั้นกูจะฟ้องพ่อ!!” ปาร์คชานยอลเป็นลูกผู้ชายที่กล้าได้กล้าเสียสุดๆ... ทำอะไรคริสไม่ได้ก็ขอฟ้องพ่อไว้ก่อนล่ะ
     
    คริสระบายยิ้มแล้วก็เดินไปยกถุงปุ๋ยเดินตามชานยอลที่เดินแกว่งบัวรดน้ำอย่างอารมณ์ดีไป ยามเช้าที่อากาศดีๆ แดดอ่อนๆ ลมเย็นพัดมาเอื่อยๆ ชานยอลก็มักจะอารมณ์ดีแล้วก็ยิ้มร่าตื่นเต้นไปเสียทุกครั้งแบบนี้.. จะไม่ให้มองว่าเป็นลูกหมาได้ยังไงกันนะ ลูกหมาตัวกลม ตาโต ขนนิ่มๆสีน้ำตาลอ่อน นี่แหละปาร์คชานยอล
     
    แต่ถ้าเปรียบคริสเหมือนหมาน่ะหรือ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นไซบีเรียนฮัสกี้น่ะ .... ไซบีเรียนกับโกลเด้นทน่ะเข้ากันจะตาย แต่ถ้าให้พูดตามตรงเขาขอเป็นคนดีกว่า ยังไงเป็นคนก็ยังใกล้ชิดคนที่เดินนำหน้าเขา 2ก้าวนี้มากกว่าอยู่แล้ว
     
    เดี๋ยวนะ... ตัวเขามีความคิดที่อยากจะอยู่ใกล้กับชานยอลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 
     
    หรือบางที... อาจจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้นั่งข้างชานยอลก็เป็นได้
     
     
     
    “หายไปนานจนพ่อคิดว่าไปช่วยเขาผสมปุ๋ยเข้าแล้วนะเนี่ย” เมื่อมาถึงพ่อของชานยอลก็เอ่ยปากแซวทันที ชานยอลพองแก้มใส่แล้วก็ลงนั่งข้างๆพ่อ คริสที่เดินเข้ามาเห็นว่าใกล้ๆกันนี้มีคนงานมาช่วยดูแปลงอีกคนก็เริ่มจะหงุดหงิดในใจ.. เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
     
    “พ่อก็! ไอ้คริสนั่นแหละแกล้งชานยอล” ว่าแล้วก็หันไปแบะปากใส่
     
    “อะไรอย่ามาใส่ร้ายกัน คุณอาดูลูกคุณอาสิครับชอบใส่ร้ายผม” ชานยอลอ้าปากพะงาบๆ แล้วพ่อตัวเองก็ดันเห็นดีเห็นงามไปด้วยซะอีก
     
    “ชานยอลอย่าแกล้งคริสสิ นิสัยไม่ดีเลยนะเราเนี่ย”
     
    “พ่ออ่ะ!! ชานยอลไม่ช่วยแล้ว ไม่คุยด้วยแล้ว ชานยอลจะไปฟ้องแม่!!” แล้วชานยอลก็ทิ้งงานตรงหน้ารีบผลุนผลันลุกขึ้นทันทีและด้วยความที่ไม่ได้นอนแล้วก็มาก้มๆ เงยๆใช้แรงงานก็พาให้คนที่รีบลุกขึ้นจะไปฟ้องแม่หน้ามืด คริสที่เห็นชานยอลยืนเซจะล้มก็รีบลุกขึ้นคว้าตัวมากอดไว้ทันที
     
    “เฮ้ยมึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะ” ชานยอลหลับตาแล้วสะบัดหน้าไปมากับอกของคริส แต่อาการมึนหัวก็ยังไม่หาย คุณพ่อเองก็ลุกขึ้นมาดูลูกชายเหมือนกัน 
     
    “ไม่เป็นไรแต่มันวิ๊งค์ๆ หูอื้อๆว่ะ” คริสก้มหน้าลงมองคนในอ้อมแขนแล้วก็วัดอุณหภูมิที่ซอกคอ แม้จะรู้สึกร้อนๆแต่ก็ไม่ได้ร้อนจัดจนเป็นไข้
     
    “เข้าไปนั่งในบ้านไปลูก คริสอาฝากพาชานยอลไปทีนะ” คุณพ่อลูบหัวของลูกรักเบาๆ คริสก็ตอบรับเบาๆก่อนที่จะค่อยๆพยุงพาชานยอลเข้าบ้าน
     
    “เป็นอะไรของมึงวะ นี่กินข้าวเช้าหรือยังก่อนออกมาเนี่ย” 
     
    “คริสกูปวดหัวว่ะ ฟังมึงพูดไม่รู้เรื่องแล้วอ่ะ” คริสประคองให้ชานยอลยืนพิงอกตัวเองอีกรอบแล้วก็ลองวัดอุณหภูมิที่ซอกคอแล้วก็จับมือของชานยอลมาบีบนวดดู
     
    “มึงความดันต่ำหรือเปล่าวะ” แต่ชานยอลก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะฟังไม่รู้เรื่อง คริสก็เลยจัดการก้มลงช้อนแขนใต้ข้อพับขาของชานยอลแล้วอุ้มขึ้นแนบอกพาเข้าบ้านไป 
     
    คริสค่อยๆวางชานยอลลงนอนที่โซฟาก่อนที่จะหยิบหมอนอิงมาหนุนหัวให้ ก่อนที่จะผละมาลงนั่งที่พื้นใกล้ๆแล้วลูบหัวชานยอลเบาๆ พอได้นอนหลับตาสักพักอาการเหล่านั้นมันก็ค่อยๆทุเลา ไหนจะไออุ่นจากมือที่คอยลูบหัว ลูบแก้มเขาอีกล่ะ มันอุ่นสบายจนบอกไม่ถูก อาการที่มีก็ค่อยๆทุเลาลงไป พอชานยอลลืมตาขึ้นมาคริสก็ขยับตัวนั่งคุกเข่าแล้วลูบแก้มของชานยอลเบาๆ
     
    “เป็นอะไรไปวะ” ชานยอลยู่ปากก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา
     
    “ไม่รู้อ่ะ.. หรือว่าจะนอนไม่พออ่ะ เมื่อคืนกูไม่ได้นอน” คริสถอนหายใจแล้วบีบปลายจมูกของชานยอลเบาๆ ใจจริงอยากตบหัวมันด้วยซ้ำแต่เห็นว่ากำลังอาการไม่ค่อยดีหรอกนะเลยละเว้นโทษให้
     
    “แล้วทำไมไม่นอน ดูหนังเพลินอีกสิมึง กูบอกแล้วไงว่าให้นอนเป็นไงล่ะดีนะที่กูรับมึงทัน” ชานยอลยิ้มแล้วก็ยื่นปลายนิ้วไปจิ้มแก้มของคริสที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นเบาๆ
     
    “ก็รู้ไงว่ามึงจะช่วยกูทัน กูเก่งใช่ไหมล่ะ~” คริสกระตุกยิ้มแล้วขยับตัวโน้มหน้าลงไปเอาหน้าผากแนบกับหน้าผากของชานยอล ปลายจมูกของทั้งสองแตะสัมผัสกัน นัยน์ตาสีเข้มของคริสลอยเด่นอยู่ในนัยน์ตาของชานยอล ร่างสูงกว่าจะรู้หรือเปล่านะว่าตอนนี้หัวใจของชานยอลกำลังทำงานหนัก เต้นแรงจนมันแทบจะทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว ชานยอลก็ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าเพิ่งให้ตัวเองระเบิดไปเสียก่อนล่ะ
     
    “เออมึงเก่งแต่อย่าเป็นอีก เข้าใจไหม” 
     
    “อือ...” ชานยอลครางรับเสียงแผ่ว ก็ใกล้กันขนาดนี้จะพยักหน้ารับไม่ได้ ทำได้ก็แต่ส่งเสียงครางในคอนี่ล่ะ
     
    “นอนซะเดี๋ยวกูปลุก” ชานยอลมุ่ยหน้า ก็ไมได้ง่วงไงจะมาให้นอนอะไร เมื่อกี้อ่ะง่วงแต่ตอนนี้หายง่วงแล้วไง!
     
    “ไม่เอาอ่ะ” คริสขยับใบหน้าออกห่างก่อนที่จะปิดตาชานยอลด้วยมือข้างเดียว
     
    “หลับตาซะ อย่าพูดมาก” พอคริสเอามือออกชานยอลก็ลืมตา คนที่จะให้นอนก็เลยตีหน้าโหด
     
    “ก็กูอยากไปร้านอ่ะ” คริสระบายยิ้มก่อนที่จะพยักหน้ารับรู้
     
    “เออน่าเดี๋ยวกูปลุกเอง โอเค๊?” ชานยอลทำท่าคิดก่อนที่จะพยักหน้าแล้วหลับตาลง เมื่อเปลือกตาสีไข่มุกปิดลงบดบังดวงตากลมโตสีอ่อนแล้วคริสก็ทำเพียงแค่มองคนที่กำลังหลับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน รอยยิ้มที่ชานยอลไม่ค่อยได้เห็นหรอกแต่คริสก็ไม่ทำให้เห็นด้วย น่าอายจะตายใครจะทำกัน นั่งมองไปได้สักพักและเจ้าตัวก็คงหลับไปแล้ว คริสก้มหน้าลงทาบริมฝีปากของตัวเองไว้ที่กลีบปากอิ่ม ค้างไว้สักแปบก่อนที่จะถอนออก ไม่จาบจ้วงและไม่รุกล้ำใดๆ
     
    “ฝันดีล่ะ ฝันถึงกูคนเดียว ห้ามฝันถึงคนอื่นถ้ามึงฝันถึงคนอื่นกูจะเข้าไปตบมึงถึงในฝันเลยคอยดู” 
     
    แม้จะอยากอ้าปากด่าให้โคตรเหง้ามันสะเทือนแต่ชานยอลก็ไม่มีแรงที่จะทำ สติคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นรับรู้ได้ว่าริมฝีปากอุ่นๆทาบลงมาที่ริมฝีปากของตัวเองอีกครั้งก่อนที่มันจะเลื่อนไปที่แก้มและจบที่หน้าผาก แม้สติจะไม่เต็มร้อยแต่ชานยอลก็รู้สึกว่าคริสยังคงอยู่ใกล้ๆและก็คงจะไม่ไปไหน
     
    อาการใจเต้นและเหมือนเวลาหยุดชะงักเมื่อครู่ที่ตอนที่ทั้งสองใกล้ชิดจนใบหน้าแทบจะแนบกันนะ ชานยอลยังจำมันได้ หัวใจที่เต้นแรงและรัวเร็วมันทำให้เจ็บไปหมดทั้งอก ดวงตาคมคู่นั้นที่มองทอดมาด้วยความห่วงใยมันดึงดูดให้ชานยอลหลงตามเข้าไป ไออุ่นที่ได้รับมันทำให้ชานยอลรู้สึกดี ....... จะผิดหรือเปล่านะถ้าเขาอยากกอบโกยความอบอุ่นจากคนๆนี้
     
    แต่เขาอยากได้น้องจุนนินะ... แต่ก็ช่างเถอะ... 
     
    น้องจุนอะไรก็ไว้ก่อน ตอนนี้คนที่อยู่ข้างเขานี่ล่ะคือคนที่ชานยองต้องการ
     
     
     
     
     
     
     
    คริสที่นั่งมองชานยอลหลับอยู่ก็ระบายยิ้ม แน่นอนว่าเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเมื่อครู่ได้ทำอะไรลงไป มารู้อีกทีก็โน้มหน้าลงไปเสียแล้ว ดวงตากลมโตที่เคยเห็นแต่ไม่รู้ว่ามันจะโตได้ขนาดนี้อยู่ใกล้จนมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในนัยน์ตาคู่นั้น ริมฝีปากอิ่มที่เขาได้สัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่ามันยิ่งทำให้เขาอยากสัมผัสแบบนี้ไปเรื่อยๆ หวงจนไม่อยากให้ใครได้สัมผัสแทนที่เขา 
     
    ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มันก็ทำให้เขาเผลอจูบชานยอลไปอีกแล้ว และครั้งนี้หัวใจของเขาก็เต้นเร็วเสียจนเขาคิดว่าบางทีชานยอลอาจจะได้ยินมัน เขาไม่รู้ว่าชานยอลจะเป็นหรือเปล่ากับอาการใจเต้นเวลาที่เราอยู่ใกล้กัน เขาก็แค่แอบหวังอยู่นิดๆว่าชานยอลจะเป็น 
     
    ทำไมต้องชานยอล?... นั่นสิทำไมต้องเป็นคนนี้ที่ทั้งหัวใจและร่างกายของเขาต้องการ สมองยังคงสั่งการหาเหตุผลไม่ได้ แต่เขารู้เพียงแค่ว่าชานยอลจะต้องอยู่กับเขา ต่อให้ชานยอลอยากจะจีบน้องของเขาตัวแทบสั่น เขาก็จะไม่ยอม!! มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ? ความคิดที่อยากครอบครองชานยอลเกิดขึ้นตอนไหนกัน?
     
    คริสก็หาคำตอบไม่ได้...
     




    “มึงนี่แม่งโคตรครอบงำกูเลยว่ะให้ตายสิวะ”
     
     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×