ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF/Fic EXO] HunYeol's Home Sweet Home [Sehun x Chanyeol]

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] อาหารมื้อเช้า Ft. TaoBaek

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 56


    ป่วงมาก ไร้พล็อต ไร้เนื้องเรื่อง ไร้สาระ ไร้สิ้นทุกอย่าง

    ปล. ของขวัญใครมารับไปค่ะ
    ปล2. ห้ามด่า ห้ามติ ชมได้อย่างเดียวนะคะ 55555555


    ________________________


    อาหารมื้อเช้าไปมื้อที่สำคัญมาก พวกคุณรู้ไหมว่าพลังงานของทั้งวันน่ะมาจากอาหารเช้านะ ที่จะทำให้สมองของคุณมีแรงกระตุ้นทั้งเรื่องเรียนและทำงาน แน่นอนว่าพนักงานออฟฟิตต๊อกต๋อยอย่างผมก็ต้องพึ่งอาหารเช้าเหมือนกัน เพื่อที่จะได้มีแรงทำงานและใช้หัวสมองในตอนเช้า

    ผมเปิดประตูห้องเช่าแสนถูกของผม ก็ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนนินะจะไปมีเงินซื้อคอนโดหรูๆอยู่ได้ยังไง ก็แค่ห้องเช่าเดือนละสามพันก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่แน่นอนว่าของกินที่จะหาได้ในเวลาแบบนี้ก็คือ ตลาด!!!

    พอเดินออกมานอกอพาร์ตเม้นท์แล้วผมก็เดินออกไปอีกหน่อยก็ถึงตลาดแล้ว ตอนนี้เริ่มมีพระมาบิณฑบาตแล้ว ผมก็เลยไปใส่บาตรดั่งเช่นในทุกๆเช้า แล้วผมก็อธิษฐานเช่นเดิมเหมือนกในทุกๆเช้า

    ...ขอให้โอเซฮุนคนนี้มีแฟนกับเขาสักทีเถอะครับ~…

    หลังจากใส่บาตรเสร็จก็ถึงเวลามื้อเช้าของผมสักที เช้าๆแบบนี้คงกินอะไรที่หนักเกินไปไม่ได้ แม้ว่าในหนังสือจะบอกไว้ว่า มื้อเช้าควรกินอาหารหนักๆละกินให้เยอะๆเพื่อเป็นพลังงานของแต่ละวัน แต่ทว่าเช้าๆแบบนี้จะไปหาอาหารหนักๆมาจากที่ไหนกันล่ะ พอเดินเลยมาหน่อยก็เจอร้านขายโจ๊กเจ้าอร่อยและร้านน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋สุดแสบซ่าส์ ไอ้ที่แสบซ่าส์น่ะไม่ใช่น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ แต่เป็นคนขายตั้งหาก

    “อ้าว กินไรเลือกเลยๆๆ น้ำเต้าหู้ ซาลาเปา ปาท่องโก๋จ้า~ คนขายสวยๆคนนี้ไม่ขายนะจ๊ะ~ เอาอะไรดีเฮีย~” เสียงแหลมๆของแม่ค้าขายปาท่องโก๋ดังลั่นเรียกลูกค้า แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนทำปาท่องโก๋อยู่ก็ตาม น้องชายของแม่ค้าคนสวยก็มือเป็นระวิงทั้งตักน้ำเต้าหู้ คีบปาท่องโก๋ ซาลาเปาให้ลูกค้ามากมายที่มายืนรอสั่งหน้าร้าน

    “โอ๊ย นายน่ะเสียงเบาๆหน่อยสิแบคฮยอน หูฉันจะแตก!!” เสียงจากร้านข้างเคียงดังแหวกมา แม่ค้าตัวเล็กวางที่ตัดแป้งกระแทกลงกับรถเข็นแล้วหันหน้าไปหาคนขายร้านข้างๆ

    “หุบปากไปไอ้แปะเทาจื่อตาโหล ยืนคนโจ๊กแกต่อไปเถอะ!!! ขัดขวางการทำมาหากินฉันซะจริง!!!” แล้วเสียงแหลมก็แหวกลับ

    “คุณลุงเทาเทาขา~” ก็อยากจะหันไปต่อปากต่อคำไงแต่เด็กน้อยฝาแฝดในชุดนักเรียนเอ่ยเรียกเสียก่อน

    “เอ้าว่าไงตัวเล็ก วันนี้มาแต่เช้าเลยเนอะ โจ๊กใส่ไข่เหมือนเดิมใช่ไหมจ๊ะ” เด็กทั้งสองยิ้มกว้าง คุณแม่ที่พาลูกมากินโจ๊กก่อนไปโรงเรียนยิ้มกว้างแล้วพาเด็กๆขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ที่ร้านของเทาจัดเตรียมไว้

    “กินโจ๊กแล้วก็อย่าลืมตั้งใจเรียนนะรู้ไหมเจ้าตัวเล็ก” เทายิ้มกว้างให้กับเด็กๆทั้งสองที่ตอบรับกันอย่างแข็งขัน เทายิ้มแล้วก็ทำโจ๊กให้เด็กน้อยทั้งสอง แบคฮยอนที่แอบมองอยู่ก็อมยิ้ม

    “คนขายเอาน้ำเต้าหู้ใส่วุ้นกับลูกเดือยถุงหนึ่งแล้วก็ปาท่องโก๋ห้าตัวจ้ะ” แบคฮยอนหันมายิ้ม

    “วันนี้คนขายคนสวยคนนี้อารมณ์ดีเดี๋ยวแถมปาท่องโก๋ให้ตัวนึงนะ~” แล้วเสียงแหลมก็ว่าอย่างอารมณ์ดี

    “ทีฉันนายไม่เห็นจะแถมเลยนะ” แบคฮยอนหันไปมองหน้าพ่อค้าขายโจ๊กแล้วก็สะบัดหน้าหนี

    “เรื่องอะไรฉันต้องแถมนายละยะ!!!”

    เถียงกันแบบนี้ทุกเช้าล่ะ แต่ก็เป็นสีสันของยามเช้าได้เป็นอย่างดี คนอื่นที่มากินก็หวังจะเห็นฉากทะเลาะหยอกๆของทั้งคู่นั่นแหละ ใครๆก็รู้ว่าทั้งสองแม้จะกัดกันทุกวันแต่ก็เป็นเพื่อนกัน แต่สำหรับผมแล้วมื้อเช้าของผมน่ะไม่ใช่โจ๊กหรือน้ำเต้าหู้หรอก แต่เป็น .....

    “น้องครับ หมูปิ้ง5ไม้ ข้าวเหนียว2ห่อครับ” น้องคนขายเงยหน้าขึ้นจากการพลิกหมูในเตาแล้วยิ้มให้ แก้มกลมๆแดงเรื่อ กับริมฝีปากสีแดง ดวงตากลมๆ แค่เห็นหัวใจของคนมองก็กระตุกแล้ว

    “โอ๊ะ.. อ่า ครับ” เงยหน้าขึ้นมาทำตาโตๆอย่างตกใจ เอ่ยรับเสียงเบาๆแล้วก็ก้มหน้าลงอย่างเดิม จากนั้นโอเซฮุนก็หมุนตัวเดินไปนั่งยังพื้นที่ร้านที่จัดไว้สำหรับนั่งทานซึ่งก็อยู่ในส่วนของหน้าบ้านของคนขายนั่นล่ะ

    “ได้แล้วครับ” เอ่ยบอกเสียงเบาก่อนที่จะวางจานหมูปิ้งกับข้าวเหนียวไว้ให้ผู้ชายที่นั่งทำหน้านิ่ง จะว่าไปก็รู้สึกประหม่าเล็กๆเมื่อดวงตาคู่เรียวนั้นหันมามองสบ พลันแก้มขาวก็แดงเรื่ออีกครั้ง

    “ชานยอลจ๊ะ ขอหมูปิ้ง3ไม้กับข้าวเหนียว1ห่อจ๊ะ” คนโดนเรียกสะดุ้งก่อนที่จะหลบสายตาคู่นั้นแล้วกลับไปทำหน้าที่เดิม คนที่มองอยู่ก็มองแผ่นหลังเล็กๆตรงหน้าแล้วก็ยิ้มออกมา จะว่าไปก็อารมณ์ดีเหมือนกันแหะ

    หลังจากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งที่เป็นมื้อเช้าเสร็จ เซฮุนก็ต้องรีบนั่งรถไปทำงาน เพราะที่ทำงานของตนกับที่พักนั้นห่างกันไกลอยู่ มิเช่นนั้นคงไม่ต้องถ่อตื่นเช้าแบบนี้ แต่จะว่าไปตื่นเช้ามาก็ดีเหมือนกันนะ เซฮุนที่นั่งเท้าแขนกับรถเมล์วาดรอยยิ้มออกมาเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของเด็กมัธยมเมื่อเช้า ที่เจอกันทุกเช้า

    “ชานยอล”


    ชีวิตของเซฮุนวนเวียนแบบนี้ในทุกๆวัน ตื่นเช้า ใส่บาตร กินข้าวเช้า นั่งรถไปทำงาน กลับบ้าน นอน และก็เหมือนเช่นทุกเช้าของตลาด เสียงตะโกนโวยวายด่ากันไปมาของทั้งสองร้านเป็นเรื่องที่คุ้นตาและคุ้นหูของคนทั่วทั้งตลาดนั่นล่ะ

    “ถ้าจะซื้อปาท่องโก๋ร้านยัยนั่นมากินกับโจ๊กฉัน ฉันไม่ขาย!!” เทาจื่อแหวขึ้นเมื่อเห็นลูกค้าตนเองสั่งโจ๊กแล้วก็เดินไปซื้อปาท่องโก๋กับร้านของคนตัวเล็กแต่เสียงแหลมชนิดที่ว่าหูแตกได้เลย

    “หนอยๆๆ ก็เพราะโจ๊กแกมันไม่อร่อยไงถึงต้องซื้อปาท่องโก๋แสนอร่อยของฉันไปกินด้วยน่ะ!!!” แบคฮยอนเองก็เชิดหน้าแล้วเขย่าน้ำมันให้สะเด็ดออกจากปาท่องโก๋และซาลาเปาที่ทอดสุกแล้ว

    “พูดดีนักนะ” เทาจื่อหันไปมองก่อนที่จะชี้นิ้วคาดโทษ

    “อ่ะแน่นอน คนสวยๆอย่างฉันพูดอะไรก็ดีไปหมดนั่นแหละ! หรือแกจะเถียงย่ะ!!?” พอเห็นว่าพ่อค้าขายโจ๊กไม่เถียง หนูแบคฮยอนก็หัวเราะเสียงใส คนรอบข้างก็หัวเราะขำเพราะรู้ว่าบทสนทนา(?)เหล่านั้นก็แค่หยอกกันเล่น

    เซฮุนที่เดินผ่านเองก็ส่ายหน้าเบาๆกับสองพ่อค้าแม่ขายที่ทะเลาะกันได้ทุกเช้า ได้ยินว่าทั้งสองบ้านใกล้กันด้วยไม่รู้ว่ากลับบ้านไปนี่จะทะเลาะกันอีกหรือเปล่า แต่ก็คงไม่น่าจะเหลือ.... แค่คิดโอเซฮุนก็สยดสยองแล้ว

    เซฮุนเดินหน้ามึนผ่านทั้งสองร้านไปยังร้านหมูปิ้งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล วันนี้เป็นวันหยุดแต่โอเซฮุนก็ยังต้องไปทำงาน แถมได้โอทีต่อถึงมืดด้วยประหนึ่งวันทำงานธรรมดาเลยให้ตายเถอะ! แต่ก็ต้องยอมทนเพราะเบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องกินต้องใช้ เพราะฉะนั้นเจ้าของบริษัทสั่งอะไรก็ต้องทำ

    “อ๊ะ... วันนี้ก็ทำงานเหรอครับ” เมื่อเซฮุนเดินมาถึงหน้าร้าน ชานยอลก็เงยหน้าแล้วยิ้ม เพราะวันนี้เป็นวันหยุดปกติคนตรงหน้าไม่ออกเดินในตลาดหรอก ดวงตาเรียวคู่นั้นมองจ้องมาก่อนที่จะพยักหน้ารับ

    “เอาหมูปิ้ง5ไม้ ข้าวเหนียว2ห่อครับแล้วก็เอาแบบนั้นใส่ถุงให้พี่ด้วยนะ” เซฮุนเห็นว่าแก้มกลมนั้นแดงเรื่อ ชานยอลก้มหน้าลงง่วนกับการใช้กรรไกรตัดเนื้อหมูที่ไหม้ออก

    “จะเอาอะไรอีกไหมครับ” เซฮุนจุดยิ้ม ยิ้มที่ชานยอลยังมองไม่เห็น

    “เอา.... เบอร์น้องชานยอลได้ไหมครับ”

    “ห๊ะ!!” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ ตาเบิกกว้าง อ้าปากค้างมองรอยยิ้มของคนตรงหน้าที่ยิ้มกว้างแทนที่ใบหน้าเรียบเฉยที่มักจะเห็นในทุกเช้า เซฮุนไม่ตอบได้แต่ยิ้มแล้วเดินไปนั่งยังโต๊ะประจำของตน ชานยอลเองก็มือพันกันเป็นระวิงเลย เขินล่ะสินะ พี่ก็เขินว่ะเอาตรงๆ

    “อ่า... ได้แล้วครับ” ชานยอลถือจานหมูปิ้ง ข้าวเหนียวและถุงหมูปิ้งอีกชุดมาวางไว้ที่โต๊ะของเซฮุน แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ไปได้แต่ยืนเท้าโต๊ะกัดปากอยู่อย่างนั้น เซฮุนเองก็มองคนที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วอมยิ้ม

    “ว่าไงครับ” แก้มกลมเหมือนซาลาเปาแดงจัดจนเซฮุนนึกอยากจะกัดมันสักที

    “คือ.... ชานยอลไม่มีมือถือ เอาเป็นเบอร์บ้านแทนได้ไหมฮะ”

    อู้ยยยยยยยยยยยย เรียกว่าสำเร็จสินะ คิๆ

    วันนี้ก็เหมือนทุกๆเช้าที่หนุ่มพนักงานออฟฟิตจะออกมาหาข้าวเช้ากิน หลังจากใส่บาตรเสร็จก็ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญของโอเซฮุน พอๆกับที่จะได้เห็นหน้าแม่ค้าหมูปิ้งนั่นแหละนะ นอกจากจะได้อาหารท้องแล้วยังได้อาหารตากับอาหารใจอีกด้วย

    “หื้ม??” เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องสะดุดกับสองร้านเดิมๆ คนขายเดิมๆแต่ที่ไม่เดิมคือ วันนี้ร้านโจ๊กกับปาท่องโก๋ไม่มีเสียงโวยวาย แต่กลับเห็นเด็กช่วยคนใหม่ในร้านปาท่องโก๋แทน

    “ทำไมแกจะปิดร้านไม่บอกฉันวะไอ้ลุงแปะเทา” ถึงปากจะบ่นงุ้งงิ๊งแต่แม่ค้าคนสวยก็ยังคงทำหน้าที่นวดแป้ง ตัดแป้ง หยอนแป้งใส่กระทะเพื่อทอดปาท่องโก๋เหมือนเดิม โดยมีแปะร้านขายโจ๊กมายืนช่วยอยู่ข้างๆ

    “ก็แล้วทำไมต้องบอกด้วยวะ นี่จะไปไหว้พระทำบุญนะเว๊ย ยังจะมาขัดบุญเรียกมาให้ช่วยอีก” อีกคนก็บ่นไป ใช้ตะเกียบยาวๆพลิกกลับตัวปาท่องโก๋ไป

    “อย่าบ่นนักเลยน่า เดี๋ยวค่อยไปดิเดี๋ยวไปด้วย” ว่าแล้วก็หันไปยิ้มให้ผู้ช่วยคนใหม่ที่ตัวสูงชะลูดเกินหน้าแม่ค้าคนสวยไปไกลเชียว เทาก้มลงมองคนที่เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้แล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง

    “ทำไมต้องเอานายไปด้วยวะ ไหนบอกเหตุผลดีๆมาสักข้อดิ” แบคฮยอนขมวดคิ้วมุ่น แต่สองมือก็ยังคงจับแป้งยืดเป็นปาท่องโก๋แล้วหย่อนใส่กะทะ

    “ก็... ก็ฉันสวย ก็ฉันงาม เป็นถึงเทพีหมู่บ้านเราเชียวนะ! ยังไงคนสวยก็ต้องใจบุญเพราะฉะนั้นฉันไปด้วยนะ” แล้วก็ทำตาปริบๆใส่คนข้างตัวที่หนีบตัวปาท่องโก๋ไปก็กลั้นหัวเราะไป

    “เหตุผลฟังดูแปลกๆนะ เกี่ยวอะไรกันวะแต่เอาเหอะเก็บร้านเสร็จก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะกัน”

    “หุ้ย! ไอ้แปะเทาจื่อ ไม่สวย ไม่เริด ไม่มั่นได้ขนาดนี้นะยะ!!!” แล้วเจ้าของเสียงแว้ดแหลมๆก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง ถ้าวันไหนสองร้านนี้หยุดพร้อมกันนะรับรองว่าทุกคนคงคิดถึงเสียงด่าแว้ดๆของคู่นี้แน่ๆ

    เซฮุนเดินเรื่อยๆ เอื่อยๆผ่านร้านน้ำเต้าหู้แอนด์ปาท่องโก๋ของแบคฮยอน(ที่วันนี้มีผู้ช่วยเป็นแปะร้านขายโจ๊ก) ไป ก่อนที่จะไปหยุดอยู่หน้าร้านเดิม ‘ร้านหมูปิ้ง’

    “โอ๊ะ พี่เซฮุน” ชานยอลที่รู้สึกว่ามีคนมายืนหน้าร้านก็เงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาเรียวรีที่นิ่งสงบคล้ายดั่งทะเลไร้คลื่นลม ผู้ชายร่างสูงในชุดเสื้อทำงานแขนยาวกับกางเกงสแล็คสีดำยืนทำหน้านิ่งเป็นน้ำแข็งอยู่ตรงหน้า แค่สบกับดวงตาสีดำคู่นั้นแก้มกลมของผู้มองก็แดงเรื่อเสียแล้ว ท่าจะแย่แล้วล่ะปาร์คชานยอล

    “หมูปิ้ง5ไม้ ข้าวเหนียว2ห่อ ใส่ถุงอีกชุดให้ด้วยนะ” น้ำเสียงนิ่งๆที่เจือรอยยิ้มบางๆมาให้ทุกเช้า แค่นี้ก็ทำให้ลูกชายเจ้าของร้านหมูปิ้งก้มหน้าหลบสายตาได้แล้ว

    “ครับ” กล่าวรับไปเบาๆ แสนเขินแสนอายยิ่งนัก เซฮุนเดินผ่านเข้าไปนั่งที่โต๊ะประจำมองแผ่นหลังของเด็กมัธยมที่ตัวสูงเท่าอกเขา จับจ้องมองทุกกิริยาของร่างตรงหน้าจนคนถูกมองก็รู้สึกเก้ๆกังๆกับสายตานั้นเสียเหลือเกิน

    “ได้แล้วครับ” ชานยอลเดินเอามาเสิร์ฟด้วยหัวใจเต้นรัว ไม่อยากจะบอกเลยว่าดวงตาเรียวที่แสนจะนิ่งแต่ประกายแววระยิบระยับนั้นช่างดึงดูดเสียจริง

    “น้องชานยอลไปเข้าค่ายวันไหนครับ พรุ่งนี้แล้วใช่ไหม” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถาม ทำเอาคนที่วางจานหมูปิ้งถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

    “อะ..อ่ะใช่ครับ พรุ่งนี้ครับ ไปสามวันสองคืน” แก้มกลมที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงเข้าไปอีกเมื่อได้ยินประโยคนี้จากผู้ชายที่ดูเหมือนจะเย็นชา

    “ว๊า.. พี่คงอดเห็นหน้าชานยอลหลายวันเลยสิเนอะ” ปาร์คชานยอลน็อคเอ้าท์!!

    “ถะ...ถ้างั้น พรุ่งนี้พี่เซฮุนก็มาส่งชานยอลสิครับ จะได้เจอหน้ากันก่อนที่จะไม่ได้เจอกัน.... นะครับ~” สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ...... โอเซฮุนน็อคเอ้าท์ไปเรียบร้อย

    หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จเซฮุนก็ไปทำงาน แต่ก็ไม่ได้ต่อบทสนทนาอะไรอีกเพราะลูกค้าเยอะจนไม่สามารถแทรกบทสนทนาได้เลย ก็อย่างว่า นอกจากหมูปิ้งจะอร่อย ข้าวเหนียวจะนุ่มหอมแล้ว ลูกเจ้าของร้านยังน่ารักอีกแล้ว ใครๆก็อยากที่จะมาหาละเนอะ รวมถึงคนที่เดินไปยิ้มไปคนนี้ด้วย

    ค่ำคืนนี้เซฮุนนอนหลับไปอย่างฝันดีด้วยเสียงหวานๆที่ทอดกล่าวบอกว่าฝันดี แม้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันอาทิตย์ วันหยุดงานของเซฮุนแต่พรุ่งนี้ชายหนุ่มพนักงานออฟฟิตก็ต้องตื่นเช้าดั่งเช่นทุกวันมารับลูกเจ้าของร้านหมูปิ้งไปโรงเรียนเพื่อขึ้นรถไปเข้าค่าย

    รอยยิ้มในทุกๆเช้าที่ได้จากชานยอลนั้นเรียกพลังการทำงานให้คนมองได้ไม่ยากเลย วันนี้ชานยอลไม่ได้ช่วยงานที่ร้านแต่กลับมายืนรออยู่ตรงตลาดพร้อมกับข้าวเหนียวหมูปิ้งสองชุดในมือ

    “พี่เซฮุนมาช้านะครับ” เซฮุนเองก็ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ ก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร ก็กว่าจะได้นอนก็เข้าสู่วันใหม่เสียแล้ว ไม่ใช่เพราะคุยกับคนตรงหน้าดึกหรอก แต่เพราะเอาแต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมากับคำบอกว่าฝันดีนั่นล่ะ

    “ไปกันเถอะ” แล้วเซฮุนกับชานยอลก็เดินไปป้ายรถเมล์ด้วยกัน

    เซฮุนเคยคิดฝันไว้ว่า ถ้าสักวันหนึ่งบนรถเมล์ข้างกายเป็นคนที่รู้จักนั่งอยู่เคียงข้าง เป็นเจ้าของรอยยิ้มกว้างๆ เป็นเจ้าของดวงตากลมๆ เป็นเจ้าของแก้มกลมที่แดงอยู่ตลอดเวลา ถ้าข้างกายเป็นชานยอลนั่งอยู่บนรถเมล์เคียงข้างจะรู้สึกอย่างไรกันนะ..?

    ตอนนี้เซฮุนได้คำตอบแล้ว ใบหน้านิ่งเฉยหันไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านในชิดริมกระจกแล้วก็ยิ้มบางๆ โคตรจะมีความสุขเลยครับ!!

    “ถ้าชานยอลกลับจากค่ายมา .... เราไปเที่ยวกันไหม” ชานยอลหันไปมองคนข้างกายที่อยู่ๆก็ปล่อยแย๊บซ้ายมาเสียอย่างนั้น

    “อ่า... ถ้าไปวันหยุด ชานยอลจะคิดดูอีกทีนะครับ” แล้วก็ส่งยิ้มให้คนที่นั่งนิ่งเฉย แม้ว่าคนข้างกายจะนิ่งเฉยคล้ายคนไร้ความรู้สึกแต่ข้างในกลับลิงโลดผิดกับบุคลิกภายนอกเสียสิ้น

    “ถือว่าสัญญาแล้วนะครับ” เซฮุนก้มหน้าลงพร้อมกับยิ้มพรายให้คนข้างกายที่นั่งเขินหน้าแดง คนเขินก็ได้แต่พยักหน้ารับหงึกหงักไปตามเรื่องตามราว แม้จะยังสงสัยว่าไปตอบรับในประโยคไหนก็เหอะ

    “ถึงแล้วครับเด็กดี ลงได้แล้ว” เซฮุนคว้ามือของเด็กข้างกายแล้วพาลงมาจากรถเมล์ แล้วก็พาจูงเดินเข้าซอยไปยังโรงเรียนของชานยอล

    “ส่งแค่นี้ก็ได้ครับ ... อันนี้ของพี่เซฮุน” เมื่อถึงหน้าโรงเรียนชานยอลก็กระตุกมือที่จับมือของตัวเองเบาๆแล้วยื่นถุงหมูปิ้งให้เซฮุนถุงหนึ่ง

    “ขอบคุณครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ” เซฮุนยื่นมือไปรับถุงหมูปิ้งมา ปลายนิ้วสัมผัสกับปลายนิ้วเรียวของอีกคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ชานยอลสะดุ้งโหยงคล้ายดั่งโดนไฟช็อต

    “เดี๋ยวชานยอลซื้อของฝากมาให้นะครับ” ชานยอลส่งยิ้มกว้างตาหยีส่งให้  เซฮุนเองก็ยิ้มตาม

    “ไม่ต้องหรอก แค่เอาตัวชานยอลมาก็เป็นของฝากให้พี่ได้แล้ว” เด็กมัธยมนามว่าปาร์คชานยอล ... น็อคเอ้าท์ ได้แต่เดินเป๋ๆเข้าโรงเรียนไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนหัวเราะเบาๆในลำคออยู่หน้าโรงเรียนต่อไป

    ถ้าได้มาส่งที่โรงเรียนทุกวันเลยก็ดีสิเนอะ.... แต่กว่าน้องชานยอลจะกลับมา พี่เหี่ยวตายพอดีจ๊ะ

    แม้ว่าลูกชายเจ้าของร้านหมูปิ้งจะไปเข้าค่าย แต่ที่ร้านก็ไม่ได้ปิดร้านแต่อย่างใดยังคงเปิดเหมือนเดิม ส่วนคนที่มายืนอยู่หน้าเตาก็กลายเป็นคุณแม่ของน้องเขาแทน ปกติคุณแม่น้องชานยอลก็จะจัดการเตรียมของให้เท่านั้นแล้วปล่อยให้ลูกชายเป็นคนขาย แต่ในเมื่อลูกชายไม่อยู่ มือวางอันดับสองอย่างคุณแม่ก็ต้องออกโรงเอง

    เมื่อไม่มีคนปิ้งหมูหน้าตาน่ารัก เช้านี้เซฮุนเลยกะว่าจะไปกินโจ๊กเสียหน่อยแต่ทว่าป้ายหน้าร้านกลับเขียนไว้ว่า ‘ปิดร้านไปทำบุญต่างจังหวัด2วัน เปิดวันที่xx’ พอว่าจะกินน้ำเต้าหู้ มองเลยกลับมานิดก็เห็นป้ายติดหน้าร้าน ‘<= ไปกับร้านแปะข้างๆ’ โอเค เข้าใจ แล้วตูจะกินอะไรเช้านี้?

    แล้วสุดท้ายก็ต้องมาตายรังที่เดิม มาซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวกินเหมือนเดิม วันนี้ไม่ต้องทำโอที แน่นอนว่าวันนี้เป็นวันที่ชานยอลจะกลับมาจากค่ายแล้ว เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วเนอะ~

    “หมูปิ้ง5ไม้ ข้าวเหนียว2ห่อครับ” คุณแม่เงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนจะตอบรับด้วยเสียงใสๆ ยิ้มที่สดใส ดวงตากลมโต แก้มสีเลือดฝาด เซฮุนรู้แล้วว่าชานยอลได้ความน่ารักเหล่านี้มาจากใคร

    “คุณน้าครับให้ผมช่วยไหมครับ” เซฮุนเอ่ยถามออกไปเมื่อเห็นว่าเช้านี้ลูกค้าเยอะเสียเหลือเกิน

    “เอาสิ เราชื่อเซฮุนใช่ไหมพ่อหนุ่ม” เจ้าของชื่อหันไปมองด้วยความตกใจว่าทำไมคนข้างเคียงถึงรู้จักชื่อของเขา

    “ชานยอลเล่าให้ฟังน่ะ” แล้วเธอก็ส่งยิ้มสวยมาให้ เซฮุนก็ได้แต่พยักหน้ารับไป เอ?? จะว่าไป ถ้าคุณแม่เปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว ลาออกมาช่วยลูกบ้านนี้ขายหมูปิ้งดีไหมนะ?

    ถ้าต้องเขียนเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการลาออก จะกรอกว่า .......... มาช่วย(ว่าที่)ภรรยา(ในอนาคต)ขายหมูปิ้ง .......... ได้ไหมนะ?

    ก็ท่าจะดีแฮะ

    ในตลาดช่วงเช้าของทุกวันก็จะโหวกเหวกโวยวายไปด้วยเสียงของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ขายและเสียงรถราในการสัญจร เช้านี้ร้านโจ๊กและร้านปาท่องโก๋ก็ยังทะเลาะกันเหมือนเดิมเป็นที่ชินตาและชินหูของคนทั่วไป

    “ไอ้เทาจื่อ!! ฉันบอกแล้วไงว่าโจ๊กของฉันไม่เอาหมู!!!” แม่ค้าตัวเล็กแต่เสียงแหลมเกินตัวเท้าเอวแล้วแว้ดๆใส่คนขายร้านข้างเคียง

    “กินๆเข้าไปเหอะน่า แค่นี้ไม่อ้วนหรอกน่า! ตัวเล็กจนจะปลิวลมอยู่แล้ว” เทาหันมายักคิ้วให้แล้วหันกลับไปคนโจ๊กในหม้อต่อ

    “ก็ฉันไม่อยากกินนิ! เดี๋ยวอ้วนนะไอ้บ้า!!” แบคฮยอนก็ยังคงไม่ยอม ยังแว้ดเสียงสูงใส่ เทาวางทัพพีคนโจ๊กลงกับหม้อแล้วฝากให้เด็กในร้านทำต่อ ก่อนที่ตัวเองจะเดินมาหาคนตัวเล็กที่ยืนเท้าเอวทำหน้าบึ้ง

    “มันจะไปอ้วนได้ยังไง หมูแค่ไม่กี่ชิ้นเอง กินเข้าไปจะได้โตไวๆ” ว่าแล้วก็วางมือลงบนหัวของแม่ค้าตัวเล็ก แบคฮยอนโยกหัวออกจากฝ่ามือใหญ่ที่จับหัวตัวเอง

    “นายไม่เข้าใจอ่ะ แค่ไม่กี่ชิ้นแต่มันก็อ้วนได้นะ ฉันอ้วนง่ายนายก็รู้” แม้จะลดระดับเสียงแต่ระดับความบึ้งของใบหน้ากลับไม่ลดเลย

    “นายจะอ้วนได้ยังไงตัวเล็กแค่นี้ ถึงนายจะตัวใหญ่กว่านี้ฉันก็อุ้มนายไหว” ว่าแล้วก็พิสูจน์ให้ดูเสียเลย อ้อมแขนใหญ่โอบรอบเอวเล็กแล้วยกอุ้มแม่ค้าคนสวยขึ้นมาประจันหน้า ใบหน้าของแบคฮยอนอยู่ในระดับสายตาของเทาจื่อพอดิบพอดี เทายักคิ้วให้แต่แบคฮยอนกลับทำหน้ามุ่ย

    “ไอ้แปะเทาจื่อบ้า! ปล่อยเลยๆ ยอมกินก็ได้ จะกินให้อ้วนเลย” เทาหัวเราะเสียงดังแต่ก็ไม่ยอมปล่อยแม่ค้าคนสวยลงพื้นอยู่ดี

    “ต่อให้อ้วนกว่านี้กี่เท่าก็อุ้มไหวน่า”

    “ชิ! รู้แล้วย่ะ ปล่อยสักทีดิวะ อายคนอื่นเขา” โลกคงต้องจารึกว่า พยอนแบคฮยอนก็อายเป็น!!

    เลยจากร้านของทั้งคู่ไม่ไกลก็เป็นร้านหมูปิ้งที่วันนี้ได้ลูกมือคนใหม่ หน้าตาหล่อเหลาของผู้ช่วยคนใหม่เรียกลูกค้าได้มากโขเลยล่ะ

    “เหนื่อยไหมครับคนดี” เซฮุนหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้คนตัวเล็กกว่าข้างกายที่ยืนปิ้งหมูอยู่หน้าเตา เรียกลูกค้าได้แล้วแถมยังเรียกสีเลือดจากแก้มกลมๆได้อีกนะ

    “ไม่ฮะ ชานยอลชินแล้ว” หันกลับไปตอบด้วยรอยยิ้ม เซฮุนทำตามดังที่ว่าไว้จริงๆ คือลาออกจากงานแล้วมาช่วยชานยอลขายหมูปิ้ง มาขอเป็นลูกมือกับคุณแม่ของชานยอล แม้ว่าจะเสียดายเงินเดือนที่มากโขอยู่แต่ก็นะ ทำงานได้เงินน้อยแต่มีความสุขดีกว่า

    “อ๊ะ.. พระท่านเดินบิณฑบาตมา เราไปใส่บาตรกันนะครับ” เซฮุนสะกิดเรียก ก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันจัดของเพื่อใส่บาตรกัน ลูกค้าซาพอดีอย่างรู้งานเลยนะ

    ทั้งสองลงนั่งคุกเข่ากับพื้นโดนรองเข่าไว้กับรองเท้าเพื่อกันคอนกรีตบาด ทั้งสองอธิษฐานไหว้ในจิตก่อนที่จะช่วยกันประคองชุดอาหารในมือลงใส่บาตรในมือของพระท่าน แล้วถอยกลับมานั่งพนมมือรอรับพร ทั้งสองหันมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มให้แก่กัน เมื่อพระท่านเริ่มให้พรทั้งสองก็ก้มหน้าลงรับศีลพรนั้น

    ...ตอนนี้โอเซฮุนคนนี้มีแฟนแล้วครับ ลูกไม่ขออะไรแล้วครับ ขอแค่มีเขาเคียงข้างก็มีความสุขที่สุดแล้วครับ...

    “ชานยอลครับ เมื่อกี้อธิษฐานขออะไรเหรอ” เมื่อพระท่านให้พรเสร็จสิ้นและเดินเลยผ่านไป เซฮุนก็ช่วยประคองชานยอลให้ลุกขึ้นก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป

    “ไม่รู้สิฮะ ไม่บอก~” แล้วเจ้าตัวก็วิ่งเข้าไปในร้านทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

    “บอกหน่อยนะๆ” กระแซะคนข้างเคียงเบาๆอย่างอยากรู้แต่ดูท่าว่าเจ้าตัวจะไม่ยอมบอกได้แต่ยิ้มลอยหน้าลอยตา

    “บอกหน่อยนะครับคนดี”

    “ไม่บอกฮะ พี่เซฮุนตักข้าวเหนียวใส่ถุงไปเลย~~”

    ...ผมก็แค่ขอว่า ขอให้พี่เซฮุนอยู่กับผมทุกๆวันแบบนี้ตลอดไป...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×