ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] Impossible Miracle Love [คู่จิ้นตามใจฉัน]

    ลำดับตอนที่ #37 : [เด็กช่าง's Series] YeolKris BaekDo TaoHun - BaekDo Part 4

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 57


    Title: เด็กช่าง's Series - BaekDo Part 4
    Pairing: Chanyeol x Kris // Baekhyun x D.O. // Tao x Sehun
    Author: BettyNoona
    Note: *ค่อยๆแอบย่องมา* 
     
    *แล้วก็ย่องกลับไป*
     
    #มีข่าวดีปีหน้านะคะ
     
     
     
    ___________________________________
     
     
     
    หนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนที่แบคฮยอนยังไม่ได้เจอคยองซู หลังจากที่เขานั่งรออยู่หน้าประตูห้องนั้นคยองซูก็สอดกระดาษลอดใต้ช่องประตูออกมาบอกให้เขากลับบ้านไปก่อน แค่นี้ตัวเล็กของเขายังไม่ยอมเปิดประตูออกมาหาเขาเลย แบคฮยอนจำไม่ได้ว่าตัวเองนั่งร้องไห้แล้วเคาะประตูเรียกนานเท่าไหร่ แต่มันก็คงจะนานพอที่จะทำให้ตัวเขารู้สึกหมดแรงและไม่อยากทำอะไรอีกเลย
     
    วันนี้แบคฮยอนก็มาโรงเรียนคนเดียว นั่งหงอยๆอยู่ที่โต๊ะกินข้าวที่อุตส่าห์มาจองแต่เช้าเพราะนอนไม่หลับ จริงๆวันนี้ไม่มีเรียนแต่มาอาศัยใบบุญโรงอาหารโรงเรียนเพราะราคาถูกที่สุดแล้ว ตอนนี้แบคฮยอนกำลังกรอบทั้งตัวและหัวใจ เหล่าเพื่อนฝูงที่มาถึงก็แยกย้ายกันไปซื้อข้าวปล่อยให้เพื่อนรักหมากระเป๋านอนพังพาบอยู่กับโต๊ะไปแบบนั้น
     
    แบคฮยอนหยิบมือถือของตัวเองมาดูแล้วก็กดส่งข้อความหาคยองซูเป็นรอบที่ร้อยกว่าๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่คิดที่จะส่งกลับเลยสักนิด หรือแม้แต่ส่งไลน์ไปคยองซูก็ไม่ยอมตอบที่น่าเศร้าที่สุดคือคยองซูไม่เปิดอ่านด้วย พยอนแบคฮยอนอยากจะร้องไห้!!!
     
    “เป็นอะไรวะไอ้หมากระเป๋า” ชานยอลถือจานข้าวมานั่งข้างๆแบคฮยอน เทากับเซฮุนนั่งฝั่งตรงข้าม ทุกสายตาพุ่งไปมองเพื่อนรักหมากระเป๋าที่นั่งคางเกยโต๊ะมองหน้าจอมือถืออย่างหงอยเหงา หูตก หางลู่
     
    “ยังไม่ได้คุยกับคยองซูอีกเหรอวะ” เซฮุนถาม เทาก็พยักหน้าตามไปด้วย แบคฮยอนวางมือถือลงแล้วส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะถอนหายใจแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
     
    “ตกลงพวกมึงทะเลาะอะไรกันวะ” เทาถามบ้าง เซฮุนก็พยักหน้าไปก็แอบตักไข่แดงไม่สุกของเทาไป พอจะหันไปเอาเรื่องก็เจอเซฮุนยักคิ้วให้อีก แหม่.. น่าจับฟัดจริงๆให้ตายดิ!!
     
    “กูยังไม่รู้เลยว่าตัวเล็กเป็นอะไร อยู่ๆก็มาเป็นแบบนี้แล้ว” แบคฮยอนขยี้ผมตัวเองจนยุ่งไปหมด หมดเคล้าของหนุ่มหน้าตาน่ารักอารมณ์ดีไปเสียสิ้น ชานยอล เทา เซฮุนมองหน้ากันแล้วก็ส่ายหน้าให้กันเองแบบไม่รู้จะทำยังไงดี 
     
    “สวัสดีครับคุณแม่” แบคฮยอนกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรเข้ามา
     
    “จ๊ะ คยองซูอยู่กับแบคฮยอนหรือเปล่าลูก ฝากบอกทีนะว่าแม่กับพ่อจะไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดสัก2-3วัน”
     
    “คยองซูไม่อยู่บ้านเหรอครับคุณแม่” แบคฮยอนขมวดคิ้วอย่างใจเสีย ถ้าคยองซูไม่อยู่บ้านแล้วไปไหนล่ะ
     
    “อ้าวคยองซูไม่ได้อยู่กับแบคฮยอนเหรอลูก เนี่ยแม่โทรไปก็ไม่ติดไม่กลับบ้านกลับช่องเลย น่าตีจริงเชียว”
     
    “อ่า... สงสัยจะอยู่กับเซฮุนมั้งครับแล้วผมจะบอกให้นะครับ” ไอ้คนที่โดนพาดพิงก็ทำตาโตมองแบคฮยอนที่ส่งซิกให้เงียบปากก่อน 
     
    “อะไรอยู่กับกูวะ” พอแบคฮยอนวางสาย คนขี้สงสัย(หรืออยากรู้มาก)ก็รีบถามทันที แบคฮยอนถอนหายใจแล้วนั่งเท้าคางทำหน้าเครียดจนจะกลายเป็นหมาปั๊กอยู่แล้ว อันนี้ชานยอลกับเทาไม่พูดแต่แค่คิดเฉยๆ
     
    “คยองซูหายไปไหนก็ไม่รู้ว่ะ ที่บ้านก็ไม่อยู่”
     
    “เฮ้ย!!!!” อีกสามคนที่เหลือก็ร้องเฮ้ยอย่างตกใจลั่นโรงอาหารเลย แต่พวกมันจะสนใจคนอื่นไหม? คำตอบคือไม่
     
    “ไอ้คยองซูมันไปไหนวะ เพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้สนิทที่จะไปอยู่ด้วยได้นะ” เซฮุนกับเทากำลังไล่นึกถึงเหล่าบรรดาเพื่อนๆรอบตัว
     
    “นั่นดิ ทำไมตัวเล็กไปไหนไม่บอกกูวะ นี่กูเป็นห่วงจนจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย” นี่พูดเลยว่าถ้าพยอนแบคฮยอนเอาหัวโขกโต๊ะแล้วไม่เจ็บนะ ทำไปแล้วเถอะ!!
     
    “หรือว่าไปบ้านต่างจังหวัดหรือเปล่า บ้านพักตากอากาศอะไรแบบนี้บ้านคยองซูมีไหมวะ” เทาเอ่ยถาม เซฮุนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามของเทาแต่แบคฮยอนกลับสายหน้า
     
    “ไม่มี มีแค่บ้านคุณป้าแค่นั้นแหละแต่ถ้าตัวเล็กไปคุณแม่ก็ต้องรู้สิ แต่นี่คุณแม่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเล็กไปไหน กูจะบ้าอยู่แล้วเนี่ย!” ชานยอลที่นั่งเงียบ(เพราะนั่งกินข้าว)อยู่นานก็ตบบ่าแบคฮยอนเบาๆ
     
    “บางทีเขาก็อาจจะอยู่แถวๆนี้ล่ะมึง ไม่ต้องซีเรียสไปซื้อข้าวแด.เหอะว่ะเห็นสภาพมึงแล้วกูอนาถใจ” ชานยอลส่ายหน้าไปมา แบคฮยอนหันหน้ามองเพื่อนแล้วก็ส่ายหน้า
     
    “แด.ไม่ลง”
     
    “แด.ๆไปเหอะมึงเดี๋ยวป่วยนะเว๊ย ตัวเล็กของมึงร้องไห้ตาโปนกว่าเดิมนี่น่ากลัวนะเว๊ย!!” แบคฮยอนเตะขาชานยอลไปหนึ่งทีก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
     
    “เออๆ” พอคล้อยหลังแบคฮยอนไป เทากับเซฮุนที่นั่งจับผิดมองชานยอลอยู่นานก็เอ่ยถาม
     
    “มึงรู้อะไรหรือเปล่าชานยอล” เซฮุนถามคนแรก
     
    “มึงพูดเหมือนมึงรู้ว่าคยองซูมันไปอยู่ไหน” ต่อด้วยจื่อเทา ชานยอลตักข้าวเข้าปากแล้วก็ส่ายหน้าไปมาทั้งๆที่ปากยังคาบช้อนอยู่แบบนั้น
     
    “กูจะไปรู้อะไรล่ะ” เซฮุนกับเทาหรี่สายตามองชานยอลที่ยังนั่งกินข้าวของมันไม่แยแสอะไรเลย
     
    “กูว่ามึงต้องรู้แน่ๆ มึงพูดเหมือนรู้” เซฮุนนั่งกอดอกแล้วลูบคางตัวเองทำท่าราวกับนักสืบที่ตามจับคนร้าย
     
    “รู้อะไรล่ะ กูก็พูดเลียนแบบละครที่ดูมาก็เท่านั้นล่ะ พูดมากไม่แด.ใช่มะหมูทอดงั้นกูแด.เอง!” ชานยอลยื่นช้อนไปตักหมูทอดในจานเซฮุนมากินหน้าตาเฉย
     
    “ไอ้เห.ชานยอล!!” มันยังมีหน้ามายักคิ้วให้อีกแน่ะ!! คอยดูเถอะอย่าให้เปิดช่องทางนะพ่อจะเอาคืนให้เจ็บเลยคอยดู!!! แต่ก่อนอื่นจัดการไอ้ตัวข้างๆที่นั่งหัวเราะปากกว้างซะก่อนเลย!!
     
    “หัวเราะอะไรของมึงนักหนาห๊ะไอ้ฮวางจื่อเทา!!” เซฮุนก็เลยป้าบเข้าให้ที่หัวสักที เทาที่หัวเราะอยู่ดีๆก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นร้องโอดโอย ยกมือกุมหัวแล้วก็ทำท่าร้องไห้กระซิกๆเข้าอ้อนเซฮุน
     
    “อย่าเลี่ยนมากได้ไหมกูอิจฉา” แบคฮยอนที่เดินกลับมาวางจานกระแทกโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย เซฮุนกับจื่อเทาก็เลยสะดุ้งแล้วขยับตัวออกห่างกันทันที
     
    “เลี่ยนอะไร เพื่อนกันมึงก็มั่วไปเรื่อย” เซฮุนหัวเราะเบาๆให้แบคฮยอน เทาเองก็พยักหน้าให้ แบคฮยอนทำหน้าเซ็งแล้วกินข้าวเลยไม่สนใจมันล่ะ ชานยอลก็เอาแต่หัวเราะเหอๆในลำคอแล้วมองพวกมันทั้งสองอย่างอนาถใจเล็กๆ
     
    “ตกลงว่าแล้วเราจะไปหาคยองซูกันไหมวะ?” จื่อเทายื่นหน้าเข้ามากลางวงก็เลยโดนเซฮุนตบหัวเข้าให้ซะแทบทิ่ม
     
    “มึงรู้หรือไงว่าอยู่ที่ไหน ทำได้อย่างเดียวก็แค่รอล่ะวะ” แบคฮยอนวางช้อนลงแล้วก็ถอนหายใจ
     
    “ตอนนี้กูก็ทำได้แค่นั้นจริงๆนั่นแหละ ถ้าตัวเล็กไม่บอกว่าอยู่ไหนกูก็ไม่รู้ว่าจะตามหาเขาที่ไหน” 
     
    “เอาน่าอย่าเครียดไปเดี๋ยวไปตั้งวงห้องกูมะ?” เซฮุนกับเทาเตรียมพร้อมเสมอเรื่องก๊งเหล้าขอให้บอกพี่พร้อมเสมอ!!
     
    “ไม่อ่ะกูอยากกลับไปนอนคิดอะไรคนเดียว” เป็นอันจบเห่
     
    ถึงจะบอกว่าอยากจะกลับมานอนแบคฮยอนก็ไม่ได้นอนหรอกเพราะเอาแต่คิดถึงคยองซู ไม่รู้ว่าป่านนี้ตัวเล็กของเขาจะเป็นยังไง ไปอยู่ที่ไหน ดูแลตัวเองได้หรือเปล่า มีใครทำอะไรไหมแล้วก็.... คิดถึงตัวโตคนนี้บ้างหรือเปล่า
     
    แบคฮยอนพลิกตัวไปอีกฝั่งของเตียงเป็นฝั่งที่คยองซูมักจะนอนฝั่งนี้เป็นประจำ แบคฮยอนนอนมองที่ว่างเปล่าตรงหน้าแล้วก็รู้สึกว่าอยู่ๆก้อนหนักๆก็จุกอยู่ที่อก จะร้องเรียกก็ไม่มีเสียง จะร้องไห้ก็ทำไม่ได้ มันทั้งเจ็บ ทั้งจุกไปหมดจนหน่วงที่อกด้านซ้าย
     
    “ตัวโตคิดถึงตัวเล็กนะ” แบคฮยอนลูบที่พื้นที่ว่างเปล่าเย็นเหยียบข้างกายเบาๆ มันเย็นจนหนาวไปทั้งหัวใจ พยอนแบคฮยอนก็ได้แต่หวังว่าตัวเล็กจะคิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงตัวเล็กแทบจะขาดใจ
     
    แล้วแบคฮยอนก็ไม่สามารถข่มตาหลับเพื่อที่จะผ่านค่ำคืนนั้นไปได้เลย ก็เลยตัดสินใจลองกดโทรหาใครบางคน ถ้าไม่รับสายเขาก็จะส่งข้อความหา ถ้าจะตัดสายอีกเขาก็โทรหาอยู่อย่างนั้น ถ้าปิดเครื่องเขาก็จะฝากข้อความเสียงเอาไว้ จะบอกให้รู้ว่าเขาคิดถึงและรักคนตัวเล็กมากแค่ไหน
     
    แต่แล้วเสียงที่ได้ยินกลับเป็นเสียงรอรับสายจากปลายสาย คยองซูเปิดโทรศัพท์แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของแบคฮยอนถึงได้เต้นเร็วไปจังหวะสามช่าขนาดนี้ ถ้ามันทะลุออกมาข้างนอกได้มันก็คงจะทะลุออกมาแล้ว แบคฮยอนไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังยิ้มกว้างแค่ไหน
     
    “ฮัลโหลตัวเล็กได้ยินเขาไหม” เมื่ออีกฝ่ายกดรับแบคฮยอนก็ไม่รออะไรทั้งนั้นรีบส่งเสียงออกไปก่อนเลย ก็คนมันคิดถึงนินะ!
     
    “เขาคิดถึงตัวเล็กที่สุดเลยนะ กลับมาหาเขาเถอะนะ ถ้าเขาทำตัวไม่ดีตัวเล็กบอกเขานะว่าเขาทำอะไรผิดเขาจะไม่ทำอีก เขารักตัวเล็กนะ ตัวโตรักตัวเล็กที่สุดเลยนะ กลับมาหาเขาเถอะ” แบคฮยอนที่พูดไปน้ำตาก็ไหลรินไปจนเผลอหลุดสะอื้นให้ปลายสายได้ยิน
     
    “ขอร้อง... เขาใจจะขาดอยู่แล้วนะ กลับมาหาตัวโตเถอะนะตัวเล็ก เขาคิดถึงตัวเล็กนะ” แล้วแบคฮยอนก็สะอื้นใส่ปลายสายไม่หยุด ปลายสายเองก็กำลังร้องไห้ไปพร้อมกับแบคฮยอนเช่นกัน
     
    “ตัวเล็กอย่าร้องไห้นะ เขาไม่ได้อยู่ข้างๆใครจะเช็ดน้ำตาให้ตัวเล็ก ไม่เอาไม่ร้องนะครับ” แบคฮยอนเอ่ยบอกปลายด้วยเสียงที่ขาดหาย บอกเขาว่าอย่าร้องไห้แต่ตัวเองกลับร้องไม่หยุด
     
    “ขอโทษ” แค่คำเดียวของคยองซูก็ทำให้แบคฮยอนยิ้มออก แม้จะเป็นยิ้มทั้งน้ำตาก็เถอะ
     
    “ตัวเล็กไม่ผิดเลยเขาผิดเองแหละ พรุ่งนี้กลับมาหาเขานะ กลับมาหาเขาเถอะเรามาคุยกันเถอะนะ” แต่คยองซูไม่ตอบ แบคฮยอนก็ไม่คิดที่จะวางสาย ทั้งสองยังคงถือสายฟังเสียงสะอื้นของกันและกัน .... จนกว่าที่จะมีคนหลับไปก่อน
     
    “ฝันดีนะตัวเล็ก เขารักตัวเล็กนะ” เสียงสะอื้นจากปลายสายเปลี่ยนเป็นเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ คยองซูหลับไปแล้ว แบคฮยอนก็ยังไม่วางสายยังคงฟังเสียงลมหายใจของคยองซู คล้ายกับว่าเรานอนหลับข้างกันและหลับไปด้วยกัน
     
     
    ขอให้วันพรุ่งนี้เป็นวันดีๆของพยอนแบคฮยอนด้วยเถอะ!!
     
     
     
     
     
     
    เช้าวันนี้มีเรียนคาบบ่ายอย่างเดียว แน่นอนว่าแบคฮยอนจะต้องตาลีตาเหลือกมาแต่เช้าแน่นอน เพื่อมารอเจอคยองซูและนั่นก็ทำให้เพื่อนๆต้องแหกขี้ตาตื่นมาด้วยกัน ตอนที่โทรไปปลุกก็โดนทั้งชานยอล ทั้งเซฮุนและเทาด่ากราดมาแล้วแต่ถามว่าพยอนแบคฮยอนแคร์หรือเปล่า คำตอบก็คือไม่อีกเหมือนเดิม
     
    วันนี้แบคฮยอนแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษ แน่นอนล่ะถ้าคยองซูกลับมาจะได้เห็นว่าพี่พยอนน่ะหล่อที่สุดในโลก วันนี้แบคฮยอนยิ้มมากกว่าทุกวัน มีความสุขมากกว่าวันไหนๆ ก็คยองซูจะกลับมาหาเขาแล้วนินะ แบคฮยอนเดินมาที่โต๊ะหินอ่อนตัวประจำก็เห็นเทากับเซฮุนนั่งฟุบหน้าหลับกันอยู่ ชานยอลยังไม่มาและคยองซูก็ยังไม่มา
     
    นั่งรอได้สักพักใหญ่ๆแบคฮยอนก็เริ่มร้อนใจว่าทำไมคนตัวเล็กของเขาถึงยังไม่มาสักที จะเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า หรือคยองซูจะเปลี่ยนใจ ไม่ได้นะ!!! ในขณะที่กำลังร้อนใจและร้อนรนอยู่นั้นอยู่ๆชานยอลก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
     
    “เฮ้ยๆๆๆๆ คยองซูเข้าโรงบาล!!!”
     
    “ห๊ะ!!!” ไอ้สองคนที่หลับอยู่ก็สะดุ้งโหยง แบคฮยอนเองก็กระโดดลุกขึ้นพรวดแล้วจับแขนชานยอลแน่น
     
    “ตัวเล็กอยู่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่ารีบๆบอกสิวะ!!”
     
    “ใจเย็นดิวะคยองซูอยู่ที่โรงบาลxxx ห้อง 4402... เอ้าไปซะแล้ว” ชานยอลมองตามแบคฮยอนที่รีบวิ่งออกไปเลยหลังจากที่เขาบอกจบ เทากับเซฮุนก็จะตามไปแต่ชานยอลกลับเดินล้วงกระเป๋าช้าๆเดินตามไป โคตรขัดใจเลยว่ะ!!
     
    “รีบๆดิวะเดี๋ยวคยองซูเป็นหนักไปจะทำไงวะ!!” เทากับเซฮุนแทบจะสกายคิกใส่ชานยอลได้อยู่แล้ว ปาร์คชานยอลก็ทำแค่ยักไหล่แล้วยกยิ้มมุมปากส่งให้
     
    “คยองซูจะเป็นหนักได้ยังไงวะ ก็ไปโรงบาลเยี่ยมไอ้คริสอ่ะ”
     
    “อ้าว!!!” เทากับเซฮุนทำหน้างงไปตามๆกัน ชานยอลเดินมากอดคอพวกมันแล้วพาเดินไปด้วยกัน
     
    “ไอ้เด็กนั่นมันป่วยเข้าโรงบาล ก่อนหน้านี้ที่คยองซูไม่อยู่บ้านมันก็ไปอยู่กับคริสมานั่นแหละ”
     
    “มิน่าล่ะวันนั้นมึงถึงพูดเหมือนมึงรู้ว่าคยองซูไปไหน” เซฮุนมองค้อนจิกเข้าให้
     
    “กูรู้ตั้งแต่ต้นนั่นแหละ แม่งมาขู่กูห้ามบอกใครแล้วเสือ.เข้าขากับไอ้คริสด้วยนะมึงคิดว่ากูจะทำอะไรได้นอกจากทำตามทุกอย่างน่ะ” เทากับเซฮุนมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ แหมนะ.. เงาช้างเท้าหลังมาเต็มๆครับพี่ชานยอล!!!
     
    แบคฮยอนที่มาถึงโรงพยาบาลได้ก็รีบขึ้นไปที่ห้องทันที แบคอยอนไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้เพราะหลังจากลงจากแท็กซี่มาได้วิ่งขึ้นบันไดมาอีกสี่ชั้นนั้นใช้เวลาเพียงแปบเดียวเอง บานประตูห้องอยู่ตรงหน้าแบคฮยอนไม่รีรออะไรแล้วผลักบานประตูเข้าไป ใจคิดเป็นห่วงคนตัวเล็กของเขาเหลือเกินว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า ใจจะขาดซะให้ได้
     
    “ตัวเล็กเขามาแล้ว ตัวเล็กเจ็บตรงไหน!!” แบคฮยอนที่เปิดประตูเข้ามาได้ก็วิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจและเอ่ยเรียกคยองซูทันที
     
    “ฮ่าๆๆๆ นั่นสินะ” คริสที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้และคยองซูที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างเตียงหันไปมอง แบคฮยอนที่รีบร้อนจนเหนื่อยหอบมองทั้งสองอย่างงงๆ คริสก็ส่งยิ้มให้ คยองซูเองก็หันมามองแบคฮยอนด้วยสีหน้าสงสัยว่าจะรีบร้อนอะไร
     
    “เอ่อ... ตัวเล็กไม่ได้เป็นอะไรเหรอ” คยองซูยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “เปล่านิ เราสบายดี น้องคริสต่างหากที่ป่วย” แบคฮยอนได้แต่ยืนทำหน้าเป็นหมางง ชานยอลเปิดประตูเข้ามาแล้วกอดคอแบคฮยอน เทากับเซฮุนก็เดินเข้ามาด้วย
     
    “มึงก็มาไวเกินกูยังพูดไม่ทันจบเลยว่าคยองซูเข้าโรงบาลมาเยี่ยมไอ้เด็กหน้าแบ๊วนั่นต่างหาก” 
     
    “พี่ชานยอล!!!” เด็กหน้าแบ๊วของชานยอลทำหน้างอนใส่แต่คนโดนงอนกลับหัวเราะซะนี่
     
    “นี่มัน... อะไรวะเนี่ย รู้สึกเหมือนกูโดนปั่นหัวยังไงก็ไม่รู้” แบคฮยอนเกาหัวตัวเอง คยองซูลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มให้แบคฮยอน
     
    “ไม่ต้องรู้สึกหรอก ก็โดนจริงๆนั่นแหละ” แบคฮยอนมองคยองซูที่ส่งยิ้มมาให้แล้วก็ไม่เข้าใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นบอกพยอนแบคฮยอนที!!!
     
    “งั้นพี่แบคฮยอนคุยกับพี่คยองซูนะ น้องคริสจะไปเดินเล่น” คริสขยับลงจากเตียงแต่ชานยอลก้าวเท้าเข้ามา
     
    “มึงหายแล้วหรือไงจะไปตากลมข้างนอกน่ะ เดี๋ยวก็ไข้ขึ้นหรอกมึง” คริสยิ้ม พยักหน้าแล้วก็สวมรองเท้าแตะ
     
    “น้องคริสอยากไปเดินเล่นข้างนอก นอนทั้งวันน้องคริสเบื่อ” เจ้าตัวทำหน้ายู่ใส่ ชานยอลที่ไม่อยากให้เจ้าเด็กหน้าแบ๊วนี้ไปตามลมข้างนอกก็ขมวดคิ้วมุ่น
     
    “มึงยังไม่หายไข้นะก็ให้สองคนนี้ไปคุยข้างนอกดิ” คริสขมวดคิ้วฉับแล้วทำสายตาดุใส่
     
    “พี่ชานยอลน้องคริสจะไปเดินเล่น!!!!” ชานยอลที่ถูกน้องคริสขึ้นเสียงใส่ก็ยิ้มเอาใจแล้วชี้นิ้วไปด้านหลัง
     
    “ครับๆ คุณหนูครับให้ไปเอารถเข็นให้ไหมครับ” น้องคริสยิ้มแล้วส่ายหน้า
     
    “น้องคริสจะเดินเอง พี่คยองซูกับพี่แบคฮยอนคุยกันไปนะน้องคริสจะไปเดินเล่นคงอีกนานกว่าจะกลับ” แล้วคริสก็เดินออกจากห้องไปโดยมีชานยอลตามไปด้วย
     
    “แล้วเราล่ะ” เซฮุนหันไปถามเทา
     
    “หาอะไรแด.มะ? ฝั่งโน้นมีตลาดด้วย” เมื่อเซฮุนพยักหน้า เทาก็กอดคอเซฮุนเดินออกจากห้องไปเลย 
     
    “ไปนั่งเล่นที่แคนทีนก็พอ ออกไปข้างนอกไข้กลับแน่ๆ” ชานยอลบอกกับคริสที่อยากจะออกไปเดินเล่นหลังโรงพยาบาลเสียเหลือเกิน
     
    “แต่น้องคริสอยากไปนิ” ทำหน้างอนแล้วก็ยกมือขึ้นกอดอกบ่งบอกเลยว่าเริ่มไม่พอใจแล้ว ชานยอลถอนหายใจแล้วยื่นมือมาขยี้ผมคริสเบาๆ
     
    “กูเป็นห่วงมึงหรอกเจอลมเย็นๆเดี๋ยวไข้ขึ้นอีก เชื่อกูเถอะ” คริสยิ้มแล้วกอดชานยอลก่อนที่จะซุกหน้าลงกับไหล่ของชานยอลเอาไว้
     
    “น้องคริสเชื่อพี่ชานยอลก็ได้” ชานยอลกอดตอบแล้วลูบหัวคริสเบาๆก่อนที่จะกดจูบที่กลุ่มผมสีอ่อน
     
    “น่ารักแบบนี้รักตายเลย” คริสที่เขินก็ทุบหลังชานยอลไปสักทีแต่เจ้าตัวก็ไม่สะทกสะท้านกลับหัวเราะซะอีกแน่ะ เทากับเซฮุนที่ออกมาจากห้องก็ขยับปากบอกไม่มีเสียงว่าจะไปหาอะไรกินที่ตลาด ชานยอลพยักหน้ารู้แล้วก็โบกมือไล่ซะเลย อย่าขัดจังหวะลูกพี่ครับมึง!
     
     
     
    “ตัวเล็กนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” พอประตูปิดลงแบคฮยอนก็ถามทันที นี่คือกำลังงงมากด้วย ไม่เข้าใจอย่างรุนแรง!!
     
    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ขอโทษนะที่ทำแบบนี้” แบคฮยอนดึงคยองซูมากอดไว้แล้วกดจูบลงที่กระหม่อมของคยองซู
     
    “ไม่เป็นไรขอแค่ตัวเล็กไม่ทิ้งเขา ไม่เลิกรักเขาก็พอแต่บอกเขาได้ไหมนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมตัวเล็กถึงทำแบบนี้”
     
    “แบคกี้สัญญาก่อนนะว่าถ้าเราเล่าให้ฟังแล้วแบคกี้จะไม่โกรธเรา” แบคฮยอนละตัวของคยองซูออกแล้วช้อนแก้มของคนตัวเล็กกว่าไว้ แบคฮยอนยิ้มจนตาเล็กหยีแล้วส่ายหน้า
     
    “ตัวโตไม่เคยโกรธตัวเล็กเลยนะครับ รักตัวเล็กนะ” แล้วแบคฮยอนก็ก้มลงป้อนจูบให้คยองซู จูบหวานๆที่แฝงไปด้วยความคิดถึงกันและกัน ใจแทบจะขาดเมื่อต้องอยู่ไกลกัน ความคิดถึงที่ก่อในหัวใจทำให้คยองซูแทบอยากจะล้มเลิกมันซะแล้วกลับไปหาอ้อมกอดอุ่นๆที่มักจะคอยโอบกอดตัวเขาไว้ แบคฮยอนที่ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งยังคงคลอเคลียที่แก้มใสไม่ห่าง ก้าวเท้าเดินพาคยองซูก้าวถอยหลังไปที่เตียงคนไข้ โน้มให้คยองซูลงนอนพาดที่เตียงแล้วแบคฮยอนก็เข้าคลอเคลียที่ซอกคอ
     
    “อือ... แบคกี้เดี๋ยวที่นี่โรงพยาบาลนะ ไว้ไปต่อที่บ้านได้ไหม” คยองซุดันอกของแบคฮยอนให้ออกห่าง แบคฮยอนที่ก้มลงมองคนตัวเล็กที่แก้มขึ้นสีแดงระเรื่อก็ก้มหน้าลงกดปลายจมูกที่แก้มใสนั้นหนักๆ
     
    “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเล่าทุกเรื่องให้ฟังนะ” คยองซูพยักหน้ารับแล้วเริ่มเปิดปากเล่าทุกอย่างให้ฟัง
     
     
     
    ก่อนวันที่คยองซูจะหายตัวไปนั้นอยู่ๆเจ้าตัวก็ได้รับข้อความจากอาม๊าของแบคฮยอนว่าให้มาหาที่บ้านหน่อย มาคนเดียวห้ามบอกแบคฮยอน คนที่ตัวติดกับแบคฮยอนจะทำอย่างไรได้ล่ะ? ก็พยายามแอบไม่ให้เห็นข้อความแล้วก็บอกให้กลับไปนอนบ้านนั่นแหละ ยื้อยุดอยู่นานกว่าที่แบคฮยอนจะยอมกลับบ้านไป คยองซูมาถึงบ้านของแบคฮยอนก่อนที่แบคฮยอนจะออกจากบ้านไปเรียน แน่นอนว่าพอคล้อยหลังแบคฮยอนไป คยองซูก็เดินเข้าบ้านทันที
     
    อาม๊าพาขึ้นไปหาอาม่าหรือย่าใหญ่ในห้องนอน ท่านนั่งรออยู่ก่อนแล้ว สายตาของท่านที่มองมาก็ยังดูดุและไร้ความเอ็นดูเช่นเดิมแต่คยองซูก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจยังไงท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ควรเคารพ นั่งเงียบกันอยู่นานกว่าที่ท่านจะเอ่ยพูดขึ้นมา
     
    “ลื้อเป็นอะไรกับอาแบค” สำเนียงปนจีนนิดๆไม่ได้ทำให้ฟังยากแต่มันก็ยากที่จะตอบ
     
    “เป็น.. เป็นเพื่อนครับ” แต่ท่านดูเหมือนจะไม่พอใจกับคำตอบสักเท่าไหร่นัก ดวงตาดุนั่นยังคงจ้องไม่ลดละ
     
    “อั๊วรู้ว่าลื้อกับอาแบคเป็นอะไรกัน อั๊วไม่ชอบใจ” คยองซูนั่งก้มหน้าลงแล้วกัดริมฝีปากอย่างหนักใจ เขาจะทำยังไง? จะแก้ปัญหายังไงดี..
     
    “อาม๊าพูดแบบนี้อาคยองซูตกใจกันหมดพอดี” อาม๊าลูบหัวคยองซูแล้วส่งยิ้มให้
     
    “ก็อั๊วไม่ชอบ!!! ยังไงอั๊วก็ไม่เห็นด้วย อั๊วไม่ยอม!!” แล้วอาม๊ากับอาม่าก็คุยกันหรืออาจจะทะเลาะกันมั้งคยองซูไม่แน่ใจ เพราะทั้งสองพูดกันเป็นภาษาจีนรัวๆที่คยองซูฟังไม่ออก(ถึงจะไม่รัวก็ฟังไม่ออกอยู่ดี) พูดเสียงดังจนคยองซูไม่รู้จะห้ามหรือจะหยุดดี แต่แล้วอาม๊าก็หัวเราะใหญ่เลย หัวเราะงอคว่ำงอหงาย
     
    “อาม๊า อาม่าว่าอะไรเหรอครับ” อาม๊ายังหัวเราะแล้วก็จับมือคยองซูไปก็หัวเราะไป
     
    “โอ๊ย.. อาม๊าล่ะอยากจะหัวเราะให้ตายไปเลย ตอนแรกอาม๊าคิดว่าอาม่าอีไม่พอใจที่อาแบคชอบพอกับอาคยองซูซะอีกที่ไหนได้ ฮ่าๆๆ”  แล้วอาม๊าก็หัวเราะไม่เกรงใจใครเลย ลงไปนอนกลิ้งกับพื้นซะอย่างนั้น อาม่าก็ได้แต่นั่งค้อนใส่ลูกสะใภ้ซะตาแทบหลุด
     
    “อาม๊า~~” อาม๊าพยายามหยุดหัวเราะแล้วก็ลุกขึ้นนั่งดีๆ
     
    “อาม๊าน่ะรู้ว่าอาคยองซูแอบชอบพอกับอาแบคของม๊าอยู่ใช่ไหมล่ะ อาม๊าก็เลยค่อยๆบอก อาคยองซูของอาม๊าน่ะเป็นเด็กดีไม่ทำให้อาแบคเกเรแน่ๆลองให้อาม่าอีสังเกตเอาเอง อาม๊าคิดว่าอาม่าอีไม่พอใจที่หลายชายคนโตอีจะชอบผู้ชายที่ไหนได้ ฮ่าๆๆๆ” อาม๊าหัวเราะอีกสักยกก่อนที่จะโดนอาม่าด่าสักที อาม๊าแกก็เลยต้องยอมหยุดหัวเราะ
     
    “อาม่าอีบอกว่าที่อีไม่ชอบอาคยองซูก็เพราะคิดว่าอาคยองซูมาเป็นผัวอาแบคน่ะสิ ฮ่าๆๆ หลานชายของอีต้องเป็นผู้ชายได้เมียจะมาได้ผัวได้ยังไงกัน โอ๊ยอาม๊าล่ะอยากจะหัวเราะให้ตายไปเลย!!” คยองซูก็อยากจะหัวเราะแต่หัวเราะไม่ออกไง อาม่าลูบหัวคยองซูเบาๆ
     
    “ลื้อเป็นเมียอาแบคใช่ไหม ถ้าลื้อเป็นผัวอาแบคอั๊วจะเป็นลมตายให้ดู”
     
    “อาคยองซูน่ะจะมาเป็นผัวอาแบคได้ยังไงกันล่ะ อาม๊านี่ไม่ทันยุคทันสมัยอะไรเลย”
     
    “ก็ลื้อดูดิอาแบคอีทำทุกอย่างให้ ยอมทุกอย่างแล้วแบบนี้จะให้อั๊วคิดยังไงห๊ะ!” 
     
    “ก็ผัวดูแลเมียก็ถูกแล้วนิอาม๊า ดูอย่างอาเฮียสิก็ดูแลอั๊วนะมันก็ปกตินะอาม๊านิ”
     
    “แต่อั๊วอยากได้เหลนนะ! ผู้ชายเหมือนกันแบบนี้จะมีลูกได้หรือไง อั๊วอยากเห็นลูกของอาแบคนะ”
     
    “ได้กันไปได้กันมาเดี๋ยวก็มีลูกเองล่ะอาม๊านิก็..” ตอนนี้อาม๊าคงคุยไม่รู้เรื่องแล้ว แน่นอนว่าอาม่าก็เลยไล่ให้เราออกมา อาม๊าพาคยองซูออกจากห้องนอนอาม่าแล้วไปคุยกันในห้องนอนของอาม๊า
     
    “อาคยองซูไม่ต้องกังวลนะว่าที่บ้านนี้จะรับไม่ได้ ถึงตอนแรกอาม๊าจะตกใจก็เถอะแต่ถ้าอาแบครักใครอาม๊าก็จะรักด้วย อาม๊าค่อยๆบอกอาม่าให้อียอมรับแต่ก็ไม่คิดว่าอีจะคิดพิสดารไปขนาดนั้น อาคยองซูทำตัวให้สบายๆเวลามาหาอาม๊าได้แล้วนะ”
     
    “อาม๊ารู้เหรอครับ” อาม๊าลูบหัวแล้วกอดคยองซูไว้
     
    “อาม๊าเป็นอาม๊านะอาคยองซู อาม๊ารู้ทุกเรื่องของลูกตัวเองนั่นแหละ แล้วที่บ้านอาคยองซูรับอาแบคได้ไหม” คยองซูที่ยังอิงแอบกับอกของอาม๊าก็พยักหน้าเบาๆ
     
    “พวกเขารู้ทุกอย่างครับแล้วพวกท่านก็ชอบแบคฮยอนมากด้วย” อาม๊ายิ้มแล้วโยกตัวคยองซูไปมาคล้ายกับกล่อมเด็ก
     
    “ก็ดีแล้วอาม๊าจะได้สบายใจที่เขาไม่รังเกียจลูกอาม๊า ถ้าอาแบคออกนอกลู่นอกทางมาบอกอาม๊านะอาม๊าจะจัดการให้” อาม๊าดันตัวของคยองซูออกแล้วช้อนแก้มของคยองซูไว้ เจ้าตัวทำหน้าสงสัย
     
    “นอกลู่นอกทาง?”
     
    “อืม.. อาคยองซูก็เห็นใช่ไหมว่าอากงของอาแบคอีมีบ้านเล็กบ้านใหญ่ จริงๆแล้วอีมีมากกว่านี้อีกนะ อาป๊าของอาแบคก็เหมือนกันแต่โดนอาม๊าจัดการซะเรียบเลย!” คยองซูทำตาโต
     
    “จัดการยังไงครับ”
     
    “แปลว่ามีล่ะสิ อาแบคอีเหมือนอาป๊าของอีนะ ใจดี ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดีเกินไป เราต้องจัดการนะ เอาหูมาอาม๊าจะบอกให้”
     
    แล้วแผนการทุกอย่างก็ถูกเล่าต่อสู่คยองซูที่ตั้งใจฟังเพื่อเก็บทุกรายละเอียด คนตัวเล็กยกยิ้มอย่างถูกใจเมื่อได้ฟัง มันเหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว หนึ่งคือแบคฮยอนจะไม่ไปมีหรือใจดีอะไรกับคนอื่นให้ตัวเขาไม่พอใจอีก และสองแบคฮยอนจะมีแค่เขาและห่างเขาไปไหนไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี ใครที่คิดจะเข้ามาแย่งแบคฮยอนล่ะก็คงแพ้ตั้งแต่หน้าประตูแล้วล่ะ!!
     
     
     
    “อาม๊านะอาม๊า” แบคฮยอนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงกอดเอวแล้วหนุนตักของคยองซูที่นั่งบนเตียงคนไข้แอบบ่นเบาๆ เพราะแผนนี้เป็นเพราะแม่ของตัวเองแท้ๆ คยองซูหัวเราะคิกคักแล้วหยุดมือที่ลูบหับแบคฮยอน
     
    “แต่มันก็ทำให้รู้ไม่ใช่เหรอว่าเราอยู่กันไม่ได้ถ้าขาดใครสักคนไป” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้ม
     
    “เขาน่ะรักแค่ตัวเล็กคนเดียว มีแค่ตัวเล็กคนเดียว เขาไม่มองคนอื่นหรอก” คยองซูลูบหัวแบคฮยอนอีกครั้งที่เจ้าตัวลงหนุนที่ตักเขา
     
    “แบคกี้ใจดีกับคนอื่นน่ะได้แต่มากเกินไปมันทำให้เราระแวง เราไม่ได้ระแวงที่แบคกี้จะไปมีคนอื่นแต่เราไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใกล้แบคกี้ แบคกี้เข้าใจเราหรือเปล่า” แบคฮยยอนขยับยืดตัวแล้วช้อนแก้มของคยองซูให้โน้มลงมาหา
     
    “เข้าใจครับ ต่อจากนี้เขาจะไม่ใจดีกับคนอื่นมากเกินไปจนทำให้ตัวเล็กรู้สึกไม่ดีอีกนะ ตัวโตรักตัวเล็กนะ” คยองซูยิ้มแล้วปิดตารับจูบที่แบคฮยอนป้อนให้ รสจูบหวานล้ำที่เกี่ยวพันเราทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันเหมือนเกลียวเชือกบางๆที่มัดหลอมรวมเราเข้าไว้ด้วยกัน…
     
     
     
     
     
    วันนี้แบคฮยอนยิ้มหน้าบานไม่หุบเชียวล่ะ ก็แหม~ ข้างๆตัวน่ะเป็นคยองซูที่กำลังทำหน้าค้อนใส่เขาประหลักประเหลือกเลยล่ะ น่ารักจังเลยน้าตัวเล็กของเขาเนี่ย~~
     
    ก็คยองซูบอกว่าให้ไปต่อที่บ้าน พอกลับบ้านได้แบคฮยอนก็เลยจัดเต็มเล่นซะคยองซูปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย(บ่นตั้งแต่ตื่นยันตอนนี้น่ะนะ) แบคฮยอนก็ประคองคยองซูไปตามระเบียบแม้จะโดนดวงตากลมๆนั้นค้อนใส่ก็เถอะแต่แบคฮยอนบ่หยั่นอยู่แล้ว!! จริงๆถ้าวันนี้ไม่มีสอบเก็บคะแนนเขาจะไม่ให้ตัวเล็กสุดสวาทขาดใจมาเรียนเลยเถอะ แต่ทำยังไงได้ล่ะภาระหน้าที่ยังมี
     
    “แหม... เมื่อคืนกี่ดอกล่ะครับ!!” ไม่ต้องเดินมาถึงจื่อเทาก็สอดปากมาเรียบร้อย 
     
    “ถ้าไม่ติดว่าต้องประคองตัวเล็กล่ะก็มึงตายคาตีนกูแน่” ไม่ต้องถึงแบคฮยอนเซฮุนก็จัดการถีบให้เรียบร้อย
     
    “โอ๊ยถีบกูอยู่ได้กูเจ็บนะ!!” เทาที่ลงไปกองกับพื้นตวัดตามองเซฮุนด้วยสายตาค้อนๆ
     
    “เจ็บแล้วจะได้จำใส่หัวไว้ไงว่าอย่าแซวเพื่อน” เซฮุนหัวเราะเมื่อเทาแบะปากทำท่าเหมือนสาวน้อยโดนรังแก เซฮุนกระดิกนิ้วเรียกซึ่งเทาก็ลุกขึ้นจากพื้นไปออดอ้อนออเซาะเพื่อนทันที
     
    “ไง เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วดิ” ชานยอลเงยหน้าจากมือถือแล้วก็เอ่ยถามแบคฮยอนที่ค่อยๆประคองให้คยองซูลงนั่งกับเก้าอี้
     
    “กับตัวเล็กอ่ะเคลียร์แล้วแต่มึงน่ะไม่ไอ้เห.ชานยอล! รู้แล้วเสือ.ไม่บอกนะมึง” ชานยอลยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ
     
    “ใช่ว่ากูไม่อยากบอก โน้นคนข้างๆมึงโน้นบังคับกู” แบคฮยอนหันหน้าไปมองก็เห็นคยองซูเลิกคิ้วทำหน้าเหมือนรอให้แบคฮยอนจัดการเขา
     
    “ชิ! ยกผลประโยชน์ให้จำเลยก็ได้วะ” พยอนแบคฮยอนเหรอจะกล้าหือกับโดคยองซู
     
    “ชานยอลน้องคริสกลับบ้านได้หรือยังน่ะ” คยองซูหันมาถามชานยอลที่ก้มหน้ากดส่งข้อความแชทหาชานยอล
     
    “จริงๆก็กลับได้แล้วล่ะแต่ป๊าเขากลัวมันจะไข้กลับก็เลยขอให้นอนอีกสักคืน”
     
    “เออแล้วน้องเป็นอะไรวะ” เซฮุนถามโดยมีเทาเป็นลูกคู่ แบคฮยอนที่กำลังจะอ้าปากถามก็หยิบขนมโยนใส่หัวมันซะเลย
     
    “ซ้อมบาสหนัก ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนไม่เพียงพอ ไข้ขึ้นก็ฝืนตัวเอง อุตส่าห์บอกแล้วแท้ๆว่าอย่าหักโหมไม่ฟังกันเลยไอ้หนูแฮมสเตอร์นิ” เทากับเซฮุนมองหน้ากันแล้วก็หันไปมองชานยอลพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย
     
    “รักน้องเขามากเหรอ” คยองซูเอ่ยถาม ชานยอลที่ก้มหน้าก้มตาบ่นไปก็พิมพ์ข้อความไปไม่ได้ฟังให้ถ้วนถี่ก็พยักหน้าตอบรับไป
     
    “แหม.. ถ้าแต่งกันไปลางเกียมัวก็มาสองคู่แล้วนะครับ” ชานยอลยื่นขาเตะเทาซะเลยเพราะตัวเองอยู่ใกล้กว่าแบคฮยอน
     
    “กูไม่ได้กลัวเว๊ย! แค่เกรงใจเถอะ เนอะตัวเล็ก~” แล้วก็กอดแขนอ้อนซะเลย คยองซก็เลยเคาะหัวไปสักที
     
     
     
     
    หลังจากสอบเสร็จทุกคนลงความเห็นว่าจะไปกินหมูกระทะเจ้าเดิมกัน แน่นอนว่าคนป่วยที่นอนโรงพยาบาลก็งอแงใหญ่อยากจะมากินด้วยจนชานยอลต้องบอกว่าถ้าออกมาแล้วจะพามากินเจ้าตัวถึงได้เลิกงอแงสักที เทากับเซฮุนก็ส่ายหน้าไปมากับเพื่อนกินเด็กที่นับวันจะเริ่มก้าวขาเข้าคุกไปทุกที เอ?? แต่เด็กมันสมยอมงั้นก็คงรอดคุกนั่นล่ะไหนจะผู้ปกครองที่เห็นดีเห็นงามอีก
     
    หญิงสาวที่เล็งแบคฮยอนไว้พอได้ยินว่าจะไปกินหมูกระทะก็รีบลุกขึ้นเดินข้ามฟากมาหาเลย ช่างพยายามเสียเหลือเกินแม่คุณ โบมีควงแขนแบคฮยอนที่กำลังหยิบกระเป๋าเรียนแล้วจงใจเอาเนินอกที่ไม่ค่อยจะมีแนบแขนของแบคฮยอนอย่างยั่วเย้า
     
    “แบคฮยอนคะโบมีไปด้วยนะ”
     
    “เอ่อ...” ไอ้คนที่ปฏิเสธคนไม่ค่อยจะเป็นก็ได้แต่มองหน้าคนโน้นที คนนี้ที
     
    “นะคะ~” เทากับเซฮุนนั่งเกาะขอบจอ คยองซูถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน
     
    “เอ่อ... โบมีไปกับเพื่อนเถอะ”
     
    “งั้นกลุ่มของโบมีกับแบคฮยอนไปด้วยกันนะคะ”
     
    “คือ...”
     
    “อ๊ะชานยอลอย่า...” พูดยังไม่ทันจบ แบคฮยอนก็ดึงแขนออกจากการเกาะเกี่ยวของหญิงสาวทันที
     
    “หยุดนะทำอะไรน่ะ!” พอหันไปก็เห็นคยองซูที่ชี้นิ้วไปที่พื้นและชานยอลที่ยกขาขึ้น คยองซูกระพริบตาปริบๆแล้วชี้ไปที่ตัวการใต้เท้าชานยอล
     
    “ไม่ได้ทำแค่จะบอกชานยอลว่าอย่าเหยียบนั่นปากกาเรา” ชานยอลชักเท้ากลับ แบคฮยอนมองไปที่ปากกาด้ามประจำที่คยองซูใช้
     
    “เดี๋ยวเขาหยิบให้เองนะ” แบคฮยอนเดินไปหยิบปากกาแล้วเก็บใส่กระเป๋าเรียนของตัวเองไว้ เพราะวันนี้แบคฮยอนก็สะพายกระเป๋ามาใบเดียวเช่นเดิม
     
    “แบคฮยอนคะ” สาวเจ้าก็ยังอยู่ แบคฮยอนแอบถอนหายใจอีกหนึ่งที เซฮุนกับเทาก็บ่นกันแล้วว่าหิวๆๆ
     
    “เทา..”
     
    “ห้ามตัวเล็กไปกับมันนะ!!” แบคฮยอนหันกลับไปคว้าคยองซูมากอดแล้วจ้องหน้าเทาที่ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองโดนหางเลขเรื่องอะไร
     
    “นี่ก็บ้าอีกแล้ว เราแค่จะบอกว่าให้เทาพาเซฮุนกับชานยอลไปก่อนแค่นั้นเอง แล้วเคลียร์จบหรือยังน่ะ” คยองซูพยักพเยิดหน้าไปทางโบมีที่ยืนทำหน้าไม่พอใจ 
     
    “โบมี ไม่ต้องไป ไม่ต้องยุ่งอะไรกันอีกนะขอล่ะ” แล้วแบคฮยอนก็ดึงมือคยองซูไปเลย ตอนที่เดินผ่านโบมีไปคยองซูยกยิ้มมุมปากให้หญิงสาว
     
    “โทษนะผู้ชายคนนี้ของฉัน ไปหาเอาข้างหน้าเถอะ” คยองซูพูดเสียงเบาก่อนที่จะยักคิ้วให้แล้วส่งสายตาให้ดูมือที่แบคฮยอนกุมมือของตัวเขาอยู่ หญิงสาวที่ลมแทบจะออกหูก็กระทืบเท้าไปมาตัวเธอรู้ว่าคยองซูตั้งใจย้อนเธอ เมื่อกี้เธอเห็นที่คยองซูแอบโยนปากกาแล้วไหนจะสายตาท้าทายนั่นอีก!!
     
    “ผู้หญิงที่ตามตื้อมากๆมันดูไร้ค่านะ” ชานยอลตบไหล่เธอเบาๆแล้วเดินหัวเราะออกจากห้องไป
     
    “ไม่รู้เหรอว่าไอ้คยองซูน่ะหึงโหดนะ” เทามาเสริมโดยมีเซฮุนหัวเราะเป็นลูกคู่ไปด้วย ถึงเธอจะกรี๊ดที่โดนตอกซะหน้าหงายก็ไม่มีใครคิดที่จะช่วยเธอหรอก 
     
    “นี่ห้องเรียนหรือสวนสัตว์กันล่ะเนี่ย” เทากับเซฮุนไม่ค่อยซ้ำเติมหรอกจริงๆนะ เชื่อสิ
     
     
     
    “เขารักตัวเล็กนะ” แบคฮยอนดึงมือที่กุมมือเล็กขึ้นมาจูบที่หลังมือ คยองซูยิ้ม
     
    “รู้แล้วว่าแบคกี้รักเรามากแค่ไหน เราก็รักแบคกี้นะ”
     
    “แล้วเราจะมีลูกให้อาม่ากันกี่คนดี สัก 2คนไหมเขาชอบแฝดชายหญิง” คยองซูทำตาโตแล้วเอามือที่ว่างฟาดใส่แบคฮยอน
     
    “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ!!” แบคฮยอนหัวเราะแล้วดึงมือของคยองซูมาจูบอีกครั้ง
     
    “แต่อาม่าอยากได้เหลนนินา เขาก็อยากเป็นปะป๊าของเด็กๆนะ มะม๊าคยองซูไม่อยากมีลูกเหรอ?” คยองซูดึงมือออกแล้วจะเดินหนีแต่แบคฮยอนเกี่ยวเอวเล็กมากอดแล้วซบหน้าลงที่ไหล่ของคยองซู
     
    “ตัวโตรักตัวเล็กนะ” คยองซูยิ้มแล้วลูบแขนที่โอบเอวตัวเอง
     
    “ตัวเล็กก็รักตัวโตนะ แต่เรื่องลูกถ้าไม่พร้อมเราก็ไม่มีนะ” แบคฮยอนที่สตั๊นคลายแรงกอด คยองซูก็เลยผลักมือปลาหมึกนั้นออกแล้วหัวเราะคิกคัก
     
    “แล้วเมื่อไหร่ตัวเล็กจะพร้อมล่ะ!!” คยองซูโคลงหัวไปมา
     
    “ไม่รู้สิ คงอีกนานอ่ะ” แบคฮยอนยกยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่คยองซูไม่เคยได้เห็น มันดูเจ้าเล่ห์มากกว่าที่เคย และดูหื่นมากกว่าที่เป็น
     
    “งั้นเขาจะขยันทำบ่อยๆคยองซูจะได้พร้อมนะ”
     
    “ไอ้บ้าพยอนแบคฮยอน!!!!” นี่พูดเลยว่าถ้าโดคยองซูไม่เจ็บล่ะก็ พยอนแบคฮยอนลงไปนอนกองกับพื้นแล้วไอ้หื่นกาม!!!!! แบคฮยอนหัวเราะเสียงร่าและแน่นอนว่าไอ้พวกสามตัวที่ได้ยินทุกประโยคก็หัวเราะแทบจะลงไปนอนกลิ้ง 
     
     
     
    รอให้หายเจ็บตัวก่อนเถอะ โดนเรียงตัวแน่ๆ!!!
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×