ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] Impossible Miracle Love [คู่จิ้นตามใจฉัน]

    ลำดับตอนที่ #33 : [เด็กช่าง's Series] YeolKris BaekDo TaoHun - BaekDo Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 56


    Title: เด็กช่าง's Series - BaekDo Part 2
    Pairing: Chanyeol x Kris // Baekhyun x D.O. // Tao x Sehun
    Author: BettyNoona
    Note: ตะไมพี่พยอนน่ารักแบบเน๊ ;A; 
     
    Note2: เหนื่อยค่ะ งานเยอะ ร่างแทบแหลกเดี๋ยวก็ต้องไปทำงานแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ส่งพี่พยอนกับน้องคยองไปแทนรัวๆ 
     
     
     
     
     
     
    __________________________________

     
     
     
     
     
     
    “ถอยไปเลยแบคกี้” คยองซูหันไปถลึงตาใส่ แบคฮยอนที่จะเดินเข้ามากอดก็หงอยเลยทีนี้ พอคยองซูหันไปแต่งตัวก็เดินเข้าไปแล้วอ้าแขนกอดซะเลย
     
    “อย่ามากอดนะแบคกี้ถอยไปเลย” คยองซูหันไปปรายสายตามองแต่แบคฮยอนก็ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกลับยื่นหน้ามาหอมแก้มนิ่มๆเสียฟอดใหญ่อีกแน่ะ ช่างไม่กลัวเลยจริงๆแต่พยอนแบคฮยอนก็ไม่เคยกลัวคยองซูอยู่แล้วนินะ
     
    “โธ่ตัวเล็กอ่ะ~ เขาขอโทษก็ตัวเล็กทำให้เขาอารมณ์ขึ้นทุกทีมันก็หยุดไม่ได้อ่ะ” แบคฮยอนกอดคยองซูให้แน่นขึ้นพร้อมกับกดปลายจมูกลงที่ไหล่เล็กของคนในอ้อมแขนอย่างสำนึกผิด คยองซูมองเงาสะท้อนในกระจกก็เห็นว่าแบคฮยอนทำหน้าสำนึกผิดแค่ไหน จะโกรธไอ้ตัวโตของเขาก็ไม่ได้ล่ะนะก็เป็นเพราะเขาเองที่ไม่ห้ามด้วยนั่นแหละ
     
    “แบคกี้” คยองซูเอ่ยเรียกพร้อมกับค่อยๆหมุนตัวกลับไปหา แบคฮยอนปล่อยมือจากการกอดคนตัวเล็กกว่า ใบหน้าหงอยๆนั่นเรียกให้คนมองหัวเราะเบาๆ สองมือของคยองซูช้อนใบหน้าของแบคฮยอนให้มองเขา
     
    “เราก็ไม่ได้จะว่าอะไรแต่ถ้าวันต่อไปมีเรียนห้ามเกิน 2รอบนะไม่งั้นก็นอนหนาวที่พื้น เข้าใจไหม?” แบคฮยอนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังหู หางกระดิกเลย
     
    “แล้วถ้าไม่มีเรียนล่ะขอแบบจัดเต็มได้ป่ะ?” คยองซูขมวดคิ้วแล้วตีหน้าผากแบคฮยอนแรงๆ คนโดนตีก็กระโดดเหยงๆกุมหน้าผากไปเลยน่ะสิ
     
    “ในหัวนี่คิดได้แต่เรื่องแบบนี้หรือไงกัน!!” แบคฮยอนยิ้มตาหยีแล้วเข้ามากอดคยองซูไว้ทั้งตัว
     
    “ก็ตัวเล็กน่าขย้ำจริงๆนินา จะไม่ให้คิดแต่เรื่องอย่างว่าได้ยังไงกัน” ก็เลยได้มะเหงกจากคยองซูไปเลยไง พอจะอ้าปากร้องก็โดนชี้นิ้วห้ามร้องอีกก็เลยได้แต่อึ๊บๆไว้
     
    “น่าตีจริงๆนะแบคกี้เนี่ย คิดอะไรมีแต่เรื่องลามกๆ”
     
    “แต่เขาก็คิดลามกกับตัวเล็กคนเดียวนะ~” คยองซูตวัดสายตาใส่
     
    “ก็ลองไปคิดกับคนอื่นดูสิจะเอามีดเจี๊ยนให้กุดเลย!!!” คยองซูชูกำปั้นขึ้น ถ้าทุบให้หัวแบะได้นี่ทำไปแล้วนะ!!
     
    “ไม่กล้าคิดจ้า~~” แบคฮยอนยกมือขึ้นบังหน้าทันทีที่คยองซูยกกำปั้นขึ้น คยองซูตัวเล็กกว่าเขายังไงก็ไม่มีแรงที่จะทำร้ายเขาหรอก...
     
    ซะเมื่อไหร่ล่ะ!!! ลองให้ได้ทำสิเจ็บไปยังโคตรเหง้า!!!!
     
     
     
    “ไงพวกมึงเมื่อคืนกี่ดอกล่ะ” เมื่อมาถึงโรงเรียนคำทักทายแสนไพเราะเสนาะใจก็ดังมาจากจื่อเทาที่โบกมือหยอยๆอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนโต๊ะประจำ ที่ทักน่ะเพราะเห็นไอ้หมาเตี้ยประคองเพื่อนตาโตมาหรอก สงสัยเมื่อคืนคงจะหนัก
     
    “กี่ดอกแล้วเกี่ยวอะไรกับมึงวะ” แบคฮยอนอยากจะละมือที่ประคองตัวเล็กมาชูนิ้วให้พรหรอกนะแต่ไม่เอาดีกว่ากอดตัวเล็กแบบนี้ดีกว่า~ คือจริงๆคยองซูก็ไม่ได้จะเดินไม่ได้ขนาดนั้นบางทีไอ้ตัวโตของตัวเล็กก็เวอร์เกินเหตุ
     
    “ก็ถามดูเห็นประคองกันมาอย่างกับคนท้องใกล้คลอด”
     
    “พอเซฮุนไม่อยู่ก็ปากหมาเลยนะมึงไอ้เทา” แบคฮยอนประคองให้คยองซูลงนั่ง คือถ้าไม่พูดคยองซูก็ไม่คิดนะแต่พอจื่อเทาพูดปุ๊บนี่ก็คิดเลย สภาพเหมือนคนท้องใกล้คลอดจริงๆนั่นแหละ.. เปล่าไม่ใช่คยองซู พยอนแบคฮยอนต่างหาก อ้วนจนจะปริอยู่แล้ว
     
    “ก็ถามเฉยๆเถอะมึง” เทายกมือขึ้นเท้าคางแล้วมองนาฬิกา วันนี้เซฮุนโดนเรียกอาจารย์ตัวไปพบยังไม่มาเลย 10นาทีแล้วนะ
     
    “อยากรู้เหรอ? ดูไหมล่ะ” คยองซูถามแล้วก็ปลดกระดุมเสื้อเม็ดบน แบคฮยอนก็ตาเหลือตะครุบให้ไวเลย เทาเองก็ตกใจผงะเลยสิทีนี้
     
    “เฮ้ย!! ถอดทำไมกูไม่ดู!!!” ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าจะปิดตาตัวเองก่อนหรือจะปิดภาพที่คยองซูจะปลดกระดุมเสื้อก่อนดี
     
    “ไอ้เทามึงจะเคลมตัวเล็กกูเหรอห๊ะ!!!!” หลังจากติดกระดุมให้คยองซูเสร็จ แบคฮยอนก็ลุกขึ้นหาเรื่องทันที จื่อเทากระเด้งตัวลุกขึ้นแล้วส่ายหน้าเป็นพัลวัน
     
    “เฮ้ยเปล่านะแค่แซวเฉยๆ” แบคฮยอนถลกแขนเสื้อขึ้นเตรียมไฝว์เต็มที่ส่วนเทาก็เตรียมหนีเต็มที ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนั่นล่ะ เซฮุนก็เดินเข้ามาพอดีพร้อมกับชานยอล
     
    “อะไรกันวะจะกัดกันตั้งแต่หัววันเลยหรือไง” ชานยอลถามแล้วก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวว่างๆ สองแขนพาดไว้ที่พนักพิงหันมองศึกหมาเตี้ยกับหมีแพนด้าแล้วก็อยากจะหัวเราะ
     
    “มีอะไรกันวะ” แบคฮยอนหันไปมองเซฮุนก่อนที่จะยกมือขึ้นกอดอกทำหน้าไม่พอใจ
     
    “ก็ไอ้เห.เทาอะดิแม่งจะเคลมตัวเล็กกู มึงจัดการเลยนะไอ้เซฮุน” เซฮุนหันหน้าไปมองก่อนที่จะตบหัวเทาไปสักทีแรงๆ
     
    “มึงจะเคลมเพื่อนเหรอ? มานี่เลยไปช่วยกูเลย!!” เซฮุนดึงหูเทาให้ลากให้ตามมา ไอ้คนโดนดึงหูก็โวยวายใหญ่ พอพวกมันสองคนเดินออกไปแบคฮยอนก็หัวเราะเสียงดังแบบสะใจสุดๆ
     
    “พวกมึงก็ไปแกล้งมัน” ชานยอลส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเตือนของโปรแกรมแชท
     
    “ไม่ได้แกล้งสักหน่อยเนอะตัวเล็ก~” แล้วแบคฮยอนก็กระโดดมานั่งข้างๆคยองซูซะเลย สอดมือจับกับมือของคยองซูด้วย กลัวหายนี่พูดเลย~
     
    “ก็ไม่ได้แค่แกล้งนะชานยอลแค่เหย่เล่นเฉยๆ” ชานยอลเงยหน้าจากมือถือแล้วก็ทำเสียงเห๊อะใส่
     
    “หมั่นไส้ว่ะ” เพราะเห็นแบคฮยอนเอาหัวถูๆไหล่ของคยองซู อาการหมั่นไส้ก็ตีตื้นขึ้นมาทันที
     
    “น้องคริสไม่อยู่แล้วเปลี่ยวเหรอชานยอล? ก็ช่วยไมได้นะดันกินเด็กเอง เอ๊ะ? หรือยังไม่ได้กิน? ไร้น้ำยาสินะ” ถ้าถามชานยอลว่าเจ็บไหม ลูกพี่ชานขอตอบเลยว่าจุกไปยังลิ้นปี่!!!!!
     
    “โดคยองซูร้ายกาจ!!!!”
     
    โดคยองซูน่ะไม่ใช่คนร้ายกาจหรอกแล้วก็ไม่ใช่คนน่ากลัวด้วย พวกเพื่อนๆมักจะชอบว่าเขาเสมอนั่นแหละ จริงๆแล้วคยองซูเรียบร้อยนะไม่เคยทำร้ายใครสักที 
     
    แต่ถ้าใครมายุ่งกับแบคฮยอนเหมือนยัยนั่นล่ะก็... คยองซูจะจัดการไม่ให้เหลือเลย!!!
     
    “แบคฮยอนคะช่วยโบมีหน่อยสิ โบมีแบกชีทงานพวกนี้ไม่ไหว” หญิงสาวในห้องที่ชอบทำตัวอวดทุกสิ่งอย่าง ไม่ค่อยมีใครชอบสักเท่าไหร่นักนอกจากลุ่มของหล่อนที่พยายามเชียร์เหลือเกินให้แบคฮยอนได้กับโบมี ข้ามศพโดคยองซูไปก่อนเถอะ!!
     
    “อ๋องานส่งอาจารย์พวกนี้ใช่มะ? ได้ๆเดี๋ยวเอาไปส่งให้” แบคฮยอนที่ใจดีก็ช่วยหอบชีทงานแค่ตั้งเล็กๆไปส่งให้ มองก็รู้ว่าใครก็ถือได้แต่หล่อนก็แค่ตอแห.ไปแบบนั้นล่ะ ซ้ำหล่อนยังหันสายตาเยาะเย้ยมาทางคยองซูเสียอีก เดี๋ยวได้เห็นดีกัน!!
     
    “โบมีไปด้วยนะเดี๋ยวแบคฮยอนหลงทาง” โบมีคล้องมือกับแขนของแบคฮยอนแล้วก็ลากแบคฮยอนให้ออกไปด้วย เจ้าตัวหันกลับมามองคยองซูก่อนที่จะทำปากขยับแบบไม่มีเสียงว่าให้รอก่อน แบคฮยอนปฏิเสธใครไม่ได้เป็นเพราะเกรงใจแต่บางทีมันก็มาไปนะ
     
    “ไปกินข้าวกัน” เมื่อแบคฮยอนออกไปแล้วคยองซูก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าเป้มาสะพายทันที
     
    “ไม่รอไอ้แบคเหรอวะ” คยองซูมองหน้าเซฮุนแล้วก็ส่ายหน้า
     
    “ไม่ล่ะ” ใจดีดีนักก็หาเอาเถอะว่าเขาอยู่ไหนวิ่งพล่านไปเถอะแบคฮยอน
     
    “เอาไงล่ะทีนี้” จื่อเทาถามขึ้นมา คยองซูเดินออกนอกห้องเรียนไปแล้ว
     
    “เอาไงก็เอาตามมันล่ะกัน ตกลงวันนี้แด.อะไรดีวะ” ชานยอลเดินออกมาพร้อมกับเทาแล้วก็เซฮุนก็เห็นว่าคยองซูยืนรออยู่หน้าห้อง
     
    “กินหมูกระทะป่ะ? อยากกินว่ะ” แล้วทุกคนก็ลงความเห็นตามเซฮุน
     
     
    พอเดินออกมาหน้าโรงเรียนก็เห็นน้องคริสลงจากรถเมล์มาพอดี ทีนี้ก็ได้ฤกษ์ไปกินหมูกระทะกันเลย ร้านอยู่ซอยข้างๆ กว่าที่แบคฮยอนจะหาเจอ.. ก็คงวิ่งจนเหนื่อยล่ะ อยากทำให้เขาโกรธดีนัก
     
    สงสัยต้องสั่งสอนซะมั่งแล้วว่าไม่ควรใจดีกับคนอื่นมากกว่าโดคยองซูน่ะ!!
     
     
     
     
     
    พอแบคฮยอนกลับมาก็ไม่เห็นใครในห้องแล้ว ก็แหงล่ะ.. มันเลิกเรียนแล้วนิ มองไปรอบห้องก็ไม่เจออะไรเลย กระเป๋าเรียนของแบคฮยอนก็ไม่มีหรอกเพราะใส่มากับคยองซูนั่นแหละ เพราะฉะนั้นห้องเรียนก็เลยว่างเปล่า หญิงสาวที่เดินตามมาก็คล้องแขนแบนฮยอนไว้ จงในให้หน้าอกที่ไม่ค่อยจะมีของเธอเบียดแขนของแบคฮยอนเสียแนบแน่น
     
    “แบคฮยอนคะไปกับโบมีไหมคะ ไหนๆก็ไม่มีใครแล้ว” สาวเจ้าพูดเสียงอ่อนเสียงหวานพยายามเหลือเกินที่จะเร้ารื้อแบคฮยอนแต่เจ้าตัวกลับสะบัดแขนออก ใบหน้าดูดีกลับขมวดคิ้วฉับอย่างไม่สบอารมณ์
     
    “ถอยออกไป” แต่หญิงสาวก็ยังตามมากอดแขนแต่แบคฮยอนไม่ได้มีอารมณ์ที่จะใจดีขนาดนั้น ตอนนี้ใจเขากำลังเต้นรัวเพราะเป็นห่วงคนตัวเล็กต่างหาก
     
    “แบคฮยอนคะ”
     
    “กูบอกว่าให้ถอยออกไปไงวะ!!” แบคฮยอนสะบัดแขนอีกครั้งเป็นผลให้โบมีล้มกองกับพื้น ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้วล้วงหยิบมือถือออกมากดโทรหาแต่ปลายสายก็ไม่ยอมรับ
     
    “ทำไมตัวเล็กไม่รับ อยู่ไหนนะ” แบคฮยอนร้อนใจแต่ก็พยายามกดโทรหาแต่คยองซูก็ยังไม่รับสาย
     
    “แบคฮยอน”
     
    “หุบปากไปเลย!! ถ้ากูหาตัวเล็กไม่เจอนะมึงตายแน่!!” หญิงสาวที่ได้ยินก็ถึงกับตกใจอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ
     
    แบคฮยอนกำลังร้อนใจและกำลังกลัว ใช่.. กลัว แต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร อาจจะกลัวว่าตัวเล็กของเขาจะรู้สึกแย่มั้ง ตั้งแต่คบกันมาเขาไม่เคยทำอะไรให้คยองซูรู้สึกดีเลยสักครั้ง เวลาที่เขาปล่อยให้คยองซูนั่งรอ ตัวเล็กของเขารู้สึกร้อนใจแบบนี้ไหมนะ?
     
     
     
     
    “เฮ้ยมึงจะแกล้งมันอีกนานไหมวะน่ะ” จื่อเทาที่นั่งอยู่เยื้องเก้าอี้ฝั่งของคยองซูใช้ตะเกียบชี้มือถือที่ส่งเสียงร้อง คยองซูเพียงแค่ยักไหล่แล้วก็คีบเนื้อหมูสามชั้นที่ย่างสุกแล้วใส่ปาก
     
    “แกล้งอะไรเหรอฮะ” คริสหันมองคนนั้นที คนนี้ทีก็ไม่ได้รับคำตอบจนมาถึงคนข้างตัวนี่ล่ะ
     
    “พี่ชานยอลบอกน้องคริสหน่อย~” ชานยอลเลิกคิ้วก่อนที่จะส่ายหน้าพร้อมกับคีบหยิบเนื้อที่สุกแล้วมาใส่จานตัวเอง
     
    “พี่ชานยอล~” คริสเขย่าขาของชานยอลเพื่อให้บอกแต่ชานยอลก็ไม่ยอมบอกซ้ำยังจะคีบกุ้ง คีบปลากหมึกที่ย่างเสร็จแล้วมาให้อีกแน่ะ
     
    “ไม่ใช่เรื่องของเด็กกินเข้าไปชอบไม่ใช่เหรอเนี่ย” แม้จะทำหน้างอนแต่ก็ยอมคีบปลาหมึกย่างขึ้นมากิน ชานยอลระบายยิ้มแล้วขยี้ผมของเด็กข้างกาย
     
    “แหม จะแต่งกันเมื่อไหร่ครับคู่นี้อ่ะ” เทาเอาตะเกียบในมือมาทำเป็นไมค์สัมภาษณ์คู่บ่าวสาว คริสนั่งก้มหน้าลงอย่างอายๆ
     
    “เจ้าสาวอายไปแล้วครับ แล้วคุณคยองซูล่ะครับ” เทาย้ายไมค์จากน้องคริสไปที่คยองซู คนโดนถามก็ยกแขนขึ้นเท้าคางก่อนที่จะคีบหมูสามชั้นย่างในจานกิน
     
    “คงไม่ได้แต่งมั้ง” พอได้ยินคนตัวเล็กพูดแบบนั้นเซฮุนก็จัดการสำเร็จโทษจื่อเทาไปหนึ่งทีถ้วนที่หัว จะว่าไปเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าถ้าที่บ้านของแบคฮยอนรู้ขึ้นมาจะเป็นยังไง
     
    “เฮ้ยกูจะไปตักของพวกมึงจะเอาอะไรป่ะ” เทาที่โดนเซฮุนผลักก็ลุกขึ้นอาสา ถ้าไม่ทำคงโดนเซฮุนถีบกลางร้านแหงๆ เสียฟอร์มตายเถอะในนี้สาวๆแจ่มๆเพียบ!! 
     
    “เอาหมูสามชั้นนะ เอามาเยอะๆเลย” คยองซูหันมาบอกเทา
     
    “เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน เอากุ้งอีกไหม” คริสหันไปยิ้มกว้างๆแล้วพยักหน้ากับชานยอลที่ก้มลงมากดสัมผัสลงที่เส้นผม
     
    “หัวเหม็นว่ะ กลับไปสระผมด้วยนะมึง” คริสยู่หน้าใส่ ชานยอลก็หัวเราะแล้วเดินไปกับเทา
     
    “น่าอิจฉาจัง” คยองซูแค่เปรยขึ้นมาเบาๆ คริสที่ไม่รู้เรื่องก็ทำหน้างงๆ เซฮุนจับมือของคยองซูไว้
     
    “ไม่มีใครน่าอิจฉาหรอก ถ้ามองดีๆมึงน่าอิจฉากว่าใครเพื่อนเลยไม่ใช่หรือไง” คยองซูยิ้มแล้วก็มองเซฮุน
     
    “นั่นสินะ เลิกแกล้งได้แล้วมั้ง” คยองซูหยิบมือถือที่สั่นขึ้นมาก่อนที่จะกดรับ
     
    “แบคกี้เราอยู่ที่ร้านหมูกระทะนะ รีบๆมานะ” แล้วก็กดวางสาย มานับกันดีกว่าว่าแบคฮยอนจะมาในอีกกี่นาที
     
     
     
    แบคฮยอนที่วิ่งวุ่นหัวเสียอย่างหนักเลย ทั้งเหนื่อย ทั้งเป็นห่วงกลัวว่าคนตัวเล็กจะเป็นอะไรหรือจะมีใครมาทำร้ายหรือเปล่า วิ่งวนไปวนมาหาตามร้านข้าวที่ชอบไปกันก็ไม่เจอ เพราะวันนี้คุยกันว่าเราจะกินข้าวกันก่อนกลับ 
     
    “อยู่ไหนวะ! ทำไมไม่รับสาย!!” วิ่งไปก็กดโทรหาปลายสายไป ในใจก็เริ่มร้อนรนจนอยู่ๆปลายนิ้วที่กำลังจะกดโทรออกก็ต้องชะงักเมื่อมีสายโทรเข้าสวนเข้ามา
     
    “ตัวเล็ก!! ทำไมไม่รับโทรศัพท์เขาล่ะ!” พอกดรับได้ก็ตัดพ้อใส่ซะเลย
     
    “แบคกี้เราอยู่ที่ร้านหมูกระทะนะ รีบๆมานะ” ได้ยินแค่นั้นอีกฝ่ายก็กดตัดสายไป แบคฮยอนก็รีบวิ่งหน้าตั้งไปเลยน่ะสิ แค่ได้ยินเสียง แค่รู้ว่าอยู่ไหนในใจมันก็เป็นสุขแล้วไม่ต้องร้อนรนอีก
     
    เอาจริงๆพยอนแบคฮยอนไม่ใช่นักกีฬานะแต่การวิ่งไปร้านหมูกระทะซอยข้างๆเพียง 5นาทีก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกันนะ พอเข้าไปก็เห็นทุกคนพร้อมหน้าเลย แบคฮยอนเดินโซเซอย่างหมดแรงเข้าไปนั่งข้างๆคยองซู พอนั่งได้คยองซูก็ส่งแก้วน้ำให้ดื่มทันที
     
    “ตัวเล็กอ่ะทำไมไม่รอเขาล่ะ โทรมาก็ไม่รับ” คยองซูยิ้มแล้วรับแก้วมาเติมน้ำเพิ่ม
     
    “ก็เห็นอารมณ์ดีอยากช่วยโบมีเหลือเกินนิก็เลยมารอที่ร้านดีกว่า เราผิดเหรอแบคกี้” มาแล้วครับ โหมดโกรธของคยองซู ถ้าลงท้ายด้วยเราผิดเหรอแบคกี้เมื่อไหร่.. ก็เตรียมเกาะขอบจอได้เลย!
     
    “อ่า.. ไม่ใช่แบบนั้นตัวเล็กไม่ผิด เขาผิดเองแหละ ขอโทษนะ”
     
    “จะเลิกไหมล่ะ?” ทีนี้ก็เงิบกันทั้งโต๊ะเลยสิ เทากับเซฮุนที่กำลังจะคีบหมูเข้าปากก็ชะงักค้างตกใจจนปล่อยตะเกียบตกลงโต๊ะ คริสกับชานยอลที่กำลังแย่งกุ้งกันก็หันไปมองอย่างตกใจแต่คนที่ตกใจกว่าใครเพื่อนคือแบคฮยอนนี่ล่ะ
     
    “เลิก? เลิกอะไรไม่เอานะไม่เลิกกับตัวเล็ก!!” แบคฮยอนจับมือคยองซูไว้แน่นเลย คยองซูใช้มืออีกข้างที่ไม่โดนกุมยกขึ้นเท้าคางไว้
     
    “แล้วตัวโตจะเลือกอะไรก็ว่ามา” ดวงตากลมนั้นมองมาที่แบคฮยอนแบบไร้แววที่สุด เหยียบเย็นจับขั้วบาดหัวใจพี่แบคไปเต็มๆเลย 
     
    “เขาเลือกตัวเล็ก” คยองซูใช้ปลายนิ้วทาบที่ริมฝีปากของแบคฮยอนเบาๆ
     
    “ทำให้รู้สิว่าตัวโตเลือกตัวเล็กจริงๆ” แบคฮยอนพยักหน้ารับเบาๆ คยองซูหัวเราะเบาๆก่อนที่จะขยับตัวมานั่งดีๆและเลื่อนมือออกจากการจับกุม
     
    “เอาล่ะแบคกี้หิวแล้วใช่ไหมมากินกันเถอะ แบคกี้หยิบหมูสามชั้นมาให้ด้วยนะ” แบคฮยอนยิ้มแล้วก้มลงฉกหอมแก้มนิ่มเร็วๆไปสักหนึ่งที
     
    “รับทราบครับ” แบคฮยอนลุกออกไปตักของ แน่นอนว่าไม่มีใครตามไป ทุกคนนั่งมองหน้าคยองซูอย่างตกใจไม่หาย คนตัวเล็กสุดในกลุ่มคีบเนื้อที่สุกจนเกือบจะไหม้จากเตามากิน
     
    “มองหน้าทำไมล่ะไม่กินหรือไง” แล้วทุกคนก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไปไม่อาจหาญเงยหน้าขึ้นมาต่อกรด้วยอีกเลย คยองซูหันมองแบคฮยอนแล้วก็กระตุกยิ้ม
     
    การที่จะเชือดสัตว์สักตัวไม่จำเป็นต้องเชือดมันให้ตายในครั้งแรกที่เจอกันนินา.. ค่อยๆเลี้ยงให้เชื่อง อย่าให้มันขัดขืนแล้วค่อยเชือดสิ...... ง่ายกว่ากันเยอะ
     
     
     
     
     
    หลังจากกินหมูกระทะกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แบคฮยอนเลือกที่จะโบกแท็กซี่มากกว่าไปยืนรอรถเมล์ เอาจริงๆสภาพเพิ่งกินหมูกระทะเสร็จขึ้นรถเมล์มันก็ไม่น่าภิรมย์เท่าไหร่นะ อยากรีบกลับบ้านมากกว่าจะไปยืนโหนรถในยามเย็นแบบนี้
     
    แบคฮยอนจับมือกับคยองซูไม่ยอมปล่อย แหงล่ะใครจะยอมปล่อยถ้าหายไปอีกก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ปกติคยองซูไม่เคยทิ้งเขาแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกและพยอนแบคฮยอนก็ขอให้มันเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
     
     “ตัวเล็กอย่าหนีเขาไปแบบนี้อีกนะ ไม่เอาแล้วนะ” คยองซูหันออกจากหน้าต่างมามองแบคฮยอนที่ทำหน้าตาน่าสงสารเสียเหลือเกิน
     
    “ก็อย่าทิ้งให้รอสิ”
     
    “แน่นอนเขาจะไม่ทิ้งตัวเล็กอีก” 
     
    “บอกไว้ก่อนนะว่าถ้ามีอีก เราจะไปให้ไกลกว่านี้อีก” แล้วคนที่ห่างจากคยองซูไม่ได้อย่างแบคฮยอนจะทำยังไงล่ะ.. ก็ทำหน้าเป็นหมาหงอยเข้ามาอ้อนน่ะสิ
     
    “อย่าหนีเขาไปเลยนะ” แบคฮยอนขยับเข้ามาใกล้ๆแล้วใช้นิ้วจิ้มแขนคยองซูพร้อมกับทำหน้าตาหงอยๆเข้าใส่
     
    “นะๆๆ” แบคฮยอนคอแล้วยิ้มกว้างๆให้จนตาหยี คนที่มองอยู่ก็หัวเราะเลยน่ะสิ ไอ้อาการที่เก๊กนิ่งไว้ก็ไม่เหลือแล้ว
     
    “หัวเราะแล้วแปลว่าอารมณ์ดีแล้วใช่ป่ะ?” คยองซูพยักหน้ารับ แบคฮยอนโน้มตัวไปกระซิบเบาๆที่หูเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
     
    “งั้นคืนนี้ก็ปล้ำตัวเล็กได้แล้วอะดิ” ขอบอกเลยว่าเวลาคิดเรื่องลามกในหัวหน้าของแบคฮยอนนี่อย่างหื่นกามอ่ะ คยองซูล่ะเพลีย
     
    “พูดจาร้ายกาจนะแบคกี้ถึงกับต้องปล้ำเลยเหรอ? เราก็สมยอมตลอดอ่ะ” 
     
    โอเค โดคยองซูไม่ได้แรง... แต่คนขับรถแท็กซี่ก็น้ำตาจะไหลขอแชร์ก็ไม่ได้ล่ะ ณ จุดนี้
     
     
     
     
     
     
     
    “อื้อ.. แบคกี้เสร็จแล้วก็ออกไปเลยนะมันหนัก!!” คยองซูทุบไหล่คนที่ทับเขาไว้แรงๆ อย่าได้ถามว่ากี่รอบพอยอมเข้าหน่อยก็เล่นหนักเลยนะ!!
     
    “ไม่เอากอดตัวเล็กแล้วอุ่นดี” อุ่นดีก็เลยได้แรงทุบไปอีกสักทีเลยไง
     
    “แบคกี้หนัก!!” แต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมลงไง คนโดนทับก็หนักอ่ะไม่รู้จะทำยังไงก็เลยได้แต่วางสองมือไว้ไหล่ของคนด้านบนไว้แต่แบคฮยอนกลับจับสองมือนั้นไปคล้องคอตัวเองซะเลย
     
    “หนักเหรอจะทับให้แบนเลย.. จะเอาให้ลุกไม่ขึ้นเลย” แบคฮยอนก้มหน้ากระซิบเบาๆชิดใบหูพร้อมกับพ่นลมอุ่นเป่ารดทำเอาคนตัวเล็กกว่าย่นคอหนีอย่างจั๊กกะจี้
     
    “เราว่าแบคกี้อ้วนไปแล้วนะหัดออกกำลังกายซะบ้างสิ มาทับคนอื่นเขาเดี๋ยวก็ตายกันพอดี”
     
    “อ้วนเหรอ? ต้องออกกำลังกายเหรอ? งั้นอีกสักรอบนะ” แบคฮยอนที่ก้มหน้าลงหมายว่าจะคลอเคลียก็โดนดันหน้าออกเลย
     
    “มันไปเกี่ยวกันยังไงห๊ะ!!” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าแต่คยองซูรู้สึกว่าแบคฮยอนทำหน้าตาเจ้าเล่ห์แบบแปลกๆ ไอ้สายตาวิบวับๆนั่นกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูยังไงก็เจ้าเล่ห์มากกว่าปกติ
     
    “อ้าวตัวเล็กไม่รู้เหรอว่าการมีเซ็กส์กันเนี่ยเผาผลาญพลังงานได้เป็นร้อยแคลอรี่เลยนะ ถ้าอยากให้ผอมตัวเล็กก็ต้อง...”
     
    “พอเลยหยุดเลยแบคกี้ถ้าอยากจะเผาพลาญเยอะๆก็โน้นเลยห้องน้ำ ไม่เอาแล้วจะนอน” คยองซูที่จะขยับพลิกตัวก็ร้องเสียงหลงเลยเมื่ออยู่ๆตัวเองก็โดนจับพลิกให้ขึ้นมานอนทับแบคฮยอน
     
    “แบคกี้!!!” โวยวายไปก็เท่านั้นแหละเพราะอ้อมแขนเหนียวยิ่งกว่าปลาหมึกของแบคฮยอนกอดหมับล็อคเอวไว้แล้วเรียบร้อย
     
     “ไม่ทำหรอกน่ารู้ว่าเหนื่อยแต่นอนกอดตัวเล็กแบบนี้ก็สบายดีนะเนี่ย~”
     
    “สบายอะไรกันเราหนักจะตาย”
     
    “ไม่เห็นจะหนักเลย ถ้าหนักจะอุ้มตัวเล็กไว้เหรอ” คือแบคฮยอนก็พูดถึงอุ้มทั่วๆไป แต่คยองซูกลับคิดไปถึงอุ้มอีกแบบ ก็แบบว่า.. มันเพิ่งผ่านมาไงก็เลยฉายแว่บขึ้นมาเท่านั้นเอ๊ง~
     
    “อ๊ะๆๆๆ ตัวเล็กคิดลามกอยู่ล่ะสิหน้าแดงเชียว” คยองซูที่เขินจนหน้าแดงก็ฟาดแบคฮยอนใหญ่เลย
     
    “เงียบไปเลยพยอนแบคอฮยอน!!” ในระหว่างที่คยองซูฟาดมือใส่แบคฮยอนที่ปัดมือรับนั้นเสียงเรียกเข้าของมือถือแบคฮยอนก็ดังขึ้น ทั้งสองหันไปมองที่โต๊ะหัวเตียงพร้อมกัน
     
    “ใครโทรมานะป่านนี้” คยองซูขยับตัวลงจากตัวของแบคฮยอนที่ขยับไปหยิบมือถือมาดู
     
    “เอ๊ะ.. ฮัลโหลม๊ามีไร ทำไมโทรมาดึกจังอ่ะ” 
     
    “นี่อาแบควันเสาร์อย่าลืมกลับบ้านนะรู้ไหม วันไหว้นะต้องกลับมาล่ะ”
     
    “แล้วทำไมม๊าโทรมาบอกวันนี้ล่ะ โทรพรุ่งนี้ก็ได้นิ”
     
    “เออม๊านึกขึ้นได้ต้องรีบบอกก่อนเดี๋ยวลืม แค่นี้นะ” หลังจากวางสายคยองซูก็ขยับตัวมาเกาะแขนแบคฮยอนไว้
     
    “ม๊าโทรมามีอะไรเหรอ” แบคฮยอนหันไปกดจูบที่หน้าผากของคยองซูหนึ่งที
     
    “ม๊าโทรมาบอกวันเสาร์ให้กลับบ้านวันไหว้น่ะ” คยองซูพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะแอบถอนหายใจเบาๆ แบคฮยอนที่ลอบสังเกตก็คาใจเพราะทุกครั้งที่คนที่บ้านโทรมาคยองซูก็จะดูเป็นกังวลทุกครั้ง กลัวอะไรที่บ้านเขาหรือเปล่า?
     
    “เป็นอะไรหรือเปล่า ตัวเล็กคิดเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า” คยองซูส่ายหน้าไปมาเพื่อกลบเกลื่อน
     
    “ไม่นิ นอนได้แล้วพรุ่งนี้เรียนเช้านะ” แล้วคยองซูก็ล้มตัวลงนอนโดยที่พลิกหันหลังให้ แบคฮยอนล้มตัวลงนอนตามแล้วกอดคยองซูไว้
     
    “ไม่ว่าตัวเล็กจะกังวลเรื่องอะไรอยู่ขอให้เชื่อแต่เขาก็พอนะ เขาจะอยู่กับตัวเล็กนะ” คยองซูพลิกตัวกลับมานอนมองหน้าแบคฮยอน
     
    “รู้แล้วน่า นอนได้แล้ว” 
     
    “รักตัวเล็กนะ” จุ๊บราตรีสวัสดิ์ส่งท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะหลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา
     
    และค่ำคืนที่ได้นอนอิงแอบซบกันและกันก็พาให้คนทั้งคู่ฝันดีอีกหนึ่งคืน...
     
     
     
     
    เช้าวันนี้ก็ยังต้องรีบเหมือนเดิม ก็แบคฮยอนนั่นแหละชอบตื่นสายก็เลยต้องแว๊นมาโรงเรียน แว๊นในทีนี้ความหมายคือนั่งแท็กซี่เหยียบมิดอัตราเท่าที่ถนนจะอำนวยน่ะนะ พอมาถึงก็เข้าห้องเรียนอย่างหวุดหวิด มีเวลาเหลืออีก 10นาที เพราะอาจารย์ประจำคาบวิชาจะเข้าสาย
     
    เมื่อคยองซูกับแบคฮยอนลงนั่งที่โต๊ะเรียนได้ก็หันไปคุยกับเพื่อนสักแปบอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามาพอดี คยองซูที่จะหันกลับมายังหน้าห้องก็ดันสายตาไปสบเข้ากับโบมีที่นั่งอยู่อีกฟากของห้อง สายตาเยาะเย้ยและท้าทาย.. ได้.. แล้วจะได้เห็นดีกัน
     
    การเรียนในคาบนี้ไม่มีอะไรมากก็แค่เรียนภาษาอังกฤษธรรมดาแต่ที่มันไม่ธรรมดาก็คือวันนี้เรียนครึ่งวัน แต่เผือกมาสอบเก็บคะแนนอีก จื่อเทาที่ไม่ค่อยสันทัดภาษาอังกฤษ(จริงๆมันก็ไม่สันทันทุกภาษานั่นแหละนอกจากภาษาจีน)แทบจะละลายแทรกซึมไปกับโต๊ะ
     
    สอบเก็บคะแนน 15นาทีสุดท้ายของคาบ คยองซูที่เรียนเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาหรอกจะมีก็แต่เทากับแบคฮยอนนี่ล่ะที่ไม่ค่อยจะสันทัด ส่วนชานยอลอย่างได้ไปถามมันเลยหลังจากที่มีแฟนเด็กอยู่นานาชาติแล้วคิดว่าไงล่ะ?
     
    “ตัวเล็กข้อ 10ตอบอะไรอ่ะ” แบคฮยอนกระซิบเสียงเบาแน่นอนว่าต้องเนียนและเบาที่สุดไม่งั้นอาจารย์หน้าห้องได้ยินล่ะเป็นเรื่องแน่ๆ คยองซูก็แอบบอกคำตอบไปแน่นอนว่าจื่อเทาที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ใช้คอยาวๆให้เป็นประโยชน์
     
    “ไอ้เทานั่งนิ่งๆเดี๋ยวก็โดนจับได้หรอกมึง” แว่วเสียงของเซฮุน จื่อเทาเลยหันมาแอบมองคำตอบของเซฮุนแทน เอาน่าถึงจะเรียนไม่เก่งเหมือนคยองซูแต่เซฮุนก็ได้คะแนนดีทุกวิชานั่นแหละ ยกเว้น.. พละ
     
    “เอ้าส่งคำตอบได้!!” เสียงอาจารย์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงออดหมดคาบเรียน ชั้นอื่นอาจจะมีเรียนต่อแต่วันนี้อาจารย์ที่จะสอนคาบบ่ายไม่ธุระของโรงเรียนดังนั้นก็เลยยกคาบไป
     
    “ไปไหนกันดีวะ” จื่อเทาถามพร้อมกับม้วนใบข้อสอบแล้วตีไหล่แบคฮยอนที่นั่งอยู่ด้านหน้าไปสามที
     
    “ไม่ว่ะเดี๋ยวกูต้องไปเก็บของกลับบ้านว่ะ” แบคฮยอนหันไปหยิบใบสอบของจื่อเทารวมกับของตัวเองและคยองซูที่รับของเซฮุนกับชานยอลมาก็ส่งไปให้เพื่อนด้านหน้าต่อ
     
    “อ้าวกลับทำไมวะ” เรื่องทุกเรื่องต้องมีกู!! แน่นอนคำถามนี้ของจื่อเทา มีลูกคู่เป็นเซฮุน
     
    “พรุ่งนี้วันไหว้บรรพบุรุษบ้านกูไง พวกมึงจะไปป่ะ” จื่อเทาพยักหน้าตอบรับแต่โดนเซฮุนตบเข้าให้
     
    “มึงลืมหรือไงเสาร์นี้บ้านเราจะไปทะเลกันน่ะ” เทาลูบหัวตัวเองก่อนที่จะนึกแล้วก็ร้องอ๋อ
     
    “เออว่ะจริงด้วย โทษว่ะเพื่อน”
     
    “แล้วมึงอ่ะไอ้ชานยอล” ชานยอลที่นั่งอยู่หลังสุดส่ายหน้า
     
    “ไปไม่ได้ว่ะต้องพาเด็กไปเที่ยว อยากไปเหลือเกินไอ้สวนสนุกเนี่ย” เทาและเซฮุนส่งยิ้มล้อเลียนพอๆกับแบคฮยอนแต่เจ้าตัวส่งเสียงโห่แซวด้วย
     
    “แหม~ รักเหลือเกินนะตามใจทุกอย่างอ่ะมึง~” ชานยอลชูนิ้วให้พรก่อนที่จะยักคิ้วให้
     
    “แล้วมึงจะไม่ตามใจตัวเล็กมึงหรือไง?” แบคฮยอนหันไปมองคยองซูที่หันมองอยู่ก็ยิ้มกว้างแล้วโผตัวกอดแขนอ้อนซะเลย
     
    “แน่นอนว่าตามใจอยู่แล้วเถอะ!!”
     
    “โถ่ ไอ้ควา.แล้วมาว่ากู ไปกินข้าวก่อนป่ะวะเดี๋ยวกูต้องไปรอน้องมันที่โรงเรียนอีก” ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้ลุก โบมีสาวเจ้าก็ถลามาจากอีกฟากของห้องเสียแล้วแถมยังจะเกาะแขนของแบคฮยอนไว้อีกแน่ะ
     
    “แบคฮยอนคะไปกินข้าวกับโบมีไหมคะ? เนี่ยพวกเราว่าจะไปกินที่สยามน่ะค่ะ ไปนะๆๆ” 
     
    “อ่า.. ไม่ดีกว่าไปเถอะ” พยายามแล้วที่จะดึงแขนออกแต่ก็ไม่ออก คยองซูลุกขึ้นยืน แบคฮยอนก็มองตาม แล้วอยู่ดีๆคยองซูก็เดินไปคว้าแขนชานยอลเฉยเลย
     
    “เดี๋ยวตอนกินข้าวเสร็จเราจะฝากขนมไปหาให้น้องคริสนะชานยอล” คยองซูเดินเข้าไปจับแขนของชานยอล ไอ้คนที่อยู่ๆก็โดนจับนี่ก็ทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ยืนงงๆมองซ้ายมองขวา คยองซูไม่ใช่คนที่จะมาถึงตัวใครได้ง่ายๆหรอกนะ เทากับเซฮุนก็มองหน้ากันอย่างรู้กัน เรื่องสนุกๆกำลังมา~~
     
    “ปล่อย!” แบคฮยอนสะบัดแขนหญิงสาวทิ้งแล้วเดินไปคว้าแขนของคยองซูแล้วดึงเข้ามาหาตัว
     
    “หยุดเลยนะตัวเล็กจะไปกอดแขนไอ้ชานยอลทำไม อยากกอดก็มากอดเขานี่!!” แล้วแบคฮยอนก็จับแขนของคยองซูกอดเอวตัวเองไว้ก่อนที่จะยกแขนกอดล็อคเอวคยองซูไว้ด้วย ทั้งหึง ทั้งโมโหไอ้หมาเสาไฟที่ยืนนิ่งๆให้ตัวเล็กจับอยู่ได้ เคลิ้มเหรอมึง!! นั่นตัวเล็กของกูนะ!!
     
    “แบคกี้เป็นอะไร เราแค่จะบอกให้ชานยอลเอาขนมไปฝากน้องคริสเอง” คยองซูจะผละตัวออกแต่แบคฮยอนก็ไม่ยอม
     
    “แล้วทำไมต้องไปจับมือถือแขนแบบนั้นกัน ตัวเล็กก็รู้ว่าเขาไม่ชอบ!” ไอ้คนที่บอกว่าโดนจับมือถือแขนนี่ก็อยากจะอ้าปากเถียงนะแต่ไม่เอาดีกว่า ดูดราม่าตรงหน้าดีกว่ามันส์กว่าเยอะ!
     
    “เอ้าเราก็แค่เรียก แบคฮยอนนี่พูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ” คยองซูผลักแบคฮยอนออกแล้วจะเดินออกจากห้องแต่แบคฮยอนดึงคยองซูเข้ามาช้อนแก้มแล้วจูบปิดปากซะเลย ไอ้พวกเพื่อนๆทั้งหลายที่สังเกตการณ์ก็โห่แซกันใหญ่ แหมหนังสดแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆนะ
     
    “อื้อ! แบคกี้ไอ้บ้ามาทำอะไรแบบนี้!!!” คยองซูที่เขินหน้าแดงก็ยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างเขินอาย แบคฮยอนที่อารมณ์หึงหวงหมดไปแล้วก็ยิ้มแล้วจูงคยองซูเดินออกไปจากห้อง
     
    “ตัวเล็กเขินเหรอ? แบบนี้น่าอุ้มกลับบ้านจังเลยนะ~ แต่ไม่ได้กินข้าวก่อนดีกว่าเดี๋ยวเขินจนเป็นลม”
     
    “พูดมากไปแล้วนะพยอนแบคฮยอน!!!” อยากจะฟาดก็ฟาดไม่ได้ มือหนึ่งก็โดนกุม อีกมือก็ยกปิดหน้าตัวเองอยู่ 
     
    ภาพที่คยองซูเขินอายแบบนั้นทำเอาแบคฮยอนหัวเราะอย่างถูกใจ ก็แบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆหรอกนะ แหมพยอนแบคฮยอนล่ะโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมา~
     
     
     
    ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไปพ้นประตูห้องเรียน คยองซูหันกลับมามอหญิงสาวที่ยืนทำหน้าเจ็บใจอยู่ที่เดิมด้วยสายตาเยาะเย้ยและรอยยิ้มแสยะ จงใจส่งให้หญิงสาวโดยเฉพาะเลยล่ะ เธอไม่มีทางชนะฉันหรอกยัยโบมี!!
     
    นี่สิโดคยองซู!! ไอ้ที่จะมายิ้มหวาน แอ๊บเขินมันก็ไม่ใช่ป่ะล่ะ? สามเพื่อนลงความเห็นกันผ่านทางสายตาก่อนที่จะเดินตามออกมาจากห้องไป
     
    “เสียใจด้วยนะโบมี แห้วซะแล้ว~~” เซฮุนขอสักที จื่อเทาก็ส่งเสียงเห็นด้วย ส่วนชานยอลเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ซ้ำเติมผู้หญิง.. ก็แค่หัวเราะเสียงดังลั่นเท่านั้นเอง
     
     
     
    คยองซูก้มหน้าลงแอบยกยิ้มอย่างสะใจ หมดนี่ไปหนึ่งก็ยังเหลืออีกเพียบแต่ยังไงแบคฮยอนก็หนีไปไหนไม่พ้นหรอก แต่ตอนนี้สิ่งที่คยองซูกำลังกังวลไม่ใช่พวกสาวๆที่เข้ามาติดแบคฮยอนหรอกแต่เป็นวันเสาร์ต่างหากที่กลัว... ก็เป็นวันไหว้บรรพบุรุษของตระกูลพยอน วันรวมญาติที่ทุกคนจะมารวมตัวบ้านแบคฮยอนแล้วคยองซูจะทำยังไงล่ะ?
     
    “มีลางสังหรณ์แปลกๆแหะ” คยองซูก้มหน้าบ่นพึมพำกับตัวเอง
     
    “ตัวเล็กว่าอะไรนะ” แบคฮยอนก้มหน้าลงมาถาม คยองซูยิ้มแล้วส่ายหน้า
     
    “ไม่มีอะไรหรอก กินอะไรดีเราอยากกินก๋วยเตี๋ยวนะแต่ข้าวมันไก่ก็อยากอ่ะ”
     
    “ก็กินทั้ง2อย่างเลยไงเดี๋ยวเขากินด้วย” คยองซูกับแบคฮยอนยิ้มให้กัน

     
     
    ไม่ต้องมาคิดมาก ไม่สมกับเป็นตัวเขาเลยนะแบบนี้ โดคยองซูต้องไม่หวั่นทุกสถานการณ์!!
     
    แต่เอาจริงๆเขาก็ไม่หวั่นกับใครทั้งนั้นยกเว้น ‘ย่าใหญ่’ ที่ชอบมองมาที่ตัวเขาด้วยสายตาที่คาดเดาความหมายไม่ได้ ...มันน่ากลัวเกินไป... ความรู้สึกเหมือนว่าความลับจะถูกเปิดได้ทุกเมื่ออย่างไรอย่างนั้นแหละ
     
     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×