ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] Impossible Miracle Love [คู่จิ้นตามใจฉัน]

    ลำดับตอนที่ #31 : [เด็กช่าง's Series] YeolKris BaekDo TaoHun - BaekDo Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 56


    Title: เด็กช่าง's Series - BaekDo Part 1
    Pairing: Chanyeol x Kris // Baekhyun x D.O. // Tao x Sehun
    Author: BettyNoona
    Note: พี่แบคกับตัวเล็กของเขา คู่เตี้ยหมาตื่นของกลุ่มเพื่อนที่น่ารัก~
     
    Note2: ชอบอีกแล๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  >_________<
     
     
     
     
    __________________________________
     
     
     
     
     
    “น้องคริสนี่ก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย~ แบบนี้ไอ้ชานยอลรักตายเลย~~” พอโดนพูดแบบนั้นใส่น้องคริสก็ก้มหน้าเขินเลยไง
     
    “พี่คยองซูอ่ะ~ รักอะไรที่ไหนกันไม่มีหรอก” ก้มหน้าก้มตาใช้คัตเตอร์ตัดกระดาษต่อไป คืองานนี้เป็นงานของพวกเด็กช่างเขานี่แหละ ต้องทำโครงงานประกอบชิ้นงาน คริสที่เลิกเรียนแล้วว๊างว่างไม่รู้จะไปที่ไหนดีก็เลยมานั่งเล่นที่โรงเรียนช่างกลทุกเย็นก่อนกลับบ้านพร้อมคนไปส่งถึงหน้าบ้าน ตอนนี้ก็เลยมาช่วยทำอะไรที่ทำได้ไปดีกว่ามานั่งอยู่ว่างๆ
     
    “น้องคริสไม่รักไอ้ชานยอลเหรอ” เซฮุนที่นั่งขึ้นชิ้นงานอยู่ฝั่งตรงข้ามยื่นหน้าเข้ามาแซว พร้อมกับรอยยิ้มล้อเลียนจากเทาที่อยู่ตรงข้าม
     
    “ก็... เอ่อ...” มองคนนั้น คนนี้ทีแล้วก็ได้แต่ก้มหน้าเขิน ทั้งสามที่นั่งแซวน้องก็ทำงานต่อโดยที่ไม่ได้สานต่อบทสนทนานั้น ก็แหม ไม่ต้องพูดก็รู้คำตอบอยู่แล้ว
     
    “เออไอ้คยองซูแล้วนี่ไอ้แบคฮยอนไปไหนวะ ไอ้ชานยอลด้วย” เทาเงยหน้าขึ้นมาถามพร้อมกับวางอุปกรณ์ในมือลงกับโต๊ะก่อนที่จะคว้าขวดน้ำอัดลมมาดื่ม อ๊า~ เย็นชื่นใจ
     
    “โดนอาจารย์เรียกช่วยงานน่ะ เดี๋ยวมันก็มา.... นั่นไงมาแล้วตายยากจริงๆ” คยองซูพยักพเยิดหน้าไปทางด้านหลังของเซฮุนและเทา ทุกสายตาหันไปมองก็เจอเข้ากับชานยอลที่กำลังเดินเข้ามา คนที่โดนมองก็ส่งยิ้มมาให้ เปล่า.. ไม่ใช่เพื่อนๆหรอกคยองซูรู้ จะใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่เด็กข้างกายเขาน่ะ
     
    “มานานแล้วเหรอมึง” ชานยอลเดินอ้อมโต๊ะไปฝั่งเก้าอี้ที่คริสกับคยองซูนั่งด้วยกันก่อนที่จะมานั่งบนขอบของเก้าอี้ม้าหินอ่อนแล้ววางเท้าไว้ที่พื้นนั่ง คริสหันมายิ้มให้ก่อนที่จะเอียงตัวไปพิงชานยอลแล้วสอดมือไปรองใต้ฝ่ามือของอีกคนแล้วตบเล่นเบาๆ
     
    “สักพักแล้วครับ น้องคริสช่วยพี่คยองซูตัดกระดาศด้วยนะ” ชานยอลหัวเราะก่อนที่จะเอามืออีกข้างที่ว่างมาขยี้หัวของเด็กข้างกาย
     
    “เออๆมึงเก่ง” 
     
    “คือ.. ไม่ได้อยากจะขัดจังหวะเวลาสวีทหวานหรอกนะแต่ชานยอล แบคฮยอนล่ะ” คยองซูชะโงกหน้ามาถาม แหมก็ไม่อยากจะขัดหรอกแต่เขาก็อยากรู้ไงว่าไอ้ตัวโตของเขาเนี่ยอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มาด้วยกันล่ะ? 
     
    “โดนอาจารย์ใช้ยกของอ่ะ นั่นไง” ชานยอลชี้ไปทางเดิมที่เขาเดินมา แบคฮยอนที่เดินคุยกับอาจารย์สาวประจำภาคหอบแฟ้มใหญ่ๆในมือเดินผ่านพวกเขาไปยังลานจอดรถสำหรับคณาจารย์
     
    “เฮ้ยคยองซู มึงใจเย็นๆนะเว๊ย” เซฮุนทิ้งงานตรงหน้าแล้วคว้าจับมือของเพื่อนตัวเล็กไว้ เพราะรู้น่ะสิว่าโดคยองซูเพื่อนรักตัวเล็กมักจะไม่สบอารมณ์ทุกครั้งเวลาที่มีคนอื่นเข้าใกล้แบคฮยอน
     
    “เฮ้ยมึงกินน้ำก่อน ใจร่มๆเชื่อกู” เทาก็เปิดขวดน้ำเปล่าที่ยังเย็นอยู่แล้วบริการเสียบหลอดส่งให้ด้วย คยองซูตวัดสายตามองก่อนที่จะถอนหายใจ
     
    “ก็ไม่ได้จะเป็นอะไรสักหน่อยปะห๊ะ?” แต่ก็ยอมคว้าขวดน้ำที่เทาส่งให้มาดื่ม
     
    “มันกลับมาล่ะ” ชานยอลพูดพร้อมกับชี้ไปที่แบคฮยอนที่เดินยิ้มค้างกลับมา พอหันไปสบดวงตาโตของคยองซูแล้วก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน
     
    “ตัวเล็ก~” แบคอยอนเดินอ้อมมายืนข้างคยองซูที่มองตามทุกฝีก้าว
     
    “คืออาจารย์เขาใช้ให้ช่วยถือแฟ้มไปส่งที่รถน่ะ ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยนะ ตัวเล็กเชื่อใช่ไหม” คยองซูไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แบคฮยอนเลยทำตัวเหมือนแมวเข้าอ้อน จับมือของคยองซูขึ้นมาแนบที่แก้มของตัวเอง
     
    “จริงๆนะ” พูดพลางทำหน้าเข้าอ้อน คยองซูพยักหน้ารับรู้
     
    “อืม รู้แล้วแบคกี้ไปซื้อป๊อกกี้ให้หน่อย อยากกิน” แบคฮยอนยิ้มก่อนที่จะตะเบ๊ะท่ารับทราบแล้ววิ่งด้วยช่วงขายาวๆไปที่ซุ้มขายขนม
     
    “ชานยอล.. อาจารย์ให้ไปช่วยทำอะไร” เมื่อแบคฮยอนวิ่งออกไปแล้วคยองซูก็หันไปถามชานยอลที่นั่งคุยงุ้งงิ้งกับคริส
     
    “ให้ไปช่วยยกยกโมเดลของพวกภาคค่ำอ่ะแล้วเขาก็ไล่กูออกมาก่อน”
     
    “อย่างนั้นเหรอ?” คยองซูหันไปมองทางที่แบคฮยอนวิ่งไปก็เห็นว่าเจ้าตัวยืนซื้อขนมอยู่ที่ซุ้มขายของ 
     
    “เฮ้ย มันไม่มีอะไรนะเว๊ย มึงอย่าคิดมากดิไอ้หมามันก็ไม่ได้จะนอกใจมึงนะเว๊ย” 
     
    “ฉันรู้ชานยอล ก็แค่ถามว่าไปทำอะไรกัน ถามไม่ได้เหรอ?” ชานยอลกระตุกยิ้มก่อนที่จะก้มหน้าลงไปแกล้งคริสต่อ คยองซูมองแล้วก็หันหน้ากลับมาเท้าคางมองไปที่แบคฮยอนที่กำลังวิ่งกลับมา เทากับเซฮุนมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มให้กันอย่างรู้ความหมาย แหม.. บอกไม่คิดๆคิด เพื่อนรักตัวเล็กของพวกเขาก็คิดทุกทีนั่นแหละ
     
    โดคยองซูไม่ใช่คนคิดมากหรอก.. เขาก็แค่อยากรู้เท่านั้นเองว่ายัยอาจารย์คนนั้นทำไมต้องเรียกแบคฮยอนให้ไปหาด้วย ขนาดชานยอลยังบอกในห้องเลยแล้วทำไมทีแบคฮยอนอาจารย์ถึงเดินมาบอกตอนที่เขากับแบคฮยอนกำลังจะเดินออกจากห้องเรียน
     
    แบคฮยอนตัวเล็ก... เขารู้ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแบคฮยอนตัวเล็กมาก แม้จะชอบโชว์พาวว่าตัวเองแข็งแรงมากก็เถอะ แต่เขาไม่คิดว่าไอ้แฟ้มใหญ่ๆในมือที่แบคฮยอนหอบมามันจะเบา ทำไมถึงไม่ใช่ชานยอล? ทำไมต้องเป็นแบคฮยอน? อีกอย่างหนึ่งที่เขาไม่ชอบในตัวแบคอยอนเลยก็คือ... ไอ้อาการใจดีแล้วก็ยิ้มเรี่ยราดแบบนี้เนี่ยแหละ
     
    “ตัวเล็ก~ ได้แล้วๆ เขาซื้อรสสตรอเบอร์รี่มาให้ 2กล่องเลยนะ” วิ่งมาหยุดข้างๆแล้วก็ส่งยิ้มพร้อมยื่นกล่องขนมมาให้ พวกเพื่อนๆชอบบอกว่าแบคฮยอนเหมือนลูกหมา.. ซึ่งคยองซูก็ลงความเห็นว่า พยอนแบคฮยอนเหมือนหมาจริงๆนั่นแหละ ลูกหมาตัวเล็กๆที่ขี้อ้อน
     
    “ขอบคุณนะ” รับกล่องขนมมาแล้วก็ยิ้มให้ แบคฮยอนอยากจะลงนั่งเบียดในเก้าอี้ตัวเดียวกับตัวเล็กเหลือเกิน แต่แค่คยองซูนั่งกับคริสก็เต็มแล้ว ไหนจะมีไอ้หมาหัวยุ่งอย่างชานยอลนั่งข้างคริสอีกล่ะ ถึงจะแค่ขาเดียวแล้วนั่งบนขอบเก้าอี้เหมือนที่มันชอบนั่งก็เถอะ เก้าอี้ยังเหลืออีกตัวหนึ่งเพราะอีกตัวพวกเขาใช้วางกระเป๋ากัน แบคฮยนอยากจะลงนั่งที่เก้าอี้อยู่หรอกแต่ว่าถ้านั่งมันก็ไกลตัวเล็กไง.. ตอนที่ตัวเล้กอารมณืไม่ดีต้องคอยอยู่ใกล้ๆ
     
    “แบคกี้ลงไปนั่งที่พื้นทำไมน่ะ!!” คยองซุตกใจถามตาโตตอนที่เห็นแบคฮยอนลงนั่งที่พื้นข้างๆตัวเขา
     
    “อยากอยู่ใกล้ๆตัวเล็กไง” ว่าอย่างอารมณ์ดีแล้วก็ยิ้มให้ คยองซูเขกหัวแบคฮยอนที่นั่งต่ำกว่าเบาๆก่อนที่จะแกะกล่องขนมแล้วยื่นป้อนแท่งสีชมพูให้แบคฮยอนที ตัวเองที
     
    “แหม.. อย่างกับป้อนอาหารหมาเลยนะครับคุณคยองซู” ชานยอลหัวเราะเสียงร่าก็เลยโดยน้องคริสฟาดเข้าที่หน้าขาแรงๆ
     
    “พี่ชานยอลไปว่าพี่แบคฮยอนแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ นิสัยไม่ดีเลย” ชานยอลยกมือขึ้นเกาหัวก่อนที่จะยกสองมือขึ้นทำท่ายอมแพ้
     
    “โอเคๆ ผิดไปแล้วครับมึงครับ” คริสหัวเราะแล้วก็พยักหน้าให้ว่ายอมยกโทษให้ แต่คนที่หัวเราะดังสะใจคือแบคอยอนกับเทานี่ล่ะ
     
    “แหม นี่ก็กลัวนะครับนะลางเกียมัวมาแต่ไกลเลยครับมึง!” เทาหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ ชานยอลหันไปชูนิ้วกลางให้ ส่วนคริสก็นั่งก้มหน้าหลบสายตาของเทาที่มองจ้องมาอย่างล้อเลียนนั่นแหละ
     
    “โอ๊ยเห.!!!” นั่งหัวเราะอยู่ดีๆก็ไม่รู้โลกหมุนเหวี่ยงเทาลงไปกองกับพื้นได้ไง เพราะทรงตัวได้ก็เห็นว่าเซฮุนเล่นท่ายากส่งขาพลังลูกถีบมาอีกแล้ว
     
    “พวกมึงนี่ก็รักกันด้วยลำแข้งหรือไงวะห๊ะ ถีบเอาถีบเอา” แบคฮยอนยืดคอขึ้นมามองแล้วก็หัวเราะก่อนที่จะกางแขนกอดคยองซูที่นั่งอยู่สูงไปนิดหน่อย
     
    “ไม่เหมือนกูกับตัวเล็ก เลิฟกันแบบหวานแหวว”
     
    “เหรอ? สักทีดีไหม?” คยองซูชูกำปั้นขึ้น แบคฮยอนก็ผงะหนี คยองซูก็หัวเราะออกมา แบคอฮยอนก็ทำหน้างอนแล้วหันหลังให้ทำท่าว่างอนจะให้ง้อแต่คยองซูก็แค่ยักไหล่
     
    “น้องคริส วันหยุดนี้น้องคริสว่างไหม” 
     
    “อ้าว... ตัวเล็กง้อเขาก่อนดิ~” สะกิดก็แล้ว จิ้มขาก็แล้ว ดึงมือมากุมก็แล้วแต่ก็ไม่เห็นว่าคยองซูจะหันมาสนใจเลยก็เลยนั่งหน้ามุ่ยก้มหน้าลงซบที่ขาของคยองซูไป ดวงตากลมเหลือบมองแล้วก็ยกยิ้มขำๆ 
     
    แบคฮยอนน่ะน่ารักนะเวลาที่อยู่กับเขาน่ะ เพราะเวลาอื่นๆก็เหมือนพวกที่เหลือนั่นแหละ เขาชอบที่แบคฮยอนเป็นแบบนี้ และบอกไว้ก่อนเลยว่า.. โดคยองซูน่ะไม่ยอมพยอนแบคฮยอนให้ใครหรอกนะ!!!
     
    เป็นประจำที่แบคฮยอนจะขึ้นรถมาพร้อมคยองซูแล้วก็ส่งมาให้หน้าบ้าน จะมีก็แต่บางวันที่ไม่น่าปลอดภัยถึงจะส่งให้คยองซูกลับบ้านก่อน แต่พักนี้แบคฮยอนมักจะไปนอนบ้านเขาบ่อยๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องไปนอนบ่อยซะจนเหมือนจะเป็นบ้านตัวเองขนาดนั้น เหมือนวันนี้แต่ต่างตรงที่วันนี้ที่คุณแม่จะไปบ้านคุณป้าตอนเย็น
     
    “ตัวเล็กกินลูกชิ้นทอดเปล่า~” ระหว่างที่เดินเข้าซอยบ้านอยู่ๆแบคฮยอนก็สะกิดเรียกคยองซูพร้อมกับชิ้นิ้วที่ไปร้านลูกชิ้นทอด
     
    “ไม่อ่ะ แบคกี้หิวเหรอ?” แบคฮยอนยิ้มแล้วส่ายหน้า
     
    “เปล่าถามเฉยๆไง ถ้าได้เดินกลับบ้านกับตัวเล็กแบบนี้ทุกวันก็ดีสินะ” แบคฮยอนเดินแกว้งมือที่จับกับคยองซูเบาๆ คนตัวเล็กกว่าหันมามอง
     
    “ทำไมล่ะ” แบคฮยอนหันมายิ้มกว้างจนตาหยีก่อนที่จะยกปลายนิ้วจิ้มเข้าที่แก้มของคยองซู
     
    “ก็เดินจับมือกันแบบนี้อุ่นดีออก” คยองซูระบายยิ้มบางๆ
     
    “ก็เดินจับมืออยู่นี่ไง”
     
    “นั่นสินะ~” แล้วแบคฮยอนก็เดินแกว่งมือไปเรื่อยๆ 
     
    ความสัมพันธ์ของพวกเขามันเริ่มตั้งแต่ชั้นมัธยมแล้ว ครั้งแรกที่ได้สบตากันคยองซูก็รับรู้เลยว่าชีวิตของเขาต่อไปในวันข้างหน้าจะต้องวุ่นวายเพราะผู้ชายตรงหน้าแน่ๆ ผู้ชายตัวสูงกว่าเขานิดหน่อย ตาตี่ๆและยิ้มกว้างๆที่ส่งมาให้... ทำให้ตัวเขาคิดว่าคนตรงหน้า ... ‘บ้า’
     
    ‘พยอน แบคฮยอน’ คือชื่อของคนที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของเขา แม้จะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่รู้ทำไมคยองซูถึงรู้สึกว่าเห็นหน้าคนนี้บ่อยกว่าเพื่อนในห้องบางคนเสียอีก กลุ่มของแบคฮยอนมีกันอยู่ 4คนรวมเจ้าตัวไปด้วย ชานยอล เซฮุนและเทา
     
    น่าแปลกว่าดูเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่.. ตัวเขากลับนั่งมองหาว่าเมื่อไหร่ที่แบคฮยอนจะมาหา
     
    “ไงมึง??” เสียงร้องทักของใครสักคนทำให้คยองซูที่เดินคิดอะไรเพลินๆต้องหลุดออกจากภวังค์ แบคฮยอนปล่อยมือที่จับกับคยองซูแล้วดันตัวเล็กของเขาไว้หลบที่ด้านเขา คยองซูที่มองผ่านไหล่ของคนที่เอาตัวมาบังเขาไว้ก็เห็นพวกเทคโนคู่อริ แผ่นหลังของแบคฮยอนไม่ได้กว้างเหมือนเทา ไม่ได้ดูน่าปลอดภัยเหมือนชานยอล แต่... คยองซูก็รู้สึกดีเมื่อยืนอยู่ด้านหลังเพราะเขารู้ว่าแบคฮยอนจะไม่ยอมให้ใครทำเขาเจ็บแน่ๆ
     
    “ไงเห.อะไรของมึงห๊ะ?” 
     
    “ปากดีนักนะมึง” แบคฮยอนยักไหล่
     
    “แล้วไง? กูไม่ได้ไปปากดีบนหัวใครนิ? หรือมึง?” อีกฝ่ายทำท่าจะเข้ามาชก แต่แบคฮยอนยื่นมือไปผลักอกของอีกฝ่ายแรงๆจนมันเซ
     
    “อย่ามากร่างแถวนี้ จำไม่ได้หรือไงแถวนี้ถิ่นกู หรืออยากโดน??” แบคฮยอนไม่ได้พูดเล่น เพราะแถวนี้แบคฮยอนก็รู้จักทั้งนั้น กลุ่มคนตรงหน้าก็ไม่ค่อยมีใครชอบอยู่แล้วเพราะฉะนั้นอยู่เฉยๆน่าจะเป็นการดีมากกว่า
     
    “ไปเว๊ย อารมณ์เสีย!” มันทำท่าฮึดฮัดก่อนที่จะเดินออกไป แล้วแบคฮยอนก็หันมายิ้มให้คยองซูที่ยืนอยู่ด้านหลัง
     
    “เรากลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวคุณแม่จะออกจากบ้านช้า” แล้วแบคฮยอนก็คว้ามือของคยองซูมาสอดมือประสานแล้วเดินแกว่งกลับบ้านไป
     
     
     
    ทาวน์เฮ้าส์ 3ชั้นขนาดกลางสีขาวครีมธรรมดาคือบ้านของคยองซูที่ประกกอบไปด้วยคุณพ่อ คุณแม่และตัวคยองซูเอง คนตัวเล็กกว่าไขเปิดประตูเล็กตรงรั้วใหญ่แล้วเดินเข้าไปก่อน แบคฮยอนเดินตามเข้ามาแล้วหันไปล็อคประตูเล็กให้
     
    พอเข้ามาในบ้านก็เห็นคุณแม่กำลังเดินลงจากบนบ้านพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อม แบคฮยอนก็รีบถลาเข้าไปหา พอกล่าวทักทายเสร็จก็ช่วยคุณแม่ของคยองซูยกกระเป๋ามาวางไว้บนโซฟาที่กลางบ้าน 
     
    “แม่จะไปบ้านป้ายังไง เดี๋ยวพ่อขับรถมารับใช่ไหม”
     
    “จ๊ะ วันนี้แบคฮยอนมานอนบ้านป้าใช่ไหมลูก ป้าฝากคยองซูด้วยนะจ๊ะ ถ้าดื้อก็ตีเลยนะ” 
     
    “แน่นอนครับคุณแม่ ถ้าคยองซูดื้อผมจะตีเองอย่าห่วงเลยครับ” คยองซูหันไปถลึงตาใส่ แบคฮยอนสะดุ้งแล้วก็ส่งยิ้มตาหยีเข้าอ้อน
     
    “คนที่ดื้อคงไม่ใช่ผมหรอก” ว่าแล้วก็ปรายตาไปมองแบคฮยอีกรอบ เจ้าตัวก็ได้แต่ฉีกยิ้มกว้าง
     
    “เอาเถอะๆ มื้อเย็นอุ่นเอานะแม่เตรียมไว้แล้ว ไงก็ฝากดูคยองซูหน่อยนะ” คุณแม่ตบไหล่แบคฮยอนเบาๆพร้อมกับที่เสียงบีบแตรรถดังขึ้น 
     
    “สงสัยพ่อเราจะมาแล้วดูบ้านดีๆนะ อย่าลืมปิดไฟ ปิดแก๊ส ล็อคประตูบ้านนะ”
     
    “เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ” แล้วแบคฮยอนก็หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้านั้นออกไปหน้าบ้านกับแม่ของคยองซู
     
    เมื่อแบคฮยอนกับคุณแม่เดินออกไปแล้ว ตยองซูก็เลยเดินเข้าห้องครัวไปดูว่ามื้อเย็นคุณแม่ทำอะไรไว้ เขาไม่ห่วงหรอกว่าแม่กับแบคฮยอนจะคุยอะไรกันหรือเปล่า หรือคุณแม่จะจับผิดอะไรไหม ก็ในเมื่อคุณแม่และคุณพ่อของเขารับรู้ว่าเขากำลังคบกับแบคฮยอนและท่านทั้งสองก็รับได้ มันก็ไม่มีอะไรต้องห่วง นอกจากบ้านของแบคฮยอนเอง..
     
    บ้านของแบคฮยอนเป็นครอบครัวคนจีน.. ที่ไม่รับเรื่องแบบนี้ แต่ด้วยความที่ทั้งกลุ่มไปเที่ยวบ้านแบคฮยอนบ่อยนั่นแหละเลยไม่มีคนที่บ้านสงสัย บ้านของแบคฮยอนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ บางทีคยองซูก็รู้สึกไม่ดียามที่ต้องก้าวเข้าบ้านหลังนั้น แต่เขาก็พูดไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาควรที่จะทำตัวแบบไหนต่อไปดี คยองซูที่เผลอถอนหายใจโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าแบคฮยอนเดินกลับเข้ามาแล้วตอนนี้อยู่ด้านหลังกำลังจะแกล้งให้ตกใจ พอเห็นคนตัวเล็กของเขาเป็นแบบนี้แบคฮยอนก็แกล้งให้ตกใจไม่ลง
     
    “อ๊ะ..” คยองซูสะดุ้งเมื่อกำลังคิดอะไรเพลินๆก็โดนกอดเอวจากด้านหลัง พอหันไปมองก็สบตาเข้ากับแบคฮยอนที่มองมาด้วยความห่วงใย
     
    “ตัวเล็กเป็นอะไร คิดอะไรอยู่”
     
    “เปล่าหรอก ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะแล้วล็อคหน้าบ้านแล้วใช่ไหม” 
     
    “แน่นอนไม่ลืมหรอก ตัวเล็กอย่าเปลี่ยนเรื่อง บอกมาเถอะคิดอะไรอยู่ทำไมถึงถอนหายใจแบบนั้น” แบคฮยอนจับคยองซูหมุนตัวให้หันมาหา คยองซูส่งรอยยิ้มบางให้ก่อนที่จะยกมือขึ้นคล้องคอของคนที่โอบเอวเขาไว้
     
    “ก็กำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ล่ะมั้ง” เอียงหน้านิดหน่อยแล้วก็กระตุกยิ้มบาง
     
    “ใครกันนะที่ได้เป็นคนโชคดีคนนั้นน่ะ” แบคฮยอนรั้งคนตัวเล็กกว่าให้เข้ามาแนบชิด คยองซูหัวเราะเบาๆ
     
    “ก็นายไง พยอนแบคฮยอน” เมื่อคำตอบเป็นที่น่าพอใจ ก็ต้องให้รางวัลใช่ไหมล่ะ? และนี่ก็เป็นเวลาที่แบคฮยอนชอบที่สุดเลยล่ะ
     
    คนที่สูงกว่าก้มหน้าลงมาทาบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากอิ่ม บดสัมผัสเพียงนิดก็ได้รับการตอบรับ เคล้นเคล้าป้อนจูบให้กัน ปลายลิ้นอุ่นแทรกผ่านโพรงปากอุ่นเพื่อไปเกี่ยวกะหวัดกับลิ้นเล็กที่พันตอบไม่หลีกหนี แบคฮยอนรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาแนบชิดจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างกันก่อนที่จะมือที่โอบเอวเล็กจะเลื่อนไปสัมผัสกับบันท้ายนิ่ม
     
    จูบหวานล้ำค่อยๆหนักจังหวะและเร่าร้อนขึ้นตามอารมณ์ที่กำลังค่อยๆติดไฟ คยองซูเป็นฝ่ายขยับเข้าไปแนบชิดยิ่งขึ้น แนบชิดจนส่วนล่างเสียดสีกันเบาๆ สองมือที่คล้องคอคนตัวสูงกว่าไว้เป็นหลักก็สอดเข้าขยุ้มเส้นผมของคนป้อนจูบ จนคล้ายกับได้ยินเสียงของซุปในหม้อด้านหลังเดือดคยองซูก็ละจูบออกพร้อมกับก้มหน้าลงฝากรอยที่ซอกคอของแบคฮยอนไปหนึ่งรอย
     
    “พอ” ว่าไว้แค่นั้นก็ผลักแบคฮยอนออกเบาๆแล้วจึงหมุนตัวกลับมาปิดแก๊ส จากนั้นก็เริ่มเดินไปหยิบกะทะมาเพื่อที่จะอุ่นอาหารในจานต่อแต่แบคฮยอนก็มือไว้พอที่จะคว้าเอวคนตัวเล็กไว้
     
    “ไม่เอาอ่ะ” คยองซูหันไปมองหน้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร สองมือแกะมือที่เกาะเอวไว้แต่ก็ไม่ยอมออก
     
    “ตัวเล็ก~~” น้ำเสียงอ้อนๆมาพร้อมกับแรงกอดแนบชิดจากด้านหลังส่งผลให้ส่วนล่างที่กำลังขยายนั้นสัมผัสโดนที่บั้นท้ายของเขา แบคฮยอนขยับเข้าใกล้อีกนิดเพื่อให้รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ติดจริงๆ ก็แหมนะ.. ตัวเล็กของเขาน่ะพาอารมณ์ติดง่ายจะตาย~~
     
    “แบคกี้รอ.. หิวข้าวแล้วจะกินข้าว แต่ถ้ารอไม่ได้ก็โน้นเลยห้องน้ำ” แล้วก็ไม่สนใจผลักแขนของแบคฮยอนออกแล้วเดินไปหยิบกระทะตามที่ตั้งใจ
     
    “ตัวเล็กไม่สงสารเขาเหรอ” แบคฮยอนทำหน้ามุ่ย คยองซูหันมามองแล้วก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก
     
    “ก็ไม่นิ” 
     
    “ตัวเล็กอ่ะ! ใจร้ายจังนะ~” แบคฮยอนสวมกอดอีกคนจากด้านหลังแล้วก็ซบหน้าผากลงกับไหล่เล็ก คยองซูหัวเราะเบาๆ
     
    “แต่แบคกี้ก็รักเราใช่ไหมล่ะ?” แล้วก็ได้คำตอบเป็นริมฝีปากและปลายจมูกที่ฉกลงมาหอมแก้มเขาแรงๆทั้งสองข้าง
     
    “ไปเตรียมตั้งโต๊ะเลยไป” คยองซูถองศอกใส่เบาๆ
     
    “รับทราบครับ!!” ก้มลงจูบที่ซอกคอของคยองซูก่อนที่จะผละออกไปเตรียมตั้งโต๊ะกินข้าว คยองซูหันไปมองแล้วก็ยิ้มบางๆ เขามีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับแบคฮยอน.. และเขาก็หวังว่าความสุขนี้มันจะอยู่กับเขาไปนานๆ 
     
    ...อาจจะไม่ต้องนานเท่านาน หรือ นานตลอดไป แต่ขอให้เวลาที่เขาหันมองรอบตัวก็จะมีแบคฮยอนอยู่เสมอก็พอ...
     
     
     
    มื้อเย็นจบลงด้วยดี กับข้าวบนโต๊ะหมดเกลี้ยงทุกอย่างและหน้าที่ล้างจานจะเป็นของใครล่ะถ้าไม่ใช่พยอนแบคฮยอน... คยองซูที่ว๊างว่าง~ ก็เดินมานั่งดูทีวีเพื่อรอให้แบคฮยอนล้างจานเสร็จ เขาบอกว่าถ้ายืนล้างจานจะช่วยในการเผาพลาญแคลอรี่ได้ เขาว่าพักนี้แบคฮยอนเริ่มอ้วนแล้วนะ นั่นแหละเลยต้องใช้งานสักหน่อย
     
    นั่งดูรายการข่าวตอนเย็นอยู่ดีๆก็มีลุกหมาตัว(เหมือนจะ)อ้วน(ขึ้น)กระโดดมานั่งข้างๆ พอหันไปมองก็เห็นแบคฮยอนส่งยิ้มมาตาหยีเลย ก็เลยใจดีขยับตัวถอยหนีอีกนิดแล้วพลิกตัวไปนั่งเท้าหัวกับพนักซะเลย แบคฮยอนก็ทำเสียงฮึดฮัดงอแงเลยสิ
     
    “ตัวเล็กง่า~~” ไม่สนใจหยิบรีโมทมากดเปลี่ยนช่องซะอย่างนั้น แบคฮยอนทำหน้าขัดใจก่อนที่จะล้มตัวลงนอนหนุนตักซะเลย แหม~ ตักตัวเล็กล่ะนิ๊มนิ่ม~~ นี่พูดได้เลยว่าพยอนแบคฮยอนฟินไปยังโลกหน้า~~
     
    “กินอิ่มแล้วนอนอ้วนนะแบคกี้” แต่คนจะอ้วนก็ยังยิ้มกว้างแล้วดึงมือคยองซูมาวางไว้ที่อกตัวเอง
     
    “ไม่เห็นเป็นไรเลย อ้วนสิดีจะได้กอดไม่ให้ตัวเล็กหนีไปไหนได้ไง~” คยองซูหัวเราะเบาๆก่อนที่จะเอามืออีกข้างบีบจมูกแบคฮยอนเบาๆ
     
    “แค่นี้ก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว” แบคฮยอนยิ้มแล้วกุมมือที่ตัวเองเอามาวางไว้ที่อกขึ้นมาจูบที่หลังมือ
     
    “ถึงตัวเล็กจะอยากไป เขาก็ไม่ยอมปล่อยตัวเล็กไปไหนหรอก”
     
     
     
     
    หลังจากที่ปิดประตูและดูแลความเรียบร้อยรอบบ้านแล้วแบคฮยอนก็ขึ้นชั้นสองไปที่ห้องนอนของคยองซู พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคยองที่สวมชุดนอนเข้าชุดกันเดินออกมาจากห้องน้ำ คยองซูเลี่ยงเดินไปพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวตากก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวสำหรับแบคฮยอนมาส่งให้
     
    “ปล่อยเลยนะแบคกี้ น้ำยังไม่อาบอย่ามากอดนะ” คยองซูก้าวถอยหลังเมื่อแบคฮยอนจับข้อมือตัวเองแล้วจะดึงเข้าไปกอด
     
    “โห้ยตัวเล็กอ่ะ!!” ทำหน้างอนใส่ได้แปบเดียวก็กลับมายิ้มตาหยีอีกแล้ว
     
    “ตัวเล็กสระผมให้หน่อยสินะ~” 
     
    “แต่ฉันอาบน้ำแล้วนะ” แบคฮยอนทำหน้าหงอยๆ คอตกแล้วก็ก้มหน้าลงแล้วก็พยักหัวเบาๆก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมายิ้มตาหยีเหมือนเดิม
     
    “อืม งั้นตัวเล็กไปนอนที่เตียงรอนะ อาบน้ำแปบเดียว~ ห้ามชิ่งหลับไปก่อนนะ” แบคฮยอนเดินจูงมือคยองซุมาส่งที่เตียงก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าห้องน้ำไปบ้าง คยองซูมองตามหลังแบคฮยอนไปแล้วก็หัวเราะเบาๆ 
     
    แบคฮยอนก็เป็นแบบนี้แหละ.. ต่อให้โดนเขาแกล้งทำร้ายจิตใจแค่ไหน เจ้าตัวก็ไม่เคยจะพูดสักครั้งว่าเสียใจ เศร้าใจหรือน้อยใจ คนตัวเล็กส่ายหน้าเบาๆก่อนที่จะยกขาขึ้นมาชันที่เตียงแล้วก็พับขากางเกงนอนที่ยาวถึงข้อเท้าให้ขึ้นไปทบอยู่ที่หัวเข่า แล้วก็พับแขนเสื้อให้หมดก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป
     
    แบคฮยอนที่กำลังจะเปิดฝักบัวก็สะดุ้งโหยงเลยน่ะสิ อยู่ๆบานประตูก็เปิดแถมยังเห็นใบหน้าน่ารักของเจ้าของห้องโผล่เข้ามาอีก คือปกติก็เห็นลักษณะนี้มาบ่อยไงแต่แบบ.. มันก็ตกใจบ้างอะไรบ้าง
     
    “ไปนั่งสิจะสระผมไม่ใช่หรือไง” แล้วแบคฮยอนก็ยิ้มตาหยีพร้อมกับเดินไปนั่งบนฝาชักโครกที่ปิดมันไว้เรียบร้อย 
     
    “ถ้าทำฉันเปียกนะนายตายแน่แบคกี้” 
     
    “รู้แล้วน่า ตัวเล็กก็~ สัญญาไม่แกล้งหรอก” 
     
    คยองซูเดินไปหยิบฝักบัวมาเปิดน้ำแล้วเริ่มขย้ำเส้นผมกับน้ำที่อุณหภูมิกำลังพอดี เมื่อเส้นผมสีดำสนิทของแบคฮยอนเปียกน้ำจนทั่วแล้วก็ผละไปผิดน้ำแล้วหยิบแชมพูมาบีบใส่มือจากนั้นก็นวดที่เส้นผมเปียก ค่อยๆนวดเบาๆให้คนที่กำลังนั่งก้มหน้านี้ผ่อนคลาย ฟองสีขาวนั้นถูกมือเล็กขย้ำไปทั่ว เมื่อนานพอสมควรก็ล้างออกและเริ่มชะโลมแชมพูอีกครั้ง
     
    แบคฮยอนที่นั่งก้มหน้าให้คนตัวเล้กกว่าสระผมให้ก็ยิ้มอย่างถูกใจเลยสิ คยองซูถึงแม้จะชอบพูดตัดรอนเขาแต่คยองซูก็ทำให้เขาทุกอย่างนั้นแหละ บางทีก็คิดนะว่าคยองซูอาจจะเป็นพวกที่ชอบแกล้งคนอื่นแบบหน้านิ่งก็ได้ หลังจากที่ล้างแชมพูจนหมดและสะอาดแล้วคยองซูก็ผละไปเก็บฝักบัวเก็บที่เดิม ผ้าช็ดตัวของแบคฮยอนถูกเอามาขยี้เส้นผมเปียกน้ำเบาๆก่อนที่จะเอาไปแขวนไว้ที่ราวเล็กๆให้
     
    “ออกไปรอข้างนอกนะ” แบคฮยอนครางรับในคอก่อนที่จะขยี้เส้นผมที่หมาดหน่อยๆก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำต่อ
     
    ยามที่แบคฮยอนได้อยู่กับคยองซู ทุกช่วงเวลามันก็คือความสุขนั่นแหละ เขาก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าคยองซูชอบคิดอะไรในหัว พอถามแล้วเขาก็มักจะไม่ได้คำตอบแต่เขาก็จะไม่เซ้าซี้ถามเพราะรู้ว่าคยองซูไม่ชอบคนเซ้าซี้ ยิ่งเซ้าซี้คนตัวเล็กก็ยิ่งจะไม่พูด เพราะฉะนั้นทำได้ก็แค่เอ่ยให้กำลังใจเท่านั้นแหละ บางครั้งเขาก็อยากรู้ว่าคนตัวเล็กๆนี้คิดอะไร อยากจะช่วยแบ่งเบาบ้างก็เท่านั้น
     
    คยองซูก็คือคยองซูต่อให้พูดบอกแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่ยอมเอ่ยปากพูด ถ้าอยากบอกเจ้าตัวก็จะพูดมันออกมาเอง ตัวเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกแต่ก็เอาเถอะ ขอแค่คยองซูไม่ตัดรอนเขาแล้วก็ไม่ปล่อยมือจากเขาก็พอ แบคฮยอนก็คิดแค่นี้แหละ ขอแค่ให้ได้อยู่ข้างๆก็พอ
     
     
     
    หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ.. จริงๆก็แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวนั่นแหละ ก็ไม่รู้จะใส่ให้เยอะชิ้นทำไมเพราะเดี๋ยวก็ได้ถอดออกอยู่ดี ก็แหม.. เขาอดทนมาตั้งแต่เย็นแล้วนะจะมาให้ใช้นางนางทั้ง5 ทำไมกัน? จริงๆเวลาเข้าใกล้คบองซูทีไร ได้กลิ่นหอมๆจากคนตัวเล็กนั่นทีไรแบคฮยอนก็ต้องทนทุกทีนั่นแหละ.. โอเคเขาไม่ได้หื่นนะ 
     
    “อ้าว” แต่พอออกจากห้องน้ำมาก็ดันเจอคยองซูกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงโดยที่ห่มผ้าเรียบร้อยแล้ว นี่มันคืออะไรกัน!! วอทเดอะฟัค!!
     
    “ก็บอกว่าอย่าเพิ่งนอนไง”  ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆก่อนที่จะก้มหน้ามองลูกชายของตัวเอง หรือเขาควรจะใช้บริการน้องนางทั้ง5ดี? แต่อะไรก็ไม่เด็ดเท่าคนตัวเล็กหรอก
     
    “งั้นก็จัดไป”
     
    แบคฮยอนมุดเข้าทางปลายเตียง เปิดผ้าห่มแล้วก็มุดตัวคร่อมคยองซูที่นอนหงายไว้ขึ้นมา พอเคลื่อนตัวมาจนถึงตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วก็ทิ้งตัวคร่อมทับซะเลย คยองซูก็ยังไม่ตื่น แหม... ถือว่าลักหลับเลยก็แล้วกันนะ ก็บอกแล้วว่าห้ามหลับก่อน คยองซูไม่เชื่อก็ต้องโดนลงโทษนะสิ หุหุ แค่คิดพี่แบคก็ฟินไปยันโลกหน้าล่ะ
     
    ก้มหน้าลงไล้แผ่วเบาที่ซอกคอพร้อมกับขยับแนบตัวเข้าหากัน คยองซูที่โดนกวนก็ขมวดคิ้วอย่างรำคาญแต่ก็ยังไม่ตื่น ก็ได้เรื่องเลยล่ะทีนี้.. แบคฮยอนค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอนของคนด้านล่างออกพร้อมกับที่ไม่หยุดไล้สัมผัสกับซอกคอ จนกระดุมปลดได้หมดทุกเม็ดก็เริ่มไล้ลงมาที่แผ่นอกเล็กที่กระเพื่อมตามแรงหายใจ แล้วคนโดนกวนก็ลืมตาขึ้นตื่น
     
    “แบคกี้ทำฉันตื่นนะ” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะยิ้มตาหยีใส่
     
    “ก็ตื่นทั้งข้างบน ทั้งข้างล่างนั่นแหละ ก็บอกแล้วไงว่าห้างชิ่งหลับก่อนอย่างนี้ต้องโดนลงโทษนะ” คยองซุขยับตัวหนีแต่ก็โดนล็อคทั้งแขนและขา
     
    “ไม่เอาจะนอน เราง่วงนะ”
     
    “ตัวเล็กก็นอนไปเฉยๆสิเดี๋ยวที่เหลือจัดการให้” คยองซูขมวดคิ้วฉับแล้วส่ายหน้า
     
    “ไม่เอา ไม่ต้องเลยนอนเถอะแบคกี้” แบคฮยอนยกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก้มลงกระซิบเสียงเบาชิดใบหูของคนที่กำลังจะโดนลงโทษ
     
    “คืนนี้ยังอีกยาวไกลนะตัวเล็ก แค่ร้องดังๆให้ฟังก็พอเขาอยากฟัง”
     
     
    คืนนี้ก็ยังอีกยาวไกลสำหรับคยองซูและแบคฮยอนจริงๆนั่นแหละ ดีที่พรุ่งนี้ต้องเข้าเรียนบ่ายเพราะตอนเช้าจะมีกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้ซึ่งพวกเขาก็โดดกันเป็นประจำ และไม่มีใครอยู่บ้านในคืนนี้
     
     
     
    เสร็จโจร!!!
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×