ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
มาแล้ววววววววววววววว เราป่วยเบาๆ ก็เลยแอบอู้ เป็นไข้ใจคิดถึงพี่คริส #กล้าเล่นมาก
พี่คริส(ในฟิคเรา)ไม่ใช่ตุ๊ดแคนาดานะ 55555555555 เป็นความชอบส่วนตัวอ่ะค่ะ อิอิ ชอบเวลาที่ผู้ชายพูดจาคะขาจ๊ะจ๋ากับเด็กหรือผู้หญิงไรงี้ #เราแปลกป่ะ = = แต่ไม่ใช่ผู้ชายที่เป็นอย่างอื่นนะ ชายแท้อ่ะ
เคยเห็นผู้ชายพูดกับเด็กอยู่ แบบเวลาเขาไม่ทำตามแล้วพูดเพราะๆกับเขา เขาก็จะยอมทำตามอ่ะ น่ารักดี ไม่รู้พี่น้องหรือตอนนี้กลายเป็นโชตะแบบในฟิคไปแล้ว 5555 เราชอบนะ อิอิ
ไม่ต้องห่วงคร๊าาาาา ไม่ดราม่า(นาน)หรอกคร๊าาาาาาาาา อิอิ ใจเย็นๆนะ 5555 ละก็อีกนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน กว่าน้องหนูยอลจะโตค่ะ ทรมานใจแม่ยกผู้รักเด็กไปเรื่อยๆ อิอิ
ปล. คริสอู๋ลุคนี้ฟินจุง อิอิ ชอบอ่ะ ตี๋ใหญ่แห่งพระโขนง #ผิด
______________________
“ห๊ะ!!!?” หลังจากที่แก๊งเพื่อนได้ฟังคำบอกเล่าของเพื่อนตรงหน้าที่อนาคตอันใกล้นี้จะเปลี่ยนคำเรียกสถานะจากนักศึกษาเป็นนักโทษนั้นแล้วก็อ้าปากค้าง ทำหน้าตกใจแล้วก็ปลงตกกับชีวิต คุกแน่ๆมึงคุกแน่ๆ
“อะไรนะ... เมื่อกี้...” แล้วมินซอกก็เงียบเสียงไป เอาหน้าไปซุกไหล่ลู่หานที่นั่งอยู่ข้างๆแทนแก้มกลมๆของมินซอกแดงเรื่อขึ้นมาจนจงแดต้องกึงตัวมินซอกออกจากลู่หานแต่เปาจื่อก็ยังเกาะไหล่ลู่หานไม่ยอมปล่อย
“ไม่เป็นไรนะคริส..” ลู่หานยื่นมือข้ามโต๊ะไปตบไหล่เพื่อนตัวสูงเบาๆ “เพื่อนพ่อกูเป็นตำรวจยศสูงมากเขาช่วยมึงได้แน่ๆ”
“พรากผู้เยาว์เลยนะไอ้คริส แรงไปปะวะ?” เซฮุนถามพร้อมกับยกแก้วชานมขึ้นมาดูด
“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่รู้สึกแปลกๆเฉยๆ” ก็แล้วเฉยๆทำไมต้องหูแดง ยกมือเกาแก้มด้วยวะเฮ้ย!
“คือถ้าเพื่อนพ่อไอ้ลู่ช่วยไม่ได้ ญาติของกูเขาเป็นทหารระดับผู้พันนะ เขาต้องช่วยมึงออกจากคุกได้แน่ๆคริส” และซิ่วหมินที่แงะตัวออกจากไหล่ของลู่หานได้แล้วก็จับมือคริสแล้วตบเบาๆ
“ไอ้ห่าพวกนี้มึงนี่นิ กูก็แค่จะมาปรึกษาไหมวะไม่ใช่มาแช่งให้กูเข้าคุก” คริสบ่นอย่างหัวเสีย ก็แหงล่ะแค่มาเล่าเรื่องไปทะเลพร้อมกับปรึกษาอาการแปลกๆที่หัวใจมันไหวๆยามที่อยู่ใกล้ๆเด็กน้อยน่ารักเท่านั้นเอง พวกเพื่อนตัวดีแม่งก็อนุโมทนาสาธุให้เข้าคุกกันจัง เดี๋ยวพ่อก็เข้าจริงๆซะเลยดีไหม!!?
“กูว่าชัวร์ๆเลยนะ” อยู่ๆเซฮุนก็ทำเสียงนิ่ง ดูเป็นการเป็นงานขึ้นมาเสียอย่างนั้นน ทุกคนเลยพร้อมใจกันหันไปมองหน้าเซฮุนเพื่อรอคำพูดต่อไป “มึงกลายเป็นพวกโชตะไปแล้วว่ะ” แล้วก็เกิดอาการงงขึ้นมาทันใด
“อะไรคือโชตะวะ” คริสพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามของจงแด เซฮุนส่ายหัวน้อยๆก่อนที่จะค่อยๆอธิบาย
“โชตะ มากจากคำว่า โชตะค่อน ซึ่งก็แปลง่ายๆแบบเห็นภาพเลยคือ พวกลุงแก่ๆรักเด็กไง” ลู่หานหรี่สายตามองเซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆคริส
“แล้วมึงรู้ได้ไง? อย่าบอกนะว่ามึง...”
“เฮ้ย ไม่ใช่นะ อย่าคิดแบบน๊านนนนนนน~” แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์แล้วโอเซฮุนเอ๋ย
“เออช่างเหอะ ว่าแต่มึงบอกน้องหนูยอลหรือยังว่าพวกเราจะไปค่ายอาสากันสามวันน่ะ” จงแดตัดบทแล้วเอ่ยถาม และพวกที่เหลือก็ทำหน้างงๆว่าค่ายอาสาอะไรวะ
“ก็ค่ายอาสาของรุ่นพี่ไงที่เขามาขอให้พวกเราไปช่วยอ่ะ” แล้วก็ถึงบางอ้อได้ทันที
“ยังไม่ได้บอกเลย ถ้าบอกนะสงสัยต้องร้องตามแน่ๆเลยว่ะ” เพื่อนทั้งสี่ก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะตลอดสามวันที่ไปทะเลกันไหนจะกลับมาก็ยังหยุดอีกสองวันก่อนจะมีคาบเรียนนั้นเด็กตัวน้อยก็ไม่ได้ห่างตัวคริสเลยด้วยซ้ำ
“พี่หนูคริส!!!!” แล้วเสียงหวานของคนที่พูดถึงเมื่อครู่ก็ดังแทรกเข้ามา เรียกให้ทั้งห้าคนหันไปมองยังต้นเสียง เด็กตัวน้อยสวมชุดเดรสมีปกลายตารางสีแดงกับมัดแกละสองข้างและติดกิ๊บอันเล็กๆ ก็รู้ว่าแท้จริงแล้วคุณยูราอยากได้ลูกสาวแต่จับลูกชายให้แต่งแบบนี้.... ก็น่ารักดีนะ
“มาได้ยังไงครับ” คริสลุกขึ้นเดินไปอุ้มเด็กตัวเล็กที่กางแขนรออยู่แล้ว
“ให้ลุงขับรถมาส่งแต่ตอนนี้ลุงกลับไปหาคุณแด๊ดแล้ว” หนูยอลบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง สองแขนโอบรอบลำคอของคนอุ้ม
“มานั่งๆกัน น้องหนูยอลครับพวกพี่มีขนมเยอะแยะเลยนะ” พี่เปาของน้องหนูยอลกวักมือเรียกพร้อมกับหยิบถุงขนมออกมาจากถุงจากร้านมินิมาร์ทใต้คณะพอคริสอุ้มเจ้าตัวมานั่งแล้วเด็กน้อยก็ไม่ยอมลงจากตักจะนั่งตักดังนั้นพี่ๆทั้งหลายก็เลยได้พัดวีคุณน้องหนูยอลอย่างสนุกล่ะ ทั้งป้อนน้ำ ป้อนขนม เอาใจกันเข้าไป..
“แล้วนี่เลิกเรียนกันหรือยังฮะ? น้องยอลจะได้รับทุกคนกลับบ้าน” นั่นแน่ะ เด็กตัวน้อยลงทุนถึงกับมารับนักศึกษาปีสามกลับจากมหาลัยเลยนะ น่ารักจริงเชียว
“เลิกแล้วครับแต่รอเรียกพรีเซ้นต์งานอยู่” เซฮุนเป็นคนตอบแล้วก็จัดการดึงป๊อกกี้แท่งใหม่ออกจากกล่องแล้วป้อนให้เด็กตัวน้อย
“อะไรคือเซ็นๆงานฮะ” หนูยอลหันกลับไปถามคนที่นั่งอุ้มให้หนุนตักแล้วเอียงคอทำหน้าสงสัยใส่
“พรีเซ้นต์งานครับ ก็คล้ายๆกับรายงานหน้าชั้นเรียนนั่นแหละ” น้องหนูยอลยิ้มแล้วพยักหน้าตาม
“เหมือนที่คุณครูเคยเรียกน้องหนูยอลออกไปแนะนำตัวที่หน้าห้องใช่ไหมฮะ”
“ทำนองนั้นแหละครับ” แล้วหนูยอลก็ยิ้มกว้างๆ นั่งกินขนมคุยกันอีกไม่นานกลุ่มที่รายงานเสร็จแล้วก็เดินออกมาเรียกให้กลุ่มคริสขึ้นไปรายงานต่อ
“แล้วน้องหนูยอลล่ะเอาไง” ซิ่วหมินหันไปถามคริสที่อุ้มเด็กน้อยเดินตามหลังมา น้องหนูยอลเองก็เงยหน้ามองพี่ชายตัวโตเช่นกัน
“ก็ไม่ต้องเอาไงนิ ก็พาเข้าไปด้วยสิเพื่ออาจารย์อาจจะเห็นใจให้เราพรีเซ้นท์รอบเดียวผ่านก็ได้นะ” แล้วหนูยอลก็ยิ้มกว้างที่พี่หนูคริสจะไม่ทิ้งให้อยู่คนเดียว รักพี่หนูคริสที่สุดเลย~
ทั้งสี่กับอีกหนึ่งเด็กน้อยเดินขึ้นบันไดไปยังห้องประชุมเล็กที่จัดไว้สำหรับการพรีเซ้นท์รายงาน อาจารย์ทั้งสามประจำภาควิชานี้นั่งเรียงกันอยู่ที่โต๊ะแถวหน้า เมื่อประตูเปิดออกไอเย็นก็ลอยมากระทบหนูยอลจนเด็กตัวเล็กหนาวสั่น คริสเลื่อนเก้าอี้ออกมาหนึ่งตัวแล้วให้หนูยอลนั่งด้านหน้าเพื่อให้เห็นชัดๆ เพราะถ้าโต๊ะบังเดี๋ยวก็โวยวายอีก
ผ้าพันคอผืนเล็กของลู่หานถูกคริสยืมมาคลุมให้เด็กตัวน้อยๆที่นั่งกอดอกทำตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า คริสลูบหัวเด็กน้อยเบาๆก่อนที่จะเริ่มมายืนตรงหน้าอาจารย์ จงแดหยิบโน้ตบุคออกมาต่อเข้ากับจอภาพเพื่อฉายสไลด์ อาจารย์ทั้งสามหันมองเด็กน้อยที่นั่งทำตาแป๋วก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าคริส
“น้องเธอเหรอ? ถึงจะผิดกฎแต่ฉันจะอนุโลมให้นะ” น้องหนูยอลอมลมแก้มป่อง
“น้องหนูยอลไม่ใช่น้องนะฮะ น้องหนูยอลเป็นคนพิเศษของพี่หนูคริสตั้งหาก~” ถึงจะแปลกใจแต่อาจารย์ทั้งสามก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก บอกให้นักศึกษากลุ่มสุดท้ายของวันนี้เริ่มพรีเซ้นท์งานได้
จงแดรับหน้าที่คอยเลื่อนสไลด์ เซฮุน ลู่หาน ซิ่วหมินกับคริสก็สลับกันรายงาน น้องหนูยอลที่นั่งฟังก็ยิ้มกว้างอย่างถูกใจที่เห็นว่าพี่หนูคริสของตัวเองจะต้องเรียนเก่งแน่ๆ พี่ชายตัวโตพูดอธิบายหน้าสไลด์อย่างฉะฉานดูแล้วเด็กตัวน้อยก็ชื่นชอบเสียมากมมาย ดวงตากลมเป็นประกายเชียว อธิบายอยู่ได้เกือบจะสามสิบนาที การพรีเซ้นท์นี้ก็จบลง เหล่าคณาจารย์ตรงหน้าก็ก้มลงจดๆเขียนๆอะไรใส่ในกระดาษก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาขยับแว่นสายตา
“ได้คะแนนเต็มไหมฮะ?” ยังไม่ทันที่เหล่าคณาจารย์จะได้พูดอะไร เด็กน้อยก็เอ่ยถามพร้อมด้วยรอยยิ้มไปก่อนเสียแล้ว
“ต้องได้คะแนนเต็มนะฮะ คุณอาจารย์ห้ามตัดคะแนนนะฮะเพราะน้องหนูยอลชอบมากๆเลย” เออนะคนโดนขอร้องห้ามตัดคะแนนลูกศิษย์ก็งงไปสิ แต่ไอ้อาการทำตาแป๋ว ยิ้มกว้างๆนี่มันก็สปาร์คใจอาจารย์แก่ๆได้อยู่นะ
“นะฮะ~ เนี่ยพวกพี่ๆเขาทำไอ้เซ็นๆอะไรนี่ดึกมากเลย พี่หนูคริสก็ปล่อยให้น้องหนูยอลหลับก่อนทุกทีเลย น้องหนูยอลร้องไห้ทุกคืนเลยนะฮะ คุณอาจารย์จะใจร้ายตัดคะแนนได้เหรอฮะ” เจ้าตัวเล็กทำเสียงหวานออดอ้อนเต็มสตรีม ลู่หานกับซิ่วหมินแอบหลบหลังคริสแล้วหัวเราะกันเบาๆ จงแดก็แอบก้มหน้าซุกโน้ตบุคหัวเราะ เซฮุนก็หันหน้าออกไปทางอื่น ส่วนท่านคริสก็พยายามยืนทำหน้านิ่ง
“นะฮะ~ ถือซะว่าให้คะแนนความน่ารักของน้องหนูยอลก็ได้~” แล้วเจ้าตัวก็ยกสองมือทาบแก้มแล้วเอียงคอไปมา โมเอ้แอ็คแท็คอาจารย์แก่ๆเหลือเกินแล้วไอ้พวกลูกศิษย์ตัวดีก็ยืนแข้งขาพันกัน ฟินกับความโมเอ้นั้นไป แต่คนที่โดนแอ็คแท็คสุดๆก็เห็นจะเป็นพี่ชายข้างบ้านนี่ล่ะที่หัวใจเต้นรัวไม่หยุดเลย
“ไปๆๆ กลับบ้านกันได้แล้วเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” เมื่อได้ยินคำประกาศิตจงแดก็รีบเก็บของทันที ทุกคนก็ทำเนียนไม่ขอคำวิจารณ์ที่พรีเซ้นท์ไปถือว่าผ่านแบบไร้ข้อกังขาแล้วกันเนอะ
“ขอบคุณฮะคุณอาจารย์คนสวยที่จะให้คะแนนเต็ม” เออเต็มไหมไม่รู้น้องหนูยอลแกขอบคุณไปแล้ว แล้วทั้งหมดก็ออกจากห้องโดยที่คริสก็รีบมาคว้าน้องหนูยอลอุ้มแล้วเผ่นออกจากห้องก่อนเลย เออจะว่าอย่างนั้นอย่างนี้ก็กลัวโดนเรียกไปตัดคะแนนอยู่นะ เพราะฉะนั้นชิ่งหนีก่อนดีกว่า
“...... ฮ่าๆๆๆ” พอออกมาจากห้องและเดินมาได้ไกลพอสมควรทั้งหมดก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะกันเสียยกใหญ่ จะมีก็แต่เด็กน้อยที่พิงอกอุ่นๆของพี่หนูคริสนี่ล่ะที่ยังทำหน้างง
“เมื่อกี้เห็นคะแนนป่ะวะไอ้ลู่ ได้เต็มป่ะ” จงแดเอ่ยถามเพราะก่อนออกจากห้องเห็นลู่หานพยายามมองใบเขียนคะแนน
“ตอนแรกได้เอบวกว่ะแต่ตอนนี้ได้เอล่ะ โคตรจี้อ่ะ” แล้วลู่หานก็หัวเราะเสียงดังลั่น
“นี่เพราะน้องหนูยอลช่วยไว้เลยนะเนี่ย” ซิ่วหมินลูบหับเด็กน้อยอย่างเอ็นดูซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มกว้างรับคำ
“เห็นไหม น้องหนูยอลเก่ง เนอะพี่หนูคริส~” เจ้าตัวเล็กยังมีการเงยหน้าไปขอความเห็นอีกแน่ะ
“ค่ะ เก่งที่สุดเลยคนนี้อ่ะ” ว่าแล้วก็จัดการก้มหน้าลงใช้หน้าผากตัวเองแตะกับหน้าผากเล็กๆแล้วไถไปมา เด็กน้อยก็หัวเราะลั่น ส่วนคนที่เหลือก็มองหน้ากันเอง ถึงเวลาแล้วล่ะลู่หาน ซิ่วหมินที่ต้องใช้ผู้มียศให้เป็นประโยชน์
“เราไปกินหมูย่างกันไหม? มีร้านเพิ่งมาเปิดใหม่แถวบ้านพอดีเลย” เซฮุนเอ่ยพูดแทรก คือก็ไม่อยากจะขัดไงแต่กลัวจะนานกว่านี้แล้วงานจะเข้า แถวนี้ตำรวจชุมนะเว๊ย~
“ไปฮะ น้องหนูยอลไป!!” เจ้าตัวดียกมือขึ้นสูงๆเพื่อบอกว่าตัวเองจะไป จ๊ะๆ ยังไงหนูก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะเนอะ
“ดีเลยๆ ฉลองที่ได้เอเพราะน้องหนูยอลเลยเนอะ” ซิ่วหมินยื่นมือมาบีบแก้มกลมๆนั้นเบาๆ หนูยอลก็หัวเราะคิกคัก
“งั้นไอ้คริสเอ็งอ่ะเลี้ยงนะมือนี้อ่ะ” จงแดที่หมายจะเนียนกินฟรีชี้นิ้วมาทางคริสทันที เจ้าตัวก็สะดุ้งเฮือก
“เฮ้ยอะไรอ่ะ ได้เอเพราะน้องหนูยอลทำไมฉันต้องออกวะ ใช่ไหมครับน้องหนูยอลของพี่หนูคริส” โอ้โห้ ถ้าเล่นไม้นี้ก็กินฟรีไปเลยเถอะพ่อคุ๊ณ~
“ใช่ฮะ พี่แดแหละต้องเลี้ยงเพราะพี่แดไม่ได้พูดอะไรเลย” แล้วมีหรือที่คุณคิมจงแดจะปฏิเสธ
“ครับๆ เลี้ยงครับเลี้ยง”
“เย้!!~” แล้วทุกคนก็เฮโรไปที่ร้านที่เซฮุนแนะนำกัน คุณจงแดก็เดินคอตกตามไป ลู่หานเดินเข้ามากอดคอเพื่อนไว้แล้วตบไหล่
“ไม่เป็นไร เงินไม่พอป๋ามีให้ยืมคิดดอกร้อยละร้อยนะจ๊ะหนู” แล้วลู่หานก็หัวเราะแบบเยาะเย้ยเดินไปเกาะแขนซิ่วหมินแทน
แล้วทั้งห้าก็มาถึงร้านเนื้อย่างเปิดใหม่ที่เซฮุนบอก ด้วยเพราะเพิ่งเปิดร้านคนก็เลยเยอะแต่ว่ามุมของร้านก็ยังเหลือโต๊ะว่างอยู่ทั้งสี่หนุ่มและหนึ่งเด็กน้อยก็พากันไปจับจองทันที โต๊ะกลมใหญ่ๆล้อมด้วยเก้าอี้นั่งครบคน ตรงกลางโต๊ะก็เป็นเตาย่างใหญ่ๆที่ต่อท่อดูดควันขึ้นไปด้านบน เมื่อมื้อนี้มีเจ้ามือทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาสั่งอาหารกันใหญ่ ไม่กลัวเลยสักนิดว่าเจ้ามือจะกระเป๋าฉีกหรือเปล่า จงแดแอบหันไปปาดเหงื่อแล้วแง้มกระเป๋าสตางค์ดูเงินก่อนที่จะหันมานั่งคีบเนื้อย่างเอาใจเพื่อนตัวกลมที่นั่งอยู่ข้างๆ
คริสคอยคีบเนื้อย่างที่สุดแล้วให้เด็กน้อยที่ต้องต่อหนังสือให้นั่งเพราะพอนั่งแล้วโต๊ะอยู่แค่ระดับสายตาเท่านั้น คุณพี่ๆที่ใจดีเลยหยิบหนังสือเล่มหนาๆออกมากันแล้วรองเป็นเบาะให้ตัวน้อยนั่ง หนูยอลก็อารมณืดีคีบเนื้อย่างใส่ปากไป แอบหนีบเนื้อย่างของพี่หนูคริสกินไป ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นมีคนสั่งไอศกรีม ไอศกรีมสีสวยในถ้วยสแตนเลสเย็นๆลอยผ่านหน้าไป เจ้าตัวก็มองตาม มือเล็กดึงแขนเสื้อของคนข้างๆแล้วกระตุกเรียก
“พี่หนูคริส น้องหนูยอลกินไอติมได้ไหมฮะ” ปากก็เอ่ยถามไป ตาก็มองตามถ้วยไอศกรีมนั้นไป
“ได้ครับแต่ต้องกินให้อิ่มก่อนถึงจะกินไอติมได้นะ” เด็กตัวน้อยหันกลับมาทำแก้มป่องแล้วส่ายหน้า
“น้องยอลอยากกินแล้วนะฮะ นะพี่หนูคริส~” น้องหนูยอลใช้สายตากลมๆกับรอยยิ้มกว้างๆแอ็คแท็คพี่ชายตัวโต แต่ครั้งนี้ดูท่าความแรงจะไม่พอ
“ไม่ได้ครับ” หนูยอลทำหน้างอ แก้มป่องล้วทำตาวาวน้ำเพื่ออ้อนแต่ประกาศิตจากพี่ชายตัวโตก็ทำให้น้องหนูยอลต้องก้มหน้ากินเนื้อย่างตรงหน้าต่อ
“ถ้าดื้อพี่หนูคริสไม่รักนะคะ” โอเค จบเรื่อง..
พอน้องหนูยอลกินเนื้อย่างในส่วนของตัวเองหมดคริสก็สั่งไอศกรีมสีสวยๆมาให้เด็กน้อยทันที และพอเห็นไอศกรีมน้องหนูยอลก็ลืมไปหมดแล้วว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น มือเล็กกำปลายช้อนแล้วตัดเนื้อครีมเย็นๆเข้าปากแล้วยิ้มกว้างจนแก้มกลมดันดวงตาโตให้เล็ก ดูแล้วน่าเอ็นดูจนคนที่หยิบทิชชูมาเช็ดไอศกรีมที่เลอะมุมปากให้ยังอดที่จะยิ้มเอ็นดูไม่ได้เลย
เพื่อนทั้งสี่ก็มองหน้ากันแล้วก็อมยิ้มไปกับพี่น้องต่างไซส์ข้างบ้านคู่นี้ ก็ไม่ปฎิเสธว่าน่ารักและอบอุ่น คนเป็นพี่ก็ดูแลประคบประหงมน้องตัวน้อยเสียเหลือเกินและก็รู้ว่าถึงจะดูแลเอาใจยังไงน้องหนูยอลก็คงไม่เสียนิสัยแน่นอน ถึงจะดูเพื่อนร่างสูงชอบตามใจแต่ก็มีลิมิตอยู่ในตัวของมันเอง ให้คริสเลี้ยงน้องหนูยอลน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ไอ้คนเลี้ยงน่ะสักวันคงเป็นแน่ๆ
“ไงหมดตัวหรือเปล่าล่ะน่ะ” ซิ่วหมินเอ่ยถามจงแดที่เดินหน้าแก่ออกมาจากร้าน ลู่หานดูท่าว่าจะสะใจสุด หัวเราะเสียงดังลั่นอยู่คนเดียวไม่เกรงใจใครเลย
“....” จงแดไม่ตอบแต่ทำเนียนเดินคอตกเข้าไปกอดซิ่วหมิน แต่ลู่หานก็เดินมาดึงจงแดออกจากตัวกลมๆของซิ่วหมิน อย่านะเว๊ย เพื่อนกูใครห้ามแตะ (ลู่แตะได้คนเดียว อิอิ)
“เออแยกกันตรงนี้นะ มืดแล้วเนี่ย” คริสเอ่ยแทรกก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะรับฝีปากใส่กัน
“กลับดีๆล่ะ” น้องหนูยอลก็โบกมือบ๊ายบายพี่ๆหยอยแล้วก็กอดคอคุณพี่ชายข้างบ้านด้วยตาปรือๆ ก็กินอิ่ม(มาก)แล้วหนังตามันก็หย่อนอะฮะ น้องหนูยอลเปล่าขี้เกียจนะ~
“พวกมึงว่าวันเข้าค่ายจะเป็นไงวะ” เซฮุนเอ่ยถาม ทั้งสี่มองตามหลังคริสที่อุ้มเด็กน้อยที่หลับไปแล้วขี้นรถแท็กซี่กลับบ้าน
“วุ่นวายแหงๆ ไม่ต้องใช้หมอดูฟันธง ลู่หานฟังธงเองเลย” ซิ่วหมินพยักหน้าเห็นด้วย
“ร้องไห้บ้านแตกแน่ๆ”
“เอาเหอะ แยกย้ายกลับบ้านเหอะต้องเตรียมเก็บของอีก” แล้วทั้งสี่ก็ออกเดินไปตามทางกลับบ้านของตนเอง ถึงวันข้างหน้าจะยุ่งวุ่นวายก็เอาเถอะ ผู้ชมที่ดีจะนั่งติดขอบจอทีวีเลยเอาสิ
คริสอุ้มเด็กน้อยที่หลับไปแล้วแนบอกไว้กันไอเย็นของรถแท็กซี่จะบาดผิวนิ่มแล้วเจ้าตัวยุ่งจะหนาว เด็กน้อยขยับตัวหาที่ซุกก่อนที่จะนิ่งไป ดวงตาคู่คมก้มลงมองเด็กในอ้อมแขนแล้วก็ยิ้มกับความน่ารักของเด็กน้อยแสนร่าเริงนี้ ตั้งแต่มีเด็กตัวเล็กๆเข้ามาในชีวิตแล้วเจ้าตัวก็รู้สึกว่า ชีวิตในทุกๆวันนั้นมีความสุขและยิ้มไปกับรอยยิ้มของเด็กตัวน้อยๆนี้ได้
ที่เขาว่ากันว่าเด็กน้อยคือองค์เทวดา องค์นาฟ้าที่แสนบริสุทธิ์ก็สงสัยว่าท่าจะจริงเสียแล้วล่ะ แค่มีเด็กน้อยนี้ก็เหมือนตนได้พรศักดิ์สิทธิ์มาครอบครองแล้ว คริสไม่กล้าคิดถึงเรื่องที่มันไกลเกินกว่านี้แค่เพียงคิดว่า ถ้าสักวันหนึ่งน้องหนูยอลเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จะต้องมีคนรัก ... และอาจจะต้องแต่งงาน อย่างนั้นหรือ? ถ้าสักวันต้องห่างกันจะทำใจได้ไหมนะ
“พี่หนูคริส” เด็กน้อยละเมอเรียกคนอุ้มพร้อมกับซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นเพราะแอร์ในรถเย็นจนเด็กน้อยหนาวกาย คริสรัดอ้อมแขนแล้วก้มลงจรดริมฝีปากที่กระหม่อมกลมสวยเบาๆก่อนที่จะแย้มยิ้มออกมา
“อยู่นี่ครับ” ช่างมันเถอะ แค่วันนี้ยังอยู่ด้วยกัน วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเนอะ..
เช้าวันใหม่ที่สดใสกับกลิ่นอาหารหอมๆก็เรียกให้เด็กน้อยที่สวมชุดเตรียมพร้อมเที่ยวเดินลงมาจากบันไดของบ้านตัวเองแล้วก็ยิ้มกว้างๆ กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ในแจกันลอยมาแตะปลายจมูก วันนี้เด็กตัวเล็กไม่ได้มัดแกละแต่รวบผมไว้หลวมๆแล้วผูกโบว์สีแดงอันใหญ่ๆไว้ โบว์ที่คุณแด๊ดซื้อมาฝากและวันนี้หนูยอลก็คิดว่าตัวเองน่ารักที่สุดแล้ว
บานประตูถูกเปิดออกด้วยพี่เลี้ยงที่เดินตามหลังมา วันนี้คุณลุงกับคุณป้าของพี่หนูคริสต้องไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด วันนี้ก็เลยเป็นวันแรกที่พี่หนูคริสจะมากินข้าวเช้าที่บ้านของน้องหนูยอล แน่นอนว่าพี่ชายตัวโตน่ะยังไม่ตื่นหรอก พี่หนูคริสของน้องหนูยอลน่ะขี้เซาจะตาย~ บานประตูห้องนอนของพี่หนูคริสถูกเปิดออกด้วยมือของพี่เลี้ยงคนเดิมก่อนที่เธอจะเดินกลับไปที่บ้าน
“พี่หนูคริสฮะ~~” หนูยอลเดินมาเกาะที่ข้างเตียงแล้วเอ่ยเรียกเสียงหวานก่อนที่จะยื่นมือไปเขย่าไหล่กว้างๆของพี่ชายตัวโต เปลือกตาทิ่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นเมื่อมองว่าคนที่ยืนไม่ห่างเตียงนี้เป็นใครริมฝีปากบางได้รูปก็วาดรอยยิ้ม ฝ่ามือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนิ่มก่อนที่จะโยกหัวคนมาปลุกไปมา
“ไปกินข้าวบ้านน้องหนูยอลนะฮะ” เด็กตัวน้อยยิ้มกว้างซึ่งคริสก็ลุกขึ้นนั่งแล้วเสยผมยุ่งๆของตัวเองลวกๆ ก็แล้วจะรู้ไหมนะว่าคนมองอยู่น่ะเขินแค่ไหน แก้มกลมๆซับสีเลือดจางๆก่อนที่หนูยอลจะได้ยินเสียงแก้มของตัวเองไหม้เสียอีก
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อนนะครับ” คริสก้าวเท้าลงจากเตียง น้องหนูยอลก็เงยหน้ามอง พี่ชายใจดีเลยก้มลงอุ้มแล้วช้อนตัวเด็กน้อยให้ขึ้นนั่งบนเตียง ดวงตาคมมองที่เด็กน้อยก่อนที่จะก้มหน้าลงประทับรอยอุ่นที่แก้มกลมๆ
“วันนี้ก็น่ารักอีกแล้วนะ” ทิ้งไว้แค่นั้นก่อนที่จะเดินหันหลังไปอาบน้ำ น้องหนูยอลที่เพิ่งโดนหอมแก้มไปก็นั่งทำตาโตตกใจ แก้มก็แดงเรื่อเสียจนน่ามองแต่คนที่อยากให้มองก็เข้าห้องน้ำปิดประตูไปเสียแล้ว สองมือเล็กยกขึ้นปิดแก้มแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างเขินอาย
ใครกันนะบอกว่าพี่หนูคริสน่ะชอบเขินน้องหนูยอล น้องหนูยอลก็เขินเป็นนะ! แล้วก็ไม่ใช่แค่พี่หนูคริสคนเดียวเสียหน่อยที่อยากจะอยู่ด้วยกันไปนานๆน่ะ น้องหนูยอลก็อยากอยู่กับพี่หนูคริสไปตลอดเหมือนกัน
ไม่นานพี่ชายตัวโตก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย คริสเดินกลับมานั่งที่ปลายเตียงเพื่อเช็ดผมให้แห้ง หนูยอลที่นั่งอยู่บนเตียงก็คลานเข่ามาหาคนที่นั่งหันหลังก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปช่วยฝ่ามือใหญ่ๆที่ขยี้ผ้ากับเส้นผมสีทองสว่างนั้น คริสหยุดมือแล้วหันมามองด้านหลัง น้องหนูยอลยื่นหน้าไปยิ้มกว้างๆให้ก่อนที่คริสจะละมือออกจากผ้านั้นแล้วปล่อยให้เด็กน้อยได้ละเลงมือเช็ดผมให้
“ผมแห้งแล้วไปกันครับ” คริสเอาผ้าไปแขวนไว้ที่ราวตากผ้าก่อนที่จะมาอุ้มเด็กน้อยลงไปกินข้าวเช้าที่บ้านข้างๆ
“วันนี้คุณแด๊ดกับคุณมี้จะพาน้องหนูยอลไปซื้อเสื้อผ้าแล้วก็กระเป๋าเตรียมไปโรงเรียนด้วยล่ะ~” คริสเลิกคิ้วแล้วมองเด็กในอ้อมแขน
“จริงอ่ะ? จะเปิดเทอมแล้วเหรอครับ”
“ยังฮะ แค่ไปซื้อไว้เฉยๆเพราะวันนี้พี่หนูคริสอยู่คนเดียวน้องหนูยอลก็เลยชวนเที่ยว~” คริสหัวเราะแล้วเปิดประตูเข้าบ้านของเด็กน้อย
“มาแล้วเหรอจ๊ะ ไปๆกินข้าวกัน” คุณมี้ของน้องหนูยอลเดินออกมารับที่หน้าประตูแล้วก็พาเดินไปที่ห้องทานอาหารด้วยกัน
โต๊ะอาหารตัวยาวที่ยาวเกินความจำเป็น บนโต๊ะนั้นมีอาหารเช้าประจำที่ของแต่ละคน หัวโต๊ะก็เป็นประมุขของบ้าน ถัดมาทางซ้ายก็เป็นคุณผู้หญิงของบ้าน ด้านขวาก็เป็นลูกชายตัวน้อยและด้านข้างที่พ่วงแขกพิเศษของบ้าน ผ้ากันเปื้อนลายสีชมพูน่ารักถูกผูกไว้ให้เด็กตัวน้อย น้องหนูยอลถือส้อมเตรียมทานเบรกฟัสตรงหน้า
ในจานประกอบด้วยไข่ดาว แฮมทอด ไส้กรอกเล็กทอด ขนมปังปิ้งทาเนย และผักต้มนิดหน่อยพอแก้เลี่ยน แต่ของน้องหนูยอลได้ไข่คนมาแทนไข่ดาว แก้มกลมป่องออกยามที่เจ้าตัวเคี้ยวตุ้ยๆ พี่ชายตัวโตเองก็อมยิ้มกับท่ากินที่น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน สองมือเล็กประคองแก้มนมใบโตแล้วลากมาใกล้ๆเพื่อที่จะยกดื่มแต่แล้วมือใหญ่ๆก็คว้ามาป้อนให้ เจ้าตัวยุ่งก็ยิ้มกว้างอย่างถูกใจ หลังจากป้อนนมเสร็จคริสก็จัดการหั่นขนมปังปิ้งให้เป็นชิ้นเล็กๆและจิ้มผักต้มป้อนเจ้าตัวเล็กที่ทำท่าว่าจะเนียนไม่ยอมกิน
หลังจากจบมื้ออาหารเช้าทุกคนก็ได้เวลาที่จะไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เจ้าตัวเล็กเสียที คริสกับหนูยอลนั่งที่เบาะด้านหลัง ส่วนด้านหน้าก็เป็นคุณแด๊ดคุณมี้ของเด็กน้อย รถคันสวยแล่นเข้าไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พอคุณแด๊ดดับเครื่องยนต์เจ้าตัวเล็กที่ว่าพาพี่ชายตัวโตมาเที่ยวก็กระโดดลงจากรถเป็นคนแรกเลย
“วันนี้ห้ามซนนะคะน้องหนูยอล” คุณมี้ชี้นิ้วใส่เด็กน้อยที่ยืนยิ้มกว้างด้วยท่าทีหยอกเย้า คนโดนกล่าวหาว่าซนก็ทำปากยื่น
“น้องหนูยอลไม่เคยซนนะฮะ น้องหนูยอลเป็นเด็กดี” คุณมี้ก็แค่ยิ้มแต่คุณแด๊ดนี่มาแรงกว่า อ้อนแขนยาวอุ้มลูกน้อยขึ้นสูง
“ห้ามดื้อด้วยเพราะถ้าดื้อจะตีก้นให้ลายเลย เอาให้อายพี่หนูคริสไปเลยเป็นไง” น้องหนูยอลทำหน้ายู่ก่อนที่จะโผไปหาพี่หนูคริส คริสรับเด็กน้อยที่โถมตัวมาหาแล้วก็รับมาอุ้มแทน
“น้องยอลไม่เคยดื้อเนอะพี่หนูคริส” เด็กน้อยวาดมือโอบรอบคอคนอุ้มแล้วยิ้มหวาน เอียงคอทำตาโตใส่ พลังแอ็คแท็ครุนแรงทำลายล้างระดับสิบ
“ครับๆ ไม่ดื้อครับ” คริสละมือข้างหนึ่งที่โอบหลังของหนูยอลมาโยกหัวของคนอ้อนเบาๆ เจ้าตัวดีที่ได้คำตอบถูกใจก็ยิ้มกว้างแล้วจุ๊บแก้มพี่ชายตัวโตที่พูดถูกใจไปฟอดใหญ่ๆ
“คุณแด๊ดดี้ว่าน้องหนูยอลจะเสียคนก็เพราะโดนตามใจมากๆนี่ล่ะ” ไม่รู้ว่าท่านกล่าวเล่นหรือกล่าวจริงแต่ขอบอกว่าคริสนี่ขนลุกไปแล้วทั้งตัว เหมือนท่านพูดว่าฉันรู้นะว่าแกคิดไม่ซื่อกับลูกตัวเล็กๆของฉัน อารมณ์ประมาณนั้นเลย นี่ถ้ามีปืนมาส่องกบาลหน่อยนะคริสอู๋นั่งคุกเข่าเอาหัวกระแทกพื้นไปแล้วเถอะ
“คุณแด๊ดอย่ามาว่าพี่หนูคริสของน้องหนูยอลนะ!! พี่หนูคริสไม่ได้ตามใจสักหน่อย เนอะ~” ดวงหน้าน่ารักที่งอง้ำหันมาถามความเห็นก่อนที่จะเอียงคอยิ้มกว้าง “แต่พี่หนูคริสรักน้องหนูยอลตั้งหาก” จ๊ะ บอกพ่อหนูเอาปืนมาเป่ากบาลพี่ชายเลยจ๊ะ
“เอ่อ...” ไอ้จะตอบรับก็กลัวโดนยัดลูกปืนเข้าร่าง ไอ้จะปฏิเสธก็กลัวจะโดนแม่หนูน้อยในแขนตระกุยหน้าเอา เกิดเป็นคริสอู๋นี่ช่างเลือกลำบากนัก(ว่าจะตายแบบไหน)
“เข้าไปด้านหน้าห้างกันเถอะค่ะ แหม คุณก็ไปแกล้งตาคริสเขา” แล้วคุณมี้ก็ควงสามีเดินเข้าประตูห้างไป เหลือแต่เด็กน้อยที่ทำหน้ารอคำตอบกับผู้ชายที่ยืนเหงื่อตก แหมถ้าจะล้อเล่นแบบนี้ช่วยจั่วหัวบอกหน่อยได้ไหมครับ กระผมกลัวลูกปืนนะบอกตรงๆ
“ว่าไงฮะ?” แอ็คแท็คด้วยการเอียงคอทำหน้าแบ๊วอีกที
“รักครับ รักที่สุดเลย” เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจคริสก็ได้รางวัลเป็นจุ๊บที่ปากไปสองที คนให้รางวัลทำเองก็เขินเองก้มหน้าซบลงกับซอกคอของคนอุ้มที่เดินยิ้มเป็นคนบ้า ใครจะว่าบ้าก็ยอมแล้วอ่ะ!
น้องหนูยอลร่าเริงและลัลล้ามากกับร้านเสื้อผ้าต่างๆโดยที่มีคุณมี้นำเสื้อผ้าหลากหลายแบบมาทาบตัวน้อยๆของหนูยอล คริสก็ได้แต่อุ้มเดินพาเจ้าตัวน้อยเข้าร้านนั้นร้านนี้ เสื้อผ้าทุกชุดที่คุณมี้เลือกน้องหนูยอลจะต้องหันมาถามพี่ชายตัวโตว่าสวยไหม น่ารักไหม ถ้าน้องหนูยอลใส่แล้วจะน่ารักหรือเปล่า ชุดไหนก็น่ารักซื้อไปเถอะจ๊ะ
“พี่หนูคริส~ ระหว่างสีชมพูกับสีฟ้า พี่หนูคริสว่าน้องหนูยอลใส่สีไหนสวยฮะ?” เด็กน้อยชี้ไปที่ชุดเดรสชีฟองที่ตีบานเป็นชุดนางฟ้าในมือของมารดาที่ยืนยิ้มมั่นใจเสียเต็มที่ คริสกระพริบตาปริบๆมองชุดสองสีนั้นสลับกับใบหน้าของคนเป็นแม่และเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างมารดา แน่ใจนะว่านั่นจะใส่ไปโรงเรียน?
“อ่า.... สีไหนก็น่ารักครับ” คริสลงนั่งยองๆแล้วบีบแก้มนิ่มๆสองข้างของเด็กน้อยเบาๆ หนูยอลพองแก้มแล้วส่ายหน้าไปมา
“น้องหนูยอลให้พี่หนูคริสเลือกได้แค่สีเดียวฮะ ถ้าพี่หนูคริสรักน้องหนูยอลต้องตอบถูกสิว่าน้องหนูยอลใส่สีไหนแล้วสวย” คริสยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนแล้วคว้าชุดในมือของมารดาเด็กน้อยที่ยืนถือชุดมาหนึ่งชุดแล้วลงนั่งยองๆท่าเดิม มือเรียวทาบชุดเดรสชีฟองสีหวานเข้ากับตัวของเด็กน้อยที่ยิ้มกว้าง
“สีชมพูครับ” เด็กน้อยชอบสีชมพูก็แล้วทำไมจะไม่รู้กันล่ะเนอะ เมื่อได้คำตอบที่แสนจะถูกใจเด็กน้อยก็โผเข้ากอดแล้วจุ๊บที่ปลายจมูกโด่งของคนเลือกชุดได้ถูกใจเป็นรางวัล
“เห็นไหมว่าน้องหนูยอลก็เป็นคนพิเศษของพี่หนูคริส เป็นเจ้าสาวของพี่หนูคริสได้” ห๊ะเดี๋ยวนะ!~ อะไรนะ!!!!
“คุณมี้น้องหนูยอลเอาสีชมพูนะฮะ” แล้วเจ้าตัวดีที่สร้างเรื่องไว้ก็หันไปหาคุณมี้แล้วก็จูงมือคุณมี้ไปเลือกเสื้อผ้าต่อ ทิ้งให้คนโดนน็อคเอ้าท์นั่งอยู่ที่เดิมกับรังสีอำมหิตจากคุณแด๊ดที่ยืนอยู่ด้านหลังและยืนมองอยู่นานแล้ว ไม่ต้องเข้าคุกแล้วล่ะกู ฝังเลยเถิด อาเมน...
หลังจากช็อปเสื้อผ้าเสร็จ คุณแด๊ดกับคุณมี้ก็ควงคู่กันไปเดินซื้อเครื่องครัวใหม่เข้าบ้านเสียหน่อย น้องหนูยอลกับพี่หนูคริสก็เลยมาเดินเล่น แย่งกันกินไอศกรีมโคนในมือของพี่ชายตัวโต แต่คนถือจะได้ลิ้มรสไอกศรีมแสนอร่อยนี้ไม่ทันเด็กตัวน้อยที่หัวเราะเริงร่ากับการได้แกล้งพี่ชายตัวโตหรอก น้องหนูยอลที่เห็นว่าแกล้งคุณพี่ชายข้างบ้านจนพอใจแล้วก็จับโคนไอศกรีมนั้นมาถือไว้เองแล้วก็ยื่นป้อนให้พี่ชายได้กินบ้าง คริสยิ้มแล้วก้มลงลิ้มเนื้อครีมหวาน
“คริสนินา คริส~” เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงตะโกนเรียก คริสก็เลยต้องหยุดเดินแล้วหันไปด้านหลังที่ได้ยินเสียงเรียกและเสียงวิ่ง
“ราอิม?” หญิงสาวที่วิ่งมาหยุดยืนใกล้ๆยิ้มกว้าง น้องหนูยอลตีสีหน้าไม่พอใจมองหญิงสาวคนนั้น
“ใช่แล้ว เราคิดว่าคริสจะจำเราไม่ได้นะเนี่ย” หญิงสาวยิ้มแล้วเหลือบมองเด็กน้อยที่มองหน้าหล่อนแบบรังเกียจ “น้องคริสเหรอ? น่ารักจัง”
“น้องหนูยอลไม่ใช่น้อง แล้วก็ไม่ต้องยื่นมือมาจับน้องหนูยอลไม่ชอบ!” เด็กตัวน้อยเบี่ยงหนีมือที่หมายจะเอื้อมมาจับ หญิงสาวหน้าเสียไปแว่บนึงก่อนที่จะหันไปยิ้มกว้างให้คริส
“แล้วราอิมมาทำอะไรครับ” น้องหนูยอลสะบัดหน้าไปมองใบหน้าของคริสแล้วก็ทำหน้าบูด พี่หนูคริสไปคุยกับยัยป้านี่ทำไม!!
“เรามาทานข้าวน่ะ คริสทานข้าวหรือยังไปด้วยกันสิ นะ~” ยังจะมาอ้อนอีก น้องหนูยอลพองแก้มทำตาเหลือกแล้ว ไม่ชอบเลยจะบอกให้!!
“อ่า.. ไม่เป็นไร ไว้โอกาสหน้านะ” คริสส่งยิ้มให้หญิงสาวแต่น้องหนูยอลไม่พอใจ ทำหน้าบูดยกแขนกอดอก
“ไม่มีโอกาสหน้าฮะ น้องหนูยอลไม่ไปแล้วก็ไม่ให้พี่หนูคริสไปด้วย แค่นี้นะ!” แล้วเจ้าตัวก็สะบัดหน้าหนีหมายว่าไม่อยากคุยต่อ ดวงตากลมโตมองจ้องกับดวงตาคมที่มองสบมา ในแววตานั้นทั้งตกใจ ทั้งขบขันแต่น้องหนูยอลก็ไม่สนใจ แก้มขาวแดงจัดด้วยความโกรธและใบหน้าน่ารักก็บูดบึ้งมากเสียด้วย คริวหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วยกมือขึ้นโยกหัวกลมๆไปมาเบาๆ
“ตามนั้นครับ เดี๋ยวเราไปดูตุ๊กตาพี่คิตตี้กันเนอะ” พอได้ยินว่าคิตตี้เจ้าตัวดีก็ยิ้มร่าแล้วกอดรอบคอคนเอาใจก่อนที่จะไถหัวไปมาอย่างอารมณ์ดี
“ไปฮะ รักพี่หนูคริสจัง” คริสยิ้มแล้วลูบกลุ่มผมนิ่ม ลูบแผ่นหลังเล็กนั้นอย่างเอ็นดูก่อนที่จะหันมาหญิงสาวที่ยืนทำหน้าเคลิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของทุกคนยิ้มกว้างด้วยแววตาที่อ่อนโยนแบบนี้
“ถ้างั้นขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่มหาลัยนะ” ยังไม่ทันที่คริสจะเอ่ยจบประโยคดี เด็กตัวน้อยก็สะบัดหน้าไปหายัยป้าคนนั้นแล้วพูดด้วยเสียงที่บอกได้เลยว่าถ้าน้องหนูยอลตัวโตนะมีท้าตบแล้วนะจ๊ะ ไม่ไหวจะเคลียร์
“ไม่ให้เจอ ไม่ต้องมาเจอเลยนะ!!” พูดแล้วก็สะบัดหน้ากลับไปซุกคอของพี่ชายตัวโตต่อ คริสยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆก่อนที่จะก้มหัวลาหญิงสาวแล้วหันหลังเดินจากมา หนูยอลที่มองหญิงสาวคนนั้นทำตาโตใส่ก่อนที่จะทำท่าปาดคอตามที่เคยดูในละครที่นั่งดูกับคุณแด๊ด
นี่ถ้าน้องหนูยอลตัวโตนะ น้องหนุยอลไม่ทนแล้วนะ!!! น้องหนูยอลจะตระกุยหน้าให้เละเลย!!!! คอยดูเถอะ น้องหนูยอลจะตัวโตๆ ตัวสูงๆ จะไม่ให้ใครได้เห็นพี่หนูคริสเลย!!!
“พี่คิตตี้!!!” เมื่อเข้าไปในร้านเฮลโหลคิตตี้ได้เจ้าตัวน้อยก็ดิ้นขอลงแล้ววิ่งยิ้มร่าเข้าไปในร้านทันที ลืมเรื่องหัวเสียเมื่อครู่ไปหมด คริสยืนเท้าเอวอยู่หน้าร้านแล้วก็หัวเราะ เด็กหนอเด็ก~
“พี่หนูคริสเร็วๆ มาช่วยน้องหนูยอลเลือกพี่แดเนียลหน่อย~~” คริสก้าวเท้าเข้าร้านสีชมพูหวานที่ไม่เหมาะกับตัวเองแล้วก็ต้องขนลุก สีชมพูหวานเลยนะเฮ้ย หวานจนขนลุกอ่ะอยากบอก
“พี่หนูคริสว่าน้องหนูยอลจะซื้อพี่แดเนียลชุดไหนดีฮะ” เด็กน้อยหันไปถามคริสที่ลงนั่งยองๆซ้อนอยู่ด้านหลัง ตุ๊กตาแดเนียลเซ็ทที่เพิ่งออกใหม่นี้มีสามชุด มีชุดสูท ชุดไปรเวทแล้วก็ชุดฮันบก
“แล้วพี่คิตตี้เป็นตัวไหนละคะ? หื้ม?” น้องหนูยอลยิ้มกว้าง
“น้องหนูยอลซื้อไปแล้ว วันนี้น้องหนูยอลจะซื้อพี่แดเนียล”
“แล้วพี่คิตตี้ใส่ชุดอะไรครับ” น้องหนูยอลยิ้มกว้างแล้วหันมาหาคนที่นั่งยองๆซ้อนหลังทั้งตัวก่อนจะยกมือแนบแก้มของคนเป็นพี่
“น้องหนูยอลมีทุกแบบเลย แต่น้องหนูยอลไม่มีพี่แดเนียลให้พี่คิตตี้” คริสยิ้มแล้วเอื้อมมือหยิบพี่แดเนียลชุดสูทมาส่งมาให้
“งั้นเอาชุดนี้ไหมครับ พบกันครั้งแรกพี่แดเนียลต้องหล่อเนอะ” น้องหนูยอลยิ้มกว้างแล้วอุ้มพี่แดเนียลไว้กับตัวเอง แก้มกลมดันดวงตาโตให้เล็กจนเป็นรูปเสี้ยวดวงจันทร์ดูน่ารักไม่หยอก
“ก็ได้ฮะ ชุดสูทนี้เหมือนชุดเจ้าบ่าวเลยพี่คิตตี้ตัวโปรดของน้องหนูยอลก็เป็นพี่คิตตี้ใส่ชุดเจ้าสาว เห็นไหมว่าพี่หนูคริสรู้ใจน้องหนูยอลด้วย เราก็เป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันได้เนอะ~” แล้วก็ยื่นหน้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากบางเฉียบนั้นก่อนที่จะยืนก้มหน้าซุกพี่แดเนียลด้วยความเขินอาย คนที่ทำถูกใจแล้วจุ๊บเป็นรางวัลก็ยิ้ม หัวใจก็เต้นรัวเร็วยิ่งกว่ารัวกลองสะบัดชัยเสียอีก
“ไปจ่ายเงินกัน ป่านนี้คุณแด๊ดกับคุณมี้รอนานแล้วมั้งเนอะ” แล้วคริสก็อุ้มทั้งเด็กน้อย ทั้งพี่แดเนียลไปที่เค้าน์เตอร์เพื่อชำระเงิน
“สวัสดีค่ะสนใจร่วมกิจกรรมกับเราไหมคะ? ทางร้านตอนนี้กำลังจัดกิจกรรมถ่ายรูปน้องๆแล้วจัดให้โหวตว่าใครจะได้เป็นพริ้นซ์และพริ้นเซสที่จะได้มาแต่งตัวเป็นคิตตี้กับแดเนียลและได้ถ่ายรูปในฉากจำลองที่สร้างเป็นปราสาทของคิตตี้ค่ะ” คริสน่ะไม่อะไรหรอกแต่เด็กน้อยน่ะเบิกตากว้าง ทำตาวาวแล้ว
“สนใจฮะ!! น้องหนูยอลจะถ่ายนะ น้องหนูยอลอยากเป็นพี่คิตตี้ในปราสาท!!”
บนเก้าอี้เล็กสำหรับเด็กน้องหนูยอลกำลังนั่งยิ้มกว้างให้พี่ตากล้องเก็บภาพอยู่ จริงๆก็จะแค่รูปเดียวนั่นล่ะแต่เด็กตรงหน้าน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ พี่ตากล้องก็เลยขอเก็บภาพไว้เยอะหน่อย ยิ้มไปยิ้มมาก็เริ่มที่จะเหี่ยวเสียแล้วสิ ใบหน้าน่ารักพองลมแล้วกวักมือเรียกพี่ชายตัวโตที่ยืนข้างตากล้องให้เข้ามาหา
“มาถ่ายกับน้องหนูยอลสิฮะ น้องหนูยอลเหงา” เมื่อพี่ตากล้องพยักหน้าอนุญาตชายหนุ่มก็ก้าวเท้าเข้าไปลงนั่งที่พื้นข้างๆเด็กน้อยที่นั่งบนเก้าอี้ น้องหนูยอลหันมายิ้มกว้างและคริสก็หันไปมองแล้วยิ้มให้ ทั้งสองไม่รู้ตัวหรอกว่าโดนเก็บภาพไปแล้วเรียบร้อย
พอพี่ตากล้องให้สัญญาณคริสก็ยิ้มให้กล้องแต่เด็กน้อยน่ะรอโอกาสอยู่แล้วที่จะจุ๊บแก้มนั้นก่อนที่พี่ตากล้องจะกดชัตเตอร์เจ้าตัวแสบก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่ชายที่ยิ้มให้กล้อง และกล้องก็เก็บภาพนั้นได้ทัน น้องหนูยอลที่อุ้มพี่แดเนียลและกำลังหอมแก้มพี่ชายตัวโตนั้นถูกใจพนักงานในร้านและเจ้าตัวยิ่งนัก
“น้องหนูยอลเอารูปที่ถ่ายกับพี่หนูคริสหมดเลยได้ไหมฮะ” เด็กน้อยถามพี่พนักงานสาวที่บอกให้เลือกรูปได้หนึ่งใบ ก็น้องหนูยอลอยากได้หมดเลยนินา~
“ถ้าอย่างนั้นเอางี้นะคะ พี่จะให้หนูเลือกรูปหนูหนึ่งใบนะแล้วก็รูปนี้” ปลายนิ้วของพี่พนักงานชี้รูปที่หนูยอลหอมแก้มคริส “พี่จะแถมให้ ส่วนรูปทั้งหมดพี่จะไรท์ใส่แผ่นแล้วส่งไปพร้อมกับกรอบรูปนะจ๊ะ”
“พี่สาวคนสวยใจดีจังเลย!~” เด็กน้อยชูสองมือขึ้นมาอย่างร่าเริง
“จะดีหรือครับ” หญิงสาวหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นค่าจ้างที่มานั่งให้ถ่ายรูปตั้งเยอะล่ะกันเนอะ ถ้ายังไงเดี๋ยวกรอกรายละเอียดให้หน่อยนะคะ” คริสก็เขียนที่อยู่บ้านของตัวเองไปและน้องหนูยอลก็เลื่อนดูรูปไปมา ไม่อยากจะบอกเลยว่าเขินมาก! แต่น้องหนูยอลชอบรูปนั้นจริงๆนะ รูปที่หอมแก้มพี่หนูคริสน่ะ
“เดี๋ยวคืนนี้ทางเราจะลงรูปในเว็บนะคะ ยังไงก็เข้าไปโหวตด้วยนะคะ” แล้วเธอก็หยิบใบกิจกรรมมาส่งให้คริส คริสรับมาแล้วก้มหัวขอบคุณก่อนที่จะอุ้มเด็กน้อยและถือถุงตุ๊กตาพี่แดเนียลออกจากร้านไป
“พี่หนูคริสว่าน้องหนูยอลจะชนะไหมฮะ?” น้องหนูยอลยู่ปากอย่างใช้ความคิด คริสเห็นแล้วก็อดหมั่นเขี้ยวไม่ได้เลยฝังปลายจมูกที่แก้มกลมๆนั้นหนึ่งที
“ต้องได้สิ ลืมแล้วหรือไงว่าเรามีใคร? พี่ลู่ พี่เปา พี่แด พี่ฮุนไง รับรองว่ายังไงก็ไม่พลาดหรอก” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะเสียงใส จริงๆจะชนะหรือไม่ชนะหนูยอลก็ไม่สนหรอกแค่ได้รูปใบนั้นก็พอ เมื่อไหร่รูปใบนั้นจะส่งมาน้า~ น้องหนูยอลจะเฝ้าพี่ไปรษณีย์ทุกวันเลย
“พี่หนูคริสฮะ” ดวงตากลมๆมองคนอุ้มด้วยนัยน์ตาที่แย้มยิ้มเสียเต็มดวงตา สองมือเล็กแนบที่แก้มสากไว้ ใบหน้าน่ารักเอียงคอทำมุมองศาน่ารัก
“ครับ?”
“พี่หนูคริสเป็นของน้องหนูยอลนะฮะ ห้ามนอกใจนะฮะ” คริสยิ้มแล้วเลื้อนหน้าใช้มาจนปลายจมูกชนกับจมูกเล็กๆของเด็กน้อย
“น้องหนูยอลก็เป็นของพี่หนูคริสนะครับ ห้ามมีคนอื่นนะ ห้ามรักผู้ชายอื่นนะ รู้ไหม?” ว่าแล้วก็เอียงหน้าวางสัมผัสที่กลีบปากเล็กเบาๆ น้องหนูยอลที่แก้มแดงก็พยักหน้ารับแล้วยกนิ้วก้อยเล็กๆขึ้นมาชูตรงหน้า
“น้องหนูยอลสัญญาว่าจะรักแล้วก็เป็นเจ้าสาวของพี่หนูคริสคนเดียวฮะ” คริสเกี่ยวนิ้วก้อยเข้ากับนิ้วเล็กๆนั้นแล้วดึงมือเล็กๆนั้นมาจุมพิตที่หลังมือแผ่วเบา
“ห้ามผิดสัญญานะครับ เจ้าสาวของพี่”
เอาวะคุกก็คุก! ลูกปืนก็ลูกปืนเหอะ!!! ทำไมจะต้องกลัว!!! เกิดมาสักครั้งมันต้องลองให้ครบ ชีวิตถึงจะมีรสชาติ!!!!
พระเจ้าครับ ... แต่อย่าเพิ่งจับผมเข้าคุกนะ ผมยังไม่พร้อม อาเมน....
พี่คริส(ในฟิคเรา)ไม่ใช่ตุ๊ดแคนาดานะ 55555555555 เป็นความชอบส่วนตัวอ่ะค่ะ อิอิ ชอบเวลาที่ผู้ชายพูดจาคะขาจ๊ะจ๋ากับเด็กหรือผู้หญิงไรงี้ #เราแปลกป่ะ = = แต่ไม่ใช่ผู้ชายที่เป็นอย่างอื่นนะ ชายแท้อ่ะ
เคยเห็นผู้ชายพูดกับเด็กอยู่ แบบเวลาเขาไม่ทำตามแล้วพูดเพราะๆกับเขา เขาก็จะยอมทำตามอ่ะ น่ารักดี ไม่รู้พี่น้องหรือตอนนี้กลายเป็นโชตะแบบในฟิคไปแล้ว 5555 เราชอบนะ อิอิ
ไม่ต้องห่วงคร๊าาาาา ไม่ดราม่า(นาน)หรอกคร๊าาาาาาาาา อิอิ ใจเย็นๆนะ 5555 ละก็อีกนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน กว่าน้องหนูยอลจะโตค่ะ ทรมานใจแม่ยกผู้รักเด็กไปเรื่อยๆ อิอิ
ปล. คริสอู๋ลุคนี้ฟินจุง อิอิ ชอบอ่ะ ตี๋ใหญ่แห่งพระโขนง #ผิด
______________________
“ห๊ะ!!!?” หลังจากที่แก๊งเพื่อนได้ฟังคำบอกเล่าของเพื่อนตรงหน้าที่อนาคตอันใกล้นี้จะเปลี่ยนคำเรียกสถานะจากนักศึกษาเป็นนักโทษนั้นแล้วก็อ้าปากค้าง ทำหน้าตกใจแล้วก็ปลงตกกับชีวิต คุกแน่ๆมึงคุกแน่ๆ
“อะไรนะ... เมื่อกี้...” แล้วมินซอกก็เงียบเสียงไป เอาหน้าไปซุกไหล่ลู่หานที่นั่งอยู่ข้างๆแทนแก้มกลมๆของมินซอกแดงเรื่อขึ้นมาจนจงแดต้องกึงตัวมินซอกออกจากลู่หานแต่เปาจื่อก็ยังเกาะไหล่ลู่หานไม่ยอมปล่อย
“ไม่เป็นไรนะคริส..” ลู่หานยื่นมือข้ามโต๊ะไปตบไหล่เพื่อนตัวสูงเบาๆ “เพื่อนพ่อกูเป็นตำรวจยศสูงมากเขาช่วยมึงได้แน่ๆ”
“พรากผู้เยาว์เลยนะไอ้คริส แรงไปปะวะ?” เซฮุนถามพร้อมกับยกแก้วชานมขึ้นมาดูด
“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่รู้สึกแปลกๆเฉยๆ” ก็แล้วเฉยๆทำไมต้องหูแดง ยกมือเกาแก้มด้วยวะเฮ้ย!
“คือถ้าเพื่อนพ่อไอ้ลู่ช่วยไม่ได้ ญาติของกูเขาเป็นทหารระดับผู้พันนะ เขาต้องช่วยมึงออกจากคุกได้แน่ๆคริส” และซิ่วหมินที่แงะตัวออกจากไหล่ของลู่หานได้แล้วก็จับมือคริสแล้วตบเบาๆ
“ไอ้ห่าพวกนี้มึงนี่นิ กูก็แค่จะมาปรึกษาไหมวะไม่ใช่มาแช่งให้กูเข้าคุก” คริสบ่นอย่างหัวเสีย ก็แหงล่ะแค่มาเล่าเรื่องไปทะเลพร้อมกับปรึกษาอาการแปลกๆที่หัวใจมันไหวๆยามที่อยู่ใกล้ๆเด็กน้อยน่ารักเท่านั้นเอง พวกเพื่อนตัวดีแม่งก็อนุโมทนาสาธุให้เข้าคุกกันจัง เดี๋ยวพ่อก็เข้าจริงๆซะเลยดีไหม!!?
“กูว่าชัวร์ๆเลยนะ” อยู่ๆเซฮุนก็ทำเสียงนิ่ง ดูเป็นการเป็นงานขึ้นมาเสียอย่างนั้นน ทุกคนเลยพร้อมใจกันหันไปมองหน้าเซฮุนเพื่อรอคำพูดต่อไป “มึงกลายเป็นพวกโชตะไปแล้วว่ะ” แล้วก็เกิดอาการงงขึ้นมาทันใด
“อะไรคือโชตะวะ” คริสพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามของจงแด เซฮุนส่ายหัวน้อยๆก่อนที่จะค่อยๆอธิบาย
“โชตะ มากจากคำว่า โชตะค่อน ซึ่งก็แปลง่ายๆแบบเห็นภาพเลยคือ พวกลุงแก่ๆรักเด็กไง” ลู่หานหรี่สายตามองเซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆคริส
“แล้วมึงรู้ได้ไง? อย่าบอกนะว่ามึง...”
“เฮ้ย ไม่ใช่นะ อย่าคิดแบบน๊านนนนนนน~” แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์แล้วโอเซฮุนเอ๋ย
“เออช่างเหอะ ว่าแต่มึงบอกน้องหนูยอลหรือยังว่าพวกเราจะไปค่ายอาสากันสามวันน่ะ” จงแดตัดบทแล้วเอ่ยถาม และพวกที่เหลือก็ทำหน้างงๆว่าค่ายอาสาอะไรวะ
“ก็ค่ายอาสาของรุ่นพี่ไงที่เขามาขอให้พวกเราไปช่วยอ่ะ” แล้วก็ถึงบางอ้อได้ทันที
“ยังไม่ได้บอกเลย ถ้าบอกนะสงสัยต้องร้องตามแน่ๆเลยว่ะ” เพื่อนทั้งสี่ก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะตลอดสามวันที่ไปทะเลกันไหนจะกลับมาก็ยังหยุดอีกสองวันก่อนจะมีคาบเรียนนั้นเด็กตัวน้อยก็ไม่ได้ห่างตัวคริสเลยด้วยซ้ำ
“พี่หนูคริส!!!!” แล้วเสียงหวานของคนที่พูดถึงเมื่อครู่ก็ดังแทรกเข้ามา เรียกให้ทั้งห้าคนหันไปมองยังต้นเสียง เด็กตัวน้อยสวมชุดเดรสมีปกลายตารางสีแดงกับมัดแกละสองข้างและติดกิ๊บอันเล็กๆ ก็รู้ว่าแท้จริงแล้วคุณยูราอยากได้ลูกสาวแต่จับลูกชายให้แต่งแบบนี้.... ก็น่ารักดีนะ
“มาได้ยังไงครับ” คริสลุกขึ้นเดินไปอุ้มเด็กตัวเล็กที่กางแขนรออยู่แล้ว
“ให้ลุงขับรถมาส่งแต่ตอนนี้ลุงกลับไปหาคุณแด๊ดแล้ว” หนูยอลบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง สองแขนโอบรอบลำคอของคนอุ้ม
“มานั่งๆกัน น้องหนูยอลครับพวกพี่มีขนมเยอะแยะเลยนะ” พี่เปาของน้องหนูยอลกวักมือเรียกพร้อมกับหยิบถุงขนมออกมาจากถุงจากร้านมินิมาร์ทใต้คณะพอคริสอุ้มเจ้าตัวมานั่งแล้วเด็กน้อยก็ไม่ยอมลงจากตักจะนั่งตักดังนั้นพี่ๆทั้งหลายก็เลยได้พัดวีคุณน้องหนูยอลอย่างสนุกล่ะ ทั้งป้อนน้ำ ป้อนขนม เอาใจกันเข้าไป..
“แล้วนี่เลิกเรียนกันหรือยังฮะ? น้องยอลจะได้รับทุกคนกลับบ้าน” นั่นแน่ะ เด็กตัวน้อยลงทุนถึงกับมารับนักศึกษาปีสามกลับจากมหาลัยเลยนะ น่ารักจริงเชียว
“เลิกแล้วครับแต่รอเรียกพรีเซ้นต์งานอยู่” เซฮุนเป็นคนตอบแล้วก็จัดการดึงป๊อกกี้แท่งใหม่ออกจากกล่องแล้วป้อนให้เด็กตัวน้อย
“อะไรคือเซ็นๆงานฮะ” หนูยอลหันกลับไปถามคนที่นั่งอุ้มให้หนุนตักแล้วเอียงคอทำหน้าสงสัยใส่
“พรีเซ้นต์งานครับ ก็คล้ายๆกับรายงานหน้าชั้นเรียนนั่นแหละ” น้องหนูยอลยิ้มแล้วพยักหน้าตาม
“เหมือนที่คุณครูเคยเรียกน้องหนูยอลออกไปแนะนำตัวที่หน้าห้องใช่ไหมฮะ”
“ทำนองนั้นแหละครับ” แล้วหนูยอลก็ยิ้มกว้างๆ นั่งกินขนมคุยกันอีกไม่นานกลุ่มที่รายงานเสร็จแล้วก็เดินออกมาเรียกให้กลุ่มคริสขึ้นไปรายงานต่อ
“แล้วน้องหนูยอลล่ะเอาไง” ซิ่วหมินหันไปถามคริสที่อุ้มเด็กน้อยเดินตามหลังมา น้องหนูยอลเองก็เงยหน้ามองพี่ชายตัวโตเช่นกัน
“ก็ไม่ต้องเอาไงนิ ก็พาเข้าไปด้วยสิเพื่ออาจารย์อาจจะเห็นใจให้เราพรีเซ้นท์รอบเดียวผ่านก็ได้นะ” แล้วหนูยอลก็ยิ้มกว้างที่พี่หนูคริสจะไม่ทิ้งให้อยู่คนเดียว รักพี่หนูคริสที่สุดเลย~
ทั้งสี่กับอีกหนึ่งเด็กน้อยเดินขึ้นบันไดไปยังห้องประชุมเล็กที่จัดไว้สำหรับการพรีเซ้นท์รายงาน อาจารย์ทั้งสามประจำภาควิชานี้นั่งเรียงกันอยู่ที่โต๊ะแถวหน้า เมื่อประตูเปิดออกไอเย็นก็ลอยมากระทบหนูยอลจนเด็กตัวเล็กหนาวสั่น คริสเลื่อนเก้าอี้ออกมาหนึ่งตัวแล้วให้หนูยอลนั่งด้านหน้าเพื่อให้เห็นชัดๆ เพราะถ้าโต๊ะบังเดี๋ยวก็โวยวายอีก
ผ้าพันคอผืนเล็กของลู่หานถูกคริสยืมมาคลุมให้เด็กตัวน้อยๆที่นั่งกอดอกทำตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า คริสลูบหัวเด็กน้อยเบาๆก่อนที่จะเริ่มมายืนตรงหน้าอาจารย์ จงแดหยิบโน้ตบุคออกมาต่อเข้ากับจอภาพเพื่อฉายสไลด์ อาจารย์ทั้งสามหันมองเด็กน้อยที่นั่งทำตาแป๋วก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าคริส
“น้องเธอเหรอ? ถึงจะผิดกฎแต่ฉันจะอนุโลมให้นะ” น้องหนูยอลอมลมแก้มป่อง
“น้องหนูยอลไม่ใช่น้องนะฮะ น้องหนูยอลเป็นคนพิเศษของพี่หนูคริสตั้งหาก~” ถึงจะแปลกใจแต่อาจารย์ทั้งสามก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก บอกให้นักศึกษากลุ่มสุดท้ายของวันนี้เริ่มพรีเซ้นท์งานได้
จงแดรับหน้าที่คอยเลื่อนสไลด์ เซฮุน ลู่หาน ซิ่วหมินกับคริสก็สลับกันรายงาน น้องหนูยอลที่นั่งฟังก็ยิ้มกว้างอย่างถูกใจที่เห็นว่าพี่หนูคริสของตัวเองจะต้องเรียนเก่งแน่ๆ พี่ชายตัวโตพูดอธิบายหน้าสไลด์อย่างฉะฉานดูแล้วเด็กตัวน้อยก็ชื่นชอบเสียมากมมาย ดวงตากลมเป็นประกายเชียว อธิบายอยู่ได้เกือบจะสามสิบนาที การพรีเซ้นท์นี้ก็จบลง เหล่าคณาจารย์ตรงหน้าก็ก้มลงจดๆเขียนๆอะไรใส่ในกระดาษก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาขยับแว่นสายตา
“ได้คะแนนเต็มไหมฮะ?” ยังไม่ทันที่เหล่าคณาจารย์จะได้พูดอะไร เด็กน้อยก็เอ่ยถามพร้อมด้วยรอยยิ้มไปก่อนเสียแล้ว
“ต้องได้คะแนนเต็มนะฮะ คุณอาจารย์ห้ามตัดคะแนนนะฮะเพราะน้องหนูยอลชอบมากๆเลย” เออนะคนโดนขอร้องห้ามตัดคะแนนลูกศิษย์ก็งงไปสิ แต่ไอ้อาการทำตาแป๋ว ยิ้มกว้างๆนี่มันก็สปาร์คใจอาจารย์แก่ๆได้อยู่นะ
“นะฮะ~ เนี่ยพวกพี่ๆเขาทำไอ้เซ็นๆอะไรนี่ดึกมากเลย พี่หนูคริสก็ปล่อยให้น้องหนูยอลหลับก่อนทุกทีเลย น้องหนูยอลร้องไห้ทุกคืนเลยนะฮะ คุณอาจารย์จะใจร้ายตัดคะแนนได้เหรอฮะ” เจ้าตัวเล็กทำเสียงหวานออดอ้อนเต็มสตรีม ลู่หานกับซิ่วหมินแอบหลบหลังคริสแล้วหัวเราะกันเบาๆ จงแดก็แอบก้มหน้าซุกโน้ตบุคหัวเราะ เซฮุนก็หันหน้าออกไปทางอื่น ส่วนท่านคริสก็พยายามยืนทำหน้านิ่ง
“นะฮะ~ ถือซะว่าให้คะแนนความน่ารักของน้องหนูยอลก็ได้~” แล้วเจ้าตัวก็ยกสองมือทาบแก้มแล้วเอียงคอไปมา โมเอ้แอ็คแท็คอาจารย์แก่ๆเหลือเกินแล้วไอ้พวกลูกศิษย์ตัวดีก็ยืนแข้งขาพันกัน ฟินกับความโมเอ้นั้นไป แต่คนที่โดนแอ็คแท็คสุดๆก็เห็นจะเป็นพี่ชายข้างบ้านนี่ล่ะที่หัวใจเต้นรัวไม่หยุดเลย
“ไปๆๆ กลับบ้านกันได้แล้วเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” เมื่อได้ยินคำประกาศิตจงแดก็รีบเก็บของทันที ทุกคนก็ทำเนียนไม่ขอคำวิจารณ์ที่พรีเซ้นท์ไปถือว่าผ่านแบบไร้ข้อกังขาแล้วกันเนอะ
“ขอบคุณฮะคุณอาจารย์คนสวยที่จะให้คะแนนเต็ม” เออเต็มไหมไม่รู้น้องหนูยอลแกขอบคุณไปแล้ว แล้วทั้งหมดก็ออกจากห้องโดยที่คริสก็รีบมาคว้าน้องหนูยอลอุ้มแล้วเผ่นออกจากห้องก่อนเลย เออจะว่าอย่างนั้นอย่างนี้ก็กลัวโดนเรียกไปตัดคะแนนอยู่นะ เพราะฉะนั้นชิ่งหนีก่อนดีกว่า
“...... ฮ่าๆๆๆ” พอออกมาจากห้องและเดินมาได้ไกลพอสมควรทั้งหมดก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะกันเสียยกใหญ่ จะมีก็แต่เด็กน้อยที่พิงอกอุ่นๆของพี่หนูคริสนี่ล่ะที่ยังทำหน้างง
“เมื่อกี้เห็นคะแนนป่ะวะไอ้ลู่ ได้เต็มป่ะ” จงแดเอ่ยถามเพราะก่อนออกจากห้องเห็นลู่หานพยายามมองใบเขียนคะแนน
“ตอนแรกได้เอบวกว่ะแต่ตอนนี้ได้เอล่ะ โคตรจี้อ่ะ” แล้วลู่หานก็หัวเราะเสียงดังลั่น
“นี่เพราะน้องหนูยอลช่วยไว้เลยนะเนี่ย” ซิ่วหมินลูบหับเด็กน้อยอย่างเอ็นดูซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มกว้างรับคำ
“เห็นไหม น้องหนูยอลเก่ง เนอะพี่หนูคริส~” เจ้าตัวเล็กยังมีการเงยหน้าไปขอความเห็นอีกแน่ะ
“ค่ะ เก่งที่สุดเลยคนนี้อ่ะ” ว่าแล้วก็จัดการก้มหน้าลงใช้หน้าผากตัวเองแตะกับหน้าผากเล็กๆแล้วไถไปมา เด็กน้อยก็หัวเราะลั่น ส่วนคนที่เหลือก็มองหน้ากันเอง ถึงเวลาแล้วล่ะลู่หาน ซิ่วหมินที่ต้องใช้ผู้มียศให้เป็นประโยชน์
“เราไปกินหมูย่างกันไหม? มีร้านเพิ่งมาเปิดใหม่แถวบ้านพอดีเลย” เซฮุนเอ่ยพูดแทรก คือก็ไม่อยากจะขัดไงแต่กลัวจะนานกว่านี้แล้วงานจะเข้า แถวนี้ตำรวจชุมนะเว๊ย~
“ไปฮะ น้องหนูยอลไป!!” เจ้าตัวดียกมือขึ้นสูงๆเพื่อบอกว่าตัวเองจะไป จ๊ะๆ ยังไงหนูก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะเนอะ
“ดีเลยๆ ฉลองที่ได้เอเพราะน้องหนูยอลเลยเนอะ” ซิ่วหมินยื่นมือมาบีบแก้มกลมๆนั้นเบาๆ หนูยอลก็หัวเราะคิกคัก
“งั้นไอ้คริสเอ็งอ่ะเลี้ยงนะมือนี้อ่ะ” จงแดที่หมายจะเนียนกินฟรีชี้นิ้วมาทางคริสทันที เจ้าตัวก็สะดุ้งเฮือก
“เฮ้ยอะไรอ่ะ ได้เอเพราะน้องหนูยอลทำไมฉันต้องออกวะ ใช่ไหมครับน้องหนูยอลของพี่หนูคริส” โอ้โห้ ถ้าเล่นไม้นี้ก็กินฟรีไปเลยเถอะพ่อคุ๊ณ~
“ใช่ฮะ พี่แดแหละต้องเลี้ยงเพราะพี่แดไม่ได้พูดอะไรเลย” แล้วมีหรือที่คุณคิมจงแดจะปฏิเสธ
“ครับๆ เลี้ยงครับเลี้ยง”
“เย้!!~” แล้วทุกคนก็เฮโรไปที่ร้านที่เซฮุนแนะนำกัน คุณจงแดก็เดินคอตกตามไป ลู่หานเดินเข้ามากอดคอเพื่อนไว้แล้วตบไหล่
“ไม่เป็นไร เงินไม่พอป๋ามีให้ยืมคิดดอกร้อยละร้อยนะจ๊ะหนู” แล้วลู่หานก็หัวเราะแบบเยาะเย้ยเดินไปเกาะแขนซิ่วหมินแทน
แล้วทั้งห้าก็มาถึงร้านเนื้อย่างเปิดใหม่ที่เซฮุนบอก ด้วยเพราะเพิ่งเปิดร้านคนก็เลยเยอะแต่ว่ามุมของร้านก็ยังเหลือโต๊ะว่างอยู่ทั้งสี่หนุ่มและหนึ่งเด็กน้อยก็พากันไปจับจองทันที โต๊ะกลมใหญ่ๆล้อมด้วยเก้าอี้นั่งครบคน ตรงกลางโต๊ะก็เป็นเตาย่างใหญ่ๆที่ต่อท่อดูดควันขึ้นไปด้านบน เมื่อมื้อนี้มีเจ้ามือทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาสั่งอาหารกันใหญ่ ไม่กลัวเลยสักนิดว่าเจ้ามือจะกระเป๋าฉีกหรือเปล่า จงแดแอบหันไปปาดเหงื่อแล้วแง้มกระเป๋าสตางค์ดูเงินก่อนที่จะหันมานั่งคีบเนื้อย่างเอาใจเพื่อนตัวกลมที่นั่งอยู่ข้างๆ
คริสคอยคีบเนื้อย่างที่สุดแล้วให้เด็กน้อยที่ต้องต่อหนังสือให้นั่งเพราะพอนั่งแล้วโต๊ะอยู่แค่ระดับสายตาเท่านั้น คุณพี่ๆที่ใจดีเลยหยิบหนังสือเล่มหนาๆออกมากันแล้วรองเป็นเบาะให้ตัวน้อยนั่ง หนูยอลก็อารมณืดีคีบเนื้อย่างใส่ปากไป แอบหนีบเนื้อย่างของพี่หนูคริสกินไป ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นมีคนสั่งไอศกรีม ไอศกรีมสีสวยในถ้วยสแตนเลสเย็นๆลอยผ่านหน้าไป เจ้าตัวก็มองตาม มือเล็กดึงแขนเสื้อของคนข้างๆแล้วกระตุกเรียก
“พี่หนูคริส น้องหนูยอลกินไอติมได้ไหมฮะ” ปากก็เอ่ยถามไป ตาก็มองตามถ้วยไอศกรีมนั้นไป
“ได้ครับแต่ต้องกินให้อิ่มก่อนถึงจะกินไอติมได้นะ” เด็กตัวน้อยหันกลับมาทำแก้มป่องแล้วส่ายหน้า
“น้องยอลอยากกินแล้วนะฮะ นะพี่หนูคริส~” น้องหนูยอลใช้สายตากลมๆกับรอยยิ้มกว้างๆแอ็คแท็คพี่ชายตัวโต แต่ครั้งนี้ดูท่าความแรงจะไม่พอ
“ไม่ได้ครับ” หนูยอลทำหน้างอ แก้มป่องล้วทำตาวาวน้ำเพื่ออ้อนแต่ประกาศิตจากพี่ชายตัวโตก็ทำให้น้องหนูยอลต้องก้มหน้ากินเนื้อย่างตรงหน้าต่อ
“ถ้าดื้อพี่หนูคริสไม่รักนะคะ” โอเค จบเรื่อง..
พอน้องหนูยอลกินเนื้อย่างในส่วนของตัวเองหมดคริสก็สั่งไอศกรีมสีสวยๆมาให้เด็กน้อยทันที และพอเห็นไอศกรีมน้องหนูยอลก็ลืมไปหมดแล้วว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น มือเล็กกำปลายช้อนแล้วตัดเนื้อครีมเย็นๆเข้าปากแล้วยิ้มกว้างจนแก้มกลมดันดวงตาโตให้เล็ก ดูแล้วน่าเอ็นดูจนคนที่หยิบทิชชูมาเช็ดไอศกรีมที่เลอะมุมปากให้ยังอดที่จะยิ้มเอ็นดูไม่ได้เลย
เพื่อนทั้งสี่ก็มองหน้ากันแล้วก็อมยิ้มไปกับพี่น้องต่างไซส์ข้างบ้านคู่นี้ ก็ไม่ปฎิเสธว่าน่ารักและอบอุ่น คนเป็นพี่ก็ดูแลประคบประหงมน้องตัวน้อยเสียเหลือเกินและก็รู้ว่าถึงจะดูแลเอาใจยังไงน้องหนูยอลก็คงไม่เสียนิสัยแน่นอน ถึงจะดูเพื่อนร่างสูงชอบตามใจแต่ก็มีลิมิตอยู่ในตัวของมันเอง ให้คริสเลี้ยงน้องหนูยอลน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ไอ้คนเลี้ยงน่ะสักวันคงเป็นแน่ๆ
“ไงหมดตัวหรือเปล่าล่ะน่ะ” ซิ่วหมินเอ่ยถามจงแดที่เดินหน้าแก่ออกมาจากร้าน ลู่หานดูท่าว่าจะสะใจสุด หัวเราะเสียงดังลั่นอยู่คนเดียวไม่เกรงใจใครเลย
“....” จงแดไม่ตอบแต่ทำเนียนเดินคอตกเข้าไปกอดซิ่วหมิน แต่ลู่หานก็เดินมาดึงจงแดออกจากตัวกลมๆของซิ่วหมิน อย่านะเว๊ย เพื่อนกูใครห้ามแตะ (ลู่แตะได้คนเดียว อิอิ)
“เออแยกกันตรงนี้นะ มืดแล้วเนี่ย” คริสเอ่ยแทรกก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะรับฝีปากใส่กัน
“กลับดีๆล่ะ” น้องหนูยอลก็โบกมือบ๊ายบายพี่ๆหยอยแล้วก็กอดคอคุณพี่ชายข้างบ้านด้วยตาปรือๆ ก็กินอิ่ม(มาก)แล้วหนังตามันก็หย่อนอะฮะ น้องหนูยอลเปล่าขี้เกียจนะ~
“พวกมึงว่าวันเข้าค่ายจะเป็นไงวะ” เซฮุนเอ่ยถาม ทั้งสี่มองตามหลังคริสที่อุ้มเด็กน้อยที่หลับไปแล้วขี้นรถแท็กซี่กลับบ้าน
“วุ่นวายแหงๆ ไม่ต้องใช้หมอดูฟันธง ลู่หานฟังธงเองเลย” ซิ่วหมินพยักหน้าเห็นด้วย
“ร้องไห้บ้านแตกแน่ๆ”
“เอาเหอะ แยกย้ายกลับบ้านเหอะต้องเตรียมเก็บของอีก” แล้วทั้งสี่ก็ออกเดินไปตามทางกลับบ้านของตนเอง ถึงวันข้างหน้าจะยุ่งวุ่นวายก็เอาเถอะ ผู้ชมที่ดีจะนั่งติดขอบจอทีวีเลยเอาสิ
คริสอุ้มเด็กน้อยที่หลับไปแล้วแนบอกไว้กันไอเย็นของรถแท็กซี่จะบาดผิวนิ่มแล้วเจ้าตัวยุ่งจะหนาว เด็กน้อยขยับตัวหาที่ซุกก่อนที่จะนิ่งไป ดวงตาคู่คมก้มลงมองเด็กในอ้อมแขนแล้วก็ยิ้มกับความน่ารักของเด็กน้อยแสนร่าเริงนี้ ตั้งแต่มีเด็กตัวเล็กๆเข้ามาในชีวิตแล้วเจ้าตัวก็รู้สึกว่า ชีวิตในทุกๆวันนั้นมีความสุขและยิ้มไปกับรอยยิ้มของเด็กตัวน้อยๆนี้ได้
ที่เขาว่ากันว่าเด็กน้อยคือองค์เทวดา องค์นาฟ้าที่แสนบริสุทธิ์ก็สงสัยว่าท่าจะจริงเสียแล้วล่ะ แค่มีเด็กน้อยนี้ก็เหมือนตนได้พรศักดิ์สิทธิ์มาครอบครองแล้ว คริสไม่กล้าคิดถึงเรื่องที่มันไกลเกินกว่านี้แค่เพียงคิดว่า ถ้าสักวันหนึ่งน้องหนูยอลเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จะต้องมีคนรัก ... และอาจจะต้องแต่งงาน อย่างนั้นหรือ? ถ้าสักวันต้องห่างกันจะทำใจได้ไหมนะ
“พี่หนูคริส” เด็กน้อยละเมอเรียกคนอุ้มพร้อมกับซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นเพราะแอร์ในรถเย็นจนเด็กน้อยหนาวกาย คริสรัดอ้อมแขนแล้วก้มลงจรดริมฝีปากที่กระหม่อมกลมสวยเบาๆก่อนที่จะแย้มยิ้มออกมา
“อยู่นี่ครับ” ช่างมันเถอะ แค่วันนี้ยังอยู่ด้วยกัน วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเนอะ..
เช้าวันใหม่ที่สดใสกับกลิ่นอาหารหอมๆก็เรียกให้เด็กน้อยที่สวมชุดเตรียมพร้อมเที่ยวเดินลงมาจากบันไดของบ้านตัวเองแล้วก็ยิ้มกว้างๆ กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ในแจกันลอยมาแตะปลายจมูก วันนี้เด็กตัวเล็กไม่ได้มัดแกละแต่รวบผมไว้หลวมๆแล้วผูกโบว์สีแดงอันใหญ่ๆไว้ โบว์ที่คุณแด๊ดซื้อมาฝากและวันนี้หนูยอลก็คิดว่าตัวเองน่ารักที่สุดแล้ว
บานประตูถูกเปิดออกด้วยพี่เลี้ยงที่เดินตามหลังมา วันนี้คุณลุงกับคุณป้าของพี่หนูคริสต้องไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด วันนี้ก็เลยเป็นวันแรกที่พี่หนูคริสจะมากินข้าวเช้าที่บ้านของน้องหนูยอล แน่นอนว่าพี่ชายตัวโตน่ะยังไม่ตื่นหรอก พี่หนูคริสของน้องหนูยอลน่ะขี้เซาจะตาย~ บานประตูห้องนอนของพี่หนูคริสถูกเปิดออกด้วยมือของพี่เลี้ยงคนเดิมก่อนที่เธอจะเดินกลับไปที่บ้าน
“พี่หนูคริสฮะ~~” หนูยอลเดินมาเกาะที่ข้างเตียงแล้วเอ่ยเรียกเสียงหวานก่อนที่จะยื่นมือไปเขย่าไหล่กว้างๆของพี่ชายตัวโต เปลือกตาทิ่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นเมื่อมองว่าคนที่ยืนไม่ห่างเตียงนี้เป็นใครริมฝีปากบางได้รูปก็วาดรอยยิ้ม ฝ่ามือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนิ่มก่อนที่จะโยกหัวคนมาปลุกไปมา
“ไปกินข้าวบ้านน้องหนูยอลนะฮะ” เด็กตัวน้อยยิ้มกว้างซึ่งคริสก็ลุกขึ้นนั่งแล้วเสยผมยุ่งๆของตัวเองลวกๆ ก็แล้วจะรู้ไหมนะว่าคนมองอยู่น่ะเขินแค่ไหน แก้มกลมๆซับสีเลือดจางๆก่อนที่หนูยอลจะได้ยินเสียงแก้มของตัวเองไหม้เสียอีก
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อนนะครับ” คริสก้าวเท้าลงจากเตียง น้องหนูยอลก็เงยหน้ามอง พี่ชายใจดีเลยก้มลงอุ้มแล้วช้อนตัวเด็กน้อยให้ขึ้นนั่งบนเตียง ดวงตาคมมองที่เด็กน้อยก่อนที่จะก้มหน้าลงประทับรอยอุ่นที่แก้มกลมๆ
“วันนี้ก็น่ารักอีกแล้วนะ” ทิ้งไว้แค่นั้นก่อนที่จะเดินหันหลังไปอาบน้ำ น้องหนูยอลที่เพิ่งโดนหอมแก้มไปก็นั่งทำตาโตตกใจ แก้มก็แดงเรื่อเสียจนน่ามองแต่คนที่อยากให้มองก็เข้าห้องน้ำปิดประตูไปเสียแล้ว สองมือเล็กยกขึ้นปิดแก้มแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างเขินอาย
ใครกันนะบอกว่าพี่หนูคริสน่ะชอบเขินน้องหนูยอล น้องหนูยอลก็เขินเป็นนะ! แล้วก็ไม่ใช่แค่พี่หนูคริสคนเดียวเสียหน่อยที่อยากจะอยู่ด้วยกันไปนานๆน่ะ น้องหนูยอลก็อยากอยู่กับพี่หนูคริสไปตลอดเหมือนกัน
ไม่นานพี่ชายตัวโตก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย คริสเดินกลับมานั่งที่ปลายเตียงเพื่อเช็ดผมให้แห้ง หนูยอลที่นั่งอยู่บนเตียงก็คลานเข่ามาหาคนที่นั่งหันหลังก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปช่วยฝ่ามือใหญ่ๆที่ขยี้ผ้ากับเส้นผมสีทองสว่างนั้น คริสหยุดมือแล้วหันมามองด้านหลัง น้องหนูยอลยื่นหน้าไปยิ้มกว้างๆให้ก่อนที่คริสจะละมือออกจากผ้านั้นแล้วปล่อยให้เด็กน้อยได้ละเลงมือเช็ดผมให้
“ผมแห้งแล้วไปกันครับ” คริสเอาผ้าไปแขวนไว้ที่ราวตากผ้าก่อนที่จะมาอุ้มเด็กน้อยลงไปกินข้าวเช้าที่บ้านข้างๆ
“วันนี้คุณแด๊ดกับคุณมี้จะพาน้องหนูยอลไปซื้อเสื้อผ้าแล้วก็กระเป๋าเตรียมไปโรงเรียนด้วยล่ะ~” คริสเลิกคิ้วแล้วมองเด็กในอ้อมแขน
“จริงอ่ะ? จะเปิดเทอมแล้วเหรอครับ”
“ยังฮะ แค่ไปซื้อไว้เฉยๆเพราะวันนี้พี่หนูคริสอยู่คนเดียวน้องหนูยอลก็เลยชวนเที่ยว~” คริสหัวเราะแล้วเปิดประตูเข้าบ้านของเด็กน้อย
“มาแล้วเหรอจ๊ะ ไปๆกินข้าวกัน” คุณมี้ของน้องหนูยอลเดินออกมารับที่หน้าประตูแล้วก็พาเดินไปที่ห้องทานอาหารด้วยกัน
โต๊ะอาหารตัวยาวที่ยาวเกินความจำเป็น บนโต๊ะนั้นมีอาหารเช้าประจำที่ของแต่ละคน หัวโต๊ะก็เป็นประมุขของบ้าน ถัดมาทางซ้ายก็เป็นคุณผู้หญิงของบ้าน ด้านขวาก็เป็นลูกชายตัวน้อยและด้านข้างที่พ่วงแขกพิเศษของบ้าน ผ้ากันเปื้อนลายสีชมพูน่ารักถูกผูกไว้ให้เด็กตัวน้อย น้องหนูยอลถือส้อมเตรียมทานเบรกฟัสตรงหน้า
ในจานประกอบด้วยไข่ดาว แฮมทอด ไส้กรอกเล็กทอด ขนมปังปิ้งทาเนย และผักต้มนิดหน่อยพอแก้เลี่ยน แต่ของน้องหนูยอลได้ไข่คนมาแทนไข่ดาว แก้มกลมป่องออกยามที่เจ้าตัวเคี้ยวตุ้ยๆ พี่ชายตัวโตเองก็อมยิ้มกับท่ากินที่น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน สองมือเล็กประคองแก้มนมใบโตแล้วลากมาใกล้ๆเพื่อที่จะยกดื่มแต่แล้วมือใหญ่ๆก็คว้ามาป้อนให้ เจ้าตัวยุ่งก็ยิ้มกว้างอย่างถูกใจ หลังจากป้อนนมเสร็จคริสก็จัดการหั่นขนมปังปิ้งให้เป็นชิ้นเล็กๆและจิ้มผักต้มป้อนเจ้าตัวเล็กที่ทำท่าว่าจะเนียนไม่ยอมกิน
หลังจากจบมื้ออาหารเช้าทุกคนก็ได้เวลาที่จะไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เจ้าตัวเล็กเสียที คริสกับหนูยอลนั่งที่เบาะด้านหลัง ส่วนด้านหน้าก็เป็นคุณแด๊ดคุณมี้ของเด็กน้อย รถคันสวยแล่นเข้าไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พอคุณแด๊ดดับเครื่องยนต์เจ้าตัวเล็กที่ว่าพาพี่ชายตัวโตมาเที่ยวก็กระโดดลงจากรถเป็นคนแรกเลย
“วันนี้ห้ามซนนะคะน้องหนูยอล” คุณมี้ชี้นิ้วใส่เด็กน้อยที่ยืนยิ้มกว้างด้วยท่าทีหยอกเย้า คนโดนกล่าวหาว่าซนก็ทำปากยื่น
“น้องหนูยอลไม่เคยซนนะฮะ น้องหนูยอลเป็นเด็กดี” คุณมี้ก็แค่ยิ้มแต่คุณแด๊ดนี่มาแรงกว่า อ้อนแขนยาวอุ้มลูกน้อยขึ้นสูง
“ห้ามดื้อด้วยเพราะถ้าดื้อจะตีก้นให้ลายเลย เอาให้อายพี่หนูคริสไปเลยเป็นไง” น้องหนูยอลทำหน้ายู่ก่อนที่จะโผไปหาพี่หนูคริส คริสรับเด็กน้อยที่โถมตัวมาหาแล้วก็รับมาอุ้มแทน
“น้องยอลไม่เคยดื้อเนอะพี่หนูคริส” เด็กน้อยวาดมือโอบรอบคอคนอุ้มแล้วยิ้มหวาน เอียงคอทำตาโตใส่ พลังแอ็คแท็ครุนแรงทำลายล้างระดับสิบ
“ครับๆ ไม่ดื้อครับ” คริสละมือข้างหนึ่งที่โอบหลังของหนูยอลมาโยกหัวของคนอ้อนเบาๆ เจ้าตัวดีที่ได้คำตอบถูกใจก็ยิ้มกว้างแล้วจุ๊บแก้มพี่ชายตัวโตที่พูดถูกใจไปฟอดใหญ่ๆ
“คุณแด๊ดดี้ว่าน้องหนูยอลจะเสียคนก็เพราะโดนตามใจมากๆนี่ล่ะ” ไม่รู้ว่าท่านกล่าวเล่นหรือกล่าวจริงแต่ขอบอกว่าคริสนี่ขนลุกไปแล้วทั้งตัว เหมือนท่านพูดว่าฉันรู้นะว่าแกคิดไม่ซื่อกับลูกตัวเล็กๆของฉัน อารมณ์ประมาณนั้นเลย นี่ถ้ามีปืนมาส่องกบาลหน่อยนะคริสอู๋นั่งคุกเข่าเอาหัวกระแทกพื้นไปแล้วเถอะ
“คุณแด๊ดอย่ามาว่าพี่หนูคริสของน้องหนูยอลนะ!! พี่หนูคริสไม่ได้ตามใจสักหน่อย เนอะ~” ดวงหน้าน่ารักที่งอง้ำหันมาถามความเห็นก่อนที่จะเอียงคอยิ้มกว้าง “แต่พี่หนูคริสรักน้องหนูยอลตั้งหาก” จ๊ะ บอกพ่อหนูเอาปืนมาเป่ากบาลพี่ชายเลยจ๊ะ
“เอ่อ...” ไอ้จะตอบรับก็กลัวโดนยัดลูกปืนเข้าร่าง ไอ้จะปฏิเสธก็กลัวจะโดนแม่หนูน้อยในแขนตระกุยหน้าเอา เกิดเป็นคริสอู๋นี่ช่างเลือกลำบากนัก(ว่าจะตายแบบไหน)
“เข้าไปด้านหน้าห้างกันเถอะค่ะ แหม คุณก็ไปแกล้งตาคริสเขา” แล้วคุณมี้ก็ควงสามีเดินเข้าประตูห้างไป เหลือแต่เด็กน้อยที่ทำหน้ารอคำตอบกับผู้ชายที่ยืนเหงื่อตก แหมถ้าจะล้อเล่นแบบนี้ช่วยจั่วหัวบอกหน่อยได้ไหมครับ กระผมกลัวลูกปืนนะบอกตรงๆ
“ว่าไงฮะ?” แอ็คแท็คด้วยการเอียงคอทำหน้าแบ๊วอีกที
“รักครับ รักที่สุดเลย” เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจคริสก็ได้รางวัลเป็นจุ๊บที่ปากไปสองที คนให้รางวัลทำเองก็เขินเองก้มหน้าซบลงกับซอกคอของคนอุ้มที่เดินยิ้มเป็นคนบ้า ใครจะว่าบ้าก็ยอมแล้วอ่ะ!
น้องหนูยอลร่าเริงและลัลล้ามากกับร้านเสื้อผ้าต่างๆโดยที่มีคุณมี้นำเสื้อผ้าหลากหลายแบบมาทาบตัวน้อยๆของหนูยอล คริสก็ได้แต่อุ้มเดินพาเจ้าตัวน้อยเข้าร้านนั้นร้านนี้ เสื้อผ้าทุกชุดที่คุณมี้เลือกน้องหนูยอลจะต้องหันมาถามพี่ชายตัวโตว่าสวยไหม น่ารักไหม ถ้าน้องหนูยอลใส่แล้วจะน่ารักหรือเปล่า ชุดไหนก็น่ารักซื้อไปเถอะจ๊ะ
“พี่หนูคริส~ ระหว่างสีชมพูกับสีฟ้า พี่หนูคริสว่าน้องหนูยอลใส่สีไหนสวยฮะ?” เด็กน้อยชี้ไปที่ชุดเดรสชีฟองที่ตีบานเป็นชุดนางฟ้าในมือของมารดาที่ยืนยิ้มมั่นใจเสียเต็มที่ คริสกระพริบตาปริบๆมองชุดสองสีนั้นสลับกับใบหน้าของคนเป็นแม่และเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างมารดา แน่ใจนะว่านั่นจะใส่ไปโรงเรียน?
“อ่า.... สีไหนก็น่ารักครับ” คริสลงนั่งยองๆแล้วบีบแก้มนิ่มๆสองข้างของเด็กน้อยเบาๆ หนูยอลพองแก้มแล้วส่ายหน้าไปมา
“น้องหนูยอลให้พี่หนูคริสเลือกได้แค่สีเดียวฮะ ถ้าพี่หนูคริสรักน้องหนูยอลต้องตอบถูกสิว่าน้องหนูยอลใส่สีไหนแล้วสวย” คริสยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนแล้วคว้าชุดในมือของมารดาเด็กน้อยที่ยืนถือชุดมาหนึ่งชุดแล้วลงนั่งยองๆท่าเดิม มือเรียวทาบชุดเดรสชีฟองสีหวานเข้ากับตัวของเด็กน้อยที่ยิ้มกว้าง
“สีชมพูครับ” เด็กน้อยชอบสีชมพูก็แล้วทำไมจะไม่รู้กันล่ะเนอะ เมื่อได้คำตอบที่แสนจะถูกใจเด็กน้อยก็โผเข้ากอดแล้วจุ๊บที่ปลายจมูกโด่งของคนเลือกชุดได้ถูกใจเป็นรางวัล
“เห็นไหมว่าน้องหนูยอลก็เป็นคนพิเศษของพี่หนูคริส เป็นเจ้าสาวของพี่หนูคริสได้” ห๊ะเดี๋ยวนะ!~ อะไรนะ!!!!
“คุณมี้น้องหนูยอลเอาสีชมพูนะฮะ” แล้วเจ้าตัวดีที่สร้างเรื่องไว้ก็หันไปหาคุณมี้แล้วก็จูงมือคุณมี้ไปเลือกเสื้อผ้าต่อ ทิ้งให้คนโดนน็อคเอ้าท์นั่งอยู่ที่เดิมกับรังสีอำมหิตจากคุณแด๊ดที่ยืนอยู่ด้านหลังและยืนมองอยู่นานแล้ว ไม่ต้องเข้าคุกแล้วล่ะกู ฝังเลยเถิด อาเมน...
หลังจากช็อปเสื้อผ้าเสร็จ คุณแด๊ดกับคุณมี้ก็ควงคู่กันไปเดินซื้อเครื่องครัวใหม่เข้าบ้านเสียหน่อย น้องหนูยอลกับพี่หนูคริสก็เลยมาเดินเล่น แย่งกันกินไอศกรีมโคนในมือของพี่ชายตัวโต แต่คนถือจะได้ลิ้มรสไอกศรีมแสนอร่อยนี้ไม่ทันเด็กตัวน้อยที่หัวเราะเริงร่ากับการได้แกล้งพี่ชายตัวโตหรอก น้องหนูยอลที่เห็นว่าแกล้งคุณพี่ชายข้างบ้านจนพอใจแล้วก็จับโคนไอศกรีมนั้นมาถือไว้เองแล้วก็ยื่นป้อนให้พี่ชายได้กินบ้าง คริสยิ้มแล้วก้มลงลิ้มเนื้อครีมหวาน
“คริสนินา คริส~” เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงตะโกนเรียก คริสก็เลยต้องหยุดเดินแล้วหันไปด้านหลังที่ได้ยินเสียงเรียกและเสียงวิ่ง
“ราอิม?” หญิงสาวที่วิ่งมาหยุดยืนใกล้ๆยิ้มกว้าง น้องหนูยอลตีสีหน้าไม่พอใจมองหญิงสาวคนนั้น
“ใช่แล้ว เราคิดว่าคริสจะจำเราไม่ได้นะเนี่ย” หญิงสาวยิ้มแล้วเหลือบมองเด็กน้อยที่มองหน้าหล่อนแบบรังเกียจ “น้องคริสเหรอ? น่ารักจัง”
“น้องหนูยอลไม่ใช่น้อง แล้วก็ไม่ต้องยื่นมือมาจับน้องหนูยอลไม่ชอบ!” เด็กตัวน้อยเบี่ยงหนีมือที่หมายจะเอื้อมมาจับ หญิงสาวหน้าเสียไปแว่บนึงก่อนที่จะหันไปยิ้มกว้างให้คริส
“แล้วราอิมมาทำอะไรครับ” น้องหนูยอลสะบัดหน้าไปมองใบหน้าของคริสแล้วก็ทำหน้าบูด พี่หนูคริสไปคุยกับยัยป้านี่ทำไม!!
“เรามาทานข้าวน่ะ คริสทานข้าวหรือยังไปด้วยกันสิ นะ~” ยังจะมาอ้อนอีก น้องหนูยอลพองแก้มทำตาเหลือกแล้ว ไม่ชอบเลยจะบอกให้!!
“อ่า.. ไม่เป็นไร ไว้โอกาสหน้านะ” คริสส่งยิ้มให้หญิงสาวแต่น้องหนูยอลไม่พอใจ ทำหน้าบูดยกแขนกอดอก
“ไม่มีโอกาสหน้าฮะ น้องหนูยอลไม่ไปแล้วก็ไม่ให้พี่หนูคริสไปด้วย แค่นี้นะ!” แล้วเจ้าตัวก็สะบัดหน้าหนีหมายว่าไม่อยากคุยต่อ ดวงตากลมโตมองจ้องกับดวงตาคมที่มองสบมา ในแววตานั้นทั้งตกใจ ทั้งขบขันแต่น้องหนูยอลก็ไม่สนใจ แก้มขาวแดงจัดด้วยความโกรธและใบหน้าน่ารักก็บูดบึ้งมากเสียด้วย คริวหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วยกมือขึ้นโยกหัวกลมๆไปมาเบาๆ
“ตามนั้นครับ เดี๋ยวเราไปดูตุ๊กตาพี่คิตตี้กันเนอะ” พอได้ยินว่าคิตตี้เจ้าตัวดีก็ยิ้มร่าแล้วกอดรอบคอคนเอาใจก่อนที่จะไถหัวไปมาอย่างอารมณ์ดี
“ไปฮะ รักพี่หนูคริสจัง” คริสยิ้มแล้วลูบกลุ่มผมนิ่ม ลูบแผ่นหลังเล็กนั้นอย่างเอ็นดูก่อนที่จะหันมาหญิงสาวที่ยืนทำหน้าเคลิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของทุกคนยิ้มกว้างด้วยแววตาที่อ่อนโยนแบบนี้
“ถ้างั้นขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่มหาลัยนะ” ยังไม่ทันที่คริสจะเอ่ยจบประโยคดี เด็กตัวน้อยก็สะบัดหน้าไปหายัยป้าคนนั้นแล้วพูดด้วยเสียงที่บอกได้เลยว่าถ้าน้องหนูยอลตัวโตนะมีท้าตบแล้วนะจ๊ะ ไม่ไหวจะเคลียร์
“ไม่ให้เจอ ไม่ต้องมาเจอเลยนะ!!” พูดแล้วก็สะบัดหน้ากลับไปซุกคอของพี่ชายตัวโตต่อ คริสยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆก่อนที่จะก้มหัวลาหญิงสาวแล้วหันหลังเดินจากมา หนูยอลที่มองหญิงสาวคนนั้นทำตาโตใส่ก่อนที่จะทำท่าปาดคอตามที่เคยดูในละครที่นั่งดูกับคุณแด๊ด
นี่ถ้าน้องหนูยอลตัวโตนะ น้องหนุยอลไม่ทนแล้วนะ!!! น้องหนูยอลจะตระกุยหน้าให้เละเลย!!!! คอยดูเถอะ น้องหนูยอลจะตัวโตๆ ตัวสูงๆ จะไม่ให้ใครได้เห็นพี่หนูคริสเลย!!!
“พี่คิตตี้!!!” เมื่อเข้าไปในร้านเฮลโหลคิตตี้ได้เจ้าตัวน้อยก็ดิ้นขอลงแล้ววิ่งยิ้มร่าเข้าไปในร้านทันที ลืมเรื่องหัวเสียเมื่อครู่ไปหมด คริสยืนเท้าเอวอยู่หน้าร้านแล้วก็หัวเราะ เด็กหนอเด็ก~
“พี่หนูคริสเร็วๆ มาช่วยน้องหนูยอลเลือกพี่แดเนียลหน่อย~~” คริสก้าวเท้าเข้าร้านสีชมพูหวานที่ไม่เหมาะกับตัวเองแล้วก็ต้องขนลุก สีชมพูหวานเลยนะเฮ้ย หวานจนขนลุกอ่ะอยากบอก
“พี่หนูคริสว่าน้องหนูยอลจะซื้อพี่แดเนียลชุดไหนดีฮะ” เด็กน้อยหันไปถามคริสที่ลงนั่งยองๆซ้อนอยู่ด้านหลัง ตุ๊กตาแดเนียลเซ็ทที่เพิ่งออกใหม่นี้มีสามชุด มีชุดสูท ชุดไปรเวทแล้วก็ชุดฮันบก
“แล้วพี่คิตตี้เป็นตัวไหนละคะ? หื้ม?” น้องหนูยอลยิ้มกว้าง
“น้องหนูยอลซื้อไปแล้ว วันนี้น้องหนูยอลจะซื้อพี่แดเนียล”
“แล้วพี่คิตตี้ใส่ชุดอะไรครับ” น้องหนูยอลยิ้มกว้างแล้วหันมาหาคนที่นั่งยองๆซ้อนหลังทั้งตัวก่อนจะยกมือแนบแก้มของคนเป็นพี่
“น้องหนูยอลมีทุกแบบเลย แต่น้องหนูยอลไม่มีพี่แดเนียลให้พี่คิตตี้” คริสยิ้มแล้วเอื้อมมือหยิบพี่แดเนียลชุดสูทมาส่งมาให้
“งั้นเอาชุดนี้ไหมครับ พบกันครั้งแรกพี่แดเนียลต้องหล่อเนอะ” น้องหนูยอลยิ้มกว้างแล้วอุ้มพี่แดเนียลไว้กับตัวเอง แก้มกลมดันดวงตาโตให้เล็กจนเป็นรูปเสี้ยวดวงจันทร์ดูน่ารักไม่หยอก
“ก็ได้ฮะ ชุดสูทนี้เหมือนชุดเจ้าบ่าวเลยพี่คิตตี้ตัวโปรดของน้องหนูยอลก็เป็นพี่คิตตี้ใส่ชุดเจ้าสาว เห็นไหมว่าพี่หนูคริสรู้ใจน้องหนูยอลด้วย เราก็เป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันได้เนอะ~” แล้วก็ยื่นหน้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากบางเฉียบนั้นก่อนที่จะยืนก้มหน้าซุกพี่แดเนียลด้วยความเขินอาย คนที่ทำถูกใจแล้วจุ๊บเป็นรางวัลก็ยิ้ม หัวใจก็เต้นรัวเร็วยิ่งกว่ารัวกลองสะบัดชัยเสียอีก
“ไปจ่ายเงินกัน ป่านนี้คุณแด๊ดกับคุณมี้รอนานแล้วมั้งเนอะ” แล้วคริสก็อุ้มทั้งเด็กน้อย ทั้งพี่แดเนียลไปที่เค้าน์เตอร์เพื่อชำระเงิน
“สวัสดีค่ะสนใจร่วมกิจกรรมกับเราไหมคะ? ทางร้านตอนนี้กำลังจัดกิจกรรมถ่ายรูปน้องๆแล้วจัดให้โหวตว่าใครจะได้เป็นพริ้นซ์และพริ้นเซสที่จะได้มาแต่งตัวเป็นคิตตี้กับแดเนียลและได้ถ่ายรูปในฉากจำลองที่สร้างเป็นปราสาทของคิตตี้ค่ะ” คริสน่ะไม่อะไรหรอกแต่เด็กน้อยน่ะเบิกตากว้าง ทำตาวาวแล้ว
“สนใจฮะ!! น้องหนูยอลจะถ่ายนะ น้องหนูยอลอยากเป็นพี่คิตตี้ในปราสาท!!”
บนเก้าอี้เล็กสำหรับเด็กน้องหนูยอลกำลังนั่งยิ้มกว้างให้พี่ตากล้องเก็บภาพอยู่ จริงๆก็จะแค่รูปเดียวนั่นล่ะแต่เด็กตรงหน้าน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ พี่ตากล้องก็เลยขอเก็บภาพไว้เยอะหน่อย ยิ้มไปยิ้มมาก็เริ่มที่จะเหี่ยวเสียแล้วสิ ใบหน้าน่ารักพองลมแล้วกวักมือเรียกพี่ชายตัวโตที่ยืนข้างตากล้องให้เข้ามาหา
“มาถ่ายกับน้องหนูยอลสิฮะ น้องหนูยอลเหงา” เมื่อพี่ตากล้องพยักหน้าอนุญาตชายหนุ่มก็ก้าวเท้าเข้าไปลงนั่งที่พื้นข้างๆเด็กน้อยที่นั่งบนเก้าอี้ น้องหนูยอลหันมายิ้มกว้างและคริสก็หันไปมองแล้วยิ้มให้ ทั้งสองไม่รู้ตัวหรอกว่าโดนเก็บภาพไปแล้วเรียบร้อย
พอพี่ตากล้องให้สัญญาณคริสก็ยิ้มให้กล้องแต่เด็กน้อยน่ะรอโอกาสอยู่แล้วที่จะจุ๊บแก้มนั้นก่อนที่พี่ตากล้องจะกดชัตเตอร์เจ้าตัวแสบก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่ชายที่ยิ้มให้กล้อง และกล้องก็เก็บภาพนั้นได้ทัน น้องหนูยอลที่อุ้มพี่แดเนียลและกำลังหอมแก้มพี่ชายตัวโตนั้นถูกใจพนักงานในร้านและเจ้าตัวยิ่งนัก
“น้องหนูยอลเอารูปที่ถ่ายกับพี่หนูคริสหมดเลยได้ไหมฮะ” เด็กน้อยถามพี่พนักงานสาวที่บอกให้เลือกรูปได้หนึ่งใบ ก็น้องหนูยอลอยากได้หมดเลยนินา~
“ถ้าอย่างนั้นเอางี้นะคะ พี่จะให้หนูเลือกรูปหนูหนึ่งใบนะแล้วก็รูปนี้” ปลายนิ้วของพี่พนักงานชี้รูปที่หนูยอลหอมแก้มคริส “พี่จะแถมให้ ส่วนรูปทั้งหมดพี่จะไรท์ใส่แผ่นแล้วส่งไปพร้อมกับกรอบรูปนะจ๊ะ”
“พี่สาวคนสวยใจดีจังเลย!~” เด็กน้อยชูสองมือขึ้นมาอย่างร่าเริง
“จะดีหรือครับ” หญิงสาวหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นค่าจ้างที่มานั่งให้ถ่ายรูปตั้งเยอะล่ะกันเนอะ ถ้ายังไงเดี๋ยวกรอกรายละเอียดให้หน่อยนะคะ” คริสก็เขียนที่อยู่บ้านของตัวเองไปและน้องหนูยอลก็เลื่อนดูรูปไปมา ไม่อยากจะบอกเลยว่าเขินมาก! แต่น้องหนูยอลชอบรูปนั้นจริงๆนะ รูปที่หอมแก้มพี่หนูคริสน่ะ
“เดี๋ยวคืนนี้ทางเราจะลงรูปในเว็บนะคะ ยังไงก็เข้าไปโหวตด้วยนะคะ” แล้วเธอก็หยิบใบกิจกรรมมาส่งให้คริส คริสรับมาแล้วก้มหัวขอบคุณก่อนที่จะอุ้มเด็กน้อยและถือถุงตุ๊กตาพี่แดเนียลออกจากร้านไป
“พี่หนูคริสว่าน้องหนูยอลจะชนะไหมฮะ?” น้องหนูยอลยู่ปากอย่างใช้ความคิด คริสเห็นแล้วก็อดหมั่นเขี้ยวไม่ได้เลยฝังปลายจมูกที่แก้มกลมๆนั้นหนึ่งที
“ต้องได้สิ ลืมแล้วหรือไงว่าเรามีใคร? พี่ลู่ พี่เปา พี่แด พี่ฮุนไง รับรองว่ายังไงก็ไม่พลาดหรอก” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะเสียงใส จริงๆจะชนะหรือไม่ชนะหนูยอลก็ไม่สนหรอกแค่ได้รูปใบนั้นก็พอ เมื่อไหร่รูปใบนั้นจะส่งมาน้า~ น้องหนูยอลจะเฝ้าพี่ไปรษณีย์ทุกวันเลย
“พี่หนูคริสฮะ” ดวงตากลมๆมองคนอุ้มด้วยนัยน์ตาที่แย้มยิ้มเสียเต็มดวงตา สองมือเล็กแนบที่แก้มสากไว้ ใบหน้าน่ารักเอียงคอทำมุมองศาน่ารัก
“ครับ?”
“พี่หนูคริสเป็นของน้องหนูยอลนะฮะ ห้ามนอกใจนะฮะ” คริสยิ้มแล้วเลื้อนหน้าใช้มาจนปลายจมูกชนกับจมูกเล็กๆของเด็กน้อย
“น้องหนูยอลก็เป็นของพี่หนูคริสนะครับ ห้ามมีคนอื่นนะ ห้ามรักผู้ชายอื่นนะ รู้ไหม?” ว่าแล้วก็เอียงหน้าวางสัมผัสที่กลีบปากเล็กเบาๆ น้องหนูยอลที่แก้มแดงก็พยักหน้ารับแล้วยกนิ้วก้อยเล็กๆขึ้นมาชูตรงหน้า
“น้องหนูยอลสัญญาว่าจะรักแล้วก็เป็นเจ้าสาวของพี่หนูคริสคนเดียวฮะ” คริสเกี่ยวนิ้วก้อยเข้ากับนิ้วเล็กๆนั้นแล้วดึงมือเล็กๆนั้นมาจุมพิตที่หลังมือแผ่วเบา
“ห้ามผิดสัญญานะครับ เจ้าสาวของพี่”
เอาวะคุกก็คุก! ลูกปืนก็ลูกปืนเหอะ!!! ทำไมจะต้องกลัว!!! เกิดมาสักครั้งมันต้องลองให้ครบ ชีวิตถึงจะมีรสชาติ!!!!
พระเจ้าครับ ... แต่อย่าเพิ่งจับผมเข้าคุกนะ ผมยังไม่พร้อม อาเมน....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น