ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Song Fic] อะไร
อิอิ ยังคิดถึง และ รัก ฮุนยอลอยู่ไหมคะ? ขอเสียงหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อิอิ วันนี้มาเป็นซองฟิคเลยอ่ะ เขาแต่งกันยังไงเราก็ไม่รู้นะ เราไม่ถนัดซะด้วยสิ มันอาจจะสั้นไปหน่อยนะคะ
มาจากเพลงนี้ค่ะ อะไร - FLURE จะฟังเพลงนี้อ่านไปก็ได้นะคะ หรือจะดูเอ็มวีแล้วค่อยอ่านก็ได้ค่ะ อิอิ
เลือกเอ็มวีมาให้เลยค่ะ เพราะมาก เสียงนุ่มสุดติ่งค่ะ
_______________________
“พวกมึงสองคนเป็นอะไรกันวะ” เอาอีกล่ะ คำถามนี่มาอีกล่ะ แต่ก็นะ โดนถามมาตลอดตั้งแต่ประถมยันมัธยม และคงจะเรื่อยไปยันมหาลัยสินะ
“เพื่อนไง” ผมก็ตอบออกไปโดยที่มีคนข้างกายพยักหน้ารับเห็นด้วย
“จริงป่ะ?” ผมถอนหายใจแล้วผลักหน้ามันให้ออกไปจากรัศมีสายตา
“ไอ้คุณกัมจงครับ มึงก็อยู่กับพวกกูมาตั้งแต่อนุบาล มึงยังจะถามอีกเหรอ? ไม่เบื่อไงวะ?” ผมนั่งเท้าคางมองคนที่นั่งเก้าอี้ตัวหน้าแล้วหันหน้ามาหาพวกผม
“ก็แหม เพื่อจะได้รับคำตอบอื่น” มันพึมพำงึมงำอะไรก็ไม่รู้
“มึงว่าอะไรนะ?”
“เปล่าๆ แหะๆ เซฮุนยืมการบ้านลอกหน่อยดิ” แล้วมันก็ไปแบมือขอการบ้านจากคนข้างกายผม อืมจะว่าไปผมก็ยังไม่ได้ทำเลยนะ
“ไม่ให้” เซฮุนตีมือกัมจงหรือจงอินดังเพี๊ยะก่อนที่จะหยิบสมุดการบ้านออกมาให้ผม
“ยังไม่ได้ทำใช่ไหม ลอกซะแล้วเอาให้ไอ้ดำด้วย” ผมยิ้มกว้าง เพื่อนคนนี้ ไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
...ไม่เคยจะรู้ ว่าโลกใบนี้ จะมีอีกคนที่ดีและเหมือนกัน แทบทุกอย่าง
และยิ่งไปกว่านั้น คือเธอคนนั้น เรามาพบกัน เช่นไรยังไม่รู้ ไม่เคยเข้าใจ...
พอทำการบ้านเสร็จก็เลยให้ไอ้ดำไปลอกต่อ เซฮุนหันหน้าออกจากหน้าต่างแล้วยื่นหูฟังให้ผม ผมก็รับมาเสียบหูแล้วฟังเพลงไปด้วยกัน เสียงดนตรีเอื่อยๆกับเสียงร้องที่คลอเคล้าไปกับดนตรีเรียกให้ผมยิ้มออกมา เพลงที่เซฮุนฟังมักจะเป็นพวกทำนองช้าๆ เบาๆ ไม่ใช่พวกเมธัลแบบผม แต่เวลาที่ผมอยากให้มันฟัง มันก็ฟังโดยที่ไม่อิดออดแม้ว่ามันจะไม่ชอบเสียงดังๆก็ตาม
พอฟังเพลงเบาๆ สบายหูแบบนี้โสตประสาทของผมก็ดูด้อยลงทันที ผมวางสองแขนซ้อนกับบนโต๊ะก่อนที่จะเอียงหน้านอนลงไปโดยที่หันหน้าไปทางหน้าต่าง พอเปลือกตาผมปิดลง มืออุ่นๆก็ลูบอยู่ที่หัวผมเบาๆ ความอุ่นสบายนั้นเรียกให้ผมยิ้มออกมา ทุกการกระทำนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติ และแน่นอนว่าเซฮุนยังไม่ได้หันมามองเลยว่าผมหลับหรือยัง บางทีผมก็คิดนะว่ามันมีตาหลังหรือเปล่า? เพราะมันหันหลังตลอดเลย แต่ก็เอาเถอะ สบายแบบนี้ของีบสักหน่อยดีกว่า
“ก็แล้วบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน” เสียงของไอ้ดำข้างหน้ามันบ่นงุ๊งงิ๊งอะไร ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้วเพราะตอนนี้ผมกำลังหลับโดยที่มีมืออุ่นๆของเพื่อนสมัยเด็กลูบหัวของผมอยู่
...ฉันไม่เคยคิด เพราะรู้สึกดี ทุกวินาทีก็มีแต่สองเรา ไม่เหินห่าง
แต่ฉันเริ่มจะคิด เพราะฉันเพิ่งเห็นที่เราคบกัน จะเรียกว่าอะไร ก็ไม่รู้...
“อ้าว รอนานไหม” ผมถามเมื่อเห็นว่าเซฮุนยังคงนั่งรออยู่ที่โต๊ะนอกโรงยิม ข้างนอกน่ะมืดแล้วนะ
“ไม่หรอก กลับบ้านกัน” มันยื่นมือมาให้ ผมก็ยิ้มกว้างแล้วส่งกระเป๋านักเรียนส่งให้มันถือ กระเป๋าสองใบถูกถืออยู่เคียงข้างกัน ทุกเย็นผมจะมาซ้อมบาสอยู่ที่โรงยิม ส่วนมันก็แค่มานั่งรอกลับบ้านพร้อมกับผมทุกวัน
“เฮ้ย กลับก่อนนะ” ไอ้ไควิ่งมาตบบ่าของพวกผมก่อนที่จะวิ่งไปอีกทาง
“เหนื่อยไหม” เซฮุนถามแล้วสอดมือจับกับผม ผมเองก็บีบมือมันเบาๆตอบที่มันบีบมา
“ไม่ล่ะ แล้วนายล่ะมารอแบบนี้หิวไหม เหนื่อยเปล่า เดี๋ยวกินข้าวก่อนนะค่อยเข้าบ้าน” จะว่าไปบ้านเราก็อยู่แค่ข้างๆกันเองนะ
“นอนด้วยได้ป่ะ?” แววตาเฉยชาของมันดูวาวๆเหมือนผมมองเห็นแสงดาวท่ามกลางท้องทะเลเลย ปากของมันก็เหยียดยิ้มขึ้นเบาๆ อ่า.. เซฮุนผู้เฉยชา ไม่ค่อยชอบแสดงอารมณ์ให้ใครเห็นแต่มันก็ชอบกวนประสาทผมทุกทีเวลาที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน
“แล้วถ้าตอบว่าไม่ได้ล่ะ”
“ก็จะนอนอยู่ดี ห้ามไปก็เท่านั้น” แล้วผมก็ทำหน้าบู้ ก็แล้วจะถามทำติ่งอะไรวะเฮ้ย!
“นายนี่กวนประสาทจริงๆโอเซฮุน!!”
“ก็แล้วจะทำไมครับปาร์คชานยอล” แน่ะ ไอ้นี่!!!
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็อาบน้ำแล้วมานั่งรอให้เซฮุนอาบน้ำ เสื้อผ้าของเรานั้นมีทั้งสองบ้านนั่นล่ะ ตอนนี้ก็เริ่มชักจะสับสนแล้วว่าเสื้อตัวไหนเป็นของใคร ผมกำลังนั่งอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงแล้วเซฮุนก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ผมก็กวักมือเรียกให้มันมานั่งบนเตียง ซึ่งมันก็มาโดยดี มานั่งอยู่ตรงหน้าผมแล้วยื่นผ้าเช็ดผมมาให้ ผมก็เลยวางแหมะบนหัวมัน หัวเราะเบาๆแล้วก็ค่อยๆเช็ดเส้นผมเปียกน้ำของมันเบาๆ
ผมของเซฮุนน่ะเส้นเล็ก พลิ้วสวยซึ่งต่างจากเส้นผมของผมแต่มันก็บอกว่ามันชอบเส้นผมของผม แต่มันก็คงไม่รู้ว่าผมชอบเส้นผมของมันมากกว่าเสียอีก เมื่อผมของมันแห้งแล้วผมก็ลงจากเตียงเดินไปผ้าไปแขวนไว้ที่ราว เซฮุนนอนพิงหลังไว้กับหัวเตียงแล้วอ่านการ์ตูนของผมที่ผมวางทิ้งไว้ เมื่อผมขึ้นเตียงไปนั่งหน้ามุ่ยที่มันแย่งผมอ่านมันก็หัวเราะในลำคอเบาๆ โธ่ ไอ้ขี้เก๊ก!
“มานี่สิ” มันละแขนออกข้างหนึ่งแล้วโอบรอบคอให้ผมไปนอนชิดพิงไหล่มัน ซึ่งแน่นอนผมก็ยิ้มร่าเลยน่ะสิ หัวเตียงน่ะไม่นิ่มเท่าอกมันหรอก~ แล้วเราก็นอนอ่านหนังสือการ์ตูนไปด้วยกัน
หลังจากนอนอ่านการ์ตูนกันจนดึกแล้ว เซฮุนก็เอี้ยวตัวไปวางหนังสือที่โต๊ะข้างหัวเตียงก่อนที่จะล้มตัวลงนอนหงายโดยที่มันก็กางแขนข้างหนึ่งออก ผมก็ล้มตัวลงนอนข้างตัวมันแล้วแขนนั้นก็วกกลับมารัดตัวผมไว้ ผมเองก็กอดแขนไว้ที่เอวของมัน เราชอบนอนกันแบบนี้ผมว่ามันอุ่นดี เราก็จะนอนด้วยกันทุกคืนไม่มีคืนไหนเลยที่เราจะต้องนอนคนเดียว ขนาดจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันยังต้องหนีบเอาอีกคนไปด้วยเลย บางทีก็ไปด้วยกันเลยทั้งสองบ้าน เราไม่เคยห่างกันเลยแม้เสี้ยวนาที
เมื่อจัดท่าทางให้ดีแล้วผมก็หลับตาลง เซฮุนบอกว่าผมน่ะหลับง่าย แค่หลับตาผมก็สามารถที่จะหลับไปได้เลย และขณะที่ผมกำลังเคลิ้มจะหลับนั้นอยู่ๆสัมผัสอุ่นๆก็แตะลงที่หัวของผม ผมไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด แต่ผมรู้เพียงแค่ว่ามันมาจากใคร แค่นั้นผมก็ตกลงสู้ห้วงแห่งการหลับใหลทันที
...เพราะคล้ายกันจนทำให้ตัวฉันใส่ใจ เพราะเหมือนกันเลยคิดว่าเป็นเพื่อนกันดี
เพราะรักเธอ จึงทำให้ตัวฉันหวั่นไหว ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกบ้างไหม...
“เอ๊ะ หลับเหรอ?” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนที่นอนราบกับพื้นหญ้าในสวนสาธารณะแถวบ้าน นอนแบบไม่เกรงใจใครเลย สองมือก็รองหัวต่างหมอนหนุน แหม สบายจังนะคุณท่าน!!
“เซฮุนนา หลับแล้วเหรอ” ผมก้มหน้าลงไปอีก เพื่อที่จะจับพิรุทว่ามันหลับหรือไม่หลับ วันนี้ผมกับมันออกมานั่งเล่นที่สวนกันก่อนที่จะไปดูหนังกันตอนบ่าย แต่ถ้าลองมันได้หลับนะขอบอกว่าหลับยาวครับ เพราะฉะนั้นเซฮุนเลยไม่ค่อยงีบหลับที่ไหนนอกจากที่บ้าน
“อ๊ะ~” แล้วผมก็ตกใจที่อยู่ๆมันก็ลืมตาขึ้นมามองผม ดวงตารีๆของมันที่มองสบตาแม้ว่าคนอื่นอาจจะมองว่าเย็นชาและดูไม่สบอารมณ์ แต่ผมว่าดวงตาของเซฮุนน่ะมีประกายบางอย่างอยู่ในนั้นนะ และก็เหมือนผมโดนดึงดูดด้วยดวงตาคู่นี้นี่แหละ
“ทำไม? จะลักหลับหรือไง” แล้วมันก็ยิ้มบางๆส่งคืนให้ก่อนที่จะละมือออกจากการรองหัวข้างหนึ่งมาไล้แก้มผม มือที่สัมผัสแก้มผม ดวงตาอบอุ่นคู่นั้นที่มองมาที่ผม หัวใจของผมที่เต้นรัว และอาการร้อนที่ก้มจนต้องเอียงแก้มหนีมือนั้น
“บ้า ใครจะทำ” แล้วผมก็เสสายตาไปที่อื่น ไม่มองสบตาวาวๆของมัน แต่เซฮุนกลับยืดคอมาหาผมแล้วฝากจูบไว้ที่ปากผมเบาๆ
“กูไง” จบประเด็นครับ ผมก็ฟาดมันไปทีที่อก เสียงมันร้องดังอั๊กเลย แต่สะใจ สมน้ำหน้า มาทำอะไรประเจิดประเจ้อวะ อายคนอื่นเขา!
มึงไม่คิดอะไรกันเลยหรอ? อยู่ๆเสียงของไอ้เพื่อนตัวดำก็ดังขึ้นมาในหัว ผมหันไปมองคนที่นั่งดูหนังอยู่เงียบๆแล้วเหมือนว่ามันจะรู้ตัวเลยหันมาหาผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนที่จะเอื้อมมือไปโอบผลให้เอนหัวไปวางไว้บนไหล่ของมัน ผมไม่เคยคิดนะว่าเราจะเป็นอะไรกัน หรือเราอยู่ในฐานะไหน เพราะเราก็อยู่กับแบบนี้ ดูแล(จริงๆก็มีแต่มันล่ะที่ดูแลผม)กันแบบนี้อยู่แล้ว เป็นมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ มันคงเป็นความเคยชินที่เรามี
“เซฮุน นายคิดกับฉันแบบไหนเหรอ” อยู่ๆผมก็ถามออกไปเสียงเบาทั้งๆที่เรายังนั่งพิงกันดูหนังแบบนี้นี่แหละ
“แล้วนายล่ะ? นายคิดแบบไหนฉันก็คิดแบบนั้น”
นั่นคือคำตอบหรือเปล่า? ไม่ใช่แบ่งรับแบ่งสู้ แต่เป็นคำตอบที่มีเหมือนกันอยู่แล้วในใจ โดยที่เราไม่ต้องพูดกันแต่ก็รับรู้มันด้วยการสัมผัส คนอื่นจะว่ายังไงผมไม่รู้ แต่ทุกสัมผัสที่เรามอบให้กันเราแฝงความรู้สึกมันลงไปแล้ว แค่มองกันเราก็รู้แล้วว่า เรารู้สึกแบบไหน แล้วในหัวผมก็นึกไปถึงท่อนเนื้อเพลงหนึ่งที่เซฮุนมันชอบฟัง เพลงเรื่อยๆ สบายๆ แต่ฟังแล้วมีความหมาย
...จึงอยากจะขอคำตอบหน่อย ช่วยฉันบอก ไม่เป็นไร หากฉันคนเดียวที่รู้สึก
ฉันคนเดียวที่ฟุ้งซ่าน แค่เพียงอยากให้เราสองอยู่ใกล้ชิดกันก็พอ ไม่ได้เรียกร้องและขอให้มากมาย...
ความหมายที่เหมือนกันเราสองคน ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ที่รู้คือเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้เรื่อยไป
เซฮุนสอดอีกมือเข้ามาจับมือของผมแล้วฝากสัมผัสอุ่นๆไว้ที่หัวผมเหมือนเดิม สัมผัสที่ผมได้รับทุกคืนยามที่เคลิ้มใกล้จะหลับ
“ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย แค่เป็นแบบนี้ก็พอแล้ว” เซฮุนบอกเสียงเบา ผมพยักหน้ารับแล้วขยับหัวพองไหล่ของคนข้างตัวให้ดีๆ เซฮุนอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าผมชอบสัมผัสของมันที่สุด
ผมว่าผมได้คำตอบแล้วนะ ว่าผมกับเซฮุนนั้นอยู่ด้วยกันในฐานะไหน ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร แต่ตอนนี้ผมมีเซฮุนอยู่ข้างๆและมีความสุขดีแล้ว เพราะฉะนั้นก็คงไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ว่าทั้งหมดทั้งมวลระหว่างเรานั้น มันเรียกว่าอะไร ...
เพราะคำตอบจากเซฮุนก็อยู่ในตอนท้ายของเพลงอยู่แล้วนิเนอะ
...ขอคำตอบหน่อย ช่วยฉันบอก ไม่เป็นไร แต่ขอให้เธอได้มั่นใจ ขอให้เธอได้รู้สึก
ว่าทุกอย่างที่ตัวฉัน ทำและถามเธอเรื่อยมา คือชายคนนี้นั้นจะคบเธอเหมือนเดิม ตลอดไป...
ก็แค่นี้ล่ะ ......
อิอิ วันนี้มาเป็นซองฟิคเลยอ่ะ เขาแต่งกันยังไงเราก็ไม่รู้นะ เราไม่ถนัดซะด้วยสิ มันอาจจะสั้นไปหน่อยนะคะ
มาจากเพลงนี้ค่ะ อะไร - FLURE จะฟังเพลงนี้อ่านไปก็ได้นะคะ หรือจะดูเอ็มวีแล้วค่อยอ่านก็ได้ค่ะ อิอิ
เลือกเอ็มวีมาให้เลยค่ะ เพราะมาก เสียงนุ่มสุดติ่งค่ะ
_______________________
“พวกมึงสองคนเป็นอะไรกันวะ” เอาอีกล่ะ คำถามนี่มาอีกล่ะ แต่ก็นะ โดนถามมาตลอดตั้งแต่ประถมยันมัธยม และคงจะเรื่อยไปยันมหาลัยสินะ
“เพื่อนไง” ผมก็ตอบออกไปโดยที่มีคนข้างกายพยักหน้ารับเห็นด้วย
“จริงป่ะ?” ผมถอนหายใจแล้วผลักหน้ามันให้ออกไปจากรัศมีสายตา
“ไอ้คุณกัมจงครับ มึงก็อยู่กับพวกกูมาตั้งแต่อนุบาล มึงยังจะถามอีกเหรอ? ไม่เบื่อไงวะ?” ผมนั่งเท้าคางมองคนที่นั่งเก้าอี้ตัวหน้าแล้วหันหน้ามาหาพวกผม
“ก็แหม เพื่อจะได้รับคำตอบอื่น” มันพึมพำงึมงำอะไรก็ไม่รู้
“มึงว่าอะไรนะ?”
“เปล่าๆ แหะๆ เซฮุนยืมการบ้านลอกหน่อยดิ” แล้วมันก็ไปแบมือขอการบ้านจากคนข้างกายผม อืมจะว่าไปผมก็ยังไม่ได้ทำเลยนะ
“ไม่ให้” เซฮุนตีมือกัมจงหรือจงอินดังเพี๊ยะก่อนที่จะหยิบสมุดการบ้านออกมาให้ผม
“ยังไม่ได้ทำใช่ไหม ลอกซะแล้วเอาให้ไอ้ดำด้วย” ผมยิ้มกว้าง เพื่อนคนนี้ ไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
...ไม่เคยจะรู้ ว่าโลกใบนี้ จะมีอีกคนที่ดีและเหมือนกัน แทบทุกอย่าง
และยิ่งไปกว่านั้น คือเธอคนนั้น เรามาพบกัน เช่นไรยังไม่รู้ ไม่เคยเข้าใจ...
พอทำการบ้านเสร็จก็เลยให้ไอ้ดำไปลอกต่อ เซฮุนหันหน้าออกจากหน้าต่างแล้วยื่นหูฟังให้ผม ผมก็รับมาเสียบหูแล้วฟังเพลงไปด้วยกัน เสียงดนตรีเอื่อยๆกับเสียงร้องที่คลอเคล้าไปกับดนตรีเรียกให้ผมยิ้มออกมา เพลงที่เซฮุนฟังมักจะเป็นพวกทำนองช้าๆ เบาๆ ไม่ใช่พวกเมธัลแบบผม แต่เวลาที่ผมอยากให้มันฟัง มันก็ฟังโดยที่ไม่อิดออดแม้ว่ามันจะไม่ชอบเสียงดังๆก็ตาม
พอฟังเพลงเบาๆ สบายหูแบบนี้โสตประสาทของผมก็ดูด้อยลงทันที ผมวางสองแขนซ้อนกับบนโต๊ะก่อนที่จะเอียงหน้านอนลงไปโดยที่หันหน้าไปทางหน้าต่าง พอเปลือกตาผมปิดลง มืออุ่นๆก็ลูบอยู่ที่หัวผมเบาๆ ความอุ่นสบายนั้นเรียกให้ผมยิ้มออกมา ทุกการกระทำนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติ และแน่นอนว่าเซฮุนยังไม่ได้หันมามองเลยว่าผมหลับหรือยัง บางทีผมก็คิดนะว่ามันมีตาหลังหรือเปล่า? เพราะมันหันหลังตลอดเลย แต่ก็เอาเถอะ สบายแบบนี้ของีบสักหน่อยดีกว่า
“ก็แล้วบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน” เสียงของไอ้ดำข้างหน้ามันบ่นงุ๊งงิ๊งอะไร ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้วเพราะตอนนี้ผมกำลังหลับโดยที่มีมืออุ่นๆของเพื่อนสมัยเด็กลูบหัวของผมอยู่
...ฉันไม่เคยคิด เพราะรู้สึกดี ทุกวินาทีก็มีแต่สองเรา ไม่เหินห่าง
แต่ฉันเริ่มจะคิด เพราะฉันเพิ่งเห็นที่เราคบกัน จะเรียกว่าอะไร ก็ไม่รู้...
“อ้าว รอนานไหม” ผมถามเมื่อเห็นว่าเซฮุนยังคงนั่งรออยู่ที่โต๊ะนอกโรงยิม ข้างนอกน่ะมืดแล้วนะ
“ไม่หรอก กลับบ้านกัน” มันยื่นมือมาให้ ผมก็ยิ้มกว้างแล้วส่งกระเป๋านักเรียนส่งให้มันถือ กระเป๋าสองใบถูกถืออยู่เคียงข้างกัน ทุกเย็นผมจะมาซ้อมบาสอยู่ที่โรงยิม ส่วนมันก็แค่มานั่งรอกลับบ้านพร้อมกับผมทุกวัน
“เฮ้ย กลับก่อนนะ” ไอ้ไควิ่งมาตบบ่าของพวกผมก่อนที่จะวิ่งไปอีกทาง
“เหนื่อยไหม” เซฮุนถามแล้วสอดมือจับกับผม ผมเองก็บีบมือมันเบาๆตอบที่มันบีบมา
“ไม่ล่ะ แล้วนายล่ะมารอแบบนี้หิวไหม เหนื่อยเปล่า เดี๋ยวกินข้าวก่อนนะค่อยเข้าบ้าน” จะว่าไปบ้านเราก็อยู่แค่ข้างๆกันเองนะ
“นอนด้วยได้ป่ะ?” แววตาเฉยชาของมันดูวาวๆเหมือนผมมองเห็นแสงดาวท่ามกลางท้องทะเลเลย ปากของมันก็เหยียดยิ้มขึ้นเบาๆ อ่า.. เซฮุนผู้เฉยชา ไม่ค่อยชอบแสดงอารมณ์ให้ใครเห็นแต่มันก็ชอบกวนประสาทผมทุกทีเวลาที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน
“แล้วถ้าตอบว่าไม่ได้ล่ะ”
“ก็จะนอนอยู่ดี ห้ามไปก็เท่านั้น” แล้วผมก็ทำหน้าบู้ ก็แล้วจะถามทำติ่งอะไรวะเฮ้ย!
“นายนี่กวนประสาทจริงๆโอเซฮุน!!”
“ก็แล้วจะทำไมครับปาร์คชานยอล” แน่ะ ไอ้นี่!!!
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็อาบน้ำแล้วมานั่งรอให้เซฮุนอาบน้ำ เสื้อผ้าของเรานั้นมีทั้งสองบ้านนั่นล่ะ ตอนนี้ก็เริ่มชักจะสับสนแล้วว่าเสื้อตัวไหนเป็นของใคร ผมกำลังนั่งอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงแล้วเซฮุนก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ผมก็กวักมือเรียกให้มันมานั่งบนเตียง ซึ่งมันก็มาโดยดี มานั่งอยู่ตรงหน้าผมแล้วยื่นผ้าเช็ดผมมาให้ ผมก็เลยวางแหมะบนหัวมัน หัวเราะเบาๆแล้วก็ค่อยๆเช็ดเส้นผมเปียกน้ำของมันเบาๆ
ผมของเซฮุนน่ะเส้นเล็ก พลิ้วสวยซึ่งต่างจากเส้นผมของผมแต่มันก็บอกว่ามันชอบเส้นผมของผม แต่มันก็คงไม่รู้ว่าผมชอบเส้นผมของมันมากกว่าเสียอีก เมื่อผมของมันแห้งแล้วผมก็ลงจากเตียงเดินไปผ้าไปแขวนไว้ที่ราว เซฮุนนอนพิงหลังไว้กับหัวเตียงแล้วอ่านการ์ตูนของผมที่ผมวางทิ้งไว้ เมื่อผมขึ้นเตียงไปนั่งหน้ามุ่ยที่มันแย่งผมอ่านมันก็หัวเราะในลำคอเบาๆ โธ่ ไอ้ขี้เก๊ก!
“มานี่สิ” มันละแขนออกข้างหนึ่งแล้วโอบรอบคอให้ผมไปนอนชิดพิงไหล่มัน ซึ่งแน่นอนผมก็ยิ้มร่าเลยน่ะสิ หัวเตียงน่ะไม่นิ่มเท่าอกมันหรอก~ แล้วเราก็นอนอ่านหนังสือการ์ตูนไปด้วยกัน
หลังจากนอนอ่านการ์ตูนกันจนดึกแล้ว เซฮุนก็เอี้ยวตัวไปวางหนังสือที่โต๊ะข้างหัวเตียงก่อนที่จะล้มตัวลงนอนหงายโดยที่มันก็กางแขนข้างหนึ่งออก ผมก็ล้มตัวลงนอนข้างตัวมันแล้วแขนนั้นก็วกกลับมารัดตัวผมไว้ ผมเองก็กอดแขนไว้ที่เอวของมัน เราชอบนอนกันแบบนี้ผมว่ามันอุ่นดี เราก็จะนอนด้วยกันทุกคืนไม่มีคืนไหนเลยที่เราจะต้องนอนคนเดียว ขนาดจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันยังต้องหนีบเอาอีกคนไปด้วยเลย บางทีก็ไปด้วยกันเลยทั้งสองบ้าน เราไม่เคยห่างกันเลยแม้เสี้ยวนาที
เมื่อจัดท่าทางให้ดีแล้วผมก็หลับตาลง เซฮุนบอกว่าผมน่ะหลับง่าย แค่หลับตาผมก็สามารถที่จะหลับไปได้เลย และขณะที่ผมกำลังเคลิ้มจะหลับนั้นอยู่ๆสัมผัสอุ่นๆก็แตะลงที่หัวของผม ผมไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด แต่ผมรู้เพียงแค่ว่ามันมาจากใคร แค่นั้นผมก็ตกลงสู้ห้วงแห่งการหลับใหลทันที
...เพราะคล้ายกันจนทำให้ตัวฉันใส่ใจ เพราะเหมือนกันเลยคิดว่าเป็นเพื่อนกันดี
เพราะรักเธอ จึงทำให้ตัวฉันหวั่นไหว ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกบ้างไหม...
“เอ๊ะ หลับเหรอ?” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนที่นอนราบกับพื้นหญ้าในสวนสาธารณะแถวบ้าน นอนแบบไม่เกรงใจใครเลย สองมือก็รองหัวต่างหมอนหนุน แหม สบายจังนะคุณท่าน!!
“เซฮุนนา หลับแล้วเหรอ” ผมก้มหน้าลงไปอีก เพื่อที่จะจับพิรุทว่ามันหลับหรือไม่หลับ วันนี้ผมกับมันออกมานั่งเล่นที่สวนกันก่อนที่จะไปดูหนังกันตอนบ่าย แต่ถ้าลองมันได้หลับนะขอบอกว่าหลับยาวครับ เพราะฉะนั้นเซฮุนเลยไม่ค่อยงีบหลับที่ไหนนอกจากที่บ้าน
“อ๊ะ~” แล้วผมก็ตกใจที่อยู่ๆมันก็ลืมตาขึ้นมามองผม ดวงตารีๆของมันที่มองสบตาแม้ว่าคนอื่นอาจจะมองว่าเย็นชาและดูไม่สบอารมณ์ แต่ผมว่าดวงตาของเซฮุนน่ะมีประกายบางอย่างอยู่ในนั้นนะ และก็เหมือนผมโดนดึงดูดด้วยดวงตาคู่นี้นี่แหละ
“ทำไม? จะลักหลับหรือไง” แล้วมันก็ยิ้มบางๆส่งคืนให้ก่อนที่จะละมือออกจากการรองหัวข้างหนึ่งมาไล้แก้มผม มือที่สัมผัสแก้มผม ดวงตาอบอุ่นคู่นั้นที่มองมาที่ผม หัวใจของผมที่เต้นรัว และอาการร้อนที่ก้มจนต้องเอียงแก้มหนีมือนั้น
“บ้า ใครจะทำ” แล้วผมก็เสสายตาไปที่อื่น ไม่มองสบตาวาวๆของมัน แต่เซฮุนกลับยืดคอมาหาผมแล้วฝากจูบไว้ที่ปากผมเบาๆ
“กูไง” จบประเด็นครับ ผมก็ฟาดมันไปทีที่อก เสียงมันร้องดังอั๊กเลย แต่สะใจ สมน้ำหน้า มาทำอะไรประเจิดประเจ้อวะ อายคนอื่นเขา!
มึงไม่คิดอะไรกันเลยหรอ? อยู่ๆเสียงของไอ้เพื่อนตัวดำก็ดังขึ้นมาในหัว ผมหันไปมองคนที่นั่งดูหนังอยู่เงียบๆแล้วเหมือนว่ามันจะรู้ตัวเลยหันมาหาผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนที่จะเอื้อมมือไปโอบผลให้เอนหัวไปวางไว้บนไหล่ของมัน ผมไม่เคยคิดนะว่าเราจะเป็นอะไรกัน หรือเราอยู่ในฐานะไหน เพราะเราก็อยู่กับแบบนี้ ดูแล(จริงๆก็มีแต่มันล่ะที่ดูแลผม)กันแบบนี้อยู่แล้ว เป็นมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ มันคงเป็นความเคยชินที่เรามี
“เซฮุน นายคิดกับฉันแบบไหนเหรอ” อยู่ๆผมก็ถามออกไปเสียงเบาทั้งๆที่เรายังนั่งพิงกันดูหนังแบบนี้นี่แหละ
“แล้วนายล่ะ? นายคิดแบบไหนฉันก็คิดแบบนั้น”
นั่นคือคำตอบหรือเปล่า? ไม่ใช่แบ่งรับแบ่งสู้ แต่เป็นคำตอบที่มีเหมือนกันอยู่แล้วในใจ โดยที่เราไม่ต้องพูดกันแต่ก็รับรู้มันด้วยการสัมผัส คนอื่นจะว่ายังไงผมไม่รู้ แต่ทุกสัมผัสที่เรามอบให้กันเราแฝงความรู้สึกมันลงไปแล้ว แค่มองกันเราก็รู้แล้วว่า เรารู้สึกแบบไหน แล้วในหัวผมก็นึกไปถึงท่อนเนื้อเพลงหนึ่งที่เซฮุนมันชอบฟัง เพลงเรื่อยๆ สบายๆ แต่ฟังแล้วมีความหมาย
...จึงอยากจะขอคำตอบหน่อย ช่วยฉันบอก ไม่เป็นไร หากฉันคนเดียวที่รู้สึก
ฉันคนเดียวที่ฟุ้งซ่าน แค่เพียงอยากให้เราสองอยู่ใกล้ชิดกันก็พอ ไม่ได้เรียกร้องและขอให้มากมาย...
ความหมายที่เหมือนกันเราสองคน ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ที่รู้คือเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้เรื่อยไป
เซฮุนสอดอีกมือเข้ามาจับมือของผมแล้วฝากสัมผัสอุ่นๆไว้ที่หัวผมเหมือนเดิม สัมผัสที่ผมได้รับทุกคืนยามที่เคลิ้มใกล้จะหลับ
“ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย แค่เป็นแบบนี้ก็พอแล้ว” เซฮุนบอกเสียงเบา ผมพยักหน้ารับแล้วขยับหัวพองไหล่ของคนข้างตัวให้ดีๆ เซฮุนอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าผมชอบสัมผัสของมันที่สุด
ผมว่าผมได้คำตอบแล้วนะ ว่าผมกับเซฮุนนั้นอยู่ด้วยกันในฐานะไหน ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร แต่ตอนนี้ผมมีเซฮุนอยู่ข้างๆและมีความสุขดีแล้ว เพราะฉะนั้นก็คงไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ว่าทั้งหมดทั้งมวลระหว่างเรานั้น มันเรียกว่าอะไร ...
เพราะคำตอบจากเซฮุนก็อยู่ในตอนท้ายของเพลงอยู่แล้วนิเนอะ
...ขอคำตอบหน่อย ช่วยฉันบอก ไม่เป็นไร แต่ขอให้เธอได้มั่นใจ ขอให้เธอได้รู้สึก
ว่าทุกอย่างที่ตัวฉัน ทำและถามเธอเรื่อยมา คือชายคนนี้นั้นจะคบเธอเหมือนเดิม ตลอดไป...
ก็แค่นี้ล่ะ ......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น