ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
เวลาลูกพี่พยอนแมนๆนี่ก็เท่ดีเนอะ อิอิ
ชอบเวลาพี่พยอนทำตัวแมนจังเลยอ่ะ~~~ ทำตัวแมนไม่เท่าไหร่ ทำไมจะต้องมาหล่อในน้องหัวใจละลายด้วยล่ะ~~ #ช่วงอวยไทม์ ฮ่าๆๆๆๆ
เอาจริงๆนะ ชอบพี่จงอินเวลาเต๊าะน้องจงแดจังเลยอ่ะ มันดูป่วยๆและเพลียมากอ่ะบอกตรงๆ ฮ่าๆๆๆ
____________________________________________
คยองซูนั่งกดเปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์ไปเรื่อยๆไม่คิดที่จะดูอะไรสักอย่าง ดวงตาโตกวาดมองรอบๆห้องแล้วก็ถอนหายใจ หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมาก็ไม่เห็นแบคฮยอนเลย เจ้าตัวมีนิสัยที่แก้ไม่หายคือเวลามีเรื่องอะไรก็มักจะไปลงที่ขวดเหล้าทุกทีแล้วมันก็อาจจะไปจบกับผู้หญิงสักคนบนเตียง บางทีคยองซูก็เบื่อนะแต่มันก็เป็นความชื่นชอบของผู้ชายลัลล้าแบบแบคฮยอน
ตัวเขาไม่เคยห้ามและไม่คิดที่จะห้าม ถึงห้ามไปยังไงคนอย่างพยอนแบคฮยอนก็ต้องหาทางกลับไปอีกจนได้ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายเจ้าชู้ที่ไม่เคยขาดหญิงน่ะ.. ยากนะ คยองซูกดปิดโทรทัศน์แล้วนั่งนิ่งๆใช้ความคิดว่าเขาควรจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้แต่ก็คิดไม่ออก ถ้าแบคฮยอนเป็นผู้ชายธรรมดาเหมือนคริสหรืออัพเลเวลอีกนิดเป็นแบบจงอินเขาก็ไม่อะไรหรอกแต่คนนี้ดันเป็นเจ้าชู้ตัวพ่อนี่สิ
“หรือฉันต้องงัดมารยาหลายพันเล่มเกวียนออกมาหรือไงแบคฮยอน” ตบท้ายด้วยเสียงถอนหายใจหนักๆอีกสักที โดคยองซูกำลังจนปัญญาสุดๆไปเลย
“เอาเถอะมันออกได้ทำไมฉันจะออกบ้างไม่ได้” คยองซูกดปิดโทรทัศน์คว้ามือถือกับกระเป๋าเงินได้ก็ออกจากห้องไปเลย
แต่คยองซูก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกก็แค่ขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปหาจงแดที่ห้องก็เท่านั้น โดคยองซูไม่ใช่คนชอบเที่ยวสักหน่อยจะไปเที่ยวอะไรมันก็ไม่ใช่แนว ทำได้อย่างดีก็แค่มาหลบอยู่กับเพื่อนเหมือนทุกครั้งที่คิดไม่ตกนั้นแหละ
เคาะประตูอยู่สักพักกว่าที่ประตูนั้นจะเปิดออกแต่ก่อนเปิดเหมือนได้ยินเสียงหล่นตุ๊บของอะไรสักอย่างด้วย จงแดเปิดประตูออกมาพอเห็นว่าเป็นใครก็เปิดประตูรับเข้ามาในห้อง คยองซูเดินเข้ามาก็เห็นจงอินนั่งอยู่ที่พื้นแล้วก็ลูบหัวตัวเองปอยๆ จงอินเงยหน้าขึ้นมาเห็นก็ยิ้มให้แล้วลุกขึ้นยืน
“ฉันมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าเนี่ย” หันไปถามจงแดที่เดินตามหลังมา จงแดส่ายหน้าแล้วไหวไหล่เบาๆ
“ก็ไม่นิ แล้วนี่ยังไงมีอะไร” จงอินค้อนใส่จงแดอย่างน้อยใจ ก็แหงล่ะอุตส่าห์ขอนอนหนุนตักกว่าทียาใจของพี่จงอินจะยอมก็เอาซะหืดขึ้นคอแล้วนอนอยู่ดีๆพอได้ยินเสียงเคาะประตูก็ผลักพี่จงอินตกเตียงซะอย่างนั้น ฮือ..... ทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้!!
“ก็ เอ่อ... มาขอลี้ภัยน่ะ” คยองซูหันไปยิ้มแหะๆให้จงอินที่ดูก็รู้ว่าตัวเองคงมาขัดจังหวะจริงๆนั่นแหละ จงอินส่งยิ้มให้ในความหมายที่ไม่เป็นไรแล้วก็เดินไปเทน้ำมาให้เพื่อน
“ลี้ภัยอะไรวะ ทะเลาะกับไอ้หมากระเป๋ามาหรือไง” คยองซูยกแก้วน้ำที่จงอินเอามาให้ขึ้นดื่มไม่สนใจที่จะตอบคำถามของจงแด คนถามก็ยกแขนขึ้นกอดอกแล้วส่ายหน้า
“ว่าแล้วเชียว” จงอินเดินไปกอดคอจงแดไว้แล้วยิ้มให้
“น้องจงแดรู้แล้วใช่ไหมว่าพี่จงอินน่ะรักและห่วงใยน้องจงแดแค่ไหน” จงแดตบหน้าผากตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างระอาไอ้คนข้างตัว
“น้องจงแดของพี่จงอินเป็นอะไร? ซึ้งในรสความรักอันหวานล้ำของพี่ใช่ไหมจ๊ะ” จงแดถอนหายใจแล้วสะบัดจงอินออกก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างคยองซูที่มองเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาล้อเลียน
“หยุดเลยโดคยองซู” จงแดชี้นิ้วใส่แต่คยองซูแค่เลิกคิ้วเท่านั้น ริมฝีปากยังคงไม่เลิกยิ้มให้ด้วย จงแดล่ะเพลียใจจังเลย
“คยองซูจะมานอนที่นี่เหรอหรือแค่จะมาเล่นเฉยๆ” จงอินย้ายตัวไปยืนพิงขอบชั้นวางโทรทัศน์แล้วมองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ปลายเตียงกับรูมเมทของเขา จงแดก็หันไปรอคำตอบเช่นกัน
“ก็ว่าจะมาขอนอนด้วยน่ะ” จงแดพยักหน้ารับรู้แต่จงอินกำลังน้ำตาตก แหงล่ะถ้าคยองซูมาเจ้าของห้องร่วมอย่างเขาก็ต้องย้ายลงมานอนที่เตียงน่ะสิ.. ไอ้การที่จะขึ้นไปนอนเบียดเหมือนเมื่อคืนนั้นก็ไม่ได้เพราะตื่นมาจงแดเอาซะหัวเกือบแตก ฮือ.... พี่จงอินผิดอัลไล!!
“ก็เอาดิว่าแต่นี่กินข้าวแล้วใช่ไหม หิวอีกหรือเปล่า” จงแดมักจะเป็นห่วงเพื่อนเสมอนั่นแหละ คยองซูพยักหน้ารับ
“กินแล้วไม่หิวแล้วล่ะ” จงแดก็เลยพยักหน้ารับเบาใจก่อนที่จะหันไปมองจงอินที่ยืนกอดอกส่งยิ้มมาทางเขา อย่ามายิ้มได้ไหมวะคนเขาก็เขินเป็นไหมไอ้นี่นิ!!
“ไปปูที่นอนสิ” จงอินบู้หน้าแล้วส่ายหน้า
“ปูให้หน่อยนะ~” จงแดถอนหายใจ
“อ่ะๆ ปูให้ก็ได้เรื่องมากจริงมึงเนี่ย” ถึงจะบ่นแต่จงแดก็ลุกขึ้นไปทำให้อยู่ดี จงแดเอาผ้านวมปูนอนมาปูให้แล้วก็วางหมอน วางผ้าห่มให้
“เอ้าเสร็จแล้ว นอนกันเถอะ” จงแดเดินไปปิดไฟดวงใหญ่เหลือแต่ดวงเล็กที่หัวนอน จงแดกับคยองซูนอนหันหน้าเข้าหากัน
“มีอะไรกับไอ้แบคฮยอนหรือเปล่า” จงแดเอ่ยถามเสียงเบา คยองซูหันมองเพื่อนแล้วก็ส่ายหน้า
“ก็ไม่เชิงแค่รู้สึก... แย่”
“เกิดอะไรขึ้นวะหลังจากที่มันลากไปแล้วยังไงต่อ” คยองซูถอนหายใจเสียงเบาๆ
“มันไม่มีอะไรหรอกแต่แค่กำลังสับสนเฉยๆ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี” จงแดยื่นมือไปจับมือของคยองซูแล้วบีบเบาๆ
“ลุยไปเลยอย่าไปกลัว โดคยองซูไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้วนิใช่ไหมล่ะ?” คยองซูยิ้มแล้วพยักหน้า
แหงล่ะ.. คนอย่างคยองซูน่ะกล้าได้กล้าเสียอยู่แล้ว ถ้าพยอนแบคฮยอนยังเชื่องช้าเขานี่แหละจะเป็นคนจัดการเอง!!! รู้จักฤทธิ์ฉันน้อยไปน่ะสิ
คยองซูนอนไม่หลับ... คนตัวเล็กลืมตาโพรงอยู่ในความมืด หลังจากที่นอนคุยกันจนง่วงจงแดก็ปิดไฟแล้วก็หลับไปแล้วส่วนจงอินน่ะเหรอ? หลับตั้งแต่หัวถึงหมอนนั่นแหละ การเปลี่ยนที่นอนมันก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้นอนไม่หลับแต่ถ้าจะพูดตามตรงคือ... คยองซูไม่ค่อยชินกับการนอนกับคนอื่นที่ไม่มีแบคฮยอนเสียแล้ว ก็เวลาที่ได้นอนข้างกัน สัมผัสกัน.. มันก็รู้สึกดีจนเผลอไผลและหลับไปเองน่ะสิ
แม้ว่าห้องจะมืดแสงไฟแต่คยองซูก็ยังคงเห็นภาพเงาลางๆ มองเห็นว่าจงอินลุกขึ้นนั่งแล้วหันหน้ามามองบนเตียงที่จงแดปัดผ้าห่มออก จงอินลุกขึ้นมาห่มผ้าให้จงแดแล้วก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากของคนที่หลับไปแล้วก่อนที่ตัวเองจะกลับไปนอนที่เดิม ถ้าแบคฮยอนเป็นแบบจงอินก็ดีน่ะสิเรื่องมันคงจะง่ายกว่านี้ คยองซูได้แต่ข่มตาให้หลับแล้วก็เลิกคิดเรื่องวุ่นวายปวดหัวนี้ได้แล้ว... ถึงจะคิดแบบนั้นแต่เรื่องของแบคอยอนก็ไม่ได้หลุดออกไปจากความคิดเลยสักนาที
แบคฮยอนกำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างในใจ... เรื่องคยองซู ไม่รู้ทำไมถึงติดใจนักเวลาที่รูมเมทตัวเล็กจะไปกับผู้ชายคนอื่น พยอนแบคฮยอนเหมือนจะหัวช้าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างนั้นเสียเมื่อไหร่ น้ำสีอำพันในแก้วไม่ได้ดับความข้องใจและผู้หญิงที่คลอเคลียนี้ก็ไม่ได้รับการสนใจจากแบคฮยอนเลยสักนิด เพราะความคิดทั้งหมดนั้นกำลังวนไปถึงใครบางคน
เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ก็ไม่เคยเห็นเจ้าตัวจะไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับผู้ชายสักคน.. หรือบางทีโดคยองซูจะชอบแบบนี้หรอ? หรือแค่ยั่วกัน.. หรือแค่ลองใจ หรือตัวเขาจะเดาผิดทั้งหมด
“โอ๊ยเลิกคิด!!” แบคฮยอนกระดกของเหลวในแก้วให้หมดก่อนที่จะหันมาหาหญิงสาวข้างกาย
“คิดมากอะไรเหรอคะ บอกจีอึนได้นะคะ” หญิงสาวจีบปากจีบคอเอ่ยถาม ไม่ได้อยากรู้อะไรนักหรอกแต่ถ้าอยากเล่าก็จะฟัง.. และแน่นอนว่ามันจะต้องสนุกแน่ๆ
“ก็ไม่เชิงหรอก มาดื่มกันดีกว่า”
“งั้นจีอึนชงเหล้าให้นะคะ” แก้วของแบคฮยอนถูกหญิงสาวหยิบไปชงให้ใหม่ เธอหันมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนยั่วเย้าเพราะหวังว่าคืนนี้จะจบลงที่เตียงอย่างที่เธอตั้งใจ
ตามนิสัยของผู้ชายลัลล้าอย่างพยอนแบคฮยอนแล้วมันควรที่จะสิ้นสุดราตรีนี้ลงที่เตียงของโรงแรมสักแห่ง... มันสมควรที่จะเป็นแบบนั้น... แต่คงไม่ใช่กับคืนนี้ แบคฮยอนอยู่จนถึงเวลาร้านปิค หญิงสาวที่รู้ว่าคงไม่สมใจอยากก็ขอบายไปตั้งแต่ครึ่งคืนเสียแล้ว แบคฮยอนเดินออกจากผับแล้วแวะร้านข้างทางก่อนที่จะกลับหอ
สิ่งแรกที่เห็นหลังจากไขกุญแจเข้าห้องก็คือก้อนกลมๆบนเตียงก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร แบคฮยอนเดินอ้อมไปนอนฝั่งตัวเองและพยายามขยับตัวให้เบาที่สุด แบคฮยอนนอนคิดไปเรื่อยเปื่อยจนหลับไปเอง ความคิดสุดท้ายคือ... ถ้าเขายังไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เขาจะค่อยๆหาคำตอบของมันจนกว่าจะรู้
เมื่อยามรุ่งเช้ามาถึงแสงแดดก็ค่อยๆสาดไล้เข้ามาในห้องเพราะคยองซูลืมปิดผ้าม่าน แบคฮยอนที่รำคาญแสงแดดก็พลิกตัวไปอีกด้านแล้ววาดมือหมายจะหันไปโอบคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างกันแต่ทว่ากลับไม่พบอะไรนอกจากกองผ้าห่มที่กองๆเอาไว้ แบคฮยอนลืมตาตื่นแล้วลุกขึ้นดึงผ้ากองนั้นออกก็เห็นแต่เตียงที่ว่างเปล่า แล้วคนตัวเล็กหายไปไหน!!
“เฮ้ย!!!” แบคฮยอนร้องลั่นพร้อมกับบานประตูที่ถูกเปิดเข้ามา
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ” คยองซูเดินเข้ามาในห้อง แบคฮยอนอ้าปากค้างมองที่เตียงที มองหน้าคนเพิ่งเข้ามาที นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!!
“ออกไปไหนมา ไปกับใครแล้วทำไมเพิ่งกลับ!!” คยองซูขมวดคิ้วฉับแล้วมองคนที่นั่งโวยวายอยู่บนเตียง
“อย่ามาชวนตีแต่เช้าขอร้อง” คยองซูถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาที่ข้างเตียงเพื่อวางกระเป๋าเงินและกุญแจห้อง
“ไม่ได้ชวนตีถามก็ตอบดิ ไปกับผู้หญิงหรือผู้ชาย!?” คยองซูมองหน้าแบคฮยอนแล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป
“เฮ้ยมาคุยกันก่อนดิ!!” แบคฮยอนก้าวลงจากเตียงแล้วเดินตามไปแต่ก็โดนปิดประตูใส่หน้าเสียนี่
“เฮ้ยเปิดประตูก่อน!!” แบคฮยอนเคาะประตูก็แล้ว ตะโกนเรียกก็แล้ว เขย่าลูกบิดก็แล้วแต่คยองซูก็ไม่ยอมเปิด
“โธ่เว๊ย!” ยืนฟึดฟัดฮึดฮัดอยู่หน้าห้องน้ำ คนที่กำลังล้างหน้าอยู่ก็ยิ้มกริ่มเลยล่ะที่ทำให้แบคฮยอนอารมณ์เสียได้ตั้งแต่หัววัน
คยองซูออกมาจากห้องน้ำก็เห็นแบคฮยอนนั่งขัดสมาธิเท้าคางทำหน้าบู้อยู่บนเตียง ก็อยากจะหัวเราะใส่นะแต่ไม่เอาดีกว่าก็เลยได้แต่เลิกคิ้วมองแบคฮยอนที่มองมาด้วยสายตาเหมือนจะตัดพ้อต่อว่า คยองซูเดินเลี่ยงไปที่เตียงฝั่งตัวเองแล้วก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้ซะเลย แบคฮยอนที่มองตามอยู่ก็อ้าปากค้างเลยน่ะสิ
“คยองซูหันมาคุยกันก่อนดิวะ” แบคฮยอนขยับตัวมาเขย่าไหล่แต่คยองซูก็ไม่ตอบรับอะไรทั้งนั้น
“คยองซู~~” เขย่าแรงขึ้นอีกนิด คยองซูถอนหายใจแล้วหันหน้ากลับมามอง แบคฮยอนก็ยู่หน้าแล้วพยายามเขย่าแขนให้คยองซูลุกขึ้นมานั่งคุยกันดีๆแต่คยองซูกลับดึงไหล่ออก
“อะไรอีกจะกวนอะไรแต่เช้า มีอะไรก็รีบๆนี่ง่วงนอนจะตายอยู่แล้วเนี่ย” ก็ไม่ได้โกหกอะไรนินะก็ง่วงจริงๆนั่นแหละ
“เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ” คยองซูพยักหน้าตอบรับกลับไป ดูท่าว่าคนถามกับคนตอบจะเข้าใจกันคนละเรื่องแล้วล่ะ แบคฮยอนทำตาโต อ้าปากค้างมองหน้าคนที่ง่วงงาวหาวนอนแล้วก็อยากจะลุกขึ้นมาพักห้องตะหงิดๆ คยองซูขมวดคิ้วมองคนที่ทำท่าฮึดฮัดแล้วก็ไม่เข้าใจ
“ตกลงมีอะไรจะคุยหรือเปล่าน่ะ” คยองซูขยับตัวนอนหงายแล้วมองแบคฮยอนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ แบคฮยอนขมวดคิ้วดุแล้วก้มลงมองคยองซู
“คุยดิวะ เมื่อคืนออกไปไหนกับใครมา” คยองซูขมวดคิ้วแล้วมองแบคฮยอน
“ถามตัวเองก่อนไหม” แบคฮยอนตีสีหน้าดุใส่
“ถามก็ตอบดิวะอย่าเบี่ยงประเด็น” คยองซูกรอกตาไปมา
“อยากรู้อะไรกันแน่แบคฮยอน” ในเมื่อเปิดจั่วหัวมาแบบนี้แบคฮยอนก็ขอไม่เกรงใจละนะ
“ไปนอนกับใครมา” คยองซูขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองจ้องสบตากับคนถามนิ่งๆ ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ทั้งๆที่ข้างในอยากจะทุบหัวคนตรงหน้าให้แบะเลยก็ตาม
“ผู้ชายสักคน” คยองซูตอบอย่างไม่ยี่หระเพราะก็ไม่ได้ตอบอะไรผิด จงแดเป็นผู้ชายเพราะฉะนั้นคำตอบก็ถูกต้องแล้ว แบคฮยอนได้ยินแบบนั้นก็เลือดขึ้นหน้าเลยน่ะสิ
“ทำไมมึงทำตัวแบบนี้วะ!!”
“แล้วกูทำอะไร” คยองซูขมวดคิ้วแล้วถาม แบคฮยอนถอนหายใจแล้วมองหน้าคยองซูอย่างผิดหวัง
“มึงเที่ยวไปนอนกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไงกันวะ!!” คยองซูยกยิ้มมุมปากแล้วขยับตัวเข้าหาแล้วดันอกแบคฮยอนให้ลงนอนกับเตียงจากนั้นก็ขึ้นคร่อมคนที่ทำหน้าตาตกใจไว้
“แล้วมันต่างกับมึงตรงไหนพยอนแบคฮยอน” แม้จะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่คนรับสารก็รับรู้ได้เลยว่าคนพูดต้องอารมณ์ไม่ดีแน่ๆ คยองซูกดยิ้มมุมปากดูน่ากลัวในความรู้สึกคนมองเหลือเกิน
“ถ้าไม่ให้กูไปนอนกับคนอื่น... แล้วมึงจะให้กูนอนกับใคร” คยองซูก้มหน้าลงแทบจะไม่ห่าง อีกเพียงนิดริมฝีปากของทั้งสองก็จะสัมผัสกันแล้ว
“กับมึงเหรอ?” คยองซูเลื่อนริมฝีปากไปใกล้กับใบหูของแบคฮยอน
“ฝันไปหรือไง มึงคงเข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อนผิดไปนะ” คยองซูยืดตัวออกแล้วใช้ฝ่ามือตีแก้มแบคฮยอนย้ำๆ
“เพื่อนไม่ใช่พ่อ เข้าใจนะ” ตีแรงๆอีกสักทีแล้วก็ขยับตัวไปนอนหันหลังให้เสียเลย แบคฮยอนที่ยังคงสติไม่กลับร่างก็ได้แต่นอนนิ่งๆแบบนั้น
“เฮ้ยมึงคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน!!” แบคฮยอนลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วจะเขย่าปลุกแต่คยองซูกลับสวนประโยคที่ทำเอาพยอนแบคฮยอนนิ่งค้างไปหลายนาที
“ทีมึงยังไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นได้ทำไมกูจะทำบ้างไม่ได้ มึงกับกูไม่ได้ใช้ร่างกายเดียวกันสักหน่อย”
คยองซูแอบหันไปเหลือบมองก็เห็นแบคฮยอนขยี้หัวจนไม่เหลือเคล้าของพ่อคาริสม่าเสียแล้ว ริมฝีปากสีหวานกดรอยยิ้มแล้วปิดเปลือกตาลง ถ้าแบคฮยอนเข้าใจคำพูดของเขาก็คงจะรู้ว่ามันมีอะไรแฝงอยู่ในนั้น... เลิกโง่แล้วคิดให้เยอะๆเถอะพยอนแบคฮยอน
ใกล้สอบมิดเทอมแล้วตอนนี้ทุกคนกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ยกเว้นไอ้สามตัวที่ไปนั่งกองกันอยู่หน้าโทรทัศน์จอใหญ่เล่นเกมก็แล้วกันนะ ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านของคริส แน่นอนว่าถ้ามาบ้านนี้แล้วล่ะก็ถูกเลี้ยงเอาใจแบบอิ่มหน่ำกันแน่นอน ลองถ้าไอ้ชานยอลงอแงกินไม่อิ่มสิสงสัยคงจะโกลาหลกันทั้งบ้าน
จงแดกับคยองซูกำลังช่วยกันติวและชานยอลก็นั่งอ่านการ์ตูนของมันไปดูมีสาระกันสุดๆ เรื่องขนมหรือน้ำนี่ไม่ต้องห่วงพอจะหมดก็จะมีคนมาเติมให้ตลอด จงแดกับคยองซูวางหนังสือลงเพื่อที่จะพักสมองก็เห็นว่าแบคฮยอนกำลังนั่งเลาเกมแข่งกับคริสอยู่โดยมีจงอินเป็นคนเชียร์
“นี่คยองซูมึงกับไอ้หมากระเป๋าเป็นไงมั่งอ่ะ” สาบานสิว่าชานยอลไม่ได้อยากรู้ เพื่อนตัวสูงขยับมาใกล้ ตอนนี้คยองซูถูกขนาบข้างด้วยจงแดและชานยอล ดวงตาโตหันมองเพื่อนทั้งสองที่นั่งขนาบข้างที่สีหน้าไม่ค่อยอยากจะรู้อะไรเท่าไหร่หรอกนะ ดูแต่ละคนสิทำตาวาวๆเหมือนหมาขอของเล่นซะอย่างนั้น
“ก็ไม่ไงนิ” ว่าแล้วก็ยักไหล่ให้อีกสักทีก่อนที่จะยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำแดงเย็นๆมาดื่มให้ชื่นใจ
“เฮ้ยอะไรวะอย่ามางกไหนบอกกันมั่งดิ รับรองความลับนี้ไม่มีรั่วไหล” ชานยอลป้องหูแล้วเอียงมาหาเพื่อนตัวเล็กสุดของกลุ่มแต่คยองซูก็ทำท่าไม่สนใจหยิบขนมมากินต่อแล้วเปิดหน้าหนังสือที่อ่านค้างไว้
“จะติวไหมหรือยังไง” ชานยอลมองค้อนเข้าให้แล้วก็หยิบหนังสือมาเปิดหน้าเดียวกับคยองซูรอให้เพื่อนติวให้
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้นะ ไม่ง้อหรอกไม่ใช่ไอ้คริส” ชานยอลมองค้อนแล้วก็แลบลิ้นใส่
“รู้หรอก คริสไม่ได้ตัวเท่านี้สักหน่อย” แล้วชานยอลก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปหาพวกที่นั่งเล่นเกมทันที คยองซูที่จะเอาคืนก็ไม่คืนไม่ทัน ชานยอลลงนั่งที่พื้นระหว่างขาของคริสแล้วนั่งหลังพิงอกของคริสดูเจ้าตัวเล่นเกมไปแต่ก็ไม่ลืมหันไปยักคิ้วให้เพื่อนตัวเล็กอีกรอบ จงอินที่เห็นว่าชานยอลมาแล้วตัวเองก็ลุกขึ้นย้ายไปลงนั่งข้างจงแดบ้าง
“น้องจงแดของพี่คิดถึงพี่บ้างไหมจ๊ะ” คยองซูถอนหายใจแล้วลุกขึ้นไปนั่งที่โซฟาตัวเดี่ยวพร้อมกับหนังสือในมือ จงแดก้มหน้าลงแล้วกุมขมับ
“ทุกนาทีที่พี่ไม่เห็นหน้ายาใจของพี่ หัวใจของพี่แทบจะขาดรอนรอน” จงอินก้มหน้าเอียงคอมาส่งยิ้มให้ จงแดเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองคนข้างตัว
“ถามจริงเหนื่อยไหมวะ” จงอินทำหน้าสงสัยนิดหน่อยก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างขี้เล่นเช่นเดิม
“พี่ไม่เหนื่อยหรอกที่รักน้องจงแดของพี่น่ะ หัวใจของพี่มีแต่น้องคนเดียวพี่จะเหนื่อยได้ยังไงกัน” จงแดกุมขมับแล้วส่ายหน้าไปมา คือไม่เชิงไม่ชอบหรอก.. แต่แบบบางทีมันก็ทั้งเขินแล้วก็เพลียล่ะมั้ง จงอินก็ทำเนียนเอียงหัวไปซบไหล่ซะเลย จงแดหันมองก็อมยิ้มจางๆ เวลาจงอินเข้ามาคลอเคลียน่ะเหมือนลูกหมาขี้อ้อนเลยนะ
คยองซูที่นั่งมองอยู่ก็อมยิ้มหลังหนังสือเล่มใหญ่ไปก็เวลาที่ดูคนหนึ่งเสี่ยวใส่ อีกคนก็เพลียใส่มันก็ดูน่ารักแล้วก็ตลกดีล่ะนะ ถึงจงแดจะชอบทำหน้าเขินแต่ต้องโวยวายกลบเกลื่อนก็เถอะ ตัวของคยองซูน่ะเวลามีอะไรก็มักจะปรึกษาจงแดเสมอ เรียกว่าจงแดเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่ผิดนัก ทุกเรื่อง ทุกความรู้สึกไม่ปิดบังกันอยู่แล้ว
แบคฮยอนมองไอ้สองเพื่อนรักรักเพื่อนข้างๆแล้วก็รู้สึกอยากจะเขวี้ยงจอยเกมในมือทิ้งเสียเหลือเกิน พอชานยอลมาพี่ท่านก็นั่งจุ๊บหัวมันไปสิ คุยงุ้งงิ๊งกันสองคนไปสิแต่ตากับมือยังเสือกเล่นเกมได้เหมือนเดิม นี่มึงเทพไปไหมครับคุณอู๋อี้ฟาน!!! ไอ้ชานยอลก็ทำตัวน่ารักประหนึ่งเด็กน้อยอนุบาลอ่ะเห็นแล้วพี่พยอนเซ็งว่ะ!!
แบคฮยอนที่เอียนคู่รักนินจาข้างตัวก็หันหน้าไปมองทางอื่นและเป็นทางเดียวกับคยองซูที่หันหน้าออกจากภาพการหยอกล้อของจงอินและจงแด ทั้งสองคนมองสบตากันเอง แบคฮยอนมองจ้องอยู่อย่างนั้น คยองซูเองก็มองตอบแล้วริมฝีปากก็วาดรอยยิ้มให้ รอยยิ้มปากรูปหัวใจเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก.. แต่พยอนแบคฮยอนมักจะมีโอกาสได้เห็นบ่อยๆ
และบางครั้ง... มันก็ทำให้หัวใจของแบคฮยอนทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
คนที่เหลือกำลังแอบมองเพื่อนตัวเล็กสองคนของกลุ่ม ทั้งสี่คนที่แอบมองอยู่ก็ยิ้มให้กันอย่างรู้กัน คยองซูน่ะดูง่ายจะตายว่ามีใจแต่ไอ้หมากระเป๋าจอมซ่าส์นั่นน่ะไม่รู้ตัวว่าบางที... ความในใจของมันกำลังตรงกับของใครอีกคน แต่ก็อย่างว่าผู้ชายเจ้าชู้น่ะมักจะรู้ใจตัวเองช้าเสมอนั่นแหละและพยอนแบคฮยอนก็เป็นประเภทนั้นเสียด้วยสิ
คืนนี้ทุกคนตกลงใจที่จะนอนบ้านคริสกัน แน่นอนว่าห้องสุดหวงของคุณชายเจ้าของบ้านก็ต้องมีเพื่อนรักข้างบ้านนอนด้วยอยู่แล้ว ส่วนห้องรับแขกสองห้องข้างๆกันอีกสองคนก็ถูกจับจองโดยคยองซูกับแบคฮยอนและจงแดกับจงอิน หลังจากดินเนอร์พร้อมกับสังสรรค์เล็กๆทุกคนก็แยกย้ายกันขึ้นห้องห้องมันทันที
แบคฮยอนที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้วและสวมแค่บ็อกเซอร์เป็นชุดนอนก็นอนหนุนสองมือของตัวเองอยู่บนเตียงรอเพื่อนตัวเล็กที่กำลังอาบน้ำอยู่ จริงๆก็อยากจะรีบหลับให้เร็วที่สุดนั่นแหละแต่ทว่าไม่สามารถข่มตาให้หลับได้เพราะพอหลับตาทีไรรอยยิ้มที่แสนน่ารักเมื่อบ่ายนั้นก็แวบเข้ามาในหัวทุกทีเลย โอ๊ย!! ลูกพี่พยอนอยากจะบ้าตาย!!!
คยองซูที่อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาเห็นว่าแบคฮยอนนอนหลับตาอยู่บนเตียง บางทีอาจจะหลับไปแล้วก็ได้ คยองซูเอาผ้าไปแขวนไว้ที่ราวตากแล้วก็เดินไปปิดไฟในห้องให้เรียบร้อยก่อนที่จะปีนขึ้นเตียงมานอนหันหลังให้แบคฮยอนที่นอนหงายหลับตา คยองซูห่มผ้าให้ตัวเองได้ปิดเปลือกตาเตรียมหลับทันทีแต่อยู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนมากอดจากด้านหลัง ไม่ต้องหันไปดูก็พอจะรู้ว่าใคร.. ก็อยู่ด้วยกันสองคนนินะ
“ยังไม่หลับอีกเหรอ คิดว่าหลับแล้วนะน่ะ”
“ยังอ่ะ” แบคฮยอนส่ายหน้าไปบนหมอนใบเดียวกับคยองซู คนตัวเล็กกว่าหันไปมองก็เห็นว่าแบคฮยอนซุกหน้าลงมาที่ผมของตัวเอง
“เป็นอะไรน่ะ อยากไปเที่ยวหรือไง” เอ่ยถามอย่างหยอกเย้าเพราะรู้ว่าพ่อขาเที่ยวน่ะขาดเที่ยวไปสักวันคงนอนไม่หลับ
“ไม่ใช่อ่ะ” แบคฮยอนขยับตัวนอนหงายแล้วถอนหายใจ นี่ถ้ายกเท้ามาก่ายได้ก่ายไปแล้วนะ.. แต่พอดีไม่ถึงไง
“แล้วเป็นอะไรก็พูดดิ” คยองซูพลิกตัวกลับมาตะแคงข้างหาแบคฮยอน ทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่สุดลมหายใจเท่านั้น ก็นอนหนุนหมอนใบเดียวกันมันจะไปไกลกันได้มากแค่ไหนกันเชียว
“ไม่มีอะไร... ก็แค่เซ็งๆ” ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปยังไงเพราะมันทั้งสับสนแล้วก็วุ่นวาย เหมือนมีเรื่องค้างคาใจอยากพูดแต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่รบกวนใจนั้นคืออะไร ท่าจะบ้าว่ะพยอนแบคฮยอน
“แล้วเซ็งอะไรล่ะ” คยองซูเคาะปลายนิ้วที่ข้างขมับของคนนอนถอนหายใจบันทอนอายุชีวิตตัวเองไปเรื่อยๆ
“บอกไม่ถูกเหมือนกัน ช่างแม่งเหอะ”
“เอ้าไอ้นี่นิ” คยองซูระบายยิ้มอย่างขำขัน แบคฮยอนหันหน้าไปมองคนที่ยิ้มรูปหัวใจแล้วก็รู้สึกแปลกๆในความคิด
“มึงอย่าไปยิ้มแบบนี้กับใครอีกได้ไหมวะ” คนที่โดนขออะไรแลปกประหลาดก็ได้แต่ทำตาโตมองคนที่ขยับตัวนอนตะแคงข้างมาหาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เอาซะเลย
“ห้ามพูดว่ากูพูดไม่รู้เรื่อง ห้ามสงสัยอะไรทั้งนั้น” คยองซูเลิกคิ้วแล้วมองคนที่อยู่ใกล้นี้ด้วยความไม่เข้าใจก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ
“เออไม่พูดหรอกเข้าใจ... แต่ไม่ทำนะ”
“อ้าว!!” คยองซูยิ้มแล้วยักคิ้วใส่
“หน้าที่ของเพื่อนมีแค่ไหนอย่าทำเกิน.. ถ้าทำเกินก็ไม่ใช่เพื่อนแล้ว นอนแล้วได้ประสาทกลับสินะไม่ได้ออกไปเที่ยวน่ะ” คยองซูส่ายหน้าไปมาแล้วชี้นิ้วใส่แบคฮยอน
“กลับไปนอนที่หมอนตัวเองไปมานอนเบียดอยู่ได้คิดว่าตัวเล็กมากหรือไงคุณพยอนแบคฮยอน” คยองซุจะพลิกตัวกลับแต่แบคฮยอนก็รั้งแขนไว้ไม่ให้หันหนี
“อะไรของนายอีกล่ะ”
“ต้องทำยังไงถึงจะเชื่อฟังกันห๊ะ” คยองซูหัวเราะเบาๆแล้วดึงมือแบคฮยอนออก
“เลื่อนสถานะมั้ง” ทิ้งคำสำคัญไว้ให้คิดแล้วจะพลิกตัวไปอีกด้านแต่แบคฮยอนที่เร็วกว่าก็ดึงคยองซูเอาไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปฝากสัมผัสไว้ที่ริมฝีปากนิ่มนั้น สัมผัสไม่ได้เร่งเร้าอะไรแต่คนได้รับกลับรู้สึกร้อนวูบวาบ ริมฝีปากที่สัมผัสกันนั้นกดลงเน้นเป็นจังหวะ ผ่อนหนักลงเบาจนคนที่ได้รับนี้เคลิ้มฝัน
นี่เป็นครั้งแรกที่คยองซูกับแบคฮยอนได้จูบกัน รสสัมผัสต่างจากที่เคยนึกคิดไว้สักหน่อยแต่อาการร้อนวูบที่หน้านั้นไม่ได้นึกคิดมาก่อนว่าจะได้รู้สึก ปลายลิ้นที่หยอกล้อสัมผัสมานั้นทำเอาในหัวของคยองซูขาวโพลนไปหมด คิดอะไรไม่ออกรับรู้ก็แต่สัมผัสของคนตรงหน้าที่ป้อนมาให้ซ้ำๆ แบคฮยอนกดจูบลึกขึ้นเมื่อยิ่งสัมผัสก็ยิ่งห้ามใจไม่ได้และยั้งใจไว้ไม่อยู่
แบคฮยอนเลื่อนมือขึ้นช้อนแก้มของคยองซูแล้วรั้งให้เข้ามาใกล้ กดสัมผัสป้อนจูบลึกจนคนในอ้อมแขนแทบหมดลมหายใจ ละถอนจูบออกเพียงนิดให้คนตัวเล็กในอ้อมแขนได้หอบเอาอากาศหายใจเข้าปอด แบคฮยอนไล้สายตามองใบหน้าของคยองซูที่อยู่ใกล้ชิดเพียงลมหายใจกั้น
ใบหน้าขาวที่แดงระเรื่อ ริมฝีปากนิ่มที่เจ่อขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมฉ่ำปรอย เป็นใครล่ะจะอดใจไหว แบคฮยอนยื่นหน้าเข้าไปป้อนจูบให้อีกครั้งและคยองซูก็รับมันอย่างเต็มใจ สัมผัสส่งผ่านรสจูบกันไม่จบสิ้นจนคยองซูต้องเป็นฝ่ายดันแบคฮยอนให้ออกห่าง แม้แบคฮยอนจะยอมถอนจูบออกแต่ก็ไม่ยอมหยุดขบเม้มริมฝีปากนิ่มเลย
“พอได้แล้วน่า” จนคยองซูต้องเบี่ยงหน้าหนีแล้วดันแบคฮยอนออกนั้นแหละเจ้าตัวถึงจะเลิก
“แบบนี้ก็เลื่อนสถานะแล้วดิ เพราะฉะนั้นห้ามมึงไปยิ้มให้ใครอีก” คยองซูกระพริบตาปริบๆมองคนใกล้ตัวที่นอนยิ้มแฉ่งประหนึ่งเพิ่งถูกล็อตเตอร์รี่มาก็ไม่ปาน
แบคฮยอนเข้าใจคำว่า ‘เลื่อนสถานะ’ จริงๆหรือเปล่าเนี่ย!!
“เลื่อนสถานะแล้ว?” แบคฮยอนพยักหน้า
“ก็ใช่ไง เพื่อนกันเขาไม่จูบกันใช่ไหมล่ะนอกจากเป็นคนพิเศษเท่านั้น ตอนนี้กูก็เป็นคนพิเศษแล้วเพราะฉะนั้นก็ตามนั้น” คยองซูกรอกตามาไปแล้วพลิกตัวหันหลังหนีซะเลย
“นายนี่มันโง่จริงๆพยอนแบคฮยอน” ถอนหายใจทิ้งอีกสักเฮือกแล้วก็หลับตาลง แบคฮยอนที่กระหยิ่มยิ้มย่องก็ขยับตัวมากอดซ้อนหลังคนตัวเล็กไว้
ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะว่าทำไมจะต้องทำแบบนั้น แต่ก็เอาเถอะขอแค่อย่าให้ใครได้มาเห็นรอยยิ้มน่ารักๆจากเพื่อนตัวเล็กของเขาแค่นี้พี่พยอนก็พอใจมากแล้ว
แบคฮยอนที่นอนกอดเพื่อนตัวเล็กก็กระชับอ้อมแขนแล้วซุกหน้าลงที่กลุ่มผมหอมของคยองซู กดริมฝีปากจูบลงที่กลุ่มผมนิ่มเบาๆแล้วหลับตาลงเพื่อเตรียมหลับฝันดีบ้าง คยองซูลืมตาขึ้นแล้วกรอกตาไปมาอย่างเอือมระอาไอ้คนด้านหลัง แต่ก็เอาเถอะ... ถือซะว่าก้าวมาข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งก็แล้วกันนะ
...ก็คิดได้นะคนเรา พยอนแบคฮยอนนี่ตลกร้ายจริงๆ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น