ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SF :: Missing You
ฟิคเรื่องนี้มาไวมากอ่ะ มีธีม แต่ไม่มีพล็อต อุคิๆๆ
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากภาพนี้ค่ะ
[cr: kriyeols]
เห็นปุ๊บ มันใช่อ่ะ!! มันเป๊ะ!!! ขอคือรายแพ๊บก่อนแต่ง โอ๊ยยยย #อะไรเอ่ยติ่งจังเลย #บตนนเองค่ะ
#เบบี้ดอนท์คือรายยยยยยยย
สวัสดีปีใหม่จีนค่ะ เฮงๆ ร่ำรวยๆ คิดสิ่งใดสมปรารถนานะคะ รักจากใจ
______________________________
“น้องยูรินไปปลุกแด๊ดดี้คริสได้แล้วเดี๋ยวก็สายกันพอดี” เด็กน้อยที่กำลังนั่งรอมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารหันไปมองแล้วยิ้มรับ
“รับทราบค่ะอาปาชานยอล” เด็กหญิงตัวน้อยตะเบ๊ะท่ารับทราบแข็งขันก่อนที่จะลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ชานยอลที่มองตามอยู่ก็ส่งรอยยิ้มเอ็นดูแล้วส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะหันกลับมาทำมื้อเช้าต่อ
เด็กน้อยในชุดนักเรียนมัดผมสองแกละค่อยๆก้าวขึ้นบันไดอย่างระมัดระวังแล้วก็วิ่งไปที่ห้องนอน เปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าใต้ผ้าห่มยังมีหนอนตัวใหญ่ๆนอนอยู่เลย เด็กตัวน้อยพองสองแก้มแล้ววิ่งไปที่ข้างเตียงก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนเตียง เพราะเตียงไม่ได้ตั้งสูงมากเด็กน้อยก็เลยปีนขึ้นไปได้
สองมือเล็กค่อยๆดึงผ้าห่มออกก็เห็นว่าใครอีกคนยังนอนหลับอยู่จริงๆ ยูรินขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วแล้วลองเขย่าตัวดูแต่คนที่หลับก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมตื่นเลยสักนิด จนเด็กสาวยู่หน้านั้นแหละตั้งท่าว่าจะร้องเรียกแล้วแต่อยู่ดีๆอ้อมแขนยาวก็ตวัดกอดหนูน้อยเสียนี่
“อ๊าย.. แด๊ดดี้คริส~~” เสียงเล็กส่งเสียงหัวเราะเมื่อโดนจี้ที่เอว คริสทั้งจี้เอว ทั้งกดปลายจมูกหอมแก้มนิ่มๆของเด็กน้อยที่ทั้งหัวเราะแล้วก็ดิ้นไปมา
“แด๊ดดี้คริส น้องยูรินหายใจไม่ทัน” พอได้ยินแบบนั้นคริสก็เลยหยุดแกล้งเด็กตัวน้อย แต่ก็ขอแอบทิ้งท้ายด้วยการหอมแก้มนิ่มไปเสียฟอดใหญ่ๆ
“อาปาชานยอลให้ขึ้นมาปลุกแด๊ดดี้คริสค่ะ” เด็กน้อยบอกด้วยรอยยิ้มที่ยิ้มเสียจนตาหยีเป็นขีด คริสที่อดหมั่นเขี้ยวเด็กน้อยไม่ได้ก็ก้มลงฟัดแก้มใสไปอีกทีจนเด็กน้อยหัวเราะคิกคัก
“แด๊ดดี้คริสตื่นแล้วครับ รอเปลี่ยนเสื้อผ้าแปบเดียวนะ” คริสขยับตัวออกแล้วลงจากเตียง
“แด๊ดดี้คริสอาบน้ำแล้วหรอคะ” ยูรินที่ลุกขึ้นนั่งทำหน้าตาสงสัย ดวงตากลมๆที่มองมานั้นให้มองแล้วก็คล้ายกับใครอีกคน
“อาบแล้วค่ะเด็กดี พอดีได้ยินเสียงคนน่ารักเดินขึ้นบันไดมาก็เลยมาแอบแกล้งหลับ” เด็กน้อยหัวเราะคิกคัก คริสหันหลังเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อเชิ้ตแขนยาวมาสวมจากนั้นก็เดินอ้อมเตียงมาอุ้มเด็กน้อย
“ลงไปหาอาปาชานยอลกันดีกว่า ป่านนี้สงสัยบ่นหาแล้วมั้ง” ยูรินกอดแขนรอบคอของแด๊ดดี้คริสแล้วหอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่ๆ
“อาปาชานยอลบอกว่าถ้าแด๊ดดี้คริสคริสลงมาช้าจะฟาดให้หลังลายเลยค่ะ” แล้วเด็กน้อยก็หัวเราะคิกคัก คริสเองก็หัวเราะตามไปด้วย
“เสร็จแล้วเหรอ ข้าวเช้าเสร็จพอดีเลย” ชานยอลที่ได้ยินเสียงหัวเราะของคู่แด๊ดดี้ลูกก็หันไปมองแล้วยิ้มให้ก่อนที่จะหันกลับมายกอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ คริสอุ้มยูรินไปที่เก้าอี้นั่งตัวประจำแล้วตัวเองก็เดินอ้อมโต๊ะไปจุ๊บที่แก้มของชานยอล
“อรุณสวัสดิ์ วันนี้น่ารักนะเนี่ย” ชานยอลหันไปขมวดคิ้วใส่แล้วยกมือเท้าเอว
“แปลว่าวันอื่นดูไม่ได้ว่างั้น?” คริสหัวเราะแล้วดึงชานยอลเข้ามากอด
“ใครบอกล่ะ น่ารักทุกวันนั่นแหละ” ว่าแล้วก็โน้มหน้าลงหมายว่าจะป้อนจูบให้คนที่ทำปากยื่นคนนี้แต่เสียงเล็กๆก็ร้องดังขึ้นซะก่อน
“อ๊ะ!!” ชานยอลกับคริสหันไปมองก็เห็นยูรินยกสองมือขึ้นมาปิดตาแต่ก็ยังแอบมองลอดผ่านนิ้วมือ ชานยอลฟาดไหล่คริสไปเบาๆ
“ไปกินข้าวได้แล้วเดี๋ยวยูรินก็สายเอาหรอก” คนโดนพาดพิงยิ้มกว้างจนตาหยีเป็นขีด จริงๆเด็กตัวน้อยอยากจะบอกว่าถ้าจะไปสายก็ไม่เป็นไรแต่ไม่เอาดีกว่ากลัวโดนอาปาชานยอลดุเอา
“อันนี้ถ้วยซุปของยูริน” ชานยอลตักซุปร้อนๆแบ่งใส่ถ้วยเล็กให้เด็กหญิงตัวน้อยข้างกาย
“ขอบคุณค่ะอาปาชานยอล” ยูรินยิ้มกว้างส่งให้ ชานยอลก็ยิ้งส่งคืน คริสที่นั่งมองอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ้มตาม เด็กหญิงตัวน้อยน่ะเหมือนชานยอลแทบจะทุกอย่างแต่เสียดายที่ยูรินไม่ใช่ลูกของเขากับชานยอลจริงๆ ยูรินเป็นเด็กที่เขาสองคนรับเลี้ยงไว้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ต้องสนใจด้วยหรือไง? แค่มีเด็กคนนี้ก็ทำให้คำว่าครอบครัวของเขาสมบูรณ์ก็พอแล้ว
“เลิกเรียนแล้วรออยู่ที่ชิงช้านะ อาปาชานยอกับแด๊ดดี้คริสจะมารับช้านิดหน่อยนะครับ” ชานยอลเอ่ยบอกกับเด็กน้อยที่กำลังเดินจูงมือเข้าประตูรั้วโรงเรียน
“ทำไมมาช้าละคะอาปาชานยอล” เด็กน้อยทำหน้ายู่ใส่ ชานยอลกับคริสลงนั่งยองๆแล้วลูบกลุ่มผมนิ่มของเด็กน้อยเบาๆ
“วันนี้มีประชุมค่ะแต่จะรีบมาให้เร็วที่สุดนะคะ” คริสเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม ยูรินยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นยูรินจะนั่งเล่นชิงช้ารออาปาชานยอลกับแด๊ดดี้คริสมารับนะคะ~”
“ดีมากค่ะ ไหนมากอดหน่อยสิ” คริสกอดยูรินแล้วกดหอมแก้มใสหนักๆทั้งสองแก้ม เจ้าตัวดีก็หัวเราะคิกคัก พอคริสหยุดแกล้งยูรินก็เอียงแก้มให้ชานยอลได้หอมบ้าง
“เข้าโรงเรียนได้แล้วค่ะ” เมื่อคริสปล่อยอ้อมแขนยูรินก็ยิ้มส่งท้ายแล้วหันหลังวิ่งเข้าโรงเรียนไป คริสกับชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วยืนมองส่งเด็กน้อยตัวเล็กที่หันกลับมาโบกมือให้ ทั้งคู่โบกมือส่งเด็กน้อยเสร็จก็พากันเดินกลับมาที่รถเพื่อไปทำงาน
คริสกับชานยอลนั่งด้วยกันมาเงียบๆ คริสทำหน้าที่ขับรถและชานยอลก็นั่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง หัวคิ้วขมวดมุ่นคล้ายกับกำลังมีเรื่องรบกวนจิตใจ คริสที่มองเห็นก็เลื่อนมือมาจับกับมือของชานยอลไว้ ดวงตากลมที่มองด้านนอกตัวรถหันกลับไปมองใบหน้าของคริสที่ส่งยิ้มมาให้
“จะตรุษจีนแล้วนิ นายจะเอายังไง” ชานยอลเอ่ยถามเพราะรู้ว่าคนข้างกายนั้นได้รับข้อความให้กลับบ้านที่จีน คริสเป็นคนจีน บ้านเกิดก็อยู่ที่จีนแต่ตัวเขานั้นเป็นคนเกาหลีโดยกำเนิด
“คิดว่าคงจะต้องกลับบ้าน ไปด้วยกันนะชานยอล” แต่ชานยอลส่ายหน้า
“นายไปเถอะ ไว้พวกท่านเข้าใจมากกว่านี้ค่อยไปดีกว่า” ที่ปฏิเสธไปไม่ใช่ว่าไม่อยากไป แต่เพราะทางบ้านของคริสไม่ชอบที่ลูกชายคนโตอย่างคริสจะมารักชอบพอกับผู้ชายด้วยกัน ถึงจะมีหลานสาวตัวน้อยๆแต่ก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน มันก็ยากที่จะทำความเข้าใจและยอมรับ
“แต่ฉันอยากให้นายไปด้วยนะ ไปด้วยกันเถอะนะ” คริสกุมมือของชานยอลมาจรดริมฝีปากที่หลังมือ แต่ชานยอลก็ยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ดีกว่าฉันจะอยู่กับยูรินที่นี่ว่าจะพาไปเที่ยว นายก็ไปเถอะ” เมื่อชานยอลยังยืนกรานแบบนั้นคริสก็ไม่เซ้าซี้อะไรอีกจัดการเปลี่ยนเรื่องคุยเสียเลย
“เที่ยงนี้รอนะเดี๋ยวไปรับมากินข้าวเที่ยงด้วย” เพราะที่ทำงานนั้นอยู่กันคนละแผนก การที่จะได้เจอกันนั้นก็ค่อยข้างลำบาก ไหนจะอยู่กันคนละชั้นอีกล่ะ
“รีบๆมาล่ะ ถ้ามาช้าจะออกไปกินกับคนอื่น” ชานยอลยกยิ้มหยอกเย้า คริสก็หัวเราะ
“ก็จะตามไปลากกลับมากินข้าวด้วยกันอยู่ดี” แล้วทั้งสองก็หัวเราะไปด้วยกัน
ตอนเที่ยงคริสมารับชานยอลไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน แม้จะไปนั่งกินข้าวด้วยกันแต่ก็ต้องกินอย่างเร่งรีบเพราะจะต้องประชุมในช่วงบ่ายต่อ กว่าจะประชุมเสร็จก็เลยเวลาเลิกเรียนของเด็กหญิงตัวน้อยไปสองชั่วโมงเสียแล้ว เด็กน้อยไม่เคยโกรธถ้าจะมารับช้าแต่ทั้งคู่กลัวว่าเด็กน้อยจะหิวเสียมากกว่า
คริสรีบขับรถมาที่โรงเรียนประถมแถวละแวกบ้านทันที เมื่อจอดรถที่หน้าประตูโรงเรียนได้เด็กน้อยก็วิ่งออกมาจากโรงเรียนพร้อมกับคุณครูประจำชั้นที่พาเดินมาส่ง ชานยอลอ้าแขนอุ้มยูรินขึ้นมากอดแก้มอย่างคิดถึงเสียฟอดใหญ่และยูรินก็หอมแก้มชานยอลกลับ คริสก็เลยแอบฉกแก้มนิ่มๆของยูรินสูดความหอมเสียเต็มปอดเลย
“ขอบคุณครับที่ช่วยดูยูรินให้” ชานยอลก้มหัวขอบคุณให้กับคุณครูประจำชั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ยูรินแกไม่ดื้อไม่ซนค่ะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย”
“ถ้าอย่างนั้นพวกผมลาก่อนนะครับ” แล้วคริสก็พาชานยอลกับยูรินเดินกลับไปที่รถ
“เย็นนี้อาปาชานยอลทำซุปเต้าหู้นะคะ ยูรินอยากกิน” เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักของชานยอลหันไปบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มน่ารักให้ ชานยอลทำหน้าตากำลังใช้ความคิดเด็กน้อยก็เลยทำหน้าตาอ้อนแล้วยืดตัวจุ๊บแก้มของอาปาหนึ่งที
“เย็นนี้เราจะกินซุปเต้าหู้กันนะ~”
“เย้!” เด็กน้อยชูสองมือร้องเย้อย่างดีใจ คริสที่มองอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย อยากจะเข้าไปเล่นด้วย อยากจะฟัดแก้มยูรินเหมือนชานยอลแต่ก็ทำไม่ได้เพราะต้องทำหน้าที่ขับรถพาอาปากับลูกสาวตัวน้อยกลับบ้าน
ชีวิตของพวกเขาก็วนเวียนอยู่แค่นี้ มีความสุขกันทุกๆวัน เริ่มต้นด้วยเสียงหัวเราะใสๆของเด็กหญิงตัวน้อยและหมดวันด้วยความสุขที่เพิ่มพูนจนแทบจะล้น ยูรินที่ช่างยิ้ม ช่างพูดคุยแค่นี้ก็เอาใจของทั้งอาปา ทั้งแด๊ดดี้ไปครองได้ทั้งดวงแล้ว
น้ำตาของเด็กน้อยเป็นสิ่งที่คนทั้งสองไม่อยากเห็นเพราะฉะนั้นชานยอลก็เลยเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าให้คริสตอนที่ยูรินหลับไปแล้ว เช้ามาจะได้บอกแล้วก็ไปเลย ยูรินที่รู้ว่าจะต้องจากแด๊ดดี้คริสไปตั้งหลายวันก็ทำหน้าหงอยๆนั่งก้มหน้าอยู่ที่โซฟา
“ฉันไม่ไปส่งนะ จะรอยู่ที่บ้าน” คริสพยักหน้าแล้วรับกระเป๋าเสื้อผ้าจากชานยอลมาถือไว้ก่อนที่จะเดินไปหายูรินที่นั่งก้มหน้าที่โซฟา
“แด๊ดดี้คริสไปแปบเดียวนะคะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วนะคะเด็กดี” ยูรินพยักหน้าตอบเบาๆ คริสก้มลงจูบที่กระหม่อมบางของเด็กน้อยก่อนที่จะผละออกไป
“ดูแลตัวเองนะ หนาวก็ใส่เสื้อหนาๆล่ะนายป่วยง่ายรู้ใช่ไหม” คริสพยักหน้าแล้วเกี่ยวเอวชานยอลเข้ามากอด
“รักนะครับ แล้วจะรีบกลับนะ” กระซิบบอกแผ่วเบาก่อนที่จะกดริมฝีปากลงที่แก้ม ชานยอลเดินไปส่งคริสที่หน้าบ้านเพราะคริสจะนั่งแท็กซี่ไปและทิ้งรถยนต์ไว้ที่บ้าน พอเดินกลับมาก็เห็นลูกสาวที่แสนร่าเริงนั่งทำหน้าหงอยเสียแล้ว
“เดี๋ยวอาปาชานยอลพาไปเที่ยวสวนสนุกนะ” แต่เด็กน้อยส่ายหน้า
“ยูรินไม่อยากไปหรือครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่ายหน้าไปมา
“อยากไปค่ะแต่ยูรินอยากไปกับอาปาชานยอลกับแด๊ดดี้คริส” ชานยอลรวบตัวเด็กน้อยขึ้นมานั่งบนตักแล้วกอดโยกตัวไปมา
“เดี๋ยวแด๊ดดี้คริสก็กลับมานะครับยูรินคนเก่ง”
“แต่ยูรินคิดถึงแด๊ดดี้คริสค่ะ” ชานยอลวาดรอยยิ้มแล้วก้มหน้าลงกดจูบที่กระหม่อมของเด็กบนตัก
“อาปาชานยอลก็คิดถึงแด๊ดดี้คริสครับ”
ไม่กี่ชั่วโมงคริสก็มาถึงประเทศบ้านเกิดและแน่นอนว่าการเดินทางคนเดียวก็ต้องคิดถึงใครอีกสองคนเป็นธรรมดา ตัวเขาไม่ได้กลับบ้านที่จีนมาก็นานหลายปีแล้วตั้งแต่ที่บ้านรู้ว่าเขากับชานยอลคบกัน แต่ครั้งนี้ทุกคนกลับส่งข้อความมาบอกว่าอยากเจอเขา ซึ่งนั่นก็เลยเป็นเหตุให้เขาต้องมาอยู่ที่นี่ เขาก็คิดถึงบ้านเหมือนกัน บ้านเกิดของเขา ครอบครัวของเขา ถึงโลกจะกว้างใหญ่เพียงไหน ยังไงเขาก็ต้องกลับบ้าน
ที่บ้านใจดีมารับเขาถึงที่สนามบิน เขาได้เจอทุกคนที่มารับเขาด้วยรอยยิ้มและร่องรอยของความดีใจ คริสกอดทุกคนด้วยความคิดถึงแม้กระทั่งพ่อและแม่ของเขาที่วันนี้ก็มารับตัวเขาเช่นกัน เมื่อกลับมาถึงบ้านคุณแม่ก็จัดการอุ่นอาหารที่ทำรอเขากลับมา บรรยายกาศที่นี่อบอุ่นและมีความสุขจนเขานึกถึงชานยอล
ถ้าคนตัวเล็กกับน้องยูรินได้มาที่นี่ด้วยกันก็คงจะดีสินะ... สักวันเขาจะพาทั้งสองมาที่นี่ให้ได้
ช่วงเวลาแห่งความสุขของการนั่งล้อมโต๊ะรับประทานอาหารร่วมกันก็คือการนั่งถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ คริสตอบทุกเรื่องที่ทุกคนถามและอยากรู้ หลังจากช่วงเวลากินข้าวผ่านไปเขาก็ต้องไปช่วยคุณพ่อและบรรดาญาติผู้ชายยกของหนักไปจัดเก็บให้เรียบร้อยเพื่อที่จะได้ทำความสะอาดต้อนรับวันปีใหม่ จวบจนมืดค่ำเขาถึงได้แยกตัวเข้าห้องนอนเก่าของเขา ทุกอย่างยังที่ คงเดิมคงจะมีแต่เขานี่ล่ะที่เติบโตขึ้นเรื่อย
อากาศคืนนี้ค่อนข้างหนาว หลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็เลยสวมสเวตเตอร์สีขาวตัวอุ่นที่ชานยอลพับใส่กระเป๋ามาให้แล้วก็คิดไปถึงอีกสองคนที่อยู่กันคนละประเทศ ที่นั่นจะหนาวหรือเปล่านะ จะหนาวมากหรือเปล่า ชานยอลกับยูรินจะอยู่กันสองคนได้หรือเปล่า เป็นห่วงจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
จนไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นหยิบมือถือมากดวีดีโอคอลไปหาคนที่อีกประเทศเสียแล้ว จนได้ยินเสียงเล็กๆ ใสๆลอดผ่านมานั่นแหละถึงได้รู้ตัว
“แด๊ดดี้คริส~~” คริสมองภาพนหน้าจอก็เห็นยูรินที่พิงไหล่ของชานยอล
“ว่าไงยูรินเด็กดี ที่นั่นหนาวไหมคะคนดี” เด็กน้อยส่ายหน้าแล้วยิ้มกว้างจนตาเป็นขีด
“ไม่หนาวเลยค่ะ แด๊ดดี้คริสโทรมายูรินก็ไม่หนาวแล้ว” ขนาดว่าไม่หนาวเจ้าตัวเล็กยังพันผ้าพันคอไว้อยู่เลย ชานยอลหัวเราะเบาๆ
“แด๊ดดี้คริสเหงาไหม ยูรินเหงาอยากนอนกอดกับแด๊ดดี้คริส” เด็กน้อยบีนปากทำหน้าตาที่ทำเอาคนมองอยากจะฟัดเสียเหลือเกิน
“แด๊ดดี้คริสก็เหงาอยากนอนกอดยูรินกับอาปาชานยอลจังเลย คราวหน้ามาด้วยกันนะคะ”
“ยูรินไปได้เหรอคะ? เย้ดีใจจังเลย!” เด็กน้อยร้องอย่างดีใจแล้วก็ชูสองมือขึ้น
“ที่นั่นหนาวใช่ไหม นอนอย่าลืมห่มผ้าล่ะ” ที่รู้ว่าหนาวก็เพราะชุดของอีกฝ่ายตรงข้ามนั่นแหละ
“นายก็เหมือนกันล่ะ ยูรินก็ห่มผ้าด้วยนะคะ” เด็กน้อยยิ้มรับแข็งขันแล้วก็หาวหวอดใหญ่
“ง่วงแล้วหรือคะเด็กดี นี่ดึกแล้วนิเนอะไปนอนก่อนไหม” คริสเอ่ยถามแต่ยูรินส่ายหน้า
“ไม่เอายูรินจะคุยกับแด๊ดดี้คริส” ชานยอลอุ้มกระชับให้เด็กน้อยนอนพิงตัวเองเพื่อนคุยกับปลายสาย
“ยูรินเอาตุ๊กตาไหมเดี๋ยวแด๊ดดี้คริสซื้อไปให้” เด็กน้อยที่กำลังง่วงนอนก็พยักหน้ารับ
“เอาสองตัวนะคะ” ชูสองนิ้วเล็กๆให้ด้วย คริสหัวเราะเบาๆ
“ค่ะ เดี๋ยวแด๊ดดี้คริสซื้อให้สองตัวเลยนะ” เด็กน้อยพยักหน้ารับอีกครั้งก็พล็อยหลับคาไหล่ของชานยอลไปเลย
“หลับซะแล้ว แปบนะเดี๋ยวเอายูรินนอนก่อน” ชานยอลวางมือถือลงกับเตียงแล้วค่อยๆอุ้มยูรินให้นอนลงบนเตียง ส่วนตัวเองก็เดินไปพิงขอบหน้าต่างคุยกับปลายสาย
“ที่บ้านโอเคใช่ไหม” คริสยิ้มแล้วพยักหน้า
“อยากรู้ทำไมไม่มาด้วยกันล่ะ” ชานยอลยู่หน้าใส่ ใครล่ะจะกล้าไปพ่อของคริสน่ะดูดุจะตาย
“ถ้าดีก็ดีแล้ว นายง่วงหรือยังดึกแล้วนะ เดินทางน่าจะเหนื่อยไปพักก่อนไหมพรุ่งนี้ค่อยโทรมาอีกก็ได้” คริสยิ้มแล้วชี้นิ้วใส่
“นายง่วงแล้วล่ะสิ” ชานยอลหัวเราะที่โดนรุ้ทันก่อนที่จะพยักหน้า
“อืม ง่วงดิวันนี้กว่าจะจัดการยูรินที่งอแงได้ก็ก่อนนายโทรมานี่เอง” คริสขมวดคิ้วมุ่น
“ทำไม? ยูรินร้องไห้เหรอ?”
“อืม ยูรินคิดถึงนาย” ชานยอลพยักหน้า
“แล้วนายล่ะคิดถึงฉันไหม” ชานยอลมองอีกคนที่ยิ้มกว้างหน้าจะบานเป็นจานดาวเทียมแล้วก็หัวเราะขัน
“คิดถึงสิ คิดถึงแด๊ดดี้คริสจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
“แด๊ดดี้คริสก็คิดถึงอาปาชานยอลนะ” ชานยอลยักคิ้วให้
“รู้หรอกว่าคิดถึง ฝันดีนะคืนนี้”
“ฝันดีเหมือนกัน ก่อนนอนไปจุ๊บราตรีสวัสดิ์ยูรินให้หน่อยสิ” ชานยอลส่ายหน้าอย่างระอาแต่ก็ยอมเดินกลับไปที่เตียงแล้วก้มลงจุ๊บที่แก้มใสของเด็กน้อยที่หลับตาพริ้มไปแล้ว
“จุ๊บให้แล้วไปนอนได้แล้ว ราตรีสวัสดิ์...... จุ๊บ” ชานยอลส่งจุ๊บให้คริสแล้วก็ตัดสายทิ้งไปเลย คริสที่นั่งมองอยู่ก็เอาแต่หัวเราะ สุขใจนักแหละ คาดว่าคืนนี้เขาคงจะฝันดีเหมือนที่มีชานยอลและยูรินอยู่ข้างๆ
“อาปาชานยอลเร็วๆสิคะ!!” เด็กน้อยแสนร่าเริงที่วันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษกำลังเร่งชานยอลที่กำลังแต่งตัว
“ถึงเราไปเร็วแด๊ดดี้คริสก็ยังไม่มาอยู่ดี เครื่องยังไม่ลงเลยนะ” เด็กน้อยพองสองแก้ม
“ก็ยูรินอยากไปรอนิคะ จะได้เห็นแด๊ดดี้คริสตอนที่เดินออกมาไงคะ” ชานยอลที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินมานั่งยองๆแล้วลูบผมสองแกละของเด็กน้อยเบาๆ
“แด๊ดดี้คริสของหนูตัวสูงจะตายยังไงก็มองเห็นอยู่ดี” เด็กน้อยยิ้มกว้าง
“แต่ยูรินอยากให้แด๊ดดี้คริสเห็นยูรินเป็นคนแรกนิคะ” ชานยอลหัวเราะแล้วอุ้มยูรินก่อนที่จะเดินไปคว้ากุญแจรถของคริสแล้วเดินลงไปยังชั้นล่าง
“อยากเจอแต่แด๊ดดี้คริสจนอาปาชานยอลจะน้อยใจแล้วนะเนี่ย” ชานยอลหันไปทำหน้าน้อยใจ ยูรินยิ้มกว้างแล้วโอบรอบคอของชานยอลแล้วจุ๊บแก้มของชานยอลไปหนี่งที
“แต่ตอนนี้แด๊ดดี้คริสก็ไม่ได้จุ๊บจากยูรินนะ มีแค่อาปาชานยอลคนเดียว” ชานยอลหัวเราะแล้วฟัดแก้มของยูรินให้หนำใจเลย
“จริงด้วย ถ้างั้นไม่น้อยใจแล้วไปหาแด๊ดดี้คริสกันดีกว่า”
ไม่นานชานยอลกับยูรินก็มาถึงที่สนามบิน ชานยอลอุ้มยูรินมารอที่ประตูทางออกเพื่อรอคริส จากที่มองเวลาแล้วอีกไม่นานก็คงจะมาแล้วล่ะ ผู้ชายตัวสูงเดินออกมายูรินที่มองเห็นก็ดีใจใหญ่ ยิ้มกว้างจนตาหยีเป็นขีดดูน่ารักน่าชังเชียวล่ะ เมื่อคริสเดินออกมาคนที่เดินตามหลังก็ตามมาด้วย ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่สูงกว่าคริสเสียอีกและผู้หญิงรูปร่างสมส่วนที่แค่มองไกลๆยังรู้เลยว่าสวยมาก
“นั่น...” ชานยอลทำตาโตเมื่อมองเห็นว่าคนทั้งคู่ที่เดินตามหลังคริสมานั้นเป็นใคร ยูรินดิ้นตัวเพื่อที่จะลงจากอ้อมแขน ชานยอลปล่อยให้ยูรินวิ่งกางแขนเข้าไปหาคริสที่อยู่ในรัศมีไม่ใกล้ไม่ไกล ชานยอลก้าวเท้าตามไปด้วย
“แด๊ดดี้คริส!!” คริสลงนั่งยองๆแล้วอ้าแขนรับเด็กหญิงตัวน้อยที่วิ่งโผเข้ามากอด คริสจัดการหอมแก้มซ้ายแก้มขวาให้หายคิดถึงก่อนที่จะอุ้มยูรินขึ้นมา
“เป็นไงคะ ดื้อกับอาปาชานยอลหรือเปล่าหื้ม?” เด็กน้อยยิ้มกว้างแล้วส่ายหน้า
“ไม่ดื้อค่ะ ยูรินเป็นเด็กดีของแด๊ดดี้คริสกับอาปาชานยอล” เด็กน้อยยิ้มแล้วกอดคริสไว้จนสายตาของเด็กน้อยมองไปเห็นใครอีกสองคน
“สวัสดีค่ะ” เด็กน้อยก้มหัวอย่างนอบน้อมแล้วก็ส่งยิ้มกว้างให้ ชานยอลเดินเข้ามาถึงก็ก้มหัวทักทายบ้าง
“สวัสดีครับ เดินทางมาเหนื่อยไหมครับ” ชานยอลส่งยิ้มนำไปก่อน พ่อของคริสปรายสายตาดุมองมา แม่ของคริสยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ไม่หรอกจ๊ะ ชานยอลดูโตขึ้นเยอะเลยนะ” ชานยอลที่ทำตัวไม่ถูกก็ไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือต้องตอบรับว่าอย่างไรดี ตัวเขาเคยสนิทกับครอบครัวนี้แต่พอเรื่องที่พวกเขาทั้งสองแอบคบกันแตก เขาก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านทั้งสองอีกเลย
“นั่นสิ ไหนมากอดหน่อยสิ” แล้วพ่อของคริสก็เดินเข้ามาคว้าตัวชานยอลไปกอด ชานยอลที่แทบจะจมไปกับอกของคุณพ่อของคริสก็วาดรอยยิ้มกว้าง
“โตขึ้นจริงๆนั่นแหละ” เมื่อคุณพ่อผละออก คุณแม่ก็กอดบ้าง คริสที่มองดูอยู่ก็วาดรอยยิ้มเสียเต็มใบหน้า ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว ทำให้พ่อกับแม่ของเขาใจอ่อนได้สักทีต้องขอบคุณเจ้าตัวเล็กที่เขาอุ้มอยู่นี้ด้วยนั่นแหละ
“ขอบคุณนะคะ” คริสหอมแก้มใสเสียงดังฟอด ยูรินหัวเราะคิกคัก
“ขอบคุณยูรินทำไมคะ” เด็กน้อยยิ้มตาหยีแล้วเอียงคอมอง
“ขอบคุณที่ยูรินเกิดมาไงละคะ” คริสยิ้มแล้วกอดยูรินไว้
“อะไรมาถึงก็กอดหลานคนเดียวเลย ไหนมาให้ปู่กอดบ้างสิ” แล้วยูรินก็ไปอยู่ในอ้อมกอดของคุณพ่อคริสที่ดูจะชอบใจหลานสาวตัวน้อยแสนน่ารักนี่เสียเหลือเกิน ยูรินก็ทำตัวน่ารักยิ้มหวาน ทำท่าน่ารักใส่คุณปู่ คุณย่าเอาซะท่านเห่อหลานคนใหม่อุ้มไม่ปล่อยเลย
“พ่อกับแม่อยากมาหาชานยอลกับยูรินน่ะก็เลยพามา” คริสที่เห็นชานยอลถามทางสายตาก็เลยแอบตอบกลับแล้วก็กุมมือของชานยอลมาจุมพิตที่หลังมือเบาๆ
“ขอบคุณนะ” ชานยอลยิ้มแล้วลูบหลังมือคริสที่กุมมือเขาเบาๆ
“ขอบคุณทำไม”
“ขอบคุณที่รักฉันไง” คริสยกอีกมือขยี้ผมของชานยอลเบาๆ
“แด๊ดดี้คริส อาปาชานยอลกลับบ้านเรากันเถอะค่ะ ยูรินหิวข้าวแล้ว~” เสียงใสๆขัดจังหวะพร้อมกับคู่ปู่คุณย่าที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังเพราะรู้สึกจะหวานเกินหน้าเกินตามากไปเสียแล้ว
“งั้นก็กลับบ้านก่อนนะครับเดี๋ยวผมจะทำอาหารให้” ชานยอลอาสาแล้วดันคริสให้ไปเข็นรถเข็นกระเป๋าเหมือนเดิม
“ยังไงก็ขอรบกวนด้วยก็แล้วกันนะ อาจจะมาอยู่หลายวันหน่อย” ชานยอลยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ไม่รบกวนเลยครับ”
คุณปู่ยังคงอุ้มหลานสาวตัวน้อยไว้ เจ้าตัวก็คุยเจื้อยแจ้วให้ทั้งปู่ทั้งย่าฟัง คนทั้งสองก็หัวเราะยิ้มอารมณ์ดีตามไปอยู่ที่เบาะหลัง คริสประจำที่คนขับและชานยอลนั่งข้างๆ คริสยิ้มแล้วมองส่องกระจกส่องหลังไปที่เบาะด้านหลัง ชานยอลที่หันไปมองก็วาดรอยยิ้ม
รถเคลื่อนตัวไปได้สักพักมือของชานยอลก็โดนกุมไปจุมพิตที่หลังมืออีกครั้ง ชานยอลหันไปมองแล้วก็ยิ้มก่อนที่จะดึงมือออกมาตีขาคนขับรถที่จิตใจไม่อยู่บนท้องถนนข้างหน้าเบาๆ คริสแตะเบรคเพื่อให้รถหยุดรสัญญาณไฟก่อนที่จะหันมาหาชานยอล
“คิดถึงจัง” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยบอกคำหวาน คนที่ได้ฟังก็รู้สึกแก้มร้อนๆ
“รู้แล้วน่า ก็คิดถึงเหมือนกันนั่นแหละ” คริสเหลือบตาไปมองด้านหลังก็เห็นว่าทั้งสามคนยังนั่งคุยกันอยู่ก็โน้มตัวข้ามไปหาแล้วแตะสัมผัสที่ริมฝีปากอิ่มของชานยอลเบาๆ
“รักมากด้วยนะ” ชานยอลหัวเราะแล้วดีดหน้าผากคนหวานไม่รู้เวล่ำ เวลาเบาๆ
“รักมากเหมือนกัน” คริสมองสบสายตากับชานยอล ทั้งสองยิ้มให้กันยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นเสียงใสๆก็เอ่ยเรียก
“แด๊ดดี้คริสคะรถไปแล้วค่ะ” คริสหันกลับไปมองก็เห็นว่าสัญญาไฟจราจรเปลี่ยนสีแล้วจริงๆ เจ้าตัวขยับตัวกลับไปประจำหน้าที่แล้วก็ขับรถต่อทันที คนที่อยู่ด้านหลังก็หัวเราะคิกคักสนุกสนานกันสามคน ชานยอลและคริสยิ้มอย่างมีความสุขที่อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็จะมีความสุขจริงๆสักที
คริสกุมมือของชานยอลไปตลอดทาง ไม่ว่าจะตอนไหนเขาก็จะไม่ปล่อยมือของชานยอลเด็ดขาดและคงต้องเพิ่มมือเล็กๆของเด็กหญิงตัวน้อยที่เข้ามาทำให้ครอบครัวของเขาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ต่อให้เจออุปสรรคอีกสักเท่าไหร่ขอแค่มีชานยอลและยูริน เขาก็พร้อมที่จะฝ่าพันมันไปให้ได้ เขาจะไม่ปล่อยมือเหมือนที่ชานยอลและมือเล็กๆคู่นั้นจะไม่ปล่อยมือเขาเช่นกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น