ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter - 1
มาแล้วคร๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา >< คิดถึงเราล่ะซี๊~~ พอได้หยุดยาวแล้วก็เลยรู้สึกอู้มาก 555555
ขอบคุณค่ะที่รอติดตามแล้วก็รอต้อนรับเรา(?) อย่างอบอุ่นอีก อิ___________อิ
เราก็รักทุกคนเหมือนกันนะคะะะะะะะะะะะะะะะ เขินเลออ่าาาาาาาาาาาาาาาาา
เราหวังว่าทุกคนจะรับคริสยอลไว้ในอ้อมใจเหมือนเดิมนะคะ เรื่องนี้ไม่รับรองอะไรทั้งนั้นค่ะ แต่ขอบอกเลยว่าพี่คริสเท่มาก 55555555555
_________________________________________
ขอบคุณค่ะที่รอติดตามแล้วก็รอต้อนรับเรา(?) อย่างอบอุ่นอีก อิ___________อิ
เราก็รักทุกคนเหมือนกันนะคะะะะะะะะะะะะะะะ เขินเลออ่าาาาาาาาาาาาาาาาา
เราหวังว่าทุกคนจะรับคริสยอลไว้ในอ้อมใจเหมือนเดิมนะคะ เรื่องนี้ไม่รับรองอะไรทั้งนั้นค่ะ แต่ขอบอกเลยว่าพี่คริสเท่มาก 55555555555
_________________________________________
ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนตื่นเช้า และแน่นอนเรื่องที่จะมาฉีดน้ำหอมให้ฟุ้งนี่ขอเลยว่ามันไม่ใช่!!
แต่ถ้าเพื่อน้องจุนนั้น ขอให้บอกลูกพี่ชานยอลพร้อมเสมอ!!!
ชานยอลที่ตื่นเช้าเหมือนเช่นทุกวัน(เพราะจะต้องรีบไปเต๊าะน้องจุนที่รัก) กำลังเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้หลากหลายชนิดอวลแตะปลายจมูก เจ้าตัวสูดกลิ่นหอมเหล่านั้นให้เต็มปอดก่อนที่จะวาดรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี เพราะบ้านของเขาทำธุรกิจส่งดอกไม้ขายนั่นแหละมันเลยทำให้เขาได้กลิ่นหอมๆแบบนี้อยู่ทุกวัน เหมือนเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีสำหรับปาร์คชานยอลเลยทีเดียว
พอเดินลงมาถึงด้านล่างบ้านได้ก็รีบเดินเข้าห้องกินข้าวทันที บนโต๊ะนั้นมีคุณพ่อนั่งรออยู่ก่อนแล้ว หันมองซ้ายขวาไม่เห็นคุณแม่และใครอีกคนที่ไม่อยากให้ออกไปอยู่ข้างนอกก็หน้าหงอยทันที เพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของเขา
“พ่อ ทำไมพ่อต้องให้ลู่ออกไปอยู่ข้างนอกด้วยล่ะ บ้านเราห้องก็เยอะแยะผมไม่เห็นมันจะมีเหตุผลอะไรที่พ่อจะต้องให้ลู่ออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวอ่ะ” ลงนั่งเก้าอี้ตัวถัดจากประมุขของบ้านได้ก็ใส่ใหญ่เลย คุณพ่อเพียงแค่ลดหนังสือพิมพ์ลงแล้วก็ขยับแว่นนิดหน่อย
“ก็พ่อต้องให้ลู่ช่วยทำงานนินา ชานยอลต้องเข้าใจพ่อนะ” ชานยอลแบะปากใส่หนึ่งที
“ชานยอลไม่เข้าใจก็แค่ส่งดอกไม้เอง ติดต่อร้านหรือจะส่งดอกไม้ขายอะไรนั่นเราก็มีร้านอยู่แล้วนินาทำไมต้องให้ลู่ลำบากด้วยชานยอลไม่เข้าใจ” แหงล่ะ ธุรกิจส่งดอกไม้ของบ้านเขาก็ใช่ว่าจะไก่กาอาราเล่ซะเมื่อไหร่ ตอนแรกก็มีสวนแค่ที่บ้าน ตอนนี้ก็ขยายพื้นที่แล้ว ไหนจะมีร้านเองที่ชานเมือง ไหนจะส่งร้านอื่นๆอีก เรียกได้ว่าแทบจะทุกร้านก็เอาดอกไม้จากเขาทั้งนั้น แล้วทำไมต้องหาอะไรเพิ่มให้ยุ่งยาก
“โธ่ลูกรัก พ่อก็ต้องขยายกิจการส่งดอกไม้ของเราให้มันกว้างขวางไงเผื่อถ้าพ่อปลดระวางแล้วให้ลูกมาดูแลกิจการต่อจะได้ไม่ต้องลำบาก” ชานยอลนั่งเท้าคางแล้วพองสองแก้มอย่างงอนๆ ขอบอกเลยว่าชานยอลงอนสุดๆ
“โอเคๆ ไว้จะบอกให้ลู่หานมันกลับมาเล่นเป็นเพื่อน โอเคยัง?” แค่นี้ล่ะชานยอลก็ยิ้มได้ล่ะ เพราะรู้น่ะสิว่าลู่หานไม่มีทางขัดคำสั่งพ่อเขาเด็ดขาดแต่ถ้าให้เขาบอกให้เพื่อนหน้ายับกลับมานอนนี่ล่ะก็ โดนปฏิเสธตั้งแต่เริ่มอ้าปากแล้วล่ะ
แล้วก็เหมือนกิจวัตรประจำวันที่ต้องมายืนรอเพื่อนขับรถมารับ ชานยอลขับรถเป็นแต่ไม่เคยมีใครให้ขับสักที ตัวเขาก็เลยมีคนขับรถประจำตัวหลายคนเหลือเกินแต่คนที่ผูกขาดหน้าที่นี้ก็คือลู่หาน นี่ไม่อยากจะเม้าท์เลยว่าลู่หานขับรถไปเรียนตั้งแต่มัธยมเพราะฉะนั้นชานยอลก็เลยได้ซ้อนท้ายอยู่บ่อยๆ ตอนแรกที่ถอยดูคาติมาขอบอกเลยว่าชอบมากแต่แบบว่ามันนั่งลำบากก็เลยไปขออ้อนให้เปลี่ยนคัน คันใหม่ก็เพิ่งจะเปลี่ยนมาตอนมหาวิทยาลัยนั่นแหละแต่ก็ไม่ค่อยได้นั่งหรอกเพราะดันมีใครบางคนชอบขับตัดหน้ามารับแทนน่ะสิ
“นี่ไอ้ลู่มันไปแหกโค้งที่ไหนหรือเปล่าวะ มาช้าแม่งได้ทุกวัน” ยกนาฬิกาขึ้นมองเป็นรอบที่ร้อยกว่าก็ไม่เห็นว่ารถมอเตอร์ไซด์ที่คุ้นตาจะขับมาสักที
“ถ้ามานะจะแช่งให้หน้ายับหาเมียไม่ได้เลยคอยดู อะไรวะก็บอกแล้วว่าให้กลับมานอนบ้านดูดิต้องให้มายืนรอรู้ไหมว่ามันเสียเวลา กว่าจะมากว่าจะไป รถก็ติดป่ะว่ะ คอนโดก็ดันอยู่ไกลอีกก็บอกแล้วว่าให้มานอนบ้านๆ ไอ้เหี่ยวนิเดี๋ยวพ่อซัดหงายทั้งคน หงายทั้งรถ” บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยไม่รู้ว่ามีรถคันใหญ่แล่นเข้ามาหาพร้อมกับบีบแตรเสียงดังเรียก
“โอ๊ะ รถไอ้คริสนินามาได้จังหวะพอดีเลยเพื่อนกู” แล้วชานยอลก็วิ่งยิ้มร่าเข้าไปเกาะกระจกรถฝั่งเพื่อนตัวเองทันที พอคริสลดกระจกลงมาเท่านั้นแหละหัวกลมๆ ยุ่งๆก็ชะโงกโผล่เข้าไปเลยไง ทำเอาคนขับตกใจถอยหัวหลีกแทบไม่ทัน
“น้องจุนสวัสดีครับ เช้านี้ก็เจอกันอีกแล้วเนอะ อากาศดีจริงๆด้วยนะเนี่ย” กลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกไม้แล้วก็น้ำหอมจากตัวชานยอลนั้นลอยแตะปลายจมูกโด่ง พาเอาคนที่นั่งมองเสี้ยวหน้าของเพื่อนอยู่ใกล้ๆก็เลยได้สูดกลิ่นหอมนั้น
“สวัสดีครับชานชาน วันนี้ก็อากาศดีจริงๆด้วยนั่นแหละ” พอจุนมยอนยิ้มให้ จื่อเทาก็พยายามจะใช้มือบังหน้าพี่จุนของตัวเอง ชานยอลก็ยิ่งชะโงกทั้งหน้า ทั้งตัวเข้ามาอีก คริสก็จัดการตบหัวยุ่งๆของเพื่อนไปสักหนึ่งทีพร้อมกับผลักมันออก ที่ผลักนี่ไม่ได้อะไรไอ้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่โชยมาแตะจมูกนี่ล่ะพาจะเอาใจสั่น
“น้องแบคก็อยู่นะ” ชานยอลหันไปมองใบหน้าน่ารักของน้องเล็กคนสุดท้างที่มุ่ยยุ่งแล้วก็ยิ้มเอ็นดูส่งให้
“สวัสดีครับน้องแบค วันนี้ก็น่ารักเหมือนเดิมเนอะ” ว่าแล้วก็ยื่นมือไปลูบหัวน้องเล็กของบ้านนี้เบาๆ คริสผลักหัวชานยอลออกไปไกลๆอีกสักที
“จะขึ้นก็ขึ้นมาเร็วๆ” ชานยอลดึงตัวกลับไปนิดหน่อยแล้วหันมองหน้าเพื่อนรักที่อยู่ไม่ห่างด้วยหางตา
“รอไอ้ลู่มารับ” คริสถอนหายใจหนักๆ ก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมถึงชอบซ้อนมอเตอร์ไซด์แบบนั้น มันอันตรายไม่รู้หรือไงวะ!!
“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!” ชานยอลถอนหายใจแล้วก็จัดการถอยตัวกลับไปแล้วเดินไปขึ้นนั่งที่เบาะหลัง จื่อเทาก็พยายามนั่งบังพี่จุนไว้สุดตัวเพราะรู้นะสิว่าคนที่พี่ชายตัวเองมารับน่ะก็ชอบพี่จุนเหมือนกัน!
“อะไรของนายเนี่ยจื่อเทา” เมื่อขึ้นมาได้หวังว่าจะเต๊าะสักหน่อยก็ดันมาเจอแพนด้าตาดำนั่งกางมือเป็นหุ่นไล่กาอยู่เนี่ย ขัดใจชานยอลว่ะ
“ทำไมไม่ไปกับพี่ลู่ล่ะ ขึ้นรถมาทำไมน้องเทาเทาจะไปเรียนกับพี่จุนนะ” จุนมยอนก็ฟาดมือเข้าให้เลยหนึ่งทีข้อหาพูดจาไม่เพราะ แหมปกป้องพี่ชานยอลแบบนี้รักตายเลยอ่ะ!!!
“ทำไมน้องเทาเทาพูดกับชานชานไม่เพราะแบบนี้ ขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ” จื่อเทาทำหน้ามุ่ย พิงหลังกับเบาะนั่งแล้วก็กอดอกทำสีหน้าโดนขัดใจ ชานยอลเพียงแค่กระตุกยิ้มเฉยๆ
“ช่างเถอะ ไม่เป็นไรเด็กก็เงี๊ยะ~”
“น้องเทาเทาไม่ใช่เด็ก!!”
“โอ๋ๆ ไม่เด็กจ๊ะไม่เด็ก หึหึ”
รถเคลื่อนตัวไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงบีบแตรไล่หลังมา พอหันกลับไปดูก็เจอเข้ากับบิ๊กไบค์สีดำคันที่คุ้นตา และคนขับที่คุ้นตากว่า ลู่หานขับรถเข้ามาใกล้ฝั่งข้างคนขับก่อนที่จะเปิดหน้าหมวกเพื่อมองหน้าคนขับฝากฝังคนที่จะมารับแต่ก็ไม่ทันก่อนที่จะปิดหน้าหมวกแล้วขับออกไป ชานยอลที่ได้เห็นก็มุ่ยหน้าแล้วพึมพำสบถเสียงเบา ไม่ได้หรอกเดี๋ยวจุนมยอนที่น่ารักได้ยินแล้วภาพพจน์จะเสีย
“ไอ้เหี่ยวบ้ามาช้าตลอดอ่ะ โค้งหน้าลงคลองไปเลยมึง”
กว่าจะส่งแบคฮยอนที่โรงเรียนมัธยมได้ก็โดนเจ้าเด็กตัวเล็กบ่นไปหนึ่งดอกก่อนที่เจ้าตัวจะลงจากรถ ก็เลยทำให้คนเป็นพี่ได้แต่นั่งนิ่งๆ เงียบๆยอมให้น้องบ่นๆๆ แล้วพอบ่นเสร็จแบคฮยอนก็ลงจากรถพร้อมกับปิดประตูรถด้วยเสียงลั่นดั่งสนั่นเลย
พอน้องลงจากรถไปคริสก็หันมาที่เบาะหลังที่มีจุนมยองกำลังนั่งหัวเราะเบาๆกับจื่อเทาและชานยอลที่พยายามเหลือเกินจะพุ่งเข้าไปหาน้องชายตัวขาวของเขาน่ะ ไอ้เพื่อนหูกางนี่ก็บอกไม่ฟังว่าจุนมยอนน่ะจะต้องเป็นของจื่อเทาเท่านั้น ไอ้นี่ก็เหลือเกินอยากจะเต๊าะน้องชายของเขา สงสัยต้องทำอะไรสักอย่างให้เด็ดขาด..
“ไอ้ชานยอลมานั่งหน้า” พอแบคฮยอนลงไปแล้วที่นั่งข้างคนขับก็เลยว่างน่ะสิ นั่งขับรถคนเดียวเหมือนเป็นคนขับรถยังไงก็ไม่รู้ว่ะคริสอู๋ล่ะปวดกบาล ชานยอลหยุดเล่นกับจื่อเทาแล้วก็หันกลับไปมองเพื่อนที่หันใบหน้าด้านข้างมามอง นี่ก็ปฏิเสธไม่ได้นะว่าเพื่อนของเขาน่ะโคตรหล่อ!! แต่ขอโทษไอ้ชานยอลไม่ใจเต้นหรอก.. แต่ถ้ามันเปลี่ยนจากทำผมทรงแสกกลาง.. บางทีก็อาจจะใจเต้นอยู่นะ
ก็แหม.. หล่อซะขนาดนั้นขนาดทำผมทอง แสกกลาง มีไรหนวดหน่อยๆ แม่งยังหล่อกระชากตับไตลามไปยังมดลูกขนาดนั้น? ถ้าแม่งทำผมทรงอินเทรนด์หน่อยนะรับรองกระชากกูไปเลยเถอะ!! ไม่ๆ ลูกพี่ชานยอลชอบน้องจุนหรอก!!
“นั่งหลังไมได้เหรอ? อยากนั่งกับน้องจุนอ่ะ” แต่คำตอบของคำถามนั้นก็คือสายตาดุๆที่ส่งมาให้พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มที่กดต่ำ
“ไม่” ชานยอลแบะปากอย่างเซ็งในอารมณ์ก่อนที่จะขยับตัวมาเกาะเบาะหลังของเพื่อนไว้ คริสขยับถอยตัวนิดหน่อยเพราะถ้าไม่ถอย.. รับรองว่าเขาคงได้สัมผัสกับริมฝีปากอิ่มสีแดงสดนั่นแน่ๆ ไม่ปลอดภัยคริสอู๋ชอบผู้หญิงสวยๆ อกบึ้มๆ ไม่ใช่ผู้ชายหูกาง อกแบน โอเคจบนะ
“โหดตลอดอ่ะมึง ขี้เกียจลงอ่ะนั่งนี่นะ” ว่าแล้วก็ยิ้มให้สักหนึ่งที เอาเหอะตอนนี้มึงอยากทำอะไรก็ทำไปเลย!!!
“ตามใจ” แล้วชานยอลก็ยิ้มกว้างนั่งวางคางเกยไว้ที่พนักพิงของเบาะคนขับไป ก็คุยเจื้อยแจ้วไป ปาร์คชานยอลผู้ที่ไม่เคยเงียบปาก
“นี่ๆ มึงส่งหัวข้อรายงานให้อาจารย์จองยังอ่ะ? ขี้เกียจทำว่ะนี่ก็ไม่ได้จะมีเวลานอนเลยนะเนี่ย” ว่าแล้วก็ยู่ปากไปสักที คริสกระตุกยิ้มบางๆก่อนที่จะพยักหน้า
“เออส่งแล้ว เดี๋ยวกูทำเองโอเคป่ะ? แต่มึงเลี้ยงเหล้ากูนะ” เพราะเป็นรายงานแบบกลุ่มไงแล้วกลุ่มเขาแน่นอนว่าต้องแบ่งงานกันอย่างลงตัว ในส่วนของชานยอลก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกเพราะรู้ไงเลยหาเรื่องตลกแหลกฟรี
“ก็ได้วะ เห็นแก่มึงเลยนะเนี่ย ถุย!” คริสส่งเสียงหัวเราะก่อนที่จะลกมือข้างหนึ่งมาเขกหัวเพื่อน
“แม่งทำร้ายกูอีกแล้ว เดี๋ยวกูสมองเสื่อมทำไงวะ!!”
“กูก็จะเอามึงไปปล่อยป่าไง”
“ไอ้สันดาน!!!”
กว่าที่จะถึงมหาวิทยาลัยได้ก็เสียเวลาไปไม่น้อย แหงล่ะ... รถไม่ติดของคุณชายเขา ก็แค่เสียเวลายูเทิร์นรถสองครั้ง ติดไฟแดงอีกหนึ่งทีเอง แค่นี้จิ๊บๆสำหรับลูกท่านสส.ล่ะ กว่าที่จะขับรถมาถึงหน้าคณะบัญชีได้ก็หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย หงุดหงิดไอ้คนขับรถนี่ล่ะ แม่งหันมามองแล้วก็กระตุกยิ้มพอถามมันก็เงียบ อะไรวะๆ มันต้องวางแผนชั่วไว้แน่ๆ แม่งคอยดูนะแกล้งกูเมื่อไหร่กูฟ้องลู่หานแน่!!!!
นั่งเต๊าะน้องจุนอยู่ดีๆก็เหมือนโดนรังสีอำมหิตพาดผ่าน อะไรวะ ปาร์คชานยองจะไม่ทนนะ!! เมื่อคริสจอดรถที่หน้าคณะบัญชีทุกคนก็ลงจากรถไปเหลือแต่คริสที่ต้องขับรถไปจอดที่คณะวิศวะ ชานยอลก็จัดการดึงจุนมยอนไปหาที่นั่งคุยกันซะเลย ไม่สนจื่อเทาที่โวยวายวิ่งตามหลังมาด้วย
“เย็นนี้น้องจุนว่างไหม อยากชวนไปกินข้าวด้วยจัง~” มาถึงก็นั่งเต๊าะพร้อมกับยิ้มกว้างเลย จุนมยอนเองก็ยิ้มส่งให้น่ารักเชียวล่ะ ร้อนถึงแพนด้าตัวโตอย่างฮวางจื่อเทานั่นแหละที่เดินอ้อมโต๊ะมาแยกชานยอลให้ออกจากจุนมยอนที่ตอนนี้ทั้งสองนั่งแทบจะเกยไหล่กันอยู่แล้ว! ไอ้แพนด้านี่ก็ขัดขวางจริง!! สงสัยต้องคิดการณ์ใหญ่ซะแล้ว คึคึ ...จะทำการใหญ่ใจต้องเหี้ยม!! ลูกพี่ขอโทษนะแต่เพื่อน้องจุนแล้วลูกพี่ชานยอลยอมเลวว่ะ!
“ไม่ว่าง พี่จุนต้องไปกินเค้กกับน้องเทาเทา พี่ชานยอลก็ไปกินข้าวกับเฮียฟานดิ” สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมาชานยอลไม่เคยอยากกระทืบใครเท่านี้มาก่อน พอโดนดันจนตัวเองแทบจะตกเก้าอี้แล้วนั้น เจ้าตัวก็วิ่งอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วก็จับมือของจุนมยอนขึ้นมากุมด้วยสองมือ แหม... มือของน้องจุนล่ะนิ๊มนิ่ม~ พี่ชานยอลล่ะอยากจะกุมมันทุกเมื่อเชื่อวัน~
“ขอพี่ชานชานไปกินด้วยได้ไหมครับน้องจุน” แล้วมีหรือคำตอบขอบจุนมยอนจะเป็นอื่นไปได้ สำหรับคนที่อะไรก็ได้กับทุกคนแต่เซย์โนกับฮวางจื่อเทาน่ะ หึหึ
“ได้สิครับ ไปกันเยอะๆสนุกดีออก” จื่อเทาดูก็รู้ว่าไม่ชอบใจ เจ้าตัวฮึดฮัดแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะเดินหนีไปหน้าคณะแทน จุนมยอนก็ได้แต่มองตามแล้วก็ส่ายหน้าไปมา ส่วนชานยอลก็ยิ้มกว้างจนปากจะฉีกถึงหูเลย ก็นะ คนน่ารักตอบรับคำชวนทั้งที ถึงจะไปเดทกันหลายคนแต่ก็เอาเถอะขอให้บนโต๊ะมีน้องจุนด้วยก็พอแล้ว
“แล้วจะไปกินเค้กที่ร้านไหนกันเหรอ? น้องจุนชอบกินเค้กอะไรอ่ะ ไว้วันไหนผมพาไปกินเอาไหม?” จุนมยอนยิ้มกว้างแต่ก็ไม่ได้ดึงมือกลับมาจากที่ชานยอลกุมไว้
“อะไรที่เป็นเบอร์รี่ผมก็กินได้ทั้งนั่นแหละครับ ชานชานก็ชอบกินเค้กเหรอถ้าว่างๆผมพาไปบุฟเฟ่ตเค้กเอาไหม?”
“เอาครับ ผมก็ชอบกินเค้กเหมือนกัน” แต่พี่ชานยอลอยากกินน้องจุนมากกว่าเค้กอีกนะ อิอิ หลังจากที่เทาเดินไปหน้าคณะเพื่อทำอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆเจ้าตัวก็เดินหน้ามุ่ยกลับเข้ามานั่งข้างจุนมยอนเหมือนเดิม จื่อเทากำลังขัดใจเพราะรู้ว่าไอ้เพื่อนพี่ชายหูกางคนนี้เต๊าะพี่จุนของน้องเทาเทาไปเยอะแค่ไหนแล้ว พอน้องกลับมานั่งพี่ชายตัวขาวก็หันไปมองเด็กน้อยที่นั่งกอดอกทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วก็ยิ้มขำ
“เทาเทาโกรธเหรอ? น่ารักจังเลยน้า~” จุนมยอนดึงสองแก้มของเด็กน้อยแสนงอนแล้วก็ยืดออกจนริมฝีปากที่เม้มสนิทค่อยๆวาดเป็นรอยยิ้ม ใบหน้าของคนยืดแก้มน้องเองก็ยิ้มกว้างเหมือนกัน รอยยิ้มของจุนมยอนนั้นอย่างกับนางฟ้า นางสวรรค์ที่ทำเอาชานยอลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่งเท้าคางดูแล้วเคลิ้มไปกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเล็กๆนั้น แต่แล้วอยู่ๆก็โดนฉุดลงสู่ขุมนรกด้วยใครสักคนที่กระชากคอเสื้อซะแทบปลิว
“โอ๊ย!!! ไอ้เช..คริส!! ปล่อย!!!” ชานยอลที่นั่งเต๊าะน้องจุนมยอนสุดน่ารักอยู่ดีๆก็โดนลากคอไปซะงั้น ลากทีตัวลอยปลิวไปแล้ว คริสจับคอเสื้อแล้วลากเพื่อนที่พยายามจะเต๊าะน้องชายเขาเสียเหลือเกินให้กลับคณะ พอเดินมาถึงโต๊ะประจำใต้คณะวิศวะก็เจอกับลู่หานที่นั่งฟุบหน้า คาดว่าคงหลับ.. และจงอินที่นั่งค้นอะไรในกระเป๋าก็ไม่รู้
“โอ๊ยเหวี่ยงมาได้ ไอ้หอกหัก ไอ้แรงฟายเผือก!!”
“หุบปากไปเลยนะแล้วนั่งดีๆ” คริสชี้นิ้วใส่หน้าชานยอลที่นอนแอ้งแม้งกับพื้นเก้าอี้ยาวก่อนที่จะไปประคองเพื่อนให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ ชานยอลมองค้อนใส่ก่อนที่จะหันมาหาจงอินที่ค้นอะไรก็ไม่รู้ในกระเป๋าอยู่นานสองนาน ลู่หานก็ไม่ยอมตื่นเสียงโวยวายดังขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีกเหรอ? บางทีชานยอลก็สงสัยว่าเพื่อนเขาได้นอนบ้างหรือเปล่า? เอ?? สงสัยจะไปเที่ยวดึกล่ะสิ แบบนี้ล่ะสิถึงอยากออกไปอยู่คนเดียวน่ะ
“หาอะไรน่ะไอ้จงอิน” ชานยอลใช้ขาเตะที่ขาของจงอินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเบาๆ จงอินก็เงยหน้าขึ้นมามองชานยอลด้วยสีหน้าแบะปากเหมือนจะร้องไห้
“หาเหรียญ500วอนไม่เจอเมื่อเช้าเพิ่งไปขายกระป๋องมา หายไป500วอน!!” ชานยอลกระพริบตาปริบๆ มองจงอินที่คุ้ยกระเป๋าหาเหรียญของมันต่อไป
“เทกระเป๋าดิเผื่อจะเจอ” จงอินทำตาโตมองชานยอลแล้วก็เหมือนกับเห็นนางฟ้ามาโปรด
“นั่นดิ!!” แล้วจงอินก็ลุกขึ้นเทของในกระเป๋าลงบนโต๊ะจริงๆ เหรียญ500วอนที่หาอยู่นั้นก็กลิ้งลงจากโต๊ะไป จงอินก็วิ่งตามไปเก็บ ชานยอลกับคริสก็หันไปมองแล้วก็ส่ายหน้าอย่างระอาก่อนที่ชานยอลจะเก็บของใส่กระเป๋าให้เพื่อนตามเดิม
“เมื่อคืนเที่ยวหนักหรือไงมึง” เมื่อเห็นลู่หานขยับตัว คริสก็เตะขาของลู่หานเบาๆ เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะพยักหน้ารับ
“อืม.. นิดหน่อย” ชานยอลยู่หน้า
“นิดหน่อยอะไรล่ะ มารับกูช้าทุกวันอ่ะ วันหยุดนี้กลับไปนอนบ้านเลยนะไม่งั้นจะให้พ่อไปลากมึงกลับ” ลู่หานเลิกคิ้วก่อนที่จะยิ้มบางๆ
“ไม่ดีใจหรือไงที่ได้เต๊าะน้องจุนของมึงน่ะ”
“ไอ้ลู่เดี๋ยวกูฟาดคอหัก!” คริสส่งเสียงทุ่มต่ำพร้อมกับขาเตะไปที่แข้งของลู่หาน แต่เจ้าตัวก็หลบได้
“นี่ๆๆ พวกมึงไม่คิดจะซื้อขนม ซื้อน้ำกินหรือไงวะ กูหิวอ่ะ” จงอินที่กลับมาจากการวิ่งตมเหรียญ500วอนก็ฉีกยิ้มกว้างเข้ามา
“หิวมึงก็ซื้อดิ” จงอินทำหน้ายู่
“โห้ยมึงอ่ะ ขนมแม่งก็แพง น้ำแม่งก็แพง จะให้กูซื้อได้ไงเสียดายตัง” อ๋อ แต่กินของพวกกูไม่เสียดายตังสินะคิมจงอิน!!!
“เออๆ ไปซื้อมาเลยไป” แล้วชานยอลก็หยิบเงินให้เพื่อนไป จงอินทำตาลุกวาวก่อนที่จะตะครุบเงินแบงค์นั้น ลาภปากล่ะคิมจงอิน!
“กูคิดค่าเดินนะ”
“เออ!!! ไอ้งก!!!!” แล้วจงอินก็วิ่งลัลล้าไปซื้อขนม ทิ้งให้ชานยอลนั่งกุมขมับไป นี่อยากจะรู้จริงๆว่าเขาไปรู้จักกับมันได้ยังไง โคตรพลาด!! แต่มีมันไว้ก็สนุกชีวิตดีน่ะนะ
หลังจากนั่งกินขนม กินน้ำที่จงอินไปซื้อมาให้แถมเงินถอนก็ไม่มีแล้วนั้น ทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันล่ะ จงอินก็กลับคณะของตัวเองไป คริส ชานยอล ลู่หานก็เดินขึ้นไปเรียนบ้าง เช้านี้มีแล็ปเลยด้วย ถึงอยากโดดแค่ไหนก็โดดไม่ได้ เพราะถ้าโดดปุ๊บชีวิตจบปั๊บ..
ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดนั้นชานยอลที่มักจะซุ่มซ่ามเสมอก็สะดุดขั้นบันไดจะหงายหน้าทิ่มกับบันไดแต่ก็ได้คริสที่เดินอยู่ข้างๆจับไว้ได้ทัน คริสดึงตัวชานยอลเข้าหาตัว ไอ้คนที่จะล้มอยู่ๆก็ลอยมาปะทะอกเพื่อนนี่ก็ยังหลับตาปี๋ตกใจไม่หาย เสียงทุ่มต่ำพูดคลอที่ริมหูเบาๆ
“เดินไม่ระวังนะมึงน่ะ” ชานยอลหันหลังกลับไปมองก็เจอเข้ากับใบหน้าของเพื่อนรักที่ก้มหน้าลงมาหาซะใกล้เลย ขยับอีกนิดปลายจมูกก็จะชิดกันแล้วล่ะ ดวงตากลมของชานยอลเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนที่เจ้าตัวจะดีดตัวออกให้ไว
“เออๆขอบใจ” เกาหัวอีกสักสองทีแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองลู่หานที่ยืนรออยู่บนชั้นพักก็เลยรีบวิ่งขึ้นไปหาแล้วก็กอดแขนลู่หานทันที
“อะไร” ลู่หานหันไปมองเด็กตัวน้อยที่บัดนี้ตัวสูงกว่าเขาเสียแล้ว คนที่เขาดูแลและปกป้องมาตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้เจ้าตัวตัวสูงกว่าเขาเสียอีก ลู่หานมองด้วยสายตาเอ็นดู ชานยอลส่ายหน้าไปมา
“ไม่สบายหรือไง” ชานยอลส่ายหัวอีกรอบ แล้วลู่หานก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก คริสที่เดินตามมาทันก็ปรายสายตามองเพื่อนตัวสูงน้อยกว่าเขาหน่อยเดียวที่เดินเกาะแขนคนดูแลมันแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดในใจ... โดยที่ไม่รู้ตัว
กว่าจะเรียนตัวสุดท้ายเสร็จก็เกือบเย็นพอดี ชานยอลกับลู่หานที่ลงมาก่อนก็ไปนั่งที่โต๊ะประจำเพื่อรอคริสที่โดนอาจารย์เรียกตัวไป แต่จะเรียกไปทำอะไรอันนี้ก็ไม่รู้แหะ พอได้ที่นั่งเจ้าตัวก็เหมือนนึกขึ้นได้ว่าหิวก็เลยลุกขึ้นวิ่งไปซื้อขนมมากองไว้ที่กลางโต๊ะ คือปาร์คชานยอลลืมไปแล้วมั้งว่านัดไปเดทกับน้องจุนที่ร้านเค้กน่ะ ซื้อขนมมาซะเยอะเลย
พอนั่งได้ที่ ขนมพร้อม น้ำพร้อมเจ้าตัวก็นั่งเล่าเรื่องเกมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ทันที เล่าไปเล่ามาก็ไม่เห็นว่าคนที่เล่าให้ฟังจะมีปฏิกิริยาอะไรเลย ก็เลยได้แต่ถอนหายใจจนจื่อเทาเข้ามานั่งร่วมโต๊ะด้วยนั่นล่ะเลยเพิ่งนึกออกว่าเขาจะพูดอะไรตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็โดนขัดตลอดจนลืมไปเลย
“นี่ไอ้ลู่.. คืนนี้หนีเที่ยวอีกสินะแล้วมึงก็จะไม่มารับกูอีกใช่ไหมล่ะ” ชานยอลยู่หน้าใส่ลู่หาน ขอบอกเลยว่าด้วยการที่อยู่มานานสเต๊ปนี้ปาร์คชานยอลยังไม่ได้น้อยใจ ยังไมได้งอนแค่เคืองเฉยๆ
“ก็ไอ้คริสมาส่งแล้วไง” ก็ยิ่งหน้างอเข้าไปใหญ่ พอทำหน้างอ ส่งสายตาค้อนใส่ลู่หานกระตุกยิ้มบางๆก่อนที่จะยกมือลูบหัวชานยอลที่นั่งอยู่ข้างๆเบาๆ
“ถ้าไปทันจะไปรับล่ะกัน” ชานยอลยิ้มกว้างส่งให้ลู่หานอย่างอารมณ์ดี ทีนี้ยักษ์ปักหลั่นอย่างคริสก็เดินหน้ามุ่ยเข้ามาตบหัวชานยอลซะแทบทิ่ม ไอ้ตัวคนโดนตบก็โวยวายไปตามระเบียบ
“โอ๊ย!! ตบหัวกูทำไมวะไอ้เสาไฟ!!” คริสลงนั่งข้างเทาที่กำลังนั่งกินขนมบนโต๊ะแล้วก็ส่งสายตาดุไปหาชานยอลที่ยังไม่รู้ตัวยังนั่งยิ้มอยู่นั่นล่ะ
“เย็นนี้ไปเองนะเฮียไม่ว่าง” คริสแย่งขนมในมือของเทามากินซะเอง ชานยอลหมั่นไส้ก็เลยเตะหน้าแข้งมันไปสักที เก๊กดีนักไอ้โฉด!!!
“อ้าว เฮียจะไปไหนล่ะ” คริสกระตุกยิ้มแล้วโคลงหัวไปทางคนฝั่งตรงข้าม
“พาหมาไปส่งบ้าน”
“อะไรๆไอ้ส.. ใครจะไปด้วยห๊ะ? กูจะไปกับไอ้ลู่หรอก” ว่าแล้วก็เกี่ยวแขนลู่หานซะเลย
“จะไปกับมันทำไมวะ มึงชอบนั่งมอ’ไซด์หรือไงมันอันตราย”
“นั่งกับมึงเหยียบ180ก็อันตรายเหมือนกันแหละไอ้ห..!!” ชานยอลเถียงแถมท้ายด้วยการกอดอกแล้วแบะปากใส่ หนอยๆ ไอ้ลู่บิด 200 กับมึงเหยียบ 180 แม่งต่างกันตรงไหนวะห๊ะ!!!! กูไปกับใครก็ชีวิตเสี่ยงอันตรายแม่งหมดอ่ะ!!
“ยังจะดื้ออีกงั้นมึงไปกับกูเลย!!” แล้วคริสก็ลุกขึ้นลากชานยอลออกไปเลยโดยที่ไม่สนใครอะไรทั้งนั้น
“เฮ้ยไม่ไป!!! ไม่เอาจะกลับกับไอ้ลู่!!!!!” คริสกำรอบข้อมือของชานยอลแล้วใช้แรงลากชานยอลไปที่รถ ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกหน่วงทุกทีเวลาที่ไอ้คนที่โวยวายอยู่ข้างหลังบอกว่าจะไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขา ตกลงเขาเป็นอะไร?
“ไม่ไปนะ!! อะไรของมึงเนี่ย!!” พอมาถึงรถได้คริสก็เหวี่ยงชานยอลไปที่รถจนคนตัวผอมบางกว่ากระแทกกับรถเจ็บไปทั้งแขนเลย ดวงตากลมตวัดหันไปมองแต่คริสก็แค่เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาหาเท่านั้น ไม่ได้ยี่หระอะไรทั้งสิ้น
“เจ็บนะเว๊ยเหวี่ยงกูมาทำไมเนี่ย แม่ง! แล้วใครบอกจะไปด้วยห๊ะ!” ชานยอลหันไปแว้ดเสียงใส่พร้อมกับลูบแขนขวาที่กระแทกกับตัวรถไปด้วย คริสเดินเข้ามาแล้วก็กระแทกสองฝ่ามือลงกับตัวรถกั้นที่ของชานยอลไว้ ใบหน้าหล่อคมนั้นโน้มลงมาต่ำพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก
“หุบปากแล้วขึ้นรถไป” ชานยอลมุ่ยปากกำลังที่จะอ้าปากด่าก็โดนอีกคนตัดทางเสียก่อน
“ถ้ายังพูดมากกูจะจับมึงจูบตรงนี้ล่ะ” ชานยอลทำตาโตแล้วก็ยกสองมือขึ้นปิดปากอย่างสยอง จะบ้าหรือไงผู้ชายที่ไหนจะมายืนจูบกันวะ!! เสียชาติเกิดหมด!!!
“ถ้ามึงจูบกูจะกัดลิ้นมึงให้ขาดเลย!!!” เปิดปากออกมาตวาดใส่ก่อนที่จะปิดปากดังเดิม คริสกระตุกยิ้มที่มุมปากอีกนิดก่อนที่จะก้มหน้าลงต่ำอีกสักหน่อย แค่นี้ชานยอลก็กลัวจนเขยิบเบียดแทบจะแทรกเข้าไปในรถอยู่แล้ว
“มาดูกันไหมล่ะว่ามึงจะได้กัดลิ้นกูหรือกูจะกัดมึง” ชานยอลเบิกตากกว้างอีกรอบก่อนที่จะหันหลังไปแล้วพยายามเปิดประตูรถทันที คริสเลยถอยตัวออกมาแล้วปลดล็อครถให้ ชานยอลก็รีบมุดเข้ารถไปนั่งคาดเซฟตี้เบลล์แล้วก็ขยับนั่งชิดประตูทันที ถ้าเกิดแม่งหน้ามืดขึ้นมานะเอกราชของพี่ชานยอลหมดกัน!!!!
“หึ... ฮึ.. ฮ่าๆๆ” คริสที่ยังยืนอยู่นอกตัวรถก็หัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ พอชานยอลหันมาค้อนเข้าให้เจ้าตัวก็เลยต้องรีบเดินไปขึ้นรถเสียก่อน ไม่นานรถแวนสีดำก็ขับออกจากที่จอดรถของคณะไป คริสเหลือบตามองชานยอลที่นั่งแทบจะสิงกับกระจกแล้วก็ยิ้มขำ
“จะกินอะไร” ชานยอลหันมาแบะปากใส่แล้วก็หันหน้ากลับไปเช่นเดิม
“ไม่ตอบกูพาเข้าโรงแรมเลยนะ” ชานยอลหันมามองอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าคริสตบไฟจะเลี้ยวเข้าที่ไหน ม่านรูด!!!!
“ไอ้เห..!! กินอะไรก็ได้ มึงขับไปเลย!!!” แล้วคริสก็หัวเราะดังๆอีกสักรอบ การได้แกล้งเพื่อนตัวเองนี่โคตรมีความสุขล่ะบอกเลย
คริสขับรถไปยังร้านชาบูที่เขากับชานยอลชอบมากินกัน เรียกว่าร้านประจำเสียยิ่งกว่าประจำอีก มาบ่อยกว่าไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าอีก เมื่อได้โต๊ะชานยอลก็จัดการสั่งชนิดที่เรียกว่าคนจดก็จดไม่ทันนั่นล่ะ สั่งอย่างกับจะมาถล่มร้านเขาอย่างนั้นล่ะแต่ก็ไม่มีใครแคร์เพราะยังไงก็กินหมดอยู่ดี สั่งมาล้นโต๊ะขนาดนี้แต่เชื่อเถอะว่ายังไงเขาสองคนก็กินหมดอยู่ดี
ชานยอลหยิบไอโฟนของตัวเองออกมาแล้วก็กดจิ้มแชทกับใครก็ไม่รู้ บางครั้งก็ยิ้ม บางครั้งหัวเราะอยู่กับหน้าจอนั้นจนไม่สังเกตเลยมั้งว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่งหน้าบูดแค่ไหนจนทนไม่ไหวต้องเตะขามันไปสักที ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาจะเอาเรื่องกับคนตรงข้ามนั่นแหละ เจ้าตัวถึงได้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พอชานยอลก้มหน้าอีกก็โดนเตะอีก
“อะไรของมึงเนี่ยเตะอยู่ได้”
“คุยกับใคร” ชานยอลขมวดคิ้วก่อนที่จะเอียงคออย่างสงสัย
“คุยกับไอ้ลู่ดิ จะชวนมันมากินด้วยกันแต่มันไม่มากลับไปนอนแล้ว เที่ยวอีกตามเคย” ว่าแล้วก็ก้มหน้ากดแชทอีกแต่คริสเอื้อมมือมาคว้าลูกรักไปจากมือเฉยเลย!! เอาไปแล้วก็เก็บใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองเสียเลย ชานยอลก็ได้แต่ทำตาโตมองตามลูกรักตัวเองไป
“เฮ้ย! เอาคืนมาจะเอาไปทำไมวะกูยังคุยไม่เสร็จเลย ไร้มารยาททรามเหมือนหน้าตา!!!” ชานยอลแบมือขอแต่พ่อจ้าวประคุณรุนช่องก็ไม่คืนซ้ำยังหันไปช่วยเด็กเสิร์ฟหยิบพวกจานเนื้อที่สั่งมาวางไว้บนโต๊ะอีกแน่ะ
“ไอ้คริสเอาคืนมานะ!!”
“อู๋อี้ฟานเอาคืนมา!!!” คริสเลิกคิ้วขึ้นแล้วช้อนตาขึ้นมองคนตรงข้ามที่ทำหน้ามุ่ยพร้อมกับแบมือมาตรงหน้า อืม.. มุมนี้ก็น่ารักดีแหะ... เอ๊ะ? กูคิดอะไรนะ
“แด..ให้หมดก่อนค่อยคืน กูพามากินข้าวไม่ได้พามาให้นั่งเล่นมือถือ โอเค๊?”
“กูไม่โอเคได้ด้วยเหรอแม่ง บอกว่าไม่มาๆยังจะลากกูมาอีก แม่งขัดลาภจะไปนอนกับไอ้ลู่เลย” ขยับปากให้ศีลให้พร คงคิดว่าอีกคนจะไม่ได้ยินมั้งแต่ขอโทษหูผีปานนี้ได้ยินอยู่แล้ว
“ทำไมต้องไปนอนกับไอ้ลู่มัน”
“ก็แล้วทำไมจะไปนอนไม่ได้วะ ทีกับมึงกูยังเคยไปนอนบ้านมึงเลย ไอ้ลู่น่ะเพื่อนกูนะมึงอย่ามาหวงมันออกนอกหน้ากูดิวะ แม่ง!” หันไปจิกตาใส่ซะเลยแล้วก็จัดการคีบเนื้อที่สุกแล้วมาใส่ชามตัวเองให้เต็มไม่เหลือเผื่อคนตรงข้ามสักชิ้นเลย ปาร์คชานยอลโมโห(หิว)โว๊ย!!!
“มึงคิดว่ากูหวงมัน?”
“เออดิ แม่งถ้ามึงไม่อยากให้กูไปไหนกับไอ้ลู่มึงก็เอาน้องมึงมาสิเดี๋ยวกูไปส่งเอง แล้วมึงจะไปไหนกับไอ้ลู่ก็ไปเลย แต่ไอ้ลู่น่ะเพื่อนกูมันไม่ไปกับมึงหรอก~”
“กูก็ไม่ให้มึงได้ไปเต๊าะจุนมยอนหรอกนะ อย่ามาพูดให้กูเขวเลยว่ะ” ชานยอลฮึดฮัดอย่างขัดใจที่โดนรู้ทันก็เลยไม่คุยกับมันอีกเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจ้วงเนื้อในหม้อชาบูกินอย่างโกรธแค้น คีบเนื้อจิ้มน้ำจิ้มชุ่มๆแล้วใส่ปากเคี้ยวให้แหลกคิดซะว่าเป็นหน้าของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ต้องเคี้ยวให้หายแค้น!!! แหม.. แต่จะว่าไปก็ดีเนอะได้กินแต่เนื้อที่ชอบ อิอิ
คริสที่นั่งมองอยู่ก็อดที่จะยกยิ้มขำไม่ได้ แม่งทำอะไรไม่ได้ก็ไปลงกับอาหารหมดก็เดือดร้อนคนทำให้มันอารมณ์เสียน่ะสิ ก็นั่งเอาเนื้อลงหม้อให้มัน หยิบโน้น หยิบนี่ใส่ให้ ลำบากจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมคนทำถึงได้อมยิ้มไปแบบนั้น คนตรงข้ามก็ก็กินไปยิ้มไปมีความสุขนักแหละ ส่วนคนทำก็ยิ้มไปมีความสุขที่เห็นคนตรงข้ามยิ้ม ก็ไม่ได้รู้เลยว่าคนรอบข้างเขามองอยู่และอมยิ้มไปด้วยน่ะ
หลังจากที่กินจนอิ่มหนำชานยอลก็เดินนำหน้าออกมาจากร้านโดยที่ไม่รอคนจ่ายเงินเลยสักนิด เห๊อะ.. พาคนอื่นเขามาโดยที่ไม่เต็มใจก็ต้องเลี้ยงเขาสิถึงจะถูก แต่จะว่า.. วันนี้ตอนเย็นน้องจุนชวนเดทนิหว่าเพราะมันเลย!!! โอ๊ย!!! ปาร์คชานยอลเคลิ้มมากินชาบูกับมันได้ยังไงวะ!!!? แต่ไม่เป็นไรยังไงพรุ่งนี้ค่อยชวนน้องจุนมาเดทกันอีกรอบก็ได้ ปาร์คชานยอลไม่แคร์... แต่สงสัยคงต้องหาทางหลบไอ้คนที่กำลังเดินมานั่นแหละ
“ไปห้างป่ะ?” ชานยอลเลิกคิ้วมองคนที่เดินมายืนล้วงมือใส่กระเป๋ากางเกงตรงหน้าแล้วก็ไม่เข้าใจ จะไปทำไมวะก็กินข้าวอิ่มแล้วไง?
“ไปไมวะ”
“ไปเดินย่อย” ชานยอลส่ายหน้า
“ไม่เอาอ่ะ ไปส่งที่คอนโดไอ้ลู่หน่อยดิ” คริสขมวดคิ้วมุ่นก่อนที่จะตีหน้าโหดใส่
“นี่มึงจะไปหามันทำไมวะ ทำไมต้องไปนอนกับมันวะห๊ะ!!” ชานยอลเท้าเอวบ้างแล้วก็เตะขาใส่มันไปสักที
“ก็แล้วทำไมวะ ทำไมกูจะไปนอนกับไอ้ลู่ไม่ได้ ก็กูคิดถึงมันอยากคุยกับมันนิหว่า!!” คริสผลักชานยอลไปกระแทกกับรถอีกครั้ง เพราะชานยอลยืนอยู่ใกล้ๆกับรถของตัวเอง
“มึงก็เจอมันแทบจะทุกวันนี่ยังคุยไม่พออีกเหรอไงวะ คืนนี้มึงไปนอนบ้านกูเลย” ชานยอลก็ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ อะไรของมันวะ!
“ทำไมกูต้องไปนอนกับมึงวะ วันนี้กูจะไปหาไอ้ลู่” ก็เขานัดเล่นเกมกับลู่หานไว้นิ ทำไมจะไปไม่ได้? แล้วเขากับลู่หานก็นอนด้วยกันออกจะบ่อยแล้วทำไม อะไร ยังไง ปาร์คชานยอลโคตรจะงงเลยว่ะบอกตรงๆ คริสยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแรงๆอย่างขัดใจก่อนที่จะตวัดสายตามองคนตรงหน้า
“ถ้ามึงอยากไปหามันมากนักมึงก็ไปเองเลยไป มีปัญญาก็ไปเอง” คริสดึงชานยอลให้ออกห่างจากรถของตัวเองก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปเลยท่ามกลางสายตางงงวยและความไม่เข้าใจของชานยอลที่มองท้ายรถที่แล่นอออกไปอย่างเร็วนั่น
“ไอ้เห.. มึงพากูมาแล้วก็ทิ้งกูไว้แบบนี้เนี่ยนะ กูไม่น่ามากับมึงเลยไปตายซะไป!!!!” ก็ได้แต่ตะโกนด่าตามหลังไปนั่นแหละจะทำอะไรได้ล่ะ แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีโทรศัพท์เพราะลูกรักของตัวเองไอ้คนที่มันทิ้งเขาไว้ก็ยังไม่ได้คืนให้เลย แล้วเขาจะทำยังไงล่ะ? ชานยอลหันซ้าย หันขวาก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็มีเศษเหรียญอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องเดินหาตู้โทรศัพท์ แต่ตู้ที่ใกล้ที่สุดก็แค่เดินหันหลังเดินย้อนขึ้นไปอีกไม่ใกล้เท่าไหร่นัก
“กูจะจำวันนี้ไว้เลยมึง” ชานยอลค่อยๆเดินไปยังตู้โทรศัพท์ก่อนที่จะหยอดเหรียญแล้วกดเบอร์โทรของลู่หานที่เขาถูกสั่งให้จำมันได้ให้ขึ้นใจ ไม่ว่าจะยังไงเขาจะต้องจำเบอร์นี้ให้ได้ รอสายเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รับสายด้วยเสียงงัวเงีย
“ลู่อ่า มารับน้องชานยอลหน่อย น้องชานยอลโดนทิ้ง” พยายามแล้วที่จะไม่สะอื้นใส่แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ พอได้ยินเสียงสะอื้นของชานยอลเท่านั้นแหละลู่หานก็ตื่นเต็มตาเลย
“อยู่ที่ไหนเดี๋ยวไปรับ”
“อยู่ที่ร้านมินิมาร์ทใกล้ๆกับร้านชาบู.... ไอ้คริสมันทิ้งน้องชานยอลไว้”
“รออยู่ตรงนั้น 5นาทีจะไปรับ เลิกร้องไห้ได้แล้วน้องชานยอล”
“ลู่อ่า รีบๆมานะ” หลังจากวางสายไปก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องร้องไห้ใส่เพื่อนเล่นของตัวเองแบบนั้น ลู่หานกับชานยอลรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว ลู่หานก็เหมือนกันพี่ชายของชานยอลเพราะฉะนั้นก็คงไม่แปลกถ้าน้องชายจะร้องไห้แล้วอ้อนใส่ แต่เพราะอะไรถึงต้องร้องไห้นะ? ...หรือเพราะโดนใครบางคนทิ้งกัน...
คริสที่ขับรถออกมาด้วยความโกรธและเหยียบแทบจะมิดเกนั้นก็เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์ของชานยอลยังอยู่กับเขา มาคิดก็ตอนที่ขับรถใกล้จะถึงบ้านตัวเองอยู่แล้วเนี่ยล่ะ แล้วถ้าโทรศัพท์ของชานยอลอยู่กับเขาแล้วชานยอลจะกลับยังไง? จะโทรติดต่อใครยังไง คริสตบพวงมาลัยแรงๆสักทีก่อนที่จะหมุนรถวิ่งกลับไปทางเดิม ตอนนี้เขาก็ไม่รู้แล้วว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมถึงได้อารมณ์เสียมากขนาดนี้ ทั้งๆที่มันจะไปนอนที่อื่นก็ดีอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับน้องๆของเขา แต่ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ชอบใจเอาซะเลย ตอนนี้มันเหมือนไม่ใช่ตัวของเขาแล้ว
แต่พอกลับมาก็ไม่เห็นชานยอลแล้ว ลองขับวนดูรอบๆก็ไม่เจอ ถ้าชานยอลหายตัวไปหรือเป็นอะไรไปแล้วเขาจะทำยังไงล่ะ คริสก้มหน้าลงซบกับมือที่จับพวงมาลัยก่อนที่จะถอนหายใจแรงๆ งานนี้เขาผิดเต็มประตูเลยล่ะ ผิดที่โกรธไร้สาระ ขนาดที่ว่าเขายังไม่รู้เลยว่าโกรธไปทำไม ผิดที่ไล่ชานยอลให้ไปเอง ทั้งๆที่ก็รู้ว่าชานยอลไม่มีมือถือแล้วจะติดต่อคนอื่นยังไง และเขารู้ว่าชานยอลนั่งแท็กซี่ไม่เป็น แน่นอนว่าคนที่ไม่เคยนั่งแท็กซี่หรือรถประจำทางน่ะจะทำอย่างไร?
“โธ่เว๊ย! หายไปไหนของเขาวะ” คริสตบพวงมาลัยแรงๆอีกสักทีก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นล้วงหามือถือตัวเอง
“ลู่หาน.. ต้องไปหาลู่หานแน่ๆ” พอลองกดโทรหา ปลายสายกว่าจะรับได้ก็นานจนเกือบจะตัดนั่นล่ะทำเอาคนร้อนใจแทบไฟลุกโหมกาย
“มีอะไร”
“ไอ้ลู่ ชานยอลไปหามึงหรือเปล่า” อีกฝ่ายเงียบไปเพียงอึดใจแต่เหมือนนานชั่วตาปีสำหรับคนรอคำตอบ ก่อนที่น้ำเสียงนิ่งๆ เอื่อยๆจะตอบกลับมา
“เปล่านิ ทำไมมันไปไหน”
“เปล่าๆ เออแค่นี้นะถ้ามันไปหามึงโทรหากูด้วยนะ” เมื่อได้ยินคำตอบรับจากอีกฝ่ายคริสก็กดตัดสายแล้วเริ่มคิดว่าที่ไหนที่ชานยอลจะไปได้ ก่อนที่จะเริ่มออกรถขับไปตามหา
...ตามหาไปเถอะ หึ... ลู่หานไม่ได้กล่าวไว้ (แต่ก็แค่คิดหลังจากที่วางสายแล้ว)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น