ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : [Sweet line Project] Casper ตุ๊กตาแสนรัก - 1
มาแล๊นนนนนนนนนนนนนนน คิดถึงเราไหม? ยังมีคนคิดถึงคู่นี้อยู่ไหมหนอ~~
เราไม่ค่อยว่างน่ะค่ะก็เลยไม่ค่อยได้อัพ ทำงานหนักค่ะ #เอาความจริงค่ะ ขี้เกียจค่ะ 555555555 ช่วงนี้มีแต่นอนแล้วก็กิน *ร้องไห้แพร๊บ*
จริงๆเรื่องนี้คิดมานานแล้วนะแต่ก็พล็อตไม่ลงตัวสักที จนตอนนี้ต้องรื้อกลับมาปัดใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่ อิอิ
ขึ้นชื่อว่าสวีทไลน์ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรพลิกล็อคนะคะ
ตอบคุณ anna (จะเห็นข้อความไหมหนอ น่าจะเห็นนะคะ)
เราเห็นข้อความในไอดีแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะที่ชอบ ชอบต่อไปนะคะ ชอบเป็นเพื่อนเรา 55555 เรื่องรถเมล์นั้น อิอิ ไม่บอกปล่อยให้ลุ้นดีกว่า~~
รักคุณเหมือนกันค่ะ *ส่งจูบ สาดหัวใจรัวๆ* ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ รู้สึกดีจังเลย~~ >///< #ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วงบอกรักไทม์ 555555
_____________________________
ผู้ชายบางพวกเวลาที่บอกว่ารัก... มักจะไม่รู้จักพอ
บอกว่ารักแค่เรา... แต่ก็มักจะหาคนอื่นไม่เคยพอ
ถ้าไม่อยากจะหยุดกับใครสักคน... ก็ไม่คิดที่จะเลิกเจ้าชู้
โอเซฮุนเป็นประเภทนั้น... เป็นพวกไม่สนใจความรักจนกว่าที่จะเจอคนที่ใช่และทำให้ตัวเขาหยุดได้ โอเซฮุนให้คำจำกัดความกับตัวเองไว้ว่า เขาไม่ได้เจ้าชู้.. ก็แค่ลัลล้าไปตามภาษาของคนหน้าตาดี
เป็นประจำที่จะเห็นชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาว ผมสีบลอนด์คนนี้ในผับชื่อดังและมีสาวๆ หนุ่มๆที่คอยคลอเคลียอยู่ข้างกาย เซฮุนไม่เกี่ยงเรื่องเพศขอแค่ตัวเขาพอใจผลสุดท้ายก็มักจะจบลงที่เตียงเสมอ เหมือนดั่งเช่นคืนนี้ที่ตัวเขาหิ้วผู้ชายตัวเล็กๆมาด้วย
แม้จะกำลังจัดการเล่นกับเหยื่อแสนโอชะของตัวเองอยู่นั้น อยู่ๆก็นึกไปถึงใบหน้าของใครบางคน ใครบางคนที่คิดว่าน่าจะหลุดไปจากสมองของเขาไปแล้วแต่มันก็ไม่ใช่ เขายังคงจำใบหน้าน่ารักนั่นได้ดีแม้ว่าจะผ่านเวลามาหลายปีแล้วก็ตาม เด็กผู้ชายตัวขาวๆ แก้มกลมๆ ปากแดงๆคนนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่และจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
“คุณเซฮุนเป็นอะไรไปครับ” น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยถามพร้อมกับฝ่ามือนิ่มที่ลูบไล้ท่อนแขนของตัวเขาแผ่วเบา
“อ่ะ.. เอ่อ... ไม่มีอะไร มาต่อกันเถอะ” เซฮุนส่ายหน้าแล้วก้มหน้าลงมอบจูบให้คนด้านใต้ที่เต็มใจรับทุกสัมผัส
เซฮุนกำลังโรมรันกับใครสักคนที่รู้จักกันก่อนขึ้นห้องมาต่อกันเพียงแปบเดียว แม้จะสุขสมแต่มันรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้เขาคิดถึงเด็กคนนั้นแปลกๆ ห้วงฝันก็ประหลาด ตัวเขาฝันว่าเขากลับไปเป็นเด็กประถมที่มีเด็กข้างบ้านเป็นเด็กหน้าตาน่ารักแสนซนคอยมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็จะคอยตามหลังเขา เดินตามเขาและจับมือเขาให้พาไปด้วยตลอด
จนตัวเขากับเด็กคนนั้นเติบโตขึ้นเป็นเด็กมัธยม เดินจูงมือไปโรงเรียนกันได้ไม่กี่วันเด็กหน้าตาน่ารักคนนั้นก็ต้องย้ายบ้านไปไกลเสียแล้ว ตัวเขาไม่อยากให้ไป เด็กคนนั้นก็ไม่อยากไปก็เลยพากันหนีออกจากบ้าน แต่ก็โดนจับได้แล้วตัวเขาก็โดนทำโทษที่พาเด็กน่ารักคนนั้นเถลไถล
วันที่จากกันตัวเขาจำได้ว่าให้อะไรสักอย่างไปเพื่อเป็นของแทนตัว กว่าที่เขาจะยอมปล่อยมือเด็กคนนั้นได้ก็นานพอดู รถของครอบครัวนั้นเคลื่อนตัวออกไป ตัวเขาก็วิ่งตามจนสุดซอยออกถนนใหญ่ ใบหน้าน่ารักที่เปื้อนน้ำตายังคงตรึงอยู่ในความทรงจำของตัวเขา
แม้มันจะผ่านไปหลายปีจนเขาเกือบจะลืมมันไปหมดแล้ว ทำไมอยู่ๆถึงนึกขึ้นมาได้นะ ตอนนี้หน้าตาของคนๆนั้นจะเป็นยังไงเขายังไม่รู้เลย นับภาษาอะไรกับที่จะไปตามหาคนที่หายสาบสูญไปจากเขา วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่เราได้เจอกัน สัญญาอะไรที่ให้ไว้ก็ลืมหมดสิ้นแล้วสินะ
ฉันน่าจะรีบๆลืมนายจริงๆนั่นแหละ.. ปาร์คชานยอล
เซฮุนมองกระจกเช็คความเรียบร้อยกับตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะหยิบขวดน้ำหอมกลิ่นประจำที่ใช้มาฉีดพรม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็คว้ากุญแจรถคันหรูแล้วออกท่องราตรีทันที คืนนี้มันรู้สึกกระวนกระวายยังไงบอกไม่ถูก เพราะฉะนั้นทางแก้ก็คือต้องไปเที่ยว หิ้วสาวๆขึ้นเตียงด้วยสักคน นี่ล่ะนะคาสโนว่าสับรางฉายาของเขา
หลังจากที่ก้าวขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยเซฮุนก็ยกมือทาบตรงกับตำแหน่งหัวใจ ไม่รู้ทำไมแต่มันวูบโหวงแบบแปลกๆ บางทีเขาอาจจะทำงานหนักแล้วก็พักผ่อนน้อยเกินไปก็ได้ ก็เลยทำให้รู้สึกแปลกๆ เพราะนอกจากตอนเช้าเซฮุนจะต้องไปทำงานที่บริษัทของเขา(ที่รับตำแหน่งต่อมาจากพ่อ)แล้วนั้น ตกดึกเขาก็ท่องราตรีเป็นกิจวัตร บางทีอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้..
รถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนนด้วยความเร็วเต็มสมรรถนะ ในยามช่วงค่ำคืนนั้นผู้ร่วมใช้ถนนไม่ค่อยมากเท่าไหร่ดังนั้นถนนจึงโล่งว่างมากพอที่ตัวเขาจะเร่งเครื่องยนต์อีกสักนิด เพิ่มความเร็วอีกสักหน่อย เซฮุนขับรถด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือก็เท้ากับขอบหน้าต่างรถไว้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าอยากเจอคนในห้วงความคิดเขาเสียเหลือเกิน
“เฮ้ย!!” ในขณะที่รถกำลังแล่นด้วยความเร็วอยู่นั้น อยู่ๆรถบรรทุกที่วิ่งฝ่าไฟแดงก็สิ่งสวนมายังเลนรถของเซฮุนพอดิบพอดี เซฮุนพยายามบังคับพวงมาลัยให้เบี่ยงออกข้างทางแต่ด้วยความเร็วรถที่วิ่งมาเกินหลักร้อยนั้นทำเอารถปัดหมุนเคว้งอยู่บนถนน รถบรรทุกคันนั้นก็หักหลบวิ่งไถลไปชนกับขอบกั้นอีกเลน เซฮุนที่ยังขังคับรถไม่ได้ก็พยายามที่จะหยุดรถก็หาเอาอะไรที่จะเสี่ยงตายน้อยที่สุด
“เอาวะ!” เมื่อไม่เห็นว่าอะไรที่จะหยุดรถเขาได้นอกจากแผงกั้นถนนก็จัดการซัดเข้าไปเต็มๆโดยที่พยายามจะเอาอีกด้านเข้าปะทะ รถยนต์บีบอัดเข้ากับแผงกั้นถนนเกิดเสียงดังโครมครามและเพราะเซฮุนไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยทำให้ตอนปะทะเข้ากับแผงกั้นตัวของเซฮุนก็เลยลอยออกนอกตัวรถออกไปตกกระทบที่พื้นถนน เศษกระจกที่บาดตามเนื้อตัวและรอยครูดไถกับพื้นถนนทำให้เกิดบาดแผลและมีเลือดไหล หัวของเซฮุนก็กระทบพื้นได้รับบาดเจ็บและมีเลือดออกเช่นกัน
คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็แจ้งรถพยาบาลให้มารับคนเจ็บ เพียงไม่นานทั้งรถพยาบาลและรถตำรวจก็เข้ามาในที่เกิดเหตุ เซฮุนถูกบุรุษพยาบาลประคองขึ้นเตียงรถเข็นแล้วเข็นไปยังท้ายรถเพื่อขึ้นรถและนำส่งโรงพยาบาลให้ไว้ที่สุด เพราะตัวเขากระเด็นออกมานอกตัวรถซ้ำยังหัวฟาดพื้นเสียอีก
เพียงไม่นานรถพยาบาลก็แล่นเข้ามาจอด เหล่าพยาบาลต่างก็เข้ามารุมช่วยและเปลี่ยนถ่ายเซฮุนลงเตียงเข็นของทางโรงพยาบาล คนเจ็บที่หายใจรวยรินถูกนำเข้าห้องฉุกเฉินอย่างด่วนที่สุด ไฟหน้าห้องฉุกเฉินสว่างขึ้น เหล่าแพทย์ก็ต่างเข้ามารุมล้อมแล้วรักษาเซฮุนอย่างเร่งรีบเพราะกลัวว่าจะเสียเลือดไปมากกว่านี้ และถ้าโชคร้ายเซฮุนก็อาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีก
ในห้วงสีดำมืดนั้นเซฮุนไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน รอบๆด้านมันดำสนิทไปหมด ลองตะโกนเรียกหาคนที่อาจจะมีอยู่แถวๆนี้ก็ไม่มีใครตอบกลับ ซ้ำยังได้ยินแต่เสียงของตัวเองที่ก้องสะท้อนไปมา มองไปทางไหนก็มีแต่ความดำมืด แล้วอยู่ๆก็คล้ายกับได้ยินเสียงของอะไรสักอย่าง สองเท้ารีบพาสิ่งไปตามเสียงนั้นที่ได้ยิน
“เซฮุน.. นายจะเป็นยังไงบ้างนะ นายจะคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า คงจะลืมฉันไปแล้วล่ะสิ” น้ำเสียงแผ่วเบานั้นล่องลอยอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะวิ่งตามไปยังไงก็ไม่ถึงต้นตอเสียงนั้นสักที รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนูที่วิ่งวนอยู่ในจั่น ที่วิ่งยังไงก็ไม่ไปจากที่เดิม
“นั่นใครได้ยินฉันไหม ตอบหน่อย!!” เซฮุนตะโกนถามแต่ก็ไม่มีคำตอบตอบกลับมา วิ่งไปมาจนรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อย เหนื่อยมากจากต้องหยุดวิ่งแล้วค้อมตัวเท้าหัวเข่าหอบหายใจ
“.....เซฮุน...” น้ำเสียงที่เรียกเขานั้นฟังดูช่างอบอุ่นในโสตประสาท ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรต่ออยู่ๆเหมือนร่างกายของเขาก็ถูกดูดจากอะไรสักอย่างไปที่ไหนสักที่ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!!!!
ร้องโวยวายได้ไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกว่าหล่นตุ๊บมาที่ไหนสักแห่ง พอลองเงยหน้าดูก็เหมือนมาอยู่ที่ห้องนอนของใครสักคนเพราะมันมีเตียง โต๊ะอ่านหนังสือ .. ที่นี่ที่ไหนแล้วตัวเขามาได้อย่างไรกัน ก่อนที่จะอยู่ในความมืดเมื่อกี้เขาจำได้ว่าตัวเองกำลัง... กำลัง.... นั่นสิตัวเขากำลังทำอะไร
เสียงก๊อกแก๊กเรียกให้เซฮุนค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วก็เห็นเจ้าของห้องในชุดนอนสบายๆนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ด้วยความอยากรู้ก็เลยค่อยๆแอบย่องเดินอ้อมไปดู มองจากด้านหลังแล้วก็เหมือนผู้ชายเพราะตัวสูงยาวแต่กลับผอมบาง พอเดินเข้าไปใกล้ๆเห็นทรงผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนกับเสี้ยวแก้มขาวนวลก็คล้ายกับผู้หญิง .. หรือจะเป็นทอม?
“นี่ฮุนนี่บอกเจ้าของแกหน่อยสิว่าฉันคิดถึง อยากเจอนะแต่ก็ไม่รู้จะไปตามหายังไง เฮ้อ...” น้ำเสียงหวานเอ่ยกับเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สีน้ำตาลที่ตั้งอยู่ตรงหน้า เจ้าตัวจับตุ๊กตาตัวนั้นมาแล้วก็พลิกตัวกอด เซฮุนมองหน้าเจ้าของห้องด้วยสีหน้างงงวยว่าคนๆนี้เป็นใคร
“ฮุนนี่ฝากบอกเจ้าของแกหน่อยสิว่าคิดถึง ฝากราตรีสวัสดิ์ด้วยนะ” พูดแล้วก็ก้มหน้าลงจุ๊บที่ตุ๊กตาหมีนั่นแล้วก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงอีกรอบก่อนที่จะเอามันไปตั้งไว้ที่ข้างหมอน เจ้าตัวลงจากเตียงเดินไปปิดไฟในห้องก่อนที่จะเดินกลับมานอนที่เตียงตามเดิมแล้วก็หลับไปเลย… ว่าแต่เขายืนอยู่ตรงนี้มองไม่เห็นตัวเขาเหรอ? เฮลโหล๊ววว~
“เฮ้ยนาย นายตื่นดิ!” พยายามส่งเสียเรียกแต่ดูท่าว่าอีกคนจะไม่ได้ยินเสียงเขา ลองยกมือตัวเองขึ้นดูก็ยังเห็นเป็นปกติ แล้วนี่ตกลงเขาเป็นอะไร?
เมื่อปลุกไม่ตื่นก็เลยขอเดินสำรวจเสียหน่อย ห้องนี้ก็ไมได้ใหญ่มากมายอะไร มีเตียงนอน โต๊ะอ่านหนังสือ ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำเล็กๆ ที่วางพิงกระเป๋ากีต้าร์กับมุมวางหนังสือกองอีกนิดหน่อยก็รอบห้องแล้ว สิ่งที่เซฮุนกำลังสนใจตอนนี้คือกรอบรูปต่างๆที่วางอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือเสียมากกว่า
รูปถ่ายที่มีเด็กสองคนอยู่ในนั้นและรูปของเจ้าตัวไล่ระดับจากเด็กขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน เซฮุนมองมันอยู่นานด้วยสมองที่ว่างเปล่า มองจ้องใบหน้าของเด็กตัวกลม ริมฝีปากสีแดงอยู่นานจนชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
“ชานยอล” แล้วภาพต่างๆเมื่อสมัยเด็กก็ไหลเข้าสู่สมอง ถ้าเช่นนั้นคนๆนี้คือชานยอลแล้วตัวเขา.. คือใคร
“เฮ้ย!!” เซฮุนร้องลั่นเมื่อตัวเขาเอื้อมมือจะไปจับกรอบรูปนั้นแต่พบว่ามันทะลุผ่านไป!!! ไอ้คนที่ตกใจก็ขยับตัวถอยหลังจนไปชนกับเก้าอี้ที่ก็ไม่รู้ว่าชนแล้วมีเสียงได้ยังไง
เซฮุนสะดุดขาเก้าอี้ล้มลงกองกับพื้น เจ้าของห้องที่หลับไปแล้วก็สะดุ้งตื่นแล้วรีบลุกขึ้นเปิดไฟทันที แต่ห้องทั้งห้องก็ไม่มีร่องรอยว่าใครจะอยู่ในนี้นอกจากตัวเขาเองแต่เก้าอี้มันเหมือนถูกอะไรสักอย่างชน ชานยอลก้าวเท้าลงจากเตียงแล้วก็ลองเดินสำรวจรอบๆห้องดู แอบโผล่หน้าเข้าไปดูในห้องน้ำด้วยแต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ
“หูฟาดเหรอ ไม่นะก็เก้าอี้มันขยับนิ” ชานยอลเดินมาดู เซฮุนที่ยังตกใจไม่หายก็ลุกขึ้นยืนแล้วลองโบกมือผ่านตรงหน้าชานยอลดู แต่เจ้าตัวกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
“สงสัยจะหูฟาดจริงๆ ทำงานมากไปแน่ๆ” ชานยอลยกมือกุมขมับแล้วส่ายหน้าไปมา ชานยอลหมุนตัวกลับเพื่อที่จะเดินไปที่เตียงนอนแต่ทว่ากลับรู้สึกเย็บเหยียบที่แขน
“นายได้ยินฉันไหม” เบื้องหน้าค่อยๆปรากฏร่างของใครบางคนขึ้น มือเย็นนั้นที่แตะสัมผัสก็พาลเอาขนอ่อนลุกเสียทั่วร่าง ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อใครก็ไม่รู้อยู่ๆก็มาปรากฏตัวให้เห็น
“เฮ้ย!!” ชานยอลสะบัดแขนหนีแล้วก้าวถอยหลังแต่ก็แข้งขาอ่อนจนล้มกองกับพื้น มองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
“นายเห็นฉันแล้วใช่ไหมชานยอล!!” คนที่โดนเรียกชื่อกระพริบตาปริบๆมอง
“นะ...นายเป็นใคร เป็นอะไร เข้ามาได้ยังไง!” ละล่ำละลักถาม เซฮุนลงนั่งยองๆตรงหน้าแต่ชานยอลเขยิบตัวหนี
“ฉันก็ไม่รู้ ชานยอล.. ช่วยฉันหน่อยสิ” ด้วยเพราะคำขอร้องนั้นก็เลยทำให้คนที่กำลังกลัวค่อยๆข่มใจ
เพราะเหตุนี้ชานยอลก็เลยต้องเปิดไฟมานั่งมองหน้าคนตรงข้ามที่ยังคงส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มแบบนี้มันคุ้นๆเหมือนใครสักคน พอเซฮุนขยับชานยอลก็สะดุ้งแล้วผงะถอยเจ้าตัวก็หัวเราะสนุกเขานักล่ะ ชานยอลเหลือบมองนาฬิกาปลุกเรือนเล็กของเขาที่ตั้งอยู่ข้างหัวนอนแล้วก็ถอนหายใจ มันใกล้ๆจะรุ่งเช้าแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ต้องไปทำงานอีกแล้ว
“คุณไม่ใช่คนเหรอ” ชานยอลเอ่ยถามคำถามแรกอย่างกล้าๆ กลัวๆ แหงล่ะเป็นใครบ้างจะไม่กลัว
“ก็... ไม่รู้นะ รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว” เซฮุนทำท่าคิดแล้วก็ส่ายหน้าไปมา
“คุณตายแล้วเหรอ” เซฮุนโคลงหัวไปมาก่อนที่จะส่ายหน้า
“ไม่รู้สิจำไม่ได้ อย่างที่บอกมารู้ตัวก็มาอยู่ที่นี่แล้ว” ชานยอลผงะอีกครั้งเมื่อเซฮุนขยับเข้ามาใกล้ เจ้าตัวหัวเราะแล้วยื่นแขนมาให้จับ
“ถ้านายเห็นฉันน่าจะจับฉันได้นะ อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าฉันไม่ใช่ผี” ชานยอลที่ลังเลก็ค่อยๆยื่นมือสั่นๆไปลองแตะดู แต่น่าแปลกที่ตัวเขาสามารถสัมผัสกับแขนของคนตรงหน้าได้แม้ว่ามันจะเย็นมากกว่าอุณหภูมิของคนปกติก็เถอะ
“ถ้าไม่ใช่แล้วเป็นอะไรล่ะ” เซฮุนส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ วิญญาณมั้ง” ชานยอลทำตาโตอย่างตกใจ เซฮุนหัวเราะสะใจที่แกล้งคนตรงหน้าได้ ชานยอลยังคงเป็นเหมือนเดิม เหมือนในความทรงจำที่ตัวเขาได้เห็น
“เอาน่าฉันไม่ทำอะไรหรอกวางใจได้ จริงๆแล้วฉันมีเรื่องให้ช่วยน่ะ ช่วยหน่อยสิ”
“แล้วจะให้ช่วยอะไรล่ะ” ใจจริงก็ไม่อยากช่วยหรอกแต่ทว่ามาให้เห็นกันตำตาแบบนี้จะไม่ช่วยก็ไม่ได้น่ะสิ
“ช่วยหาทีว่าฉันเป็นอะไร ร่างฉันอยู่ที่ไหน ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่” ชานยอลกัดริมฝีปากอย่างช่างใจ ใช้ความคิดก่อนที่จะพยักหน้าตกลง
“ก็ได้.. ช่วยก็ได้ว่าแต่คุณชื่ออะไรล่ะ เราต้องรู้จักกันก่อนนะ” เซฮุนยิ้มแล้วชี้ไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ
“ฉันคือคนในรูปนั้น ที่ยืนอยู่ข้างนาย” ชานยอลหันไปมองตามแล้วก็ทำตาโตตกใจมองคนตรงหน้าที่ยิ้มตาหยีเป็นขีดเหมือนคนในรูปและในมโนความทรงจำ
“ซะ... เซฮุนเหรอ!!!?”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น