ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] BaekDo Ft. KaiChen, KrisYeol - The Rules of Love

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 : Rule 07 ห้ามนอกใจ

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 57


    อะไรคือทุกคนอยากให้คยองโดนพี่พยอนทำโทษกัน 5555555555555555
     
    คยองซูฝากมาบอกว่า เดี๋ยวเจอกัน!!! 555555555555
     
    คยองซูใสๆนะก๊ะ ใสและเรียบร้อยเหมือนบตนนเบยยยยยยยยยยยยยย *หมุนรอบตัวสามที* *แล้วเซไปซบอกพี่จงอินคนเสี่ยว* >/////<

     
     
    _____________________________________
     

     
     
    เนื่องในวันหยุดยาวแบบนี้อยู่ๆเจ้าแม่ใหญ่ของก๊วนก็อยากจะจัดปาร์ตี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ๆ.. ไม่ใช่ปาร์ตี้เมาเหล้าอะไรแบบนั้นแต่เป็นปาร์ตี้บาร์บีคิวต่างหาก เนื่องด้วยบ้านของชานยอลและคริสไม่มีคนอยู่เพราะต้องไปสัมมนาออกงานกันเพราะฉะนั้นก็เลยอยากจะจัดปาร์ตี้ขึ้นมา นำโดยปาร์คชานยอลและมีผู้สนับสนุนเป็นอู๋อี้ฟาน
     
    ส่วนคนออกเงินนี่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนอยากจัดปาร์ตี้แน่นอน เมื่อมีเงินแล้วก็ต้องมีของและคนออกไปซื้อของ ใช่เลยว่าสามสาวนั่นจะต้องอยู่บ้านแน่ๆเพราะชานยอลไม่อยากไปตลาดโดยให้เหตุผลว่ามันร้อนและแฉะไม่ชอบ จงแดบอกว่าให้จงอินไปเพราะอยากกินอะไรจงอินก็รู้หมดทีนี้พ่อคนเสี่ยวก็ตีปีกพั่บๆขออาสาไปเองโดยที่จงแดไม่ต้องทำอะไรเลย
     
    ส่วนคยองซูแน่นอนว่าพี่พยอนไม่ยอมให้คนตัวเล็กไปหรอกเพราะฉะนั้นหน้าที่ไปตลาดซื้อของก็ต้องเป็นของสามหนุ่มหล่ออยู่แล้ว กว่าที่คริสจะขึ้นรถมาได้ก็เคลียร์กับคนเดินมาส่งถึงประตูรถอยู่นาน ชานยอลเกาะแขนอ้อนใหญ่ ไม่ใช่อยากไปด้วยหรือไม่อยากให้ห่างไปไหนหรอก.. ฝากซื้อเค้กต่างหาก โธ่อีคนห่วงผัวและเพื่อนผัว
     
    “แบคฮยอนซื้อไอติมกลับมาด้วยนะ” คยองซูเดินตามหลังออกมาแล้วยิ้มให้
     
    “โอเคครับที่รักเดี๋ยวซื้อมาให้นะ~” ว่าแต่เขาอิเหนาก็เป็นเองนะพยอนแบคฮยอน
     
    คริสขับรถออกมาจากตัวบ้านแล้วในรถที่มีแต่ผู้ชายสามคนจะไปคุยอะไรกันล่ะก็ได้แต่นั่งเงียบนั่นแหละ จงอินนั่งข้างคริสส่วนแบคฮยอนก็นั่งอยู่แถวกลาง ที่นี้คนที่ไม่ชอบความเงียบอย่างจงอินก็อยากจะพูดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรดี พอไม่มีอีกสามคนอยู่แล้วทำไมรถมันเงียบแบบนี้อ่ะ พี่จงอินคิดถึงยาใจของพี่อ่ะ ฮือ...
     
    “เงียบไปปะวะ” แบคฮยอนถามขึ้นมา 
     
    “เออจริงแต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรว่ะ” จงอินตอบ คริสก็แค่พยักหน้า
     
    “พอไม่มีสามคนนั้นอยู่ก็ไม่รู้เลยว่าจะคุยอะไรดี” คริสหัวเราะเบาๆกับคำพูดของแบคฮยอนซึ่งตัวเขาเองก็เห็นด้วย
     
    “มึงจะบอกว่าสามคนนั้นพูดมากเหรอวะ” จงอินขยับตัวหันไปหาแบคฮยอนแล้วก็หัวเราะ
     
    “เดี๋ยวกูจะไปฟ้องยาใจของมึง” แบคฮยอนชี้นิ้วใส่ จงอินทำหน้าเหวอ
     
    “เฮ้ยอะไรกูไม่ได้พูดนะเว๊ย มึงอ่ะพูดเองกูแค่ถาม” จงอินปฏิเสธใหญ่ ยิ่งปฏิเสธแบคฮยอนก็ยิ่งหัวเราะสะใจ
     
    “เดี๋ยวกูบอกชานยอลให้” 
     
    “โห้!!!” ทั้งจงอินกับแบคฮยอนโห่ร้องขึ้นมา ก็แหงล่ะบอกชานยอลล่ะก็มีเรื่องแน่ๆ
     
    “พอเถอะเมียมึงอ่ะที่สุดอ่ะ” แบคฮยอนกรอกตาไปมา จงอินก็พยักหน้าเห็นด้วย
     
    “แน่นอนกูคัดสรรมาดี” ว่าแล้วคริสก็หัวเราะตบท้ายคล้ายกับเป็นเรื่องตลกขบขัน
     
    “ตกลงว่านี่เรากำลังอยู่ในช่วงนินทาเมียหรือไง ระวังภัยจะถึงตัวนะเว๊ย” จงอินหัวเราะใหญ่
     
    “จะมามีอะไรเล่า มึงก็เวอร์ว่ะ” แบคฮยอนหัวเราะเหอะสบประสาทแต่ทว่ามือถือของคริสก็ดังขึ้น คนขับรถหันไปคว้ามากดรับ
     
    “ว่าไงครับชานยอล” คริสเลื่อนสายตาไปมองจงอินกับแบคฮยอนแล้วรอยยิ้มมุมปาก เอาแล้วไหมล่ะของแรงจริงเฮ้ย!
     
    “คริสจ๋าซื้อไส้กรอกมาด้วยนะ คยองซูอยากได้แฮมแล้วก็จงแดอยากกินเป๊ปซี่อ่ะ” 
     
    “โอเครู้แล้วแค่นี้นะ” หลังจากคริสวางสายทั้งสามหนุ่มก็ไม่คิดจะคุยรื่องอีกสามคนที่อยู่ที่บ้านอีกเลย เก็บปากไว้คุยเรื่องการสัญจรเถอะ
     
     
     
    หลังจากที่สามหนุ่มอาสาออกไปซื้องของกันเองแล้วที่เหลืออีกสามก็ไม่รู้จะทำอะไรดีก็เลยได้แต่นั่งดูโทรทัศน์ในห้องรับแขก แม่บ้านเอาขนมกับน้ำมาเสิร์ฟให้แล้วก็ขอตัวไปทำงานต่อ จงแดก็กดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยเปื่อย คยองซูก็นั่งมองโทรศัพท์เฉยเลยไม่ได้ว่าอะไรจงแดที่กดดเปลี่ยนช่องเรื่อยๆจนชานยอลทนไม่ไหวนั่นแหละ
     
    “นี่เล่าให้ฟังหน่อยดิตกลงว่าเป็นไงบ้าง” คยองซูกับจงแดหันมามองชานยอลที่ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นซะเหลือเกิน
     
    “เป็นไงน่ะคืออะไร” จงแดถาม
     
    “ก็เรื่องราวความรักไงเป็นยังไงบ้าง สุขเศร้าเหงาเคล้าน้ำตาไหมอะไรแบบนี้อะ” รอยยิ้มกว้างๆนี่มันปิดอาการอยากรู้อยากเห็นไม่มิดเลยนะปาร์คชานยอลแต่คยองซูก็เป็นคนดีมากพอที่จะไม่พูดออกไปแต่ใช้สายตาจิกเอา
     
    “อยากเผือกว่างั้นเถอะ” จงแดถาม ชานยอลก็เลยมองค้อนใส่เอาซะทุบให้เตี้ยลงกว่าเดิมเลย!!
     
    “เรียกว่าอยากรู้อัพเดตสถานการณ์ต่างหากล่ะ! ตกลงว่าไงบ้างเล่าๆ”
     
    “ถามแต่คนอื่นเขาแล้วตัวเองน่ะคิดจะเล่าหรือเปล่า” ชานยอลกระพริบตาปริบๆ
     
    “ถามมาดิตอบทุกอย่าง” นี่ถ้าไม่อยากรู้จะไม่ถวายตัวขึ้นพานขนาดนี้เลยนะบอกไว้เลย
     
    “กับคริสเป็นไง เมื่อไหร่จะแต่งงาน” ชานยอลทำหน้าคิดก่อนที่จะส่ายหน้า
     
    “ไม่รู้ดิแม่บอกว่าหาฤกษ์ไม่ได้ไว้เรียนจบก่อน” จงแดกับคยองซูทำตาโตเพราะไม่คิดว่าบ้านนี้จะให้ลูกชายแต่งกับลูกชายข้างบ้านจริงๆแต่มันก็ไม่น่าจะแปลกล่ะเนอะก็เล่นเห็นดีเห็นงามกันทั้งบ้าน
     
    “หลังจากที่ได้เสียกันวันนั้นพี่จงอินคนเสี่ยวนี่เป็นไงบ้างเหรอ” ชานยอลเอ่ยถาม จงแดที่อยู่ๆก็ระเบิดลงก็ได้แต่นั่งอ้ำอึ้ง
     
    “ก็ดีอ่ะ ไม่ได้ไปเสี่ยวใส่คนอื่นแล้วก็อยู่ติดกันมากขึ้น ก็ดีอ่ะแบบไงอ่ะ.. ดีมากเลยอ่ะ” ชานยอลกับคยองซูมองจงแดที่นั่งเขินหน้าแดงแล้วก็อยากจะแซวให้เสียหลักมากอ่ะแต่แบบ... เว้นไว้ก่อนก็แล้วกันเห็นเพื่อนกำลังเคลิ้ม
     
    “แล้วคยองซูล่ะพี่พยอนคนเตี้ยเป็นไงบ้าง ลีลาเด็ดป่ะ? เอาใจเก่งเปล่าแล้วเลิกเจ้าชู้หรือยัง” ตกลงคือที่ทำเป็นพูดมาทุกอย่างชานยอลอยากจะรู้เรื่องของคยองซูที่สุดสินะ คยองซูหันหน้ามองชานยอลแล้วก็ยิ้มให้
     
    “ก็ไม่รู้สิ” แล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นเดินหนีไปเลย
     
    “เฮ้ยมาตอบก่อนดิวะ!!~” ถึงชานยอลจะเรียกให้ตายคยองซูก็ไม่เดินกลับไปตอบหรอกบอกไว้เลย!! คยองซูเดินหนีเข้าห้องน้ำแล้วก็ปิดประตูล็อคกลอนไว้ไม่ยอมให้ใครเข้ามาตามตอนนี้ได้แน่ๆ ก็หน้าร้อนตัวแทบระเบิดแบบนี้จะให้ใครเห็นได้ยังไงกันล่ะ อายเขาตาย!!
     
    “ใครจะไปกล้าตอบกันเล่า!” แค่คำถามก็พาเอาคิดไปเป็นฉากๆแล้วใครจะกล้าบอกล่ะว่าดีหรือไม่ดี เด็ดหรือเปล่า ถ้าไม่ดีไม่เด็ดโดคยองซูคงไล่ลงจากเตียงไปนานแล้วล่ะ
     
    แต่ไอ้เรื่องเลิกเจ้าชู้หรือยังนี่ก็ไม่แน่ใจนะแต่คิดว่าไม่น่าจะมีหรอก
     
    “ก็ลองมีดูสิ” คยองซูมองเงาสะท้อนตัวเองในกระจกแล้วยกยิ้มเย็นๆให้หนึ่งที มันคงดูน่ากลัวแน่ๆถ้าแบคฮยอนได้เห็น..
     
     
     
     
    “บรึ๋ย~ อยู่ๆก็ขนลุกว่ะ” แบคฮยอนที่เดินอยู่ข้างจงอินอยู่ๆก็สั่นขึ้นมา จงอินหันมองแล้วก็เลิกคิ้ว
     
    “ไม่ผีผ่านก็มีคนนินทามึงแน่ๆ” โอเคคิมจงอินขอบคุณนะ
     
    “หนาวแอร์หรือเปล่า ไอ้นี่ก็มั่วไปเรื่อย” คริสหันกลับมาถามเพราะพวกเขากำลังเดินอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้ากัน 
     
    “ไม่หรอกมั้งแต่ก็ไม่แน่”
     
    “เอ้าไม่ต้องมัวแต่พูดกันตะกร้าคนละใบเลยครับ” พี่จงอินคนเสี่ยวหยิบตะกร้าใส่ของซุปเปอร์มาร์เก็ตส่งให้คนละใบ แน่นอนว่าได้ถือกันแขนหักแน่ๆครับเพราะพวกกระผมยอมอดข้าวเพื่อรอกินบาร์บีคิวอย่างเดียวเลยนะครับ! กินข้าวเสียเงินรอกินของฟรีดีกว่าพี่จงอินบอกเอง
     
    ทั้งสามหนุ่มมาซื้อของอย่างอื่นที่ไม่ใช่พวกของสดกันก่อนที่จะไปตลาดเพื่อซื้อของสด ทั้งคริส จงอินกับแบคฮยอนก็ช่วยกันเลือกของตามรายการที่อีกสามคนที่บ้านบอกมาแน่นอนว่าจะต้องไม่ลืมอะไรเลยสักอย่างเพราะไม่เช่นนั้นล่ะก็พระแม่องค์ลงพร้อมกันสามคนล่ะก็.. ได้มีหัวขาดกันบ้างแหละ
     
    ตามภาษาผู้ชายที่ห่างคนคุมพอเห็นผู้หญิงสวยๆก็ต้องมองใช่ไหมล่ะ ไม่ได้มองธรรมดาด้วยนะมองเหลียวหลังเลยล่ะ ก็ผู้หญิงขาวๆสวยๆผมยาวๆมาใส่เดรสสีดำยืนเลือกของที่ชั้นวางของนี่มันก็น่ามองใช่ไหมล่ะ.. ขาสวยด้วยพี่พยอนคอนเฟิร์ม!! 
     
    “สวยว่ะ” จงอินพูดขึ้นมาคนแรก
     
    “ก็จริง สเป็คมึงนิไอ้แบคฮยอน” คริสใช้เท้าเตะขาแบคฮยอน
     
    “เออว่ะสวยว่ะ” แบคฮยอนก็มองซะเคลิ้มเลย จงอินใช้ศอกกระแซะแบคฮยอนเบาๆ
     
    “ไปขอเบอร์ดิ” ถ้าเป็นปกติพี่พยอนจะวิ่งนำหน้าไปแล้วเถอะแต่แบบตอนนี้มันรู้สึกว่าไม่ใช่อ่ะ ถึงจะสวยแต่มันก็ไม่มีอะไรดึงดูดอ่ะ
     
    “ไม่อ่ะ” จงอินทำตาโตมองพ่อปลาไหลลื่นจาระบีที่ไม่คิดจะเต๊าะสาวสวยๆ เพราะเอาจริงๆมันเป็นคนเดียวของกลุ่มเลยที่มักจะพุ่งหาสาวสวยก่อนเพื่อน นี่หรือว่า...
     
    “ทำไมไม่ตรงสเป็คแล้วดิ ต้องตัวเล็กๆตาโตๆใช่ป่ะ” แบคฮยอนพยักหน้าแล้วหันไปหยิบขวดซอสมะเขือเทศลงตะกร้าที่ถือ คนตัวเล็กชอบ.. พี่ก็ชอบนะ แอร๊ย~ จงอินกับคริสก็มองแล้วก็แอบยิ้มให้กันอย่างรู้ความหมาย
     
    “ไปกันเหอะต้องซื้ออีกเยอะ” แล้วคริสก็เดินนำไปล็อคอื่น
     
    กว่าที่จะซื้อเสร็จก็ไม่ใช่แปบเดียวไง กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้เหนื่อยแตกพลั่ก ร้อนมาก เหนอะมากและแฉะมาก!! ที่ตลาดโซนของสดนี่อย่าให้พูดอ่ะ พี่พยอนล่ะอยากจะกรีดร้องให้โลกสะเทือนแต่ดูท่าว่าคุณชายคริสกับคุณชายจงอินก็ดูเฉยชาเสียเหลือเกิน ทำไมวะ.. นี่พี่พยอนร้อนมากอ่ะ ขึ้นรถมาได้คือต้องปัดแอร์ให้เป่าตัวเองแล้วก็บอกให้เจ้าของรถเร่งแอร์ด้วย
     
    “นี่แหละน้าพวกไม่ค่อยเข้าตลาดสด” จงอินหันมาสบประมาทว่าอย่างนั้น แบคฮยอนก็ได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจเพราะมันก็เป็นเรื่องจริง
     
     
     
    พอรถของคริสเลี้ยวขับเข้ามาจอดในที่จอดรถของบ้านชานยอล นี่ก็ชักจะสงสัยแล้วว่าตกลงนี่รถไอ้คริสหรือรถบ้านชานยอลกันแน่แต่เอาเถอะจะรถใครพี่พยอนก็อิจฉาทั้งนั้นแหละ ก็อยากจะมีรถไว้ขับพาคนตัวเล็กๆพาไปเที่ยวอยู่เหมือนกัน.. หรือไปขอป๊าให้ดาวน์รถให้ดีวะ
     
    “คริสกลับมาแล้วเหรอ~” ชานยอลวิ่งออกมาก่อนคนแรกเลยแล้วมันก็วิ่งเข้าไปกระโดดกอดคริสซะแทบหงายหลัง นี่จากกันไม่กี่ชั่วโมงเหมือนพวกกูไปเที่ยวต่างภพต่างชาติมาเลยเนอะ
     
    “ยังไม่กลับมั้งก็เห็นๆกันอยู่” ไม่ใช่คริสหรอก แบคฮยอนต่างหาก ชานยอลจิกสายตาใส่ก่อนที่หันมายิ้มหวานใส่คริส
     
    “รีบๆเอาของเข้าไปที่ห้องครัวสิ คุณแม่บ้านรอทำให้อยู่” แล้วชานยอลก็หันหลังเดินกลับเข้าบ้านไปเลย ตกลงคือพวกกูซื้อมาเองต้องขนไปเองใช่ไหมวะครับ!!
     
    แบคฮยอนหิ้วถุงเต็มสองมือนำอีกสองคนเข้ามาก็เห็นคนตัวเล็กกำลังยืนทำอะไรสักอย่างอยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ครัว แบคฮยอนก็เดินเข้ามาใกล้ๆแล้ววางถุงลงบนเคาน์เตอร์นั้น คยองซูเงยจากการหั่นเตรียมเครื่องหมักบาร์บีคิวมายิ้มให้ คนที่ได้รับยิ้มก็เลยยิ้มตอบแล้วเดินเข้าไปใกล้ก่อนที่จะยื่นหน้าไปฉกหอมแก้มคนตัวเล็กเสียหนึ่งที
     
    “เล่นอะไรเนี่ย!” คยองซูวางมีดลงแล้วฟาดมือใส่แบคฮยอนแรงๆเลยข้อหาที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง 
     
    “ทำอะไรอยู่น่ะ”
     
    “ก็เห็นอยู่ยังจะถามอีก” คยองซูมองค้อนเข้าให้ แบคฮยอนก็ยิ้มกว้างแล้วขยับเข้าไปใกล้
     
    “ให้เขาช่วยป่ะครับที่รัก” คยองซูเลิกคิ้วมองแล้วก็พยักหน้า
     
    “ไปล้างมือสิ”
     
    “รับทราบครับ!” แบคฮยอนตะเบ๊ะท่าให้หนี่งทีก่อนที่จะเดินไปล้างมือ คยองซูก็มองตามหลังแล้วก็วาดรอยยิ้มขึ้น 
     
    “ไหนทำอะไรบ้างที่รักสอนหน่อยสิ” คยองซูขยับตัวออกให้แบคฮยอนเข้ามายืนแทนที่แล้วก็บอกให้แบคฮยอนหั่นอะไรบ้าง
     
    “หั่นระวังๆนะ ไม่เอานิ้วที่รักนะ” คยองซูยิ้มล้อเลียน แบคฮยอนทำหน้ามุ่ยใส่
     
    “เขาไม่หั่นนิ้วตัวเองหรอกนะเดี๋ยวไม่มีจับตัวคนแถวๆนี้” แบคฮยอนใช้ไหล่กระแซะคนตัวเล็ก คยองซูยิ้มเขินแล้วตีไหล่คนตัวโตกว่าไปเบาๆ
     
    “ไม่ต้องพูดมากเลยทำๆไปเลย” พอแบคฮยอนได้เห็นคนตัวเล็กยิ้มเขินๆแถมยังก้มหน้าหลบอีก ก็แบบคนมันน่ารักใช่ป่ะล่ะก็อยากจะจุ๊บบ้างอะไรบ้างไงก็เลยยื่นหน้าไปจุ๊บที่แก้มซะเลย คยองซูที่เขินจนแก้มแดงไปหมดแล้วก็ได้แต่ยืนก้มหน้าให้คนตัวโตกว่าก้มหน้ามายิ้มแต้ใส่
     
    เออพลอดรักกันเข้าไปรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน ในห้องครัวไง.. มีแม่บ้านไง.. มีพวกกูไง.. เต็มเลยครับ!! แหมทีเมื่อก่อนล่ะไม่มีนะแบบนี้ ทีเดี๋ยวนี้นะตอดได้ตอดดี เอาซะมองแล้วหมั่นไส้เลยว่ะ 
     
     
     
     
    หลังจากที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จสรรพก็พากันยกออกมาตั้งที่โต๊ะสนามหน้าบ้านโดยที่มีคนสวนมาช่วยจุดเตาให้ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มปาร์ตี้กันได้เลย!!! 
     
    โต๊ะที่สนามหน้าบ้านเป็นโต๊ะกลมสำหรับนั่งและมีโต๊ะยาวสำหรับวางพวกถาดของสดที่เตรียมปิ้งย่าง หน้าที่ปิ้งย่างมีคนประจำตำแหน่งให้แล้วเพราะฉะนั้นพวกเด็กๆทั้งหกคนก็สนุกสนานกันได้เต็มที่ ชานยอลนั่งตักคริสแล้วก็ป้อนเจ้าตัวที่ก็นั่งสบายๆชิวๆประหนึ่งพี่ท่านมาพักร้อน ส่วนจงอินแม้จะอิจฉาแค่ไหนก็ได้แค่นั่งใกล้ๆแทบจะสิงแล้วอ้อนขอให้จงแดป้อนแค่นั้น
     
    แบคฮยอนนั่งข้างๆแล้วจัดการปรนนิบัติพัดวีคยองซูทุกอย่างอยากได้อะไรอยากกินอะไรขอให้บอกแล้วมันจะมาอยู่ตรงหน้าโดยพลัน! คนตัวเล็กก็ป้อนให้ตามปกติแต่ที่จะไม่ปกติก็ไอ้คนที่มันนั่งยิ้มอยู่ข้างๆนี่ล่ะ ทำไมถึงได้ยิ้มหน้าบานกว้างเป็นกระด้งขนาดนั้นล่ะเนี่ย หรือแบคฮยอนจะโดนใช้มากเลยสมองกลับ.. ก็อาจจะเป็นได้นะ
    “ที่รักเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ” แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “แน่นะ” แบคฮยอนที่ยังยิ้มจนตาหยีก็พยักหน้ารับ ก็จงอินบอกให้ลองสังเกตไงเขาก็ลองสังเกตแล้ว.. คนตัวเล็กๆคนนี้ต้องชอบพี่พยอนแน่ๆ แหมแค่คิดก็เขินจนอยากจะลุกขึ้นเต้นบัลเล่ต์สักสามรอบครึ่งแล้ว ก็ดีใจไง 
     
    ตัวเขาจำได้ว่าเคยได้ยินชานยอลคุยกับจงแดว่าดวงตาน่ะเป็นหน้าต่างของหัวใจ ถ้าคนมีความรักก็จะแสดงคำว่ารักออกมาทางสายตา.. พอมันแวบขึ้นมาในหัวก็เลยลองสังเกตดูแล้วทุกครั้งที่เขาไม่ได้มองสบตากับดวงตาคู่โตนั้น ดวงตาคู่นั้นก็แสดงความรักมาให้เขาเสมอ อ๊ายเขินว่ะ!!
     
    “เฮ้ยลืมเล่าไปเลย แค่กๆ~” อยู่ๆจงอินที่พูดขึ้นมาก็สำลักเพราะยังเคี้ยวเนื้อไก่ในปากยังไม่หมด
     
    “เอ้าน้ำๆ” ร้อนถึงจงแดต้องมาช่วยตบอกแล้วก็ส่งน้ำป้อนให้ดื่มอีก
     
    “ขอบคุณครับยาใจของพี่จงอิน” จงอินยิ้ม จงแดส่ายหน้าไปมาแล้วหยิบทิชชูมาช่วยเช็ดปากให้ นี่ตกลงกูได้ผัวหรือมีลูกชายกันวะ?
     
    “เล่าดิวะ มัวแต่สวีทกันอยู่ได้!” ชานยอลแทรกขึ้นมาทำลายบรรยายกาศสีชมพูวิ๊งค์ๆของพี่จงอินเสียหมดสิ้น!! จงอินมองค้อนใส่ตาแทบคว่ำ
     
    “แหมมึงไม่สวีทเลยเนอะนั่งตักไอ้คริสจนขามันเป็นอัมพาตแล้วมั่งน่ะ” ชานยอลแบะปากลอยหน้าลอยตา
     
    “เออดีกูจะได้แฮบสมบัติของมันไว้คนเดียว” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะร่วน คริสหัวเราะเบาๆแล้วจับหัวชานยอลโยกไปมา
     
    “มีอะไรก็เล่าสิ” จงแดที่รอฟังนานแล้วก็เร่งบ้าง นี่ไม่ได้อยากรู้เลยบอกไว้ตรงนี้เลย!
     
    “เล่าเดี๋ยวนี้ครับยาใจของพี่” จงอินยิ้มแล้วจับมือจงแดขึ้นมากุมไว้
     
    “คืองี้ตอนไปซื้อของกันอ่ะ เจอผู้หญิงคนหนึ่งสวยมากๆๆ” จงแดมองคนเล่าหน้าดุเชียว จงอินยิ้มแหะๆแล้วโบกมือใหญ่ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย
     
    “ก็เจอคนสวยใช่ป่ะก็เลยถามไอ้แบคฮยอนว่าไม่จีบเหรอแล้วมันตอบว่าไงรู้ป่ะ..” คยองซูหันมองแบคฮยอนด้วยสายตาจ้องเขม็งแต่แบคฮยอนกลับยิ้มกว้างๆกลับคืนไปให้
     
    “ตอบว่าไงๆๆ” สาบานว่าปาร์คชานยอลไม่ได้อยากรู้ คริสยิ้มขำแล้วขยี้เส้นผมชานยอลอย่างเอ็นดู
     
    “มันบอกว่าไม่ใช่สเป็คมันเว๊ย พอถามว่าสเป็คมันน่ะใช่คนตัวเล็กๆตาโตๆหรือเปล่ามันก็พยักหน้ารับเฉยเลยเว๊ย!!” แล้วทุกคนก็หัวเราะกัน เว้นก็แต่คยองซูที่หันหน้าไปทางอื่นเพราะเขินกับแบคฮยอนที่กำลังคิดว่าตัวเองไปตอบคำถามมันตอนไหนวะ แบบนี้ก็... รู้กันหมดสิวะว่าพี่พยอนคนมากสเน่ห์ตกหลุมรักคนตัวเล็กน่ะ!
     
    “แล้วก็รู้ใช่ปะว่าคนตัวเล็กๆตาโตๆนี่มันจะมีใคร.. เนอะ~” มานงมาเนอะอะไร!!! ทุกสายตาหันมองคยองซูที่หันหน้าหนีไม่ยอมสบตา
     
    “แล้วมีอีกนะ..”
     
    “ไอ้เชี่ยจงอินพอ!!!” แล้วแบคฮยอนก็ลุกขึ้นไล่เตะแต่จงอินก็วิ่งหนีไปรอบๆ เสียงหัวเราะดังลั่นพผสานไปกับเสียงด่าของแบคฮยอนเป็นที่สนุกสนานเขานักล่ะ
     
    คยองซูหันหน้าไปมองจงแดที่มองตัวเองอยู่ เจ้าตัวยกนิ้วโป้งให้คยองซูก็พยักหน้าตอบกลับมา หวังว่าอะไรๆต่อจากนี้จะมีแต่เรื่องดีๆ เรื่องที่แบคฮยอนจะรักหรือว่าเพิ่งรักคยองซูน่ะไม่ได้สนใจอยู่แล้วเพราะตัวเขาสนใจแค่ว่าจะทำยังไงให้แบคฮยอนขาดเขาไม่ได้ต่างหาก... เรื่องของความรักและหัวใจน่ะมันเป็นเรื่องรอง
     
    ปาร์ตี้บาร์บีคิวสนุกมากกว่าที่เคยเป็นก็เพราะเรื่องแฉแบคฮยอนของจงอินนี่ล่ะ เอาน่าทุกคนมีความรักนั่นถือว่าเป็นเรื่องดีๆนะแต่ปาร์ตี้วันนี้โนแอลกอฮอลล์เพราะฉะนั้นก็อดเมากันไป ไว้ฉลองกันอีกทีก็ไม่มีปัญหา ชานยอลที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็เลยววิ่งเข้าบ้านไปยกถังไอศกรีมที่ซื้อมาแล้วก็มาจัดปาร์ตี้ไอศกรีมรอเนื้อในท้องย่อยกัน
     
    คยองซูตักเนื้อหวานเย็นป้อนคนข้างตัวที่จับมือเขาอยู่ใต้โต๊ะ ริมฝีปากของทั้งคู่ประดับรอยยิ้มบางๆไว้ที่ใครมองก็รู้ว่าพวกมันสองคนกำลังจมอยู่ในห้วงวิมานแห่งรักของสองเรา แหมเห็นแล้วพี่จงอินหมั่นไส้แต่ก็จะปล่อยให้หวานกันไปก็แล้วกัน จะไม่แซวเด็ดขาด ใครก็รู้เถอะว่าเพื่อนตัวเล็กสุดของกลุ่มน่ะแอบชอบแบคฮยอนมาตั้งนานแล้ว.. จะมีก็แต่มันคนเดียวที่โง่มองไม่ออกนั่นแหละ
     
    ทุกคนก็เลยมองข้ามอาการน่าหมั่นไส้พวกนั้นไปแล้วปล่อยให้มันสองคนอยู่ในห้วงหวานๆสีชมพูแหววๆไปเถอะ กว่าที่จะรู้ว่ารักกันได้นี่ก็ลุ้นซะตัวจะบิดอยู่แล้ว จากนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของคยองซูนั่นแหละที่จะต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวของตัวเองแล้ว
     
     
     
    หลังจากที่งานปาร์ตี้จบลงทุกคนก็ต้องช่วยกันเก็บจานชามไปไว้ในครัวแม้จะไม่ต้องล้างแต่ก็ต้องช่วยกันเก็บ คยองซูอาสาเป็นคนเก็บขยะและจะเอาไปทิ้งหน้าบ้านเอง คนตัวเล็กเก็บขวดต่างๆและเศษขยะทั้งหลายเหล่ลงถุงดำเพื่อเตรียมที่จะมัดปากถุงแล้วไปโยนทิ้งที่ถังขยะหน้าบ้าน คยองซูเดินถือถุงขยะสวนกับทุกคนที่เก็บจานชามกลับเข้าบ้านออกไปทิ้งที่หน้าบ้าน
     
    “กว่าจะหมดนี่แดกกันทั้งหมู่บ้านหรือไงวะเนี่ย” แบคฮยอนวางจานกองสุดท้ายลงที่อ่างล้างจานแล้วก็ถอนหายใจนี่เขาเดินสามรอบเลยนะ ไหนจะจาน แก้ว พวกอย่างอื่นอีกอ่ะ
     
    “อย่าบ่น แดกแล้วก็ใช้แรงงานซะ” ชานยอลเชิดหน้าขึ้นใส่ แบคฮยอนกรอกตาใส่
     
    “ไอ้คริส สักวันกูจะจับเมียมึงไปโยนให้ฉลามแดก!” ชานยอลแลบลิ้นใส่
     
    “วิ่งตามกูให้ทันก่อนเหอะเตี้ยค่อยมาจับกูโยนน่ะ” หนอยหยาบคาบ!!
     
    “กูวิ่งตามมึงไม่ทันแต่กูก็เตะมึงได้นะเว๊ย!!!” แบคฮยอนเตรียมวิ่งไลเตะ ชานยอลก็วิ่งไปหลบหลังคริสทันที
     
    “เอาน่าๆ ไม่ต้องโยนให้ฉลามหรอกมาโยนไว้ที่ห้องกูนี่” ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคริส แบคฮยอนกรอกตาไปมาอีกรอบ เบื่อพวกมันจังเลยว่ะ
     
    “พวกมึงนี่ก็เอาแต่เล่นเป็นเด็กกันอยู่ได้ ขึ้นไปอาบน้ำกันได้แล้วกลิ่นควันติดเต็มหัวแล้วน่ะ” จงแดเข้ามาห้ามศึก
     
    “ถ้างั้นน้องจงแดยาใจของพี่ก็สระผมให้พี่ด้วยนะ” จงอินจับมือของจงแดมาแนบแก้ม เจ้าตัวถอนหายใจ
     
    “ใช่เรื่องกูเหรอ ขอขึ้นห้องก่อนนะ” จงแดสะบัดมือออกแล้วเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านชานยอลที่มีห้องรับรองอยู่แล้ว
     
    “จงแดจ๋ารอพี่จงอินด้วย~” แล้วจงอินก็รีบวิ่งไปอ้อนขอให้น้องยาใจสระผมให้ทันที พันหน้าพันหลังจนจงแดจะตกบันไดอยู่แล้ว
     
    “ทำไมคยองซูออกไปทิ้งขยะนานจังวะ” แบคฮยอนชะเง้อคอมอง เออจะว่าไปมันก็นานแล้วนะ
     
    “ออกไปดูดิ แล้วก็พาคยองซูขึ้นห้องไปอาบน้ำนอนด้วยล่ะ ส่วนมึงน่ะมานี่เลย” คริสล็อคคอชานยอลที่พยายามจะใช้ขาเตะแบคฮยอนให้เดินตามมา
     
    “อะไรอ่ะคริสอ่ะ มึงอ่ะปล่อยนะ!!” ชานยอลก็ดิ้นไปสิ
     
    “หรือจะให้อุ้มห๊ะ?” ชานยอลยิ้มแล้วพยักหน้า คริสก็ช้อนตัวอุ้มชานยอลแล้วพาขึ้นห้องนอนไป
     
    “กูล่ะเบื่อพวกแม่งจังเลยว่ะ” แบคฮยอนส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
     
    แบคฮยอนเดินออกไปนอกตัวบ้านว่าจะไปดูสักหน่อยว่าทำไมคยองซูช้าจัง พอเดินออกไปหน้าประตูรั้วก็ได้เรื่องเลยไง! คนตัวเล็กยืนคุยกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ดูสนิทสนมกันจังเลยนะเว๊ย!! อะไรๆๆ จับมือคนตัวเล็กของเขาทำไมกัน! โอ๊ยพี่พยอนจะไม่ทน!!
     
    คยองซูที่ยืนคุยกับผู้ชายตรงหน้าก็ยิ้มกว้างอารมณ์ดีเชียว คือมันผิดวิสัยใช่ไหมล่ะ คนตัวเล็กที่ไม่ค่อยยิ้มแย้มกับคนอื่นสักเท่าไหร่แต่ทำไมคนนี้ยิ้มกว้างจนตาหยีแบบนั้นวะ พี่พยอนไม่ยอมนะเว๊ย!!!! แบคฮยอนก็เลยเปิดประตูรั้วออกไปแล้วทำหน้าโหดทันทีที่มันคนนั้นมองมา
     
    “ที่รักทิ้งขยะเสร็จหรือยังครับ” แบคฮยอนเอ่ยถามเสียงเข้ม คยองซูหันไปมองด้วยสีหน้าสงสัยว่าเจ้าตัวมาตอนไหนกัน
     
    “งั้นพี่ไปก่อนนะครับ” แล้วชายคนนั้นก็โบกมือลาคนตัวเล็กก่อนที่จะเดินจากไป คือแบบมึงเป็นใครกล้าดียังไงมาโบกมือให้คยองซูของกูวะห๊ะ!!!
     
    “มันเป็นใคร!” แบคฮยอนคว้าแขนของคยองซูที่มองตามเขาไปให้หันกลับมาหา คนตัวเล็กทำหน้าตกใจที่โดนบีบแขนแล้วก็โดนดึง
     
    “ฉันถามว่ามันเป็นใคร!” แบคฮยอนบีบสองแขนของคยองซูแน่น 
     
    “ที่รักฟังก่อนคือเขา..”
     
    “ไหนบอกว่าห้ามนอกใจไง ทีฉันยังไม่นอกใจเลยนะ!” คยองซูกระพริบตาปริบๆแล้วส่งยิ้มให้
     
    “เราไม่ได้นอกใจนะ เขาแค่มาถามทางเอง” แบคฮยอนหรี่ตามอง
     
    “แน่นะ” คยองซูยิ้มแล้วพยักหน้าให้
     
    “แล้วมาถามทำไม รู้จักแถวนี้ดีหรือไง” น้ำเสียงของแบคฮยอนดูหงุดหงิดมากจนคยองซูแอบยิ้มกริ่มในใจ หึงฉันล่ะสิ..
     
    “เราก็เลยบอกว่าไม่รู้ไง ไม่ได้นอกใจอะไรสักหน่อยแบคฮยอนอย่าคิดมากสิ” แบคฮยอนปล่อยแขนของคยองซูออกแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับลูบหน้าตัวเอง
     
    “ไม่ได้คิดมากก็แค่ไม่ชอบ... ให้ใครมาใกล้” ยิ่งพูดเสียก็ยิ่งเบาลงแต่คยองซูที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็เลยได้ยิน คนตัวเล็กยิ้มแล้วก้าวเท้าเข้าไปสวมกอดแบคฮยอนไว้
     
    “เขามีที่รักคนเดียวนะ ไม่เคยคิดที่จะนอกใจเลย” คยองซูขยับอ้อมกอดที่กอดรอบตัวของแบคฮยอนแล้วก็ซุกหน้าลงซบ แบคฮยอนที่โดนอ้อนแบบนั้นก็ยิ้มออกมาจนลืมไปหมดแล้วว่าเมื่อกี้โกรธมากขนาดไหน สองแขนยกขึ้นกอดรอบลำตัวเล็กของคยองซูไว้
     
    “ขึ้นห้องกันเหอะ จะได้อาบน้ำนอน” คยองซูเงยหน้าขึ้นมา ดวงตากลมๆฉายแววประกายสวยเชียว
     
    “จะนอนเลยเหรอ จะไม่กอดเราเหรอ” แบคฮยอนยิ้มแล้วก้มลงแตะสัมผัสที่ริมฝีปากนิ่มเบาๆ
     
    “จะกอดทั้งคืนไม่ปล่อยเลยล่ะ” คยองซูยิ้มแล้วก้มหน้าลงซุกที่ไหล่ของแบคฮยอนแก้เขิน เพราะรู้กันว่ากอดคำนี้สื่อความหมายไปถึงไหน แบคฮยอนก้มหน้าลงกดจูบที่กลุ่มผมนิ่มของคยองซู
     
    “เข้าบ้านกันเถอะมายืนตรงนี้แลดูเหมือนไม่ค่อยปลอดภัยแหะ” แบคฮยอนพูดกลั้วเสียงหัวเราะ ถึงแม้จะมืดแล้วแต่ก็ใช่ว่าคนแถวๆนี้จะไม่ลุกขึ้นมาดูเสียหน่อยนินะ
     
    “ก็ได้ เดี๋ยวต้องปิดประตูรั้วก่อน” 
     
    “เดี๋ยวปิดเอง ที่รักยืนรอก่อนนะ” คยองซูพยักหน้า
     
    แบคฮยอนกับคยองซูเดินเข้ามาด้านใน แบคฮยอนปิดประตูรั้วให้ปล่อยให้คยองซูยืนรอก่อน เจ้าตัวที่ยืนรอก็ไขว้สองมือไว้ที่ด้านหลัง มือข้างที่กำเศษกระดาษนามบัตรก็ขย้ำมันให้ยับแล้วก็โยนทิ้งไป ผู้ชายคนนั้นก็มาจีบจริงๆนั่นแหละ ให้นามบัตรมาด้วยแต่ไม่บอกหรอก จะบอกทำไมในเมื่อคยองซูไม่ได้ต้องการที่จะให้แบคฮยอนรับรู้สักหน่อยแค่รู้ว่ามีคนมาจีบเขาก็พอแล้ว
     
    ถึงจะมาจีบก็ใช่ว่าจะต้องสานด้วยสักหน่อย ยังไงถ้าแบคฮยอนไม่นอกใจเขาก็ไม่นอกใจอยู่แล้ว… คยองซูเป็นคนวินวินและแฟร์แฟร์นะ
     
    “เสร็จแล้วเราเข้าข้างในกัน” แบคฮยอนเดินมาหาหลังจากที่ปิดประตูรั้วเรียบร้อยแล้ว คยองซูยิ้มแล้วรอให้คนตัวโตกว่าเดินมาถึงตัว
     
    “อืม อยากอาบน้ำจะแย่อยู่แล้ว” แบคฮยอนเกี่ยวเอวเล็กให้เข้ามาประชิดแล้วก้มหน้าส่งยิ้มให้ คยองซูก็เงยหน้าส่งยิ้มให้ 
     
    “อาบด้วยได้เปล่า” คยองซูเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย แบคฮยอนก็เลยทำหน้าอ้อน
     
    “ก็ได้ๆ เดี๋ยวเราสระผมให้ที่รักด้วยเอาไหม”
     
    “แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องตกลง!” แล้วแบคฮยอนก็หัวเราะมีความสุขพาคยองซูเข้าตัวบ้านไป
     
     
     
     
     
    ทำเอาคนที่เท้าคางกับขอบหน้าต่างชั้นบนแบะปากอย่างหมั่นไส้ ชานยอลอุตส่าห์รีบขึ้นมาสังเกตการณ์เลยนะแล้วก็เห็นอะไรดีๆเพียบเลย หึหึ... ทีนี้ล่ะก็มีเรื่องสนุกๆอีกแล้วล่ะ
     
    “ชานยอลมาอาบน้ำได้แล้วน้ำอุ่นเสร็จแล้ว!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกออกมาจากห้องน้ำ
     
    “ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!” ชานยอลขยับตัวปิดหน้าต่างแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำพร้อมกับแผนการในหัว.. มันต้องสนุกแน่!!
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×