ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [SF] On Rainy Day
คิดถึงกันไหมคะ? =]
________________________________________________
________________________________________________
ในวันที่ฝนพรำ.... บรรยายกาศรอบข้างก็เริ่มเย็นลง
ในวันที่ฝนตกปรอยๆ..... ความหนาวก็เข้ามาเยือน
ในวันที่ฝนตกหนัก...... อยู่ๆก็คิดถึงใครบางคนขึ้นมา
จุดเริ่มต้นระหว่างเรา 2คนในวันฝนตก
ไหนพยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ฝนจะไม่ตก...? แล้วไอ้ที่สาดมาโครามๆเอาซะตัวเปียกนี่คือ...
ฝนไม่ตก!!?
ดีนะที่ว่านักศึกษาตัวอย่างอย่าง ‘ปาร์คชานยอล’ หอบงานวาดรูปไปส่งหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ... บรรลัยกันหมดพอดี
“จะตกอะไรนักหนาวะเนี่ย” วิ่งฝ่าสายฝนไปก็บ่นไป ก็แน่ล่ะ เปียกเป็นลูกหมาขนาดนี้ ร่มก็ไม่มีสิ่งที่จะกันฝนได้ก็แค่กระเป๋าสะพายข้างหนังสีดำใบเดียว .. ซึ่งก็ใช้งานมาแล้วไม่ต่ำกว่าสามปี เพราะฉะนั้นมันแทบย้วยไปตามสายฝน
ดวงตากลมมองสอดส่ายหาสถานที่ที่จะใช้หลบฝนเพราะรู้สึกว่าฝนจะเริ่มตกหนักและแรงขึ้นแล้ว โอ๊ะ... นั่นไงร้านกาแฟข้างหน้า ร้านที่ตัวเขาไม่เคยเข้าไปแต่ก็รู้ว่ามันหอมกาแฟมากๆและแน่นอนว่าครั้งนี้ก็แค่ขอไปยืนหลบฝนก็พอ ไม่อยากเข้าร้านนั้นให้เจ็บปวดอีกแล้ว
สองขายาวรีบวิ่งเข้าไปหลบฝนทันที เมื่อเข้ามาอยู่ในที่ร่มแล้วก็รีบเช็ดหยาดน้ำออกจากใบหน้าและตามลำตัวแต่มือที่เปียกมันจะเช็ดให้แห้งได้สักเท่าไหร่กันเชียว สายลมเย็นๆที่พัดผ่านมาก็ทำเอาหนาววูบจนนึกอยากได้อ้อมแขนของใครสักคนที่จะมาโอบกอดให้คลายหนาว
แล้วชานยอลที่ยืนเช็ดหยาดน้ำฝนออกจากใบหน้าก็รู้สึกถึงแรงสะกิดที่แขนเบาๆ ใบหน้าน่ารักที่เปียกน้ำก็หันไปหาคนด้านหลังที่ก็ไม่รู้ว่ามายืนหลบฝนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ดูจากชุดที่ชื้นนิดหน่อยก็คงจะมาหลบนานแล้ว นานกว่าเขาที่เปียกไปทั้งตัว .... ยันกางเกงในแบบนี้แน่ๆ
“อะไร? ให้ยืมเหรอ?” ชานยอลเอียงคอมองคนข้างๆที่เหมือนจะคุ้นหน้าแต่ก็นึกไม่ออก กลีบปากอิ่มสีสดวาดรอยยิ้มกว้างแล้วยื่นออกไปรับผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มที่ถูกยื่นส่งมาให้
“ขอบคุณนะ เดี๋ยวซักแล้วจะเอามาคืนนะ” อีกฝ่ายยิ้มตอบกลับมาบางๆ ชานยอลใช้ผ้านั้นซับหยดน้ำที่ใบหน้า แต่ดวงตากลมก็พยายามเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
ดูจากเครื่องแบบฟอร์มแล้วก็คงเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับตนแน่ๆ เพราะละแวกนี้มีมหาวิทยาลัยแค่ที่เดียว ผมซอยสไลด์สีน้ำตาลแดงมะฮอกกานีนั้นเสริมให้คนข้างกายเขายิ่งดูดีและเหมาะกับโครงกรอบหน้าได้รูปนั้นจริงๆ แล้วเหมือนว่าคนนั้นจะรู้ตัวันหน้ามามอง ชานยอลก็รีบหันสายตาหลบแล้วทำเอาเป็นผ้าขึ้นมาเช็ดที่ใบหน้า
ที่ตรงนั้นไม่มีเสียงเอ่ยสนทนากันจะมีก็เพียงเสียงของฝนที่ยังคงไม่ซา แถมยังจะตกหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ชานยอลกอดตัวเองไว้แน่นเลย เหมือนว่าบางทีพายุอาจจะเข้าก็ได้ ลมถึงพัดแรงแล้วก็ฝนตกเสียกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ขนาดนี้ ชานยอลได้ยินว่าคนข้างๆทำอะไรกุกกักอยู่แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกเพราะตอนนี้หนาวมาก เปียกไปทั้งตัวแล้วยังจะมาโดนลมอีก
ไม่ต้องรอนานก็ได้รู้ว่าคนข้างตัวนั้นทำอะไร อยู่ๆเสื้อยืดสีดำลายกราฟฟิคสวยๆก็ถูกน้ำมาคลุมไหล่ให้ ดวงตากลมหันไปมองอีกคนที่ส่งยิ้มบางมาให้แล้วอยู่ๆก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่ฝนตกลมพัดแรงจะตาย รอยยิ้มที่แอ็คแท็คในระยะประชิดนั้นทำเอาร่างเพรียวบางก้มหน้าหลบ
“เสื้อนี่ยังไม่ได้ใช่หรอกนะ เอามาเปลี่ยนไว้เที่ยวหลังซ้อมบอลเสร็จน่ะแต่วันนี้ไม่ได้ซ้อม” ชานยอลพยักหน้ารับเบาๆ
“อืม... ขอบคุณนะ” ชานยอลจับเสื้อนั้นให้คลุมไหล่ตัวเองไว้แทนที่สองงมือที่ละออกจากไหล่ของตัวเอง ดวงตากลมจ้องมองพื้นที่เริ่มเจิ่งไปด้วยน้ำแก้เขิน คนข้างกายก็เสหน้าไปทางอื่นหลบอาการร้อนที่หน้าเช่นกัน
แล้วอยู่ๆรถบรรทุกส่งของก็แล่นมาแม้จะไม่ได้เร็วมากแต่ก็ซัดน้ำจากพื้นถนนสาดขึ้นมาจนได้ ชานยอลหลับตาแล้วเบี่ยงตัวหนีแต่ก็ไม่เห็นว่าจะรู้สึกเปียกน้ำตรงไหนเลย รู้สึกก็แต่อ้อมแขนอุ่นๆที่กอดไว้เนี่ยแหละ พอหันกลับมาก็ต้องชะงักเบิกตาโตเลยก็ใบหน้าที่เคยอยู่ห่างออกไปช่วงตัวนั้นตอนนี้มาอยู่ใกล้เพียงสุดปลายลมหายใจเองนี่
ดวงตาเรียวคู่นั้นที่มองสบมาทำเอาหัวใจสั่นไหวเลยล่ะ แล้วก็นึกได้ว่าเมื่อครู่นี้รถบรรทุกคันนั้นขับสาดน้ำกระเซ็นมาโดนแล้วถ้าตัวเขาไม่โดนแต่คนที่มากันเขาไว้คงโดนแทน
“น้ำโดนนายหรือเปล่า เลอะเลยอ่ะ” ชานยอลใช้ผ้าเช็ดหน้าในมือเช็ดรอยเปื้อนที่แขนแล้วก็แผ่นหลังแต่ฝ่ามือของอีกคนก็รั้งข้อมือไว้
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไปซักก็ได้ นายเปื้อนหรือเปล่า” ชานยอลส่ายหน้าเบาๆก่อนที่จะเสหน้าหลบก็จะไม่ให้หลบได้ยังไงกันล่ะก็เล่นมองจ้องเสียแนบชิดแบบนี้ แถมแขนก็ยังไม่ยอมปล่อยด้วย
“เอ่อ... นาย.. ปล่อยเราก่อน” อ้อมแอ้มบอกเสียงเบาแต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเลยสักนิด
“เซฮุน โอเซฮุน ไม่ใช่นาย” ก็ยังไม่ยอมขยับ ซ้ำยังจะมามองหน้าสบตาเสียอีก เรียวบางได้รูปวาดรอยยิ้มกว้างจนดวงตาเรียวนั้นโค้งเป็นขีด
“อะ... อืม” ทำได้แค่นั้นจริงๆ ตอนนี้ปาร์คชานยอลก้มหน้าจนคางจะชิดอกอยู่แล้ว!!
“แล้วไม่แนะนำตัวเหรอ”
“อ่า... ปาร์คชานยอล” ได้แค่นี้จริงๆ.... ชานยอลทำได้แค่นั้นจริงๆ ก็ใบหน้าที่ดูดีนั้นยังคงก้มลงมามองอยู่เช่นเดิม ดวงตาเรียวยังคงทอดมองสบตากันอยู่ ฟันคมกัดริมฝีปากอิ่มของตัวเองอย่าเขินอาย ดวงตาเรียวนั้นคล้ายกับมีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ไม่อาจสบสายตาได้เลย
เซฮุนที่เห็นว่าคนในอ้อมแขนนั้นแทบจะไหม้เป็นจุลแล้วก็เลยยอมผละตัวออกไปยืนอยู่ข้างๆ ปลายนิ้วมือที่แตะสัมผัสอยู่ที่แขนค่อยๆลากไล้ลงมาช้าๆ เบาๆ .. จนปลายนิ้วสัมผัสกัน เรียวนิ้วก้อยของเซฮุนเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของชานยอล แก้มกลมที่แดงเรื่อในสายตาของเซฮุนช่างดูน่ารักเหลือเกิน
แล้วอยู่ๆเสียงฝนตกก็หายไป คล้ายกับเมื่อครู่นี้ไม่ได้มีฝนไม่ได้ตกเลยสักนิด เมื่อฝนหยุดตกคนที่ยืนหลบฝนด้วยกันก็คงต้องลาจาก แต่ทั้งสองก็ยังไม่ยอมไปไหนยังคงยืนข้างกันแล้วเกี่ยวก้อยกันไว้เช่นเดิม เซฮุนหันไปมองคนที่ก้มหน้ามองพื้นแล้วก็ยกยิ้ม
“ชานยอล นายรู้หรือเปล่าว่าเราอยู่มหา’ลัยเดียวกัน นายอาจจะไม่เคยเห็นฉันแต่ฉันเห็นนายประจำ” ชานยอลหันมองเจ้าของประโยคนั้นก่อนที่จะส่ายหน้า
“ฉันเคยเห็นนายที่สระน้ำหลังมหา’ลัย นายคือคนที่ช่วยฉันเก็บกระดาษวาดรูปใช่ไหมเซฮุน” เซฮุนไม่ตอบยิ้มกว้างรับเป็นนัยๆ
“บ้านนายอยู่ไหนชานยอลเดี๋ยวฉันไปส่ง” ชานยอลกัดปากแล้วก้มลงมองพื้นก่อนที่จะเงยหน้าแดงๆขึ้นมองสบกับดวงตาเรียวที่ยังโค้งเป็นขีด
“”ปะ... ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ หรือว่า.. ดื่มกาแฟบ้านฉันไหม”
“ด้วยความยินดีครับ”
วันที่ฝนตกคือจุดเริ่มต้นสำหรับสองเรา... บรรยากาศรอบข้างก็อุ่นขึ้นทันตา
ยามที่ฝนหยุดตก.... ท้องฟ้ามักจะสดใสและมองเห็นรุ้ง 7สีเสมอ
ไออุ่นของ 2เราที่มอบให้กัน..... ทำให้เรามองเห็นกันและกัน
ไม่ว่าวันต่อๆไปฝนจะตกหรือไม่ เรา 2คนก็จะอยู่ด้วยกันไม่แยกจาก
ปาร์คชานยอลไม่ได้ไม่ชอบกาแฟแต่เพราะความรักครั้งเก่าทำให้เจ็บปวดกับกลิ่นของกาแฟ คนรักเก่าชอบดื่มกาแฟที่ร้านนี้.. เมื่อมันเจ็บปวดก็ไม่อยากที่จะรับรู้หรือได้กลิ่นมันอีก
สองมือประคองแก้วลาเต้ร้อนขึ้นมาดื่ม รสชาติหวานนมนุ่มลิ้นค่อยๆไหลผ่านลำคอไป กลีบปากอิ่มวาดรอยยิ้มเมื่อได้กลิ่นหอมหวานและรสชาติหวานลิ้น บรรยากาศรอบข้างก็ช่างดีเหลือเกิน ไอเย็นในร้านที่ไม่มากเกินไปกับเสียงเพลงคลอเบาๆ ... การที่ได้นั่งในร้านกาแฟมันก็สบายๆแบบนี้ล่ะเนอะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะกระจกร้านดังขึ้นข้างตัว ชานยอลหันหน้าไปมองคนที่บังอาจมาเคาะกระจกเรียกเขา เรียวปากอิ่มวาดรอยยิ้มขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นคนอีกฝั่งกระจกเป่าลมในกระจกร้านจนมันขึ้นฝ้า ปลายนิ้ววาดขีดบนฝ้านั้นเป็นรูปหัวใจแล้วค่อยใส่ลูกตากับปากยิ้มให้หัวใจดวงน้อยนั้นด้วย คนมองยิ้มคิกคักแล้วกวักมือเรียกคนนั้นให้เข้ามาด้านในเสียงกระดิ่งเหนือประตูร้านดังขึ้นพร้อมกับใครบางคนที่เดินยิ้มมาทางเขา
“รอนานไหม?” ชานยอลส่ายหัวก่อนที่จะยกแก้วลาเต้ร้อนที่พร้องไปนิดหน่อยให้ดู
“แค่นี้ รอได้” ร่างเพรียวบางวาดส่งรอยยิ้มคืนให้คนที่เอื้อมมือมาปาดเช็ดมุมปากให้
“เซฮุน ทานอะไรไหม?” โอเซฮุนส่ายหน้า ชานยอลเลื่อนแก้วลาเต้ร้อนของตัวเองไปให้อีกคน “ช่วยกินหน่อยสิ”
“แล้ววันนี้นัดเราออกมาทำไมเหรอ? จะชวนเดทใช่ไหมเซฮุน” เซฮุนที่ดื่มลาเต้ร้อนวางแก้วลงบนโต๊ะก่อนที่จะส่งยิ้มไปให้คนตรงข้ามที่แก้มแดงอีกแล้ว
“แล้วคิดว่าไง? เดทหรือเปล่านะ~” น้ำเสียงที่ลากยาวนั้นทำเอาคนได้ยินถึงกับหัวเราะ
“ต้องเดทแน่ๆเลย เราจะไปไหนกันดีล่ะ อืม... ดูหนังไหม? ช่วงนี้มีหนังใหม่ๆเข้าเพียบเลย” เซฮุนเอื้อมมือไปไล้แก้มนวลที่แดงเรื่อนั้นเบาๆ
“ตามใจชานยอลครับ” ชานยอลจับมือที่ไล้แก้มตัวเองแนบแก้มตัวเองไว้ก่อนที่จะหัวเราะคิกคัก
“ถ้างั้นไปกันเลยนะ” แล้วชานยอลก็ลากเซฮุนออกจากร้านกาแฟไปเลย แม้กาแฟในแก้วนั้นจะยังไม่หมดดีก็ตาม แต่ก็ช่างประไรล่ะ
มือของทั้งสองสอดประสานกัน ชานยอลและเซฮุนหันมายิ้มให้กันก่อนที่จะพากันเดินออกจากร้านไป แต่เมื่อก้าวพ้นประตูร้านมาสายฝนก็เริ่มตกปรอบๆเสียแล้ว ชานยอลยื่นมือออกไปนอกชายคาเพื่อรองรับน้ำฝนก่อนที่จะถอนหายใจ
“ฝนตกอีกแล้วล่ะ” เซฮุนเอียงหัวลงมมาชนเข้ากับหัวของคนเบื่อฝนเบาๆก่อนที่จะถอนมือออกมาล้วงเข้ากับกระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง
“แต่วันนี้ฉันมีร่มนะ” ชานยอลยิ้มกว้างให้เซฮุนที่ชูร่วมสีดำในมือไปมา เซฮุนกางร่มออกแล้วใช้มันกันฝนก่อนที่แขนข้างที่ว่างจะโอบไหล่เล็กให้เข้ามาชิดใกล้
“แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวเปียกฝนแล้วนะ” ชานยอลหันไปหาคนข้างกายแล้วยิ้มกว้าง เซฮุนก็ยิ้มรับทั้งดวงตาและเรียวปาก มือที่โอบกอดไหล่บางไว้ก็กระชับโอบแน่น
ทั้งสองเดินออกจากหน้าร้านไปด้วยกัน…
คนสองคนภายใต้ร่มคันเดียวกัน...
ท่ามกลางสายฝนที่ตกปรอยๆ…
บรรยากาศรอบข้างช่างอบอุ่นยิ่งนัก...
ช่างเป็นใจกับรักที่แสบอบอุ่นของเรา 2คน...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น