ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] BaekDo Ft. KaiChen, KrisYeol - The Rules of Love

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11 : Rule 06 กลับห้องห้ามเกินเที่ยงคืน

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 57


    แลดูรู้สึกทุกคนชอบพี่จงอินคนแมนเวลาไม่เสี่ยวเนอะ 5555555555 คนมันหน้าตาดีงี้แหละทำอะไรๆก็ดี #อวยพี่เสี่ยวไทม์ 

     
    ถึงคุณ ToBeHonest
    ขอบคุณที่ชอบค่ะ แค่เห็นกรีดร้องว่าชอบมากก็ดีใจแล้ว >< ฉากจอดับอัลไล จับปล้ำ จับจูบอัลไลบตนนไม่รู้จักนะคะ คือเป็นคนใสๆค่ะบอกเลย
    นี่ใครคะ บตนนผู้รักน้องยอลใสใสนะคะ 55555555555 ชอบเวลาคยองจิกชานยอลอ่ะมันดูแบลบน่าเอ็นดูจัง~
     
    ถึงคุณ ไอ...
    คนเรามันต้องมีการพัฒนาค่ะ 5555555555 เมียหลวงเมียน้อยไม่ตบกันค่ะ แต่ไอ้พี่พยอนนี่ล่ะจะตื๊บชานยอล 55555555
     

     
    ช่วงนี้เราก็มึนๆเมาๆ #ก็เมาตลอดเวลาไหมล่ะเธอ  เรากำลังเขียนไปอู้ไปยังไงก็อ่านเพลินๆกันไปก่อนนะคะ แฮร๊!! 
     
    เห็นทุกคนชอบเราก็หายเหนื่อย TTvTT 
     
     
     
    ________________________
     
     
     
     
    “อ๊า... ที่รักโทษทีนะเมื่อคืนเขากลับช้าน่ะ” แบคฮยอนที่เพิ่งตื่นนอนลุกขึ้นนั่งก็เห็นคยองซูกำลังทำแยกเสื้อผ้าอยู่ไม่ไกลจากเตียง
     
    “ไม่เป็นไรหรอกก็กลับมาพร้อมกันนิ” คยองซูหันมายิ้มให้ก่อนที่จะหันกลับแยกเสื้อสีและเสื้อสีขาวออกจากกันเพราะจะเอาลงไปซัก
     
    “ที่รักตื่นนานแล้วเหรอ” แบคฮยอนปิดคำถามด้วยการหาวอีกสักหวอดใหญ่ ดีที่ตื่นมาแล้วไม่ค่อยแฮงค์เท่าไหร่แต่คาดว่ายาใจของไอ้คนเสี่ยวนั่นน่ะเอาเรื่องแน่ๆ
     
    “สักพักแล้ว ที่รักไปอาบน้ำสิจะได้ลงไปหาข้าวกินกัน” คยองซูพูดไปก็จัดการแยกผ้าไปไม่ได้สนใจไอ้คนที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงเลยสักนิด แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งเบนสายตาไปทางตื่น ยังไงก็ห่มผ้าห่มปิดกันอุจาดตาแล้วเรียบร้อย ไม่ให้ใครดูหรอกหวงบ้างอะไรบ้าง
     
    “ไม่ค่อยอยากกินข้าวอ่ะ” แบคฮยอนขยับตัวลงจากเตียงแล้วก็คว้าบ๊อกเซอร์มาสวม คยองซูยกยิ้มมุมปาก
     
    “ทำไม? จะบอกว่าอยากกินฉันหรือไง”
     
    “แหมรู้ใจ” แบคฮยอนสอดขึ้นแล้วอุ้มคยองซูให้ลุกขึ้นยืน
     
    “เฮ้ย!! เล่นอะไรเนี่ย!!!” คยองซูร้องเสียงหลงอย่างตกใจก่อนที่จะหันไปตีไหล่คนแกล้งแต่แบคฮยอนก็หัวเราะซะตาหยีเลย นี่โดคยองซูรักนะไม่งั้นล่ะก็จะบอกว่าหน้าเหมือนลูกร้านขายน้ำเต้าหู้จริงๆนะเนี่ย
     
    “ไปอาบน้ำเลยไป” คยองซูถลึงตาใส่แล้วดันแบคฮยอนให้ออกห่างแต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมถอย
     
    “ไปอาบน้ำจะได้ลงไปกินข้าวกันเร็วๆ” แบคฮยอนยื่นหน้าเข้ามาแล้วทาบริมฝีปากกับกลีบปากนิ่มก่อนที่จะผละออกแล้ววิ่งหนีไปเข้าห้องน้ำ
     
    “มอร์นิ่งคิสครับที่รัก~” คยองซูมองตามหลังคนที่วิ่งหัวเราะเข้าห้องน้ำแล้วก็แต่กัดริมฝีปากอย่างเขินๆ 
     
    “มอร์นิ่งอะไรล่ะจะเที่ยงอยู่แล้วเนี่ย” คยองซูลงนั่งแยกผ้าให้เสร็จเพื่อที่จะได้เอาลงไปซักตอนที่ลงไปหาข้าวกินกัน แยกผ้าไปก็ยิ้มไปสิ แหมอะไรๆก็ดี.. ถ้าตื่นมาแล้วเจอแบบนี้ทุกเช้าก็คงจะดีเนอะ~
     
    “ดีอะไรล่ะหัวใจวายเข้าสักวันแหงๆ” บ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ อะไรในอกยังเต้นรัวไม่หยุด แบคฮยอนที่อ่อนโยนน่ะมักจะทำให้คยองซูเขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ
     
    คยองซูที่แยกผ้าเสร็จเรียบร้อยก็กำลังจะลุกขึ้นยืนนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากมือถือของแบคฮยอนที่ข้างหัวเตียง คนตัวเล็กก็เลยเดินไปดูแล้วเห็นว่าเป็นแม่ของแบคฮยอนที่โทรเข้ามา ก็เลยเดินเอาโทรศัพท์ไปให้ที่หน้าประตูห้องน้ำ เคาะประตูเรียกแต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมออกมาคาดว่าไม่น่าจะได้ยิน
     
    “แบคฮยอนมะม๊าโทรมา!” แถมด้วยการเคาะประตูเรียกอีกด้วย
     
    “ห๊ะ ส่งมาๆ” แบคฮยอนเปิดประตูแล้วโผล่หน้ากับตัวเปียกๆออกมารับโทรศัพท์ที่ยังร้องไม่หยุด คยองซูก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
     
    คยองซูไม่ใช่คนไม่มีมารยาทเพราะฉะนั้นไอ้การจะมาแนบหูฟังเขาคุยโทรศัพท์นี่ไม่มีหรอกนะ.. ถึงจะอยากทำก็เหอะ ก็เลยต้องพาตัวเองเดินมาเปลี่ยนผ้าปูเตียงเพื่อที่จะได้เอาไปซัก อย่าได้ถามว่าทำไมต้องเปลี่ยน ไม่บอกหรอกคิดเอาเองจบนะ
     
     
    แบคฮยอนที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับขยี้เช็ดผมไปด้วย เวลาเห็นคนตัวเล็กก้มๆเงยๆทำความสะอาดห้องนี่มันรู้สึกดีชะมัดเลยอ่ะ รู้สึกว่าคนตัวเล็กเหมาะกับการทำความสะอาดจังเลยอ่ะ นี่พี่พยอนไปซื้อผ้ากันเปื้อนผืนใหญ่ๆมาให้คนตัวเล็กใส่ดีป่ะ? แน่นอนว่าต้องเปลือยแล้วใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวด้วยนะ โอ้โห้แค่คิดก็หื่นจะขึ้นตาล่ะ
     
    “แบคฮยอนคิดเรื่องลามกอยู่ใช่ไหมเนี่ย!” คยองซูที่ได้ยินเสียงหัวเราะหึหึมาจากใครอีกคนที่มันฟังยังไงก็ดูหื่นกามชอบกลก็เลยเดินมาเรียกสติด้วยการฟาดพุงเข้าให้ พุงเริ่มออกแล้วนะแบคฮยอนน่ะ
     
    “เฮ้ยอะไร๊! ไม่มี๊!!” แบคฮยอนสะดุ้งโหยงแล้วทำหน้าตาเหรอหราส่ายหน้าไปมา ไอ้ภาพที่กำลังมโนว่าคนตัวเล็กใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวเดินเข้ามาหาหายวับไปกับตา คยองซุหรี่ตามองคนที่ขึ้นเสียงสูงซะเสียดเพดาน
     
    “จริงๆนะไม่มีอะไรเล๊ย!!” คยองซูยิ้มแล้วยื่นมือไปดึงแก้มของแบคฮยอนส่ายไปมา
     
    “แถไม่เนียนนะไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วไป เออแล้วมะม๊าโทรมาทำไม” คยองซูไล่คนที่ยืนพันผ้าเช็ดตัวที่เอวไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แบคฮยอนลูบแก้มตัวเองที่โดนดึงยืดแล้วก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
     
    “มะม๊าบอกให้กลับบ้านน่ะมีเรื่องด่วน ก็ว่าจะขอที่รักกลับบ้านหน่อย” คยองซูเลิกคิ้ว
     
    “จะมาขอทำไม ก็กลับสิมะม๊าโทรมาหานิ” แบคฮยอนใส่เสื้อแล้วหันมาส่งยิ้มให้
     
    “ก็ต้องขอก่อนไงเดี๋ยวไม่ได้กินข้าวด้วยกันแล้วถ้าเกิดกลับดึกอีกล่ะ” แบคฮยอนที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินมากอดคนตัวเล็กไว้
     
    “ก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าไม่กลับก็บอกจะกลับช้าก็บอก เรื่องนี้ไม่ว่าอยู่แล้ว”
     
    “แต่เขาเขียนเองว่าไม่มีข้อยกเว้นนิ” คยองซูหัวเราะแล้วดันแบคฮยอนให้ออกห่าง
     
    “ก็มะม๊าเรียกไม่เป็นไรหรอกแต่ถ้าเรื่องอื่นล่ะก็มีเจ็บแน่ๆ เข้าใจ๊?” แบคฮยอนยิ้มแล้วดึงคยองซูมากอดแล้วกดริมฝีปากที่ตามแนวลำคอของคนในอ้อมแขน
     
    “หยุดเลยหิวข้าวแล้วรีบไปหามะม๊าไม่ใช่เหรอ จะกินข้าวก่อนไหม” แบคฮยอนพยักหน้า
     
    “บอกม๊าแล้วว่าจะกินข้าวก่อนค่อยไปหา”
     
    “ไปบ้านม๊าก็อย่ากินเยอะรู้ไหม พุงออกแล้วเนี่ย” คยองซูตีพุงที่ยื่นออกมานิดหน่อยของแบคฮยอนเบาๆ เจ้าตัวก็หัวเราะแล้วจับมือเล็กเลื่อนลงต่ำ
     
    “พุงออก ข้างล่างก็อยากออกด้วยนะ” คยองซูดึงมือออกก่อนที่จะได้สัมผัสกับอะไรที่อยากจะออกมาแล้วตีสีหน้าดุ
     
    “ฉันเพื่อนเล่นเหรอ?” แบคฮยอนยิ้มกริ่มแล้วกอดคนตัวเล็กทำหน้าอ้อน
     
    “ไม่ใช่เพื่อนครับ เมียที่รักเลยครับ” คยองซูยิ้มขำแล้วตีไหล่แบคฮยอนแรงๆ
     
    “ลงไปกินข้าวกันได้แล้วเดี๋ยวไปหามะม๊าช้า” แบคฮยอนก็ยังเนียนมาหอบแก้มจูบปากคนตัวเล็กอีกแน่ะ หวิดจะโดนจับทุ่มเอา
     
    หลังจากที่กินข้าวเสร็จคยองซูก็ขึ้นห้องมาคนเดียวพร้อมกับตะกร้าผ้าที่เอาลงมาซักแค่ตะกร้าเดียว เดี๋ยวต้องลงไปขนขึ้นมาอีกตะกร้าหนึ่ง แบคฮยอนก็อาสาอยู่หรอกแต่ไม่อยากให้คนตัวโตกว่านั่นไปสายก็เลยบอกไปว่าจะโทรเรียกจงอินมาช่วยแต่ก็ไม่อยากจะใช้หรอกให้นอนไปเถอะคาดว่าคงแฮงค์ยาวแหงๆเลย
     
    พอได้อยู่คนเดียวมันก็รู้สึกดีนะไม่หนวกหู ไม่หงุดหงิดกับคนที่เอาแต่เล่นเกมด้วย เวลาจะทำความสะอาดห้องก็ทำได้เลยไม่ต้องคอยไล่แบคฮยอนที่ชอบป่วนให้ไปนั่งรอบนเตียง แต่ว่านะ... มันก็เหงาเหมือนกันนะ อยู่คนเดียวกับห้องกว้างๆน่ะ
     
    “หื้ม.. ว่าไง” คยองซูกดรับสายแล้วเดินไปยังระเบียงห้องเพื่อตากผ้า
     
    “อยู่บนแท็กซี่แล้วอ่ะที่รัก กว่าจะได้ขึ้นร้อนมาก” คยองซูระบายยิ้ม
     
    “ก็ปกตินะทนเอาหน่อยสิ นั่งอยู่บนรถไปเดี๋ยวก็เย็นแล้ว” 
     
    “ไม่เย็นนะ นี่แค่บ่ายเอง” แล้วคนเล่นมุขก็หัวเราะสนุกเขาเลย คยองซูก็ทำแค่ยกยิ้มมุมปาก
     
    “ฉันเพื่อนเล่นเหรอพยอนแบคฮยอน” พูดกับปลายสายไปก็ตากผ้าไป โดคยองซูช่างดีงามทำได้หลายอย่างพร้อมกันในเวลาเดียว 
     
    “ใครว่าล่ะโดคยองซูน่ะเมียสุดที่รักเลยนะ~~” คยองซูยิ้มกว้างแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ก็คนมันเขินนิหว่าจะให้ตอบกลับไปว่าอะไร แบคฮยอนก็ยังคงแหย่คยองซูไม่หยุด คาดว่าจนกว่าจะถึงบ้านมะม๊านั่นแหละแบคฮยอนถึงจะวางสายน่ะ
     
    ชักอยากให้คนที่ล้อเขาไม่หยุดกลับมาที่ห้องเสียแล้วสิ
     
     
    การอยู่ห้องคนเดียวในวันหยุดแบบนี้ก็ดีที่สามารถทำความสะอาดห้องได้หมดจด แต่ก็ไม่น่าสนุกสักทีเดียวที่ไม่มีลูกหมาตัวโตๆมาคอยป้วนเปี้ยนนี่ล่ะ ตอนที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันมากกว่าเพื่อนก็ยอมรับว่าเหงานะ แต่พอเดินมาไกลจนเลยคำว่าเพื่อนมาไกลโขแล้ว.. มันกลับยิ่งเหงามากกว่าเดิมอีก 
     
    ช่วงเย็นจงแดก็มาชวนไปกินข้าวด้วยสภาพที่มองยังไงก็ไม่น่าจะแฮงค์อย่างเดียว ตัวต้นเหตุมันต้องคือไอ้คนที่เดินยิ้มกว้างๆตามหลังมาแน่ๆ จงแดขอเลือกร้านตามสั่งแล้วขอสั่งต้มยำเผ็ดๆร้อนๆมาซดให้หายมึนหายแฮงค์เลย คยองซูนั่งข้างจงแดแล้วมองจงอินที่ดูท่าท่างจะรื่นเริงเหลือเกิน สงสัยเมื่อคืนจะจัดหนักจนโดนเพื่อนเขาด่าเอาน่ะสิแต่ก็ยังยิ้มระรื่นได้อีกนะ
     
    “แล้วไอ้แบคฮยอนไปไหนล่ะ” จงอินหันมาถาม
     
    “ลืมบอกไปเลย แบคฮยอนกลับบ้านไปหาแม่มันน่ะ” จงอินพยักหน้าเข้าใจ
     
    “แล้วคืนนี้มันจะกลับไหม จะมานอนด้วยกันป่ะล่ะ” จงแดหันไปถามเพื่อนตัวเล็กข้างกาย
     
    “ก็น่าจะกลับหรอก... จะเอาฉันเป็นไม้กันจงอินน่ะไม่ได้ผลหรอกนะ” คยองซูแอบกระซิบปรธดยคหลังเสียงเบา จงแดมองแล้วกรอกตาใส่
     
    “เออๆ รู้ทันว่ะ” 
     
    “รู้ทันอะไรกันเหรอยาใจของพี่” จงอินสอดหน้าเข้ามาแล้วก็ยิ้มกว้าง
     
    “หุบปากแล้วกินข้าวไปเลยไป๊!” จงแดถลึงตาใส่ จงอินก็ก้มหน้าลงกินข้าวแต่ก็ยังแอบกวนจงแดโดยการส่งยิ้มสีหน้าแช่มชื่นให้ จงแดอยากจะคว่ำชามต้นยำใส่หน้ามันจังเลยแต่แปดสิบเลยนะเสียดาย คยองซูที่มองอยู่ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
     
     
     
     
    กว่าที่แบคฮยอนจะมาถึงบ้านก็ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆกว่าจะผจญรถติดออกมาได้ค่ารถก็หมดไปหลายบาทล่ะ พอมาถึงบ้านได้ก็แปลกใจที่ว่าทำไมวันนี้ที่บ้านดูอึกทึกครึกโครมกันเหลือเกิน เหมือนจะได้ยินเสียงพูดคุยแล้วก็เสียงเด็กวิ่งเล่น .. บ้านกูมีเด็กตอนไหนวะ?
     
    พอเดินเข้ามาในบ้านก็ชัดเลย!! ญาติเขามาจากต่างจังหวัดก็คงจะมาเยี่ยมหามะม๊ากับป๊านั่นแหละ นี่ขนกันมาหมดหมู่บ้านเลยปะวะเนี่ย หลังจากทักทายกันเสร็จแบคฮยอนก็เลยเดินไปที่ห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่มก็เจอมะม๊าพอดี
     
    “มะม๊าหวัดดี นี่ที่เรียกกลับมานี่ยังไงเนี่ย” มะม๊าหันมายิ้มให้
     
    “เรียกเอ็งมาขอเงินป้าๆอาๆเอ็งไง จะเอาไหมล่ะ” 
     
    “เอาอยู่แล้วม๊าก็~ แล้วป๊าล่ะไปไหนอ่ะ” มะม๊ายื่นน้ำเย็นๆให้ลูกชายดื่ม
     
    “ทำงานยังไม่กลับ เย็นๆโน้นแหละจะกลับมากินข้าวเย็นด้วยกัน” แบคฮยอนพยักหน้าเข้าใจ
     
    “วันนี้มะม๊าทำอะไรกินอ่ะ” แบคฮยอนชะโงกหน้าไปดูว่ามีอะไรกินบ้าง
     
    “ก็เยอะแยะอ่ะ ทำไมหรืออยากกินอะไรบอกมาเดี๋ยวม๊าทำให้” แบคฮยอนยิ้มแล้วเข้าไปกอดมะม๊าคนใจดี
     
    “เปล่าหรอกแต่จะบอกว่าฝากใส่ถุงให้ด้วยตอนกลับจะหิ้วกลับห้องไปฝากคยองซู” 
     
    “จริงสิไม่ได้เจอคยองซูนานแล้วนะ ยังไงก็ครั้งหน้าพามาหาด้วยนะคยองซูอยู่คนเดียวคงเหงาแย่” แบคฮยอนพยักหน้าเห็นด้วยกับไหล่ของมะม๊า
     
    “ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละ”
     
    เพราะว่าครอบครัวของคยองซูอยู่ต่างจังหวัดนั่นแหละก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน ตอนที่คยองซูขึ้นมาเรียนที่นี่ก็มาอยู่กับน้าพอเข้ามหาวิทยาลัยแบคฮยอนก็เลยชวนให้คยองซูมาอยู่หอด้วยกัน จงแดกับจงอินก็เลยมาอยู่หอด้วยแต่ชานยอลกับคริสที่บ้านไม่ยอมก็เลยได้แต่ไปกลับที่มหาวิทยาลัย เอาจริงๆเถอะถ้าไอ้ชานยอลมาอยู่หอล่ะก็ ทั้งหอได้บรรลัยแหงๆ
     
    บางครั้งแบคฮยอนก็คิดว่าคยองซูอาจจะเหงาก็ได้ที่อยู่ไกลบ้านไกลจากคนที่บ้าน แม้จะไม่พูดแต่คนตัวเล็กก็ต้องคิดอยู่ในใจแน่ๆ เขาไม่อยากให้คยองซูรู้สึกเหงาหรอกก็เลยพยายามที่จะไม่ให้คนตัวเล็กอยู่คนเดียว เวลาที่เห้นคนตัวเล็กยิ้มทีไรแบคฮยอนก็เลยจะยิ้มตามไปด้วย ก็เวลาที่คยองซูยิ้มน่ะมันน่ารักมากเลยนะ~ บางทีที่คยองซูทำเป็นเฉยชาแล้วก็ไม่ยอมแสดงความรู้สึกออกมาก็เพราะอาจจะเหงาอยู่ข้างในก็ได้
     
    เพื่อนทุกคนก็พยายามที่จะทำให้คยองซูรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้โดดเดี่ยวอะไรเลย ซึ่งนั่นก็ถือว่าเ)นผลสำเร็จ พยอนแบคฮยอนน่ะเป็นคนรักเพื่อนนะและที่สำคัญก็รักคนตัวเล็กๆนั่นด้วยแหละ... มั้งนะ
     
    ถึงจะยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แต่ก็มั่นใจว่าไอ้ที่รู้สึกอยู่ข้างในน่ะ น่าจะเป็นความรู้สึกดีๆที่เรียกว่า ‘รัก’ นั่นแหละ
     
     
    มื้อเย็นนี้เป็นมื้อที่แสนมีความสุขและสนุกเพราะได้กินข้าวร่วมกันทั้งป๊าและม๊าไหนจะญาติๆอีกล่ะ มันมีความสุขก็จริงแต่แบคฮยอนกลับคิดไปถึงคนตัวเล็กที่อยู่ห้องคนเดียว ไม่รู้ว่าป่านนี้จะกินข้าวหรือยัง อยู่คนเดียวหรือเปล่าหรือจงแดจะมาชวนไปกินข้าวแล้ว อยากให้คนตัวเล็กมาอยู่ตรงนี้ด้วยจังเลย... แบคฮยอนแอบส่งข้อความแชทไปหาคยองซูก็ได้ความว่าออกมากินข้าวกับจงแดแล้ว ทีนี้คนเป็นห่วงก็เลยได้เบาใจแล้วก็กินข้าวได้สักที 
     
    “เรียนเป็นยังไงบ้างแบคฮยอน ป๊าหวังว่าแกจะเรียนจบนะ” แล้วป๊าก็ปิดคำถามด้วยเสียงหัวเราะ แบคฮยอนมองค้อนใส่ป๊าที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน
     
    “ต้องจบอยู่แล้วป๊านิก็..”
     
    “เออแล้วคยองซูเป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันมาตั้งนานล่ะ ว่างๆก็พาคยองซูมาเที่ยวเล่นบ้างล่ะไกลบ้านไกลเมืองแบบนั้นคงเหงาแย่” แบคฮยอนถอนหายใจแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
     
    “ก็กลัวเหงาเหมือนกันนั่นแหละ ไว้ว่างๆผมจะพามานะ” ป๊าน่ะไม่ได้สนใจอะไรหรอกแต่ม๊านี่แหละที่สนใจ เธอหรี่ตามองลูกชายของเธอด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าแบคฮยอนถอดแบบมาจากใคร
     
    “เป็นห่วงมากเลยเหรอ” แบคฮยอนที่นั่งเขี่ยจานข้าวเล่นก็พยักหน้า
     
    “ห่วงดิม๊า ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงบ้างถามเมื่อกี้ก็บอกว่ากินข้าวอยู่” 
     
    “อ้าวเขาก็กินข้าวแล้วไงแล้วจะเป็นห่วงทำไม” แบคฮยอนถอนหายใจ
     
    “ก็...” แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นสายตาของทุกคนที่มองจ้องมาอย่างอยากรู้อยากเห็นเลย
     
    “อะ.. อะไรเล่า กินข้าวอยู่มาคุยอะไรกันล่ะ เอ้ากินๆๆ” แล้วแบคฮยอนก็ก้มหน้าตักกับข้าวกินไม่สนใจใครอีกเลย
     
    ก็เลยจ้องอยากจะรู้ขนาดนั้นนิ.. บอกเลยนะว่าจะไม่บอกหรอกว่าตอนนี้เขากับคยองซูน่ะอะไรๆกันแล้ว คนเขาก็อายเป็นนะเว๊ย!!!!
     
    กว่าที่แบคฮยอนจะออกจากบ้านมาก็ได้มืดค่ำเสียแล้ว แบคฮยอนหิ้วกับข้าวและขนมของฝากมาเต็มสองมือเลยเพื่อเอามาฝากคนตัวเล็กที่ห้อง กว่าที่รถแท็กซี่จะพามาถึงหน้าหอได้ก็ใช้เวลาพอสมควร แบคฮยอนเดินขึ้นห้องไปก็คิดว่านี่กำลังเดินสำรวจบ้านร้างอยู่หรือเปล่าเนี่ย พวกที่สอบเสร็จแล้วก็กลับบ้านกัน บางส่วนที่ยังสอบไม่เสร็จก็คงไปติวกันที่คณะ อืม.. ป่าช้าดีๆนี่เอง
     
    แบคฮยอนไขประตูเข้าไปก็เห็นหนอนตัวกลมๆนอนซุกอยู่ในผ้าห่ม คาดว่าคนตัวเล็กคงเหนื่อยเพราะทกำความสะอาดห้องน่ะสิ แบคฮยอนเดินไปวางกับข้าวเก็บไว้จากนั้นก็ไปอาบน้ำจะได้มานอนกอดคนตัวเล็ก ถึงจะยังไม่ใช่เวลานอนแต่ก็อยากนอนกอดคนตัวเล็กให้ฉ่ำปอดไปเลย!
     
    “อืม.. กลับมาแล้วเหรอที่รัก” คยองซูหันไปถามคนที่เข้ามานอนซุกตัวกอด เพราะอ้อมแขนกับตัวเย็นๆนี่ล่ะที่ทำให้คยองซูตื่น หลังจากกินข้าวเสร็จนอนเล่นอ่านหนังสืออยู่ดีๆก็หลับไปเสียอย่างนั้น
     
    “กลับมาแล้วครับ มะม๊าฝากกับข้าวมาให้ที่รักเยอะแยะเลยนะ” แบคฮยอนขยับตัวมานอนที่หมอนเดียวกับคยองซูดั่งเช่นทุกคืน สองมือสอดเข้ากอดคนตัวเล็กไว้ ริมฝีปากบางแตะที่ข้างขมับแล้วก็แก้มของคยองซูเบาๆ
     
    “อือ.. พรุ่งนี้จะได้อุ่นกินกัน คืนนี้ขอนอนเลยนะฉันเหนื่อย” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงง่วงงุน แบคฮยอนขยับตัวขึ้นมาจุ๊บที่ริมฝีปากนิ่มแล้วผละออก
     
    “นอนกันเถอะนะ” เพราะเห็นว่าคนตัวเล็กดูท่าจะเหนื่อยจริงๆหรอก ตอนที่เดินเข้าห้องมานี่ก็ยังแอบตกใจเลยว่าทำไมห้องมันสะอาดขนาดนี้ กองหนังสือทั้งหนังสือเรียนและการ์ตูนถูกจัดเก็บเรียบร้อย ไหนจะงานชีทอะไรทั้งหลาย ของที่เคยวางระเกระกะอีก คนตัวเล็กของเขาคงเหนื่อยมากจริงๆนั่นแหละ
     
    “ฝันดีครับที่รัก” แบคฮยอนกดจูบที่ข้างขมับอีกครั้งแล้วก็ล้มตัวลงนอนพร้อมกับกอดคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ๆ คยองซูระบายยิ้มแล้วหันหน้ากลับมามองนาฬิกาเรือนเล็กที่ต่างเตียงที่บอกเวลาว่ายังไม่เที่ยงคืน
     
    คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่แบคฮยอนทำตามข้อตกลงของเราได้และแน่นอนว่าต้องมีรางวัลให้.. แต่คงต้องเป็นพรุ่งนี้แล้วล่ะเพราะเขาแทบจะลุกไม่ขึ้นอยู่แล้วเนี่ย!
     
     
     
    ฝีมือการทำอาหารของมะม๊าแบคฮยอนยังคงอร่อยและฝีมือไม่ตกเลย คยองซูเคยไปครั้งหนึ่งแล้วก็เคยได้ลองกินด้วยมันอร่อยมากและมันก็ทำให้ตัวเขาคิดถึงบ้านด้วยเหมือนกัน คิดถึงฝีมือการทำกับข้าวของแม่และเรื่องตลกที่พ่อของเขาชอบเล่าให้ฟังแม้ว่ามันจะแป๊กก็ตาม
     
    แบคฮยอนนั่งกอดคยองซูแล้วอ้าปากรอคนตัวเล็กป้อนข้าวอย่างเช่นทุกทีแต่ที่ไม่เหมือนทุกทีก็เพราะสีหน้าของคนตัวเล็กนี่ล่ะที่มันดูไม่ค่อยดีเลย แบคฮยอนก็เลยลองยื่นหลังมือไปแตะที่หน้าผากดูว่าคนตัวเล็กของเขามีไข้หรือเปล่า
     
    “ไม่สบายเหรอทำหน้าตาไม่ดีเลย” คยองซูหันมาแล้วส่ายหน้า
     
    “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก” แล้วก็ป้อนข้าวคนตัวโตกว่าที่ยังคงทำหน้าสงสัยไม่คลาย
     
    “ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” คยองซูแนบสองมือกับแก้มของแบคฮยอนแล้วยิ้มกว้างให้ แบคฮยอนที่เห้นแบบนั้นก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับรู้
     
    “เอ้าใครโทรมาแปบนะ” แบคฮยอนลุกไปรับโทรศัพท์ พอเห็นว่าใครโทรเข้ามาก็ทำหน้างง
     
    “ไงพี่โทรมามีไร” แบคฮยอนเดินถือโทรศัพท์ของตัวเองมาลงนั่งข้างๆคยองซูแล้วก็รอให้คยองซูป้อนข้าวตามเดิ
     
    “ให้ไปหาอะนะ? มีอะไรวะพี่... ฟรีใช่มะ? โอเคแค่นี้นะเดี๋ยวเจอกัน” พอวางสายเสร็จก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้มีคนข้างๆอยู่อีกหนึ่งคน แบคฮยอนหันมองคนตัวเล็กที่มองจ้องอยู่ก่อนแล้ว
     
    “อ่า.. ที่รักคือพี่รหัสเขาเรียกให้ไปหาอ่ะ” คยองซูยกมุมปากขึ้นยิ้ม
     
    “ไปกินเหล้าสินะ” แบคฮยอนพยักหน้าหงอยๆ
     
    “แต่ที่รักไปกับเขาก็ได้นะ” แบคฮยอนทำหน้าระรื่นแล้วจับสองมือของคยองซูมาแนบแก้มตัวเอง
     
    “ไม่เป็นไรไปเถอะแล้วจะกลับตอนไหนให้รอกินข้าวไหม” คยองซูตีแก้มของงแบคฮยอนพร้อมกับทั้งสองข้างไม่เบานัก
     
    “ก็กลับมาคงไม่เกินสองทุ่มอ่ะเลทสุดคงสามทุ่ม ไว้เราไปหาข้าวต้มรอบดึกกินกันนะอยากกิน” คยองซูพยักหน้าแล้วยิ้มให้
     
    “โอเคงั้นจะรอนะ อย่ากลับดึกล่ะ”
     
    “รับทราบ!!” แบคฮยอนตะเบ๊ะท่าให้อย่างแข้งขัน คยองซูที่ยังแนบสองมือกับแก้มของแบคฮยอนก็ดึงรั้งใบหน้านั้นเข้ามาหาแล้วทาบริมฝีปากสัมผัสกันแผว่เบาก่อนที่จะถอนออก
     
    “จะรอนะ” คยองซูยิ้มหวานให้ แบคฮยอนที่เมารอยยิ้มของคยองซูไปแล้วก็พยักหน้า
     
    “ไม่ดึกแน่นอนครับ! แล้วอยู่ได้นะ” คยองซูพยักหน้า
     
    “อยู่ได้สิ ถ้าหิวฉันจะเรียกจงแดให้พาออกไปกินข้าวที่ตลาด ถ้ามาช้าล่ะก็จะไม่รอกินข้าวด้วยเลย” คยองซูใช้ปลานนิ้วตีที่ปลายจมูกของแบคฮยอนเบาๆ 
     
    “รอที่รักกลับมานะครับ” แบคฮยอนดึงคยองซูเข้ามากอดแล้วกระซิบเสียงเบาก่อนที่จะขบปลายติ่งหูเบาๆ
     
    “จะกินไหมล่ะข้าวน่ะพยอนแบคฮยอน” คยองซูถอยตัวออกแล้วบีบแก้มแบคฮยอนไว้ แล้วทีนี้พี่พยอนคนกล้าจะตอบว่าอะไรได้ล่ะนอกจากกินครับกับพยักหน้ารัวๆน่ะ
     
    หลังจากกินข้าวเสร็จแบคฮยอนก็ออกไปเลย คยองซูก็นอนเล่นบนเตียงไปคิดว่าเย็นนี้คงจะไปกินข้าวกับจงแดก่อนไว้ดึกๆค่อยออกไปหาอะไรกินกับแบคฮยอนอีกที นอนกลิ้งอยู่ได้ไม่นานเสียงเรียกเข้าของมือถือคยองซูก็ดังขึ้น เขยิบตัวไปคว้ามาดูก็เห็นว่าเป็นชานยอลโทรเข้ามา
     
    พอกดรับอีกฝ่ายก็พูดอะไรรัวเร็วจนคยองซูฟังไม่ทันแต่จับใจความได้ว่าให้ลงมาข้างล่างเดี๋ยวนี้! คยองซูก็เลยลงไปก็เห็นรถของคริสจอดอยู่ที่หน้าหอพร้อมกับชานยอลที่ลดกระจดลงมากวักมือให้รีบขึ้นรถ ขึ้นเบาะหลังมาคยองซูยังไม่เข้าใจอยู่เลยว่านี่จะไปไหนกัน
     
    “เฮียสายรหัสกูโทรมาบอกว่าจะเลี้ยงเหล้าเราน่ะแกก็เลยใช้ให้เราไปช่วยดูที่ร้านหน่อย” คยองซูพยักหน้า
     
    แล้วแบบนี้เขาต้องบอกแบคฮยอนไหมนะ?
     
     
    ไม่ต้องบอกหรอกเนอะ... 
     
     
    แบคฮยอนที่มาถึงร้านที่พี่รหัสโทรไปเรียกตัวมาแล้วนั้นก็เข้ามาร่วมวงด้วยทันที วันนี้พี่แกใจดีเรียกสายรหัสมาเลี้ยงอีกรอบเพราะหลังจากนี้แกคงยุ่งมากกับการเตรียมจบคงจะไม่ค่อยได้เจอแล้วก็ได้เลี้ยงอะไรอีกก็เลยนัดมันวันนี้ซะเลย
     
    “พี่วันนี้ผมไม่กลับดึกนะ” พี่รหัสยิ้มกริ่ม
     
    “ทำไมวะมีคนรอที่เตียงหรือไง” แล้วก็มีเสียงแซวมาจากคนอื่นๆที่ร่วมโต๊ะกัน
     
    “ก็ทำนองนั้นมั้งพี่” ตอบไปก็แก้เก้อด้วยการยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ก็แหม..ก็รอที่เตียงจริงๆนั่นแหละ
     
    “เออๆจะกลับเมื่อไหร่ก็บอก ทำไมเป็นห่วงสาวมากกว่ากูสินะ” แล้วพี่รหัสก็นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์ยกแก้วไป แบคฮยอนก็ได้แต่ยิ้มแหยๆแล้วเอาใจพี่รหัสตัวเอง ก็ไม่เชิงสาวนะเป็นคนตัวเล็กน่ารักต่างหากล่ะ~
     
    แล้วพอเหล้ายิ่งเข้าปาก ยิ่งดื่มยึงคึกก็ยิ่งสนุก... จนลืมเวลาไปแล้ว แบคฮยอนรับแก้วใหม่จากหญิงสาวข้างกายที่ชงให้ใหม่ พอยิ่งติดลมพี่รหัสก็เรียกหญิงสาวมาคอยบริการ ไอ้คนที่ดื่มเหล้าจนหน้ามึนไปแล้วก็อารมณ์ดียิ้มกริ่มเลยน่ะสิ
     
    พอเหล้าเข้าปากไอ้การนัวเนียหญิงข้างๆก็เริ่มสนุกแต่ยิ่งนัวเนียยิ่งลูบไล้เท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันไม่นิ่มมันไม่นุ่มไม่เหมือนสัมผัสที่คุ้นเคยเลยสักนิด ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่แบคฮยอนผละตัวออกจากหญองสาวข้างกายแล้วคว้าแก้วเหล้ามากระดกดื่ม บอกตรงๆ.. เขาชอบเวลาสัมผัสคนตัวเล็กตาโตๆริมฝีปากนิ่มๆคนนั้นมากกว่า..
     
    คนตัวเล็ก... คยองซู...
     
    “ชิบหาย!!” แบคฮยอนหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาก็เห็นว่ามันเลยสามทุ่มมาไกลโข 
     
    “เฮ้ยพี่ผมกลับก่อนนะ!!” แบคฮยอนลุกขึ้นไปเขย่าไหล่พี่รหัสที่นัวเนียแทบได้เสียกับผู้หญิงข้าง
     
    “เออๆโชคดีไว้เจอกัน” พี่รหัสโบกมือให้แต่หน้านี่ไม่ได้หันมามองเลยนะ แบคฮยอนกรอกตาไปมาแล้วก็รีบออกจากสถานที่เกิดเหตุให้ไวเลย 
     
    “ทำไมวันนี้ไม่มีแท็กซี่เลยวะแล้วกูจะกลับยังไงวะเนี่ย!” แบคฮยอนก็ได้แต่ยืนบ่นอยู่ที่ข้างถนนโดยที่ทำอะไม่ได้เลย
     
     
     
    “ชานยอล คริสฉันจะกลับแล้ว!” คยองซูที่ลืมตัวจนนั่งดริ๊งเลย์มาถึงตอนนี้ก็ได้แต่ทำตาโตกับเวลาที่มันเลยเวลาที่นัดกับแบคฮยอนไปนานแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่โทรมาก็แปลว่าน่าจะยังไม่ถึงห้อง
     
    “อะไรจะกลับแล้วเหรอ” ชานยอลยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาแล้วก็ทำหน้าสงสัย
     
    “เออดิกลับเลยๆๆ” ถ้าแบคฮยอนรู้ว่าคยองซูไม่อยู่ในห้องล่ะก็ สงสัยคืนนี้มีเละแน่ๆ
     
    “อ๊ะๆก็ได้ เดี๋ยวไปบอกเฮียก่อน”
     
    หลังจากที่ชานยอลไปบอกกับพี่รหัสว่าจะกลับแล้วนั้นทั้งคริส ชานยอลและคยองซูก็ได้เวลากลับบ้านกันสักที โชคดีที่วันนี้ชานยอลไม่ได้เมาเพราะไม่เช่นนั้นล่ะก็คงได้เสียเวลาอีกมาโขเลยล่ะ ถนนในช่วงยามวิกาลนั้นค่อนข้างที่จะโล่งและไม่ค่อยมีคนใช้ถนนสัญจรกันสักเท่าไหร่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี
     
    “คริสขับเร็วกว่านี้อีกได้ไหม” คยองซูที่กำมือถือไว้แน่นบอกกับคริสที่เลิกคิ้วมองสบตากับเพื่อนตัวเล็กผ่านทางกระจกมองหลัง
     
    “มีอะไรหรือเปล่า” คริสถามแต่คยองซูกลับไม่ได้ตอบคำถามนั้น .. จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่ากลัวว่าแบคฮยอนจะรู้ว่าเขาหนีเที่ยวน่ะ!
     
    “มันคงเป็นห่วงกลัวไอ้หมากระเป๋านอนดิ้นตกเตียงมั้ง หมั่นไส้” ชานยอลหันมามองค้อนใส่ คยองซูแอบถอนหายใจครั้งนี้คงต้องขอบคุณชานยอลนะที่ทำให้คริสเลิกมองจ้องขอคำตอบ
     
    “ก็ฉันไม่ใช่ชานยอลนิที่จะมีคริสอยู่ด้วยตลอดเวลาน่ะ” ชานยอลยิ้มแล้วขยับตัวหันหน้ามาทางเบาะหลัง
     
    “เมียน้อยไม่ต้องเสียใจนะ คริสขับไวๆเดี๋ยวไอ้หมากระเป๋าร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วจะน้ำตาท่วมห้องเอา” ชานยอลหัวเราะแล้วก็เขย่าแขนคริสเบาๆแล้วความเร็วรถก็เพิ่มขึ้นอีก คยองซูได้แต่ภาวนาในใจว่าขอให้ถึงก่อนแบคฮยอนเถอะหรือไม่งั้นแบคฮยอนจะเมาหลับที่ร้านไปก็ได้ โดคยองซูจะเป็นคนพลาดไม่ได้!!
     
    คยองซูยืนอยู่หน้าห้องด้วยความลุ้นระทึกว่าแบคฮยอนกลับมาหรือยัง หลังจากที่ลงจากรถของคริสมาได้ก็รีบขึ้นมาห้องทันที พอไขประตูเข้าไปก็เห็นว่าห้องทั้งห้องยังมืดสนิท พอเปิดไฟให้ห้องสว่างได้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นใครอีกคนในห้อง คยองซูหันมองนาฬิกาที่บอกว่าอีกไม่กี่สิบนาทีจะตีหนึ่งก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำทันที
     
    ไม่กี่นาทีคยองซูก็จัดการตัวเองเรียบร้อย พอพาดผ้าเช็ดผมที่ราวพาดได้ไม่กี่นาทีบานประตูห้องก็เปิดเข้ามาพร้อมกับแบคฮยอนที่หอบเหนื่อยอยู่ที่หน้าประตู คนตัวเล็กเหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาตีหนึ่งพอดิบพอดี แบคฮยอนยืนหอบหายใจอยู่ที่หน้าประตูก่อนที่จะเดินเข้ามาด้วยสีหน้าสำนึกผิด บานประตูปิดลงเบาๆ
     
    “ที่รักเขาขอโทษนะ” คยองซูไม่สนใจเดินไปนั่งบนเตียงเตรียมนอนทันที
     
    “เขาขอโทษ~ เขาจะไม่ผิดนัดเราอีกแล้ว” แบคฮยอนวิ่งมาลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าคยองซู
     
    “กี่ครั้งแล้วล่ะที่ผิดนัดน่ะ.. ถ้านัดของฉันไม่สำคัญทีหลังก็ไม่ต้องนัดนะ” คยองซูขยับขาขึ้นเตียงเตรียมพร้อมนอนแต่แบคฮยอนจับมือเล็กไว้
     
    “ขอโทษจะไม่ทำอีกแล้วนะ” คยองซูถอนหายใจ
     
    “พอเถอะเราเลิกคุยกันเถอะ ฉันง่วงแล้ว”
     
    “ไม่คยองซูเราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” แบคฮยอนลุกขึ้นยืนแล้วดึงรั้งมือของคนตัวเล็กไว้ คยองซูสะบัดมือออกแล้วลุกขึ้นยืนประจัญหน้า
     
    “จะคุยอะไรมันก็เห็นๆกันอยู่ นี่กี่โมงแล้วนัดฉันกี่โมง! ให้ฉันรอกี่ชั่วโมงรู้ไหมว่าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยเพราะรอคนที่สัญญาว่าจะกลับมากินข้าวด้วยกันน่ะ!!” คยองซูถลึงตาใส่แล้วหันหน้าหนี
     
    “ถ้างั้นเราออกไปหาอะไรกินกันตอนนี้ก็ได้นะที่รัก” คยองซูปรายสายตาใส่แล้วหัวเราะในลำคอ
     
    “คิดว่าตอนนี้ฉันจะมีอารมณ์กินไหมล่ะ!” เอออิ่มมากอ่ะกินไม่ไหวแล้ว คยองซูแอบพูดต่อในใจ แบคฮยอนก็ได้แต่ทำหน้าหงอย
     
    “ถ้ามันไม่สำคัญขนาดนั้น เราก็กลับไปอยู่สถานะเดิมไหมเราจะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันแบบนี้” คยองซูบอกแบคฮยอนด้วยสายตาเศร้า แบคฮยอนที่ตกใจก็รีบคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดทันที
     
    “ไม่เอานะเขาขอโทษคราวหลังเขาจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่เลิกกันนะขอร้อง” แบคฮยอนผละตัวออกแล้วมองหน้าคยองซูด้วยความเห็นใจ ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆน้ำตาของแบคฮยอนก็ไหลเสียอย่างนั้น พอคิดว่าจะไม่ได้อยู่กับคนตัวเล็กด้วยสถานะเดิมแล้วมันก็เจ็บปวดยังไงก็ไม่รู้
     
    “แล้วจะร้องไห้ทำไมน่ะ” คยองซูแนบมือกับแก้มที่ชื้นน้ำตาของแบคฮยอนล้วก็ปาดเช็ดให้ แบคฮยอนวางทาบสองมือกับมือเล็ก
     
    “ไม่เลิกนะ ไม่เลิกกันนะ ขอร้องล่ะ” คยองซูโน้มหน้าของแบคฮยอนลงมาซบที่ไหล่ของตัวเองแล้วก็ลูบเส้นผมของแบคฮยอนเบาๆ
     
    “โอเคไม่เลิกก็ไม่เลิก หยุดร้องไห้ได้แล้ว” แต่แบคฮยอนก็ยิ่งกอดคยองซูแน่นไม่ยอมปล่อย คยองซูวาดรอยยิ้มแล้วลูบผมของแบคฮยอนไม่ละมือ
     
    “ฉันยกโทษให้แต่ก็ยังโกรธอยู่เพราะฉะนั้นคืนนี้นอนที่พื้นนะ” แบคฮยอนผละหน้าออกแล้วมองสบตากับคยองซูขอความเห็นใจแต่คยองซูก็แค่ยิ้มแล้วหันไปหยิบหมอนที่เป็นของแบคฮยอนมาให้
     
    “แต่...”
     
    “คืนนี้งดทุกอย่างนอนที่พื้นนะ ไปอาบน้ำแล้วมานอนดึกมากแล้ว” แบคฮยอนโยนหมอนลงบนพื้นแล้วก็เดินหงอยๆไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอบานประตูห้องน้ำปิดลงคยองซูก็ได้แต่ถอนหายใจ
     
     
    ตกกลางดึกคยองซูที่ยังไม่หลับก็ชะโงกหน้าลงไปดูแบคฮยอนที่นอนอยู่บนพื้น เพราะที่ห้องนี้ไม่ค่อยมีใครมานอนค้างสักเท่าไหร่ก็เลยไม่มีฟูกนอนหรืออะไรให้ปูเลย แบคฮยอนก็ได้แต่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าเช็ดตัวที่เอามาห่มตัวเอง พอเห็นแบบนั้นก็เลยนึกเป็นห่วงขึ้นมาน่ะสิกลัวว่าตื่นมาแล้วจะป่วยเอา
     
    คยองซูก้าวเท้าลงจากเตียงไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆแบคฮยอนที่หลับไปแล้ว ฝ่ามือเล็กลูบแก้มเย็นของแบคฮยอนเบาๆคนที่หลับไปแล้วก็ลืมตาตื่นขึ้น คนตัวเล็กส่งยิ้มหวานให้ก่อนที่จะตบแก้มแบคฮยอนเบาๆ
     
    “ขึ้นไปนอนข้างบนเตียงเถอะ มา” คยองซูดึงมือของแบคฮยอนให้ลุกขึ้นแล้วพาขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกัน พอได้ที่นอนกับผ้าห่มอุ่นๆแบคฮยอนก็แทบจะซุกตัวให้จมลงไปเลย
     
    “หนาวมากไหม” คยองซูลูบหัวแบคฮยอนเบาๆก่อนที่จะล้มตัวลงนอนแล้วกอดแบคฮยอนไว้
     
    “ไม่หรอกแค่นี้เอง” แบคฮยอนซุกเข้าหาตัวอุ่นๆและนิ่มๆของคยองซู เจ้าตัวก็เลยต้องกอดคนที่กลายร่างเป็นลูกหมาเข้ามาอ้อนให้แน่นๆ ริมฝีปากนิ่มกดจูบลงที่กลุ่มผมสีเข้มของแบคฮยอน
     
    “หลับซะนะ” แบคฮยอนพยักหน้าแล้วขยับตัวเข้าซุกแนบสนิทกับคยองซูแล้วไม่นานแบคฮยอนก็หลับไป
     
    คยองซูที่ยังคงนอนกอดและลูบผมกล่อมแบคฮยอนก็ค่อยๆวาดรอยยิ้มประดับริมฝีปาก เขารักแบคฮยอนก็ที่ตรงนี้ล่ะถ้าตัวเองผิดก็จะยอมรับผิดทุกอย่างและจะขอโทษจนกว่าเขาจะหายโกรธ ครั้งหนึ่งแบคฮยอนเคยยอมรับผิดแทนคยองซูและโดนทำโทษอยู่คนเดียว 
     
    ไม่ว่าแบคฮยอนจะแทบตายแค่ไหนแต่ถ้าคยองซูถามว่าเป็นอะไรไหม แบคฮยอนก็จะตอบว่ายังไหวเสมอ แบคฮยอนคนที่ดูเหมือนไม่แข็งแกร่งอะไรเลยแต่กลับแข็งแรงพอที่จะปกป้องคยองซูได้จริงๆนั่นแหละ เพราะแบบนี้คยองซูถึงได้รักแบคฮยอนจนไม่มีพื้นที่เหลือเผื่อให้ใครได้แทรกเข้ามาเลยสักนิดเดียว แต่ว่า…

     
     
    ขอโทษนะกับเรื่องในคืนนี้... แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่นายกลับมาทีหลังฉันเอง
     
     
     
    ...ก็บอกแล้วว่าโดคยองซูจะไม่มีทางพลาดเด็ดขาด!!...
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×