ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] KrisYeol : A Tale of Love [Kris x Chanyeol]

    ลำดับตอนที่ #11 : Song Fic :: แพ้ทาง

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 59


    สวัสดีค่ะ ต้อบรับการกลับมาด้วยซองฟิคทืี่ชอบมากๆ ชอบเพลงเขามากๆๆๆ แอร๊ยยยยยยย พอได้ยินปุ๊บ คือมันใช่อ่ะ มันต้องเป็นคริสยอล!!~ 


    ก็เลยถือกำเนิดซองฟิคสั้นๆนี้ ขนาดสั้นๆแต่หาเวลาพิมพ์ยากเหลือเกิน TT_TT


    ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว ยังไงก็พกร่มกันด้วยนะคะ ด้วยรักจากใจบตนน พูดคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ เมล หรือในบทความก็ได้นะคะ อิอิ





    _________________________________________






    รู้สึกเหมือนว่ากำลังตกหลุมรัก
    แล้วก็แพ้คนคนนั้นทุกที
    “เฮ้ยน้องชานยอลมา!” พอพูดถึงน้องชานยอลคนงามศรีคณะรอเทศ ทุกคนก็พร้อมใจกันหันมองตามทางเดินเพราะรู้ว่าคนน่ารักของนิเทศต้องเดินมาทางนี้แน่นอน
    ...ตึก ...ตึก .. เสียงหัวใจของคนมองเต้นตึกตึกจนจะทะลุออกมานอกอก คนน่ารักที่ใครๆก็อยากเห็นเดินผ่านมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ใบหน้าขาวนวลนั้นดูน่ารักลงตัวเข้ากับดวงตากลมโต จมูกโด่งรั้น และริมฝีปากดูนุ่มนิ่มสีแดงคู่นั้น
    ชานยอลเดินผ่านโต๊ะหินอ่อนแล้วสายตาก็ผินหันไปสบกับดวงตาคมคู่หนึ่งที่มองมา ริมฝีปากสีแดงคู่นั้นวาดรอยยิ้มให้คนที่นั่งมองด้วยสีหน้าเหม่อลอย รอยยิ้มที่ส่งให้พาเอาหัวใจคนมองกระตุกสั่นไหว
    ไม่ไหวแล้ว คริสอู๋แพ้ทางปาร์คชานยอลจริงๆ



    ~# ทำไมเธอต้องยิ้มทุกทีที่เดินสวนกัน ทำไมเธอต้องหวานทุกคำที่เอ่ยวาจา
    ทำไมเธอต้องซึ้งเวลาที่ฉันมองตา ฉันจะบ้าอยู่แล้ว #~



    คริสกระโดดทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา ใบหน้าเปื้อนยิ้มแทบจะเพ้อละเมอ ก็คนมันดีใจ อิ่มใจ สุขใจ บอกเลยว่ามื้อเย็นไม่กินก็ได้เหอะ วันนี้ชานยอลยิ้มให้ด้วย ยิ้มแบบเจาะจง ไม่ได้ยิ้มผ่านๆแล้วมโนเอานะ คือชานยอลยิ้มให้จริงๆ

    “โอ๊ยแม่ง!!” คริสเอาหน้าซุกกับหมอนแล้วขยี้ผมอย่างอยากจะระบายอารมณ์ที่อัดอั้น อยากจะตะโกนมันเสียให้ลั่นบ้าน อยากจะลงไปวิ่งรอบบ้านแล้วตะโกนว่า ชานยอลยิ้มให้สักร้อยรอบปฏิบัติ ก็คนมันดีใจแรงอ่ะ

    คริสนอนมองรูปข้างหัวเตียงที่เป็นรูปแอบถ่ายของชานยอล แล้วอยู่ๆก็รู้สึดเขินขึ้นมา เหมือนรูปแอบถ่ายด้านข้างนั้น คือชานยอลตัวจริงมายิ้มให้จริงๆเลย

    เออก็รู้ว่าเหมือนคนบ้าอ่ะ แต่จะให้ทำไงได้อ่ะ

    คริสนอนมองรูปใบนั้นแล้วคิดภาในหัวว่าถ้าได้คุยกับชานยอล คำแรกที่พูดด้วยจะพูดคำไหนดี พูดแล้วชานยอลจะตอบรับไหม ถ้าตอบรับแล้วจะคุยอะไรต่อดี มันวนเวียน ยุ่งเหยิงอยู่ในหัว คิดไปคิดมาก็พล็อยหลับไป แม้กระทั่งในความฝันก็ยังเห็นชานยอลมาหา รอยยิ้มหวานๆเหมือนเคย และยังทำให้ใจสั่นได้เหมือนเดิม

    ถ้าไม่หยุดยิ้ม และหยุดน่ารักไปกว่านี้ พี่คงจะบ้าตาย



    ~# เหมือนเธอมีเวทมนตร์ทำให้ใจฉันอ่อน รู้ไหมเธอว่าใครเดือดร้อน
    ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อ ไม่กินไม่นอน อยากบอกเธอสักครั้ง 
    โปรดเถอะนะขอวอน หยุดน่ารักได้ไหม ใจฉันกำลังละลาย #~



    “อะไรวะชอบเขาก็บอกเขาไปดิวะ!!” เพื่อนๆในกลุ่มก็คอยพยายามให้ไปบอกรักกับคนน่ารักคนนั้นเสียให้ได้ ก็จะให้บอกได้ยังไงกันวะ ก็ดูเขาดิออกจะน่ารักขนาดนั้น แล้วดูกูนี่ครับ รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย รถไม่มี มีแต่มือถือถ่ายรูปได้เนี่ย! เขาจะมาสนใจอะไรกูครับ

    “จะบ้าไงบอกไปขายหน้าเขาตาย เขาคงรับรักกูหรอก” ถึงเพื่อนๆจะบอกว่าคริสหน้าตีพอไปวัดไปวาแล้วหมาไม่เห่าก็เถอะ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี คนน่ารักขนาดนั้นอย่างนั้นก็ต้องเทพบุตรล่ะวะ ถ้าเขาจะเอา

    “บอกไปไม่เสียหรอกมึง ด้านได้อายอดนะเว๊ย” ว่าแล้วก็ตบป้าบใหญ่ที่ไหล่ใหญ่ คริสถีบกลับแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาจะเอาอะไรไปสู้กับพวกมันที่อยู่ใกล้วนเวียนอยู่รอบๆตัวชานยอลได้กันเล่า

    เขาเรียนบริหาร ชานยอลอยู่นิเทศ คริสต้องเรียนในห้อง แต่เด็กนิเทศบางทีก็ออกไปทำโปรเจ็คข้างนอกกัน เวลาเจอกันก็ไม่ค่อยจะมี แล้วอีกอย่างเขาจะไปสู้พวกคนอื่นๆที่มาจีบชานยอลได้ยังไง ถึงตอนนี้เจ้าตัวจะไม่มีที่ท่าว่าจะคบกับใครอยู่ก็เหอะ

    อยากบอกว่าเลี้ยงพี่ไว้ดูเล่นก็ได้ แต่ก็ไม่กล้าไงกลัวน้องจะยอดหน้าเข้าให้ คิดแล้วคริสอู๋เสียเซลฟ์นะเว๊ยบอกกันตรงนี้ ทำไมไม่เกิดมาหน้าตาดีกว่านี้วะ

    แต่ก็เอาเถอะพี่จะแอ๊ว(?)ชานยอลต่อไป

    “เอาน่าอย่าคิดมากดิมึง ยิ้มไว้ไอ้หล่อ” เพื่อนในกลุ่มตบไหล่หนักๆแล้วโอบให้กำลังใจเพื่อนรัก เห็นมันเพ้อถึงเด็กนิเทศมานานแล้ว ก็อยากจะช่วยอยู่หรอกแต่ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงเนี่ยดิ

    “กูชอบเขาจริงๆนะเว๊ย” คริสถอนหายใจอีกสักเฮือกใหญ่ๆ ทำยังไงถึจะเกี่ยวหัวใจให้มารักกันได้วะ

    “เออรู้ๆ พวกกูรู้”



    ~# คนหน้าตาอย่างฉันนั้นมันต้องเจียมหัวใจ เก็บอาการเอาไว้ แม้ใจจะสั่นระรัว
    อยากจะให้ดอกฟ้า เอ็นดูหมาวัดสักตัว ก็ไม่กล้าเอ่ยออกไป #~



    “เบื่อจริงวุ้ย!” คริสบ่นกระปอดกระแปด แหงล่ะวันนี้เขายังไม่เจอชานยอลเลยเหอะ ได้ยินว่าวันนี้เด็กนิเทศมีออกงานถ่ายสตู ถึงจะอยากเจอแต่ก็ไม่กล้าไปป้วนเปี้ยนแถวนั้นหรอก นอกจากจะไม่กล้าแล้วยังกลัวเขารำคาญอีก ถ้าเห็นหน้าบ่อยๆเดี๋ยวหาว่าไปตามเขาอีก นอกจากจะไม่ได้แฟนแล้ว จะโดนเขายอดหน้าเข้าให้อีก

    เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการส่งรายงานเลยทำให้กลุ่มของคริสกลับช้าและเจ้าตัวก็อาสาที่จะอยู่รอส่งรายงานกับอาจารย์เอง นอกจากวันนี้จะเรียนอย่างหงอยเหงาแล้ว ยังต้องรีบปั่นบทรายงานส่งอีก โคตรเซ็งชีวิตเลยให้ตาย

    คิดถึงชานยอล อยากบอกแต่ก็ไม่กล้า ทำได้แค่ไถหน้าจอผ่านทวิตเตอร์ และเฟสบุคจองคนที่คิดถึงผ่านไปเท่านั้น เขามีโซเซี่ยลของชานยอลทุกอัน แต่ไม่เคยไปคอมเมนท์อะไรเลย ทำได้แค่กดถูกใจ และรีทวิตเท่านั้น ก็คนมันไม่กล้าไงแต่ใจมันก็บอกว่ารักไง อยากจะตะโกนบอกกลางมหาวิทยาลัยเลยเหอะ แต่แบบนี้น่าจะโดนยอดอกกันบ้างล่ะมั้ง ก็รักทำได้แค่นี้ก็เลยได้แต่ยิ้มกับรูปในมือถือ

    ถ้าเจอตัวจริงตอนนี้นะจะตะโกนบอกรักเลยให้ตายเถอะพระเจ้า!!

    “อ๊ะ!” คริสหันไปมองตามเสียงแล้วก็ต้องทำตาโตตกใจ ชานยอลที่โดนลมพัดหอบใบกระดาษที่ถือมาปลิวไปทั่วพื้น คนน่ารักพองแก้มป่อง ทัดปอยผมที่พัดเคลียแก้มที่ใบหูแล้วลงนั่งยองๆพยายามเก็บงานของตัวเอง

    คริสเดินเข้าไปหาแล้วช่วยเก็บกระดาษที่ปลิวว่อนเหล่านั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกกระดาษที่เขียนโครงร่าง มีบางส่วนเป็นงานถ่ายรูปสถานที่ และอีกส่วนก็เป็นรูปของเจ้าของงาน น่ารักจนอยากจะขโมยกลับบ้านเลยให้ตายเถอะวะ!

    ชานยอลเหลือบสายตามองคนที่เข้ามาช่วยเก็บแล้วก็ส่งยิ้มให้ตอนที่หันกลับมาสบตากัน ไม่รู้ทำไมแต่อยู่ๆก็รู้สึกแกมันร้อนๆขึ้นเสียอย่างนั้น ร่างเพรียวบางพยายามที่จะเก็บให้หมดแต่ก็ไม่ทันคนมาช่วยเอาเสียเลย

    “ขอบคุณครับที่มาช่วยเก็บ” ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วรีบปึกกระดาษมาไว้กับตัวเอง ช้อนสายตามองคนที่สูงกว่าไม่มากแล้วก็ส่งยิ้มให้อีกที คริสที่ได้รอยยิ้มเต็มๆก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันควัน

    “ครบเปล่าก็ไม่รู้นะ” คริสพูดตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ มือไม้พอว่างแล้วก็เก้งกางไปหมดไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหนดี ก็เลยได้แต่เกาคอแก้เขิน พอมายืนใกล้ๆกันแล้วหัวใจจะวายเถอะ!

    “ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ต้องขอบคุณจริงๆ” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มให้อีกที ยิ้มหวานฉ่ำจนคนมองจะเป็นลม เห็นพี่เงียบๆ นิ่งๆนี่ปากคอสั่นอยู่นะครับ!!

    “มะ... ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง” ใจมันบอกว่าให้ตะโกนพูดคำที่ฝึกซ้อมออกมาดังๆเลย ไหนๆก็มีโอกาสแล้ว โอกาสที่จะได้ใกล้กันก็ไม่มีมีมาบ่อยๆหรอกนะ ใจน่ะมันตะโกนบอกรักจนกระชากมากอดแล้ว แต่ตัวจริงน่ะยืนอ้าปากพะงาบๆอยู่เนี่ย

    “คือ..” คริสเกาต้นคอแก้เขินแล้วเหลือบสายตามองสบกับดวงตากลมนั้น พอสบตากันก็เบนหนี ไม่กล้าสบตาด้วยเลยจริงๆให้ตายเถอะ

    “หื้ม?” ชานยอลที่ไม่เห็นว่าคนเรียกรั้งจะพูดอะไรต่อก็เลิกคิ้วขึ้นรอฟัง

    “เอ่อ...” คริสประหม่า เกาหู เกาหัว เกาแขนไปทั่ว ยุกยิกอยู่ไม่สุข

    “หื้อ??” 

    “คิดว่า..” 

    “ว่า?”

    “คือแบบ.....”

    “ถ้านายไม่พูดฉันจะไปแล้วนะ”

    “เฮ้ยเดี๋ยวก่อนๆ” ชานยอลขยับเบี่ยงตัวจะเดิน แต่คริสกางแขนปิดทางไม่ให้เดินหนีไปไหน ชานยอลกอดอกมองคนตัวสูงกว่าตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    “มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะ ฉันรีบ” 

    “ก็ขอทำใจก่อนได้ปะวะ จะบอกมาให้บอกรักปาวๆเนี่ยมันเขินนะเฮ้ย!” คริสขยี้ผมตัวองอย่างหัวเสีย พอหันมองคนตรงหน้าก็ได้แต่ทำหน้างงว่าชานยอลยิ้มทำไม ยิ้มอะไร แต่ยิ้มแล้วโลกสดใสน่าดูเลย~

    “อะไรอ่ะ?” ยังมาทำเป็นงงอีก

    “พูดอีกทีดิ” คริสทำหน้างง ชานยอลยกยิ้มกว้าง แก้มขาวก็แดงเรื่อ

    “พูดอะไร”

    “ก็ที่บอกว่ารักไงเล่า!” คริสช็อคตาตั้งไปแล้วครับพี่น้อง



    ~# เอาไงกันดีล่ะกับหัวใจ เอาไงกันดีล่ะกับความรัก 
    เธอทำให้ใจมันต้องคิดหนัก แพ้เต็มๆพูดตรงๆ
    ใจมันตะโกนว่ามันชอบเธอ พอเจอจริงๆได้แต่ยืนงง 
    ให้ทำยังไงใจมันถึงปลง หลงรักเธอจริงๆ #~



    “อะไร! ไหน! เปล๊า!!!” เสียงสูงผิดคีย์พร้อมกับส่ายหน้า โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน

    “ไม่พูดเหรอ? งั้นฉันพูดเองก็ได้ ........................... ฉันก็รักนายเหมือนกัน” สิ้นประโยคคริสทำตาโต ตกใจ ปากคอสั่น หัวใจก็สั่นระรัวแทบจะหลุดออกมาหน้าอกด้วย

    “เฮ้ยได้ไงอ่ะ! นี่รักก่อนนะ ไม่เคยบอกใครเลยด้วยรุ้ได้ไงแล้วจะมารักได้ไงอ่ะ!” ชานยอลหัวเราะแล้วยักไหล่ใส่เหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่น่าตกใจอะไร แต่สำหรับคนฟังนี่โคตรจะใหญ่เลยให้ตายเถอะวะ! ใจเต้นจนมันจะทะลุออกมาแด๊นซ์ข้างนอกแล้วเนี่ย!!

    “ไม่รู้เหรอ? นี่อ่อยมาตั้งนานแล้วนะ”



    ~# หลงรักเธอจนหมดใจ #~












    FIN


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×