ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Episode 2 : Who are you? – Epilogue
ไม่ชอบแนวนี้กันหรอ? ว๊าาาา เราชอบนะ ถนัดแต่งแนวนี้ซะด้วยสิ คิๆๆ อย่าเผลอแล้วกัน มันจะกลับมาอีก!!! คิๆๆๆๆ
เราว่าทุกคำถามในหัว ถ้าอ่านตอนนี้น่าจะตอบคำถามได้หมดนะ แต่ถ้ายังสงสัยกันอยู่ ... เราคงแต่งไม่ดีเอง OTL
ไว้จะแต่งแนวนี้บ่อยๆนะ ทุกคนจะได้ชิน 555555555555555
_____________________________
ครูอนุบาล... ดูท่าจะเป็นสายงานที่เหมาะกับเด็กไฮเปอร์อย่าง ปาร์คชานยอล มากที่สุด และดีที่เจ้าตัวเลือกเรียนศึกษาศาสตร์เอกการปฐมวัยศึกษา เจ้าตัวเป็นคนชอบเด็กและแน่นอนชานยอลก็คือเด็กดื้อคนหนึ่งแม้ว่าจะโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วก็ตาม รุ่นพี่ทั้งหลายทั้งในคณะและนอกคณะต่างก็ชอบชานยอลกันทั้งนั้น ด้วยเพราะบุคลิกที่ร่าเริงและสดใสนั่น ใครๆก็อยากอยู่ใกล้....
“แล้วแกจะไปฝึกงานที่ไหนวะไอ้ชานยอล?” อยู่ๆเพื่อนรักในกลุ่มก็ถามขึ้นมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาจากกองหนังสือวรณคดีที่ต้องเตรียมอ่านสอบ
“ยังไม่รู้เลยแต่รุ่นพี่ซุกแจกับรุ่นพี่ลีอินบอกว่าจะช่วยหาให้ เห็นบอกว่าจะให้เข้าไปอบรมกับวิชาชีพกับรุ่นพี่ยองซูอ่ะ” ชานยอลเอนหัวไปมาอย่างไม่ยี่หระแต่ไอ้เพื่อนรักสองคนกลับอยากจะยกหนังสือฟาดหน้าที่สุด
“แล้วแกจะเป็นครูอนุบาลจริงป่ะ? ดีๆจะได้เอาลูกไปฝากเรียน” แล้วก็หัวเราะเสียยกใหญ่ ชานยอลเองก็หัวเราะตามไปด้วย
“เอามาเลยๆ ฉันจะดูแลลูกแกอย่างดีเลยไอ้เซฮุน ลูกแกด้วยนะไอ้หมาแบค” ทั้งสองหรี่ตามองคนที่นั่งหัวเราะร่า
“แน่ใจเหรอว่าแกดูแลเด็กได้” แบคฮยอนเอ่ยปากถาม คนโดนถามก็ยู่หน้ามองเพื่อนรักทั้งสองอย่างขัดใจ
“โห้ย~ ได้ดิ สบายๆ จิ๊บๆ” แบคฮยอนกับเซฮุนมองหน้ากันก่อนที่จะก้มหน้าลงอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อไป พยอนแบคฮยอนที่เลือกเรียนเอกวรรณคดี กับ โอเซฮุนที่เลือกเรียนบริหารธุรกิจ ทั้งสามเป็นเพื่อนที่รักกันมาก แม้จะอยู่กันคนละคณะแต่ก็มักจะนัดเจอกันบ่อยๆ
ชานยอลนี่งมองนั่นนี่ไปเรื่อยเพราะตนนั้นสอบเสร็จหมดแล้ว แต่วันนี้ที่มามหาวิทยาลัยก็เพราะมารอเพื่อนรักทั้งสองสอบแล้วจะไปฉลองสอบเสร็จกัน ใบหน้าน่ารักมักจะมีรอยยิ้มเสมอ ทำให้บรรยากาศรอบตัวของชานยอลนั้นสดใสและสว่างเสมอ จนใครหลายคนมักจะเข้ามาห้อมล้อมขอแบ่งปันแสงสว่างที่แสนจะอบอุ่นนั้น คนตัวสูงยาวนั่งยิ้มกวาดมองไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจอะไร ถ้ามีใครเข้ามาทักชานยอลก็ทักกลับ เสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์กอปรกับรอยยิ้มที่แสนสว่างไสว ทำให้ใครที่พบเห็นหลงรักและมัวเมากับทั้งสองสิ่งนั้นได้ไม่ยาก
คืนนี้ทั้งสามเลือกที่จะมาปล่อยทุกข์และเก็บเกี่ยวความสุขกันที่ผับของรุ่นพี่ที่เซฮุนรู้จัก จะว่าไปทุกคนไม่มีคนไหนที่ไม่รู้จักสามคนนี้หรอก ชานยอล เซฮุน แบคฮยอน สามแสงสว่างแห่งมหาวิทยาลัยโซล
ทั้งสามเพียงแค่นั่งจิบค็อกเทลชิวๆอยู่ในมุมส่วนตัวในโซนวีไอพีบนชั้นสอง ชั้นนี้เป็นชั้นสำหรับแขกคนพิเศษและแน่นอนเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ทั้งสามนั่งคุยกันไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างมากนัก และอีกอย่างชั้นบนก็ปรับระดับความสว่างไว้ที่แค่สลัวๆเท่านั้น ชานยอลส่งเสียงหัวเราะดัง ใบหน้าหวานยิ้มกว้างพร้อมกับปรบมือถูกใจกับเรื่องที่เพื่อนรักเล่า หัวคิ้วขมวดมุ่นเมื่ออยู่ๆเซฮุนก็เล่นมุกแต่มันไม่ขำ อากัปกิริยาทั้งหมดเหล่านั้นถูกสายตาคมคู่หนึ่งจับจ้องอยู่นานแล้ว แต่จะว่าไปก็จับจ้องมาตั้งแต่ทั้งสามคนเดินเข้าประตูมาตั้งแต่แรกแล้ว
ไม่ว่าชานยอลจะทำอะไร จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไร ยกแก้วขึ้นจิบบ่อยครั้งแค่ไหนสายตาคู่คมนี้ก็จับจ้องและจดจำทุกกริยาท่าทางไว้ได้หมด ร่างสูงยาวในสายตาลุกขึ้นและหมายว่าคงจะไปเข้าห้องน้ำ นั่นล่ะที่คนแอบมองจึงลุกเดินตามไปด้วย ชานยอลเดินเข้าห้องน้ำไปส่วนคนที่เดินตามก็ทำแค่ยืนพิงกรอบประตูนอกห้องน้ำไว้ เพียงไม่นานชานยอลก็เดินออกมาคนน่ารักตกใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอกับชายร่างสูง ที่ดูว่าจะสูงกว่าตนนิดหน่อยยืนพิงกรอบประตูล้วงกระเป๋ากางเกงหันมองมาที่ตน ชานยอลส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ก็ส่งยิ้มบางๆกลับมาเช่นกัน
“ชื่ออะไร” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถาม ชานยอลยิ้มกว้างๆแม้จะมองใบหน้าของคนถามไม่ค่อยชัดก็ตาม
“ชานยอล เร็วๆง่วงแล้ว!!!!” เสียงตะโกนเรียกจากแบคฮยอนดังสอดขึ้นมาก่อนที่ชานยอลจะได้เอ่ยอะไรออกไป
“นั่นล่ะชื่อผม ปาร์คชานยอลครับ ขอตัวก่อนนะครับ” แล้วกายบางก็หมุนตัวเดินกลับไปหาเพื่อนรักที่ยืนรอหน้ามุ่ยเสียแล้ว
“หึ...ปาร์คชานยอล เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีก”
และก็จริงดังว่าการอบรมวิชาชีพนั้นทั้งสองได้เจอกันอีกจริงๆ แต่ชานยอลกลับจำคนตรงหน้าไม่ได้ซึ่งต่างจากคนตรงหน้าที่จำชานยอลได้ขึ้นใจ ใบหน้าน่ารักเอียงคอมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายมายืนขวางหน้าตนทำไม กลีบปากอิ่มวาดรอยยิ้มเมื่อใครอีกคนส่งขนมมาให้ ชานยอลก้มหัวแล้วขอบคุณเบาๆก่อนจะรับมา ชานยอลเหลือบมองคนตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะก้มลงซ่อนแก้มแดงๆของตัวเอง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงใจเต้นและรู้สึกประหม่า ชานยอลคนเก่งไปไหนเสียแล้วนะ
“ผมชื่อคริสนะ” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังคงส่งยิ้มมาให้ ผมสีทองสว่างรับกับใบหน้าหล่อคมขาวนวล กลีบปากบางสีสดที่ส่งรอยยิ้มมาให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นระส่ำ
“ปาร์คชานยอลครับ” และทั้งคู่ก็ได้เริ่มรู้จักกัน...
ตลอดการนั่งฟังบรรยายในช่วงเช้านั้นคริสก็เลือกที่จะนั่งข้างชานยอล และแน่นอนเจ้าตัวดีก็ยอมเสียด้วย บ่อยครั้งที่หลังมือสัมผัสกันและชานยอลก็จะก้มหน้าหลบสายตาคมที่มองมาเสียทุกที ก้อนเนื้อในอกมันเต้นวูบไหว ใจหนึ่งก็ชอบสายตาคมที่หยั่งลึกไม่ถึงที่มองจ้องมา แต่อีกใจกลับบอกว่ามันอันตรายเกินกว่าที่จะเข้าใกล้ แต่แค่ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มบางมาให้เพียงแค่นี้หัวใจที่ตั้งป้อมไว้ก็พังลงไปกว่าครึ่ง
ช่วงมื้อเที่ยงคริสก็อาสาที่จะไปรับกล่องข้าวมาให้แม้ว่าชานยอลจะปฏิเสธแต่ทว่าสายตาคมที่มองจ้องมาก็ต้องยอมหยุดปฏิเสธและนั่งรอตามที่ชายหนุ่มบอก จะว่าดีใจก็ใช่ที่มีคนมาคอยตามเอาใจ จะว่าแปลกใจก็ไม่เชิงเพราะไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้ให้ และแน่นอนเพิ่งจะรู้จักกันมาตามเอาใจแบบนี้มันก็ผิดวิสัยไปเสียหน่อย
การอบรมวิชาชีพนั้นต้องใช้เวลาอบรมหนึ่งสัปดาห์โดยที่นั่งฟังบรรยายงานในช่วงเช้าสามวัน และต่อด้วยการลงไปดูงานที่โรงเรียนอนุบาลต้นแบบอีกสี่วันก่อนที่จะกลับมาสอบข้อเขียนเพื่อให้ผ่านเกณฑ์เข้ารับการบรรจุเป็นครูสอน แน่นอนที่คริสจะต้องตามติดชานยอลไม่ห่าง และก็เช่นเดียวกับทุกวันที่จะตามไปส่งถึงบ้าน
“ขอบคุณนะที่มาส่ง จริงๆแล้วไม่ต้องมาส่งก็ได้นะลำบากคริสเปล่าๆ” ชานยอลส่งยิ้มให้คนที่ยืนอยู่นอกรั้วบ้าน ชายหนุ่มเพียงแค่ยกยิ้มบางๆก่อนจะเอื้อมมือออกไปสัมผัสไล้ที่แก้มใสเบาๆ ชานยอลชินเสียแล้วล่ะที่ชายหนุ่มมักชอบลูบแก้ม จับมือหรือบางทีก็แตะเอว
“ไม่เป็นไร ขอแค่ให้ฉันเห็นว่านายกลับถึงบ้านปลอดภัยก็พอแล้ว” แค่เพียงประโยคสั้นๆแต่ก็ทำให้แก้มขาวแดงเรื่อขึ้นทันที ชานยอลก้าวออกมาจากประตูบ้านก่อนจะเงยหน้าขึ้นฝากสัมผัสเบาๆไว้ที่แก้มของคนมาส่ง นิสัยนี้เวลาที่ใครทำอะไรให้ชานยอลถูกใจเด็กหนุ่มก็จะมอบสิ่งตอบแทนให้ แน่นอนไม่มีใครรู้นอกจากเพื่อนรักแล้วก็พวกรุ่นพี่สายรหัส และตอนนี้คนตรงหน้าก็รับรู้แล้ว
“ขอบคุณครับ กลับดีๆนะ” เอ่ยเร็วๆก่อนจะหันหลังกลับเข้าบ้าน ทิ้งให้คนมาส่งยังคงยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน
ชานยอลเป็นแสงสว่างที่อบอุ่น เมื่อใครอยู่ใกล้และได้รับแสงสว่างนั้นแล้วก็จะรักและหลงใหลมัวเมาในแสงสว่างที่แสนจะจ้าตานั้น ...ทุกราย...
“ก็แล้วทำไมต้องมาอยู่ด้วยกันด้วยล่ะ!” ชานยอลแว้ดขึ้นมาหลังจากที่รับรู้ว่าตนกับชายหนุ่มข้างกายนี้สอบผ่านการเป็นครู และแน่นอนที่จะต้องทำงานที่เดียวกัน คริสหันมองคนข้างกายก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“นายไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ?” ใบหน้าหวานมุ่ยทันที อยู่ด้วยกันมันก็ดีแต่ว่าแล้วที่บ้านเขาล่ะ? เขาไม่อยากย้ายออกจากบ้านหรอกนะ
“ก็อยาก แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เมื่อสนิทกันแล้ว ได้รับความไว้วางใจแล้วชานยอลก็สามารถที่จะแสดงนิสัยดื้อๆและขี้อ้อนออกมาได้จนหมดเปลือก แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้ว่าอะไรแถมยังชอบเสียอีก
“ถ้าอย่างนั้นไปช่วยดูบ้านที่ฉันเช่าไว้หน่อยได้ไหม?” ชานยอลหันมองหน้าคริสก่อนจะทำตาโต
“เห?? นายย้ายออกจากหอพักแล้วหรอ?” ชานยอลไม่เคยได้ไปที่พักของคริสเลย แต่เจ้าตัวบอกว่านอนอยู่ที่หอพักแชร์กับคนอื่นจึงไม่สะดวกที่จะให้เขาไปดังนั้นคริสเลยมานั่งๆ นอนๆที่บ้านของชานยอลแทน
“อื้อ มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่แล้วน่ะ พอดีว่าไปเจอบ้านที่เขาเปิดให้เช่าน่ะเป็นบ้านหลังเล็กที่อยู่ในบริเวณบ้านเขา ราคาถูกดีฉันก็เลยย้ายออกมา” ชานยอลพยักหน้ารับฟังคำบรรยายแสนยืดยาวนั้นก่อนที่จะยิ้มกว้างโชว์เรียวฟันสวย
“ก็ดีสิ จะได้ไปนอนค้างด้วยได้” แล้วก็หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ คริสเพียงยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่มเท่านั้น ชานยอลมองไม่เห็นดวงตาคมที่ทอแววต่างจากทุกครั้ง ชานยอลไม่รู้ตัวเลยว่าตนนั้นกำลังก้าวเท้าลงบ่วงที่รัดแน่นของคริส .... และมันจะไม่มีวันยอมคลายออก
“มาสิ มานอนด้วยกันทุกคืนก็ได้ ... ไม่ต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันก็ได้” ชานยอลเอียงคอทำท่าครุ่นคิดก่อนที่จะยิ้มกว้างๆแล้วตอบตกลง เพียงแค่นี้ชายหนุ่มก็รวบคนข้างกายมากอด ... ใบหน้าคมที่ดูใจดีและอบอุ่นอยู่เสมอนั้นกลับนิ่งสงบและกลีบปากได้รูปก็วาดรอยยิ้มเย็นๆก่อนที่จะกดจูบที่ไหล่บางเบาๆ
...จำเอาไว้ชานยอล นายเป็นของฉัน ฉันจะค่อยๆทำให้นายขาดฉันไม่ได้เอง นายจะเป็นฝ่ายเรียกร้องฉันเอง...
คนเราน่ะแค่มองหน้าก็ไม่รู้ใจ .... ถ้าอยากรู้ถึงความในก็ลองควักหัวใจออกมาดูสิ
เราว่าทุกคำถามในหัว ถ้าอ่านตอนนี้น่าจะตอบคำถามได้หมดนะ แต่ถ้ายังสงสัยกันอยู่ ... เราคงแต่งไม่ดีเอง OTL
ไว้จะแต่งแนวนี้บ่อยๆนะ ทุกคนจะได้ชิน 555555555555555
_____________________________
ครูอนุบาล... ดูท่าจะเป็นสายงานที่เหมาะกับเด็กไฮเปอร์อย่าง ปาร์คชานยอล มากที่สุด และดีที่เจ้าตัวเลือกเรียนศึกษาศาสตร์เอกการปฐมวัยศึกษา เจ้าตัวเป็นคนชอบเด็กและแน่นอนชานยอลก็คือเด็กดื้อคนหนึ่งแม้ว่าจะโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วก็ตาม รุ่นพี่ทั้งหลายทั้งในคณะและนอกคณะต่างก็ชอบชานยอลกันทั้งนั้น ด้วยเพราะบุคลิกที่ร่าเริงและสดใสนั่น ใครๆก็อยากอยู่ใกล้....
“แล้วแกจะไปฝึกงานที่ไหนวะไอ้ชานยอล?” อยู่ๆเพื่อนรักในกลุ่มก็ถามขึ้นมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาจากกองหนังสือวรณคดีที่ต้องเตรียมอ่านสอบ
“ยังไม่รู้เลยแต่รุ่นพี่ซุกแจกับรุ่นพี่ลีอินบอกว่าจะช่วยหาให้ เห็นบอกว่าจะให้เข้าไปอบรมกับวิชาชีพกับรุ่นพี่ยองซูอ่ะ” ชานยอลเอนหัวไปมาอย่างไม่ยี่หระแต่ไอ้เพื่อนรักสองคนกลับอยากจะยกหนังสือฟาดหน้าที่สุด
“แล้วแกจะเป็นครูอนุบาลจริงป่ะ? ดีๆจะได้เอาลูกไปฝากเรียน” แล้วก็หัวเราะเสียยกใหญ่ ชานยอลเองก็หัวเราะตามไปด้วย
“เอามาเลยๆ ฉันจะดูแลลูกแกอย่างดีเลยไอ้เซฮุน ลูกแกด้วยนะไอ้หมาแบค” ทั้งสองหรี่ตามองคนที่นั่งหัวเราะร่า
“แน่ใจเหรอว่าแกดูแลเด็กได้” แบคฮยอนเอ่ยปากถาม คนโดนถามก็ยู่หน้ามองเพื่อนรักทั้งสองอย่างขัดใจ
“โห้ย~ ได้ดิ สบายๆ จิ๊บๆ” แบคฮยอนกับเซฮุนมองหน้ากันก่อนที่จะก้มหน้าลงอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อไป พยอนแบคฮยอนที่เลือกเรียนเอกวรรณคดี กับ โอเซฮุนที่เลือกเรียนบริหารธุรกิจ ทั้งสามเป็นเพื่อนที่รักกันมาก แม้จะอยู่กันคนละคณะแต่ก็มักจะนัดเจอกันบ่อยๆ
ชานยอลนี่งมองนั่นนี่ไปเรื่อยเพราะตนนั้นสอบเสร็จหมดแล้ว แต่วันนี้ที่มามหาวิทยาลัยก็เพราะมารอเพื่อนรักทั้งสองสอบแล้วจะไปฉลองสอบเสร็จกัน ใบหน้าน่ารักมักจะมีรอยยิ้มเสมอ ทำให้บรรยากาศรอบตัวของชานยอลนั้นสดใสและสว่างเสมอ จนใครหลายคนมักจะเข้ามาห้อมล้อมขอแบ่งปันแสงสว่างที่แสนจะอบอุ่นนั้น คนตัวสูงยาวนั่งยิ้มกวาดมองไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจอะไร ถ้ามีใครเข้ามาทักชานยอลก็ทักกลับ เสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์กอปรกับรอยยิ้มที่แสนสว่างไสว ทำให้ใครที่พบเห็นหลงรักและมัวเมากับทั้งสองสิ่งนั้นได้ไม่ยาก
คืนนี้ทั้งสามเลือกที่จะมาปล่อยทุกข์และเก็บเกี่ยวความสุขกันที่ผับของรุ่นพี่ที่เซฮุนรู้จัก จะว่าไปทุกคนไม่มีคนไหนที่ไม่รู้จักสามคนนี้หรอก ชานยอล เซฮุน แบคฮยอน สามแสงสว่างแห่งมหาวิทยาลัยโซล
ทั้งสามเพียงแค่นั่งจิบค็อกเทลชิวๆอยู่ในมุมส่วนตัวในโซนวีไอพีบนชั้นสอง ชั้นนี้เป็นชั้นสำหรับแขกคนพิเศษและแน่นอนเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ทั้งสามนั่งคุยกันไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างมากนัก และอีกอย่างชั้นบนก็ปรับระดับความสว่างไว้ที่แค่สลัวๆเท่านั้น ชานยอลส่งเสียงหัวเราะดัง ใบหน้าหวานยิ้มกว้างพร้อมกับปรบมือถูกใจกับเรื่องที่เพื่อนรักเล่า หัวคิ้วขมวดมุ่นเมื่ออยู่ๆเซฮุนก็เล่นมุกแต่มันไม่ขำ อากัปกิริยาทั้งหมดเหล่านั้นถูกสายตาคมคู่หนึ่งจับจ้องอยู่นานแล้ว แต่จะว่าไปก็จับจ้องมาตั้งแต่ทั้งสามคนเดินเข้าประตูมาตั้งแต่แรกแล้ว
ไม่ว่าชานยอลจะทำอะไร จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไร ยกแก้วขึ้นจิบบ่อยครั้งแค่ไหนสายตาคู่คมนี้ก็จับจ้องและจดจำทุกกริยาท่าทางไว้ได้หมด ร่างสูงยาวในสายตาลุกขึ้นและหมายว่าคงจะไปเข้าห้องน้ำ นั่นล่ะที่คนแอบมองจึงลุกเดินตามไปด้วย ชานยอลเดินเข้าห้องน้ำไปส่วนคนที่เดินตามก็ทำแค่ยืนพิงกรอบประตูนอกห้องน้ำไว้ เพียงไม่นานชานยอลก็เดินออกมาคนน่ารักตกใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอกับชายร่างสูง ที่ดูว่าจะสูงกว่าตนนิดหน่อยยืนพิงกรอบประตูล้วงกระเป๋ากางเกงหันมองมาที่ตน ชานยอลส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ก็ส่งยิ้มบางๆกลับมาเช่นกัน
“ชื่ออะไร” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถาม ชานยอลยิ้มกว้างๆแม้จะมองใบหน้าของคนถามไม่ค่อยชัดก็ตาม
“ชานยอล เร็วๆง่วงแล้ว!!!!” เสียงตะโกนเรียกจากแบคฮยอนดังสอดขึ้นมาก่อนที่ชานยอลจะได้เอ่ยอะไรออกไป
“นั่นล่ะชื่อผม ปาร์คชานยอลครับ ขอตัวก่อนนะครับ” แล้วกายบางก็หมุนตัวเดินกลับไปหาเพื่อนรักที่ยืนรอหน้ามุ่ยเสียแล้ว
“หึ...ปาร์คชานยอล เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีก”
และก็จริงดังว่าการอบรมวิชาชีพนั้นทั้งสองได้เจอกันอีกจริงๆ แต่ชานยอลกลับจำคนตรงหน้าไม่ได้ซึ่งต่างจากคนตรงหน้าที่จำชานยอลได้ขึ้นใจ ใบหน้าน่ารักเอียงคอมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายมายืนขวางหน้าตนทำไม กลีบปากอิ่มวาดรอยยิ้มเมื่อใครอีกคนส่งขนมมาให้ ชานยอลก้มหัวแล้วขอบคุณเบาๆก่อนจะรับมา ชานยอลเหลือบมองคนตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะก้มลงซ่อนแก้มแดงๆของตัวเอง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงใจเต้นและรู้สึกประหม่า ชานยอลคนเก่งไปไหนเสียแล้วนะ
“ผมชื่อคริสนะ” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังคงส่งยิ้มมาให้ ผมสีทองสว่างรับกับใบหน้าหล่อคมขาวนวล กลีบปากบางสีสดที่ส่งรอยยิ้มมาให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นระส่ำ
“ปาร์คชานยอลครับ” และทั้งคู่ก็ได้เริ่มรู้จักกัน...
ตลอดการนั่งฟังบรรยายในช่วงเช้านั้นคริสก็เลือกที่จะนั่งข้างชานยอล และแน่นอนเจ้าตัวดีก็ยอมเสียด้วย บ่อยครั้งที่หลังมือสัมผัสกันและชานยอลก็จะก้มหน้าหลบสายตาคมที่มองมาเสียทุกที ก้อนเนื้อในอกมันเต้นวูบไหว ใจหนึ่งก็ชอบสายตาคมที่หยั่งลึกไม่ถึงที่มองจ้องมา แต่อีกใจกลับบอกว่ามันอันตรายเกินกว่าที่จะเข้าใกล้ แต่แค่ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มบางมาให้เพียงแค่นี้หัวใจที่ตั้งป้อมไว้ก็พังลงไปกว่าครึ่ง
ช่วงมื้อเที่ยงคริสก็อาสาที่จะไปรับกล่องข้าวมาให้แม้ว่าชานยอลจะปฏิเสธแต่ทว่าสายตาคมที่มองจ้องมาก็ต้องยอมหยุดปฏิเสธและนั่งรอตามที่ชายหนุ่มบอก จะว่าดีใจก็ใช่ที่มีคนมาคอยตามเอาใจ จะว่าแปลกใจก็ไม่เชิงเพราะไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้ให้ และแน่นอนเพิ่งจะรู้จักกันมาตามเอาใจแบบนี้มันก็ผิดวิสัยไปเสียหน่อย
การอบรมวิชาชีพนั้นต้องใช้เวลาอบรมหนึ่งสัปดาห์โดยที่นั่งฟังบรรยายงานในช่วงเช้าสามวัน และต่อด้วยการลงไปดูงานที่โรงเรียนอนุบาลต้นแบบอีกสี่วันก่อนที่จะกลับมาสอบข้อเขียนเพื่อให้ผ่านเกณฑ์เข้ารับการบรรจุเป็นครูสอน แน่นอนที่คริสจะต้องตามติดชานยอลไม่ห่าง และก็เช่นเดียวกับทุกวันที่จะตามไปส่งถึงบ้าน
“ขอบคุณนะที่มาส่ง จริงๆแล้วไม่ต้องมาส่งก็ได้นะลำบากคริสเปล่าๆ” ชานยอลส่งยิ้มให้คนที่ยืนอยู่นอกรั้วบ้าน ชายหนุ่มเพียงแค่ยกยิ้มบางๆก่อนจะเอื้อมมือออกไปสัมผัสไล้ที่แก้มใสเบาๆ ชานยอลชินเสียแล้วล่ะที่ชายหนุ่มมักชอบลูบแก้ม จับมือหรือบางทีก็แตะเอว
“ไม่เป็นไร ขอแค่ให้ฉันเห็นว่านายกลับถึงบ้านปลอดภัยก็พอแล้ว” แค่เพียงประโยคสั้นๆแต่ก็ทำให้แก้มขาวแดงเรื่อขึ้นทันที ชานยอลก้าวออกมาจากประตูบ้านก่อนจะเงยหน้าขึ้นฝากสัมผัสเบาๆไว้ที่แก้มของคนมาส่ง นิสัยนี้เวลาที่ใครทำอะไรให้ชานยอลถูกใจเด็กหนุ่มก็จะมอบสิ่งตอบแทนให้ แน่นอนไม่มีใครรู้นอกจากเพื่อนรักแล้วก็พวกรุ่นพี่สายรหัส และตอนนี้คนตรงหน้าก็รับรู้แล้ว
“ขอบคุณครับ กลับดีๆนะ” เอ่ยเร็วๆก่อนจะหันหลังกลับเข้าบ้าน ทิ้งให้คนมาส่งยังคงยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน
ชานยอลเป็นแสงสว่างที่อบอุ่น เมื่อใครอยู่ใกล้และได้รับแสงสว่างนั้นแล้วก็จะรักและหลงใหลมัวเมาในแสงสว่างที่แสนจะจ้าตานั้น ...ทุกราย...
“ก็แล้วทำไมต้องมาอยู่ด้วยกันด้วยล่ะ!” ชานยอลแว้ดขึ้นมาหลังจากที่รับรู้ว่าตนกับชายหนุ่มข้างกายนี้สอบผ่านการเป็นครู และแน่นอนที่จะต้องทำงานที่เดียวกัน คริสหันมองคนข้างกายก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“นายไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ?” ใบหน้าหวานมุ่ยทันที อยู่ด้วยกันมันก็ดีแต่ว่าแล้วที่บ้านเขาล่ะ? เขาไม่อยากย้ายออกจากบ้านหรอกนะ
“ก็อยาก แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เมื่อสนิทกันแล้ว ได้รับความไว้วางใจแล้วชานยอลก็สามารถที่จะแสดงนิสัยดื้อๆและขี้อ้อนออกมาได้จนหมดเปลือก แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้ว่าอะไรแถมยังชอบเสียอีก
“ถ้าอย่างนั้นไปช่วยดูบ้านที่ฉันเช่าไว้หน่อยได้ไหม?” ชานยอลหันมองหน้าคริสก่อนจะทำตาโต
“เห?? นายย้ายออกจากหอพักแล้วหรอ?” ชานยอลไม่เคยได้ไปที่พักของคริสเลย แต่เจ้าตัวบอกว่านอนอยู่ที่หอพักแชร์กับคนอื่นจึงไม่สะดวกที่จะให้เขาไปดังนั้นคริสเลยมานั่งๆ นอนๆที่บ้านของชานยอลแทน
“อื้อ มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่แล้วน่ะ พอดีว่าไปเจอบ้านที่เขาเปิดให้เช่าน่ะเป็นบ้านหลังเล็กที่อยู่ในบริเวณบ้านเขา ราคาถูกดีฉันก็เลยย้ายออกมา” ชานยอลพยักหน้ารับฟังคำบรรยายแสนยืดยาวนั้นก่อนที่จะยิ้มกว้างโชว์เรียวฟันสวย
“ก็ดีสิ จะได้ไปนอนค้างด้วยได้” แล้วก็หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ คริสเพียงยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่มเท่านั้น ชานยอลมองไม่เห็นดวงตาคมที่ทอแววต่างจากทุกครั้ง ชานยอลไม่รู้ตัวเลยว่าตนนั้นกำลังก้าวเท้าลงบ่วงที่รัดแน่นของคริส .... และมันจะไม่มีวันยอมคลายออก
“มาสิ มานอนด้วยกันทุกคืนก็ได้ ... ไม่ต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันก็ได้” ชานยอลเอียงคอทำท่าครุ่นคิดก่อนที่จะยิ้มกว้างๆแล้วตอบตกลง เพียงแค่นี้ชายหนุ่มก็รวบคนข้างกายมากอด ... ใบหน้าคมที่ดูใจดีและอบอุ่นอยู่เสมอนั้นกลับนิ่งสงบและกลีบปากได้รูปก็วาดรอยยิ้มเย็นๆก่อนที่จะกดจูบที่ไหล่บางเบาๆ
...จำเอาไว้ชานยอล นายเป็นของฉัน ฉันจะค่อยๆทำให้นายขาดฉันไม่ได้เอง นายจะเป็นฝ่ายเรียกร้องฉันเอง...
คนเราน่ะแค่มองหน้าก็ไม่รู้ใจ .... ถ้าอยากรู้ถึงความในก็ลองควักหัวใจออกมาดูสิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น