ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] BaekDo Ft. KaiChen, KrisYeol - The Rules of Love

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 : Rule 05 ห้ามเมากลับห้อง

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 57


    ทำไมมีแต่คนเสียใจ(?)กับพี่พยอนงี้อ่ะ พี่พยอนอย่าร้อง 555555555 พี่พยอนยังจำเป็นกับเรื่องนี้อยู่นะ #ขรรมกลิ้ง
     
    ทุกคนที่รอรวมเล่ม รอก่อนนะเรากำลังหัวหดก้นขวิดเหมือนเดิม แหะๆ เจอกันเดือนนี้แหละแต่ตอนไหนไม่รู้นะ เดี๋ยวมาแจ้งนะจ๊ะ #เอคโค่ไปสามล้านแปดแสนสี่หมื่นที
     
    ถึงคุณ BB412
    ไม่เป็นไรค่ะ แค่ชอบก็พอแล้ว ~  จริงๆที่มันมีหลายอารมณืเพราะคนเขียนหลายอารมณ์ค่ะ 55555555555
    นี่ก็ไม่ได้อยากบอกว่าแอบเอาความคิดและนิสัยตัวเองลงไปอยู่นะและเราคิดว่าถ้าคนที่จะปราบพวกเล่นๆแบบพี่พยอน(ในเรื่อง) มันต้องเป็นแบบนี้!! น้องคยองสำหรับเราก็เลยไม่ใสโลกสวยค่ะ 5555555
     
    อากาศร้อนๆก็อย่าร้อนตามอากาศเนอะ กินน้ำเย็นดับความร้อนในร่างจะได้เย็นๆ ด้วยรักและห่วงใย ไอห่วงยูและห่วงใยนะจ๊ะ *สาดจูบ*
     
     
     
     
    _________________________________
     
     
     
     
     
    และแล้วการสอบไฟนอลที่แสนจะทรหดก็ผ่านพ้นไป!!! และแน่นอนว่าถ้าสอบเสร็จมันก้ต้องมีการฉลอง!! พวกรุ่นพี่ในสายรหัสก็พารุ่นน้องไปเลี้ยงฉลองกัน  ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ได้กินฟรีแต่มันอยู่ที่ต้องแยกกันไปน่ะสิเพราะทั้งหกคนไม่ได้อยู่ในสายเดียวกันและทั้งสองสายก็ไม่ได้สนิทกันที่จะไปฉลองด้วยกันเสียด้วยสิ
     
    แบคฮยอน จงอินกับจงแดเป็นสายเดียวกันก็เลยได้ไปด้วยกัน ส่วนคยองซู คริสกับชานยอลอยู่กับอีกก๊วน หนึ่ง ทีนี้คนที่ต้องแยกกันอย่างแบคฮยอนกับคยองซูก็จะเป็นจะตายเอา.. คนที่จะตายน่ะมีแค่แบคฮยอนคนเดียวนั่นแหละที่ทำท่าจะโวยวายอยากจะให้คนตัวเล็กไปด้วย คือนี่มันแค่การไปกินเลี้ยงฉลองไม่ได้ไปท่องแดนเนรมิตสักหน่อย พี่จงอินล่ะเพลียจริง
     
    “อะไรเนี่ย นี่ก็ไม่ได้จะหายไปเลยไหมนี่ก็แค่ไปกินเลี้ยงเถอะ” คยองซูที่ทนไม่ไหวกับไอ้คนที่ทำท่าจะเป็นจะตายก็มองค้อนเข้าใส่ แบคฮยอนยู่ปากใส่แล้วก็กอดแขนคยองซูไม่ปล่อย
     
    “ก็คิดถึงนิ ต้องคิดถึงมากแน่ๆเลยอ่ะ” คยองซูก็เลยตอบรับความคิดถึงของแบคฮยอนด้วยการเขกหัวหนึ่งโป๊กทำเอาพี่พยอนร้องลั่นรีบกุมหัวตัวเองให้ไวเลย กล้วมีต่ออีกสักสองโป๊กน่ะสิ
     
    “ประสาทแล้วเดี๋ยวก็ต้องกลับไปเจอกันที่ห้องอีกอยู่ดี ไปได้แล้วเดี๋ยวก็ไปสายโดนพี่เขาซ่อมเอานะ” คยองซูยิ้มแล้วยื่นมือไปตีมือของแบคฮยอนที่กุมหัวอยู่เบาๆ
     
    “ก็ได้ ที่รักห้ามเมานะจำได้ใช่ป่ะ” คยองซูยิ้มแล้วพยักหน้า แบคฮยอนก็เลยยิ้มบ้าง
     
    “บอกตัวเองก่อนเถอะก่อนที่จะมาบอกคนอื่นน่ะ” แบคฮยอนทำหน้าตกใจแล้วยกมือกุมที่หัวใจทำหน้าตาเจ็บปวดจวนเจียนใกล้ตาย
     
    “พูดแบบนี้เอามีดมาปักอกพี่เถอะ” คยองซูหัวเราะแล้วชี้หน้าใส่
     
    “รอกลับห้องก่อนนะ” แบคฮยอนมุ่ยหน้าใส่
     
    “โธ่ที่รักใจร้ายจัง” คยองซูหัวเราะแล้วก็จับมือของแบคฮยอนไว้
     
    “รีบๆกลับมานะจะรอที่ห้อง” แบคฮยอนยิ้มแล้วยื่นมืออีกข้างไปแตะแก้มของคนตัวเล็กไว้
     
    “รู้แล้วครับ” ทั้งสองยิ้มให้กัน.. แต่พวกมึงช่วยดูนิดว่าพวกกูยืนรอนานจนตะคริวจะกินทั้งขาแล้วเนี่ย
     
    “พวกมึงจะลากันอีกนานไหมวะห๊ะ!” ชานยอลที่ยืนเท้าเอววีนเข้าให้ ประเด็นคือชานยอลกำลังหิวข้าวมากๆ
     
    “ใช่สิ มึงกับผัวมึงไม่ได้จากกันไปไหนไกลๆนิ” ชานยอลกรอกตา
     
    “อย่ามาดราม่า นี่แค่ไปกินข้าวไม่ได้พาไอ้คยองซูไปขายมาเลย์โอเครู้เรื่องนะ จบ!!” ชานยอลเดินไปคว้ามือเพื่อนตัวเล็กแล้วก็ลากขึ้นรถไปเลยเพราะทางนี้มีรถของคริสไง ส่วนอีกฝั่งก็โบก935ไปเอง
     
    “ดูแลคยองซูดีๆนะเว๊ย!!” แบคฮยอนตะโกนบอก คยองซูหันไปมองแล้วก็หัวเราะ ชานยอลหันไปชูนิ้วกลางให้ซะเลย ประสาทจริงวุ้ยไอ้หมากระเป๋า!!
     
    “มึงน่ะมาได้แล้วกูรอนานแล้ว กว่าจะโบกแท็กซี่ได้อีกเดี๋ยวแม่งก็ส่งรถๆเดี๋ยวกูจะให้มึงไปส่งรถเป็นเพื่อนแม่งเลย” จงแดเดินไปคว้าคอแบคฮยอนแล้วลากให้ออกไปหน้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน
     
    “เดี๋ยวยาใจของพี่นั่งรอก็ได้นะเดี๋ยวพี่จงอินจะโบกแท็กซี่ให้เอง” จงอินยิ้มกว้างแล้วตบอกตัวเอง
     
    “ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง” จงแดหันไปยิ้มให้ จงอินก็เลยดีใจหูหางกระดิกใหญ่ แบคฮยอนที่เดินอยู่ข้างๆก็ได้แต่กรอกตาไปมา ก็แหงล่ะเห็นพวกมันหวานกันสองคนแล้วเหนื่อยและเพลีย เห็นแล้วคิดถึงคนตัวเล็กๆเลยอ่ะ ฮือ..
     
    “เฮ้ยระวัง!!” แบคฮยอนผลักจงแดที่เดินอยู่ตรงกลางไปอีกด้านก่อนที่รถจักรยานจะวิ่งฝ่ามาทางนี้ จงอินดึงตัวจงแดมากอดไว้แน่น
     
    “มึงขับยังไงไม่ดูคนวะ ฟุตบาทบ้านมึงเขามีไว้ขับจักรยานเหรอห๊ะ!!” แบคฮยอนหันไปตะโกนด่าแต่รถจักรยานคันนั้นก็ไม่ยอมหยุดซ้ำยังจะหันมามองกวนตีนใส่อีกแน่ะ จงอินปล่อยจงแดแล้ววิ่งตามไปถีบรถให้ล้ม ดีกรีนักฟุตบอลเก่าวิ่งตามจักรยานน่ะจิ๊บๆ
     
    “จงอินหยุด!!” พอจงอินถีบทั้งรถทั้งคนล้มแล้วก็จะกระทืบซ้ำอีก ทั้งจงอินกับแบคฮยอนก็รีบเข้าไปห้ามทันที ไม่ห้ามยังไงไหวก็นั่นมันคู่อริของจงอินนะเว๊ย!!
     
    “จงอินหยุด พอได้แล้ว!” จงแดกอดแขนจงอินแล้วลากให้ถอยออกมา แบคฮยอนก็พยายามจะลากออกมาด้วย
     
    “ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!” จงอินทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะยอมเดินตามที่จงแดและแบคฮยอนลากออกมา เพราะถ้าไม่ลากออกมาสาบานว่าจงอินจะกระทืบซ้ำมันแน่ๆ
     
    แบคฮยอนเป็นคนยืนรอโบกแท็กซี่ให้เองแล้วให้จงแดยืนกอดแขนจงอินไว้กลัวว่ามันจะไปกระทืบซ้ำเอาน่ะสิ ขึ้นชื่อว่าคู่อริต่อให้อยู่ที่ไหนก็สามารถซัดกันได้อยู่ดีอ่ะ ไม่เกี่ยงสถานที่และเวลา พอรถแท็กซี่จอด(รับสักที)แบคฮยอนก็ขึ้นไปก่อนตามด้วยจงแดและจงอิน บรรยากาศในรถก็เย็นดีอยู่หรอกแต่ขอพี่พยอนบอกไว้เลยนะว่าข้างๆเขานี่มาคุสุดๆ
     
    ไอ้จงอินที่เคยยิ้มหน้าระรื่นเอาแต่เต๊าะน้องจงแดยาใจของมันก็นั่งเงียบ คาดว่าอารมณ์ยังคงกรุ่นๆอยู่ จงแดก็เอาแต่นั่งเงียบเหมือนกัน เฮ้อ.. ไม่ชอบแบบนี้เลยว่ะ พี่พยอนก็เลยหยิบมือถือมานั่งกดแชทหาคนตัวเล็กดีกว่า มันก็ดีกว่าให้อยู่กับมุมมืดๆที่บรรยากาศมาคุแบบนี้น่ะนะ
     
    “มึงไม่น่าไปทำแบบนั้นเลยนะ” จงแดพูดขึ้นเบาๆแต่ด้วยพื้นที่จำกัดและในรถเงียบๆแบบนี้ก็เลยได้ยินชัดเจน แบบนี้พี่พยอนก็ต้องรายงานให้อีกกลุ่มรู้สินะ
     
    “ก็ถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วถ้ามันขับรถมาชนมึงล่ะ กูปกป้องมึงไม่ดีใจหรือไง” จงแดยิ้มแล้วสอดมือจับกับจงอินไว คนที่นั่งเท้าขอบกระจกรถมองออกไปนอกหน้าต่างรถก็ยิ้มออกมา
     
    “ดีใจสิ แต่อย่าใจร้อนอีกนะถ้ามันเป็นอะไรมากกว่านั้นมึงนั่นแหละที่จะแย่เอา” จงอินกระชับมือที่จับกับจงแดแล้วก็หันหน้ากลับมามอง
     
    “ไม่เป็นไรหรอกแค่ยาใจของพี่จงอินไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว” จงแดฟาดขาจงอินแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย จงอินคนเสี่ยวคนเดิมก็กลับมานั่งเต๊าะงุ๊งงิ๊งกันไป
     
    “พวกแม่งนี่จริงๆเลย” แบคฮยอนบ่นเบาๆแล้วก็กดพิมพ์แชทยิกๆ ทุกคำพูดทุกการกระทำประหนึ่งถ่ายวีดีโอให้ดูเองเลย พอไม่อยู่กับคนตัวเล็กแล้วก็เป็นแบบนี้อ่ะ ไม่มีใครให้อ้อนเลยอ่ะ พอหันไปมองไอ้จงอินกับจงแดที่นั่งงุ๊งงิ๊งมุ้งมิ้งกันแล้วก็หมั่นไส้อยากจะเอาน้ำสาดเหลือเกิน
     
    ไม่นานทั้งงสามคนก็มาถึงหน้าร้าน ร้านนี้เป็นร้านที่ไม่ค่อยใหญ่มากแต่บรรยากาศดีใช้ได้เลย พวกก๊วนรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนๆกันเหมาโซนในร้านก็ออกมารับน้องกันใหญ่ สรวลเสเฮฮากันตามสบาย ร้านนี้มีดนตรีสดด้วยแต่คงเป็นช่วงค่ำๆ ตอนนี้ยังเย็นอยู่ก็นั่งฟังดนตรีจากลำโพงไปก่อนก็แล้วกัน แบคฮยอน จงอินกับจงแดนั่งโต๊ะเดียวกับพวกรุ่นพี่ที่เป็นสายรหัสที่จัดการสั่งอาหารมาเพิ่มให้น้องเป็นการใหญ่
     
    แบคฮยอนมองอาหารตรงหน้าแล้วก็คิดถึงคนตัวเล็ก... ก็นั่นอ่ะคนตัวเล็กชอบนะ!! โอ๊ยคิดถึงไม่ไหวแล้วว่ะกูกลับเลยได้ไหมเนี่ย!!
     
     
     
    “ไอ้แบคฮยอนแม่งก็ประสาท แค่นี้เองคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกหรือไง ตลกว่ะไม่ได้จะพาไปชำแหละขายไตนะเว๊ย” ชานยอลก็ยังบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่นั่น คยองซูที่โดนลากแขนไปก็ได้แต่ยิ้มนิดๆ
     
    “แล้วถ้าชานยอลต้องห่างจากคริสล่ะ” ชานยอลหันมาเชิดหน้าใส่
     
    “รู้ไว้เลยว่าไม่มีทางห่าง” คยองซูจิกสายตาใส่ คริสที่เดินอยู่ใกล้ๆก็กอดคอคยองซูไว้
     
    “เอาน่าอย่าไปสนใจเลย สงสัยจะหิวข้าวมากจนใกล้เพี้ยนล่ะ” ชานยอลหันมาแทบอยากจะสกายคิกใส่ คยองซูยกมุมปากขึ้นยิ้มนิดหน่อย
     
    “ใช่เซะ! เห็นเมียน้อยดีกว่าเมียหลวงไง!!” คริสหัวเราะแล้วยื่นมือไปขยี้หัวชานยอลก่อนที่จะเดินอ้อมไปปลดล็อครถแล้วก็เปิดประตูให้ด้วยทั้งหน้าทั้งหลัง
     
    “ถ้าเมียหลวงดีเขาจะมีเมียน้อยทำไม” แรง!!! โดคยองซูแรงไป!!!!
     
    “เดี๋ยวแช่งให้ไอ้เตี้ยมีเมียใหม่เลยนิ” คยองซูก็แค่ยักไหล่แบบไม่สนใจก็แค่นั้น เรื่องแค่นี้จิ๊บๆยังไงโดคยองซูก็จัดการได้อยู่แล้ว
     
    “เอ้าขึ้นรถได้แล้วทั้งเมียหลวงทั้งเมียน้อยเลย” ชานยอลกับคยองซูหันมองเชิดใส่คริสที่ยืนกลั้นหัวเราะอยู่หลังประตูรถก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถกันโดยที่มีคริสเป็นคนปิดประตูให้
     
    พอขึ้นรถกันมาได้คริสกับชานยอลก็คุยกันสองคนอยู่ด้านหน้า คยองซูก็นั่งพิงหัวกับกระจกมองด้านนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ ไม่อยากจะฟังหรอกว่าไอ้สองคนข้างหน้าคุยอะไรกัน ขออยู่คนเดียวดีกว่าบางทีอาจจะได้จรรโลงใจอะไรมากกว่าการที่นั่งฟังคริสและชานยอลคุยกัน
     
    เพื่อนรักกันคยองซูก็ดีใจแต่บางทีก็เบื่อไงต้องมานั่งฟังอะไรทุกวัน แต่ถ้าเทียบที่คริสกับชานยอลคุยกันก็ยังไม่หวานเลี่ยนเสี่ยวจ๋าเหมือนจงอินกับจงแดหรอกนะ รายนั้นน่ะเต๊าะเอาจริงเอาจังเอาใจเพื่อนเขาไปเลย แต่สองคนหน้าน่ะเหมือนพวกอยู่กินกันหลังแต่งงานเตรียมพร้อมมีลูกอะไรเทือกๆนั้นนั่นแหละ
     
    “หื้ม?” คยองหยิบมือถือออกมาดูก็เห็นว่าใครบางคนส่งข้อความมาหา
     
    แบคฮยอนเล่าว่าในรถคันนั้นจงอินกับจงแดกำลังงอนกันด้วยเรื่องคู่อริของจงแดที่จะขับรถจักรยานมาชนแล้วจงอินก็ไปถีบรถเขาแล้วก็จะกระทืบเขาอีกแต่จงอินกับจงแดก็เคลียร์กันได้แล้ว พอดีกันได้ก็นั่งคุยงุ๊งงิ๊งกันสองคนประหนึ่งโลกนี้มีแค่เราสองคนอีกแล้ว
     
    คยองซูหัวเราะเบาๆแล้วก็กดพิมพ์แชทคุยกับนักข่าวรายงานสถานการณ์เด็ดไปเรื่อยๆ แบคฮยอนส่งข้อความมาบอกว่าคิดถึง คยองซูก็ระบายยิ้มแล้วกดพิมพ์ตอบข้อความ ชานยอลที่มองกระจกมองหลังก็ยกยิ้ม ไอ้ที่นั่งก้มหน้ากดยิกๆนั่นน่ะก็คงจะคุยกับไอ้หมากระเป๋าล่ะสิ ห่างกันไม่ได้เลยนะหมั่นไส้ขั้นสุด!
     
    เมื่อขับมาถึงร้านคริสก็ไปจอดรถที่ลานจอดรถหลังร้านจากนั้นก็พาชานยอลกับคยองซูเข้ามาในร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงาม รุ่นพี่สายรหัสก็ออกมารับน้องแล้วพาไปนั่งโต๊ะที่จัดไว้รออยู่แล้ว ร้านนี้เป็นร้านของพี่สายรหัสของชานยอลที่เพิ่งเปิดร้านอาหารก็เลยปิดร้านเลี้ยงน้องในสายและให้เพื่อนๆมาเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกัน
     
    “โห้ยเฮียร้านสวยนะเนี่ย~ ไม่คิดว่าเฮียจะเปิดร้านจริงๆ” ชานยอลเอ่ยทักพี่รหัสของตัวเอง
     
    “ก็ไม่คิดหรอกแต่พี่สาวเฮียเขาอยากทำแล้วไง เป็นไงดีมะ” คำตอบก็เป้นรอยยิ้มและการพยักหน้าจากทั้งชานยอล คริสและคยองซู
     
    “ก็ดีนะเฮีย แต่เอาจริงไม่คิดว่าหน้าโหดๆอย่างเฮียจะมาเปิดร้านอาหารอ่ะ” แล้วชานยอลก็หลบกำปั้นที่จะเขกหัวไปซุกคริส คริสก็ยกมือกั้นหัวไว้ให้ ชานยอลมุ่ยหน้าใส่ก็พูดไม่ผิดอ่ะถ้าเดินผ่านไปผ่านมาก็คิดว่าเด็กคุมซุ้มมือปืนเลยอ่ะ
     
    “น้องคยองซูพี่ฝากหน่อยนะ มันเผลอเมื่อไหร่ฝากวางยาให้พี่ทีนะ” คยองซูยิ้ม
     
    “ได้ครับ” ชานยอลมองค้อนใส่ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ให้หมดเลย
     
    “แล้วไงกินข้าวก่อนแล้วกันนะไว้มืดๆหน่อยค่อยดริ๊งค์กัน” เมื่อทุกคนตอบตกลงรุ่นพี่ก็จัดการผละไปสั่งอาหารมาให้
     
    “คยองซูพวกนั้นถึงร้านแล้วใช่ป่ะ” คยองซูก็พยักหน้าตอบคริส เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้น
     
    “รู้ได้ไงอ่ะ ยังไม่เห็นโทรถามพวกนั้นเลย” คยองซูก้มหน้าหัวเราะเบาๆ ชานยอลแบะปากแล้วมองหางงตาใส่คนข้างตัว
     
    “คริสนี่ไม่รู้เรื่องเลยนะ พวกมันคุยกันมาตลอดทางเถอะ” ชานยอลทำเป็นกระซิบแต่ก็พูดเสียงเท่าเดิม
     
    “ชานยอลนี่ก็รู้ทุกเรื่องเลยนะ” คยองซูยกยิ้มมุมปากขึ้น ชานยอลกรอกตาไปมา
     
    “ไม่ได้หรอกตกข่าวเดี๋ยวเม้าท์ไม่รู้เรื่อง ว่าแต่ตอนนี้ความรักราบรื่นใช่ป่ะ” จากที่ค้อนเขาตาแทบถลนก็ยื่นหน้าเข้าไปแซวเขาเสียแล้ว
     
    “ก็ดี” ง่ายๆสั้นๆไม่เผยข้อมูลนี่แหละคยองซูกับชานยอล ชานยอลยิ้มกว้างแล้วพยักหน้า แหมเห็นแบบนี้ทั้งจงแดกับจงอินก็โทรมาเล่าให้ฟังเป็นพักๆหรอกน่า อย่าคิดว่าไม่ค่อยอยู่ด้วยแล้วจะไม่รู้ไม่เห็นอะไรนะ ปาร์คชานยอลต้องรู้ทุกเรื่อง!
     
    “รู้แล้วก็เขยิบมาเขาจะเสิร์ฟอาหารแล้ว” คริสรั้งคอชานยอลให้หลบพนักงานที่มาเสิร์ฟอาหารทางด้านของชานยอล 
     
    “บอกเฉยๆก็ได้ มากอดนี่อยากกอดกันอ๊ะดิ๊~” คริสยิ้มแล้วก้มลงกดจูบที่กระหม่อมของชานยอล
     
    “ทำนองนั้นมั้ง” แล้วชานยอลก็อิงหน้าพิงไหล่ของคริสซะเลย คยองซูที่มองอยู่ก็ถอนหายใจ... ชักจะคิดถึงคนตัวโตกว่าซะแล้วสิ นี่เราห่างกันครบหนึ่งชั่วโมงแล้วนะ
     
    คริสคอยดูแลทั้งชานยอลแล้วก็คยองซู คอยตักโน้นตักนี่ให้แล้วก็คอยถามไถ่ว่าอยากกินอะไรหรืออยากได้อะไรเพิ่มไหม คริสก็ยังเป็นผู้ชายที่แสนดีที่ดูแลทุกคนได้เสมอต้นเสมอปลาย ถ้าจะว่าไปคยองซูก็ได้รับความช่วยเหลือจากคริสไม่น้อยเหมือนกันนะ คริสน่ะอบอุ่น แสนดี เพอร์เฟ็กต์ซะขนาดนี้.. แต่ก็ไม่รู้สินะว่าทำไมโดคยองซูถึงได้แต่รักและคิดถึงแบคฮยอนคนเดียว
     
    เมื่อการนั่งกินข้าวสเต็ปแผ่วลงและเวลาก็เริ่มเข้าสู่ช่วงแดดล่มลมตก งานของมึนเมาต้องมา! โต๊ะของชานยอลอยากกินอะไรก็สั่งได้เลยไม่ต้องกลัวเจ้าภาพเจ๊ง นานๆจะได้น้องรหัสทั้งทีมันต้องทุ่มทุนกันหน่อย ชานยอลก็กลัวว่าพี่รหัสจะไม่เจ๊งจริงๆนั่นแหละก็สั่งมาซะเต็มโต๊ะเลย คยองซูเองก็แอบสั่งของชอบไปเหมือนกันแต่คริสก็ได้แต่นั่งเงียบๆ
     
    “คืนนี้เราจะกลับกันกี่โมงวะเนี่ย” ชานยอลมองขวดมากมายที่มาวางเสิร์ฟแล้วก็นะ คาดว่าคืนนี้คงมียาวทั้งคืน
     
    “ฉันกลับไม่ดึกนะ ว่าแต่คริสต้องขับรถไม่ใช่เหรอ” คยองซูยกแก้วขึ้นจิบ รสชาติขมไหลลงคอไปแต่ก็ไม่ได้ทำให้คยองซูมีอาการอะไรทั้งนั้น
     
    “ก็นั่นแหละ คงไม่ดื่มมากหรอกอยากกลับเมื่อไหร่ก็บอกเดี๋ยวพากลับเอง” คยองซูส่งยิ้มให้คริสบางๆอย่างขอบคุณซึ่งคริสก็ยิ้มตอบ
     
    “งั้นกูนอนนี่นะ” ชานยอลหันไปยิ้มกว้างเข้าอ้อน คยองซูหันหน้าหนีแล้วยกแก้วขึ้นจิบอีกสักรอบ เรื่องบ้านใครเขาจะไม่ยุ่ง
     
    “อยากตายก็ลอง” ชานยอลกรอกตาไปมา
     
    “เออๆแบกกูกลับด้วย คยองซูชน!” คยองซูหันไปชนแก้วกับชานยอลแล้วก็พากันกระดกหมดแก้ว คริสที่นั่งมองอยู่ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา มาดูกันว่าคืนนี้เขาต้องขนกลับกี่ศพกัน
     
     
    “เฮ้ยเบาเว๊ยมึง” ยิ่งดึกก็ยิ่งคึกและแน่นอนว่าพี่พยอนก็กระดกเสียหลักหมด จงอินก็เลยต้องปรามเพื่อนบ้างเพราะถ้ามันเมา เขาเมาและจงแดที่กำลังจะเมานี่เมาจริงๆ ใครจะหามใครกลับกันล่ะวะเนี่ย!
     
    “เออน่าไม่เมาหรอก” เออไม่เมา.. เมาไม่ได้ดิ ถ้าเมากลับห้องไปสงสัยจะโดนด่าหูชาแน่ๆ คยองซูน่ะเขาไม่ห่วงหรอกมีคริสยังไงคนตัวเล็กก็ไม่ได้เมาหรอกแต่ที่ห่วงน่ะตัวเองล้วนๆเลย
     
    “ยาใจของพี่เบาครับเบา เดี๋ยวก็เมากันพอดี” จงอินพยายามที่จะดึงแก้มออกจากมือของจงแดแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมยื้อแก้วจนจงอินต้องยอมปล่อยเพราะไม่งั้นล่ะก็ได้หกแน่ๆ เปล่าพี่จงอินไม่ได้เสียดายเหล้าที่หกแต่พี่จงอินไม่อยากให้ใครเห็นตอนที่ยาใจของพี่โดนเหล้าหกใส่ต่างหาก
     
    “อย่ายุ่งได้ไหม ไอ้แบคฮยอนชนแก้ว!” แล้วทั้งจงแดกับแบคฮยอนก็ชนแก้วกันใหญ่ จงอินก็ได้แต่นั่งมองดูท่าว่าวันนี้ยาใจของพี่จะกลายเป็นลำยองซะแล้วสิ
     
    “แล้ววันนี้จะกลับไหมล่ะห้องเนี่ย” แต่ดูจากทรงแล้วคาดว่าได้นอนกับที่นี่แหงๆพี่จงอินรับประกัน  จงแดหันมองจงอินด้วยหางตา
     
    “จะไม่กลับกับกูใช่ไหม จะไปหาผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม เออไปเลย!!” จงแดผลักจงอินแล้วก็หันกลับมาชงเหล้าแก้วใหม่แล้วกระดกทีเดียวหมดแก้วเลย
     
    “เอาแล้วงานเข้า” แบคฮยอนพูดเบาๆกับขอบแก้วแล้วก็ค่อยๆเทน้ำสีเหลืองทองลงคอไป อ๊า.. ชื่นใจ กินเหล้าหลังสอบนี่มันเด็ดจริงๆ นี่ถ้ามีสาวเชียร์เบียร์เป็นคนตัวเล็กๆ ตาโตๆด้วยแล้วนะจะยิ่งเด็ดกว่านี้อีก!
     
    “จะไปหาใครล่ะพี่จงอินมียาใจของพี่คนเดียวนะ” จงแดค้อนตาใส่ แบคฮยอนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เกาะสถานการณ์ทุกก้าว แหมก็อยากรู้ไงว่าหลังจากที่จงแดพลาดท่าเสียทีพี่จงอินคนเสี่ยวไปแล้วจะมีปฏิกิริยายังไงบ้าง
     
    “จริงๆนะ ทั้งหัวใจของพี่จงอินมีแต่น้องจงแดยาใจของพี่คนเดียวจริงๆ” จงแดวางแก้วลงกับโต๊ะแล้วก็หันไปหาจงอิน ทรงแบบนี้ ตาเยิ้มๆ ยิ้มหวานๆแบบนี้คิมจงแดเมาชัวร์ครับ!!
     
    “ถ้างั้นก็จะกลับกับกูใช่ป่ะ ไม่ไปกับคนอื่นใช่ป่ะ” 
     
    “แน่นอนครับ” จงอินยิ้มตอบ จงแดขยับตัวเข้ามาชิดแล้วซุกไหล่ของจงอินอย่างอ้อนๆ
     
    “ดีใจจัง” แล้วคนที่พูดว่าดีใจก็หลับไปเลย ปล่อยให้ไอ้คนที่กำลังปลื้นปริ่มนั่งกอดเอวยิ้มกว้างเป็นคนเสียสติไปสิ
     
    “แหมอารมณ์ดีขึ้นมาเชียวนะครับ” แบคฮยอนเอ่ยแซวแล้วทนไม่ไหวขอฮานามิเขวี้ยงใส่มันสักอันเถอะ! จงอินกระชับมือที่โอบเอวจงแด เอาจริงๆถ้าหน้าของจงอินแหกได้รอยยิ้มที่มันยิ้มคงแหกไปถึงหู
     
    “ก็มากอยู่อ่ะ เพิ่งเคยเห็นจงแดเมาแล้วหลุดก็วันนี้ล่ะ” เพราะปกติจงแดไม่ค่อยจะเมาแล้วหลุดแบบนี้ไงสงสัยเพราะสอบเสร็จแล้วก็เลยปล่อยผี
     
    “เออๆ หมั่นไส้จริง” แบคฮยอนกรอกตาแล้วหันมองไปที่อื่น อุแหม.. หญิงสาวๆรุ่นน้องนี่ก็แจ่มจรัสเพียบนะจ๊ะ~
     
    “ทำไมมึงไม่มีเรื่องดีใจหรือไง ก็เห็นอยู่กับคยองซูทีไรหูนี่กระดิกเชียว” แบคฮยอนหยิบขนมเขวี้ยงใส่จงอินอีกที จงอินหลบได้แต่มันก็ไปโดนจงแดที่หลับซบไหล่นี่ล่ะ
     
    “เดี๋ยวมึงจะโดนมาทำยาใจกู” จงอินปัดเศษขนมออกจากจงแด แบคฮยอนยกมือขอโทษขอโพย
     
    “กูไม่ใช่แมวนะเว๊ยจะมาหูกระดิกอะไร” แบคฮยอนขยับตัวไปชงเหล้าแก้วใหม่ แหมของฟรีมันก็ต้องเอาให้คุ้มแบบนี้ล่ะ
     
    “กูหมายถึงหมา” แบคฮยอนอยากจะเขวี้ยงที่คีบน้ำแข็งใส่เหลือเกินแต่กลัวว่าจะไปโดนจงแดเอาน่ะสิ ฝากไว้ก่อนเถอะมึงไอ้ดำ!
     
    “ก็มีอ่ะ ดีใจทุกวันอ่ะแหละแต่แบบบางทีก็รู้สึกแปลกๆ”
     
    “ทำไมวะปรึกษามาเลยพี่จงอินพร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่อง” จงอินยิ้มกว้างแล้วยักคิ้วให้ จริงๆคืออยากรู้ต่างหากจะได้เอาไปขยายต่อได้
     
    “ก็แบบ.. ไงดีวะ... บางทีก็รู้สึกเหมือนคยองซูไม่ได้ชอบกูอ่ะ บางทีก็เหมือนใช่” ขอพี่พยอนยกแก้วย้อมใจก่อน พูดรวดเดียวจบเลยนี่มันไม่ได้จริงๆ จงอินหรี่สายตามอง
     
    “มึงชอบคยองซูแล้วเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!” แบคฮยอนทำหน้าตกใจ
     
    “ก็ไม่ใช่แบบนั้นเว๊ย!! คือแบบเฮ้ยกูก็ชอบคยองซูนะเว๊ยก็เพื่อนนะเว๊ยแต่แบบสถานะอื่นนี่ยังไม่แน่ใจอ่ะ”
     
    “ยังไงวะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ คือชอบเขาแต่ไม่รู้ตัวว่าชอบว่างั้น” 
     
    “ไม่รู้ว่ะ เอาเป็นว่าเรื่องกูช่างมันแต่คยองซูอ่ะกูจะทำไงดีอ่ะ กูอยากรู้ว่าคยองซูชอบกูบ้างหรือเปล่าแค่นั้นแหละ” ยิ่งพูดเสียงพูดของแบคฮยอนก็ยิ่งเบาลง แหมนะแบบนี้พี่จงอินลงความเห็นได้เลยว่าไอ้หมากระเป๋าหลงรักน้องเพนกวินตาโตแน่ๆ เอาเกียรติของคนหน้าตาดีแฟนของน้องจงแดเป็นประกันเลย!
     
    “มึงก็ลองสังเกตดิ สังเกตดีๆเดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละ พี่จงอินบอกได้แค่นี้นะ” แบคฮยอนกรอกตาไปมาแล้วยกแก้วขึ้นกระดก นี่ตกลงคิดถูกไหมวะที่มาปรึกษามันเนี่ย!
     
    “นี่เที่ยงคืนกว่าแล้วนะกลับยังอ่ะ กูจะได้พาน้องจงแดไปนอนที่เตียงดีๆกูกลัวจงแดคอเคล็ด” จงอินประคองจงแดไว้ไม่ให้นอนหัวตก 
     
    “ห๊ะกี่โมงนะ!!” จงอินหันไปทำหน้าดุใส่ จะเสียงดังทำไมอยู่กันแค่นี้
     
    “เที่ยงคืนกว่าแล้ว”
     
    “ชิบหาย.. กลับครับกลับเลยครับ!” พอคิดถึงว่าจะได้เห็นคนตัวเล็กถือมีดรออยู่ที่ห้องพี่พยอนก็สยองแล้ว!!
     
    “เออกลับก็กลับ เดี๋ยวกูให้เขาไปเรียกแท็กซี่ให้” แล้วจงอินก็หันไปบอกพนักงานให้เรียกแท็กซี่ให้
     
    แต่กว่าที่จะได้แท็กซี่ก็นานอยู่พอตัว เพราะแถวนี้มันเป็นสถานที่เที่ยวทั้งนั้น แบคฮยอนก็ได้ดื่มต่ออีกหลายแก้วเลย จงอินประคองจงแดให้เดินไปขึ้นรถส่วนแบคฮยอนก็เดินมึนๆตามมาเอง คิมจงอินรักเพื่อนมากกว่าเมียจริงๆให้ตายสิ
     
    จงอินให้จงแดเข้าไปนั่งด้านในส่วนตัวเองก็นั่งข้างๆเป็นหลักให้จงแดพิง แบคฮยอนก้าวขึ้นรถมาแล้วก็ปิดประตูเอียงหน้าซบกระจกแล้วก็หลับตาพักสายตาสักแปบ เพราะเริ่มรู้สึกมึนๆนี่ล่ะแต่บอกก่อนนะว่ายังไม่เมาอ่ะ! ไม่รู้ว่าคยองซูจะกลับหรือยังน้า.. คิดถึงคนตัวเล็กจังเลย
     
     
     
    “ลำบากหน่อยนะคริส” คยองซูพูดขำๆกับคริสที่ต้องให้ชานยอลขี่หลังมาที่รถ ก็เจ้าตัวโวยวายว่าจะขี่หลังไม่ยอมเดิมเองแล้วคนที่ตามใจชานยอลทุกอย่างอย่างคริสก็ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว คยองซูก็เลยต้องมาช่วยประคองด้วยกลัวมันจะโวยวายแล้วหงายหลังตกพื้น
     
    “ปกติอ่ะ แต่ที่ไม่ปกติก็มันเมานี่ล่ะ” คริสหัวเราะเบาๆแล้วจัดการปิดประตูรถฝั่งชานยอล
     
    “เดี๋ยวขับไปส่ง ว่าแต่กลับตอนนี้ไอ้แบคฮยอนมันจะกลับหรือยังน่ะ” คริสมองดูเวลาก็เห้นว่ามันเที่ยงคืนกว่าๆเข้าไปแล้ว
     
    “ไม่เป็นไรหรอกคืนนี้ไม่กลับเราก็โอเคนะ” แต่ขออย่างเดียวอย่าเมากลับมา โดคยองซูไม่ชอบคนขี้เมากลับมาเพราะมันเหมือนเป็นภาระให้โดยใช่เหตุ
     
    “ไปขึ้นรถเถอะเดี๋ยวมันจะดึกไปมากกว่านี้”
     
    คริสที่ดื่มไปสองแก้วทำหน้าที่ขับรถพาคยองซูมาส่งที่หอก่อนที่เขาจะได้พาชานยอลกลับบ้านไปนอนบ้าง คยองซูนั่งมือถือตัวเองที่มันนิ่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อเย็นแล้วก็ส่ายหน้าไปมา ถ้าวันนี้แบคฮยอนจะดื่มจนเมาแล้วกลับไม่ไหวไปนอนกับพวกรุ่นพี่ที่พักอยู่แถวนั้นเขาก็ไม่ว่าหรอกแต่ถ้าเจอในสภาพเมาแล้วเป็นภาระก็คงมีเจ็บ หวังว่าคงไม่ออกนอกลู่นอกทางไปไหนหรอกนะ ไม่งั้นล่ะก็พยอนแบคฮยอนได้ตายสมใจอยากแน่ๆ
     
    ไม่นานคริสก็มาส่งถึงหน้าหอ คยองซูเดินขึ้นหอมาคนเดียว บรรยากาศมันก็เงียบๆดี วังเวงนิดๆ น่ากลัวหน่อยๆแต่แค่นี้คยองซูไม่หวั่นหรอกน่า คยองซูหยุดยืนที่หน้าห้องแล้วล้วงมือเข้ากระเป๋าสะพายหากุญแจห้องมาไขห้อง ดูแล้วแบคฮยอนน่าจะยังไม่กลับมาแน่ๆ 
     
    แบคฮยอนที่เดินเซขึ้นมาก็เห็นคนตัวเล็กยืนอยู่หน้าห้องทีนี้ริมฝีปากพี่พยอนก็ยิ้มกว้างเชียว เอาน่าอย่างน้อยก็ไม่น่าจะดีหรอกนะ แบคฮยอนพยายามที่จะเดินตรงๆและเงียบที่สุดเข้าไปหา ในขณะที่คยองซูกำลังไขเปิดประตูและไม่รู้ตัวนั้น แบคฮยอนก็แทรกตัวเข้าห้องไปด้วยแล้วก็อ้อมแขนกอดคยองซูซะเต็มอ้อมแขนเลย
     
    “คิดถึงจังเลย~” ริมฝีปากร้อนแตะแต้มที่ลำคอ คยองซูได้กลิ่นจากตัวของแบคฮยอนก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าดื่มไปเยอะแค่ไหนแต่ก็ยังดีนะที่ครองสติได้อยู่
     
    “เมาเหรอ” 
     
    “ไม่ได้เมา นี่กลับมาเองนะมีสติอยู่เต็มร้อย” คยองซูยกยิ้มขำกับคนที่บอกว่ามีสติเต็มร้อย
     
    “ดื่มไปเยอะเลยสิ” แบคฮยอนที่ยังคงสาละวนกับการไล้สัมผัสลำคอขาวนั้นก็พยักหน้าตอบกลับ คยองซูฟาดแขนแบคฮยอนที่โอบเอวตัวเขาแรงๆ
     
    “ถอยออกไปก่อนจะปิดประตูห้อง กลัวไม่มีใครมาเห็นหรือไงห๊ะ”
     
    “ไม่เห็นต้องอายเลยน่า” แบคฮยอนหัวเราะแล้วใช้เท้ายื่นไปดันบานประตูห้องปิดก่อนที่จะเลื่อนมือไปลงกลอนประตู
     
    “แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว อืม.. คิดถึงจริงๆนะที่รักคิดถึงเขาไหม” แบคฮยอนขบเม้มทำรอยสีจางที่ลำคอขาวของคยองซู คนตัวเล็กค่อยๆหมุนตัวไปหาแบคฮยอนแล้วมองสบตาที่ดูจะฉ่ำปรอยเสียเหลือเกิน
     
    “คิดถึงมากที่สุดเลยล่ะ” คยองซูยกสองมือคล้องรอบคอของแบคฮยอนแล้วเอียงหน้าส่งยิ้มให้
     
    “ไม่มีที่รักอยู่ด้วยแล้วเหงาอ่ะ” แบคฮยอนรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาแนบชิดสัมผัสทุกส่วน คยองซูกระชับอ้อมแขนแล้วยิ้มกว้างก่อนที่จะโน้มคอของคนที่สูงกว่าให้ลงมาหา
     
    “เหงาเหมือนกัน” แล้วคยองซูก็ยื่นริมฝีปากไปทาบทับก่อนที่จะขยับป้อนจูบให้ แบคฮยอนรั้งคยองซูให้เข้ามาแนบสนิทขึ้นอีกแล้วกดจูบลึกๆให้ รสชาติขมปร่าที่ผสมอยู่ในบทจูบแสนหวานนั้นไม่ได้ตัดความวามไหวลงเลยสักนิด แบคฮยอนขยับส่วนที่แนบสัมผัสกันเบาๆ มือข้างหนึ่งที่โอบเอวเล็กก็ไล้เลื่อนลงไปลูบไล้สะโพกกลม
     
    “ไปที่เตียงนะ” แบคฮยอนละริมฝีปากออกแล้วกระซิบเสียงเบา คยองซูที่เหม็นกลิ่นที่ติดตัวทั้งของตัวเองและใครอีกคนอยากที่จะไปอาบน้ำมากกว่าแต่ก็ยอมพยักหน้าตกลงให้เพราะเห็นว่าวันนี้แบคฮยอนทำดีหรอกนะ
     
    “ก็ไปสิ” แบคฮยอนอุ้มคยองซูขึ้น สองขาเล็กเกี่ยวเอวของคนอุ้มไว้ ริมฝีปากบางกดซับจูบลงมาพร้อมกับก้าวเท้าเดินที่เตียงนอน เมื่อถึงที่เตียงนอนแล้วแบคฮยอนก็ปล่อยตัวคยองซูลงนอนที่เตียง
     
    “เขาจะทบต้นทบดอกให้ครบกับที่เราห่างกันหลายชั่วโมงเลย” คยองซูมองแบคฮยอนที่ถอยห่างออกไปเพียงสุดปลายลมหายใจแล้วก็แย้มยิ้มรูปหัวใจส่งให้
     
    “ก็เอาสิ ถึงเช้าก็ไหวนะ” แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นแล้วมองคนใต้ร่างที่ส่งยิ้มหวานๆมาให้
     
    “พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” คยองซูเอื้อมมือไปคว้าแบคฮยอนให้ก้มหน้าลงมารับจูบเป็นคำตอบ แล้วต่อจากนี้ถ้าแบคฮยอนจะทำอะไรคนตัวเล็กก็ตามใจทุกอย่าง จะไม่ขัดและไม่เล่นตัวเลย
     
    ก็ถ้าทำดียังไงคยองซูก็ให้รางวัลอยู่แล้ว ... แต่ถ้าทำไม่ดีมาล่ะก็ต้องลงโทษสถานหนัก!
     
    แต่วันนี้แบคฮยอนทำดีไม่ผิดกฎสักข้อเพราะฉะนั้นถ้าคยองซูจะให้รางวัลตอบแทนก็ไม่ผิดล่ะเนอะ .. จริงๆวันนี้ก็อนุโลมให้เองนั่นแหละ
     
     
    ...ก็คยองซูรักและคิดถึงแบคฮยอนใจจะขาดอยู่แล้วนินา...
     
     
     
     
    คยองซูจะรู้หรือเปล่านะว่าแบคฮยอนก็คิดถึงคยองซูใจจะขาดเหมือนกัน
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×