ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] KrisYeol : A Tale of Love [Kris x Chanyeol]

    ลำดับตอนที่ #10 : OS :: ความคิดถึง

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 59


    ตามชื่อตอนเลย เพราะคิดถึง OS เฉพาะกิจเลยมาไวมากกกกก #ไวแล้วเหรอ

    เพราะปีนี้จะต้องเป้นปีของคริสยอลแน่เบย เนี่ยๆ ฟินกันแต่ต้นปีเลย ><

    คริสยอลมันดีกับใจแม่ยกมากจริงๆ ~~~



    ปล. สวัสดีปีใหม่ย้อนหลัง 3วันนะคะ อิอิ




    ____________________________________





    ความคิดถึง .. ฆ่าคนตายได้ไหมนะ?

    “เฮ้อ..~~” ชานยอลถอนหายใจแล้วเกยคางวางไว้บนโต๊ะ สองมือก็แนบไปกับพื้นโต๊ะแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นสไลด์หน้าจอดูโซเซี่ยลเน็ตเวิร์คของตัวเองไปเรื่อยๆอย่างเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี

    ชานยอลละมือหนึ่งมาดึงหมวกฮู้ดให้ปิดหน้าตัวเองมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นคนอื่นๆในร้านกาแฟนั้นเริ่มหันมามองทางเขากันเยอะแล้ว กลัวว่าจะโดนจำได้นั่นแหละ เขายังไม่อยากโดนใครจับได้หรอกนะว่าแอบหนีพวกทีมงานมาเที่ยวเตร่น่ะ จะว่าไปจริงๆก็ไม่เตร่หรอก มานั่งแกร่วเสียมากกว่า

    ดวงตากลมเหลือบมองเวลาบนหน้าจอก่อนที่จะถอนหายใจอีกครั้ง นี่เขานั่งรอมาห้าสิบนาทีแล้วนะ กาแฟที่สั่งมานี่บอกเลยหมดแก้วไปแล้ว นี่ถ้าพนักงานมาไล่ให้ออกนอกร้านล่ะก็น่าดู!! ริมฝีปากอิ่มสีสดแบะออกแล้วมองจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนที่จะจิ้มปลายนิ้วลงกับหน้าจออย่างใส่อารมณ์ อยากจะให้มันสื่อถึงใครอีกคนเหลือเกิน

    “เฮ้อ..~~” ถ้าเขา(ใครก็ไม่รู้)ที่ว่ากันว่า ถอนหายใจหนึ่งครั้ง บั่นทอนอายุตัวเองไปหนึ่งปี ป่านนี้สงสัยชีวิตปาร์คชานยอลไม่น่าจะเหลือเลยให้ตายเถอะ

    “มาเร็วๆๆ มาเร็วๆสิ” ชานยอลเอียงหัวนอนทับแขนแล้วพองสองแก้มเป่าลมออกอย่างเบื่อหน่าย ปลายนิ้วก็กดเข้ากดออกหน้าจอหลักสลับกับโปรแกรมออนไลน์ทั้งหลาย เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี

    “คิดถึงจะแย่อยู่แล้วไม่รู้หรือไง” ถึงต่อจะให้นั่งรอเป็นวันอย่างน่าเบื่อหน่าย ชานยอลก็ยอมที่จะนั่งรออยู่ตรงนี้ไม่ยอมไปไหนจนกว่าที่เราจะได้เจอกัน นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน ต่อให้ต้องนั่งรอเป็นวันเพื่อเจอแค่นาทีเดียวปาร์คชานยอลก็ยอม

    ถึงจะดูเพ้อเจ้อไปหน่อยแต่มันก็คือเรื่องจริงนะ .......... แต่ตอนนี้ชักจะรอไม่ไหวแล้วนะ หิวข้าว!!!

    “จะไม่รอดีไหมนะ” อยากจะลุกออกจากร้านไปหาอะไรกินสักทีให้ตายเถอะ หิวจนจะแทะโต๊ะอยู่แล้วนะ

    “โอ๊ะ!!” แต่ทันทีที่เสียงข้อความแชทออนไลน์ดังขึ้นชานยอลก็รีบกระเด้งลุกขึ้นนั่งแล้วกระวีกระวาดเอาโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูว่าข้อความนั้นใครส่งมา

    ...โทษทีนะพี่อาจไปถึงช้าหน่อย...

    “ไม่บอกซะพรุ่งนี้เลยล่ะ” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สองมือที่พิมพ์ตอบไปนี่คนละทางกันเลย 

    ...รีบๆมานะหิวข้าวจะแย่...

    ไม่กล้าบอกหรอกว่าคิดถึง อยากเจอไวๆ ... ก็ไม่รู้ว่าอีกกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงที่อีกฝ่ายจะมาถึง ก็ได้แต่นั่งเท้าคางมือก็หยิบช้อนคนแก้วเปล่าเล่นไปมาฆ่าเวลา แล้วก็คิดในหัวว่าถ้าเจอกันจะทำยังไงดี 

    กระโดดกอด? ขี่หลัง? ข่วนหน้า? หรือต่อยสักทีดี?? แต่ถ้ารีบพาไปเลี้ยงข้าวล่ะก็จะยกโทษให้หมดเลย

    ก็นี่ล่ะปาร์คชานยอล…






    ชานยอลนั่งเท้าคางมองหน้าจอปัดไล่ผ่านแอพโซเซี่ยลไปเรื่อยๆจนไม่รู้เลยว่าตอนนี้ที่นอกกระจกร้านมีใครบางคนยืนกอดอกมองอยู่ ใบหน้าน่ารักมุ่ยหน้าบึนปากอยู่ใต้ฮู้ดใบใหญ่ดูน่ารักน่าชังเหมือนเดิม ริมฝีปากอิ่มบ่นงึมงำไม่แน่ใจว่าบ่นอะไรหรือด่าเขากันแน่ แต่ถ้าปล่อยให้รอนานกว่านี้น่าจะโดนบ่นอีกเยอะแน่ๆ

    คนที่กำลังนั่งบ่นสะดุ้งโหยงก็จู่ๆ อยู่ดีๆกระจกร้านที่อยู่ไม่ไกลก็ถูกเคาะดังตั้งหลายที พอหันไปมองริมฝีปากที่บึนออกและคิ้วที่ขมวดมุ่นก็คลายออกทันที ก็ไอ้ใบหน้าแบบนั้น แว่นดำอันนั้น ส่วนสูงเท่านั้น รอยยิ้มมุมปากและคิ้วที่เลิกขึ้นสูงแบบนี้ .. ก็มีอยู่คนเดียวนี่แหละ

    ชานยอลลุกขึ้นจากโต๊ะแล้ววิ่งออกนอกร้านไปหาใครอีกคนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว จากที่วิ่งอยู่ก็ผ่อนเท้าลงเหลือเป็นก้าวเท้ายาวๆเข้าไปหา พอใกล้จะถึงตัวก็โผเข้าไปกอดเขาที่อ้าแขนตอบรับรออยู่แล้ว กลิ่นแบบนี้ ใช่เลยไม่ผิดตัวแน่ๆ

    “โห้ยหิวข้าวชะมัด.. แต่ก็โคตรคิดถึงฮยองเลยอ่ะ” ชานยอลซุกอยู่ที่ไหล่แข็งแรงนั้น อ้อมแขนก็เหมือนเดิม ไหล่ที่เคยซุกก็เหมือนเดิม ความอบอุ่นก็เหมือนเดิม และก็เป็นคนเดิมอีกนั่นแหละที่ทำให้สบายใจได้ขนาดนี้

    “เออหิวแล้วก็ไป รอนานมากใช่ไหมเนี่ย” ชานยอลทำหน้ามุ่ยใส่ที่โดนฝ่ามือใหญ่ๆนั่นตบเข้าที่หัว ถึงจะเบาเหมือนหยอกเล่นก็เถอะแต่หลายทีจังแหะ ชานยอลผละตัวออกก่อนที่จะยกยิ้มแล้วยักคิ้วให้หลายจึก 

    “นานมากอ่ะ ขอค่ากาแฟคืนด้วยนะคริสฮยอง~” คริสหัวเราะในลำคอแล้วยื่นมือไปผลักหัวชานยอลเสียหนึ่งที

    “เออเดี๋ยวจะเลี้ยงดูอย่างดีเลย” ชานยอลยิ้มแล้วชี้นิ้วใส่คริสทำท่าว่าเยี่ยมมาก

    “ไปเหอะเดี๋ยวจะเย็นกว่านี้ ว่าแต่เป็นไงบ้าง” 

    เหมือนเปิดสวิตช์ปาร์คชานยอลช่างพูด เจ้าตัวก็พูดยาวเล่าเรื่องไปเรื่อยเปื่อย เป็นชานยอลนกแก้วเจื้อยแจ้วเลย คริสมองเด็กที่เดินนำอยู่ด้านหน้าสองก้าวแล้วก็เริ่มวาดรอยยิ้มบนใบหน้าอีกครั้ง อยู่ด้วยกันทีไรเป็นต้องฟังเสียงพูดมากของชานยอลอยู่ร่ำไป

    ถึงวันนี้จะเจอกันไม่ได้นานแต่เขาก็ยังเต็มใจที่จะฟังเจ้าเด็กนี่พูดเหมือนทุกๆครั้งที่เราได้อยู่ด้วยกัน นัยน์ตาคมมองเจ้าเด็กที่เดินไปก็เล่าเรื่องที่เจอมาอย่างออกรสออกชาติด้วยความเอ็นดู ชานยอลก็ยังคงเป็นชานยอลคนเดิมเสมอ ให้ตายเถอะคิดถึงเจ้าเด็กนี่ชะมัด

    “คิดถึง” ชานยอลที่กำลังเล่าเรื่องของตัวเองอยู่หยุดชะงัก ก็ใครใช้ให้น้ำเสียงทุ้มต่ำแบบนั้นเอ่ยคำนี้ขึ้นมากัน 

    “รู้แล้วหน่า ฮยองนี่ก็” คนที่เดินนำยังไม่ยอมหยุดเดิมแต่กลับยื่นมือไปด้านหลัง คริสมองฝ่ามือเล็กนั้นที่ยื่นมาหาแล้วก็ยิ้มกว้าง ก่อนที่จะเลื่อนมือไปจับแล้วก้าวยาวให้เดินขึ้นมาทันกัน

    “มากด้วยนะ” ก็ยังจะแกล้งเหย้าน้อง ชานยอลหันมาแบะปากใส่

    “รู้หน่า ผมก็คิดถึงฮยองมากเหมือนกันนั่นแหละ” คริสหัวเราะขำในลำคอแล้วก็กระชับมือที่เราจับกันอยู่นี้ก่อนที่จะพาเดินเคียงข้างกันไปตามถนน





    แค่ไม่กี่นาทีที่ได้เจอกันมันก็เพียงพอแล้ว ... ถึงแม้ว่ามันจะไม่พอเพียงกับความคิดถึงนี้ก็เถอะ












    FIN


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×