ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] KrisYeol : A Tale of Love [Kris x Chanyeol]

    ลำดับตอนที่ #1 : SF :: ไม่รู้ตัว

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 56


    HBD ค่ะ ชานยอลลลลลลลลลลลลล ♥  ถึงจะเลยเวลาไปนิดหน่อยก็เถอะ แต่ก็สุขสันต์วันเกิดค่ะ ^^

    ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังใหม่ของคริสยอลโดยเฉพาะค่ะ


    ขอให้ชานยอลสุขภาพแข็งแรงและเป็นที่รักของทุกคนนะคะ

    #นูนาจะป่วยให้เอง TT^TT



    _____________________________________







    คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกโรงเรียนจะมีรุ่นพี่สุดหล่อและสุดเก่ง โรงเรียนของชานยอลก็มี จะใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่รุ่นพี่คริสอู๋ หน้าตาก็หล่อ หุ่นก็สูงยาว เล่นบาสเก่งมาก แถมยังเคยแลกเปลี่ยนไปเรียนที่แคนนาดาอีก แบบนี้ไม่ให้ชานยอลรักได้ไงกันล่ะ!!
     
    เป็นกิจวัตรประจำวันที่ชานยอลจะมาแอบอยู่ข้างแสตนด์ดูพวกรุ่นพี่ชมรมบาสซ้อมเช้ากัน พยายามแอบให้มิดที่สุดเท่าที่จะมิดได้ ก็ไม่อยากให้ใครเห็นแล้วก็ไม่อยากให้ใครรู้ด้วยว่าปาร์คชานยอลแอบชอบรุ่นพี่คริส ก็รุ่นพี่คริสน่ะทั้งหน้าตาดีแล้วก็หล่อมาก ไหนจะยังเก่งไปสารพัดอีก ถ้าเทียบกับชานยอลล่ะก็.. ไม่ติดฝุ่นเลยล่ะ
     
    ชานยอลน่ะเรียนก็ไม่เก่ง ซ้ำยังคิดอะไรไม่ค่อยจะทันเขาอีก กีฬาก็ไม่เอาอ่าว เพื่อนๆก็ชอบว่าเขาทำหน้าเอ๋อ ไหนจะผมทรงหยิกหยอยที่แม่บอกว่าห้ามตัดอีก ชานยอลอยากจะร้องไห้ ถ้าชานยอลน่ารักกว่านี้ชานยอลจะไปบอกรักพี่คริสแล้วเถอะ แต่ไม่เห็นเป็นไรเลยยังไงชานยอลก็เป็นแฟนพี่คริส (แต่พี่คริสไม่ใช่แฟนชานยอล มันเจ็บตรงนี้)
     
    “อ๊ะ... รุ่นพี่เทาทำไมต้องใช้ศอกดันพี่คริสของชานยอลด้วยล่ะ” แอบบ่นพึมพำกับตัวเอง ไม่ต้องสนว่าจะมีใครมาได้ยินก็ตรงนี้มันไม่มีใครอยู่นิ แถมเป็นมุมอับสายตาอีกต่างหาก แต่ขอบอกเลยว่าเห็นพี่คริสชัดทุกช็อต!!
     
    “โอ๊ะ... เซฮุนส่งข้อความมา... รีบๆมาเข้าเรียนได้แล้วอาจารย์จะเข้าแล้ว... แย่แล้ว” ชานยอลมองเวลาบนหน้าจอมือถือแล้วก็ทำตาโตอย่างตกใจเลย ก็ใกล้จะได้เวลาเข้าวิชาโฮมรูมแล้วน่ะสิ ห้องของชานยอลอาจารย์ประจำชั้นมักจะเข้าไวเสมอ
     
    “พี่คริสชานยอลไปก่อนนะไว้ตอนเย็นจะมาหาใหม่” บอกกับเจ้าตัวไกลๆเรียบร้อยก็รีบหันหลังวิ่งออกประตูไปทันที ประตูเล็กที่ไม่มีใครใช้เข้าออกแต่ชานยอลมีกุญแจนะก็ขออาจารย์ซูโฮมา อาจารย์ที่ชานยอลสนิทสุดๆ แอบใช้ทริคนิดหน่อย.. จริงก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็ชานยอลโดนทำโทษให้ถูพื้นโรงยิมบ่อยน่ะสิก็เลยแอบขอกุญแจไว้ อาจารย์ซูโฮก็เลยให้กุญแจประตูเล็กมา 
     
    “มองอะไรวะ รีบๆมาดิไอ้คริส” ตอนที่วิ่งมาก็ได้ยินเสียงแว่วๆนะ พี่คริสมองอะไร มองใคร? อยากรู้นะแต่ไม่มีเวลาแล้ว ห้ามพี่คริสมองผู้หญิงคนอื่นนะ ใครก็ไม่ได้! ชานยอลหวง!!
     
    “ไงไปหาพี่คริสของแกอีกแล้วเหรอไอ้ชานยอล” พอชานยอลมุดหลังห้องเข้ามาได้ เซฮุนก็เอ่ยถามทันทีพร้อมด้วยสีหน้าเมื่อยๆอีกสักที
     
    “มันก็ไปหาทุกวันอ่ะเซฮุนจะถามทำไมล่ะน่ะ” จงแดที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมาหัวเราะซะตาหยีเลย
     
    “เราก็ต้องไปหาแฟนเราสิ” ชานยอลยิ้มกว้างใส่เพื่อน แต่เซฮุนทำแค่เหอะใส่กับจงแดที่หัวเราะใส่แบบไร้อารมณ์
     
    “แฟนแต่ในความคิดแกน่ะสิ ชอบเขาทำไมไม่เข้าไปบอกเขาวะมาตามเขาอยู่ได้สโตรกเกอร์เหรอ” ชานยอลยู่หน้าใส่
     
    “ก็ถ้ากล้าก็บอกไปแล้ว ไม่เห็นเหรอแฟนคลับพี่เขาเยอะจะตาย สวยๆทั้งนั้นฉันจะไปสู้อะไรคนอื่นเขาได้”
     
    “เอาหัวหยอยๆของแกไปสู้สิ” ชานยอลหันไปค้อนใส่แล้วก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยหน้าตาหงอยๆ
     
    “ใครจะกล้าสู้หน้าพี่เขาตรงๆได้กันเล่า แค่มองใกล้ๆยังเขินเลยถ้ามายืนต่อหน้าเป็นลมกันพอดี”
     
    “แล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้ตัวล่ะว่ามีสโตรกเกอร์ตามขนาดนี้น่ะ” เซฮุนหรี่สายตามอง ชานยอลบึนปากใส่แล้วก็ส่ายหน้า
     
    “ไม่ต้องให้รู้ก็ได้ ยังไงพี่คริสก็ไม่สนใจฉันอยู่แล้ว” ชานยอลบึนปากอย่างน้อยใจ เอาเถอะถึงตัวเขาจะไม่ได้เป็นแฟนพี่คริส แต่พี่คริสเป็นของชานยอลก็พอแล้ว แค่ในความคิดก็ดีแล้ว
     
     
     
    กว่าจะมื้อเที่ยงชานยอลที่ไม่ได้กินข้าวเช้าเพราะตื่นสายก็แทบจะหมดแรง ทั้งวิชาเลขเอย ประวัติศาสตร์เอย ภาษาอังกฤษเอย ปาร์คชานยอลอยากจะลาตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ชานยอลไม่เรื่องมากเรื่องของกินอยู่แล้ว เซฮุนที่โน้นไม่ได้ นี่ไม่ดีก็ตักให้ชานยอลไปซะครึ่งถาด แหม... ลาภปากแล้วล่ะ
     
    คาบบ่ายวันนี้มีศิลปะ เป็นวิชาที่ชานยอลชอบและถนัดที่สุดแล้ว นี่ขอบอกเลยว่าฝีมือการวาดรูปของชานยอลไม่เป็นสองรองใครหรอกนะ ในขณะที่กำลังกินข้าวอยู่นั้นอยู่จงแดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็สะกิดแขนชานยอลซะช้อนแทบร่วง
     
    “อะไรเนี่ยจงแด~”
     
    “พี่คริสของแกเดินมา!” แล้วทีนี้จะทำไงล่ะ ชานยอลก็ตัวแข็งเลยน่ะสิ ได้ยินเสียงทุ้มๆของพี่คริสเดินคุยกับเพื่อนเขาผ่านไป ดวงตากลมแอบเหลือบมองก็เห็นร่างสูงของพี่คริสกำลังยิ้มแล้วเดินผ่านโต๊ะเขาไป แค่นี้หัวใจของชานยอลก็แทบจะหยุดเต้นแล้วเนี่ย แอบเหลือบมองก็เห็นว่าพี่คริสกับเพื่อนเดินเลยไปนั่งโต๊ะห่างจากพวกตนไป 2โต๊ะ แล้วทำไมพี่คริสถึงนั่งหันหน้ามาทางนี้ล่ะ แถมยังจะมานั่งเยื้องกันอีก โอ๊ย!! ชานยอลจะเป็นลม!!
     
    “อย่าเป็นลมนะเว๊ย ไม่แบกนะบอกไว้ก่อน” เซฮุนหันมายกยิ้มล้อเลียน ชานยอลพองลมแล้วยู่หน้าใส่ซะเลย
     
    “เซฮุนใจร้ายยยย ย้ายที่กันหน่อยดินะ” เซฮุนแบะปากแล้วส่ายหน้า
     
    “กินๆเข้าไป” เซฮุนตักข้าวในถาดของชานยอลแล้วก็ยื่นช้อนไปหา ชานยอลบึนปากใส่แต่ก็ยอมอ้าปากรับข้าวที่เพื่อนป้อนให้
     
    “ก็ดีแล้วไง คิดซะว่าแกนั่งกินข้าวกับพี่เขาไงถึงจะห่างไปอีก 2โต๊ะก็เหอะ แหมแฟนกันกินข้าวด้วยกันไม่แปลกนะ” จงแดเอ่ยแซวพร้อมกับช้อนในมือที่โบกไปมาตั้งใจจะยั่วเย้าชานยอลให้อาย
     
    “อ๊ะ.. ใครส่งอะไรมา” ชานยอลหยิบมือถือออกมาแล้วก็หัวเราะเพราะพี่ชายส่งไลน์มาหา แถมแนบรูปมาให้ดูด้วยว่ากำลังกินข้าว ชานยอลก็เลยถ่ายบ้าง คาบช้อนแล้วทำแก้มป่องกดถ่ายเสร็จก็ให้เซฮุนกับจงแดดูก่อนที่จะกดส่งหาพี่ชาย
     
    “จงแดพี่อยากคุยด้วย นิสัยอ่ะ” แล้วชานยอลก็ยื่นมือถือตัวเองให้เพื่อนแล้วก็ทำแก้มป่องงอนใส่เพื่อนซะเลย เจ้าของมือถือก็เลยนั่งเท้าคางทำแก้มป่องกินข้าวไป มองเพื่อนงอนไป
     
    “น่ารักนะ” เหมือนได้ยินเสียงแว่วๆมา เสียงทุ้มๆเหมือนเสียงของพี่คริส ว่าแต่พี่คริสชมอะไร ชมใคร ชมทำไม!! ชานยอลลองแอบหันมองรอบๆตัวก็เห็นรุ่นพี่ผู้หญิงปีสองคนที่น่ารักที่สุดในโรงเรียนกำลังเล่นกับเพื่อนๆกลุ่มของเขา ทำไมพี่คริสทำแบบนี้!! ชานยอลก็หึงนะ!!
     
    “นิสัยไม่ดีชานยอลโป้งแล้วด้วย” พูดเอง เออเอง โป้งเอง โกรธเขาองเสร็จสรรพ คนอารมณ์ไม่ดีลุกขึ้นเดินถือถาดที่กินหมดแล้วไปเก็บแล้วก็เดินหนีไปเลย
     
    “อ้าวมันเป็นอะไรของมัน” จงแดมองตามก่อนที่จะก้มลงกดส่งข้อความบอกให้พี่ชายมันรู้สักหน่อยว่า น้องชายตัวเองเป็นอะไรก็ไม่รู้
     
    “ไม่รู้มัน สงสัยจะโมโหกินไม่อิ่มมั้ง” 
     
    ชานยอลที่(แอบ)งอนพี่คริส(ไปเองคนเดียว)ก็เดินหนีมานั่งเล่นโต๊ะใต้ต้นไม้ ตอนนี้ยังไม่มีใครนั่งไงชานยอลก็เลยแอบขอมานั่งก่อน อากาศเย็นสบายกับลมพัดอ่อนๆนี่ก็พาให้อยากจะหลับอยู่เหมือนกันแหละนะ แต่ไม่ได้หรอก ต้องขึ้นเรียนอีกคาดว่าถ้าหลับล่ะก็ได้โดดคาบบ่ายแหงๆ
     
    คนงอนนั่งพาดแขน เท้าแขนกับโต๊ะแล้วก็ทำหน้ามุ่ย ใช่สิ เขาไม่น่ารักเหมือนรุ่นพี่จองมีนิ ถ้าพี่คริสจะชมก็ไม่แปลกหรอกแต่ทำไมเขาต้องได้ยินล่ะ ทั้งๆที่นั่งห่างกัน นี่ก็ไมเข้าใจว่าทำไมที่เป็นเรื่องของพี่คริสล่ะก็จะหูผีขึ้นมาทันที นั่งงอนอยู่ดีๆก็โดนคนสะกิดเรียกเสียแล้ว
     
    “มีคนฝากมาให้นาย” ชานยอลมองคนที่ยื่นกล่องนมมาให้แล้วก็ทำหน้างง
     
    “ใครฝาก ให้ทำไม” เอียงคอใส่อีกแน่ะ แต่ก็ยอมยื่นมือไปรับนมกล่องนั้นนะ
     
    “เขาไม่ให้บอกแต่บอกว่าให้นายดื่มให้หมด” ชานยอลพยักหน้ารับแล้วก็ยิ้มกว้างๆ
     
    “เหรอขอบใจนะ ถ้าเจอคนนั้นก็ฝากบอกด้วยว่าขอบคุณ” แล้วก็ก้มหน้าลงดึงหลอดเจาะกล่องนมดื่มซะเลย ดูดนมรสหวานลิ้นไปก็เอียงคอไปมา เอ? ใครฝากมาหว่า? หรืออาจจะเป็นเซฮุนกับจงแด? แต่ไม่น่าจะใช่ถ้าใช่ก็เดินเอามาให้เองได้นินา เอ?? เอ๊ะ! หรือจะเป็นพวกแฟนคลับพี่คริส!! ใส่ยาพิษมาหรือเปล่าเนี่ย!!
     
    “อ้าว..” มารู้ตัวอีกก็คือดื่มหมดกล่องไปแล้ว ก็ได้แต่เกาหัวจนผมหยิกหยอยนั้นฟูพองนั่นแหละ
     
    “ช่างมันเถอะ ถ้ามียาพิษก็คงตายเองแหละมั้ง” แว่วเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆลอยมา ชานยอลหันซ้ายหัวขวาแล้วก็เกิดอาการกลัวขึ้นมาจับใจเพราะตรงนี้มีตัวเองแค่คนเดียว เอาแล้วไงล่ะ!!
     
    “มีผีด้วยเหรอ กลางวันเนี่ยนะ... เซฮุน จงแดอยู่ไหนอ่า!!!” แล้วชานยอลก็วิ่งหน้าตาตื่นไปหาเพื่อนทันที พอเจอเพื่อนก็โถมตัวกอดทั้งคู่ไว้เลย ไอ้เพื่อนทั้งสองก็เซถลาถอยไปด้านหลังเลยน่ะสิ
     
    “เฮ้ยอะไรเนี่ย!!” เซฮุนพยายามดันชานยอลออก พอๆกับจงแดที่พยายามเอาแขนที่กอดคอเขาออก
     
    “ปล่อยเว๊ยไอ้บ้า!!”
     
    “เมื่อกี้ๆๆๆๆๆ ได้ยินเสียงผีด้วยอ่ะ ฉันโดนผีหลอกอ่ะ!!” เซฮุนกับจงแดทำหน้าไม่เชื่อแล้วก็งงงวยไปตามๆกัน
     
    “ผี? จะบ้าหรือไงจะมามีผีอะไรตอนนี้”
     
    “มันมีจริงๆนะจงแด ได้ยินเต็มสองหูเลยอ่ะ ในโรงเรียนเรามันต้องมีผีแน่ๆ!!” เซฮุนเขกหัวให้เลยหนึ่งที
     
    “เสียสติหรือไง ประสาทจริงมันจะมีผีได้ยังไงกันหูฟาดน่ะสิ” ชานยอลทำหน้าจะร้องไห้แล้วก็ส่ายหน้าไปมา
     
    “มันมีจริงๆนะเซฮุน!!” เซฮุนที่เห็นเพื่อนตัวโตกว่าทำท่าจะร้องไห้ก็ยกมือขึ้นลูบผมเพื่อนเบาๆ
     
    “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ผีมันไม่ออกมาทำอะไรตอนกลางวันหรอกน่า” ชานยอลกอดแขนเซฮุนแล้วเดินไปด้วยกัน จงแดที่เห็นเพื่อนทำหน้าหงอยๆก็เดินอ้อมมาอีกข้างตบแขนชานยอลเบาๆ
     
    “ถ้าผีมาเดี๋ยวคิมจงแดจัดการเอง โอเค?” ชานยอลพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่พร้อมจะร้องไห้ตลอดเวลาก่อนที่จะกอดแขนจงแดด้วย เซฮุนกับจงแดแอบมองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจ เขาจะกล้าส่งเพื่อนเขาไปแข่งกับพวกแฟนคลับของรุ่นพี่คริสได้ยังไงแค่นี้ก็ยังกลัว ถ้าไปจริงๆก็แพ้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว เป็นแฟนในความคิดต่อไปก็แล้วกันนะ
     
    พอขึ้นมาถึงห้องศิลปะชานยอลก็ลืมหมดแล้วซึ่งเรื่องผีสาง เห็นเพื่อนตัวสูงของพวกเขายิ้มได้เซฮุนกับจงแดก็วางใจ เพราะเอาจริงๆเบื่อนิสัยเด็กๆของมันเหลือเกิน ทั้งสามเข้านั่งประจำที่เพื่อเริ่มวาดหัวข้อโจทย์วันนี้ที่อาจารย์คุมวิชาทิ้งไว้ให้ ‘ความรัก’
     
    ความรักของชานยอลจะเป็นอะไรได้นอกจากพี่คริสน่ะ ที่วาดรูปของชานยอลอยู่ติดหน้าต่างก็เลยทำให้มองลงไปยังด้านล่างได้ ชานยอลจำได้ว่าคาบนี้พี่คริสน่ะมีเรียนแต่ไม่รู้ทำไมเวลาที่ชานยอลมาเรียนศิลปะจะต้องเจอพี่คริสกับแก๊งเพื่อนนั่งเล่นอยู่ที่สวนด้านหลังตึกนี้ทุกที แต่ก็ดีนะได้มองพี่คริสทั้งคาบเลย ชานยอลล่ะชอบที่สุด~
     
    มองคนด้านล่างไปก็ตวัดปลายดินสดวาดไป เคล้าโครงหน้าของพี่คริสน่ะชานยอลจำได้อยู่แล้วต่อให้หลับตานึกก็ยังนึกได้เลย แต่เวลาที่พี่คริสยิ้มน่ะชานยอลชอบนะ ชอบมอง พอมองแล้วก็เขินเองไง เจ้าตัววาดรูปไปก็ยกมือปิดหน้าไป อายจนไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วเนี่ย ภาพด้านหน้าที่กำลังประกอบเป็นโครงร่างนั้นก็ทำเอาคนวาดเขินจนต้องฟุบหน้าลงกับฝ่ามือเลย ดวงตาคมสีน้ำตาลนั้นถ้าได้มองสบตากันจริงๆก็คงจะดี
     
    “เป็นอะไรวะ” เซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆชะโงกตัวมาดูแล้วก็ยกยิ้มมุมปาก
     
    “เปล่า” ชานยอลที่ยังฟุบหน้าอยู่กับฝ่ามือทั้งสองข้างก็ส่ายหัวดุ๊กดิ๊กแล้วก็ตอบเซฮุนด้วยเสียงอู้อี้ 
     
    “เขินมากเลยหรือไง นี่รูปวาดนะ”
     
    “ก็พี่คริสดูดีนินา~ น่ารักเท่าโลกเลยนะ!” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาตอบแล้วก็วาดมือกว้างๆให้รู้เลยว่าความน่ารักของพี่คริสของชานยอลน่ะเท่าไหน
     
    “เอาเถอะๆ วาดให้เสร็จ” เซฮุนขี้เกียจจะคุยด้วยแล้วก็ได้แต่โบกมือไล่แบบขอไปที ชานยอลยู่หน้าใส่ก่อนที่จขยับเก้าอี้ไปชิดหน้าต่างแล้วนอนหนุนแขนทับขอบหน้าต่างมองพี่คริสที่นั่งคุยกับเพื่อนๆด้านล่าง
     
    “ก็พี่คริสของชานยอลหล่อจริงๆนินา” ชานยอลมองคนด้านล่างแล้วก็ยิ้มกว้าง ก่อนที่มืออีกข้างที่จับดินสอไว้จะยื่นออกไปนอกหน้าต่างแล้ววาดรูปหัวใจบนอากาศล้อมพี่คริสเอาไว้
     
    “อ๊ะ!!” แล้วชานยอลก็มุดหัวหลบจากหน้าต่างให้ไวเลย จะอะไรซะอีกล่ะ ก็พี่คริสน่ะสิอยู่ดีๆก็เงยหน้าขึ้นมาเฉยเลยปาร์คชานยอลหลบแทบไม่ทัน หัวใจเกือบวาย!!!
     
    พอทีนี้ค่อยๆโผล่หน้าขึ้นไปดูก็เห็นว่าพี่คริสนั่งคุยกับเพื่อนๆตามเดิม ไม่มีอาการที่เหมือนว่าจะมองขึ้นมาเลยสักนิด หรือบางทีปาร์คชานยอลอาจจะคิดมากไป อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นะ...
     
    ชานยอลขยับลุกขึ้นนั่งที่เก้าอี้ดีๆแล้วก็วาดรูปต่อ เวลาที่ได้วาดรูปแล้วก็คิดถึงพี่คริสไป ทำให้ชานยอลยิ้มได้แล้วก็ลืมสิ่งรอบกายทุกอย่าง ยามที่ชานยอลจดจ่อกับสิ่งตรงหน้าแล้ว เจ้าตัวจะยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาก็จะประกายอย่างเป็นสุข นั่นทำให้ชานยอลดูน่ารักขึ้นอีกเป็นกองเลย
     
     
     
     
     
    จนทำให้..... คนด้านล่างที่แอบมองอยู่เผยรอยยิ้มขึ้นมา
     
     
     
     
     
    “อะไรๆ มองน้องอีกแล้วเหรอวะ” เพื่อนๆในกลุ่มหันขึ้นไปมองชั้นสองก็เห็นว่าเด็กหน้าตาน่ารักกำลังยิ้มพร้อมกับวาดรูปไปด้วย
     
    “มันก็มองตลอดนะเว๊ย ทำเป็นเล่นไปไอ้ลู่หาน” เทากระแซะเพื่อนตัวสูงสุดของกลุ่ม 
     
    “เอาแต่มองทำไมไม่บอกน้องเขาล่ะวะ” ลู่หานเลิกคิ้วแล้วยกมือถือมากดหาใครบางคน เวลาพูดเรื่องรักๆแล้วในหัวลู่หานจะนึกไปถึงคนตัวกลมๆ แก้มกลมๆเสียทุกทีเลย
     
    “แล้วทำไมต้องบอกล่ะวะ” คริสถามพร้อมกับเลิกคิ้วถามเพื่อน
     
    “อ้าว แล้วมึงไม่อยากเป็นอะไรๆกับน้องมันเหรอวะ น่ารักซะขนาดนั้น” เทาเอ่ยถามอีกรอบ ไอ้การที่โดดเรียนมานั่งมองน้องวาดรูปนี่ต้องล้วงความลับให้คุ้ม!!
     
    คริสไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่นั่งเท้าคางแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังยิ้มกับการวาดรูปตรงหน้า จริงๆเขาก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าทุกๆที่ที่เขาไปหรือทุกๆที่ที่เขาอยู่มักจะมีเด็กตัวสูง ผอมบาง ผิวขาว ปากแดง แก้มยุ้ยๆกับผมหยอยๆนั่นตามเขาไปทุกที่ จนเขาเริ่มลองสังเกตดูก็จะเอาเจ้าตัวแอบตามมุมบ้าง เสาบ้างหรืออะไรก็ได้ที่จะแอบได้แล้วก็จะโผล่หน้ามามองเขา พอเขาหันไปมองก็จะหลบทุกที
     
    ยิ่งช่วงเช้าหรือเย็นถ้าเขามีซ้อมบาสล่ะก็จะเจอเจ้าเด็กนี่แอบอยู่มุมที่ไม่มีคนอยู่ทุกที ตอนแรกเขาก็คิดว่าสิ่งเร้นลับหรอกแต่พอมองดีๆก็เป็นเจ้าเด็กนั่นนี่นา มาทำตัวลับๆล่อๆ คือเอาจริงๆมานั่งดูดีๆก็ได้หรอก แต่พอตัวได้ลองแอบตามน้องมันบ้างก็รู้ว่าน้องมันขี้อาย(มาก) ซ้ำยังจะไม่ค่อยทันชาวบ้านเขาหรอก โดน(ตัวเขา)แกล้งไปยังไม่รู้เลย
     
    เขาแอบตามจนเพื่อนบางคนของเด็กนั่นเริ่มสงสัยแล้วนะแต่เจ้าตัวยังไม่รู้เลย เมื่อกี้โดนเขาแกล้งอำยังคิดว่าเขาเป็นผีอ่ะดูสิ เพราะเห็นว่าอยู่ๆก็ทำหน้าตาเหมือนอารมณ์ไม่ดีเสียอย่างนั้น ได้ยินเพื่อนของเจ้าเด็กน่ารักนั่นบอกว่าอาจจะโมโหหิว.. เขาก็เลยไปซื้อนมแล้วก็ฝากให้รุ่นน้องในทีมที่บังเอิญผ่านมาเอาไปให้ ยังไม่วายคิดว่าเขาจะใส่ยาพิษลงไปอีก แต่มานึกได้ตอนดื่มหมดแล้ว ซ้ำร้ายยังจะมาว่าเขาเป็นผีอีก มันน่าจับมาตีก้นจริงๆนะ
     
    เริ่มแรกที่ทำให้เขาเริ่มมองหาเจ้าเด็กนี่น่ะเหรอ? ก็คงเป็นตอนที่เขาขึ้นไปหยิบกระเป๋าที่ลืมไว้บนห้องศิลปะมั้ง วันนั้นเขาเรียนศิลปะคาบแรกแล้วก็โดดไปนอนบนดาดฟ้าจนถึงช่วงเย็นนั่นแหละ ก่อนที่จะไปซ้อมบาสตอนเย็นก็เลยแว่บกลับลงมาเอากระเป๋าที่ลืมไว้ แล้วเขาก็ได้เห็นรูปวาดตอนเล่นบาสของเขาอยู่บนกระดานวาดของเด็กคนนี้ มุมเล็กๆบนกระดาษที่เขียนอักษรตัวกลมๆไว้เล็กๆ 
     
    …พี่คริสของปาร์คชานยอล...
     
    แต่มันก็ทำให้เขายิ้มได้ เอาจริงๆอยากจะแกะรูปนี้ออกแล้วเอาไปติดที่บ้านอยู่หรอกแต่กลัวคนวาดจะไม่ได้คะแนน ก็เลยได้แต่ยิ้มแล้วก็เดินออกจากห้องไป แล้วเขาก็เริ่มตามหาเจ้าของกระดาษแผ่นั้น
     
    จนมาเจอเด็กน้อยน่ารักที่กำลังยิ้มกว้างๆเหมือนถูกใจกับภาพวาดของตัวเองนั่นแหละ คริสหันหน้าหลบเมื่อคนด้านบนมองลงมา ไอ้พวกเพื่อนๆก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามันก็เอากวนกันเอง พอชานยอลหันไป คริสก็หันกลับขึ้นไปมองบ้าง แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้วล่ะ มันก็สนุกแบบหลบๆ ซ่อนๆดีนะเอาจริงๆ
     
    ช่วงเย็นคริสก็มาซ้อมบาสเช่นเดิม เพราะใกล้แข่งเชื่อมสัมพันธ์กับโรงเรียนในเขตจังหวัดเดียวกันแล้ว นี่จะเป็นการแข่งสุดท้ายในชีวิตมัธยมของเขาก็เลยต้องทุ่มทุนสร้างหน่อย เพราะถ้าเขาชนะได้ล่ะก็เขาจะสามารถไปต่อมหาวิทยาลัยด้วยโควตานักกีฬาได้ แต่ก็คงเจ็บปวดที่จะต้องจากเด็กหน้าตาน่ารัก.... ทั้งๆที่ยังค้างคาความรู้สึกอยู่แบบนี้
     
    ที่มุมเดิมๆ ข้างสแตนด์ที่เดิมจะมีเจ้าเด็กน่ารักมายืนแอบอยู่เช่นเคย วันนี้คริสก็แอบยิ้มขำที่เจ้าเด็กนั่นทำหน้ามุ่ยใส่เขา ปากก็ขยับบ่นอะไรก็ไม่รู้ คาดว่าไม่แคล้วคงจะบ่นเขาแน่ๆ หน้าตานี่ค้อนใส่ประหลักประเหลือกเลยเถอะ นี่ถ้าไม่ได้ด่าเขา ก็คงจะไม่ได้ชมเหมือนกัน เด็กคนนี้ของเขาน่ารักจังเลยนะ
     
    “เฮ้ย!!!” เพราะมัวแต่เหล่เด็กน้อยนั่นแหละเลยไม่เห็นว่าเทากับลู่เทาพุ่งเข้ามาชาร์ตเขา ส่งผลให้คริสล้มกลิ้งกับพื้น แต่เจ้าตัวก็ไวพอที่จะเซฟตัวเองไม่ให้เจ็บหนักไปกว่ารอยแดงๆที่แขนและขา เหตุเพราะเพื่อนๆก็ช่วยกันเซฟเขาสุดชีวิตเหมือนกัน
     
    “มัวแต่เหม่ออยู่ได้ เกือบแล้วไหมล่ะ” เทากับลู่หานช่วยกันดึงคริสให้ลุกขึ้น พอเจ้าตัวลุกขึ้นยืนได้สำรวจตัวก็ไม่เห็นว่าตัวเองจะบาดเจ็บอะไรไปมากกว่ารอยแดงที่แขนกับขาอีกนิดหน่อยก็หันไปมองที่มุมเดิม เห็นเจ้าเด็กน่ารักทำตาโต ยกมือปิดปากตกใจแล้วก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีก็เลยทำสำออยแกล้งเจ็บขา เซไปเกาะเพื่อนไว้ซะเลย เออ... ได้อีกนะ
     
    “อะไร... อ๋อจะอ้อนน้องเหรอ? เดี๋ยวป๋าจัดการให้” แล้วเทาก็พาเพื่อนที่เจ็บ(แบบสำออย)ให้ไปนั่งพัก ตรงสแตนด์ว่างๆที่มีเด็กน่ารักทำตัวเป็นโจรมุมตึกยืนแอบอยู่นั่นแหละ
     
    คริสก็นั่งแล้วก็บีบนวดขาไปเรื่อย เทาก็ตบไหล่แล้วบอกให้นั่งพักไปก่อน ทีนี้คนที่แอบอยู่จะทำยังไงล่ะ? ก็เกิดอาการห่วงจนน้ำตาจะไหลอยู่แล้วน่ะสิ พอมานั่งแบบนี้จะให้หันไปมองก็คงไม่ได้เดี๋ยวเด็กน้อยรู้ตัวแล้วจะหนีเขาไปอีก เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันนั่นแหละว่าเด็กน้อยจะทำยังไง
     
    “พี่คริสเจ็บไหมอ่ะ ฮือ...” แว่วคล้ายจะได้ยินร้องไห้และเสียงพึมพำมาเบาๆ คริสก้มหน้าลงกลั้นยิ้มกับความน่ารักของเด็กข้างหลัง
     
    “ฮือ.. ชานยอลจะโป้งรุ่นพี่เทากับรุ่นพี่ลู่หานจริงๆด้วย” เสียงกระเง้ากระงอดเรียกรอยยิ้มจากคริสได้เต็มที่เลย แล้วเสียงกรี๊ดของพวกเด็กผู้หญิงก็กรี๊ดกันพร้อมกับส่งเสียงเรียกชื่อของคริสเพราะแอบเห็นรอยยิ้มน่ะสิ
     
    “ไม่ต้องมาเรียกพี่คริสของชานยอลเลยนะ!!” ถึงจะว่าแบบนั้นแต่ก็ไม่เห็นเจ้าเด็กน่ารักจะทำอะไรเลยนอกซะจากก้มหน้าบ่นพึมพำ คริสแอบหันไปเหลือบมองด้านหลังก็เห็นชานยอลกำลังกดพิมพ์ข้อความหาใครก็ไม่รู้
     
    “อ๋อ... แต่ทำไม่เป็นอ่ะ” เจ้าเด็กน่ารักเกาหัวด้วท่าทีงงๆ ปากก็บึนซะน่ารักเชียว 
     
    “ให้ทำเองก็ได้นินา ชานยอลนี่ฉลาดจริงๆ”
     
     
     
    ไม่ต้องสงสัยนาน เช้าวันต่อมาคริสก็ได้รู้เลยว่าไอ้ที่เมื่อวานบ่นงึมงำไปนั้นคืออะไร คริสยิ้มแล้วหยิบถุงยาที่ซ่อนอยู่ในล็อคเกอร์เก็บของของเขาออกมา ในนั้นมีสารพัดทั้งยากิน ยานวด มีจนเลยไปถึงผ้ายืดพันเคล็ด ไหนจะมียาพารามาอีก สงสัยกลัวว่าเขาจะเจ็บขาจนลามไปป่วยหรือเปล่า
     
    คริสได้แต่มองแล้วก็ขำ เด็กน้อยของเขาน่ารัก แต่ไม่คิดว่าจะน่ารักได้ถึงขนาดนี้ อาจจะต้องไปขอบคุณสักหน่อยแล้วมั้ง คิดได้แบบนั้นก็เลยเก็บถุงยาไว้ในเป้สะพายข้างของตัวเองแล้วเดินตามหาชานยอล ถ้ามาเช้าได้กว่าเขา แปลว่าคงต้องมาเช้ามากแน่ๆ 
     
    เจ้าตัวลองเสี่ยงดวงเดินไปดูที่โต๊ะใต้ต้นไม้ที่ชอบเห็นชานยอลมานั่งดู ถ้าไปแล้วเจอ เขาจะเป็นฝ่ายรุกบ้างล่ะรอให้น้องรุกเขา บางทีอาจจะเป็นชาติหน้าก็ได้... 
     
    แล้วคริสก็คิดไม่ผิดจริงๆ โต๊ะใต้ต้นไม้ที่ประจำของพวกเขาชานยอลมานั่งหลับจริงๆ เด็กน่ารักของเขานอนหลับตาพริ้มทับแขนดูน่าสบายเชียวล่ะ คริสลงนั่งข้างๆด้านที่ชานยอลเอียงหน้า ปลายเรียวนิ้วปัดปอยผมที่ปกปิดดวงหน้าน่ารักออก คริสไล่สายตามองเด็กน้อยของเขายามหลับพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้าไม่จาง
     
    คริสก้มลงประทับริมฝีปากที่ข้างขมับของชานยอล คนที่ถูกรบกวนการนอนลืมตาขึ้นมองด้วยความงัวเงีย คริสวาดรอยยิ้มพร้อมกับลูบกลุ่มผมของชานยอลเบาๆ
     
    “หลับซะ” ชานยอลที่งัวเงียก็พยักหน้ารับแล้วก็หลับตาลงอย่างว่าง่าย คริสยังคงลูบเส้นผมสีอ่อนไม่ยอมปล่อยมือ
     
    “ขอบใจนะเด็กน้อย” 
     
    ถ้าชานยอลตื่นขึ้นมาเจอก็คงจะดี คริสยังคงนั่งข้างชานยอลอยู่แบบนั้น นั่งเท้าคางมองคนหลับแล้วก็ลูบผม ปัดปอยผมที่โดนลมพัดให้พ้นดวงหน้าใส ไม่ว่าใครจะเดินผ่านไปผ่านมา จะมองแค่ไหนคริสก็ไม่ได้ละสายตาและมือออกจากชานยอลเลย 
     
    เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าชานยอลลืมตาขึ้นมาแล้วเจอเขาใกล้ๆแบบนี้ เจ้าตัวน่ารักจะทำหน้ายังไงนะ 
     
    “ยิ้มอะไรนะ” คริสยิ้มตามแล้วไล้ปลายนิ้วกับกลีบปากนิ่มสีสดเบาๆ การที่คริสนั่งมองชานยอลอยู่แบบนี้ก็ทำให้ทุกคนเกิดการสงสัยว่าคริสเป็นอะไรกับชานยอล แล้วก็ไปรู้จักกันได้ยังไง คริสไม่ได้สนใจหรอกว่าคนรอบๆจะซุบซิบนินทาว่ายังไง แค่อย่ามาทำให้เด็กน้อยของเขาตื่นก็พอแล้ว
     
    ถ้าจะบอกว่าคริสคิดว่าตัวเขามีแฟนชื่อชานยอลมาตั้งนานแล้วนี่จะแปลกไหมนะ? ก็เขาคิดแบบนั้นจริงๆนินา เขามักจะได้รับการดูแล เอาใจใส่และมีชานยอลไปด้วยแทบจะทุกที่เลย  ถ้าไม่ให้เรียกจะเรียกอะไรกันล่ะ คริสไม่ใช่คนที่พวกความรู้สึกช้าหรอกนะที่จะไม่รู้ว่ามีเด็กมาเดินตามน่ะ แล้วชานยอลก็ไม่ใช่นักสืบที่จะหลบหลีกเก่งอะไร เจ้าตัวก็เดินตามหลังเขามาดื้อๆเลยนี่แหละ เดินห่างกัน 10ก้าวได้ แล้วทำไมเขาถึงจะไม่เห็น?
     
    บางทีเด็กน่ารักของเขาอาจจะไม่รู้ตัวว่าเขารู้แล้วว่ามีเจ้าตัวตาม ก็แหมนะ.. มีเด็กน่ารักมาคอยตามมันก็ดีอยู่นะ แต่มันก็น่าขำตรงที่เขาต้องมาทำเป็นไม่รู้นี่แหละ ทั้งๆที่คนในทีมเขารู้กันหมดแล้วว่าเขากำลังจีบชานยอลแบบลับๆอยู่ หลายทีชานยอลก็ไม่ได้เป็นฝ่ายตามเขาหรอก แต่เป็นเขานี่แหละที่สร้างเรืองให้ชานยอลมาตาม
     
    หลายครั้งที่เขามักจะบ่นว่าอยากไปกินที่ร้านนั้น ร้านนี้ แต่ไม่มีใครไปด้วย วันไหนที่เขาจะไปเขาก็จะเห็นเจ้าตัวหัวหยักศกมาตามเขาทุกที บางทีก็อยากนั่งกินข้าวด้วยกันล่ะมั้ง...
     
    “ไม่ได้อยากขัดแต่ต้องไปซ้อมเช้าว่ะ” เทายกมือแล้วพูดเสียงเบา พอคริสหันหน้าไปมองก็เห็นเพื่อนรักมายืนอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
     
    “โดดได้เปล่าวะ” เทากับลู่หานมองหน้ากันก่อนที่จะพยักหน้า
     
    “เดี๋ยวจัดการให้” แล้วเทากับลู่หานก็เดินออกไป
     
    “รีบๆตื่นได้แล้วชานยอล” คริสก้มหน้าลงกระซิบเบาๆแต่ชานยอลก็ยังไม่ตื่น คริสหัวเราะเบาๆก่อนที่จะไล้แก้มนิ่มนั้นอย่างเบามือ
     
     
     
     
    “ฮ้าว~~” ชานยอลที่ตื่นแล้วก็ขยับตัวขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจ แล้วก็เห็นว่าทั้งเซฮุนแล้วก็จงแดมานั่งทำการบ้านแล้ว
     
    “โอ๊ะ... ขนมใครกินนะ” ชานยอลหยิบถุงตรงหน้ามาเปิดดูก็เจอทั้งนมกล่องและขนมปังไส้ต่างๆ และที่สำคัญเป็นไส้ที่ชานยอลชอบมากด้วย
     
    “กินไปเถอะ” เซฮุนโบกมือไล่ใส่
     
    “เนี่ยๆๆ เมื่อกี้ฝันดีด้วยนะ~” จงแดเงยหน้าขึ้นมาแล้วเลิกคิ้ว
     
    “ฝันอะไรล่ะ”
     
    “ฝันว่าพี่คริสมาลูบหัวแล้วก็บอกให้หลับซะ พี่คริสอย่างเท่เลยอ่ะ~~” จะว่าไปก็ยังรู้สึกที่หัวอยู่เลย อุ่นเหมือนเกิดขึ้นจริงเลยล่ะ ชานยอลล่ะปลื้ม~
     
    “ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงบ้างเหรอ?” จงแดใช้ปากกาชี้ไปที่ชานยอล แต่เจ้าตัวส่ายหน้า
     
    “ไม่อ่ะ พี่คริสจะมาชอบเราได้ไง พวกผู้หญิงที่อยู่รอบๆตัวพี่คริสน่ะน่ารักกว่าเราอีก แล้วเราก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะ” ชานยอลทำหน้ามุ่ยกัดขนมปังไส้ทูน่าในมือแล้วก็ได้แต่คิดน้อยใจ ถ้าพี่คริสหันมามองเขาบ้างก็คงดี ไม่ต้องมีฐานอะไรก็ได้แค่รู้ว่าชานยอลเกิดมาบนโลกแล้วก็รักพี่คริสก็พอ
     
    “อย่าฟุ้งซ่าน กินเยอะๆ” เซฮุนที่นั่งอยู่ใกล้ๆยื่นมือมาตบไหล่เพื่อนเบาๆ
     
    “อร่อยจัง ใครซื้อมาอ่ะ” จงแดกับเซฮุนมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ
     
    “ไม่บอกหรอก~” ขอให้ได้แกล้งเพื่อนตัวโตให้ขัดใจสักวันละนิด ก็ความสุขจงแดกับเซฮุนแล้วล่ะ
     
     
     
     
     
     
     
     
    เย็นนี้ชานยอลก็ตั้งใจที่จะไปดูพี่คริสซ้อมเหมือนเดิม มุมเดิม เวลาเดิม ชานยอลเดินเลี่ยงไปยังด้านข้างของโรงยิมแล้วล้วงกุญแจที่ตัวเองมีมาไขลูกกุญแจ แต่.. มันเปิดไม่ออก ไม่ว่าจะไขยังไงก็ไขไม่เข้า
     
    “อ้าว ทำไมไขไม่ออกล่ะ” ชานยอลมองกุญแจในมือด้วยความไม่เข้าใจ ก็เขาใช้เข้าออกประจำ 
     
    “ถ้าไขไม่ได้แล้วจะเข้ายังไงล่ะเนี่ย” ก็ได้แต่ยืนงง เกาหัวตัวเองด้วยความไม่เข้าใจล่ะ ถ้าจะให้ชานยอลแปลงร่างเป็นซุปเปอร์แมนแล้วดึงโซ่คล้องออกก็คงไม่ได้ หรือวันนี้เขาจะไม่ได้ดูพี่คริสซ้อมนะ
     
    “ถ้าไม่ได้ดูพี่คริสซ้อมนะจะให้ป๊ามาตีเลย” คาดโทษมันไว้แล้วก็ลองไขดูอีกรอบแต่มันก็ไม่ออก คนที่กำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อก็ไม่ได้สังเกตว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาหาพร้อมกับกางสองมือกั้นตัวเองไว้
     
    “เปิดไม่ออกหรอกต้องใช้กุญแจดอกใหม่” เสียงทุ้มที่คลอเคลียอยู่ข้างหูเรียกให้ชานยอลสะดุ้งแล้วหันหน้าไปมอง ทีนี้ก็ตาโตเลยสิก็คนตรงหน้าในระยะประชิดน่ะมันพี่คริสชัดๆ!!! คริสมองเด็กที่ตกใจอ้าปากค้าง ตาโตจนจะถลนแล้วก็ยิ้มขำ
     
    “พี่เพิ่งเปลี่ยนกุญแจเมื่อตอนเที่ยงเอง คงเข้าไม่ได้แล้วล่ะ” ชานยอลกระพริบตาปริบๆทั้งๆที่ยังตกใจทำตาโต
     
    “ทะ.. ทะ... ทำไมล่ะครับ”
     
    “ไม่อยากให้ใครบางคนมาหลบๆ ซ่อนๆล่ะมั้ง” ชานยอลที่ยังประมวลผลไม่ทันก็เอียงคอ ทำหน้างง คริสก้มหน้าลงมาอีกนิด ความห่างก็ย่นระยะลง
     
    “ถ้าจะเข้าไปดูพี่เล่นก็เข้าไปดีๆสิ เข้าใจ?” ชานยอลทั้งส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้าจนคนมองหัวเราะขำ
     
    “ถ้าอยากเข้าไปดูก็เข้าไปดูดีๆ ไม่ต้องไปยืนแอบข้างสแตนด์เข้าใจไหม” 
     
    “พะ... พี่รู้!?” คริสพยักหน้ารับ
     
    “รู้ทุกอย่างเลยล่ะ” ชานยอลหันหน้าหลบสายตาคมที่ทอดมองมา ถ้ายังสบตากันอีกนิดชานยอลจะเป็นลมให้ดู!!
     
    “ตะ... แต่ชานยอลไม่รู้ว่าจะไปดูฐานะอะไรนิ ชานยอลไม่ได้เป็นเหมือนแฟนคลับพวกนั้น” ในความหมายคือไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาตามกรี๊ดผู้ชายที่ชอบ
     
    “ชานยอลต่างกว่านั้นไม่รู้ตัวเหรอ” ชานยอลหันหน้ากลับมามองก็เห็นว่าพี่คริสในระยะปประชิดมากๆกำลังยกยิ้มมุมปาก
     
    “ต่าง.. ต่างยังไงครับ”
     
    “ชานยอลไม่เหมือนแฟนคลับพวกนั้น ชานยอลเป็นแฟนพี่ไม่รู้ตัวเหรอ?” คนที่โดนบอกว่าเป็นแฟนอ้าปากค้าง ทำตาโตกว่าเดิมอีก เจ้าตัวส่ายหน้าไปมา
     
    “ชะ.. ชานยอลไปเป็นแฟนพี่คริสตอนไหนกัน” คริสมองดวงตากลมๆที่มองค้อนเข้าใส่ตอนที่เขาเผลอหัวเราะ ดวงตากลมโตสีดำสนิทที่ทอดมองเขาอยู่ในระยะใกล้
     
    “คงเป็นตอนที่พี่... ทำแบบนี้ล่ะมั้ง” แล้วคริสก็โน้มหน้าลงไปทาบริมฝีปากกับริมฝีปากนุ่มของชานยอล คนที่อยู่ๆก็โดนฝากสัมผัสแบบนั้นก็ได้แต่ทำตาโตไม่กล้าขยับ โวยวายหรือทำอะไรทั้งนั้น ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น ทุกอย่างมันสับสนไปหมดเลย
     
    “พี่คริสนิสัยไม่ดี!” แล้วก็ฟาดไหล่คริสทันทีที่เจ้าตัวถอนจูบออก
     
    “ว่าพี่เหรอ? ต้องทำโทษ” แล้วคริสก็จัดการทำโทษเด็กพูดจาไม่เพราะไปอีกหนึ่งจูบ ชานยอลก็ก้มหน้าลงแล้วดันคนสูงกว่าที่ขยับเข้ามาใกล้
     
    “ถอยไปเลยนะพี่คริส เดี๋ยวชานยอลเป็นลมไปทำไง” คริสหัวเราะก่อนที่จะเลื่อนหน้าเข้าไปฝากรอยที่แก้มยุ้ยๆของชานยอลอีกสักที
     
    “เดี๋ยวพี่จะอุ้มเอง โอเคไหม?” ชานยอลทำท่าคิดก่อนที่จะพยักหน้า ก็ยังดีกว่าเป็นลมแล้วหัวฟาดพื้นนะ คริสหัวเราะเบาๆก่อนที่จะดึงชานยอลมากอดไว้
     
    “ตกลงพี่เป็นแฟนชานยอลหรือยัง?” ชานยอลทำหน้ายู่ใส่ แม้คริสจะไม่เห็นก็เถอะ
     
    “พี่คริสน่ะเป็นแฟนชานยอลมาตั้งนานแล้วนะ ไม่รู้ตัวอีกเหรอ” คริสหัวเราะเบาๆก่อนที่จะโอบกอดเด็กในอ้อมกอดแน่นๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
     
    “รู้แล้วครับ” แล้วก็ตบท้ายด้วยการหัวเราะอีกสักที 
     
    “ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว.. ชานยอลก็มีสิทธิ์ทุกอย่างสินะ ชานยอลจะอวดทุกคนได้ไหมว่าพี่คริสเป็นแฟนชานยอลแล้ว” คริสละอ้อมกอดออกแล้วมองคนตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนกำลังรอคำตอบ 
     
    “อวดได้เต็มที่เลยครับ” พอได้ยินคำตอบแบบนี้ชานยอลก็โผเข้ากอดคริสทันที พี่คริสของชานยอลนี่เท่ที่สุด!!!
     
     
    ชานยอลจะควงพี่คริสอวดมันให้ทั่วทั้งเกาหลีเลยคอยดูสิ!!! แล้วคนแรกที่จะอวดก็ต้องเป็นรุ่นพี่จองมีอยู่แล้ว น่ารักนักใช่ไหมเดี๋ยวเจอคนน่ารักกว่า!!!
     
     
     
    “แล้วพี่คริสต้องเข้าไปซ้อมไหมครับ” ชานยอลถอยออกมาแล้วยิ้มให้คริสพร้อมกับยิ้มกว้างๆไปอีกสักที
     
    “ซ้อมครับ จะไปดูไหม” ชานยอลพยักหน้ารับรัวๆ
     
    “ไปอยู่แล้วครับ!”
     
     
     
    ชานยอลจะอวดให้ทุกคนรู้เลยว่า พี่คริสน่ะของชานยอลห้ามใครหน้าไหนยุ่งเด็ดขาด!!!!!!
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×