ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter - 8

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 57


    16-02-14 43%

    แว่บมาแล้วก็จากไป

     

    21-02-14 110%
     
    แก้คำผิดบางคำแล้วด้วยนะคะ ยังไงก็อ่านใหม่ได้นะ *ฮา* แต่ถ้ายังเจอผิดอีกก็ปล่อยมันเถอะเนอะ *ยิ้มหวานเลียนแบบชานยอล*

    พิเศษสำหรับแฟนที่มี 101 คน ก็เลยรีบ(?) มาลงให้ครบร้อย(สิบ)ไวๆ อิอิ
     
    ดีใจจังเลยอ่ะที่ทุกคนยังรอคอยเราอยู่ *ร้องฮร่าย* คิดถึงเราเยอะๆนะคะ #มันยังไม่สลด 5555555
     
    รักษาสุขภาพนะคะ เพราะตอนนี้ปวดหัวมากเลย ฮือออออออออ *ซุกอกพี่โหด*
     
    ปล. ถึงใครบางคนที่ผ่านมา วนตคะอัพบ้างนะคะ อิ___________________อิ #กลัวมองไม่เห็น 5555555555
     

    ปล2. เหมือนเมนท์จะหายอ่ะ...... หายไปไหนอันนึง ;________________;


     
     
    _______________________________
     
     
     
     
     
    “ไอ้ลู่หน้ามึงไปโดนอะไรมา!!!” ชานยอลที่เดินออกมาจากบ้านคริสก็ได้แต่ทำหน้าตกใจตอนที่ลู่หานถอดหมวกกันน็อคออกมาให้เขาสวมแล้วเห็นใบหน้าของลู่หานมีรอยฟกช้ำ
     
    “ใครทำอะไรมึง!!” ชานยอลเชยหน้าของลู่หานแล้วหันไป หันมาดูว่าโดนอะไรตรงไหนบ้างก็เห็นแค่รอยช้ำที่มุมปากกับรอยถากที่หางคิ้วซ้าย
     
    “ไม่มีอะไรหรอกขึ้นรถได้แล้ว” แต่ชานยอลก็ไม่ยอมทำตาม 
     
    “ให้กูไปส่งไหม” คริสที่ออกมาส่งชานยอลก็เอ่ยถาม ใจจริงคริสอยากให้ชานยอลไปกับเขามากกว่าที่จะซ้อนลู่หานแต่ก็นั่นแหละพี่เขาบัญชามาขัดไปก็ตายแหงๆ
     
    “ไม่เป็นไรกูไหว ขึ้นรถสิจะได้กลับบ้าน” ลู่หานดึงมือของชานยอลที่ยังสำรวจใบหน้าตัวเองออกแล้วยื่นหมวกกันน็อคให้ แต่ชานยอลก็ไม่ยอมรับซ้ำยังทำหน้าตาบึ้งตึงเสียอีก
     
    “น้องชานยอลขึ้นรถ” ลู่หานเพิ่มระดับความเข้มในน้ำเสียงแต่ชานยอลก็ไม่ยอม ถ้าไม่ได้คำตอบก็ไม่ยอมทำตามหรอกนะ!
     
    “เดี๋ยวนี้น้องยอลไม่ฟังพี่ลู่แล้วใช่ไหม” 
     
    “ลู่อ่า~” ชานยอลทำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วก็ยอมรับหมวกกันน็อคมาสวมก่อนที่จะขึ้นรถอย่างว่าง่าย  เมื่อตอนเด็กๆพวกเขาก็เรียกกันแบบนี้แหละพี่ลู่น้องยอล พอโตมาก็เปลี่ยนไปแต่ถ้าลู่หานกลับมาใช้คำนี้เมื่อไหร่ล่ะก็ควรจะก้มหน้าก้มตาทำตามที่สุดล่ะ
     
    คริสมองชานยอลและลู่หานแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นชิน เขาไม่เคยเห็นภาพหรือได้ยินอะไรแบบนี้เลยแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจมัน ยังไงเขาก็เชื่อว่าชานยอลน่ะเป็นของเขา แต่ลู่หานไม่ค่อยชอบทะเลาะต่อยตีกับใครแล้วไอ้รอยพวกนั้นมันจากไหน? นี่แหละที่มันติดใจเขา คนรักสงบแบบลู่หานไปมีเรื่องกับใคร?
     
    หลังจากที่ลู่หานดับเครื่องยนต์และชานยอลก็ลงจากรถเรียบร้อย เจ้าตัวก็เดินเข้าบ้านพร้อมกับถือหมวกกันน็อคของลู่หานเข้าบ้านไปด้วยเลย เข้าไปก็เจอกับคุณพ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมกับนั่งดื่มน้ำผลไม้อยู่ ชานยอลก็รีบเดินไปลงนั่งข้างๆแล้ววางแหมะหมวกกันน็อคของลู่หานไว้ข้างตัว จริงๆคือจะเก็บไว้ไม่ให้ลู่หานออกไปอีกนั่นแหละ
     
    “พ่อดูลู่ดิไปมีเรื่องกับใครก็ไม่บอกชานยอล เนี่ยดูดิหน้ามันช้ำไปหมดเลยอ่ะ” คุณพ่อปรายตามองลู่หานที่เดินเข้ามาแล้วก็ขมวดคิ้ว
     
    “ไหนไปมีเรื่องอะไรมาบอกพ่อสิไอ้เสือ” ลู่หานหันไปมองชานยอลที่นั่งทำปากยื่นบอกเลยว่ากำลังงอนเขา
     
    “ก็ไม่มีอะไรใหญ่โตนิครับ พอดีมีเรื่องกับพวกขับรถปาดหน้านิดหน่อยเท่านั้นเองน้องน่ะคิดมากไปเอง”
     
    “ก็จะไม่ให้คิดได้ไงล่ะกลับมาหน้าเป็นแบบนี้อ่ะ! แล้วมันเป็นใคร จำทะเบียนได้เปล่าเดี๋ยวไปจัดการให้!!” คุณพ่อหัวเราะแล้วกอดคอลูกชายมาใกล้ๆก่อนที่จะหอมที่หัวของลูกชายสุดที่รักไปสักฟอด
     
    “เงียบไปเลยไอ้ลูกหมาไปดูสิว่าวันนี้แม่ทำอะไรให้กินเป็นมื้อเย็น” ชานยอลหันมายู่ปากใส่คุณพ่อแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปเลย ผ่านหน้าลู่หานก็แบะปากใส่ไปอีกที ลู่หานยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา
     
    “เรียบร้อยดีใช่ไหมลู่หาน” คล้อยหลังลูกชายไปประมุขของบ้านก็เอ่ยถามลู่หานเบาๆ
     
    “ครับ” ชานยอลที่ได้ยินบทสนทนานั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าพ่อคงใช้ให้ลู่หานไปทำธุระให้หรือไม่ก็ไปดูที่ร้านดอกไม้ให้อีกนั่นแหละ
     
    “แม่~ มีอะไรกินชานยอลหิวมาก~~” เด็กหิวโซเดินเข้าไปกอดคุณแม่คนสวยที่ยืนหันหลังทำกับข้าวอยู่แล้วก็หอมแก้มคุณแม่ไปสักหนึ่งทีใหญ่ๆ พอได้หอมคุณแม่ก็ชื่นใจแล้วก็ลืมเรื่องของลู่หานไปหมดแล้ว
     
    “รออีกแปบเดี๋ยวก็เสร็จแล้วจ๊ะ”
     
    “โอ๊ะ.. เดี๋ยวชานยอลส่งข้อความบอกคริสก่อนนะว่าถึงบ้านแล้วเดี๋ยวจะเป็นลูกมือให้คนสวยนะครับ~~” ชานยอลหยิบมือถือออกมาแล้วกดส่งข้อความหาคริสว่าตัวเองนั้นถึงบ้านแล้ว เมื่ออีกฝ่ายตอบรับกลับมาเขาก็ปิดหน้าจอแล้วช่วย(ป่วน)คุณแม่ทำอาหารทันที
     
     
     
     
     
    ชานยอลกำลังอารมณ์ดีลัลล้าเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าอย่างมีความสุข ฮัมเพลงที่ชอบไปก็พับเสื้อผ้าไป ปาร์คชานยอลกำลังจะไปเที่ยวและแน่นอนว่าเรื่องเที่ยวลูกพี่ชานยอลไม่มีพลาด!! หลังจากเก็บเสื้อผ้าเสร็จก็หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมลงไปด้านล่างที่มีทั้งพ่อ แม่และลู่หานนั่งคอยอยู่แล้ว พอเห็นใบหน้าน่ารักของลูกชายตัวแสบที่ยิ้มแป้นแล้นอารมณ์ดีเหลือเกินคุณพ่อก็เกิดอาการหมั่นเขี้ยวเดินเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงเสียเลย
     
    เมื่อทุกคนเตรียมพร้อมคุณพ่อก็ขับรถพาทุกคนไปเที่ยวกัน รถเอสยูวีสีขาวก็ได้ฤกษ์เคลื่อนทัพเสียที ชานยอลนั่งข้างหลังกับลู่หาน คุณพ่อประจำตำแหน่งคนขับและมีคุณแม่ประจำตำแหน่งป้อนน้ำ ป้อนขนมให้คนขับได้อิ่มท้อง อิ่มใจ รถคันใหญ่วิ่งไปเรื่อยๆออกไปนอกตัวเมือง สองข้างทางก็เริ่มมีต้นไม้น้อยใหญ่แทนตึกรามบ้านช่องสูงๆแล้ว
     
    “ชานยอลบอกไอ้คริสหรือเปล่าว่าเราจะไปไหนกัน” ชานยอลหันหน้าจากการมองวิวทิวทัศน์ข้างทางหันกลับมามองใบหน้าของลู่หานที่สวมแว่นดำแล้วหันมองมาที่ตัวเขา
     
    “เปล่า บอกแค่ว่าจะไปเที่ยวกันเฉยๆ” ลู่หานพยักหน้ารับรู้
     
    “แล้วมันบอกว่าจะตามมาหรือเปล่า” ชานยอลทำหน้าคิดก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา ลู่หานที่มองชานยอลทำหน้าน่าตาน่ารักแบบนั้นก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมไอ้โหดนั่นถึงรักน้องเขาจัง... อาจจะเหมือนเขาที่คอยคิดถึงแต่หน้าของใครสักคนล่ะมั้ง
     
    “ไม่นะเพราะบอกแล้วว่าถ้าตามมาจะให้ลู่กระทืบให้ตายเลย” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะคิกคักสะใจเขานักแหละ คิดว่าในหัวคงกำลังมโนภาพที่ลู่หานกำลังกระทืบคริสอยู่แน่ๆ
     
    “อย่างนั้นเหรอ” ลู่หานสรุปแค่นั้นแล้วก็ก้มหน้าลงเล่นเกมในมือถือต่อไป ไม่สนใจชานยอลที่อยากจะถามต่อเลยสักนิด เจ้าตัวแสบยู่หน้าใส่แล้วก็เกาะกระจกมองข้างทางต่อไป
     
    สักพักใหญ่ๆรถคันสีขาวก็แล่นเข้ามาจอดในสวนดอกไม้ที่ห่างไกลจากตัวเมืองเอาการ ชานยอลกับลู่หานที่นั่งหลับหัวชนกันก็โดนคุณแม่ เมื่อลงมาจากรถแล้วก็รู้สึกถึงบรรยากาศดีๆ ลมเย็นๆที่พัดมาปะทะผิวกาย ชานยอลยิ้มกว้างอย่างดีใจแล้วหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปความสวยงามของรอบๆด้านเอาไว้
     
    ดอกไม้หลากพันธุ์และสีสันถูกปลูกอยู่ทั่วๆบริเวณ คล้ายกับตอนนี้อยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้อย่างไรอย่างนั้นเลย กลิ่นหอมอวลอยู่ทั่วบริเวณ ลู่หานที่ทำหน้าเครียดมาตลอดทางก็ค่อยๆวาดรอยยิ้มเมื่อได้สัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆและความสดชื่นจากที่นี่
     
    “เดี๋ยวเราเข้าไปดูบ้านพักกันก่อนนะเพื่อนพ่อเขาเตรียมไว้ให้แล้ว ไอ้ลูกหมาของพ่ออย่าวิ่งซนให้มากนักนะ” คุณพ่อหันมาชี้นิ้วใส่ชานยอลที่อยากจะไปวิ่งเล่นรอบๆให้หายอยาก ชานยอลทำหน้ายู่ใส่
     
    “พ่ออ่ะซนอะไรที่ไหนชานยอลโตแล้วนะ แม่ดูพ่อดิ!!” หันไปฟ้องเฉยเลย ลู่หานยื่นมือมาขยี้หัวของชานยอลจนยุ่งพร้อมกับหัวเราะที่คุณแม่ก็ไม่ยอมเข้าข้างตัวเอง
     
    “ทั้งดื้อ ทั้งซนนี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอคิดว่าเป็นเด็ก3ขวบซะอีก” ชานยอลยู่ปากใส่แล้วต่อยแขนลู่หานไม่เบานัก ลู่หานก็เลยเตะก้นชานยอลคืน
     
    “คอยดูนะเด๋ยวจะฟ้อง!!” ลู่หานยิ้มแล้วขยี้หัวชานยอลอีกสักที
     
    “ทำไมจะฟ้องใคร”
     
    “จะฟ้องไอ้คริสให้มาไล่เตะเลยคอยดู!” ว่าไว้แค่นั้นแล้วก็เดินหนีไปเลย ลู่หานส่ายหน้าไปมากับเจ้าตัวแสบประจำบ้านแล้วก็มองหลังรถที่มีกระเป๋าเสื้อผ้าของชานยอล
     
    “นี่ต้องมาเป็นคนใช้มันอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย” ลู่หานหัวเราะอย่างขบขันพร้อมกับคว้ากระเป๋าของทั้งตัวเองแล้วก็ชานยอลออกมาแล้วเดินตามพ่อกับแม่ไปยังบ้านพักที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้
     
     
     
    ชานยอลเดินอารมณ์ดีฮัมเพลงที่ชอบไปเบาๆ ดูต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้าด้วยอารมณ์สุนทรีย์ ดวงตากลมโตเป็นประกายวิบวับคล้ายดั่งดวงดาวนับล้านกำลังทอแสงอยู่ในนัยน์ตาสีอ่อนนี้ ริมฝีปากอิ่มอวดวาดรอยยิ้มเสียเต็มใบหน้า ชานยอลกำลังมีความสุขกับการเดินเล่นชมนกชมไม้ครั้งนี้ 
     
    เจ้าตัวลงนั่งยองๆข้างแปลงดอกคาโมมายล์ มองเจ้าดอกเล็กๆกลีบสีขาวแล้วก็นึกชอบใจ ลองก้มลงดอมดมก็ได้กลิ่นหอมจากจากเกสรสีเหลือง ถูกใจชานยอลนักแหละ กลิ่นหอมจนชานยอลอดใจไม่ไหวเด็ดออกมาแล้วดมเจ้าดอกคาโมมายล์ใกล้ๆแล้วพลันหูก็ได้ยินเสียงกดลั่นชัตเตอร์พอหันไปมองทางต้นเสียงก็เห็นใครสักคนที่แต่งตัวจัดเต็มพร้อมกับเครื่องประดับที่นิ้วและข้อมือ
     
    ใครคนนั้นลดกล้องในมือลง ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มมองคนที่ยังนั่งทำตาโตตกใจอยู่ข้างแปลงดอกไม้ที่เดิม ด้วบใบหน้าที่ตกใจจนดูน่ารักนั่นก็เลยขอยกกล้องขึ้นเก็บรูปนี้อีกสักภาพ ชานยอลกระพริบตาปริบๆก่อนที่จะวาดรอยยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน
     
    “คริสมาได้ยังไงน่ะ!!” แล้วชานยอลก็วิ่งเข้าไปหาพร้อมกับกระโดดกอดเสียเต็มรักเลย คริสอ้าแขนยกกล้องขึ้นข้างหนึ่งแล้วโอบกอดชานยอลไว้
     
    “คิดถึงมั้งเลยมาหา” กระซิบบอกชิดใบหู ชานยอลผละอ้อมกอดออกแล้วทุบอกคนพูดดีสักหนึ่งที
     
    “แล้วมายังไง มาได้ไง มาทำไมไม่กลัวไอ้ลู่เห็นเหรอ” พอพูดถึงลู่หานชานยอลก็สอดสายตาหันซ้าย มองขวาทันทีเพราะกลัวว่าลู่หานจะกระทืบคริสจริงๆน่ะสิ คริสยกยิ้มแล้วไล้ปลายนิ้วที่แก้มของชานยอล
     
    “ก็เดินเข้ามา ขับรถตามมาแล้วก็ไม่กลัวหรอกยังไงมึงก็ไม่ยอมให้กูโดนกระทืบหรอกใช่มะ?” ชานยอลแบะปากใส่
     
    “กูจะฟ้องไอ้ลู๋ให้มากระทืบมึง!” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะสนุกใจนัก คริสเคาะหัวชานยอลเบาๆ
     
    “ใจร้ายว่ะรู้งี้กูไม่มาหามึงดีกว่า” ชานยอลยิ้มกว้างแล้วกอดแขนคริสเอาไว้
     
    “อย่ามางอนน่าไม่เข้ากับหน้ามึงหรอก ไหนๆก็เอากล้องมาแล้วถ่ายรูปกูเยอะๆนะ” แล้วชานยอลก็เดินไปอยู่กับดอกไม้ทิ้งคนที่อุตส่าห์ขับรถตามมาเสียอย่างนั้น คริสส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆก่อนที่จะต้องเดินเข้าไปถ่ายรูปคนที่ดูจะอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน
     
    “ไอ้คริสมาถ่ายเร็วๆดิวะ!!!” ชานยอลตะโกนเรียกพร้อมกับกวักมือเร่งให้อีกคนเข้าไปถ่ายรูป แหงล่ะเรื่องเที่ยวอย่าได้ขาด เรื่องกล้องนี่ทุกเฟรมต้องมีลูกพี่ชานยอลนะจะบอกให้เลย!!!
     
    หลังจากถ่ายรูปเล่นกันอยู่นานชานยอลกับคริสก็เดินกลับไปที่บ้านพักแต่ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ ชานยอลสอดส่ายสายตาไปรอบๆก่อนที่จะดึงมือคริสแล้วลากไปที่ห่างไกลจากตัวบ้าน หนีมาหลบอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่ที่ไกลจากบ้านอยู่พอสมควร แอบมองหาใครอีกคนที่กำลังจะเป็นประเด็นด้วย แหงล่ะ.. ถ้ามาเจอตอนนี้แล้วมีเรื่องกันจริงๆคงไม่ดี
     
    “อะไรของมึงน่ะ” คริสมองชานยอลที่ทำท่าแปลกประหลาด มองซ้ายที ขวาที มันก็ดูน่ารักดีแต่มันดูตลกมากกว่า
     
    “มองหาไอ้ลู่อะดิ” พอมองรอบตัวว่าไม่มีวี่แววของลู่หานก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
     
    “หามันทำไม” สาบานว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ไม่รู้ทำไมเสียงที่เอ่ยถามออกไปมันถึงแข็งๆจนคนได้ยินแบะปากใส่เสียอย่างนั้น
     
    “เอ้าก็มันบอกว่าถ้าเจอมึงมันจะกระทืบมึงไงต้องกันไว้ก่อน ว่าแต่แล้วมึงมาทำไมอ่ะไม่กลัวมันกระทืบมึงเหรอ” คริสยิ้มแล้วส่ายหน้า
     
    “ไม่อ่ะ กูคิดถึงมึงมากกว่าที่จะกลัวโดนไอ้ลู่กระทืบอีก” คนได้รับคำตอบก็รู้สึกแก้มร้อนไปสิ คริสกระตุกยิ้มแล้วยักคิ้วให้
     
    “ไง.. เขินเลยอ่ะดินี่กูจำมาจากในละครเลยนะ” ชานยอลถลึงตาใส่ เท้าเอวแล้วเตะขาคนพูดไม่เข้าหูสักทีแรงๆ
     
    “ไปนอนให้หนอนแทะไป!” คริสหัวเราะที่กวนคนตรงหน้าได้แล้วก็ขยับหลังพิงต้นไม้ใหญ่ไว้พร้อมกับเกี่ยวเอวชานยอลเข้ามาประชิด สองมือของชานยอลวางแหมะไว้ที่ไหล่ของคนสูงกว่า
     
    “ล้อเล่นน่า.. แต่ที่บอกว่าคิดถึงมึงน่ะเรื่องจริงนะเว๊ย ถ้าไม่ได้เห็นหน้ามึงหลายๆวันสงสัยจะนอนไม่หลับ” ชานยอลหัวเราะแล้วเอียงคอใส่
     
    “ทำไมกูเป็นหมอนของมึงหรือไง”คริสรั้งชานยอลเข้ามาใกล้อีกนิดแล้วก้มหน้าลง นัยน์ตาคมมองสบกับนัยน์ตากลมด้วยแววประกาย
     
    “เปล่า มึงเป็นตุ๊กตายางของกู” 
     
    “เห.” ชานยอลตีไหล่มันสักทีแล้วก็ปิดเปลือกตารับจูบจากคนที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาหาถึงนี่ ก็ยอมให้หรอกนะเห็นว่ามีความพยายามดี จะยอมให้สักครั้งก็แล้วกัน
     
    “อื้อ... พอแล้วมึงนี่เยอะนะ” ดันแผ่นอกกว้างออกเมื่อเริ่มรู้สึกว่าทั้งจูบและมือที่โอบกอดนี่จะเริ่มขยุกขยิกผิดปกติ 
     
    “สำหรับมึงน่ะเยอะแค่ไหนก็ไม่พอหรอก” ชานยอลหัวเราะแล้วดันตัวออกจากอ้อมแขนซึ่งคริสก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
     
    “ปากดี.. ว่าแต่แล้วคืนนี้จะไปนอนที่ไหนแล้วนี่จะมากี่คืน” คริสยกแขนขึ้นกอดอกแล้วมองหน้าชานยอลที่ขมวดคิ้วมุ่นก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นมุมปาก
     
    “ก็อาจจะไปนอนที่โรงแรมในตัวเมืองมั้งเช้าค่อยขับรถมาหามึงที่นี่ มึงกลับเมื่อไหร่กูก็กลับเมื่อนั้นอ่ะ”
     
    “ลำบากไปปะวะ”
     
    “นั่นสิ” แต่เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่คริส ชานยอลกับคริสมองหน้ากันก่อนที่จะชะโงกหน้าไปมองยังต้นไม้อีกฝั่ง
     
    “ไอ้ลู่!!”
     
    “อืม...” ลู่หานที่ยืนกอดอกพิงหลังกับลำต้นหันไปมองพร้อมกับยิ้มนิดๆ... แต่สยองที่สุดในความรู้สึกของชานยอล
     
    “มา.. มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ชานยอลเดินอ้อมมาหาลู่หานพร้อมกับที่คริสเองก็เดินออกมาเช่นกัน
     
    “มาตั้งแต่ตอนตุ๊กตายางน่ะ” ชานยอลอ้าปากค้าง ตาโตจนลูกตาแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า ตายๆๆ หมดสิ้นกันชีวิตปาร์คชานยอล!!
     
    “ไงมึง” ลู่หานทักคริสพร้อมกับยกยิ้มให้นิดหน่อย ซึ่งคนโดนทักก็ไหวไหล่เล็กน้อย
     
    “ไม่ไง แล้วนี่รู้ได้ยังไงว่าอยู่ตรงนี้”
     
    “เรียกว่ารู้ตั้งแต่ออกจากบ้านดีกว่ามั้ง ฉลาดดีเนอะขับรถตามน่ะ” ชานยอลหันหน้าไปมองอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะขับรถตาม แต่คริสก็แค่ไหวไหล่
     
    “แล้วไง? ยังไงก็มาแล้วจะกระทืบกูไหมล่ะ?” ดูมันยังจะไปเต๊ะท่าใส่อีกถ้าลู่หานถีบเข้าให้ล่ะจะขำไม่ออกแต่ก็นะ.. ชานยอลขยับตัวเข้ายืนบังคริสไว้
     
    “ลู่อย่าทำอะไรไอ้คริสนะ.. ถ้ามันเป็นอะไรแล้วน้องจะเกาะใครกินตอนที่พ่อไม่ให้ตังค์อ่ะ” คริสหรี่สายตามองคนตรงหน้าที่ดูท่าว่าจะรักเขาเสียเหลือเกินก็เลยยื่นมือไปผลักหัวมันเบาๆ ผลักแรงไม่ได้ต่อหน้าพี่มัน ชานยอลหันไปยู่หน้าใส่ อะไรๆก็ปาร์คชานยอลโดนทำร้ายตลอดอ่ะไอ้โหดหน้าโฉด!!
     
    “ก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่จะเดินมาบอกว่าถ้าเล่นกันเสร็จแล้วก็ให้มันเอาของไปเก็บในบ้าน” 
     
    “หา?? นี่ยอมให้มันนอนด้วยเหรอ” ลู่หานขยับตัวยืนเต็มความสูงแล้วก็พยักหน้า
     
    “ไม่ยอมได้เหรอเล่นถ่อมาถึงที่แล้วนิ ขึ้นไปนอนห้องข้างบนในสุดติดระเบียงกับชานยอลก็แล้วกันนะ ข้างบนมี 2ห้องคงรู้นะว่าห้องข้างๆกันคือห้องของใคร” สายตาเฉือดเฉือนพุ่งเข้าไปหาคนตัวสูงสุดอย่างไม่ปิดบัง คริสพยักหน้ารับ
     
    “พี่ลู่ใจดีอ่ะน้องยอลรักพี่ลู่จังเลยอ่ะ~” ชานยอลอารมณ์ดีดี๊ด๊าเข้าไปกอดแขนลู่หานอ้อนทันทีที่ลู่หานอนุญาตให้คริสนอนด้วยแต่คนที่ไม่อนุญาตให้ชานยอลไปออดอ้อนใครนี่สิมองซะตาแทบถลน 
     
    “ถ้ารักคืนนี้ก็มานอนด้วยกันสิ เดี๋ยวจะกล่อมให้หลับเอง” ชานยอลทำหน้าตาตื่นเต้นดีใจมองลู่หานที่ใจดี ยิ้มหน้าบานลืมไปแล้วว่าใครอุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่
     
    “อะแฮ่ม..” ก็เลยขอทวงสิทธิ์นิดนึง ชานยอลหันไปมองแล้วก็หันมามองลู่หานก่อนที่จะทำสีหน้าเศร้าสลด(ที่มองก็รู้ว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าสลดอะไรนักหนา) 
     
    “ไว้น้องยอลจะแอบไปนะ” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะเริงร่าสนุกนักล่ะ ชานยอลเดินไปกับลู่หานทิ้งคริสให้เดินตามหลังมา นี่ขอเลยนะว่าคริสอู๋มีเอาคืนแน่ๆครับ!!!
     
    หลังจากที่บอกกับพ่อและแม่แล้วว่าคริสจะมาร่วมทริปด้วยชานยอลก็เดินนำคริสขึ้นมายังชั้นสองของตัวบ้านไม้หลังขนาดกลาง ลู่หานนั่งคุยกับพ่อ แม่และเพื่อนของพ่อ พอเปิดประตูไม้เข้าไปก็เห็นว่าด้านในทุกอย่างทำและตกแต่งด้วยไม้ที่ดูเข้ากับและลงตัวกับเตียงสีขาวสะอาด นี่บอกเลยว่าปาร์คชานยอลชอบแบบนี้!! 
     
    ยืนตาโตมองรอบๆด้วยอาการตื่นใจจนไม่รู้เลยว่าคริสโอบกอดจากด้านหลังเข้าให้เสียแล้ว คริสโอบเอวเล็กไว้แนบชิดแล้วกดจูบที่กลุ่มผมนิ่ม ไล่ลงมาที่ใบหูและแก้มใส แต่คนในอ้อมแขนก็ยังไม่รู้สึกตัว
     
    “ทำไมชอบเหรอ” ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงที่ซอกคอของคนในอ้อมแขน
     
    “อืม ชอบอ่ะสวยอ่ะอยากได้” บอกอย่างเพ้อๆ ปาร์คชานยอลกำลังเดินเล่นในวิมานฝันล่ะ
     
    “ไว้เรียนจบกูจะสร้างให้” ชานยอลหันหน้าไปมองคนที่กอดเขาอยู่ด้านหลังด้วยความสงสัย
     
    “มึงชอบคอนโดไม่ใช่หรือไง” คริสยิ้มแล้วหมุนตัวชานยอลให้หันมาหา
     
    “กูชอบมึงมากกว่าคอนโดอีก” แล้วหลังคำบอกชอบชานยอลก็ได้รับจูบหวานๆมาเสียคำใหญ่ เคลิ้มจนเดินถอยหลังไปที่เตียงหลังใหญ่แล้วทิ้งตัวลงนอนตามแรงโน้มกายของคนตัวโตกว่า คริสกดจูบลึกและลงเน้นเป็นจังหวะ ชานยอลเองก็ตอบรับทุกจังหวะนั้น ปลายเรียวลิ้นไล้ต้อนกระหวัดกัน คริสไล้มือลงต่ำเพื่อสัมผัสส่วนแน่นิ่งใต้กางเกงยีนส์ตัวหนาของคนที่นอนอยู่ใต้ร่าง
     
    “น้องยอลแม่บอกว่าถ้าจัดเสื้อผ้าเสร็จแล้วให้ลงไปข้างล่าง!” เสียงของลู่หานมาพร้อมกับเสียงเคาะประตู คริสและชานยอลผละตัวออกจากกัน
     
    “เดี๋ยวลงไป!!” ชานยอลตะโกนตอบก่อนที่จะหันมามองคริสที่ถอนหายใจเซ็งในอารมณ์ ชานยอลดันคริสให้ถอยห่างแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมถอย
     
    “ไอ้ลู่นี่แม่งขัดคอได้ทุกจังหวะจริงๆ” ชานยอลหัวเราะใหญ่ แหงล่ะอะไรที่ขัดใจคุณชายขาโหดเขาได้นี่ถือเป้นเรื่องราวขำขันของปาร์คชานยอลนะจะบอก
     
    “รู้แล้วก็ถอยออกไป ข้างๆนี่ห้องไอ้ลู่นะเว๊ยคิดว่ามันจะไม่รู้เลยหรือไง” คริสกระตุกยิ้มมุมปากแล้วก้มหน้าลงจุ๊บที่นิ่มของชานยอลสักที
     
    “มึงก็ร้องเบาๆดิวะแค่นี้มันก็ไม่รู้แล้ว มึงน่ะชอบเสียงดัง” ชานยอลทุบไหล่คนปากดีไปหนักๆ
     
    “อ้าวกูรู้สึกดีก็ต้องร้องดังๆดิ ถ้าร้องเบาๆงี้กูไปเอากับคนอื่นก็ได้เหอะ” 
     
    “กล้าเหรอมึงน่ะ” คริสขมวดคิ้วฉับ ชานยอลแบะปากแล้วเชิดหน้าขึ้น
     
    “ก็จะลองไหมล่ะ?” 
     
    “มึงก็ลองไปดูสิ กูจะตบมึงให้เลือดอาบเลยคอยดู” ชานยอลแบะปากจนคว่ำแล้วกรอกตาไปมา
     
    “โหดเกินไปแล้วนะมึงน่ะ มึงควรลดความโหดกับกูลงบ้างเหอะนี่กูไม่ใช่กระสอบทรายนะเว๊ย” คริสไล้หลังมือกับแก้มที่พองลมจนจะกลายเป็นปลาทองของคนใต้อาณัติเบาๆก่อนที่จะทาบริมฝีปากกับปลายจมูกรั้นนั้น
     
    “แล้วทำไมกูต้องลดด้วย ก็มึงมันชอบไม่เชื่อฟัง” นี่ขอพูดเลยว่าลูกพี่ชานยอลอยากกระทืบมันให้ตายคาตี.เลย!
     
    “แต่มึงเป็นเมียกูนะมึงก็ต้องให้ความอ่อนโยนกูสิวะ เอะอะตบเอะอะผลักกูไม่ใช่กระสอบทรายนะ!” คริสหัวเราะจนตัวโยน คือขำไม่ไหวแล้วจนต้องซุกหน้าลงกับไหล่ของชานยอลที่มองอย่างไม่เข้าใจว่ามันจะหัวเราะทำไม
     
    “มึงเอาตรงไหนมาคิดว่ากูเป็นเมียมึงวะห๊ะ” คริสถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ชานยอลทุบแขนมันไปสักทีให้หยุดหัวเราะ นี่คือลูกพี่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองพูดอะไรผิดตรงไหน
     
    “ทุกตรงอ่ะ!” คริสมองหน้าชานยอลแล้วสบตาเข้ากับดวงตากลมคู่นั้นก่อนที่จะวาดรอยยิ้มเสียเต็มใบหน้า
     
    “กูเอามึง กูก็ต้องผัวมึงสิจูนสมองใหม่ได้แล้วมึง” ชานยอลยู่หน้าใส่ ทฤษฎีบ้านไหนกันวะ! ลูกพี่ชานยอลแมนขนาดนี้ หล่อขนาดนี้ก็ต้องเป็นผัวดิจะมาเป็นเมียอะไรใคร เดี๋ยวมีเฮๆ
     
    “จะอะไรก็ช่างมึงควรอ่อนหวานกับกูได้แล้วนะ”
     
    “แล้วต้องอ่อนหวานยังไง ไหนลองบอกมาสิ” ชานยอลทำท่าคิด คริสที่เห็นก็หมั่นเขี้ยวเลยกดปลายจมูกที่แกม้นิ่มเสียฟอดใหญ่ชานยอลก็เลยตีเข้าที่ไหล่อีกที
     
    “มึงก็ต้องเรียกกูเพราะๆดิ ทำตัวดีๆไม่ตีกูอีกไง” คริสเลิกคิ้ว
     
    “เรียกเพราะๆเหรอ? ต้องเรียกว่าอะไร..... เมียจ๋างี้เหรอ” แล้วก็ได้คำตอบเป็นฝ่ามือฟาดเข้าที่หัวเลยไง
     
    “ขนาดมึงยังตบหัวกูเลยเนี่ย” ว่าแล้วก็เลยขอกัดคอสักทีก็เป็นอันหายกัน
     
    “เอาที่เพราะกว่านี้สิวะมาเมียอะไรเดี๋ยวกูไม่แค่ตบหรอก”
     
    “งั้นจะให้เรียกที่รักงี้เหรอ” พอได้ยินคำนี้ไม่รู้ทำไมมันถึงรู้สึกร้อนสูบวาบขึ้นมาเสียอย่างนั้น แก้มใสก็รุ้สึกจะร้อนผ่าวผิดปกติ ชานยอลกำลังจะมีไข้สินะ!!
     
    “หรือเรียกสุดที่รักดี..” เพิ่งพลังความร้อนวูบไปอีกหนึ่งเท่าตัว คริสขมวดคิ้วมุ่นกำลังใช้ความคิดเลยมองไม่เห็นว่าคนใต้ร่างน่ะทำสีหน้าแบบไหนอยู่ 
     
    “แม่จ๋าดีมะ? จะได้เตรียมความพร้อมไปเลย” พร้อมอะไรไม่รู้แต่ในหัวชานยอลที่คิดไปไกลแล้ว โอ๊ยยยย!!
     
    “หรือเรียกตัวเล็กดี” เหมือนชานยอลได้ยินเสียงระเบิดในตัว อยู่ๆความร้อนก็พุ่งถึงระดับสูงสุด แก้มขาวก็แดงเรื่อจนมองเห็นได้ คริสที่ก้มหน้ามองก็ยกยิ้มถูกใจท่าว่าคนที่นอนอยู่นี้จะเขินอายเสียแล้วน่ะสิ
     
    “งั้นเรียกตัวเล็กดีกว่า”
     
    “จะ.. จะบ้าหรือไงมาลงมาเล็กอะไรกัน! งี้กูไม่ต้องเรียกมึงไอ้สูงหรือไง”
     
    “ทีกูยังเรียกมึงเพราะๆเลยนะ กูเรียกมึงตัวเล็กมึงก็เรียกกูตัวสูงสิ น่ารักจะตาย” แต่คนได้ยินไม่ได้รู้สึกน่ารักนี่รู้สึกจะระเบิดรอบสองแล้วเนี่ย โอ๊ย!! เอาไอ้โหดนี่ไปไกลๆ!! มาทำตาหวาน ยิ้มหวานเรียกตัวเล็ก โอ๊ย!! จะไม่ทน!!
     
    “ไม่เอาเว๊ย!!! เรียกชื่อดิวะ โว๊ย! ไม่คุยแล้วถอยไปๆๆๆ” แล้วชานยอลก็ดันคริสออก คริสเองก็ยอมถอยเพราะพอใจแล้วที่แกล้งชานยอลได้ ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็ยืนหมุนซ้าย หมุนขวา คริสที่นั่งอยู่ขอบเตียงก็ยกยิ้ม
     
    “ตัวเล็กครับ” ชานยอลทำตาโต อ้าปากค้างหันมาหาพร้อมกับพวงแก้มกลมที่แดงจัดจนน่ารัก น่าฟัด นี่ถ้าไม่ยั้งใจไว้เขาจะกระชากชานยอลลงมาแล้วจับปล้ำซะเลยเถอะ
     
    “มะ.... ไม่คุยด้วยแล้ว!!!” แล้วชานยอลก็เดินออกจากห้องไปเลย นี่ตกลงคือเขินสินะ... คริสได้อะไรไว้ต่อกรกับเด็กพยศอย่างชานยอลอีกแล้วล่ะ
     
    ลู่หานเงยหน้าขึ้นไปมองชานยอลที่เดินลงมาจากบันไดมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจว่าน้องเขาไปทำอะไรมาถึงได้หน้าแดงๆแบบนั้น คริสเดินตามหลังลงมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่ดูยังไงก็มากเกินความจำเป็น ชานยอลหันไปมองทำตาโตแล้วก็หันหน้าหนีเดินเข้าหลังบ้านไปหาคุณแม่ที่กำลังจดเตรียมมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ของเจ้าของสวนดอกไม้ยกมาให้
     
    “อ้าวคริสลงมาแล้วเหรอมาหาอาเร็วๆ” พ่อของชานยอลกวักมือเรียกให้คริสไปนั่งด้วยกัน
     
    “เป็นไงขับรถตามมาเหนื่อยไหม” ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกเหมือนจุกไปถึงลิ้นปี่
     
    “ไม่หรอกครับ ขอบโทษด้วยนะครับคุณอาที่ตามมาโดยพลการ” คุณปาร์คหัวเราะแล้วตบไหล่คริสที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ออมแรงนัก
     
    “ไม่หรอกๆ มากันเยอะๆสนุกดีไอ้เจ้าลู่หานก็บอกว่าคริสจะตามมา” คริสหันไปมองหน้าลู่หานที่นั่งก้มหน้าเล่นเกมอยู่ที่โซฟาเดี่ยวตัวถัดไป ลู่หานเหลือบสายตามองแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
     
    “มาน่ะสิดีจะได้ช่วยดูเจ้าชานยอลหน่อย ชอบวิ่งซนทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ยังไงก็ฝากดูหน่อยนะ” คริสยิ้มรับ คืออยากจะบอกจังเลยอ่ะว่าต่อให้ดูแลตลอดชีวิตก็ยอมครับแต่รู้สึกเหมือนว่าถ้าพูดออกไปคงจะได้โดนกระทืบตายเอาก็ตอนนี้แหละ
     
    “ไหนๆก็มาแล้วคืนนี้มาดื่มกันดีกว่าเนอะ” เมื่อประมุขชวน ผู้น้อยก็ยอมตามไม่มีบ่นอยู่แล้ว
     
    “ชานยอลด้วย~~” ชานยอลที่เดินกลับมาพอดีก็เดินมานั่งแทรกกลางระหว่างพ่อตัวเองกับคริส คริสก็เลยต้องยอมขยับให้ชานยอลลงนั่งตรงกลาง พอเจ้าตัวนั่งได้ที่ก็คล้องแขนกอดแขนคุณชายปาร์คอ้อนทันที
     
    “อะไรไอ้ลูกหมาจะมาด้วยมาเด้ยอะไร” ชานยอลยู่หน้าใส่แล้วก็อ้อนเข้าหัวไถ
     
    “นะดริ๊งค์ด้วยๆๆ เดี๋ยวทำตัวเป็นเด็กดีชงเหล้าให้เลย” ทำตาโตอ้อนด้วย คุณพ่อหัวเราะแล้วเรียกลู่หานให้มาเป็นกำลังเสริม
     
    “ชานยอลอย่าดื้อ ผู้ใหญ่เขาจะนั่งดื่มกันเราน่ะไปนอนไป” พูดแบบนี้ขอบอกเลยว่าขึ้น ชานยอลหันมาถลึงตาใส่ลู่หานที่นั่งหัวเราะจนหน้ายับ
     
    “เดี๋ยวเถอะจะโดนไม่ใช่น้อย นี่ใคร!” ชานยอลตบอกตัวเอง “นี่ลูกพี่ใหญ่ชานยอลนะ!” ทีนี้ก็หัวเราะกันทั้งบ้านเลย ลูกพี่ใหญ่ทำหน้างอนแล้วมองค้อนใส่ทุกคนเรียงตัวแต่ไอ้คนที่โดนเยอะสุดก็เป็นไอ้ตัวสูงข้างตัวนี่แหละ จนจ้องจนลูกตาแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว
     
    “เอาน่าลูกพี่ครับ ไปนอนเถอะครับผู้ใหญ่เขาจะคุยกันโอเค๊?” ยังจะมาโอคงโอเคอีก!
     
    “ไม่เว๊ย! มึงเป็นเพื่อนกูมึงต้องเข้าข้างกูดิวะ” แล้วก็แบะปากใส่ซะคว่ำเลย คริสหัวเราะแล้วขยี้เส้นผมของชานยอลจนยุ่ง
     
    “ครับๆยอมแล้วครับลูกพี่ครับ” คริสยกสองมือขึ้นทำท่ายอมแพ้แล้วชะโงกหน้าไปมองคุณชายปาร์คที่นั่งหัวเราะอารมณ์ดีที่แกล้งลูกชายตัวน้อยของตัวเองได้
     
    “คุณอาครับเราเปลี่ยนเป็นมาดื่มนมแทนดีไหมครับ” ชานยอลรัวมือฟาดคริสใหญ่ เอาให้ตายไปเลย!!! คริสทั้งหัวเราะแล้วก็พยายามกันมือไม่ให้ชานยอลฟาดเขาอีก 
     
    “ไปนอนให้นหนอนแทะไป!!!”
     
    “โอ๊ยๆๆ เจ็บๆๆ” คุณปาร์คจับตัวลูกชายไว้ไม่ให้พยศไปฟาดมือใส่คริสอีก คุณปาร์คกอดลูกชายตากลมไว้แนบอกชานยอลที่ยังอยากฟาดมือใส่ก็มองใส่คริสฮึ่มๆ ถ้าเผลอล่ะก็มีเสร็จโจร!! 
     
    “โอ๋ๆ อย่าไปตีเขาเลยชานยอลเด็กน้อยของพ่อ เดี๋ยวคืนนี้ให้ร่วมวงด้วยก็ได้แต่ห้ามเมานะโอเค๊?” 
     
    “รักอาเฮียสุดหัวใจเลยอ่ะ!!!” ชานยอลกอดพ่อแน่นแล้วก็เอาหน้าไถอกพ่อเข้าอ้อน แต่ขานี่เตะขาไอ้คนข้างๆไม่หยุด
     
    “เอ้ามากินข้าวเย็นได้แล้วจ๊ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว” คุณแม่คนสวยเดินออกมาตาม
     
    “แม่จ๋า~ ชานยอลโดนไอ้คริสแกล้งไม่ต้องให้มันกินข้าวนะเปลือง!” ชานยอลลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปอ้อนแม่ทันที 
     
    “โอ๋ยเจ็บปวดโดนคนใจร้ายรังแก” คริสยกมือกุมอกแล้วทำหน้าตาเจ็บปวดที่มองยังไงก็น่ากระโดดถีบ นี่บอกเลยว่าถ้าอยู่ใกล้ๆนะโดนแน่ๆ
     
    “ไม่เห็นใจหรอกนะ” แล้วก็แลบลิ้นใส่พาคุณแม่ไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวที่ถูกจัดวางอาหารไว้เรียบร้อยแล้วทันที คุณพ่อก็เดินหัวเราะสนุกเขานักล่ะ ลู่หานก็หัวเราะหึหึผ่านไป... ลู่หานดูโรคจิตกว่าที่เคยเป็น น่ากลัวชะมัด
     
    “รีบๆมาดิจะยืนอยู่นั่นทำไมเล่า” ชานยอลโผล่หน้ามากวักมือเรียกคริสที่ยืนรอให้ชานยอลมาตาม แหม.. ทำไมตอนแทงบอลไม่ค่อยถูกยังงี้วะ 
     
     
     
     
     
    หลังจากกินมื้อเย็นกันเสร็จเรียบร้อยคุณแม่ก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอน ส่วนผู้ชายที่เหลือก็ย้ายมานั่งกันที่ห้องรับแขกกัน คืนนี้เจ้าของสวนดอกไม้ก็หอบหิ้วเครื่องดื่มแล้วก็กับแกล้มมาที่บ้านรับรอง และแน่นอนว่าคนที่บอกว่าจะเป็นคนชงเหล้าให้ก็มีหน้าที่ชงเหล้าให้ทุกคน นั่งดื่มกันไปคุณพ่อกับเพื่อนเขาก็นั่งคุยสัพเพเหระ ชานยอล คริสกับลู่หานก็คุยเรื่องทั่วๆไป ทั้งเรื่องเรียน เรื่องสอบ
     
    นั่งดื่มกันจนติดลมแล้วคุณเจ้าของสถานที่ก็เริ่มหันมาพูดคุยกับเด็กๆทั้งสาม ชานยอลนั่งเท้าคางกินกับแกล้มไปก็ตีมือคนข้างตัวไปที่ชอบมาจี้เอวเสียเหลือเกิน  เมื่อไม่มีบทสนทนาลู่หานก็นั่งดื่มไปเงียบๆแล้วก็คิดไปถึงใครบางคนที่ก็ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกคิดถึงเป็นพิเศษ อาจจะเพราะเราอยู่ไกลกันล่ะมั้ง
     
    “ลู่หานมีแฟนหรือยัง ลูกสาวอาสวยนะ เรียนก็ดีสนใจไหมล่ะ” คนที่โดนกล่าวถึงก็แทบจะสำลักเหล้าที่เพิ่งกรอกปากไป ชานยอลหัวเราะงอหงายงอคว่ำที่เห็นลู่หานหลุดมาด
     
    “ลู่หานไม่สนใจหรอกครับอา สงสัยชาตินี้จะไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงน่ะสิแต่จะได้แต่งกับรถมอไซด์แทน ไม่รู้จะรักอะไรนักหนา” ลู่หานไมได้เป็นคนตอบแต่เป็นชานยอลที่หัวเราะและเตรียมพร้อมเผาเต็มที่ ลู่หานเอื้อมมือไปเขกหัวชานยอลสักที เจ้าตัวก็แบะปากแล้วขยับไปกอดแขนอ้อนคริสเข้าให้
     
    “ลองเจอกันสักทีอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ” 
     
    “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ผมเอาใจใครไม่ค่อยเก่งหรอกครับ” ชานยอลพยักหน้าเห็นดีเห็นงาม
     
    “แล้วชานยอลล่ะสนใจไหม” ทีนี้เป้าหมายเปลี่ยน คนที่อยู่ๆตกเป็นเป้าหมายก็สะดุ้งโหยงทำเหล้าหกใส่ตัวเองนิดหน่อย คริสหันไปหยิบทิชชูมาซับน้ำให้
     
    “ไม่ครับ ผมมีแฟนแล้ว” ทีนี้คนที่ซับน้ำให้ชานยอลก็ยิ้มกริ่มเลยน่ะสิ แหม.. พูดดีแบบนี้น่าให้รางวัล ลู่หานหรี่ตามองเพราะไม่คิดว่าน้องตัวเองจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา
     
    “ใครแฟนห๊ะไหนบอกมาสิ” คุณปาร์คที่นั่งอยู่บนโซฟาส่งสายตาจ้องเขม็งมองลูกชายตัวเองที่นั่งอยู่บนพื้นตรงข้ามกัน
     
    “ก็น้องจุนไง~ น่ารักมุ้งมิ้งยังไม่ใช่แฟนตอนนี้แต่เดี๋ยวก็ได้เป็น... โอ๊ยตบหัวทำไมวะ!!” หันไปแบะปากใส่คนข้างตัวทันที ได้รางวัลมาเต็มรักเลยทีนี้
     
    “นั่นน้องกู”
     
    “ก็อนาคตแฟนกูอ่ะ” คริสจ้องชานยอลด้วยสายตาดุ เจ้าตัวก็แค่ยักไหล่แล้วคว้าแก้วเหล้าจะดื่มต่อแต่คริสดึงแก้วนั้นออกแล้วลากแขนชานยอลให้ลุกขึ้น
     
    “ขอตัวพาเด็กดื้อไปนอนก่อนนะครับ” คริสก้มหัวลงให้ทั้งคุณพ่อและคุณอาเจ้าของบ้านแล้วก็ลากแขนชานยอลที่โวยวายขึ้นห้องไปเลย
     
    “เฮ้ยๆๆ ลากทำไมวะ!!” ถึงจะโวยวายแต่คริสก็ไม่ยอมปล่อยมือหรอก แบบนี้ต้องมีเคลียร์เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
     
    “โอ๊ยมึงอ่ะกูเจ็บนะ!!” พอคริสเปิดประตูห้องได้ก็เหวี่ยงชานยอลเข้าไปข้างในทันที ชานยอลยืนมุ่ยหน้าพร้อมกับจับข้อมือที่โดนบีบ คริสปิดประตูแล้วล็อคกลอนก่อนที่จะย่างสามขุมเข้ามาหา
     
    “ไหนมึงพูดใหม่สิว่าเมื่อกี้มึงบอกว่าเป็นแฟนใครนะ” น้ำเสียงทุ้มกดลงต่ำจนคนได้ยินที่นึกอยากแกล้งก็เสียวสันหลังวาบ... เล่นไม่ดูหน้าไหนเลยกู ฮือ.. ลูกพี่ขอเป็นเฮอร์ริเคนอีกรอบ
     
    “ก็... ก็แฟนน้องจุนไง” ชานยอลเชิดหน้าขึ้น เอาความไม่กลัวเข้าข่ม แต่จริงๆแล้วกลัวจนขาสั่นแล้วเนี่ย สงสัยคืนนี้ไม่รอดแหงกู
     
    “ปาร์คชานยอล!” เสียงทุ้มต่ำคำรามเสียงเข้มจนคนที่โดนเรียกเต็มยศสะดุ้งโหยง
     
    “อะ... อะไรเล่า!!” ถึงจะกลัวมากแต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือเข้าไว้ แม้ว่าคนตรงหน้าจะทำหน้าตาน่ากลัวจนจะเข่าอ่อนแล้วก็ตาม นี่พูดเลยว่าลูกพี่กลัว!!! ยอมรับกันแมนๆ ตรงๆ ใจๆเลยว่ะ!
     
    “ไหนพูดใหม่อีกทีสิ” ใครล่ะจะกล้าพูดก็ดูหน้าพี่ท่านสิ ยังงี้จับหักคอด้วยสองมือเปล่าได้เลยนะ โฮ... พี่ลู่ช่วยน้องยอลด้วย!!
     
    “มะ.. ไม่พูดแล้ว” ส่ายหน้าไปมาอย่างเกรงๆ คือรู้สึกเหมือนตัวเองถูกย่อส่วนด้วยสายตาดุที่จ้องเขม็งมาเลยอ่ะ ฮือ... ร้องไห้ดีไหมวะ! นี่ลูกพี่แมนนะเว๊ย!!
     
    “ปากดีนะมึง คุยกันหน่อยดีไหม” ชานยอลทำตาโตแล้วส่ายหน้าไปมา ขอบอกเลยว่าตอนนี้กลัวคนตรงหน้าจับใจ
     
    “มะ.. ไม่ดีกว่านอนเถอะง่วงแล้วนะ” คริสคว้าต้นแขนของชานยอลไว้ คนที่โดนบีบแขนประชิดตัวก็ทำตาโตเลยน่ะสิ
     
    “ยังนอนไม่ได้จนกว่ากูจะเคลียร์มึงจบ... มึงเป็นเมียกูแล้วยังจะไปยุ่งอะไรกับน้องกูอีกตอบ!!” ชานยอลที่โดนตวาดเสียงใส่ก็สะดุ้งโหยงหลับตาแน่นเลย นี่พูดเลยนะว่ากลัวจริงๆ ดวงตากลมวาวไปด้วยม่านน้ำที่คลอหน่วย
     
    “มึงก็รู้ว่ากูชอบน้องจุนอ่ะ ถ้าคืนนั้นไม่พลาดป่านนี้กูได้น้องมาเป็นแฟนแล้วเถอะ” ถึงจะกลัวแต่ก็ไม่ยอมเสียหน้า ชานยอลเชิดหน้าขึ้นแล้วแบะปากใส่
     
    “เรื่องคืนนั้นกูไม่ผิดมึงเริ่มก่อนเองถ้ามึงจะจำได้ เพื่อเทากับจุนมยอนแล้วกูยอมทุกอย่างต่อให้ต้องตัดมึงกูก็ยอมปาร์คชานยอล อย่าอ้าปากเถียงกูสักคำนะมึงเดี๋ยวมึงจะได้มานอนครางให้กูตอนนี้เลย!!” 
     
    “ไอ้เชี่.คริสกูเกลียดมึงไอ้เพื่อนเวร ไปนอนตายให้หนอนแทะไป!!” ตวาดมันด้วยเสียงสั่นๆนี่แหละเร้าอารมณ์ดี ฮือ... 
     
    “ถ้ามึงจะพูดให้ถูก กูเป็นผัวมึง” ชานยอลพยายามสะบัดตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งได้ยินคำพูดนั้นก็ยิ่งอยากจะร้องไห้จริงๆให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
     
    “มึงกล้าตัดกูจริงๆเหรอ” พอสะบัดจนเหนื่อยก็หยุดแล้วถามอีกคนด้วยเสียงสั่นๆอย่างไม่รู้ตัว
     
    “เออ!” สิ้นคำตอบด้วยอารมณ์ของคนตัวสูงกว่า ชานยอลก็น้ำตาหยดแหมะ ไอ้คนที่อารมณ์ครุกรุ่นก็เหมือนดับสวิตช์ตัวเอง ใจเย็นลงทันตา
     
    “มึงจะร้องไห้ทำไมวะ” คริสรั้งชานยอลเข้ามากอด คนที่น้ำตาหยดก็สะอื้นใหญ่ คริสกดหัวของชานยอลให้ซบที่ไหล่แล้วก็ลูบผมนิ่มเบาๆ 
     
    “ไม่เอาไม่ร้องแล้ว” แต่เสียงสะอื้นก็ยังคงดังไม่หยุดซ้ำยังจะดังขึ้นกว่าเดิมอีก สองมือที่กำเสื้อของคริสไว้ก็ทุบอกระบายความน้อยใจ ขอบอกตรงนี้เลยว่าน้อยใจมากด้วยกับคำตอบแบบนั้นน่ะ!
     
    “ไม่ร้องแล้วนะตัวเล็ก คนดีไหนบอกสิร้องไห้ทำไมครับ” แต่คนในอ้อมแขนก็ยังไม่ยอมหยุดสะอื้น คริสสัมผัสได้ถึงความอุ่นที่ไหล่ หยดน้ำตาที่ซึมผ่านเสื้อของตัวเอง
     
    “ไหนชานยอลบอกคริสหน่อยสิครับ ร้องไห้ทำไม” คนที่สมควรโกรธมันต้องเป็นเขาไม่ใช่เหรอแล้วทำไมคนตัวเล็กกว่าเขาต้องร้องไห้กันด้วยล่ะเนี่ย ชานยอลผละตัวออกแล้วมองหน้าคริสด้วบใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาและแดงเรื่อ ฝ่ามือยังทุบอกคริสไม่หยุด คนเสียใจก็สะอื้นฮักๆใหญ่ คริสช้อนแก้มกลมของคนตรงหน้าแล้วปาดเช็ดน้ำตาให้
     
    “มึงใจร้าย เกลียดมึงแล้ว” พูดไปก็สะอื้นไป คริสดึงชานยอลเข้ามากอดอีกครั้งแล้วลูบหลังปลอบเบาๆ
     
    “ใจร้ายยังไงครับ” 
     
    “มึงบอกจะทิ้งกูอ่ะ เกลียดมึงแล้ว ฮือ.. เกลียดแล้วไม่ต้องมากอดเลย” ดิ้นตัวหนีอ้อมแขนที่โอบรอบตัวแล้วก็ทุบอกของคนใจร้ายรัวๆเลย คริมก้มหน้าลงจุมพิตที่กระหม่อมสวยเบาๆ
     
    “ใครบอกจะทิ้งเล่าไม่ได้จะทิ้งสักหน่อย” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมอง คริสเองก็ก้มหน้าลงมามอง
     
    “ก็เมื่อกี้มึงพูดอ่ะ” คริสที่โอบกอดชานยอลอยู่ก้าวไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วรั้งให้ชานยอลนั่งอยู่บนตัก ชานยอลที่นั่งอยู่สูงกว่าก้มหน้าลงซบที่ไหล่
     
    “ก็กูโมโหนิที่มึงยังไม่คิดจะเลิกยุ่งกับน้อง” ชานยอลแบะปากแล้วทุบไหล่อีกข้างที่ตัวเขาไม่ได้อิงซบไปสักทีแรงๆ
     
    “กูก็แค่แหย่พ่อเล่นเฉยๆหรอก พ่อไม่เคยเจอเขาก็อยากเห็นก็เลยแกล้งแหย่เฉยๆ ไหนมึงบอกกูเป็นเมียมึงไงแล้วทำไมจะทิ้งกูล่ะ” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บที่ใจ พอเจ็บน้ำตาก็ไหลอัตโนมัติทุกที คริสกอดชานยอลแล้วเอียงหน้าจุ๊บที่แก้มของเด็กขี้แยบนตัก
     
    “ใครจะทิ้งมึงล่ะไม่ทิ้งหรอกน่า เลิกร้องได้แล้วเมื่อกี้ขอโทษ ยกโทษให้นะ” ชานยอลส่ายหน้าไปมา
     
    “ขอโทษจริงๆ ชานยอลยกโทษให้คริสได้ไหมครับ” คนร้องไห้กัดริมฝีปากตัวเอง กำลังลังเลว่าจะยกโทษให้ดีไหม คริสก้มหน้าลงมองชานยอลที่นั่งซุกหน้าที่ไหล่
     
    “นะครับ ยกโทษให้กันนะ” แต่ชานยอลก็ยังส่ายหน้าไปมา คริสสัมผัมแก้มกลมไปอีกสักฟอดใหญ่แล้วโอบกระชับตัวชานยอลก่อนที่จะโยกตัวไปมาคล้ายกล่อมเด็ก แต่ตอนนี้เขากำลังกล่อมให้ชานยอลยกโทษให้ ก็ผิดจริงๆนั่นแหละที่ไปพูดเหมือนจะทิ้ง ก็นะ.. ถึงเริ่มต้นเขาจะถูกหรือผิดลงท้ายคริสก็ต้องยอมชานยอลอยู่ดี
     
    พักใหญ่กว่าที่ชานยอลจะหยุดสะอื้น คริสก็เลยพาชานยอลให้เข้าไปอาบน้ำด้วยกันซะเลย อาบน้ำเสร็จคริสก็หาเสื้อนอนให้ชานยอลใส่ด้วยเพราะรู้หรอกว่าอีกคนน่ะขี้หนาวแต่คืนนี้ตัวเขาร้อนๆ อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เลยทำให้คริสสวมแค่บ็อกเซอร์นอน จากนั้นตัวเองก็เดินสำรวจรอบห้องล็อคกลอน ปิดหน้าต่างเรียบร้อยก็กลับขึ้นมานอนอีกฝั่งของเตียง
     
    ชานยอลหันหลังให้ยังคงเงียบและไม่ยอมยกโทษให้ ใบหน้าน่ารักยังคงแดงเรื่อจากการร้องไห้ คริสขยับตัวเข้าไปนอนซ้อนหลังแล้วกดจูบที่ไหล่เล็กเบาๆ แม้ชานยอลจะไม่ขัดขืนแต่ก็ไม่ยอมพูดกับเขาสักคำ ทำเอาคนโดนโกรธยิ้มละมุน ก็น่าแปลกนะแทนที่จะเขาร้อนใจแต่ตัวเขากลับรู้สึกดีที่ชานยอลงอนเขา นั่นก็แปลว่าชานยอลรักเขามากน่ะสิ รักแบบไม่รู้ตัวด้วยน่ะสิ
     
    คริสรั้งชานยอลให้หันกลับมาหา ชานยอลพลิกตัวมาแล้วก็มองหน้าอย่างงอนๆ คริสยิ้มแล้วขยับตัวกอดชานยอลให้มานอนหนุนที่อก นัยน์ตาโตมองรอยสักที่อกซ้ายแล้วก็ไล้ปลายนิ้วไปตามตัวอักษรเหล่านั้นเบาๆ คริสจรดริมฝีปากที่กลุ่มผมนิ่มหนักๆ
     
    “มึงชอบรอยสักเหรอ” ชานยอลส่ายหน้า
     
    “ไม่ได้ชอบ แต่มึงสักแล้วเท่ดี” ชานยอลตอบกลับเสียงเบา คริสยิ้มแล้วกอดกระชับชานยอลให้เข้ามาใกล้ๆ
     
    “ถ้างั้น.. ชอบที่กูสักแบบนี้ใช่ไหม” ชานยอลพยักหน้ารับเบาๆ
     
    “แล้วมึงอยากสักหรือเปล่า”
     
    “ไม่เอาอ่ะ กลัวเจ็บ” ก็ไม่น่าแปลกล่ะนะสำหรับคนในอ้อมแขนเขาคนนี้
     
    “มึงง่วงหรือยัง” ชานยอลพยักหน้าเบาๆแล้วปิดเปลือกตาลง คริสกดจูบที่กลุ่มผมนิ่มอีกครั้ง
     
    “หลับซะ.. ฝันดีนะฝันถึงกูล่ะ” ชานยอลพยักหน้ารับก่อนที่จะหลับไป คริสยิ้มแล้วกอดชานยอลไว้แนบชิด ถ้าให้ตัวเขาทิ้งชานยอลจริงๆตัวเขาจะทำได้เหรอ เขาจะกล้าปล่อยมือชานยอลหรือไง แค่เมื่อกี้เขาเผลอหลุดปากออกไปด้วยความโกรธชานยอลยังร้องไห้แทบเป็นแทบตายแล้วตัวเขาจะกล้าทิ้งคนนี้ได้ยังไงกันนะ..
     
    ก็หวังแต่ว่า... เช้ามาที่คนในอ้อมแขนเขาตื่นแล้วจะลืมเรื่องคืนนี้นะ ถ้ายังงอนอยู่ล่ะก็ง้อยาวแน่ๆ
     
    ...พลาดจริงๆกู...
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×