ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7
*กลิ้งมา* พาพี่บ่าวตัวดำมาหาแล้วค่ะ
ทุกบรรทัดที่เขียนนอกจากจะหมั่นไส้พี่บ่าวแล้ว บอกตรงๆ ทำไมพี่บ่าวถึงได้มั่นใจอะไรแบบนี้ 5555555
ไม่เคยคิดเลยที่จะพลิกบทคริสคนหล่อให้กลายเป็นคริสตัวดำพี่บ่าวของน้องชานยอลได้ จะว่าไปพี่คริสประมงก็เข้ากันดีกับคริสอู๋นะค๊ะ TT3TT
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ~~ เลิฟทุกคน จากบตนนของทุกคน *สาดจูบ*
ปล. ทุกคนอาจจะเบื่อ แต่เราชอบนะ เขินได้เขินดี >____<
____________________________________________
สวัสดีซาร่า คุณเคยทุกข์ใจอะไรมากๆจนอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้ปูดเลยไหมซาร่า?
โอ้วจอร์ชฉันไม่เคยหรอกแต่ตอนนี้ก็เริ่มจะรู้สึกแบบนั้นแล้วล่ะ
ฮวางจื่อเทากำลังทุกข์ใจ .. มากด้วย แล้วก็กำลังเซ็งแบบสุดกู่อีกต่างหาก อะไรที่ทำให้ทั้งทุกข์ ทั้งเซ็ง แถมนอยด์เป็นออฟชั่นเสริมน่ะหรือ? ก็ไอ้ตัวข้างๆกับสองคนตรงหน้านี่ล่ะ ฮวางจื่อเทาล่ะอยากจะขย่ำคอมันให้ตายคามือนัก นี่มันเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรืออย่างไร ทำไมต้องมาเดทกับไอ้ตาตี่นี่ด้วย!
แถมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดยังมากับพี่บ่าวตัวดำของมันก็ยังตามมาดูว่าเขากับไอ้ตาตี่นี่มาเดทกันจริงหรือเปล่า ยัง.. ยังไม่พอ ถ้าคิดว่าฮวางจื่อเทาจะเจอแค่นี้ โน้นเลยโต๊ะข้างๆ จงอินกับจงแดกำลังนั่งกินไอติมถ้วยใหญ่หัวเราะคิกคักแบบสบายอกสบายใจ พวกมึงจะขนกันมาหมดทำเผือกอะไร! ฮวางจื่อเทาว่าแบบนี้ไม่โอเค!!
“ทำหน้ามุ่ยอีกแล้ว อ้าปากเร็ว” จื่อเทาหันไปมองด้านข้างก็เห็นไอศกรีมรสที่ชอบมาจ่ออยู่ที่ปาก
“หึ๊!” ถึงจะไม่พอใจแต่เรื่องของกินนี่ไม่ได้นะ ฮวางจื่อเทากำลังกินกำลังโตนะจะบอก
“โอ๊ะ” อยู่ๆคริสที่กำลังก้มหน้าตักไอศกรีมในถ้วยตัวเองกินอยู่ก็ร้องออกมา ชานยอลหันมองก็เห็นเจ้าตัวขยี้ตา
“เป็นอะไรน่ะ ขยี้ตาทำไม” คริสหันมาส่งยิ้มให้ทั้งๆที่ยังกระพริบๆตาเพราะเคืองตาอยู่
“ความรักเข้าตาจ๊ะ” ชานยอลกรอกตาไปมาแล้วทุบเข้าที่ต้นแขนสักที จื่อเทาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็หัวเราะเหอๆ
“จะบอกดีๆหรือจะให้เอาช้อนทิ่มตาให้บอดดี” ชานยอลชูช้อนขึ้นมาขู่ พี่บ่าวคนดีก็ยกสองมือยอมแพ้
“ผมมันทิ่มตาน่ะ สงสัยผมพี่มันจะยาวเกินแล้ว” คริสสะบัดผมตัวเองที่ยาวแล้วเบาๆ สะบัดแล้วเสย .. อุเหม่พี่นี้ก็หล่อที่สุดในโลกหล้าเลยนะเนี่ย มิน่าน้องนางฟ้าตาโตของพี่ถึงตกหลุมรักพี่
“ก็ไปตัดสิ” ชานยอลพยักหน้ารับแล้วก็หันกลับไปกินไอศกรีมของตัวเองต่อ ไม่ได้สนใจคนข้างตัวอีก คริสยิ้มกว้างแล้วหันมาหาชานยอลทั้งตัว
“น้องว่าพี่ควรไปตัดผมเหรอ” ชานยอลเลิกคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัวที่ยิ้มกว้างจนปากจะฉีกอยู่แล้ว
“เอ้าถ้ามันน่ารำคาญก็ตัดไปสิ” คริสยิ้มกับคำตอบนั้นแล้วยกสองมือลูบผมตัวเอง
“น้องว่าพี่ไปตัดผมทรงไหนดี เอาแบบวงเกาหลีเลยดีไหม” ชานยอลมองหน้าคริสแล้วก็ยกยิ้มขำ เดี๋ยวนะ วงเกาหลีเลยเหรอเอาจริงดิ?
“ไม่ต้องหรอก ตัดสั้นๆก็พอแล้วให้มันดูโล่งๆน่าจะสบายกว่านะ” ชานยอลขมวดคิ้วแล้วเอียงคอมองคนข้างตัวว่าควรจะตัดผมทรงไหนดี คิดไม่ออกก็ตัดสั้นไปล่ะกัน
“โอเค น้องว่าแบบนั้นพี่บ่าวก็จะทำตาม” คริสยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี โห้ยน้องนางคนน่ารักแม่นางฟ้าประจำใจเมียรักของพี่ หวงความหล่อของตัวพี่ด้วยสินะ สมแล้วที่พี่เลือกให้น้องนางคนงามยิ่งกว่านางสาวไทยมาเป็นเมียรักพี่ มาเป็นแม่ที่ดีของลูกพี่
“แล้วจะมาทำตามที่เราบอกทำไม” ชานยอลทำหน้างง ดูสิ ขนาดน้องน่ารักสุดสวาทขาดใจของพี่ทำหน้าตาสงสัยยังน่ารักขนาดนี้เลย โอ๊ยพี่ชักจะทนไม่ไหวแล้วสิอยากจะอุ้มกลับไปหาแม่ซะเดี๋ยวนี้เลย!
“ถ้าน้องชานยอลบอกให้พี่ทำอะไรนะพี่ก็เชื่อหมดนั่นแหละจ๊ะ เขาว่าเดินตามคนน่ารักแล้วจะไม่ผิดหวัง” คริสเอียงคอแล้วยิ้มใส่ทำเอาชานยอลหัวเราะออกมาจนตัวเซ คนที่เหลือก็ได้แต่กุมขมับแล้วส่ายหน้าไปมา อะไรมันจะเสี่ยวมันจะหยอดได้ขนาดนี้วะ พวกกูขอคาราวะ!!
“กินไอติมเสร็จไปตัดผมกันไหมล่ะ ฉันก็อยากทำสีผมใหม่อยู่พอดี” จื่อเทาพร้อมกับลูบผมตัวเองไปมา เซฮุนหันไปมองแล้วขมวดคิ้วยุ่ง
“ไม่ต้องทำหรอก สีน้ำตาลนี่ก็เข้ากับนายดีออก” จื่อเทาหันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่
“ยุ่ง! ตกลงว่าไงไปเปล่า” จื่อเทามองหน้าขอคำตอบจากคริสและชานยอล คริสมองหน้าชานยอล
“เออไปก็ไป”
“ตามนั้นแหละ” พอชานยอลตอบ คริสก็พยักหน้าแล้วเห็นดีเห็นงามทันที ช้างเท้าหน้าต้องให้ควาญช้างนำนะครับ
“จะไปตัดผมเหรอ ไปด้วยๆๆ” จงแดขอมีส่วนร่วมเขยิบตัวไถมานั่งข้างคริส ดีที่เก้าอี้นั่งเป็นเก้าอี้ตัวยาวเลยไถลมาได้หรอก
“ออกมาให้ห่างมันเลยนะจงแด” ถ้าพี่ชายขี้หวงมาแต่เสียงมันก็ไม่ใช่คิมจงอินใช่ป่ะ ถูก.. เพราะมาทั้งเสียงแล้วสองมือที่มาลากน้องชายให้กลับไปนั่งที่ของตัวเอง
“เอออย่ามาใกล้ได้ป่ะวะไอ้จงแด นี่ตัวของพี่มีค่านะครับเก็บไว้ให้น้องชานยอลแตะต้องคนเดียว” คนถูกพาดพิงถึงกับสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไป คริสก็หันมาช่วยลูบหลังให้
“อยากใกล้ตายล่ะ!!” จงแดแหวใส่แล้วปาทิชชูที่ขย้ำเป็นก้อนใส่ด้วย คริสที่หลบได้ก็หัวเราสนุกเชียว
“นี่ตกลงพาพวกมันมาเดทกันเหรอเนี่ย?” จื่อเทาบ่นเบาๆกับตัวเอง แต่คนหูดีอย่างโอเซฮุนก็ได้ยินทุกคำ
“เอาไว้เราค่อยไปเดทกัน2คนนะ” เซฮุนก้มลงกระซิบเสียงเบากับจื่อเทา ทำเอาลูกแพนด้าหันมาจิกสายตาใส่
“ไม่อยากไปด้วย จบนะ” ฮวางจื่อเทาว่าแบบนี้มันไม่โอเค!!! อะไรสายตาที่ดูมีเลศนัยของปาร์คชานยอลที่มองมาคืออะไร!!? แล้วอะไรในอกที่เต้นเสียงดังจังเลย บ้าจริงไม่โอเคแล้ว!!
“ไม่อยากไปแล้วยิ้มทำไมน่ะ” เซฮุนยิ้มจนตาหยีแล้วยื่นปลายนิ้วไปจิ้มแก้มของคนที่ทำท่าโกรธสะบัดหน้าหนี
“อุแหม่..” คริสนั่งมองเซฮุนกับจื่อเทาที่หยอกล้อกันแล้วก็ยกยิ้มร้ายขึ้นก่อนที่จะหันไปสบตากับชานยอลอย่างรู้กัน กัดกันไปกัดกันมาก็มาหวานใส่กันซะอย่างนั้น
“แบบนี้น่าจัดให้สักดอกนะ” จงแดหัวเราะหึหึ จงอินก็พยักหน้าเห็นด้วย
“จัดไป แต่ก่อนจัดให้คู่ไอ้เซฮุนเอาคู่ไอ้คริสก่อน”
หลังจากที่กินไอศกรีมกันเสร็จก็พากันนั่งรถกลับมาที่แถวๆมหาวิทยาลัย มาร้านทำผมที่พวกเพื่อนๆแนะนำว่าถ้ามาร้านนี้รับรองกลับออกไปหน้าตาดีทุกคน แถมราคาไม่แพงเป็นกันเองสุดๆอีกด้วย พอลงจากรถแท็กซี่ได้จงแดก็วิ่งเข้าร้านคนแรก กลายเป็นว่าจงแดกับจงอินจะตัดผมก่อน ตามด้วยคริส และจื่อเทาที่ทำสีใหม่ เซฮุนที่มาด้วยก็หน้าหงิกเอาน่ะสิ
จงแดกับจงอินไปนอนสระผมที่เตียง ส่วนคริสก็นั่งอยู่หน้ากระจกกำลังตัดผมโดยมีชคนออกแบบทรงผมประจำตัวยืนกำกับคนตัดผมอยู่ข้างๆ เพราะพอเข้ามาร้านมาพี่ท่านก็งอแงจะให้เขามาบอกคนตัดว่าจะเอาทรงไหนตามใจชานยอล ถึงจะอยากด่าว่าเป็นเด็กสามขวบที่ต้องให้แม่มายืนดูแลหรือไงก็ด่าไม่ออก พอเห็นคนขอความช่วยเหลือมาทำหน้าตาแบ๊วๆ พองสองแก้มใส่อารมณ์รำคาญก็พาลหายไปหมดเลย
ก็แบบว่ามันก็ตลกดีเนอะ .. แล้วก็แบบใจเต้นดี
เซฮุนนั่งกอดอกทำหน้ามุ่ยอยู่ที่โซฟานั่งรอ พอจัดการคริสเสร็จชานยอลก็เดินไปนั่งด้วย พอมองตามสายตาก็เห็นว่าเซฮุนกำลังมองจื่อเทาที่อารมณ์ดีนั่งถ่ายรูปอัพลงอินสตราแกรมว่าตัวเองมาเปลี่ยนสีผม เจ้าตัวบอกว่าจะทำสีบลอนด์ โอเซฮุนก็ยิ่งหน้าหงิกใหญ่ พอมองในกระจกไปทางคริสก็เห็นเจ้าตัวทำหน้างอนเบะปากใส่เขาอยู่
“อะไรล่ะ” ชานยอลเดินมาหาคริสอีกรอบ
“ทำไมไม่อยู่ตรงนี้อ่า” คริสยื่นมือออกมาจากผ้าคลุมแล้วจับมือชานยอลไว้ หันหน้าไปหาไม่ได้นะเดี๋ยวผมแหว่ง ก็เลยใช้วิธีมองจ้องตาผ่านกระจกเอา
“ก็เมื่อยบ้างได้ไหมล่ะ” ชานยอลทำหน้ามุ่ยใส่แต่คริสกลับยิ้มกว้าง
“ก็นั่งอยู่ในใจพี่แล้วทำไมน้องถึงเมื่อยอีกล่ะ” สาบานว่าชานยอลเห็นพี่ช่างตัดผมเป๋จนเกือบจะไถบัตตาเลี่ยนเฉแล้วได้ผมแหว่งๆมาแทน
“นั่งเฉยๆไปเลยถ้าผมแหว่งขึ้นมานะจะหัวเราะให้ดู” มุ่ยหน้าใส่แล้วก็ชี้นิ้วสั่งห้ามพูดด้วย คริสเองก็ยิ้มแล้วไม่ขัดต่อคำสั่ง ก็แหมพี่บ่าวทำให้น้องนางคนน่ารักประจำใจของพี่บ่าวคนหล่อเขินจนเห็นแก้มแดงๆแล้วก็พอใจล่ะ
จงแดกับจงอินที่ตัดผมเสร็จแล้วก็หนีไปนั่งกับเซฮุน สองคนนี้แค่ตัดให้สั้นขึ้นอีกหน่อยเท่านั้นเอง จื่อเทาก็นั่งไขว้ห้างอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ตัดผมพร้อมกับแบะปากใส่เพื่อนอย่างหมั่นไส้ก่อนที่จะทำหน้าตกใจแล้วหยิบมือถือออกมาแล้วแอบถ่ายรูปคริสกับชานยอลที่ยืนจับมือกันในกระจกแล้วอัพลงอินสตราแกรม ไม่ลืมติดแท็กชื่อหาด้วย
“เรียบร้อยแล้วจ๊ะ” ช่างตัดผมสาวประเภทสองที่ตัดผมให้คริสเสร็จก็จัดการลูบผมจัดแต่งทรงผมให้ก่อนที่จะปลดผ้าคลุมออก
“โอ้โห้ขอบคุณครับ แหมหล่อนะเนี่ย” นั่นไง บางทีชานยอลก็อยากจะถามนะว่าไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกัน
“โอ๊ยหล่อมากจ๊ะน้อง เดี๋ยวพี่ไปดูผมเพื่อนน้องก่อนนะ” แล้วพี่เขาก็เดินไปดูจื่อเทา คาดว่าคงรับไม่ได้ เอาเถอะปาร์คชานยอลชินล่ะ
“พี่เป็นไงบ้าง หล่อใช่เปล่า” คริสหันมาหาชานยอลแล้วยิ้มกว้างจนตาหยี เงิงโผล่ ชานยอลไล่สายตามองทรงผมสั้นที่ตัดให้เข้ากับใบหน้านี้แล้วก็ .. ดูดีขึ้นมานิดนึงนะ
“งั้นๆแหละ” ยืนยันคำว่างั้นๆด้วยการยักไหล่ให้ด้วย คริสทำหน้าหงอยใส่แต่แล้วก็ยิ้มอารมณ์ดีจับมือพาชานยอลไปนั่งที่โซฟานั่งรอ
“ถึงยังไงก็เป็นทรงที่น้องชานยอลชอบ ยังไงพี่ก็ดูดีในสายตาน้องก็พอ” คือถ้าทุกคนในร้านอ้วกได้ก็จะทำ สายตาที่มองมามันบอกแบบนั้นน่ะนะ
“ถามจริงไปเอาความมั่นใจมากมายจากนั้นมาจากไหนกัน” ในเมื่อข้องใจก็ต้องถาม รู้สึกเหมือนจะมีคนรอคอบคำตอบเหมือนกันนะ คริสทำหน้าไม่เข้าใจ
“ความหล่อพี่น่ะเหรอ? ไม่เห็นต้องไปเอาจากไหนเลยแค่ส่องกระจกก็มองเห็นแล้ว” ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้ด้วย ชานยอลมองคนตรงหน้าด้วยความอึ้งก่อนที่จะหัวเราะออกมา
“เออก็จริงเนอะ” ชานยอลหัวเราะจนแทบจะล้มตัวลงไปนอนกับโซฟาได้อยู่แล้ว
“แหมเข้าข้างกันจริง ความรักทำให้คนตาบอดสินะ” จื่อเทาบ่นเบาๆ พี่ช่างทำผมก็พยักหน้าเห็นด้วย
ทุกคนลงความเห็นกันว่าหลังจากที่รอเทาทำผมเสร็จจะไปหาอะไรกินกันก่อนที่จะกลับห้องกัน คริสชี้ไปที่ร้านหมูกะทะแต่เทาก็แหวขึ้นมาเถียงกันไปอีก ชานยอลเลยตัดบทลากคริสเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวไปแทน เถียงกันดีนัก พอเข้ามาร้านได้เดินไปนั่งที่โต๊ะใหญ่สุดของร้านที่รองรับหกคนได้สบายๆ
กินกันอิ่มก็ว่าจะแยกกันกลับขึ้นห้องพักของแต่ละคน คงไม่อยากจะไปเดินเที่ยวไหนอีกนี่ก็ฟ้ามืดแล้ว คริสเดินจับมือชานยอลพาไปส่งที่หน้าหอพักคณะพืชศาสตร์เช่นเดิมแต่ต่างตรงที่เซฮุนเดินทำหน้านิ่งและเทาก็ดูเงียบผิดปกติ
“น้องชานยอลว่าไอ้สองคนนั้นแปลกๆป่ะ” คริสดึงมือชานยอลให้ขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบถามเบาๆพร้อมกับเหล่ตาไปที่สองคนที่เดินอยู่ด้านหน้า
“เซฮุนคงไม่ชอบให้เทาทำสีผมมั้ง เราว่าเดี๋ยวเราจะไปทำมั่งเขาทำดีนะสีสวยเชียว” ชานยอลมองสีผมของเทาแล้วก็เม้มปากอย่างช่างใจ คริสกระตุกมือชานยอลแล้วทำหน้ามุ่ย
“ไม่ให้ทำนะสีนี้แหละเหมาะแล้ว อย่าทำเลยนะ” ชานยอลเลิกคิ้วแล้วเอียงคอใส่
“แล้วทำไมต้องห้ามด้วยล่ะ”
“ก็ถ้าน้องชานยอลน่ารักกว่าเดิมแล้วมีคนมาแย่งน้องไปจากพี่ล่ะ พี่ต้องนอนร้องไห้เพราะปวดใจแน่ๆเลย” ชานยอลหัวเราะแล้วยื่นมือไปทุบไหล่คนที่จะนอนปวดใจร้องไห้แรงๆ
“ตลกเหรอไง เพื่อนเล่นเหรอ” คริสยิ้มกว้างแล้วจับมือที่ทุบตัวเองไว้ ตอนนี้เลยดูเหมือนชานยอลโดนคริสกอดไว้ทั้งตัว
“พี่ไม่ได้ตลกแต่ถ้าน้องจะยิ้มเพราะพี่ พี่ก็โอเค” ชานยอลกรอกตาไปมาแล้วดึงมือออกก่อนที่จะเดินไปอยู่กับเทาเพราะถึงหน้าหอของตัวเองแล้ว
“ขอบใจที่มาส่ง รีบกลับได้แล้วเหมือนวันนี้จะมีพายุเข้านะ” ชานยอลมองขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นว่าท้องฟ้าสีแดงๆคล้ายกับฝนจะตกหนัก
“นอนฝันถึงพี่ด้วยนะน้องชานยอล” คริสยิ้มกว้างแล้วโบกลามือหยอยๆ ชานยอลเอียงคอทำหน้าครุ่นคิดก่อนที่จะส่ายหน้า
“ไว้คิดดูก่อน รีบๆกลับได้แล้ว” ชานยอลยิ้มทิ้งท้ายแล้วเดินลากเทาขึ้นตึกไปทันที ทิ้งให้คริสทำหน้ามุ่ยเตรียมงอนไว้อยู่กับเซฮุนเลย
“เทาโกรธอะไรกับเซฮุนน่ะ” จื่อเทาส่ายหน้าไปมา นี่ยังไม่รู้เลยว่าโดนเมินเพราะอะไร
“ไม่รู้อ่ะ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วยก็เลยไม่พูดล่ะ ไม่คุยมาก็ไม่คุยตอบ” จื่อเทาทำหน้าเซ็ง ชานยอลมองด้วยรอยยิ้มล้อเลียน
“อ๋อเหรอ.. หรือบางทีอาจจะโกรธที่ไปทำสีผมป่ะ?” จื่อเทาเลิกคิ้ว
“บ้าป่ะวะหัวก็หัวฉันยุ่งอะไร ว่าแต่ไปกับคริสนี่ขั้นแล้วล่ะ” พอศรย้อนมาหาตัวเองชานยอลก็ส่ายหน้าแล้วหันหน้าหนี
“ขั้นไหนอะไร ไม่มีนิ”
“อ๋อเหรอ.. อย่าลืมเรื่องนั้นนะ จัดการด้วยล่ะ รู้ใช่ไหมว่าพูดถึงเรื่องอะไร” ชานยอลพยักหน้ารับก่อนที่จะถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตก
ถ้าฉันทำให้นายร้องไห้เพราะปวดใจจริงๆ ... นายจะให้อภัยฉันไหมนะคริส
สิ้นสุดเสียงออดหมดคาบวิชาที่ว่าด้วยเรื่องแมลง ชานยอลกับเทาก็รีบเก็บข้าวของแล้วออกมาจากห้องเพื่อที่จะลงไปกินข้าวเที่ยง แล้วขึ้นมาเรียนวิชาพืชกรรมต่อ แถมตอนเย็นยังมีคาบสอนชดเชยอีกหนึ่งชั่วโมง เรียกได้ว่าเรียนหนักก่อนสอบจริงๆ
ชานยอลกับเทากำลังคุยถึงเรื่องวิชาที่เพิ่งผ่านมา แม้จะไม่ได้ยากมากอะไรแต่สิ่งที่ต้องจำกลับมีเยอะจนหัวแทบระเบิด ทั้งสองคุยไปก็ก้าวเท้าลงบันไดไปด้วยเพราะผู้คนที่จะลงไปโรงอาหารในเวลานี้นั้นค่อนข้างเยอะ ชานยอลกับเทาก็เลยโดนเบียดให้เดินอยู่ช่วงกลางบันได ไม่มีราวบันได้ให้เกาะ
“น้องชานยอล~!!” เจ้าของชื่อหันลงไปมองที่พื้นด้านล่างก็เห็นคริสมายืนโบกมือเรียกอยู่ ริมฝีปากอิ่มวาดรอยยิ้มขึ้นแล้วเร่งก้าวเท้าลงมาที่ไวๆพร้อมกับจื่อเทา
เพราะช่วงเวลาแบบนี้คนเยอะก็เลยทำให้มีใครสักคนที่รีบมากวิ่งลงบันไดแทรกชานยอลและจื่อเทา คนนั้นชนไหล่กระแทกชานยอลที่กำลังก้าวเท้าลงมาจากบันได จื่อเทายังไม่เท่าไหร่เพราะเบี่ยงหลบทันแล้วเพื่อนที่ลงมาด้วยกันก็จับไว้ได้ทัน
“เฮ้ย!!” คริสรีบวิ่งเข้าไปรับชานยอลที่กำลังจะตกบันได ถึงจะแค่ไม่กี่ขั้นจะถึงพื้นอยู่แล้วก็ตามแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปล่อยไว้ ชานยอลหล่นใส่อ้อมแขนของคริสพอดิบพอดี สองแขนยาวที่โอบรอบเอวเล็กไว้นั่นช่างปลอดภัยและมั่นคงจนเจ้าตัวลืมไปแล้วว่าตกใจอยู่
“อะไรของมึงวะ!” จื่อเทาวิ่งลงมาแล้วกระชากเสื้อถามคนที่อยู่ๆก็วิ่งแทรกลงมา
“ขอโทษพอดีฉันรีบน่ะ”
“มันไม่ใช่เรื่องนะเว๊ยนี่ถ้าแม่งพวกกูอยู่ข้างบนนี่ไม่กลิ้งลงมาคอหักตายเหรอวะ!” เซฮุนเข้ามาดึงเทาออกจากการตวาดใส่คนทำเรื่องแล้วหันไปมองหน้าตัวต้นเหตุอย่างสายตาเรียบนิ่ง
“น้องชานยอลเจ็บหรือเปล่า ไปโรงบาลไหม” คริสดันตัวชานยอลออกแล้วขมวดคิ้วมองหาอาการผิดปกติ
“อ่า คิดว่าเจ็บเท้าอยู่นะ .. โอ๊ย!” พอลองก้าวเดินดูก็แทบทรุด อาการเจ็บจี๊ดแล่นร้าวผ่านขึ้นมา คริสประคองชานยอลไว้ เทาก็เข้ามาช่วยพยุง
“ไป ห้องพยาบาลก่อนดีกว่า” เซฮุนเสนอความเห็น
“น้องชานยอลเดินไหวไหม” คริสหันมาถามชานยอลด้วยสีหน้าเป็นห่วง ชานยอลก็ยิ้มแล้วพยักหน้า
“ไหวน่า .. โอ๊ย!” แต่พอน้ำหนักที่เท้ากลับเจ็บจี๊ดจนหลุดร้องเจ็บเสียนี่
“ขี่หลังพี่มา ไม่งั้นวันนี้ก็ไม่ได้ไปไหนแน่เลย” คริสหันหลังให้แล้วย่อตัวลง ชานยอลทำสีหน้าตกใจ
“ไม่เอา เดินเองได้” คริสหันหน้ามาทำหน้าตาดุใส่
“ขึ้นมาเร็วๆไม่งั้นพี่จะจับอุ้มเลยนะ!” สิ้นคำขู่ชานยอลก็ค่อยๆขึ้นขี่หลังคริสโดยมีจื่อเทาช่วยประคอง เมื่อขยับคนบนหลังให้เข้าที่แล้วคริสก็ออกเดินไปทางด้านหลังตึกที่จะมีห้องพยาบาลอยู่
“แล้วนายเจ็บตรงไหนด้วยหรือเปล่า” เซฮุนแตะแขนของจื่อเทา เจ้าตัวหันหน้ามาแล้วส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ
“ไม่หรอกพอดีหลบทัน ไปห้องพยาบาลกันดีกว่า” จื่อเทายิ้มให้แล้วเดินตามหลังคริสที่แบกชานยอลขี่หลังไป เพื่อคอยประคองเผื่อถ้าเพื่อนจะหงายหลัง
ชานยอลที่อยู่บนหลังของคริสก็วาดแขนโอบรอบคอของเจ้าของแผ่นหลังนี้ไว้หลวมๆแล้ววางปลายคางไว้ที่ไหล่หนา ก่อนที่จะลอบมองเสี้ยวหน้าที่ดูจะเป็นกังวลและเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน ริมฝีปากสีสดวาดรอยยิ้มขึ้นมาแล้วแนบใบหน้าลงกับไหล่นั้น
เป็นห่วงมากเลยสินะ ขอโทษ แต่ก็ขอบคุณเหมือนกัน
“เป็นห่วงเหรอ” ชานยอลเอียงใบหน้าแล้วลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังแบกเขาอยู่
“ห่วงสิ ไม่ให้พี่ห่วงน้องแล้วพี่จะไปห่วงใคร” คริสยังคงก้าวเท้าไปที่หลังตึกอย่างเร่งรีบ หลังมือนิ่มยกขึ้นเช็ดหยดเหงื่อที่ซึมอยู่ตามไรผมให้
“เราไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง” คริสที่กำลังก้าวเดินอยู่นั้นหยุดฝีเท้า ทำให้คนที่เดินตามมาก็ต้องหยุดจังหวะก้าวเดินด้วยเหมือนกัน ใบหน้าคมหันไปมองสบตากับดวงตากลมที่มองอยู่ไม่ห่าง
“ห่วงสิต่อให้แค่โดนยุงกัดพี่ก็เป็นห่วงพี่ไม่อยากให้น้องเจ็บ พี่บอกแล้วว่าจะดูแลแล้วถ้าน้องมาเจ็บแบบนี้พี่ก็จะโทษตัวเอง พี่จะวางใจได้ก็ต่อเมื่อถึงมือหมอเท่านั้น” ดวงตาเรียวดุตรงหน้าฉายแววจริงจังและชัดเจนจนชานยอลที่ร้อนแก้มต้องเผยรอยยิ้มออกมา สองแขนที่โอบรอบลำคอของคริสขยับให้กระชับขึ้นอีกนิด
“ขอบคุณนะ” ชานยอลหลับตาแล้วแนบหัวพิงกับหัวของคริส เจ้าตัวก็ยิ้มแล้วก้าวเดินอีกครั้ง อีกไม่ไกลก็ถึงห้องพยาบาลแล้ว
“โอ้โห้น้ำตาจะไหลอยากจะแชร์เหลือเกิน” จื่อเทาที่ยืนมองอยู่ก็ยิ้มออกมา รู้สึกดีที่เพื่อนได้คนดีๆ เอาน่าไหนๆจะปล่อยเพื่อนรักเพื่อนเลิฟออกจากอ้อมอกสักที ฮวางจื่อเทาก็ต้องสกรีนก่อนล่ะว่าดีพอไหม
“มัวแต่ยิ้มอยู่ได้” เซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยกมือขยี้ผมสีสว่างของเทาแล้วหัวเราะเบาๆ จื่อเทาหันมาจิกสายตาใส่ก่อนที่จะแลบลิ้นให้ตบท้ายแล้วรีบวิ่งไปหาคริสกับชานยอลที่เดินเข้าห้องพยาบาลไปแล้ว
อาการของชานยอลไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นกระดูกร้าว หรือหัก เพราะจากการตกบันไดไม่กี่ขั้นเลยทำให้เท้าพลิกตอนโดนชนเลยเสียการทรงตัว และโชคดีที่คริสรับชานยอลได้ไวไม่เช่นนั้นเท้าคงได้เจ็บระบมกว่านี้เป็นแน่ มีรอยช้ำที่เท้านิดหน่อยด้วย พยาบาลประจำห้องก็เลยทำการรักษาและพันผ้าให้พร้อมกำชับว่าห้ามขยับเท้ามากๆและใช้แรงเยอะเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะระบมไม่หาย
ถึงจะยังไม่เข้าสู่ช่วงสอบดีแต่ช่วงนี้ก็ไม่อยากจะขาดเรียกสักคาบ ชานยอลก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วเขาจะมาเรียนอย่างไรล่ะ ถ้าให้มาเรียนโดยการปั่นจักรยานหรือเดินมาล่ะก็ ตายแน่ๆ พวกเขาชอบเดินมากกว่าปั่นจักรยานและแน่นอนว่าฮวางจื่อเทาก็ไม่ได้ปั่นจักรยานเก่งมากนัก ถ้าจะให้เขาซ้อนแล้วให้เทาปั่นมาเรียน สงสัยจะได้ร่วงกองข้างทางแน่
ดังนั้นคริสก็เลยยกมืออาสาด้วยความเต็มอกเต็มใจว่าจะปั่นจักรยานมารับมาส่งไปเรียน แล้วก็ถ้าช่วงสอบขายังไม่หายเขาก็จะปั่นมารับมาส่งตอนสอบด้วย จริงๆก็ไม่ได้คิดว่าคริสจะทำตามคำพูดนั้นหรอก แต่ชานยอลคงคิดผิดไปนิดหน่อยว่าพี่บ่าวเขารักจริงหวังแต่งขนาดไหน
“น้องชานยอลพี่มาแล้ว~~” เสียงทักทายมาก่อนเจ้าตัวเสียอีก คริสปั่นจักรยานมาจอดที่หน้าตึกเรียนพร้อมกับเซฮุนที่ปั่นมาอีกคัน และจงอินที่ปั่นมาโดยมีจงแดซ้อน
“ก็บอกว่าไม่ต้องมารับไง” ชานยอลมุ่ยหน้าใส่ ถึงจะผ่านมาไม่กี่วัน อาการเจ็บจะบรรเทาลงแล้วแต่ก็ยังปวดจี๊ดอยู่แต่ปาร์คชานยอลยังเดินได้นะ ไม่ได้ง่อย
“เอาน่าคนดีของพี่ ขึ้นมาเถอะเดี๋ยวเราจะไปกินสเต๊กหลังมอกัน” คริสยิ้มกว้างแล้วตบมือลงที่เบาะว่างด้านหลัง
“ร้านที่เพิ่งมาเปิดใหม่ป่ะ? เฮ้ยเขาบอกว่าอร่อยกันนะไปกันเลย~~” จื่อเทาถามขึ้นมา พอจงแดยืนยันว่าใช่ลูกหมีแพนด้าก็อารมณ์ดีเดินไปซ้อนหลังเซฮุนทันที ก็ชานยอลมีคนมารับมาส่งไง จื่อเทาก็เลยมีด้วย
“ไปกันเลย เลทโก!” เมื่อชานยอลก้าวขึ้นราชรถส่วนตัวแล้ว คริสก็ปั่นออกไปยังหลังมหาวิทยาลัยทันที
“ทำไมปั่นช้าอ่ะ เราตัวหนักเหรอ” นั่งมาได้สักพักรถเพื่อนอีกสองคันแซงไปแล้ว แต่คริสกับชานยอลยังรั้งท้ายเจ้าตัวก็เลยชะโงกหน้าไปถามคบขับรถส่วนตัว
“พี่ว่าล้อคงแบนเมื่อเช้าพี่ลืมไปสูบลม เดี๋ยวแวะสูบลมแปบนะ” คริสก้มลงที่ล้อแล้วก็เห็นว่ามันอ่อนลม เจ้าตัวก็เร่งฝีเท้าไปปั่นไปยังร้านสูบลมในตัวมหาวิทยาลัย เห็นห่างไกลแบบนี้แต่มีนะครับ~ เป็นร้านเล็กๆที่รับจัดการเรื่องล้อของจักรยานในมหาวิทยาลัย
“ไงเฮียมาเติมลมเหรอ แหมพาแฟนมาด้วยเหรอน่ารักนะเฮีย” เมื่อคริสจอดรถเสียงทักของเด็กหนุ่มที่ดูแลร้านนี้ก็เอ่ยทักขึ้น ชานยอลที่ได้ยินคำทักทายแบบนั้นก็ทำตาโตแล้วอยู่ๆก็รู้สึกแก้มมันร้อนๆยังไงก็ไม่รู้
“เฮ้ยแฟนอะไร นี่ว่าที่แฟนในอนาคตเว๊ย” คริสก็ยิ้มอารมณ์ดีจนเงิงโผล่พร้อมนำเสนอว่าที่แฟนในอนาคตเสียเหลือเกิน แขนยาวโอวเอวเล็กแล้วหันมายิ้มให้ พอยอมให้แตะต้องตัวได้หน่อยนี่มาเต็มเลยนะไอ้หื่นตัวดำ!
“เอาน่าเฮีย เสร็จแล้ว2บาทครับ” คริสจ่ายเงินเสร็จก็ไปประจำหน้าที่พลขับ ชานยอลก็ก้าวขึ้นนั่งแล้วเกาะเสื้อคริสไว้ พอรถขับห่างออกไปชานยอลก็ฟาดหลังเข้าให้หนึ่งที
“โอ๊ย น้องชานยอลมาตีหลังพี่ทำไมอ่ะ” คริสเอี้ยวตัวมามองก็เห็นคนน่ารักสุดสวาททำหน้ามุ่ยใส่
“เราจะไปเป็นแฟนกันตอนไหน มั่วชะมัด” คริสหัวเราะแล้วแกล้งขับรถส่ายทำเอาชานยอลผวากอดเอวคริสไว้ คริสไม่ได้ตอบอะไรไปและชานยอลก็ไม่ได้ถามอะไรอีก ก็ได้แต่นั่งพิงหลังกว้างนั้นไปตลอดทาง ถึงใครจะมองก็ช่าง ทำไมจะต้องสนด้วยล่ะ ก็ในเมื่อตัวเขาเองก็อยากจะทำอะไรตามใจ ตัวของเขา ใจของเขา
คนที่นั่งพิงหลังเขาก็วาดรอยยิ้มประดับบนใบหน้า คนที่ทำหน้าที่ปั่นจักรยานให้ซ้อนก็วาดรอยยิ้มที่เห็นท่อนแขนเล็กโอบเอวเขาและรู้สึกถึงหัวของคนด้านหลังอิงหลังเขาอยู่
วันเวลาดีๆแบบนี้ก็อยากจะให้ถนนยาวไปอีกสักร้อยกิโลจริงๆ ปั่นไม่ต้องถึงจุดหมายก็ท่าจะดี อยากจะให้เวลาหยุดหมุนไว้เพียงเท่านั้น ...เวลาที่มีแค่เราสองคน...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น