ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 : Rule 03 ต้องโทรหากันตลอดถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน
อุ้ยยยยย ดีใจจังมีคนรักเราขนาดนี้ #มันยังไม่สำนึกว่าเขาจะเอาระเบิดมาปาบ้านอยู่แล้ว 55555555
ทุกคนรักเราแบบฮาร์ดคอร์และรุนแรงมาก 55555555
นี่ขอเม้าเลยนะ ยิ่งเขียนก็ยิ่งมันส์ ทำไมพี่จงอินเสี่ยวแบบนี้!! ไม่ไหวจะทนมากอ่ะบอกเลอออออออออ
พี่แบคก็หวานเนอะ ทำตัวดี(?)ล่ะเกินนนนนน แต่เอาจริงนะใครจะแฮ่ดได้เท่าคู่คริสยอล หมั่นไส้อ่ะ จับแยกสักทีดีไหม -*-
อากาศร้อนมาก ก็อย่าให้อารมณ์ร้อนตามนะคะ อิอิ อย่าเพิ่งเอาระเบิดมาปาบ้านเรา อย่าเพิ่งมาตบเลาาาาาา
เลิ๊บๆ~♥
________________________________________
“ฮัลโหล๊วววววว ที่รักอยู่ไหนคะ~~” เปล่า.. นี่ไม่ใช่เสียงของคยองซูกับแบคฮยอนหรอกแต่เป็นเสียงของจงอินที่นั่งอยู่ข้างๆจงแดแล้วก็เอียงหน้ายิ้มกว้างใส่ จงแดก็แค่เหลือบตามองแล้วก็ไม่สนใจ
“ยาใจของพี่จงอินจ๋า~” ถึงจงแดจะไม่ได้โต้ตอบหรือผลักไสแต่ก็นั่งนิ่งให้จงอินกอดแล้วก็ทำเสียงร้องไห้กระซิกๆต่อไป แบคฮยอนมองคู่สองจงแล้วก็ได้แต่ทำหน้างงว่ามันสองคนเป็นอะไรเห็นเมื่อเช้ามามหาลัยยังดีๆกันอยู่เลย นี่แอบเดินไปต่อแถวซื้อข้าวหน่อยเดียวพลาดดราม่าเลย
“อะไรของพวกมันน่ะ” แบคฮยอนลงนั่งแล้ววางจานข้าวที่คยองซูฝากซื้อไว้ให้ตรงหน้า ก็คนมันเยอะไงก็เลยไม่อยากยืนรอใช้แบคฮยอนนี่ล่ะคือที่สุด
“จงแดโกรธจงอินน่ะ” คยองซูที่นั่งข้างแบคฮยอนเป็นคนตอบ ส่วนคู่คริสยอลนั่นนั่งเกาะติดสถานการณือย่างเดียว
“อ้าวโกรธเรื่องอะไรล่ะ” เอาจริงๆนะหาเรื่องที่จงแดจะโกรธจงอินได้นี่โคตรจะยากอ่ะ อะไรๆจงแดก็ยกโทษให้หมดอ่ะ ขนาดมันไปเต๊าะผู้หญิงทิ้งให้จงแดนั่งที่โต๊ะคนเดียวเจ้าตัวก็ไม่เคยโกรธ เอ.. มีเรื่องอะไรกันวะ
“ก็จงอินรับโทรศัพท์ของจงแดน่ะสิ” เอ้าแล้วมันน่าโกรธตรงไหนวะ
“แล้วทำไมอ่ะ”
“ก็ดูมันพูดดิ สวัสดีครับที่รักของยาใจรับสาย คนอื่นกูจะไม่ว่าเลยแต่นั่นพ่อกูโทรมาไง” จงแดเป็นคนตอบให้แล้วก็มองค้อนใส่จงอินที่กอดเขาไม่ปล่อยแล้วทำหน้าอ้อน
“เฮ้ยจิ๊บๆว่ะ ทีไอ้ชานยอลรับโทรศัพท์ไอ้คริสไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย” นี่บอกเลยว่านะว่าที่รักของยาใจรับสายน่ะยังเบาไปสำหรับคู่รักนินจาเสาไฟนะบอกเลย พี่พยอนได้ยินมากับหูเถอะ!
“กูไม่ได้หน้าด้านเหมือนมันนะเว๊ย ไอ้นี่นิก็กอดอยู่ได้!!” จงแดหันมาผลักจงอินให้ออกห่างแต่คิมจงอินก็คือคิมจงอินที่ก็ขยับตัวมากอดจงแดจนแทบจะสิงร่างต่อ
“อ้าวไอ้จงแดอยากตายไง!” ชานยอลแทบจะไฝว์ข้ามโต๊ะ บอกเลยว่าอารมณ์เสียนะเนี่ย!
“ไม่เอาน่า” คริสคว้าคอชานยอลมากอดล็อคไว้ ชานยอลก็หันมาทำหน้าบู้ใส่
“ก็มันว่าเขาอ่ะ!” คริสยิ้มแล้วใช้หัวโขกหัวของชานยอลเบาๆ
“เอาน่ากินข้าวต่อได้แล้ว” คริสปล่อยมือแล้วชานยอลก้มก้มหน้าลงกินข้าวต่อแต่ก็แอบส่งสายตาค้อนให้จงแดด้วย
“ประสาทจริงๆเลยไอ้พวกนี้” แบคฮยอนส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ
“พูดเหมือนตัวเองไม่ได้ประสาทไปด้วยอ่ะ” แบคฮยอนหันไปมองคยองซูแล้วก็ทำหน้างอนใส่
“เฮ้ยนี่สติดีมากบอกเลย” คยองซูหัวเราะเบาๆ แบคฮยอนก็เลยยิ้มแล้วแซะคนตัวเล็กด้วยไหล่แกล้งให้หลุดหัวเราะ คยองซูที่รำคาญนิดๆก็เลยฟาดที่ต้นขาเข้าให้ แบคฮยอนจับมือข้างนั้นของคยองซูไว้แล้วก็ลูบตรงที่ตัวเองโดนตีไปมา แสบใช่ย่อย
“ปล่อยมือแล้วกินข้าวไปเลยไป” แบคฮยอนก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก็ยังอบสอดสายตามองสองจงข้างหน้าที่มันก็ยังงอนง้อกันไม่กินข้าวสักที เออไม่กินพี่พยอนกินให้เอามะ?
หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนก็เดินมานั่งที่โต๊ะประจำเพราะช่วงบ่ายต้องพรีเซนต์งานรายคน ระหว่างที่เดินจากโรงอาหารของคณะที่อยู่อีกตึกหนึ่งกลับมานั่งที่โต๊ะไม้ประจำนี่ก็ไม่ไกลกันมากนักแต่ว่าคู่รักนินจามันหายไปอีกแล้ว!! นี่อยากจะถามพวกมันอยู่ตัวก็สูงอย่างกับเสาไฟทำไมแวบหายเก่งจังวะ!! หรือจริงๆแล้วพวกมันสองคนเป็นพลังงานลึกลับ สงสัยงานนี้ต้องเชิญคุณริวกับคุณเจนมาพิสูจน์
จงอินกับจงแดก็ยังง๊องแง๊งใส่กันไม่เลิก เอ้าดูพวกมันเอาเถอะจะอะไรกันนักกันหนากับอีกแค่รับโทรศัพท์เอง เอาจริงๆนะจากใจพี่พยอนสุดหล่อเลยนะ ถึงไอ้จงอินไม่ประกาศตัวว่างุ๊บงิ๊บอะไรกับลูกชายเขาแต่แค่มองก็น่าจะรู้แล้วหรือเปล่าวะว่าไอ้จงแดไม่ได้ชอบผู้หญิง คิดว่าท่านนายพลพ่อของไอ้จงแดคงไม่โง่หรอก เพราะถ้าไม่งั้นนะไอ้จงอินโดนเป่าดับไปนานแล้วล่ะ
เอ.. หรือจะไม่รู้จริงๆวะ แล้วที่บ้านเขากับบ้านคยองซูรู้บ้างจะเป็นยังไงนะ
ไม่อยากจะคิดเลยว่ะ
“แบคฮยอน!” เสียงเรียกมาพร้อมกับแรงที่ฟาดที่ต้นแขน
“หะ.. ห๊ะๆๆ” แบคฮยอนสะดุ้งโหยงแล้วมองคยองซูที่ทำหน้าสงสัยอยู่ข้างตัว
“เป็นอะไรเรียกก็ไม่ตอบ” คยองซูขมวดคิ้วแล้วมองจ้องแบคฮยอน คนโดนถามเกาหัวตัวเองก่อนที่จะหันมองรอบๆโต๊ะที่ก็เห็นว่าคริสกับชานยอลกลับมาแล้ว แล้วทุกสายตาก็พุ่งมาหาเขาด้วย
“เออเปล่าหรอก ว่าแต่เรียกทำไมเหรอ” คยองซูพยักหน้ารับแล้วก็หยิบขวดน้ำมาเปิดฝาเพื่อดื่มน้ำแล้วก็ส่งให้แบคฮยอน
“ชานยอลถามว่าหยุดเสาร์อาทิตย์นี้จะไปไหนกันไหม” แบคฮยอนส่ายหน้า
“ขอนอนอยู่หอดีกว่า กว่าจะโหมทำพรีเซนต์อันนี้เสร็จก็เหนื่อยแล้วอ่ะ แล้วจะไปไหนกันอ่ะ” พ่อคนอยากนอนทำตาวาวๆมองคนนั้นที คนนี้ที แหมพ่อคนไม่อยากไปเที่ยว!
“ตอนแรกก็ว่าจะไป ตอนนี้ไม่ไปล่ะ” ชานยอลแบะปากใส่ แบคฮยอนก็แบะปากคืน น่ารักตายแหละไอ้หูกาง!!!
“แล้วตกลงนั่นดีกันแล้วเหรอน่ะ” แบคฮยอนพยักพเยิดหน้าไปทางจงอินกับจงแดที่นั่งคุยอะไรกันสองคนงุ๊งงิ๊งก็ไม่รู้
“ก็ดีกันแล้วน่ะสิ” คยองซูตอบแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“เออตีกันแล้วก็ดีกันทำอย่างกับพวกแต่งงานกันใหม่ๆ” แบคฮยอนหัวเราะ จงแดก็หยิบหลอดดูดในขวดน้ำปาใส่ซะเลย
“ยังไม่ได้แต่งเว๊ย!!” จงอินกระพริบตาปริบๆมองจงแดที่เถียงแบคฮยอนอยู่
“พูดแบบนี้แปลว่ายาใจจะแต่งกับพี่จงอินใช่ไหมจ๊ะ โอเคได้เลยเดี๋ยวโทรบอกมะม๊าเตรียมไปขอเลย” แล้วจ
งอินก็ลุกขึ้นหยิบมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อมากดโทร เอาแล้วล่ะสิ!
“ไอ้จงอินหยุด!!” จงแดวิ่งตามจงอินที่เดินไปหาที่เงียบๆคุยกับมะม๊าให้ไปขอน้องยาใจ ในที่สุดที่ลงทุนลงแรงเต๊าะขาใจมันก็สำฤทธิ์ผลสักที! ขอบคุณสวรรค์ ป๋าและมะม๊าที่ทำให้คิมจงอินได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้แล้วได้เจอกับน้องจงแดยาใจของพี่จงอิน *กราบสามที*
“ประสาทจริงๆ” ชานยอลมองตามแล้วส่ายหน้าไปมา
“ทำเหมือนพวกมึงไม่เคยเป็น” แบคฮยอนเท้าคางแล้วแบะปากใส่ ชานยอลนั่งไขว้ห้างกอดอกแล้วพิงคริสไว้
“ก็ไม่เคยไง ไม่เห็นต้องทำอะไรแบบนี้เลยเนอะ” ชานยอลหันไปเนอะกับคริส
“เออก็บอกออกไปเลยว่าจะเอายัยนี่มาเป็นแฟน แค่นี้เองเห็นดีเห็นงามกันทั้งบ้าน” ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคริส ก็แหมเด็กคนหนึ่งก็น่ารัก อีกคนก็หล่อก็จับมาคู่กันซะเลยง่ายๆ
“เออไอ้พวกไม่มีอุปสรรค ไอ้พวกรักกันบนสไลด์เดอร์!” ชานยอลลอยหน้าลอยตาใส่ ซ฿งมันกวนเบื้องล่างลูกพี่เหลือเกิน
“แล้วทำไมพวกมึงมีอุปสรรคเยอะหรือไง” คริสเลิกคิ้วถาม เป็นช่วงเดียวกับที่จงแดลากแขนดึงหูจงอินกลับมาที่โต๊ะตามเดิม แบคฮยอนกับคยองซูหันมองหน้ากัน
“ก็ไม่รู้ดิ ไม่มีมั้ง” ชานยอลกรอกตาไปมา
“แล้วทำมาเป็นพูด แล้วเมื่อกี้เป็นไงบ้าง” ชานยอลหันไปมองจงแดกับจงอินที่พี่คนเสี่ยวลูบหู ลูบแขนทำท่าจะร้องไห้อ้อนจงแดอยู่
“ดีนะคว้ามาพูดทันไม่งั้นล่ะก็ต้องได้มีใครตายแน่ๆ” จงแดหันไปมองค้อนใส่ จงอินก็ทำตับลีบเลย
“พ่อกับแม่ที่รักดุป่ะเนี่ย” แบคฮยอนกระซิบถามเบาๆ คือแค่เห็นจงแดมันหัวเสียนี่ก็เริ่มจะปอบๆแล้วนะ
“ทำไมกลัวเหรอ?” คยองซูยิ้มกว้างรูปหัวใจแต่ไม่รู้ทำไมแบคฮยอนถึงโคตรจะรู้สึกกลัวเลยบอกตรงๆ
“ก็.. นิดหน่อยอ่ะ”
“ก็ลองไปเจอดูสิ” ไม่รู้พี่พยอนคิดไปเองหรือเปล่าทำไมเสียงกระซิบของคนตัวเล็กถึงได้ดูน่าพิศวงวังเวงวิเวกโหวงเหวงแบบนี้!!! เอาจริงๆนะจากในความทรงจำสีจางๆที่จำได้เกี่ยวกับพ่อและแม่ของคนตัวเล็กคือ.. แค่เห็นไกลๆกูก็กลัวแล้วครับ! ถ้าให้ไปเห็นใกล้ๆนี่คือกูตายพอดี!!
“ว่าแต่ใครจะมาดีเท่าที่บ้านคริสได้ล่ะเรียกว่าผ่านทุกไฟแดง สนใจป่ะคยองซู” ชานยอลยื่นหน้ามาถามคยองซู
“เฮ้ยมาถามอะไรแมวๆแบบนี้ล่ะวะ!” นี่บอกเลยว่าพี่พยอนของขึ้น!!
“เอ้าก็เป็นตัวเลือกไงคริสนะหล่อกว่า รวยกว่า สูงกว่า กีฬาก็เล่นเป็น การเรียนก็พอไหว เอาใจเก่งอีกต่างหาก เอาเปล่าคยองซูเดี๋ยวให้เป็นเมียน้อยเลย” พูดเสนอเหมือนขายประกันเลยว่ะ
“แล้วจงแดอ่ะ” คยองซูชี้ไปที่จงแดที่หันมามองด้วย
“จงแดนี่ให้เป็นเมียเก็บเลยเอ้า” นี่มึงขายประกันควบปลาหมึกย่างหรือไง!! สั่นเลย.... ขวดน้ำในมือกูสั่นไปหมดเลย!!
“ไม่ให้โว๊ย!!!!!!!!” แบคฮยอนกับจงอินตะโกนออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ชานยอลกรอกตาไปมา
“ทีคริสยังไม่เห็นว่าอะไรเลยใช่ป่ะ”
“อืม ก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย” โห้ยอีพ่อเทพบุตร!! ไปนั่งให้แดดเผาไปมึง!!!!
“กูไม่ให้เว๊ย!!!!” แบคฮยอนตบท้ายคำว่าไม่ให้ด้วยการตบโต๊ะเข้าป๊าบใหญ่ แหม.. ทำเป็นเข้ม ดูก็รู้มึงเจ็บมือใช่ไหมล่ะ!! ชานยอลไม่ได้พูดแต่แค่คิดเสียงดังไปหน่อยคยองซูเลยหันมายิ้มเห็นด้วย
“ถ้ากูจะเอามึงห้ามได้เหรอ” โอ้โห้คำพูดนี้ของคริสนี่ทำให้พี่พยอนหนวดกระตุก
“ถ้างั้นกูจะเอาเมียมึงมาทำเมียบ้าง!” แบคฮยอนพูดอย่างเหนือกว่า ชานยอลทำหน้าขยะแขยงแล้วมองค้อนแบคฮยอนตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมองขึ้นจากเท้าจรดหัว
“เห็นกูน่ารักๆแบบนี้กูก็เลือกนะไอ้เตี้ย!!”
ไปนั่งให้แดดเผาตายทั้งคู่เลยไป ไอ้เสาไฟไม่มีไฟ!!!!!!!!
นั่งเล่นกันอยู่นานจงแดก็โดนเรียกขึ้นไปพรีเซนต์ก่อนคนแรกของกลุ่ม ขอให้เธอโชคดี ขอให้มีความสุข ขอให้ได้เอบวกๆนะคนดี~ อันนี้แบคฮยอนไม่ได้ร้องหรอกจงอินร้องต่างหาก คยองซูส่ายหน้ากับความพยายามเสี่ยวพยายามเต๊าะของจงอินเหลือเกิน นี่ก็ไม่เข้าใจว่าเคยเหนื่อยบ้างไหมหรือยังไง แต่คนแบบจงอินก็เสมอต้นเสมอปลายดีนะ ถ้าว่ากันตรงๆคยองซุชอบคนที่ทำดีตั้งแต่ต้นและเสมอปลาย
พอหันมองข้างกายแล้วก็อยากจะถอนหายใจ เอาน่าถึงแบคฮยอนจะไม่ค่อยเสมอต้นเสมอปลายแต่แบคฮยอนก็ทำดีในรูปแบบของเจ้าตัวนั่นแหละ แบคฮยอนที่รู้สึกตัวว่าโดนมองก็หันมามองคยองซูแล้วเลิกคิ้วเจ้าตัวก็เลยส่ายหน้าว่าไม่มีอะไรแต่แบคฮยอนก็ยังไม่เลิกสนใจไงก็ยิ้มกว้างแล้วเอียงหน้า เอียงคอเข้าแหย่ คยองซูก็เลยตีขาแล้วก็หัวเราะออกมา ก็แหมแบคฮยอนเวลาทำหน้าตาทะเล้นน่ะน่ารักนะจะบอกให้
สักพักใหญ่ๆจงแดก็ลงมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คาดว่าอาจารย์จะเข้มแล้วล่ะ จงอินก็คอยดูแล คอยกวนใจให้อารมณ์ดีไปสิ เห็นแค่นี้ทุกคนก็ใจฝ่อกันหมดแล้วแต่มันน่าฝ่อก็ตรงที่คยองซูเป็นคนที่สองของกลุ่มที่โดนเรียกนี่แหละ เอาล่ะงานเข้าแล้วไง
“สู้นะ” ชานยอลชูกำปั้นให้ คริสก็ทำด้วย คยองซูหันมาพยักหน้าให้แล้วก็เดินขึ้นตึกไป สู้นะโดคยองซู
“... โทรมาทำไม” คยองซูที่กำลังเดินเข้าตึกหยิบมือถือในกระเป๋ามากดรับ มันจะไม่น่าแปลกใจเลยถ้าคนโทรไม่ใช่พยอนแบคฮยอน
“ก็ข้อ3ไง นี่เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนิก็เลยโทรมาหา” คยองซูหัวเราะเบาๆ ถ้าจะว่ากันตามตรงพวกเขาทั้งสองคนไม่ค่อยจะได้อยู่ห่างกันสักเท่าไหร่เลย ก็เลยไม่ค่อยได้โทรหากันสักเท่าไหร่ ก็เขินนะที่ต้องบอกว่าก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาน่ะ
“ก็ไม่ต้องก็ได้มั้งนี่แค่ขึ้นตึกมาพรีเซนต์งานเองนะ”
“โอ้โห้ไม่ได้หรอก ห่างสามก้าวก็ต้องโทรนะ ก็คิดถึงนินา” คยองซูหัวเราะจนเสียงก้องทางเดิน
“นี่ไม่ได้อยู่ในโต๊ะล่ะสิถึงกล้าพูดแบบนี้น่ะ”
“โอ้โห้พี่พยอนน่ะอยู่ที่ไหนก็กล้าพูดนะครับ!! ที่รักตั้งใจนะ สู้ๆนะ” คยองซูแอบกัดปากกลั้นยิ้มเอาไว้
“ฉันไม่ได้ไปออกรบนะ แค่นี้ก่อนนะที่รักถึงหน้าห้องอาจารย์แล้ว” พอปลายสายรับคำคยองซูก็กดวาง ดวงตาโตมองมือถือในมือแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว ก็แหมใครล่ะจะเข้าใจ แค่นี้นิดๆหน่อยๆก็ดีใจแล้ว แค่แบคฮยอนไม่ลืมกันคยองซูก็ดีใจไปสามบ้านแปดบ้านลามไปซอยไหนหมู่บ้านไหนๆแล้วเถอะ
พยอนแบคฮยอนน่ะไม่ต้องเสมอต้นเสมอปลายอะไรหรอก แค่ไม่ลืมโดคยองซูก็พอแล้ว
การพรีเซนต์งานเป็นไปด้วยอารมณ์กดดันจริงๆ ก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมจงแดถึงได้ทำหน้าไม่ค่อยดีแบบนั้น นี่ก็อยากจะทำเหมือนกันนะ ไม่ไหวจริงๆ พอลงไปก็ต้องไปเรียกคนอื่นขึ้นมาต่อ อาจารย์ไม่ได้เรียกเรียงรหัสแต่เรียกคนที่อยากจะเจอมาก่อนน่ะสิ แล้วเมื่อไหร่แบคฮยอนจะได้ไปพรีเซนต์แล้วกลับห้องสักที
“ที่รักกลับก่อนก็ได้คงอีกนานอ่ะ กินข้าวเย็นก่อนเลยก็ได้นะ” แบคฮยอนบอกคยองซู คนตัวเล็กก็ไม่ขัดวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนหน่อยๆด้วย
“ถ้าเสร็จเร็วก็โทรมานะ จะรอกินข้าวด้วย” แบคฮยอนยิ้มแล้วพยักหน้า คยองซูก็เลยยิ้มตอบ
“จงแดจะกลับหรือยัง” คยองซูหันไปถามจงแดที่นั่งเล่มเกมในไอแพดอยู่
“ยังอ่ะรอจงอินก่อน เดี๋ยวกลับไม่รอจะมาพาดราม่าอีก”
“งั้นฉันกลับก่อนนะ” จงแดพยักหน้าแล้วก็ก้มหน้าลงเล่นเกมต่อ ชานยอลกับคริสก็โบกมือบ๊ายบายเพื่อนตัวเล็กเพราะตัวเองทั้งคู่ยังไม่โดนเรียกเลย ตอนนี้เป็นคิวของจงอิน
“ให้ไปส่งไหม” แบคฮยอนจับมือของคยองซูที่ยืนอยู่ข้างๆไว้แล้วเงยหน้าขึ้นถาม คยองซูส่ายหน้าแล้วยิ้มให้
“ไม่เป็นไรฉันกลับเองได้ อยู่รอที่นี่ไปเถอะ” คยองซูดึงมือออกจากมือของแบคฮยอนที่จับกุมแล้วก็ยกโบกมือลาแล้วก็โบกมือให้เพื่อนๆด้วยก่อนที่จะเดินออกไป แบคฮยอนก็มองตามด้วยความเป็นห่วง ใจจริงก็อยากไปส่งนะแต่ว่าภารกิจอันใหญ่หลวงมันค้ำคอ(ค้ำพุงด้วย)
เชื่อไหมล่ะว่าอีกเดียวแบคฮยอนจะต้องโทรมาอีกแน่ๆ... แล้วก็เป็นจริงตามคาด คยองซูที่กำลังเดินออกมารอรถกดรับสายจากแบคฮยอนอีกรอบ แบคฮยอนก็คุยโน้นนี่ไปเรื่อยเสมือนคยองซูนั่งอยู่ในสถานที่เดียวกัน เอาน่าเขาโทรมาก็คุยกับเขาหน่อยก็แล้วกัน
จนนั่งรถกลับมาถึงห้องแบคฮยอนก็ยังไม่โดนเรียก คาดว่าคงกลับมาเย็นมากเลยนั่นแหละคยองซูก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะนอนก่อนไว้ตื่นมาแบคฮยอนก็คงกลับมาพอดีจะได้ไปหาอะไรกินกัน ก็เรายังมีสัญญาข้อที่บอกว่าต้องกินข้าวด้วยกันอยู่นี่นาเพราะฉะนั้นรอกินพร้อมกันนั่นแหละ คยองซูน่ะรักษากฎได้เป็นอย่างดีนะจะบอกให้
“ที่รักวางก่อนนะถึงห้องแล้วเขาจะนอนก่อน ถ้ามาถึงแล้วก็มาปลุกนะ” แบคฮยอนรับคำแล้วก็วางสายไป คยองซูก็เลยขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอน
จากที่มองเวลาแล้วอีกสักสามชั่วโมงแบคฮยอนก็น่าจะกลับเพราะฉะนั้นขอนอนก่อนก็แล้วกัน ยังไงพรุ่งนี้ก็มีเรียนบ่ายคืนนี้จะนอนดึกหน่อยก็ไม่เป็นไรแต่พอคยองซูนอนแล้วก็รู้สึกเหมือนมันไม่คุ้นไม่ชิน.. ก็นะเวลาปกติที่นอนก็จะมีใครอยู่ข้างๆนินา พอไม่มีมันก็เลยไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ ... นับแกะไปเดี๋ยวก็หลับเองแหละน่า
แต่ทว่าตื่นมาจากฟ้าสว่างจนตอนนี้ฟ้ามืดแล้วก็ยังไม่เห็นแบคฮยอน ที่รู้ก็พอห้องมืดนี่แหละ คยองซูลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดไฟในห้องมองเวลาก็เห็นว่ามันมืดเกินไปแล้ว น่าจะเสร็จได้แล้วนะแล้วทำไมถึงยังไม่กลับ หัวคิ้วขมวดมุ่นก่อนที่จะเดินไปคว้มือถือมากดโทรออก รอสายอยู่นานแบคฮยอนถึงได้กดรับ
“ว่าไงครับที่รัก”
“อยู่ไหน” น้ำเสียงที่ถามออกไปนี่ขอบอกเลยว่าพยอนแบคฮยอนกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ
“หยะ... อยู่กับ.. อยู่กับไอ้คริสกับไอ้ชานยอล มันบอกว่าจะไปส่งน่ะแต่ไอ้ชานยอลมันอยากกินขนมร้านประจำอ่ะก็เลยต้องนั่งรถมากับพวกมัน”
“เหรอ ขอสายชานยอลหน่อย” คยองซูคลายอาการสงสัยแล้วก็ลงนั่งกับเตียงอย่างสบายๆ ที่จะคุยน่ะคือจะฝากซื้อขนมด้วยไง ร้านประจำของชานยอลตัวเขาก็ชอบเหมือนกันนะ
“มันไปเข้าห้องน้ำน่ะ”
“งั้นก็ไม่เป็นไร มาแล้วก็มาเรียกนะรอกินข้าวอยู่”
“ได้เลย ว่าแต่หิวมากหรือเปล่ากินก่อนก็ได้นะไม่เป็นไร” คยองซูระบายยิ้มที่แบคฮยอนเป็นห่วงเขาแบบนี้
“ไม่เป็นไรจะรอที่รักนะ”
“จะรีบกลับนะที่รัก” แล้วก็กดวางสายไป คยองซูน่ะเชื่อใจแบคฮยอนนะ
แต่จะไม่เชื่อก็ตอนที่ชานยอลโทรสวนเข้ามานี่แหละ
“อะไรขนมอะไรที่ไหนวะพรีเซนท์เสร็จก็กลับบ้านเลยเนี่ย นี่นอนเล่นเกมอยู่เพิ่งนึกขึ้นได้เลยจะบอกว่าพรุ่งนี้เอาหนังสือการ์ตูนมาคืนด้วยที่ให้ไอ้แบคฮยอนยืมไปอ่ะ โทรหาแล้วไม่ติด”
“เดี๋ยวนะตอนนี้ชานยอลอยู่ไหนนะ”
“ก็อยู่บ้านดิ อยู่บนเตียง นั่งพิงไอ้คริสอยู่” ชัดเจน...
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ” คยองซูกดวางสายด้วยมือสั่นๆ นี่บอกเลยนะว่าโดคยองซูโกรธมาก!!!
“นึกว่าเป็นห่วงที่ไหนได้เถลไถลแล้วไม่บอกใช่ไหม!!? พยอนแบคฮยอนตายแน่!!” คยองซูกดหาเบอร์แล้วโทรออกอีกครั้ง ไม่ใช่แบคฮยอนหรอกแต่เป็นรุ่นน้องที่สนิทกันเพราะบ้านอยู่แถวเดียวกัน
“ฮัลโหลน้องฮยอกอยู่ไหน อยู่ที่หอไหมปั่นจักรยานเข้ามอไปดูตึกสถาปัตย์ให้พี่หน่อยสิ ไปหาให้หน่อยว่าแบคฮยอนอยู่ที่นั่นหรือเปล่า” เพราะน้องอยู่หอในน่ะสิก็เลยกล้าใช้และแน่นอนว่าถ้าแบคฮยอนมันไม่กลับ มันต้องไปอยู่ใต้ตึกสถาปัตย์แน่ๆเพราะตอนเย็นที่เดินกลับมานั่นเดินสวนกับพวกสถาปัตย์ที่ขนข้าวของมาเหมือนจะจัดงานอะไรสักอย่าง ถึงจะอยู่กันคนละคณะแต่น้องก็ว่านอนสอนง่าย
“อยากลองของใช่ไหมพยอนแบคฮยอน”
ใต้ตึกสถาปัตย์ที่ตอนนี้ทุกคนกำลังพักงานมานั่งก๊งเหล้ากันนั่นกำลังสนุกสนานได้ที่เลย แบคฮยอนก็ลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้หลังจากรับสายจากที่รักของตัวเองบอกว่าจะรีบกลับ ตอนนี้ในมือน่ะเทหายๆไปหลายแก้วแล้ว คณะสถาปัตย์กำลังจะทำซุ้มจัดงานคณะตัวเอง
ตอนนี้เหล่าเด็กสถาปัตย์ก็เลยมากองรวมๆกันแล้วทำงานด้วยกัน พอคนยิ่งเยอะก็ยิ่งสนุกใช่ไหมล่ะ ทุกคนกำลังส่งเสียงพูดคุยเฮฮากัน จนใครบางคนลืมไปแล้วมั้งว่ามีใครรออยู่ที่ห้องและไม่รู้ว่าเงาหัวจะขาดเอา แบคฮยอนก็นั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนที่รู้จักติดลมบนกันไป
“อ้าวเฮ้ยน้องชางฮยอกมา ชางฮยอกมานี่เร๊ว~” ใครสักคนในกลุ่มที่แบคฮยอนร่วมวงกวักมือเรียกเด็กตัวสูงที่ปั่นจักรยานเข้ามาใต้ตึก
“มาๆ มาดื่มกับพวกพี่นี่มา” ชางฮยอกเดินยิ้มแป้นเข้ามา
“แก้วเดียวพอนะพี่” แก้วเดียวแต่เทหลายรอบน่ะสิ พวกรุ่นพี่ก็จัดการเอาใจรุ่นน้องกันใหญ่ ชางฮยอกลงนั่งที่พื้นตรงข้ามกับแบคฮยอน เมื่อน้องยิ้มให้แบคฮยอนก็ยิ้มกลับ ชางฮยอกกดมือถือสักแปบก่อนที่จะเก็บมือถือแล้วก็นั่งร่วมวงกินเหล้ากับพวกรุ่นพี่
“มึงจะรีบกลับไม่ใช่เหรอวะไอ้แบคฮยอน”
“เออว่ะกลับก่อนดีกว่าแต่ขออีกแก้วดิ” พอได้แก้วใหม่กระดกหมดแก้วแบคฮยอนก็เดินกลับห้องทันที แต่แหมทั้งกลิ่นทั้งอะไรขนาดนี้ มันก็ต้องมีวิธีเจือจางกลิ่นกันบ้างอะไรบ้าง เอาวะกลับไปคยองซูอาจจะหลับไปอีกแล้วก็ได้
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น พอแบคฮยอนเปิดประตูเข้ามาก็เห็นคยองซูนั่งกอดอกพิงหัวเตียงดูรายการทีวีอยู่ คนตัวเล็กไม่แม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำ โอ้โห้พี่พยอนเสียใจจังเลย~ พอเดินเข้าไปใกล้คยองซูก็หยิบรีโมทปิดโทรทัศน์แล้วก็ล้มตัวลงนอนซะเลย แบคฮยอนก็ได้แต่เกาหัวตัวเองแล้วก็ทำหน้างงไปสิ เห็นอย่างนั้นก็เลยหนีไปอาบน้ำก่อนดีกว่า
อาบน้ำเสร็จก็ยังเห็นคยองซูนอนหลับอยู่ สงสัยจะหลับไปแล้วน่ะสิ แบคฮยอนก็เลยปีนขึ้นเตียงไปนอนหนุนหมอนเดียวกันแล้วก็กอดคนตัวเล็กไว้ คยองซูไม่ได้ปฎิเสธหรือขยับตัวหนีอะไรก็นอนนิ่งๆให้แบคฮยอนกอดไปเหมือนเดิม เพียงไม่นานแบคฮยอนก็หลับไปเพราะได้ยินเสียงกรนนี่แหละแต่คยองซูน่ะยังไม่หลับนะ คนตัวเล็กลืมตาโพลงอยู่ในความมืด
ถ้าแบคฮยอนจะไปกินเหล้าอะไรเขาก็ไม่ว่าหรอกแต่อย่ามาโกหกแบบนี้ เขาไม่ชอบ
แบคฮยอนตื่นช่วงสายแต่ก็ไม่เห็นคยองซูแล้ว คิดว่าคนตัวเล็กคงจะลงไปหากับข้าวมาให้เขาแน่ๆ แต่นั่งรอไปสักพักใหญ่ๆก็ไม่เห็นคนตัวเล็กจะกลับมาเลย พอลองกดโทรหาดูก็ปิดเครื่อง เอาแล้วสิ.. โดคยองซูหายไปไหน!!!
“เฮ้ยอะไรวะ!” แบคฮยอนลองโทรไล่หาเพื่อนทุกคนก็ไม่มีใครรับสายเลยสักคน หรือว่าพวกมันจะไปเรียนกันแล้ววะ
คิดได้แบบนั้นแบคฮยอนก็เลยรีบไปอาบน้ำแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะประจำในมหาวิทยาลัย นั่งรอไปจนใกล้จะถึงคาบเรียบแล้วแต่ก็ไม่เห็นใครเลยสักคน โทรหาทุกคนจนมือจะหงิกอยู่แล้วแต่ก็ไม่เห็นจะมีใครกดรับเลยสักนิด เฮ้ยนี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ หายไปไหนกันหมด!! แล้วที่รักของเขาหายไปไหนกัน!!!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!” แบคฮยอนขยี้หัวตัวเองจนผมยุ่งไปหมด ไม่รู้จะทำวิธีไหนให้รู้ดีว่าทุกคนหายไปไหนกันหมด บอกเลยนะว่าใจเสียโคตรๆเลย
“ที่รักหายไปไหนอ่ะ” แบคฮยอนที่นอนราบไปกับโต๊ะกดข้อความหาคนตัวเล็ก นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงหายไปกันหมดเลย
“ทำไมถึงกูไว้คนเดียวอ่ะ” นี่ถ้าร้องไห้แล้วภาพพจน์ไม่เสียนะพี่พยอนจะร้องงไห้แม่งแล้ว!!!
พยอนแบคฮยอนก็คงยังไม่รู้ว่าตัวเองทำให้คยองซูโกรธไปแล้ว โกรธมากด้วยเถอะ! เมื่อก่อนที่จะไปนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาจะมั่วกันแค่ไหนคยองซูไม่เคยใส่ใจนะแต่ไอ้เรื่องแบบนี้เขารับไม่ได้จริงๆ กินเหล้าอยู่ที่ไหนก็บอกมาแค่นั้น ไม่ใช่มาบอกว่ากำลังจะกลับแล้วให้รออยู่แบบนี้
พยอนแบคฮยอนเห็นโดคยองซูเป็นตัวอะไร!!
“จะไม่บอกมันจริงๆเหรอวะ” จงแดเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือถือให้ดูว่าแบคฮยอนโทรมาอีกแล้ว คยองซูหันไปมองแล้วก็ส่ายหน้า
“ไม่บอก ปล่อยให้มันรอซะให้เข็ดไปเลย” จงแดถอนหายใจแล้วกอดอกมองคยองซูด้วยสายตาตำหนิ
“ทำแบบนี้ก็ไม่ถูกนะทำไมไม่คุยกันล่ะ บอกมันไปเลยว่าโกรธมาก” คยองซูยกยิ้มมุมปากนิดหน่อย
“บอกไปมันจะจำเหรอ แบบนี้นี่แหละจำใส่สมองดี”
“เออเอาเถอะก็เข้าใจว่าโกรธ ถ้าเจอเองก็โกรธเหมือนกันแต่ไม่คิดเลยนะว่าจะเล่นโหดแบบนี้” คยองซูหัวเราะเบาๆ
“เล่นเบาๆจะจำไหมล่ะ คนอย่างแบคฮยอนน่ะนะต้องเจอแบบนี้จะได้เข็ดทีหน้าทีหลังจะได้ไม่ต้องมาโกหกอีก” จงแดหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมา
“มันพลาดมากนะที่มาเจอโดคยองซูเนี่ย” ดวงตาโตตวัดมองเพื่อนค้อนใส่ซะเต็มวงเลย
“พูดให้ดีๆเลยนะจงแด แบคฮยอนไม่ได้เชื่องเหมือนจงอินนะ” จงแดหัวเราะซธงอหงายงอคว่ำ
“จงอินไม่ได้เชื่องหรอกเขาเรียกว่าเสน่ห์เถอะ พยายามทำให้แบคฮยอนติดให้ได้นะไปล่ะ” แล้วจงแดก็รีบเผ่นให้ไวเลย คยองซูมองตามหลังเพื่อนไปแล้วก็ยิ้มขำส่ายหน้าไปมา
ถ้าสิ่งที่เลี้ยงไว้เชื่องมันก็ไม่สนุกน่ะสิ มันก็ต้องมีพยศกันบ้างแต่ถ้ามากไปก็ต้องมีการปรามนั่นแหละนะ... แต่ถ้าพยศมากเกินไปเขาก็ไม่เอาไว้หรอก นับเวลารอเฉือนได้เลย..
หลังจากได้ข้อความจากชางฮยอกแล้วคยองซูก็เลยโทรหาชานยอลว่าที่ชวนไปเที่ยวน่ะทีแรกตั้งใจจะไปที่ไหน ก็ได้ความว่าจะชวนมาบ้านยายที่ต่างจังหวัดเพราะผลไม้ที่ปลูกไว้ออกดอกออกผลกันก็เลยเรียกมาขน คยองซูก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา แล้วมีหรือที่ชานยอลจะปฎิเสธ.. ก็การเห็นคู่ของคนอื่นมีปัญหาน่ะคือความสุขของคู่รักนินจาเขานินะ
เมื่อมีของฟรีมาล่อพ่อคนนิยมชมชอบของฟรีอย่างจงอินและจงแดก็ไม่มีปฏิเสธอยู่แล้ว เพื่อนไปไหนไปนั่นขอแค่ฟรีที่พัก ฟรีอาหารการกินก็พอสองจงไปได้หมดร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ หลังจากที่โทรบอกทุกคนกลางดึกคยองซูก็ลุกขึ้นมาจัดกระเป๋าเสื้อผ้าที่พอสำหรับสามวันแล้วก็เช้าตรู่ก็มารอคริสที่หน้าหอให้มารับ ถ้าแบคฮยอนจะสังเกตก็น่าจะเห็นนะว่าเขาเอากระเป๋าเป้มาด้วย แต่คงไม่รู้หรอกตอนนั้นอาจจะกำลังตกใจลนลานอยู่ก็ได้
ฉันรู้สึกแบบไหน นายก็จงรู้สึกแบบนั้นไปเถอะ ฉันรอ นายก็ต้องรอ!!
คยองซูที่ยืนพิงกรอบหน้าต่างบานไม้มองออกไปด้านนอกแล้วก็วาดรอยยิ้มออกมา เงาสะท้อนที่สะท้อนเงาของคยองซูกำลังยิ้มนั้นดูช่างน่ากลัวยิ่งนัก ถ้าแบคฮยอนได้เห็นคงขวัญกระเจิงแน่ๆ
อีกสามวันเจอกันนะพยอนแบคฮยอน อยู่คนเดียวใช้อิสระที่นายแหกกฎให้เต็มที่ล่ะ จะมาร้องโอดครวญทีหลังไม่ได้นะเพราะนายทำตัวเองก่อนเอง
โดคยองซูถือคติที่ว่า... ใครทำให้ไม่ถูกใจผลสะท้อนนั้นจะกลับคืนเป็นสองเท่า!!
...พยอนแบคฮยอนขอให้โชคดีนะ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น