ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter - 7

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 56


    มาแล้วค่ะะะะะะะะะะะะะะ อากาศเย็นก็ขออู้ตามอากาศนะคะ 5555555 #รอฟังข่าวดีปีหน้านะคะ~~~
     
    คุณ ilirra #76 ก็ขับเป็นไงคะ แต่แบบว่าไม่ได้ขับได้ดีอะไรแบบนั้นไง พี่คริสก็ไม่รู้ว่าขับเป็นก็เลยสอนให้อะไรแบบนี้ #ถามว่าที่แถเจ็บไหม ขอตอบเลยว่าเลือดซิบค่ะ 555555 
     
    เรื่องนี้เราใช้แท็กนี้แล้วกันเนอะ #เดย์ไนท์คริสยอล เผื่อใครอยากไปสครีมในทวิต เราจะตามไปอ่านค่ะ~
     
    เห็นทุกๆคนชอบ เราก็ดีใจค่ะ 5555555 ขอบคุณที่สนับสนุนผู้ชายของเรา #ไม่ใช่ 
     
    เราชอบผู้ชายแบบนี้ ไม่รู้ในชีวิตจริงๆจะหาเจอไหมหรือมีคนแบบนี้จริงๆหรือเปล่า เราว่าลุคนี้เหมาะกับพี่คริสดีค่ะ ชอบ *กอดขาร้องฮร่าย*
     
     
     
    _______________________________________
     
     
     
     
    “ไอ้ลู่ๆ มีเรื่องอยากให้ช่วยอ่ะ” ชานยอลที่มองตามหลังของคริสที่เดินออกห่างไปไกลแล้วก็ย้ายตัวมานั่งกับลู่หานทันที นี่ถึงกับยอมเลี้ยงข้าวไอ้จงอินเพื่อที่มันจะได้ไปกับไอ้คริสเลยนะ ลู่หานมองเด็กที่ทำตัวลุกลี้ลุกลนแล้วก็ยกยิ้มขำก่อนที่จะยกมือเคาะหัวชานยอลเบาๆ
     
    “มีอะไร ต้องไม่ใช่เรื่องดีล่ะสิ” ชานยอลยู่หน้าใส่
     
    “ลู่อ่า~ เดี๋ยวก็สอบแล้วใช่ป่ะล่ะ มึงกลับมานอนบ้านนะมาติวหนังสือแล้วก็สอนขับรถหน่อย” ลู่หานขมวดคิ้วมุ่นจนมันแทบจะผูกกันได้เป็นปมใหญ่ๆ
     
    “ทำไม ก็ให้ไอ้คริสสอนดิ” ชานยอลส่ายหน้า ไม่ได้หรอกให้มันสอนมันก็รู้ดิว่าเขาจะหนี นี่กะว่าจะลักพาตัวน้องจุนไปด้วยเลยนะเนี่ย~
     
    “ไม่ได้ สอนหน่อยดินะ~”
     
    “จะเล่นอะไรกันอีกล่ะ จะหนีไปไหนล่ะ” ชานยอลยู่หน้าใส่
     
    “หนีอะไรแค่อยากจะขับรถไปเที่ยวเองเฉยๆหรอก อยากไปคนเดียวอ่ะ อะโลนอ่ะรู้จักเปล่า นะๆ สอนหน่อยถ้าไม่สอนนะจะบอกให้พ่อตัดเงินแล้วก็ริบลูกรักเลยคอยดู” มอเตอร์ไซด์คันเท่นั้นน่ะ ของสุดหวงของลู่หานเลยนะ เพราะฉะนั้นถ้าเอามาอ้างล่ะก็ได้ผลทุกครั้งไป
     
    “ก็ได้ๆ เห็นแก่มึงนะ” ชานยอลยิ้มกว้างแล้วกอดลู่หาน
     
    “แน่นอนอ่ะพี่ชายดีที่สุดอ่ะ” ชานยอลชูนิ้วโป้งให้เลยสองนิ้วแล้วก็ยิ้มอารมณ์ดีกอดลู่หาน ไอ้คนรักน้องก็ตบหลังน้องเบาๆโดยที่ประสานตากับใครบางคนที่เดินเข้ามา
     
    “ปาร์คชานยอล” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฟังยังไงก็ลอดไรฟันแน่ๆ ไหนจะไอ้การเน้นแต่ละพยางค์ด้วยเสียงหนักแน่นนั่นอีก ชานยอลปล่อยลู่หานแล้วหันกลับมาส่งยิ้มนำทัพไปก่อน
     
    “ครับคุณชาย” แต่คริสก็ไม่ได้อารมณ์ดีเลยสักนิด ดวงตาคมดุนั้นจ้องชานยอลเขม็งจนเจ้าตัวต้องลุกจากที่นั่งข้างลู่หานกลับไปนั่งที่เดิม คริสลงนั่งข้างชานยอลได้ก็เขกหัวเข้าให้สักที 
     
    “โอ๊ยกูเจ็บนะ!!” กุมหัวแล้วหันไปถามคนข้างๆอย่างกับหาเรื่องแต่คริสแค่ปรายตามอง
     
    “แล้วมึงจำไหมล่ะ” ชานยอลแบะปากใส่ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา คริสก็ทำท่าจะเขกเข้าให้อีกที ชานยอลก็เลยย่นคอหนี
     
    “เอาน่าๆอย่าทะเลาะกันเลย หล่อ รวย สปอร์ต โซลขี้เกียจฟัง! กินข้าวเหอะๆๆ ลาภปากหล่อ รวย สปอร์ต โซลเหลือเกิน ขอบคุณเจ้ามือผู้ยิ่งใหญ่” สวดขอบคุณเสร็จจงอินก็จัดการรีบกินข้าวตรงหน้าทันทีเพราะเดี๋ยวเขาต้องไปเต๊าะเซฮุนอีก ไม่ได้หรอกเวลาทุกนาทีมีค่า สำหรับโอเซฮุนด้วยแล้วทุกวินาทีของคิมจงอินน่ะเป็นสิ่งมีค่าที่จะมอบให้โอเซฮุนเท่านั้น ... อ๊าย! เขินว่ะ!!
     
    “เคยพูดอะไรไปหัดฟังซะบ้างนะ” คริสปรายหางตามอง ชานยอลที่มองอยู่ก็รู้เลยล่ะว่าโกรธมากแต่แบบ.. มันก็ไม่ได้ผิดอะไรหรือเปล่าที่เขาจะกอด จะเล่นกับคนที่เป็นพี่ชายต่างสายเลือดของเขาน่ะ ชานยอลว่าถ้าไอ้นี่เห็นตอนที่เขาอยู่บ้านกับลู่หานแค่สองคนชีวิตปาร์คชานยอลคงหาไม่แล้วล่ะ... ถ้าไอ้คริสจะหวงไอ้ลู่ขนาดนั้นแล้วมันจะมาตอแยเขาทำไมกันวะ 
     
    “ขอโทษอย่าโกรธดิวะ” ชานยอลจิ้มขาของคริสเบาๆแล้วก็ส่งยิ้มกว้างๆ ทำตาโตๆให้ด้วยเอ้า! เผื่อจะได้น่ารักแล้วมันก็จะเอ็นดูเขา ก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนมันโกรธทีไรก็ต้องง้อมันทุกทีแต่ถ้าไม่ง้อท่าว่าจะศพไม่สวยนะเอาจริงๆแต่คริสกลับไม่สนใจเริ่มต้นกินข้าวเสียนี่ ชานยอลยู่ปากอย่างหมั่นไส้มันก่อนที่จะดึงมือคริสที่อยู่บนโต๊ะลงมาที่ใต้โต๊ะแล้วสอดมือประสานกับมือของคริสซะเลย
     
    “อย่าโกรธดิ นะ~” ชานยอลเอียงคอมองแล้วส่งยิ้มให้ ซึ่งคริสที่มองอยู่ก็มองด้วยความนิ่งเฉย ชานยอลก็เลยจัดการจิ้มระหว่างคิ้วของคริสหลายๆที
     
    “เนี่ยๆ โกรธมากๆเดี๋ยวแก่เร็วนะเว๊ย” แล้วก็ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะร่าเริงแบบฉบับของชานยอลเขาล่ะ คริสก็เลยยกยิ้มขึ้นบางๆ
     
    “หายโกรธแล้วใช่มะ? ดีมาก กินข้าวกัน” ชานยอลที่จะดึงมือออกแต่คริสก็ไม่ยอมปล่อย หันมองมันก็ยังจะมายิ้มให้อีก อย่ายิ้มมากสิวะเดี๋ยวกูก็หัวใจวายหรอก!! 
     
    “ปล่อยดิ จะกินข้าว” พยายามดึงมืออกแต่คริสก็รั้งไว้ไม่ปล่อย ซ้ำยังจะมาคีบเนื้อปลาชิ้นโตๆป้อนอีกแน่ะ
     
    “ก็กินได้เห็นหรือเปล่าล่ะ” ชานยอลยู่ปาก พองแก้มทั้งๆที่ยังเคี้ยวเนื้อปลาอยู่จนแก้มพอง คริสหัวเราะอย่างเอ็นดูแล้วก็ใช้หลังปลายนิ้วชี้ลูบแก้มป่องของชานยอลเบาๆ ชานยอลทำหน้าติดงอนใส่ คริสก็หัวเราะ จงอินกับลู่หานที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็ได้แต่นั่งเบนสายตาไปที่อื่น กลัวว่าจะคายเอาที่กินเข้าไปออกมาน่ะสิ นี่ถ้ารู้ว่าถ้าพวกมันสองคนได้กันแล้วจะน่ารักมุ้งมิ้งขนาดนี้หล่อ รวย สปอร์ต โซลจะไม่เปิดทางให้มันได้กันเลย หมั่นไส้ไงบอกตรงๆเลย!!
     
    ลู่หานที่ทำหน้าตาไม่ค่อยสบอารมณ์มองเหตุการณ์ตรงหน้าผสมกับเรื่องราวตอนงานวันเกิดจุนมยอน เขาว่าเขาก็พอจะเข้าใจอะไรแล้วล่ะ... ถ้าบอกว่าคริสหวงน้องๆมาก ลู่หานเองก็เหมือนกันนั่นแหละ
     
    “ปล่อยได้แล้วน่า” แล้วคริสก็ยอมปล่อยมือ ชานยอลก็เลยคีบเนื้อปลามากินเอง คริสเอื้อมมือไปคีบหมูทอดจากจงอินมายื่นให้ชานยอลที่จะอ้าปากรับแต่คริสก็ชักกลับเข้าปากตัวเองทำเอาคนจะกินทำตาโต คนแกล้งหัวเราะแล้วตักซุปอุ่นๆป้อนให้แทนไอ้คนทำหน้างอนเป็นปลาทองแก้มป่องถึงยอม
     
    “เลี่ยนไปนะข้าวมื้อนี้ว่างั้นป่ะลู่หาน” จงอินถามขึ้นมาทะลุปล้องแล้วยังจะมาแซะไหล่ลู่หานอีก ชานยอลกับคริสหันมองจงอินแล้วก็ลงความเห็นเงียบๆว่าอยากเอาเท้ายันหน้ามันเหลือเกิน
     
    “ก็คงงั้น” น้ำเสียงและดวงตาที่มองจ้องมาทำเอาชานยอลเริ่มหนาวๆร้อนๆล่ะ ท่าทางว่าน่าจะต้องเคลียร์กับลู่หานอีกยาวและแน่นอนว่าไอ้คนข้างๆก็เหมือนกัน บางทีเขาอาจจะต้องจับพวกมันสองคนมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ ถ้าคริสกับลู่หานไปได้สวยเขาจะได้ไปอยู่กับน้องจุนแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งอะไรแบบนี้
     
    ทำไมชอบหาเรื่องมาให้เขากันนักนะ!! เกิดมาหน้าตาดีก็แบบนี้ล่ะ ใครๆก็รุมเร้าพี่ชานยอลเหลือเกิน
     
     
     
    หลังจากวันนี้ทำควิซเก็บคะแนนเพิ่มเรียบร้อย ชานยอลก็เดินออกจากห้องด้วยสีหน้าดีใจ แหงล่ะต่อไปก็เข้าสู่ช่วงเตรียมสอบแล้วถึงแม้จะอ่านหนังสือนรกก็เถอะแต่เอาเถอะถือซะว่ายังไงก็ได้หยุดนะ เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้มองเลยว่าทางข้างหน้าน่ะเป็นบันได ชานยอลที่ยังคิดถึงวันหยุดอย่างหรรษาโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังลงบันไดเลยสักนิด
     
    “ชานยอล!!” เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกับอ้อมแขนที่ตวัดกอดชานยอลไว้ เพียงเสี้ยวสิก่อนที่จะชานยอลจะได้ก้าวขาลงไป ชานยอลที่ตกใจก็หลับตาแน่นแล้วกำเสื้อของคนที่โอบกอดตัวเองไว้
     
    “กูเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าให้ระวัง! แล้วทำไมมึงถึงไม่รอกูห๊ะ!!” คริสก้าวถอยหลังให้ตัวเองและคนในอ้อมแขนไกลจากบันได จากนั้นก็เริ่มตวาดขึ้นเสียงใส่ทันที ชานยอลที่ยังตกใจก็ยืนก้มหน้า
     
    “ปาร์คชานยอล!!” คนโดนเรียกชื่อก็สะดุ้งแล้วน้ำตาร่วงพล็อยๆ ลู่หานที่รีบวิ่งออกมาจากห้องก็คว้าชานยอลมากอดไว้ คนที่ยังตกใจไม่หายก็ก้มหน้าซบลงที่ไหล่ของลู่หานและแน่นอนว่าคริสได้สายตาแทบจะแผดเผาร่างจากลู่หาน
     
    “กูเคยบอกแล้วว่ามันก็เป็นแบบนี้อย่าไปว่ามัน” คริสเท้าเอวแล้วลูบหน้าอย่างกลั้นอารมณ์
     
    “แต่มันจะเดินตกบันไดอยู่แล้วถ้ากูมาคว้ามันไม่ทันน่ะ ปกติกูเคยว่ามันเหรอกูถามหน่อย เมื่อกี้กูบอกให้รอก็ไม่รอแล้วเป็นไงถ้ากูมาไม่ทันโน้นตายห่.อยู่ตี.บันไดแล้วมั้ง!” คริสประสานสายตากับลู่หานที่ยังกอดปลอบชานยอลอยู่ ถ้าจะว่ากันตามตรงลู่หานโกรธมากนะ น้องเขาเขายังไม่เคยตวาดใส่แบบนี้เลยแล้วมันเป็นใคร
     
    ลู่หานไม่ได้เป็นพี่ชายแท้ๆของชานยอลแต่ก็เหมือนใช่ เขาถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับชานยอล เป็นทั้งเพื่อนเล่น พี่ชายและคนปกป้องเด็กร่าเริงอย่างชานยอล ชานยอลที่เหมือนแสงสว่างในชีวิตของเขา เป็นเหมือนคนนำแสงสว่างมาให้ในชีวิตเขา เขาถึงต้องคอยดูแลและทำทุกอย่างให้ชานยอลและชานยอลก็มีความสุขที่ได้วิ่งตามหลังเขา ได้มีเขาปกป้อง เป็นน้องชายที่มักจะทำตัววุ่นวายเสมอและเขาก็เคยชินที่จะดูแลน้องชายจอมวุ่นวายคนนี้
     
    แต่ตั้งแต่มีคริสเข้ามาเขาก็ต้องคลายมือที่จับชานยอลออก ถ้าให้ดูภายนอกเขาก็พอจะรู้ล่ะว่าทั้งสองคนกำลังจะมีหัวใจที่ตรงกัน เขาเฝ้ามองคนทั้งสองมาตลอด ถึงคริสจะชอบทำตัวโหดใส่น้องของเขาแต่มันก็ปกป้องน้องของเขาได้ อาจจะดีกว่าเขาด้วยซ้ำไปแต่ครั้งนี้เขาคงจะยอมอีกไม่ได้ ชานยอลถูกเลี้ยงดูมาแบบทุกคนตามใจ ไอ้การที่จะมาโดนดุ โดนตีนี่เลิกพูดถึงได้เลย แต่เมื่อกี้ตอนที่เขาได้ยินเสียงแล้วรีบวิ่งมานั่นก็คงพอจะทำให้ชานยอลตกใจจนพูดไม่ออกแล้วล่ะ เขาไม่เคยทำให้ชานยอลร้องไห้เลยสักครั้ง....
     
    เขาจะไม่ยอมให้คริสได้เข้าใกล้ชานยอลอีกแล้ว
     
    “น้องชานยอลกลับบ้านเดี๋ยวนี้” ชานยอลเงยหน้าจากไหล่ลู่หานที่ซบ ใบหน้าของชานยอลแดงเรื่อและหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้นทำให้คริสรู้สึกหน่วงที่อกด้านซ้าย
     
    “แต่...” ชานยอลหันมองคริสก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าลู่หาน
     
    “อย่าเถียง เดี๋ยวนี้ไม่ฟังพี่แล้วใช่ไหม ส่วนมึงไม่ต้องมาเจอน้องกูอีกถ้ากูยังไม่อนุญาต” แล้วลู่หานก็จับข้อมือพาชานยอลไปเลย ชานยอลเองก็หันกลับมามองคริส คริสเองก็มองชานยอลแล้วตามมา เขาจะให้ชานยอลอยู่นอกสายตาเขาได้ยังไง ยังไงเขาก็ไม่ยอมหรอก!
     
    “เดี๋ยวไอ้ลู่!” คริสคว้ามือชานยอลไว้ทำให้ชานยอลต้องหยุดเท้าที่ก้าวตามลู่หาน และแน่นอนตัวคนดึงก็ต้องหยุดเช่นกัน ลู่หานหันมาจ้องหน้าคริสนิ่งๆและพร้อมที่จะเข้าใส่เหมือนกันถ้ามันจะเข้ามาหา ใบหน้าคมของคริสขมวดยุ่งอย่างไม่สบอารมณ์
     
    “กูขอร้องล่ะ” คริสมองมาที่ชานยอลที่ใบหน้าน่ารักนั้นยังคงเปื้อนคราบน้ำตา คริสยื่นปลายนิ้วไปปาดเช็ดให้ก่อนที่จะลูบหัวชานยอลเบาๆ
     
    “กูขอโทษ กูแค่เป็นห่วงมึง มึงรู้ใช่ไหม” ชานยอลพยักหน้าทั้งๆที่คริสยังลูบหัวตัวเองอยู่ ลู่หานดึงชานยอลเข้าหาตัวแล้วมองจ้องคริสด้วยสีหน้าเรียบเฉย
     
    “กูหวังว่าจะไม่เจอมึงนะ อย่าตามมาถ้าไม่อยากให้กูพาชานยอลไปที่อื่น” แล้วลู่หานก็จูงมือชานยอลลากไปเลย ชานยอลหันมกลับมามอง คริสเองก็ไม่รู้จะเอายังไง จะตามหรือไม่ตามดี แต่เขาจะไม่ปล่อยชานยอลไปไหนแน่ๆ
     
    ชานยอลซ้อนมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ของลู่หานไป คริสเองก็ขับรถตามถึงจะไม่ได้ขับเหยียบตามประชิดแต่ก็พอรู้ว่าลู่หานจะไปที่ไหน ชานยอลกอดเอวลู่หานแน่น หมวกกันน็อคที่ตัวเองสวมอยู่ป้องกันเสียงลมเข้าหูได้แต่มันก็ไม่สามารถปิดกั้นความรู้สึกตอนที่โดนคริสตวาดได้เลยสักนิด
     
    ตัวเขาเองก็รู้ว่าตัวเองน่ะซุ่มซ่าม ไม่ค่อยระวังอะไรหรอกแต่ตอนที่โดนตวาดนั่นยอมรับเลยว่ากลัวมาก เขากลัวคริสมากจริงๆ ทั้งน้ำเสียง แรงกอด ไหนจะสายตาน่ากลัวแบบนั้นอีก เขาไม่เคยเห็นคริสในรูปแบบนี้และก็คงไม่พึงปรารถนาที่จะเจอ ตอนที่ยังเป็นคู่กัดกันก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดเจออะไรแบบนี้ ยอมรับว่าตกใจแต่ก็รู้ว่าคริสน่ะเป็นห่วงเขามาก เพราะถ้าคริสมาคว้าเขาไม่ทันอย่างที่คริสบอกเขาก็คงไปกองอยู่ตี.บันไดจริงๆนั่นแหละ
     
    ลู่หานทำไม่ถูก.. เขารู้ มันไม่มีเหตุผลแต่เขาก็พอจะเข้าใจว่าทำไมลู่หานที่พาเขากลับบ้าน ลู่หานเคยพูดว่าต่อให้โลกทั้งโลกจะล่มสลายหรือตัวจะตายยังไง ขอแค่เขาอย่าร้องไห้ก็พอ นั่นคือเหตุผลที่ว่าเวลาจะขอให้ลู่หานทำอะไร ถ้าตัวเขาเริ่มจะร้องไห้เมื่อไหร่ลู่หานก็จะยอมจำนนโดยปริยาย ลู่หานคงแค่อยากจะพาเขากลับมาบ้านล่ะมั้ง.. มันก็น่าอายนะไปยืนร้องไห้ให้คนอื่นเห็นน่ะแต่ของแบบนี้ต้องลอง ลองมาเจอเสียงตวาดแบบดุดันแทบจะสั่นประสาทดูสิ ไม่ร้องยังไงไหว
     
    “ไงหยุดร้องไห้หรือยัง” ลู่หานส่งแก้วนมน้ำผึ้งอุ่นๆให้ชานยอลที่นั่งอยู่ในห้องนอนของเขาในบ้านหลังนี้ ชานยอลรับมาดื่มแล้วก็มองค้อนใส่ลู่หานซะเลย
     
    “ไม่ได้อยากจะร้องสักหน่อยเถอะ” ลู่หานหัวเราะๆแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะอ่านหนังสือใกล้ๆกับเตียง เท้าแขนค้ำหัวกับโต๊ะแล้วมองชานยอลที่ดื่มนมไปก็ค้อนใส่เขาไป
     
    “กูไม่ให้มึงไปเจอมันนะ อย่าแม้แต่จะหนีไปเจอมันไม่งั้นล่ะก็โดนดีแน่ๆ” ลู่หานชูกำปั้นขึ้นขู่แต่ชานยอลกลับแบะปากใส่
     
    “ไม่เฝ้ากูไว้เลยล่ะ”
     
    “ก็ถึงได้กลับมาอยู่บ้านนี่ไง อย่าคิดหนีเพราะกูจะไม่ปล่อยให้ไปแน่” ลู่หานชี้นิ้วใส่ ชานยอลแบะปากใส่อีกรอบซะเลย ลู่หานก็เลยได้แต่หัวเราะเบาๆ
     
    “กูก็แค่อยากดัดนิสัยมันหวังว่าคงจะเข้าใจนะ กูจะไม่ยึดมือถือมึงอยากคุยก็โทรไป” ชานยอลยกแก้วดื่มนมให้หมดแล้วก็เอียงคอทำตาโตสงสัย
     
    “ทำไมต้องดัดอ่ะ?” 
     
    “สั่งสอนมันไงว่าทีหน้าทีหลังอย่าทำให้น้องกูร้องไห้อีก กูไม่ชอบ” ชานยอลยิ้มแล้วยกนิ้วโป้งให้ลู่หานสองนิ้วเลย
     
    “เจ๋งสุดๆอ่ะ” ชานยอลหัวเราะอารมณ์ดีแล้วก็ล้มตัวลงนอนพาดที่เตียง
     
    “มึงเป็นน้องของกูนิ ถ้าเรื่องแค่นี้ทำไม่ได้กูก็ไม่ยกมึงให้มันหรอกต่อให้มันมาคุกเข่าต่อหน้ากูก็ตาม” ชานยอลที่นอนอยู่ก็วาดรอยยิ้มเต็มใบหน้าเลย
     
    “นั่นแหละคือที่เหตุผลที่วันนั้นกูถึงบอกพ่อว่าอยากได้มึง ก็เพราะรู้ไงว่าพี่ลู่จะปกป้องน้องยอลได้และก็คงจะปกป้องไปตลอดชีวิตใช่ไหม” ลู่หานยังไม่ตอบในทันที เจ้าตัวลุกขึ้นแล้วเดินมาลงนอนข้างๆ ชานยอลหันมองลู่หานที่ดีดหน้าผากเขาเบาๆ
     
    “กูสัญญาว่ายังไงก็แบบนั้นแหละ” ชานยอลยิ้มแล้วขยับตัวมานอนกอดแขนลู่หานไว้
     
    “เพราะแบบนี้ไงน้องยอลถึงรักพี่ลู่ที่สุด!!”
     
    “แต่ก็น้อยกว่าไอ้คริสใช่ไหมล่ะ” ชานยอลไม่ตอบแต่ฟาดแขนลู่หานไปสักที คนโดนตีก็หัวเราะเบาๆ
     
    “ชอบมันหรือเปล่า” ชานยอลกัดปากแล้วส่ายหน้า
     
    “ไม่รู้สิ รู้แค่ว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขดี อยากเจอทุกวัน อยากมองไปรอบๆแล้วเห็นมัน ชอบเวลาที่มันเอาใจแต่จะไม่ชอบก็ตอนมันทำให้เจ็บตัวนี่ล่ะ” ลู่หานระบายยิ้มบางๆกับคำพูดของชานยอล ดูท่าว่าเจ้าน้องชายหัวช้าของเขาคงจะไม่รู้สินะว่าตัวเองน่ะไม่ได้ชอบเพื่อนตัวสูงสุดโหดนั่นหรอกแต่ ‘รัก’ ไปแล้วน่ะ 
     
    ลู่หานลูบหัวชานยอลเบาๆ เจ้าตัวก็ขยับตัวมากอดแขนอ้อนใหญ่ เวลาที่จะได้อ้อนลู่หานน่ะมีไม่มากหรอกนะ ถ้ามีต้องเก็บเกี่ยวไว้เหมือนกับที่เวลาคริสทำอะไรให้แล้วเขารู้สึกประทับใจนั่นแหละ แต่ต่างกันตรงที่ชานยอลมักจะประทับใจคริสทุกวัน 
     
    ถ้าสักวันลู่หานจะมีคนรักเป็นของตัวเอง คนๆนั้นจะเป็นคนยังไงนะ จะเป็นคนแบบไหนนะที่กุมหัวใจของลู่หานได้ ถ้าลู่หานมีคนที่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในทุกๆวันแล้วจะทิ้งตัวเขาหรือเปล่านะ แต่ยังไงชานยอลก็เชื่อว่าลู่หานจะไม่ทิ้งเขาแน่ๆ เหมือนที่เขาก็จะไม่ทิ้งลู่หานเหมือนกัน... และชานยอลก็ไม่ทิ้งคริสหรอก ไม่ใช่ไม่อยากทิ้งแต่ทิ้งไม่ได้เสียมากกว่า ก็คิดถึงขนาดนี้นินะ..
     
    “คุณลู่หานคะ คุณคริสมาค่ะ” เสียงของเด็กในบ้านเคาะประตูเรียก ชานยอลกับลู่หานลุกขึ้นนั่งแล้วก็หันมามองหน้ากันเอง
     
    “ห้ามลงไปเด็ดขาด แอบฟังก็ไม่ได้ เข้าใจ?” ชานยอลยู่ปากใส่แล้วก็พยักหน้ารับรู้ แม้จะไม่อยากเข้าใจก็เถอะ ชานยอลมองตามหลังลู่หานไปแล้วก็ช่างใจว่าจะลงไปดีไหม แต่ความอยากรู้ก็มีมากกว่าความกลัวว่าลู่หานจะโกรธ เอาเถอะน่า ไม่มีใครรู้หรอก
     
    ลู่หานเดินลงบันไดจากชั้นบนมา คริสที่เดินวนไปเวียนมาก็หันมามองนึกว่าจะเห็นชานยอลแต่ก็เปล่า จะพูดว่าคริสหมดอารมณ์ก็ว่าได้ พอเจอหน้าลู่หานก็ขมวดคิ้วฉับแล้วจ้องประสานตากับลู่หาน 
     
    “กูมาหาชานยอล” ไม่ต้องให้ลู่หานลงมาถึงพื้น คริสก็เอ่ยบอกถึงจุดประสงค์ทันที ลู่หานที่รู้อยู่แล้วก็ยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ
     
    “กูไม่ให้เจอ คงถึงเวลาแล้วมั้งที่เราควรคุยกันสักที” ลู่หานเดินผ่านคริสไปลงนั่งที่โซฟา แล้วส่งสายตาให้คริสมานั่งแต่เจ้าตัวกลับมานั่งยังคงยืนอยู่ตรงหน้าบันได ปลายหางตาแอบเห็นแว่บๆว่าชานยอลแอบฟังอยู่ด้านบน
     
    “กูว่ามึงทำไม่ถูกถึงกูจะตวาดมันแต่กูก็ไม่ได้ไร้เหตุผล มึงก็ต้องเข้าใจด้วยถ้ากูมาไม่ทันชานยอลมันคงตายห่.ไปแล้ว” 
     
    “แต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำให้ชานยอลร้องไห้ น้องกูเลี้ยงมามันไม่เคยร้องไห้สักแอะมึงเป็นใครมาทำให้น้องกูร้องไห้” คริสที่ขมวดคิ้วมุ่นก็ยิ่งขมวดคิ้วหนัก
     
    “น้องที่เลี้ยงมา?” ลู่หานเลิกคิ้วแล้วมองเพื่อนตัวสูงที่ยังยืนทำหน้างงอยู่ที่เดิม คริสมองลู่หานที่พยักหน้าช้าๆ
     
    “ใช่ ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่กูเป็นพี่ของชานยอล” คริสทำหน้างงแล้วก็หันไปมองชานยอลที่แอบอยู่ข้างๆบันไดด้านบน ชานยอลยื่นหน้าออกมาแล้วพยักหน้าให้ว่าที่ลู่หานพูดน่ะเรื่องจริง
     
    “ทำไมไอ้จงอินบอกว่ามึงเป็นญาติห่างๆที่พ่อของชานยอลจะให้มึงหมั้นกับชานยอล” ลู่หานหัวเราะจนแทบจะตกโซฟา คือขำมาก ขำจะไม่ไหวอยู่แล้ว ไอ้คนข้างบนก็หัวเราะคิกคักได้ยินแล้วหมั่นไส้ก็เลยหันหน้าไปจ้องตาดุใส่ชานยอลก็แล่บลิ้นใส่แล้วตั้งหน้าตั้งตาหัวเราะต่อไป
     
    “มันหลอกมึงแล้วล่ะ” นี่สินะคือเหตุผลที่ว่าเวลาคริสเห็นชานยอลอยู่กับลู่หานทีไรองค์จะลงทุกที ลู่หานยังหัวเราะไม่เลิกและแน่นอนว่าไอ้คนด้านบนน่ะหัวเราะดังกว่าใครเพื่อนเลย ถ้าไม่เกรงใจจะขำกลิ้งตัวมากับบันไดสักรอบ สองรอบให้ดู คริสเสยผมหน้าอย่างลวกๆแล้วหันหน้าขึ้นไปมองชานยอลที่ยังหัวเราะจนแทบจะลงไปกองกับพื้น
     
    “น้องยอลพี่ลู่บอกไว้ว่ายังไง!” แล้วไอ้คนที่หัวเราะสั่นเป็นเจ้าเข้าก็หยุดชะงักมองหน้าคริสแล้วทำมือว่าจะโทรหาแล้วก็ลุกขึ้นวิ่งกลับเข้าห้องนอนไปเลย
     
    “กูไม่ชอบให้น้องกูร้องไห้หวังว่ามึงจะจำไว้ มึงจะโหดอะไรกูก็ไม่เคยยุ่งหรอกนะแต่ขออย่างเดียวแค่นั้นแหละและยังตามเดิมถ้ากูไม่อนุญาตมึงก็ห้ามเจอน้องกูเด็ดขาด” ลู่หานลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไป
     
    คริสที่มองตามหลังลู่หานไปก็ได้แต่นึกเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ คอยดูเถอะมึงทีใครทีมัน! อย่าคิดว่ากูไม่รู้ไม่เห็นความลับของมึงนะ!
     
    “งานนี้กูเอาคืนแน่”
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    นี่ก็วันที่ห้าแล้วที่ชานยอลไม่ได้เจอคริสเลย ก็ได้แต่ส่งข้อความแชทหากันนั่นแหละ ชานยอลนั่งขัดสมาธิเท้าคางอีกมือก็จิ้มหน้าจอโทรศัพท์ อยากเจอ อยากคุยด้วย อยากอ้อน อยากให้เอาใจ อยากให้มาอยู่ใกล้ๆมากกว่ามานั่งมองหน้าจอมือถือแบบนี้ ชานยอลยังเปิดหน้าโปรแกรมแชทไว้มันนิ่งสนิทมาตั้งแต่เย็นเมื่อวานแล้ว ไม่มีแม้แต่ตักอักษรสักตัว สมาธิที่จะหยิบหนังสือมาอ่านก็ไม่มีเอาแต่นั่งนึกถึงแต่ไอ้หน้าโหดโฉดทั้งๆที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปคิดถึงมันทำไม
     
    “เฮ้อ..” ชานยอลหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วก็กดปิดหน้าจอแล้วโยนมันทิ้งไปที่ปลายเตียง ล้มตัวลงนอนแล้วก็มองเจ้ามือถือที่ดูจะไร้ประสิทธิภาพ อยากจะโทรก็ไม่กล้ากลัวว่าจะไปรบกวนอีกคนเข้าให้ ก็ลังเลอยู่ว่าจะโทรไปหาดีไหม ลองส่งข้อความก็ไม่เห็นว่าจะตอบรับหรือจะอ่านเลยสักนิด ได้แต่กลิ้งไปกลิ้งมามองเจ้าตัวที่นอนอยู่ปลายเตียงแล้วก็หงุดหงิด แต่อยู่ดีๆเจ้าตัวนั้นก็แผดเสียงร้องลั่นเลย ไอ้คนที่ใจลอยก็สะดุ้งแล้วรีบลุกถลาไปหยิบมันคือมาดูทันที
     
    คิดว่าจะเป็นใครอีกคนโทรมาแต่กลับเป็นสายจากใครก็ไม่รู้เพราะมันไม่ขึ้นโชว์เบอร์ เอียงคอทำหน้าสงสัยแล้วก็ค่อยๆกดรับ
     
    “สวัสดีครับ” 
     
    “พี่ชานยอลนี่น้องแบคนะ พี่ชานยอลว่างหรือเปล่ามาที่บ้านหน่อยสิครับ” พอได้ยินตอบรับจากปลายสายก็รู้เลยว่าเป็นใคร แม้จะแปลกใจก็เถอะว่ามีเบอร์เขาได้ยังไงแล้วก็โทรมาทำไม
     
    “มีอะไรหรือเปล่าครับน้องแบค” เพราะลู่หานสั่งไว้นั่นแหละเลยทำให้ตัวเขาลังเล จะไปก็กลัวว่าจะโดนดุเอา เวลาลู่หานดุน่ะอย่าให้พูดเลยน่ากลัวว่าพ่อของเขารวมกันสองคนซะอีก
     
    “เหมือนพี่คริสจะป่วยเลยอ่ะ น้องแบคเคาะห้องเรียกก็ไม่ตอบ” 
     
    แล้วคิดว่าชานยอลจะกล้าขัดคำสั่งของลู่หานไหมล่ะ? 
     
    หลังจากวางสายได้ไม่นานชานยอลก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมออกจากบ้าน เจ้าตัวพยายามเดินย่องให้เบาที่สุดลงมาจากชั้นบน มองซ้าย มองขวาเผื่อว่าลู่หานจะอยู่ข้างล่างจะได้หลบได้ทัน แต่ด้านล่างบ้านก็เงียบสงบดี คุณแม่อยู่ในครัว คุณพ่อก็คงจะอยู่ที่แปลงดอกไม้ ลู่หานไปไหนไม่รู้ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี ชานยอลค่อยๆย่องเดินไปที่เก็บกุญแจรถ ก็ช่างใจอยู่ว่าจะขับดีไหม ชานยอลขับรถเป็นแต่ก็ไม่ได้บอกว่าขับรถแข็งสักหน่อย
     
    คว้ากุญแจรถของคุณพ่อได้ก็กำไว้แน่นเลย กลัวว่าถ้าลู่หานมาเห็นล่ะก็ต้องเป็นเรื่องแน่ๆ ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างช่างใจว่าจะเอายังไงดี จะไปเลยดีไหมหรือจะให้พ่อขับรถไปส่งหรือเอายังไงดี ชานยอลไม่รู้ตัวเลยว่าลู่หานน่ะยืนมองตั้งแต่เจ้าตัวเดินออกจากห้องนอนแล้วล่ะ ลู่หานเดินเข้ามาใกล้แล้ววางมือบนไหล่ทำเอาคนที่กำลังจะทำความผิดสะดุ้งโหยง
     
    “อะ... ไอ้ลู่จะไปไหนเหรอ” เพราะเห็นว่าคนตรงหน้าแต่งตัวเตรียมพร้อมออกข้างนอกน่ะสิก็เลยถาม
     
    “อืม พอดีมีธุระด่วนน่ะ แล้วนี่มายืนแถวนี้ทำไม” ชานยอลทำตาล่อกแล่กไม่กล้าตอบ ลู่หานยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองหน้าชานยอลอย่างขอคำตอบ
     
    “กะ... ก็.......” ลู่หานแบมือมาตรงหน้า ชานยอลก็เลยต้องยอมคืนกุญแจรถพ่อให้ไป
     
    “จะไปไหน หาไอ้คริส?” ชานยอลก้มหน้าลงแล้วพยักหน้ารับ ลู่หานระบายยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะเอากุญแจรถของพ่อเก็บที่เดิม
     
    “เดี๋ยวก็ขับลงข้างทางอีกหรอกไปด้วยกันเดี๋ยวขับไปส่ง” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองลู่หานแล้วสีหน้างงงวย ดวงตากลมกระพริบปริบๆ
     
    “อนุญาตเหรอ” ลู่หานพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ ชานยอลก็เลยค่อยๆยิ้มกว้างส่งให้
     
    “ไปหามันทำไมล่ะ”
     
    “น้องแบคโทรมาบอกว่ามันไม่สบายอ่ะ” พอได้ยินชื่อของแบคฮยอน ลมหายใจของลู่หานก็กระตุกไปพร้อมกับดวงตาที่เสมองไปทางอื่น ชานยอลที่จับสังเกตไม่ได้ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร
     
    “ไปกันเถอะแล้วมึงจะได้ไปทำธุระด้วย” ลู่หานไมได้พูดอะไรแต่เดินนำออกมาก่อน ชานยอลก็ไม่ได้สนใจอะไรก็รู้แค่เพียงว่าอีกไม่นานตัวเองก็จะได้เจอคนที่ชอบมากวนความคิดเขาแล้ว
     
    ไม่นานชานยอลก็มายืนอยู่ที่หน้าบ้านคริสด้วยสมรรถนะของรถลู่หานที่จัดมาเต็ม พอลงจากรถได้ลู่หานก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากลูบหัวชานยอลสามทีแล้วก็ขับรถออกไปเลย ชานยอลมองลู่หานไปด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ทำไมแต่ชานยอลรู้สึกเป็นห่วงลู่หานยังไงก็ไม่รู้ เมื่อลู่หานไปไกลจนลับสายตาแล้วชานยอลก็หมุนตัวเดินเข้าบ้านหลังนี้ไป
     
    แบคฮยอนกับเซฮุนนั่งอ่านหนังสือเงียบๆอยู่ที่โซฟาโดยที่น้องแบคหันหน้ามายิ้มแล้วชี้ไปด้านบน ชานยอลยิ้มให้ก่อนที่จะเดินขึ้นไปด้านบน บานประตูเดิมที่จำได้(ยามที่ไม่เมา)ถูกเปิดเข้าไปเบาๆเพราะกลัวว่าจะไปรบกวนคนป่วยอยู่ ชะโงกหน้าเข้าไปดูในห้องก็เห็นว่ามีหมีตัวใหญ่ๆนอนอยู่บนเตียง ชานยอลปิดประตูเบาๆแล้วค่อยๆเดินเข้ามาแล้วปีนขึ้นไปนั่งบนเตียงมองคนที่ดูไม่ค่อยเหมือนคนป่วยสักเท่าไหร่
     
    หลังมืออุณหภูมิปกติแตะเข้าที่หน้าผากที่เย็นด้วยไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ไม่ได้มีแววว่าจะตัวร้อนหรือมีไข้เลยสักนิดแต่บางทีอาจจะเพราะนอนตากแอร์ก็ได้ คิดได้แบบนั้นก็เลยเลื่อนมือไปแตะเข้าที่ซอกคอก็เจอที่อุณหภูมิอุ่นกว่าแต่ไม่ได้มีไข้แน่ๆ คนโดนกวนที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นคนที่มานั่งใกล้ๆส่งยิ้มมาให้คริสก็ลุกขึ้นพรวด จ้องหน้าแล้วยื่นมือไปไล้สัมผัสที่แก้มของชานยอลเบาๆ
     
    “นึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้ามึงแล้วซะอีก” ชานยอลหัวเราะแล้วดีดหน้าผากคริสไปสักที
     
    “ก็เห็นอยู่นี่ไง แล้วนี่ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย” คริสจับมือของชานยอลให้มาทาบวัดอุณหภูมิที่แก้มของตัวเอง
     
    “แล้วกูเป็นไข้หรือเปล่าล่ะ” ชานยอลทำหน้าคิดก่อนที่จะส่ายหน้า
     
    “แล้วทำไมน้องมาเรียกแล้วไม่ตื่น” คริสล้มตัวลงนอนโดยที่ดึงมือของชานยอลให้ตามลงมานอนด้วยกัน ชานยอลนอนทับอยู่ที่อกของคริสแล้วเงยหน้าขึ้นมอง คริสปิดเปลือกตาลงก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
     
    “ไปออกงานกับพ่อน่ะ กลับมาก็ดึกแล้วเลยนอนยาว” ชานยอลพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง คริสหันหน้ามามองชานยอลที่ทำหน้านิ่วเหมื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ คริสจับมือเรียวของชานยอลกุมไว้ที่อก
     
    “มีอะไรพูดออกมา” ชานยอลสูดลมหายใจอีกหนึ่งเฮือก เรียกขวัญกำลังใจก่อน
     
    “ตอนที่มึงคุยกับไอ้ลู่อ่ะ... ไอ้ลู่เป็นพี่ชายกูนะ จริงๆมันอายุมากกว่ากูด้วยแต่พ่อให้มันมาเรียนแล้วก็คอยดูแลกูก็เลยได้เรียนชั้นเดียวกัน กูกับไอ้ลู่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้วเพราะฉะนั้นจะสนิทกันก็ไม่แปลก เข้าใจใช่ไหม?” 
     
    “เออ แล้วทำไมมึงไม่เล่าให้กูฟัง” ชานยอลหัวเราะแล้วดึงมือตัวเองออกจากมือของคริสแล้วตัวเองก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ หันหน้าไปหาแล้วก็แล่บลิ้นใส่
     
    “ก็มึงไม่เคยถาม ไอ้ห่.จงอินยังถามกูเลย” หัวเราะสะใจแล้วก็พลิกตัวนอนหันหลังให้ซะเลย
     
    “ต่อจากนี้มึงก็เลิกหวงไอ้ลู่ได้แล้วนะมันเป็นพี่กู เป็นพี่ชายคนเดียว เป็นเพื่อนคนแรกและเป็นคนที่อยู่กับกูแทบจะทั้งชีวิตแล้ว” ไม่รู้ทำไมเพราะคิดว่าคริสอาจจะหวงลู่หานมากกว่าตัวเขามันถึงได้เจ็บหน่วงๆที่ในอกด้านซ้าย ถึงต้องนอนหันหลังให้มันนี่ไง กลัวว่าจะทำสีหน้าแปลกๆให้มันเห็น
     
    “ใครบอกว่ากูหวงมัน” คริสขยับลุกขึ้นมาแล้วโอบกอดชานยอลจากด้านหลังพร้อมกับกดจูบลงที่ไหล่ของชานยอลหนักๆ คนที่ไม่เข้าใจหันไปมองด้านหลังก็เห็นคริสยกยิ้มส่งมาให้ ไม่อยากจะบอกเลยว่าปาร์คชานยอลแพ้รอยยิ้มหล่อๆของไอ้โหดนี่น่ะ!
     
    “อ้าวแล้วมึงหวงใคร” ถ้าตอบว่าจงอินเชื่อได้เลยว่าพรุ่งนี้ที่หน้าหนังสือพิมพ์จะมีข่าวฆาตกรรมคิมจงอินแน่ๆ ขอบอกเลยว่ามันจะโดนหลายกระทงเลยล่ะไอ้ดำน่ะ!!
     
    “ก็มึงไง” เมื่อคริสตอบคำถามนั้นก็ก้มลงสัมผัสริมีฝปากอิ่มที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายวัน กลีบปากนิ่มยังคงนิ่มและหอมหวานเช่นดังเดิม หรือบางทีอาจจะหวานและน่าลิ้มลองมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ บางทีเขาก็คิดนะว่าชานยอลอาจจะเป็นยาเสพติดก็ได้ พอเขาได้เสพก็จะติดมันและก็ไม่มีทางเลิกได้เสียด้วยสิ
     
    ชานยอลขยับตัวนอนหงายและคริสก็ขยับขึ้นคร่อมทับ บทจูบหนักหน่วงที่ตอบรับซึ่งกันและกันยิ่งตอบรับก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงกัน บทจูบหวานและเร่งเร้าที่ถูกคนด้านบนป้อนมาให้นั้นทำให้สมองของชานยอลขาวโพลน เรื่องคิดวกวนกวนใจก่อนหน้านี้มันก็มลายหายไปหมดหรือบางทีอาจจะมหลายหายไปตั้งแต่เขาได้สบกับดวงตาคู่คมนั่นแล้วก็ได้ แล้วด้วยความรู้สึกที่กำลังเคลิ้มอยู่นี้เลยทำให้ชานยอลเผลอปล่อยตัวและปล่อยใจนอนใต้ร่างให้คริสได้รังแกเขาให้สมใจ เต็มใจรับทุกสัมผัสนั้นโดยที่ยังมีสติครบถ้วน
     
    ความรู้สึกที่เหมือนในค่ำคืนนั้นกลับมาไหลเวียนในตัวเขาอีกครั้ง คริสนำพาเขาไปในทุกจังหวะ ชานยอลที่แทบจะล่องลอยอยู่ในวิมานกาศจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคริสกระซิบบอกอะไรที่ข้างหูแล้วตัวเขาเรียกชื่อของคนด้านบนไปกี่ครั้ง จำอะไรไม่ได้เลยนอกจากสัมผัสเร่าร้อนที่กำลังโถมเข้ามาหาคล้ายดังคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง รุนแรง หนักหน่วงแต่ก็เน้นย้ำในทุกความรู้สึก ครั้งนี้ชานยอลไม่ได้เมาและก็มีสติดีอยู่ถึงแม้บางช่วงจังหวะจะรู้สึกว่าตัวเองล่องลอยในห้วงฝันก็เถอะ
     
     
     
     
    ชานยอลลืมตาขึ้นหลังจากที่หลับไปหนึ่งตื่น คริสนอนซ้อนอยู่ด้านหลังและโอบกอดเขาแนบอก อ้อมแขนยาวของคริสโอบชานยอลไว้แนบไว้ทั้งตัว หันไปมองก็เห็นว่าคริสยังไม่ตื่นชานยอลก็เลยค่อยๆแกะมือที่โอบตัวเองออกแต่แล้วแขนหนักๆก็กลับมาโอบกระชับอีกครั้ง คนตัวสูงกว่าขยับตัวแล้วกัดที่ไหล่ชานยอลไม่แรงนักก็เลยได้แรงฟาดจากมือของชานยอลที่ท่อนแขนไปหนึ่งที
     
    “จะไปไหน” คริสยังคงวนจูบอยู่ที่ไหล่เนียนและลำคอยาวของชานยอลไม่ปล่อย คนโดนจูบก็ย่อคอหนีแล้วแกะแขนคริสออกก่อนที่จะก้าวเท้าลงจากเตียงหยิบบ็อกเซอร์มาสวม
     
    “อาบน้ำดิ หิวข้าวแล้วเนี่ย” ชานยอลเก็บเสื้อผ้าของเขาและบ็อกเซอร์ของคริสที่ถูกเหวี่ยงลงพื้นขึ้นมาวางไว้บนเตียงแล้วเดินหนีไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อเตรียมชุดให้คริส
     
    “มึงก็ลุกได้แล้วกูหิวแล้วเนี่ย” พูดไปสายตาก็มองเสื้อผ้าในตู้ไป คริสที่นั่งมองอยู่ก็ระบายยิ้มออกมาก่อนที่จะคว้าบ็อกเซอร์มาสวมบ้าง จะให้เดินแก้ผ้านี่ก็ไม่ไหวนะยังไม่สามารถพอ
     
    “เออใช่เดี๋ยวอีกสองวันจะไม่อยู่นะ ... อ๊ะ!!” คริสที่ได้ยินว่าชานยอลจะไม่อยู่ก็คว้าข้อมือของชานยอลแล้วกระชากให้หมุนตัวกลับมาหา สองแขนถูกบีบอีกแล้ว คิดว่ามันก็คงจะขึ้นรอบมืออีกแน่ๆ ใบหน้าของคริสนั้นขมวดมุ่นและดูโมโหมาก นี่เขาทำอะไรผิดอีกล่ะเนี่ย?
     
    “มึงจะไปไหน” แม้คริสจะไม่ได้คำรามเหมือนสัตว์ป่าแต่ในน้ำเสียงนั้นชานยอลรู้ว่าตัวเองกำลังโดนคุกคามอยู่ ริมฝีปากอิ่มวาดรอยยิ้มพร้อมกับเอียงคอใส่
     
    “ก็จะบอกอยู่นี่ไงฟังยังไม่ทันจบเลยนะมึงเนี่ย ก็จะไปเที่ยวกับที่บ้านมีพ่อ แม่ ไอ้ลู่แล้วก็กู” คริสปล่อยแขนของชานยอลแล้วเกี่ยวเอวชานยอลเข้ามาชิด
     
    “จะไปไหน ไปกี่วัน ไปด้วยได้ไหม” ชานยอลหัวเราะเสียงร่าเริงแล้วขยี้เส้นผมของคริสเล่นจนยุ่งก่อนที่จะส่ายหน้า
     
    “จริงๆกูก็อยากจะชวนมึงหรอกแต่ไอ้ลู่ไม่ให้ชวนมึงไป เพราะงั้นอดไปนะคุณชาย” ชานยอลหัวเราะอย่างสะใจก่อนที่จะดันคริสออกแล้วหมุนตัวกลับไปดูเสื้อผ้าต่อ เอ? วันนี้กินข้าวที่บ้านนี้ดีกว่าไม่ต้องออกไปไหนงั้นให้มันใส่ชุดธรรมดาก็พอ
     
    “อยากตามมึงไปด้วยว่ะ” คริสกอดชานยอลจากด้านหลังแล้วกดปลายจมูกที่ต้นคอระหงส์ ชานยอลย่นคอหนีแต่คริสก็ตามมาคลอเคลียได้อยู่ดีพร้อมกับกัดที่คอของชานยอลเบาๆ
     
    “ไอ้ลู่บอกว่าถ้ามึงตามมามันจะกระทืบมึง ก็ตามมาดิกูจะได้ให้ไอ้ลู่กระทืบมึงให้ตายไปเลย” คริสหมุนตัวชานยอลให้หันมาหาแล้วทำหน้าตางอนๆใส่ หน้าตาที่ชานยอลลงความเห็นในใจว่าดูตลกชะมัด!
     
    “กูคงคิดถึงมึงตายเลย ขออีกสักรอบนะ” คริสโอบชานยอลเข้าประชิดตัวแล้วก้มลงซุกไซร์ที่ซอกคอแต่ชานยอลฟาดหลังเข้าให้
     
    “อยากมากก็เรียกหาน้องนางของมึงไปแล้วกัน กูจะลงไปกินข้าวแล้ว” ชานยอลผลักคริสออกแล้วเดินหนีไปที่เตียงเพื่อหยิบเสื้อผ้าตัวเองแล้วจะชิ่งหนีเข้าห้องน้ำแต่คริสก็ดันชานยอลให้ลงนอนที่เตียงแล้วตัวเองก็ขึ้นคร่อมทับชานยอลกั้นไม่ให้คนตัวบางกว่าหนีไปไหนได้
     
    “ไม่เห็นต้องเรียก ก็มีมึงอยู่แล้วนี่ไง” คริสป้อนจูบให้ชานยอลที่ตอนแรกก็ขัดขืนแต่แล้วก็โอนอ่อนผ่อนตามไปและด้วยสภาพที่กึ่งเปลือยนี้ผิวกายก็ยิ่งสัมผัสกันมากกว่าตอนที่มีเสื้อผ้ากั้นขวางเสียอีก ฝ่ามือของคริสลากไล้ตามผิวกายของชานยอล ลากไล้ลงต่ำแล้วค่อยๆล้วงเข้าบ็อกเซอร์ไป
     
    “เฮียจะกิน..........” จื่อเทาที่เคาะห้องแล้วเปิดประตูเข้ามาเลยก็ได้ยืนอ้าปากค้างอยู่ที่ประตู ชานยอลกับคริสหันไปมองแล้วก็ได้แต่ตกใจเพราะไม่คิดว่าน้องชายจะเปิดเข้ามาและก็ไม่คิดว่าเทาจะมาเคาะเรียกอะไรตอนนี้ ตกใจนิ่งค้างกันได้ไม่เท่าไหร่จุนมยอนที่เดินขึ้นมาตามก็เดินมาอ้าปากค้างสมทบอีกรอบ 
     
    “เทาเทาปิดประตูสิ!!” จุนมยอนแอบอยู่ที่หลังของจื่อเทาแล้วก็ตีหลังน้องใหญ่เลย จื่อเทาก็ปิดประตูด้วยสีหน้ายังตกใจอยู่ พอหันกลับมามองจุนมยอนที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังเขาก็เห็นว่าคนตัวขาวนั้นแก้มแดงไปไหนต่อไปไหนแล้ว
     
    “เห็นไหมล่ะพี่บอกแล้ว.. เราก็ลงไปกินข้าวกันก่อนเถอะ” จุนมยอนยิ้มแล้วดึงแขนน้องที่ยังทำหน้าตาตื่นให้ตามลงไปข้างล่างด้วยกัน
     
    “ไอ้เห.คริสทำไมมึงไม่ล็อคห้อง!!!!” หลังจากบานประตูปิดลงชานยอลก็หันมาฟาดคริสใหญ่ คนที่โดนฟาดมือก็พยายามปัดป้องแล้วจับมือของชานยอลไว้ให้หยุดตีเขา
     
    “มึงเข้าห้องกูคนสุดท้ายนะแล้วทำไมมึงไม่ล็อค!” ชานยอลมองค้อนใส่แล้วก็แบะปากให้ ปาร์คชานยอลไม่เคยผิดเว๊ย!!!
     
    “มึงหลับหลังกูทำไมมึงไม่ลุกไปดูห๊ะไอ้ง๊าว!!” คริสปล่อยมือชานยอลแล้วยกมือยอมแพ้
     
    “โอเคๆกูผิดเอง ลุกไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวกัน” คริสลงจากเตียงก่อนแล้วก็ฉุดให้ชานยอลลุกขึ้นตาม
     
    “มึงคิดว่ากูจะกล้าลงไปเหรอ??!! หมดสิ้นกันชีวิตกู” ชานยอลทรุดลงนั่งยองๆกับพื้นแล้วกุมหัวไว้ หมดสิ้นกันหนทางกู!! น้องจุนจ๋า~~~ ป่านนี้เข้าใจไปไหนต่อไหนแล้วใช่ไหม ฮือ...... พี่ชานยอลจะทำอะไรต่อไปได้ล่ะ แอบเต๊าะแบบเนียนๆก็ได้วะเห็นเต็มตาแบบนั้นหมดสิ้นกันชีวิตกู
     
    “ประสาทเสียเหรอมึงลุกเร็วๆ” ชานยอลสะบัดหน้าหันมามองคนที่หัวเราะดูสนุกใจ สบายกายเหลือเกิน แล้วเสียงข้อความเข้าเครื่องของชานยอลก็ดังขึ้นเจ้าตัวขยับลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วล้วงหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาดู เป็นโรคประจำของเจ้าตัวเขาล่ะอ่านไปก็พยักหน้าไป ทำเหมือนคนส่งมันจะเห็น
     
    “ใครส่งอะไรมา” ชานยอลปิดหน้าจอแล้ววางมือถือไว้บนเตียงก่อนที่จะหันมาตอบคริสที่ยืนกอดอกทำหน้าตาขรึมจ้องมาอย่างคาดคั้น
     
    “ไอ้ลู่ส่งข้อความมาบอกว่าวันนี้ให้กลับบ้านห้ามค้างเดี๋ยวมันมารับ ให้เจอได้ก็ใช่ว่าจะให้ค้าง” คริสถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่แล้วเท้าเอว ลูบหน้าอย่างกลั้นอารมณ์โกรธ
     
    “ไอ้เห.ลู่หาน” คำรามเสียงลอดไรฟันอย่างโกรธเคือง ชานยอลหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ แหงล่ะไม่ได้เห็นไอ้โหดหงุดหงิดใจบ่อยๆหรอกนะเพราะฉะนั้นต้องทับถมให้เต็มที่
     
    “แต่ก็ยังดีที่มันให้กูมาหามึงนะ” ชานยอลเอียงคอแล้วยิ้มใส่ คริสถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาใกล้แล้วกอดชานยอลไว้ ชานยอลที่อิงพอดีหน้าอกก็หลับตาแล้วพิงอกของคริสอย่างว่าง่าย
     
    “มึงไม่ต้องฟังมันมากก็ได้มั้งไอ้ห่.ลู่หานน่ะ” ชานยอลทุบเข้าที่ท้องของคริสไม่เบานัก
     
    “กูฟังไอ้ลู่มากกว่ามึงอีก!!” คริสหัวเราะหึหึในลำคอแล้วก็ก้มลงมองคนที่เขากอดไว้แนบอก
     
    “ตอนที่มึงนอนให้กูเอามึงยังเรียกแต่ชื่อกูเลย กูบอกอะไรก็ทำตามหมดนิ”
     
    “เห.!! ไปนอนให้หนอนแทะไป!!!” ชานยอลดันคริสออกแล้วส่งขาเตะแข้งมันสักที
     
    “ถ้ากูถามว่ามึงอยากอยู่กับกูหรือไอ้ลู่มากกว่ากัน มึงจะตอบได้ไหม” ชานยอลก้มหน้าลงแล้วกัดริมฝีปากล่างอย่างหนักใจ คำถามที่แทบจะไม่มีคำตอบเลยด้วยซ้ำ ชานยอลเลือกไม่ได้และไม่อยากเลือกแต่ถ้าต้องให้เลือกคำตอบมันก็ต้องมีเพียงหนึ่ง... คำตอบที่ถ้าคนตรงหน้าได้ยินก็คงเสียใจแน่ๆ ชานยอลไม่กล้าตอบเลยได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่แบบนั้น 
     
    คริสที่มองชานยอลตรงหน้าก็ถอนหายใจแล้วโน้มชานยอลเข้ามากอด กดจูบที่กลุ่มผมสีดำสนิทนั้นหนักๆ ย้ำให้รู้ว่าเขาหนักแน่นแค่ไหน ตัวเขาพอจะรู้ว่าคำตอบของชานยอลคืออะไร ถึงยังไงเขาก็ไม่ใหญ่ไปกว่าลู่หานจริงๆน่ะหรือ? ต่อให้ตายชานยอลก็ไม่เห็นว่าเขาเหนือลู่หานเลยเหรอ?
     
    “เดี๋ยวสอบเสร็จกูจะพามึงไปเที่ยว” คริสเอย่บอกแล้วก็ไล้แก้มของชานยอลเบาๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นการเปลี่ยนเรื่องที่โคตรห่วยแตกแต่ก็เอาเถอะเขาไม่อยากเห็นชานยอลต้องลำบากใจ ต่อให้เขาเป็นที่สองแต่ข้างกายของชานยอลถ้าเขาได้เป็นที่หนึ่งแค่นี้ก็คงพอแล้วล่ะ
     
    “เที่ยวไหนล่ะ” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมอง คริสก้มลงสบตาแล้วระบายยิ้มให้บางๆ รอยยิ้มที่ชานยอลเพิ่งเคยได้เห็น
     
    “มึงอยากไปที่ไหน”
     
    “ที่ไหนก็ได้ที่มีมึง”
     
    “งั้นไม่ต้องไปแม่งล่ะ นอนให้กูเอาอยู่บนเตียงนี่ล่ะ” ชานยอลก็เลยฟาดเข้าให้อีกทีเลยไงล่ะ ถึงจะเจ็บแต่คริสก็หัวเราะออกมา ใบหน้ายามโกรธของชานยอลน่ะมันน่ารัก น่าฟัดเหมือนลูกหมาตาแป๋วๆเลยนะ
     
    “ไอ้เห.คริส! พ่อมึงเถอะ!!” คริสดึงชานยอลให้ยืนขึ้นแล้วอ้อมมือเกี่ยวเอวกับช้อนแก้มใส่ให้เงยหน้าขึ้น
     
    “ไม่เอาพ่อกูล่ะ เอามึงเนี่ยแหละ” คริสโน้มใบหน้าลงเพื่อที่จะป้อนจูบให้แต่ชานยอลก็จัดการกระทืบเท้าให้หนึ่งทีเน้นๆ คริสที่โดนกระทืบเท้าก็กระโดนเต้นเหยงๆเลย ชานยอลหัวเราะสะใจแล้วคว้าเสื้อผ้าของตัวเองวิ่งเข้าห้องน้ำไป
     
    “กูไม่ให้มึงเอาหรอกไอ้ห่.!!” โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำแล้วก็แล่บลิ้นใส่มันไป คริสหัวเราะกับท่าทางทะเล้นของชานยอล 
     
    บานประตูห้องน้ำปิดลง คริสเองก็หยุดเสียงหัวเราะและความสุขที่กำลังล้นทะลักอยู่นี้ ดวงตาคมมองที่ประตูห้องน้ำนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บที่อกซ้าย ถ้าสักวันชานยอลต้องเลือกระหว่างตัวเขากับลู่หาน คำตอบมันก็คงจะไม่ใช่เขาแน่นอน บางทีเขาก็สงสัยว่าทุกวันนี้ที่เขาใกล้ชิดกับชานยอลมากกว่าใคร เขาได้หัวใจทั้งดวงของชานยอลมาหรือยัง
     
    คริสไม่เชื่อในความรักแค่พี่น้องของคนละสายเลือด มันจะต้องมีความผูกพันธ์บางๆที่โอบล้อมคนทั้งสองคนไว้และถ้าสักวันชานยอลปล่อยมือเขาแล้วเลือกที่จะไปหาความผูกพันธ์นั้นเขาจะทำอย่างไร.. จะอยู่ต่อไปได้อย่างไรถ้าไม่มีชานยอลอยู่ข้างกาย แค่ไม่กี่วันนี้เขาก็แทบจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับจนป๊าต้องพาไปออกงานให้เขาไม่ฟุ้งซ่านจนบ้า วันนี้เขาก็ไม่รู้ว่าน้องคนไหนที่เรียกชานยอลมาแต่มันก็เป็นเรื่องดีเลยล่ะ คริสโน้มตัวลงแล้วใช้สองมือลูบหน้าอย่างลำบากใจ
     
    เขาหวังเพียงว่ามันจะไม่มีวันที่ทำให้ชานยอลต้องเลือก เขาไม่อยากปล่อยมือชานยอลและแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้ชานยอลปล่อยมือเขาเด็ดขาด ต่อให้ชานยอลไปที่ไหนเขาก็จะตามหาจนเจอ จะที่สองหรือที่สามเขาเป็นได้ทุกอันดับนั่นแหละแต่ขอแค่ชานยอลอยู่กับเขาก็พอ ขอแค่ชานยอลยังต้องการเขาเท่านั้นก็พอ
     
     
     
    ...ตัวของคริสขาดสารเสพติดที่ชื่อชานยอลไปไม่ได้หรอก...
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×