ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5
พี่คริสประมงของเราก็ยังคงทำหน้าที่เต๊าะน้องคนงามได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย บางทีก็หมั่นไส้พี่ประมงจังเลย XD ลูกพี่ก็ยอมพี่บ่าวสักทีเถอะ~
เรารู้สึกแย่อยู่นิดนึง แต่เราจะไม่เหลานะว่าเรื่องอะไร เราแค่มาบ่นเฉยๆ >< #อ้อนทุกคนไทม์
ปล้ำน้องฮุน(?) รักนะคะทุกคนนะคะ *ซารังแฮ*
__________________________________
คุณเคยรู้สึกเซ็งอะไรแบบบอกไม่ถูกไหม? ตอนนี้ฮวางจื่อเทากำลังเซ็งไอ้คนตรงหน้าและคนข้างตัวมากๆ
“น้องชานยอลชอบฟังเพลงนี้เหรอ” คริสหันไปถามคนข้างตัว
“ก็ทำนองนั้น เพลงเพราะก็เลยฟัง” ชานยอลตอบก่อนที่จะก้มหน้าลงเขียนโจทย์ให้คริสลองทำต่อ คนที่ได้ยินคำตอบก็พยักหน้ารับ พี่ก็อยากจะร้องให้น้องฟังนะแต่พี่ร้องไม่ได้น่ะสิมันเป็นภาษาอังกฤษ เก่งซะด้วยนะวิชานี้ ถ้าน้องพอจะฟังเพลงใต้ได้พี่ก็จะร้องให้ฟังนะคนดีของพี่ วุ้ย เดี๋ยวบอกให้แม่เอากีต้าร์ที่บ้านส่งมาให้ดีกว่า
พี่จะได้ดีดกีต้าร์ร้องเพลงจีบน้องนางของพี่~ พี่มั่นใจว่าเดอะสตาร์หรือบ้านเอเอฟต้องเสียใจที่พี่ไม่เข้าไปประกวด!!
วันนี้เป็นวันหยุด คริสก็เลยขอให้ชานยอลมาติวภาษาอังกฤษให้ จริงๆก็ให้ไอ้เซฮุนหรือจงแดติวให้ได้หรอกแต่คิดว่าพี่จะทำไหม? ครับพี่ไม่ทำ.. ก็เลยมานั่งตัวชิดติดกันนั่งฟังเพลงจากมือถือของน้องนางคนสวยใจดีนางฟ้าประจำใจของพี่
เทาที่มาเป็นเพื่อนชานยอลก็เอาการ์ตูนมานั่งอ่านด้วยส่วนเซฮุนก็นั่งเล่นเกมของมันไป คริสก็นั่งทำหน้าฟินทำตัวเนียนเอาแขนชนชานยอลไปสิ ฟินจนไม่รู้จะกลั้นฟินยังไงดี ฟินแบบไม่พอดี ฟินจนอยากจะลุกขึ้นมาเต้นมันให้รู้แล้วรู้รอดไป! ใครจะเข้าใจหัวอกของพี่บ่าวได้เท่าพี่บ่าวที่นั่งเอาแขนสีน้องนางอยู่นี้ โอ๊ยแขนก็นิ่ม ตัวก็หอม ฮือ... เมียของพี่ช่างสวยงามราวนางสาวไทยอะไรขนาดนี้!
นี่ก็เพ้อจริง..
“อ่ะลองทำดู” ชานยอลที่ลองเขียนโจทย์ให้คริสทำเสร็จแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองแต่ทว่ากลับเห็นคนข้างตัวมองตัวเองแล้วก็ยิ้มกว้างอยู่ในระยะใกล้เกินไป “มองอะไร”
“มองคนน่ารัก เฮ้ย.. เอ่อ.. เปล่าไม่ได้มองอะไร” พอรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไปก็แก้ตัวแทบไม่ทัน แต่ไม่ทันแล้วแก้มกลมๆแดงระเรื่อไปแล้วเรียบร้อย
“ไม่ต้องพูดเลย ทำๆไปเลย” ชานยอลเลื่อนสมุดมาทางคริสด้วยสีหน้าที่กำลังจะโกรธ
“จ๊ะๆ ทำจ๊ะ” แล้วคริสก็ดึงสมุดมาก้มหน้าก้มตาทำโจทย์ที่ชานยอลตั้งให้ ตอนที่ติวนั้นเขาก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่ส่วนมากจะไม่ได้ฟัง ก็น้องนางน่ารักพี่ก็อดใจให้ไม่มองไม่ไหวหรอก ก็อยู่ใกล้กันซะขนาดนี้นิเนอะ
ชานยอลหันมองเทากับเซฮุนที่ทะเลาะกันเรื่องแย่งหนังสือการ์ตูนกันแล้วก็ส่ายหัวเปลี่ยนมานั่งเท้าคางมองคนข้างตัวที่นั่งก้มหน้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ดูตั้งใจทำเสียเหลือเกิน พอตัวเองว่างไม่มีอะไรทำก็นั่งเท้าคางมองคนข้างตัวนี่ล่ะ มองไปก็... เพลินดีเหมือนกันเนอะ
‘หวานละมุนละไมอยู่ในทุกตอน หวานทุกความรู้สึกไม่มีวันจางหายไป และให้หัวใจเก็บความหวานให้มันอยู่นานๆไว้’
อยู่ๆเพลงนี้ก็เล่นขึ้นมาทำเอาชานยอลที่แอบมองเขาอยู่รู้สึกตัวทันที เพราะชานยอลสะดุ้งคริสก็เลยเงยหน้าขึ้นมามอง พออีกคนยิ้มให้ชานยอลก็เลยยิ้มหวานๆตอบกลับไป บทเพลงยังคงบรรเลงต่อไปเรื่อยๆ ก็คงเหมือนชานยอลล่ะมั้งที่นั่งยิ้มมองคนข้างตัวไปเรื่อยๆเช่นกัน
ไม่รู้.. แค่รู้สึกว่า อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็แค่นั้นเอง
“หมั่นไส้ว่ะ” คนที่นั่งมาอยู่นานพึมพำเบาๆ
“ทำไมอยากมีใครให้มองบ้างหรือไง” เซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆยื่นหน้าไปกระซิบเบาๆ จื่อเทาหันมองแล้วแบะปากใส่
“อยู่กับนายน่ะนะ ฉันอยู่คนเดียวดีกว่า” ว่าแล้วก็แลบลิ้นใส่สักทีก่อนที่จะคว้าไอโฟนของเซฮุนมาเล่นเกมต่อ เซฮุนก็หัวเราะเบาๆแล้วหยิบหนังสือการ์ตูนของเทามาอ่านต่อจากส่วนที่ค้าง
ช่วงเวลาวันหยุดวันนี้ของชานยอลก็เลยหมดไปกับการติวหนังสือให้คริส
ช่วงเวลาวันหยุดวันนี้ของคริสก็เลยหมดไปกับการนึกถึงคนน่ารักอย่างชานยอล
ช่างเป็นวันดีๆอะไรอย่างนี้นะ
โรงอาหารในยามเที่ยงของเหล่านักศึกษามักจะจอแจแบบนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาของคริสเลยสักนิด ไม่ว่าสถานที่นั้นจะเสียงดังมากมายแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการนึกถึงน้องนางขวัญใจประจำตัวเลยสักนิด คริสก็ยังคงนั่งทำหน้าหวานเคลิ้มอยู่ที่โต๊ะ พวกเพื่อนๆก็ได้แต่มองหน้ากันเองแล้วก็ส่ายหน้าไปมา อะไรมันจะปานนั้น..
จริงๆวันนี้พวกเขามีเรียนบ่ายแต่ที่ลงมาที่โรงอาหารก่อนเวลาเที่ยงนั้นก็เพราะว่าจะลงมานั่งทำงานกลุ่มที่อาจารย์ได้สั่งไปลองไปหาข้อมูลและหัวข้อมานำเสนอหน้าห้องดู เหตุมันเกิดจากที่คริสส่งข้อความหาน้องพรหมลิขิตว่าตั้งใจเรียนนะอย่าลืมกินข้าวเที่ยงด้วย แล้วน้องพรหมลิขิตก็ส่งข้อความตอบกลับมาว่า เหมือนกัน แค่นั้นล่ะ.. สาเหตุของอาการเหมือนคนเมาเนื้อของคริส จงแดที่หมั่นไส้เอายางลบปาใส่คริสยังไม่สะทกสะท้านเลยคิดดู
“คริส” เสียงนางฟ้าดังขึ้นอยู่ไม่ไกล ไอ้คนที่ยังเคลิ้มอยู่ก็ยิ้มกริ่มเชียว.. ดูๆไปก็เหมือนคนบ้าไม่หยอก
“โห้ยได้ยินเสียงจริงๆด้วยอ่ะ” เขากำลังคิดอยู่ว่าถ้านางฟ้านางสวรรค์มาหาแล้วเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงหวานๆนั้น เขาก็คงจะนอนตายตาหลับซะแล้วกระมัง
“คริส” คราวนี้มาพร้อมแรงเขย่าที่ไหล่ด้วยแต่ก็ยังไม่เลิกเคลิ้มจนจงแดทนไม่ไหวปาปากกาใส่หัวซะเลย
“โอ๊ยปามาทำไมวะไอ้จงแด!!” คริสรัวภาษาใต้ใส่ จงแดกรอกตาไปมาแล้วชี้ไปอีกด้านของคริส
“โน้น!” พอคริสหันมองก็เห็นใบหน้าน่ารักที่กำลังยิ้มขำอยู่ไม่ไกล โอ๊ยมันไม่ใช่ความฝัน! คนดีของพี่ทะลุออกมาเป็นความจริงเลย ยืนอยู่ใกล้ๆด้วย ทำไมพี่ถึงฟินได้ขนาดนี้!!
“อ่ะ ชานยอล!!” คริสรีบลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มให้ชานยอลทันที “มาทำอะไรแถวนี้ครับ”
“มาไม่ได้เหรอ” พอได้ยินคำถามแบบนี้ชานยอลก็เลยทำหน้างอนใส่ ไอ้คนร้อนตัวก็รีบกระวีกระวาดเข้าไปเอาใจทันที
“ไม่ใช่ครับ มาได้ๆแต่มาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่าทำไมไม่บอกล่ะจะได้ปั่นจักรยานไปรับ” ชานยอลยิ้มแล้วส่ายหน้า
“เปล่าหรอก พอดีอาจารย์ให้ช่วยถือของมาส่งน่ะเห็นว่านั่งในโรงอาหารก็เลยเข้ามาหาว่าจะขอกินข้าวด้วยได้หรือเปล่า” แน่นอนว่าคำตอบจะต้องเป็น...
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว!! น้องชานยอลอยากกินอะไรบอกพี่มาเลยพี่เลี้ยงเอง!!” ผิดจากที่คิดซะเมื่อไหร่ล่ะ
“อะไรอร่อยแนะนำหน่อยสิ เป็นเจ้าถิ่นยังไงเนี่ย” ชานยอลมองค้อนใส่ คริสก็รีบเข้ามาเอาอกเอาใจทันที ไม่ได้นะจะให้เสียชื่อเจ้าถิ่นได้ยังไงกัน
“อร่อยทุกอย่างเลยจ๊ะ~ ตัวพี่ก็อร่อย”
“ห๊ะ!!” ชานยอลหันไปทำหน้าเหวอใส่ คริสที่เหวอกว่าก็รีบแก้ตัวทันที
“พี่จะบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยจ๊ะ พี่รับประกัน แหะๆ” ชานยอลพยักหน้ารับแล้วก็ไม่ได้สนใจคนข้างตัวอีกเลย เพราะสิ่งที่ดึงดูดความสนใจตอนนี้คืออาหารมากมายที่รอให้เลือกสรรต่างหาก
“จะกินอะไรดีวะเนี่ย” ชานยอลบ่นพึมพำแล้วก็มองร้านอาหารต่างๆ คริสแตะที่แขนของชานยอลแล้วชี้ไปที่ร้านหนึ่งที่ตัวเขาโคตรจะภูมิใจนำเสนอ
“ร้านนี้ๆอร่อยมากพี่ชอบ ร้านประจำพี่เลย” พอเดินเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ เอาล่ะสิเรื่องใหญ่ล่ะชานยอล
“อ่า.. คริส” ชานยอลหันไปมองคนข้างตัว คือจะบอกก็บอกไม่ออกก็ดูไอ้คนที่มันชวนสิทำหน้าตาดีใจปานถูกหวยซะขนาดนั้น พอหันกลับมามองบรรดากับข้าวมากหน้าหลายตาแล้วก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ .. ชานยอลกินเผ็ดไม่ได้
“ทำไมเหรอ ไม่แพงนะอร่อยแล้วก็อิ่มด้วย หรือน้องชานยอลไม่ชอบ”
“ไม่ใช่แบบนั้นคือ..” ชานยอลส่ายหน้าแล้วก็ทำหน้าไม่ถูก จื่อเทาที่อยู่ใกล้ๆก็เลยเสนอหน้าเข้ามาเอง
“ชานยอลมันกินเผ็ดไม่ได้”
“เอ๊ะ? คนเหนือเขาไม่กินเผ็ดกันเหรอไอ้แพนด้า” จื่อเทาแบะปากใส่
“กิน แต่ชานยอลมันกินไม่ได้” คริสหันมองหน้าชานยอลที่ยิ้มแหยะๆแล้วก็เลยส่งยิ้มให้
“กินอย่างอื่นก็ได้นะวันนี้เหลือแต่แกงเผ็ดๆทั้งนั้นเลย น้องชานยอลอยากกินอะไร” จื่อเทาแบะปากใส่ก่อนที่จะเดินหนีไปร้านอื่น พอพูดกับเพื่อนเขานี่น้ำเสียงหวานหยดย้อยเชียวนะพอหันมาพูดกับเขาล่ะก็น้ำเสียงอย่างกับจะจับเขาโยนลงหม้อต้มอย่างนั้นแหละ
ไอ้ดำสองมาตรฐาน!!!
แต่จื่อเทาคงไม่รู้ว่าตัวเองน่ะอยู่ในมาตรฐานที่สี่ของคริสเลยเถอะ
“เฮ้ยไม่เป็นไรกินนี่ก็ได้” ดูเหมือนตัวเองเป็นคนเรื่องมากเลยเนอะ ชานยอลทำสีหน้าไม่ดีออกไป คริสก็เลยลากชานยอลไปอีกร้านหนึ่งแทน
“เดี๋ยวคริสๆ เรากินได้นะ!” ถึงจะแย้งยังไงคริสก็ไม่ฟังยังลากชานยอลไปสุดมุมที่ร้านสุดท้ายตามความตั้งใจ
“ร้านนี้มักกะโรนีกับข้าวผัดอเมริกันอร่อยๆ จริงๆพี่ก็อยากกินไก่ทอดอยู่พอดีเลยกินร้านนี้เนอะ~” คริสที่ยืนซ้อนหลังจับไหล่ทั้งสองข้างของชานยอลก้มหน้าลงมายิ้มให้ ใจจริงเขาอยากจะกินอาหารบ้านเขานั่นล่ะแต่ใม่เป็นไรหรอกเพื่อนน้องคนงามนางฟ้าของพี่ แค่นี้มันจิ๊บๆ
“อืม.. ก็ได้” ชานยอลยิ้มแล้วพยักหน้ารับให้คริส เขาก็พอจะรู้หรอกว่าที่คนด้านหลังเลือกร้านนี้เพราะอะไร
ก็ไม่รู้สินะ.. เขามีเรื่องประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
อยู่ดีๆก็รู้สึกว่า ‘ถ้าอยู่ด้วยกันไปตลอดก็คงจะดีเนอะ’ อะไรแบบนี้ขึ้นมาซะได้
หลังจากที่ซื้อข้าวเรียบร้อยคริสก็เป็นคนถือจานข้าวมาให้ ชานยอลก็เดินไปซื้อน้ำมาให้ ส่วนเทากับเซฮุน(ที่เจ้าตัวเดินตามเทาไปทุกร้าน)ก็กลับมาพร้อมกับอาหารเหวี่ยงอย่างเห็นได้ชัดของจื่อเทา สงสัยจะกัดกับเซฮุนมาอีกแล้วล่ะสินั่น
คริสกับชานยอลนั่งข้างกันโดยที่เซฮุนก็เขยิบถอยไปไกลให้จื่อเทาได้นั่งข้างชานยอล ส่วนจงอินกับจงแดก็นั่งกันอีกฝั่งแล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กันเอง คริสกับชานยอลก็คุยกันสองคนไม่ได้เผื่อบทสนทนาไปหาบุคคลที่สามหรือสี่ แน่นอนว่าทุกคนต้องตั้งใจฟังเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจงแดและจื่อเทา
“อร่อยจริงๆด้วยแหะ” ทันทีที่ชานยอลเอ่ยชม คริสก็ยืดอกรับทันที
“แน่นอน บอกแล้วทุกร้านในนี้พี่ลองมาหมดแล้ว” คริสยักคิ้วให้ ชานยอลก็ส่ายหน้าแบบปลงๆกับคนข้างตัว เอาหน้าซะไม่มีล่ะ
“เชื่อก็ได้ เห็นว่าอร่อยหรอกนะ” ชานยอลเหล่สายตามอง คริสก็ยิ้มกว้าง
“พี่ก็ทำอาหารเป็นนะ ไว้วันไหนพี่ทำให้กิน” ชานยอลทำหน้าตกใจ
“จริง? โห้ยเก่งเนอะ” ไอ้คนที่โดนชมนี่ก็แทบอยากจะลอยออกไปนอกโลกจนหลุดกาแล็คซี่ไปเลย แค่ได้ยินคำชมพี่ก็เหมือนมองเห็นสวรรค์อยู่รำไรแล้วจ๊ะ
“แน่นอนพี่น่ะทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ ขอให้บอก” ชานยอลเลิกคิ้วขึ้น
“จริง?” คริสพยักหน้ารับอย่างหนักแน่นพร้อมกับตบอกตัวเองอย่างมั่นใจ
“แน่นอน พี่เก่งที่สุดอยู่แล้ว” ชานยอลยกยิ้มที่มุมปาก จื่อเทาที่เหลือบมองอยู่ก็ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า ไอ้นิสัยชอบแกล้งคนอื่นนี่คงไม่หายไปสินะ
ใบหน้าน่ารักที่ส่งยิ้มมาให้คริสน่ะ เจ้าตัวคนที่มองคงไม่รู้สินะว่าตอนนี้ในหัวของชานยอลมีแผนการอะไรบ้าง .. ถ้าผ่านได้แน่นอนว่าต้องมีรางวัลให้อยู่แล้ว
เอาเป็น ยอมให้ขึ้นมาเที่ยวที่ห้องได้ก็แล้วกันเนอะ
“เฮ้ยๆๆๆๆ มีเรื่องมาบอกๆๆๆๆๆ” จงแดที่วิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกลวิ่งเข้ามาเกาะหลังของคริสที่กำลังนั่งดื่มน้ำที่ชานยอลซื้อมา พอโดนกระแทกก็พ่นน้ำแล้วสำลักเอา ชานยอลที่นั่งอยู่ข้างๆก็รีบเอาทิชชูมาเช็ดให้
“ออกมาจากตัวมันเลยนะจงแด” จงอินที่วิ่งตามมาจับจงแดให้อออกจากหลังคริส เจ้าตัวก็หันไปส่งเสียงจิ๊จ๊ะใส่
“ไอ้จงแดอะไรของมึงเนี่ย!!” คริสที่หายสำลักแล้วก็หันไปว่าจงแดแต่เจ้าตัวก็ยังคงยืนยิ้มแป้น
“มีเรื่องมาบอกไง รีบมากๆ” คริสหันไปทำหน้าอยากจะบีบคอจงแดให้ตายแต่พอชานยอลถามว่าเป็นอะไรไหมก็สำออยทำท่าจะเป็นจะตายใส่ เพื่อนๆในก๊วนก็เบะปากใส่กันเป็นแถว รวมฮวางจื่อเทาไปด้วยนะ
“ตกลงมีเรื่องอะไรจะบอก ว่ามาจงแด” เซฮุนเปิดให้ จงแดก็ยิ้มกริ่มหันไปขอบคุณเซฮุนที่อุตส่าห์เปิดประเด็นให้ เซฮุนก็แค่ยักคิ้วกลับคืน
“คืองี้พวกไอ้ฮยอนบินมันชวนพวกเราไปออกร้านงานวัด ก็เห็นว่าหลังสอบกลางเทอมเสร็จคริสจะชวนชานยอลไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ” คริสที่โดนพาดพิงทำตาโตแล้วหันไปจุ๊ปากใส่จงแดแต่มันก็... ไม่ทันแล้ว ชานยอลมองหน้าคริสด้วยความสงสัยเจ้าตัวก็ได้แต่หัวเราะแหะๆกลับไป
“พวกมันก็เลยมาชวนพวกเราเนี่ยให้ไปออกร้านกัน” จงแดไม่สนใจเล่าต่อ
“ร้านอะไรวะ” เซฮุนถาม
“ร้านขายน้ำเห็นว่าจะขายไข่นกกระทาทอดด้วยนะ น่าสนใจใช่มะ?” จงแดทำตาลุกวาว จริงๆคืออยากกินไข่นั่นล่ะ
“ไปยังไง ไปกี่คนวะ” คริสถามบ้าง
“ก็ไปกันพวกเรา 4คนนั่นล่ะแต่ถ้าชานยอลกับเทาจะไปด้วยก็ได้นะจะได้แบ่งกันง่ายๆ”
“ไปป่ะ” เทาถามชานยอลซึ่งแน่นอนชานยอลก็ต้องไม่พลาด
“ไปดิ ไม่พลาดหรอก” เมื่อลงมติเอกฉันท์ว่าจะไปกันแล้วจงแดก็มาคุยรายละเอียดให้ฟังว่าทางฝั่งคนชวนนั้นอธิบายมาว่าอย่างไรบ้าง
จริงๆทางนั้นก็บอกให้หาคนไปเพิ่มด้วยเพราะจะได้ดูร้านละ 2คน เพราะเขาจะจองไว้ 3ร้านเพื่อขายน้ำ 2ร้านและขายไข่อีก 1ร้าน แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่างานวัดคนก็ต้องมาเยอะและมันก็หนีไม่พ้นพวกของกิน ดังนั้นเพื่อนคนนี้ที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆกับสถานที่จะจัดงานนั้นก็เลยเกิดไอเดียว่าถ้างานนี้เขาชวนเพื่อนๆมาด้วยก็คงจะสนุกดี ซึ่งนั่นก็เป็นความคิดที่ดี
ทุกคนลงเงินหุ้นกันเพื่อซื้อของแต่พวกของเหล่านั้นเพื่อนคนชวนมันจะจัดการไปซื้อให้เองเพราะที่บ้านมันก็ขายของทั้งที่บ้านและงานวัดอยู่แล้วซึ่งไม่มีปัญหา ชานยอลกับเทาก็ขอไม่ร่วมหุ้นและไม่เอากำไรแค่ขอไปสนุกด้วยกันก็พอแล้ว
ทีนี้ไอ้คนที่คิดไปไกลก็นั่งยิ้มกริ่มเลยสิ งานวัดคนเยอะๆก็เดินเบียดได้ แถมยังแอบเนียนจับมือได้อีก โอ๊ยได้กำไรหลายต่อเลยขอบอก!! ถ้าได้ขึ้นชิงช้าสวรรค์กับคนน่ารักด้วยแล้วล่ะก็... พี่จะต้องเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกแน่ๆเลย
“มองอะไร” ชานยอลโบกมือไปมาตรงหน้าคริสที่มองเขาแล้วก็ยิ้มเคลิ้มเชียว คนโดนปลุกจากภวังค์สะดุ้งแล้วส่ายหน้าไปมา
“ไม่มีอะไรจ๊ะ” แล้วก็ยิ้มให้กว้างๆหนึ่งที
อีกไม่กี่วันต่อมาก็ถึงงานวัดแล้ว ฮยอนบินคนชวนเพื่อนๆไปออกร้านก็บอกให้ทุกคนไปเจอกันที่ประตูหลังมหาวิทยาลัยเพราะตัวเขาจะเอารถกระบะมารับ ตอนแรกก็แปลกใจหรอกแต่พอมันบอกว่าที่บ้านขายของขับรถเป็นตั้งแต่มอ2แล้วก็เลยเลิกสงสัยไป ยืนรอกันสักแปบรถกระบะสีดำรุ่นไม่ใหม่นักก็ขับโฉบมารับ พวกแก๊งคนชวนอยู่ในตัวรถกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ต้องขึ้นหลังรถกัน
“เดี๋ยวพี่ช่วย” หลังจากที่เปิดประตูกระบะท้ายแล้วคริสก็ปีนขึ้นไปก่อนแล้วก็หันมาช่วยดึงชานยอลก่อนที่จะไปช่วยดึงจงแดขึ้นตามมา
เมื่อทุกคนประจำที่พร้อมรถกระบะก็ขับแล่นออกไปตามทาง ด้านหลังนั้นทุกคนไม่ได้คุยอะไรกันมากเพราะอาศัยนั่งรับลมเย็นๆที่พัดมาเสียมากกว่า ชานยอลที่โดนคริสดันให้เข้ามานั่งด้านในเพื่อที่จะได้ไม่โดนลมมากนักก็นั่งวางแขนเท้าคางกับขอบตัวกระบะมองวิวข้างทางไปเพลินๆ คริสก็นั่งด้านหน้ากันลมให้อีกทอดหนึ่ง
ช่างเป็นคนใส่ใจอะไรแบบนี้นะ
คริส เซฮุนกับจงอินกำลังคุยกันเรื่องภายในงานวัดว่าจะมีอะไรและอยากให้มีอะไร ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าในงานน่าจะมีสายไหมขาย เพราะถ้ามีพวกเขาจะไปซื้อกัน แน่นอนว่าจงแดต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เรื่องเรียนอย่าถามเรื่องกินขอให้บอก!!
ไม่นานก็ถึงที่หมาย เมื่อจอดรถเรียบร้อยทุกคนก็ลงจากรถ คริสลงรถก่อนแล้วยื่นมือไปให้ชานยอลจับเพื่อกระโดดลงจากหลังกระบะ แต่พอกระโดดลงมาแล้วชานยอลทรงตัวไม่อยู่คริสก็ตกใจผวาเอาอ้อมแขนไปกอดประคองคนตัวบางไว้ได้ทันท่วงที
“ขอบคุณ” ชานยอลกล่าวเบาๆแล้วดันคริสออกซึ่งเจ้าตัวก็ยอมถอยห่างแต่โดยดี
“เรียบร้อยแล้วก็ไปกันเถอะ” เซฮุนเอ่ยขัด ก่อนที่จะเดินนำพวกเพื่อนไปตามฮยอนบินที่เดินนำไปแล้ว
ร้านที่ว่าเป็นร้าวแถวยาว 3ร้านติดกัน มีร้านน้ำ 2ร้านและริมสุดเป็นร้านขายไข่ซึ่งจงแดจองก่อนใครเพื่อน ดังนั้นที่เหลือก็เลยต้องขายน้ำไป ทุกคนจะแบ่งเวรการขายเป็น 2รอบ รอบแรกพวกของคริสจะขายก่อนแล้วพวกชุดสองจะมาเปลี่ยนทีหลัง
จากที่ดูๆแล้วก็ไม่น่าจะยากอะไร แน่นอนว่างานนี้สำหรับพี่บ่าวแล้วง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าปาก แล้วยิ่งมีน้องนางคนงามตาโตมายืนอยู่ข้างๆแบบนี้พี่ก็ยิ่งสบายอกสบายใจ ข้าวของก็ถูกจัดเตรียมไว้ให้แล้วเรียบร้อยพวกเขาก็แค่ทำหน้าที่ขายอย่างเดียว พ่อกับแม่ของฮยอนบินที่ชวนเขามาก็ขายออยู่อีกฟากเช่นกัน
ในงานวัดแน่นอนว่าร้านของกินยังไงก็ต้องขายได้ดีแล้วยิ่งมีคนขายหน้าตาดีก็ยิ่งขายได้มาก ตั้งแต่เปิดร้านขายมาจนถึงตอนนี้ก็ยังขายไม่หยุดมืดเลย ชานยอลทำหน้าที่เก็บและทอนเงินลูกค้า ส่วนคริสก็จะทำหน้าที่รับและทำออเดอร์เอง
ถ้าให้มือขาวๆของน้องนางมาโดนน้ำมากๆ มือเหี่ยวพี่ก็ไม่ยอมหรอกนะ! นี่ล่ะหน้าที่ของคนน่ารักต้องคอยนับคอยดูแลเงินสิ แหมอย่างกับพวกร่วมกันสร้างอนาคตเลยแหะ โอ๊ยคิดแล้วก็เขิน!! อยากจะหันหน้าไปซุกไหล่ไอ้เซฮุนแล้วกรี๊ดจริงๆ
“ที่บอกว่าจะพาไปเที่ยวน่ะจะพาไปไหน” ชานยอลถามขึ้นหลังจากที่ลูกค้าซาลงจนหมดแล้ว เมื่อกี้นี้แทบจะเรียกได้ว่าสงครามเลย นอกจากร้านเขาจะคนเยอะแล้ว เซฮุนกับเทาหรือร้านไข่ที่จงอินกับจงแดคุมอยู่ก็คนเยอะไม่แพ้กัน
“ห๊ะ??” คริสทำหน้างงหันมามองแล้วส่งแก้วน้ำที่เพิ่งรินเสร็จให้ชานยอล เจ้าตัวก็รับมาดื่ม
“ก็ที่จงแดบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง จะพาไปไหน” คริสร้องอ๋อเบาๆแล้วยกมือขึ้นเกาหัว
“ก็ไม่รู้อ่ะยังไม่ได้คิด แล้วน้องอยากไปไหนล่ะบอกพี่มาเลย” คริสยิ้มกว้าง ชานยอลหัวเราะเบาๆแล้วยกยิ้ม
“เราอยากไปเยอรมัน” คริสทำตาโต
“โห้ยพี่ขออีก 10ปีนะ” ชานยอลก็เลยหลุดหัวเราะกับคำบอกกล่าวแบบนั้น
“ล้อเล่นหรอก แล้วที่คิดไว้จะพาไปไหนล่ะ” หลังจากที่ดื่มน้ำแก้กระหายแล้วชานยอลก็ส่งแก้วคืนให้คริส เจ้าตัวที่กำลังคิดถึงสถานที่ที่จะพาไปนั้นก็รับแก้วมาแล้วดื่มต่อโดยที่ไม่รู้ตัว(เพราะถ้ารู้ตัวคงยิ้มบ้าตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าไปแล้ว)
“ไม่รู้เหมือนกัน พี่ก็รู้จักแต่ทะเลนะ”
“ไปทะเลก็ได้ แต่ขอที่พักใกล้ๆทะเลนะ” ชานยอลยิ้มหวานให้ก่อนที่จะหันไปหาลูกค้าที่เดินเข้ามาสั่งน้ำ
“อ่ะ... ไปจริงเหรอ น้องไปจริงอ่ะ! ไปกับพี่จริงดิ!!” คริสที่ตื่นเต้นดีใจจนลืมไปแล้วว่าตัวเองต้องหันมาเทน้ำใส่แก้วให้ลูกค้า ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าน้องนางหรอกนะ! ชานยอลจัดการเองเสร็จสรรพแล้วก็หันมาหาคนที่ยังมาจริงเหรอๆ ไปจริงนะๆๆแล้วก็พยักหน้าให้
“ไปจริงๆแต่ที่พักต้องติดทะเลนะ” คริสยิ้มแล้วพยักหน้า
“แน่นอนพี่บ่าวจะหาที่พักให้ติดทะเลเลย จะเอาให้มันยื่นลงไปในทะเลเลย!” ชานยอลหัวเราะแล้วต่อยที่คริสเบาๆ
“อย่าเวอร์ให้มากนัก” คริสทำหน้าหงอยๆ ชานยอลก็หัวเราะ
“เฮ้ยพวกเอ็งไปเดินเที่ยวได้แล้วป่ะเดี๋ยวตรงนี้พวกเราทำต่อเอง” พวกชุดแรกที่ขอไปเดินเที่ยวงานก่อนกลับมาแล้ว แล้วทีนี้ก็ได้เวลาไปเดินเที่ยวงานวัดกันแล้ว
“เอ่อ... คือ..” คริสเกาหัวตัวเองแล้วก็มองชานยอลด้วยสีหน้าแปลกๆ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูดสักทีจนคนรอฟังนึกรำคาญ
“มีอะไร” ชานยอลขมวดคิ้วแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่คนฟังก็รู้ว่าคนตรงหน้าเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว
“คือแบบว่า.. คือ.. ขอจับมือได้ไหม คือแบบว่าคนเยอะเดี๋ยวหลง” เกาหัวไปก็พูดอ้อมแอ้มไป ชานยอลเลิกคิ้ว นี่เขาตัวขนาดนี้คิดว่าเขาจะหลงง่ายๆเหรอ? แต่ก็นั่นแหละ..
“ก็จับสิ” ชานยอลยื่นมือไปให้ คริสก็ยิ้มแล้วจับมือของชานยอลแล้วพาไปเดินเที่ยวในงานด้วยความอิ่มเอม
เจ้าตัวอิ่มเอม คนโดนจับก็อิ่มเอม และคนคอยสังเกตการณ์ทุกคนก็อิ่มเอมใจตามไปด้วย
ช่างเป็นคืนอะไรดีๆอย่างนี้นะ
การเดินเที่ยวคืนนี้เริ่มที่ไปไหว้พระกันก่อนเป็นอันดับแรก คริสที่ดีใจจนออกนอกหน้านอกตาก็ยิ้มไปสิ ใจจริงอยากจะตักบาตรร่วมขันกับน้องคนน่ารักประจำใจแต่ทว่าดึกขนาดนี้คงไม่มีพระที่ไหนมาให้ตักบาตรแล้ว ไม่เป็นไรรอก่อนก็ได้ ยังไงเราก็ได้ใช้ชีวิตด้วยกันแน่ๆ งุ้ยพูดแล้วเขินเลย!
หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นกัน จงอินกับจงแดแยกไปหาของกิน ส่วนที่เหลือก็เดินไปด้วยกัน คริสจับมือชานยอลให้เดินไปด้วยกันเพราะกลัวว่าจะหลง ถึงข้ออ้างจะดูไม่สมเหตุสมผลแต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าดีทีเดียว เดินไปเรื่อยๆอะไรน่าสนใจก็หยุดยืนดู อะไรน่ากินก็ซื้อมากินกัน
ภายในงานวัดก็จะมีซุ้มต่างๆไม่ว่าจะของเล่นสำหรับเด็กอย่างม้าหมุน รถราง หรือชิงช้าสวรรค์ที่คริสเร่าๆว่าอยากจะขึ้นไปนั่งกับน้องนางคนดีของพี่บ่าวแต่ได้โปรดเถอะช่วยดูขนาดกระเช้ากับตัวของเราสองคนหน่อย เข้าไปได้ครึ่งตัวก็แทบจะเต็มอยู่แล้ว จะไปอัดนั่งยังไงไหว
ซุ้มเกมต่างๆก็มีเยอะแยะทั้งปาเป้า ปาโป่ง ยิงปืน โยนห่วง บิงโก หรืออะไรก็ตามแต่ แต่ที่ชานยอลกำลังสนใจก็คือตุ๊กตาพี่หมีตัวใหญ่สีน้ำตาลที่ซุ้มยิงปืนไกลๆโน้นต่างหาก คริสที่มองตามสายตาของชานยอลไปก็เห็นว่าน้องนางคนงามที่มือนิ่มสุดๆอยากได้อะไร พี่ท่านก็ลากชานยอลไปทันที เซฮุนกับเทาที่ยังทะเลาะกันเรื่องลูกชิ้นก็เลยต้องเดินตามกันไปอย่างงงๆ
“ยิงปืนป่ะพี่ ยิงได้ทุกนัดเอาตุ๊กตาตัวใหญ่ไปเลย” เด็กคุมซุ้มยิงปืนถาม
“ถ้าจะเอาตัวนั้นต้องยิงให้โดนทุนัดใช่มะ?” เด็กพยักหน้ารับกับคำถามของคริส “จัดมาเลย”
“เอาจริงเหรอ” ชานยอลกระตุกเสื้อถาม คริสหันมาพยักหน้าให้อย่างแน่วแน่น
“จริง พี่จะเอาตุ๊กตามาให้นะ”
ลูกกระสุนมีให้ 7นัดถ้ายิงได้หมดก็จะได้ตุ๊กตาตัวใหญ่แน่นอนว่าเป้าหมายของคริสคืออันนั้น ชานยอลที่ยืนลุ้นอยู่ข้างๆก็หันไปกินลูกชิ้นที่เทาป้อนมาให้ คริสก็พยายามตั้งสติและสมาธิแล้วก็ตั้งปืนยิงออกไป กะว่ายังไงมันก็ต้องโดนแน่ๆ เขาจะได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ๆมาให้น้องตาสวยแน่นอน
แต่ทว่า.. ความจริงมันก็มักจะพลิกผันเสมอเมื่อคริสพลาดไปแล้ว 4นัด เหลืออีกแค่ 3นัด ถ้าเขาทำได้ก็จะได้ตุ๊กตาตัวเล็กที่ขนาดกอดกำลังพอดีไป 3 นัดสุดท้ายก็ดันเข้าเป้าตุ๊กตาที่เป็นเป้าหงายล้มลงไป คริสได้ตุ๊กตาหมีตัวเล็กสีน้ำตาลคล้ายกับตัวใหญ่ที่เขาอยากได้มา
“เอ่อ...” ตอนที่คริสถือตุ๊กตาหันกลับมาหาชานยอลแล้วเห็นว่าดวงตากลมๆนั้นมองเขาอยู่มันก็รู้สึกจุกในอกยังไงก็ไม่รู้
“เดี๋ยวพี่เอาให้ใหม่นะ”
“เดี๋ยวคริส! ไม่เป็นไรหรอกตัวนี้ก็ได้” ชานยอลจับแขนไม่ให้คริสหันกลับไปแล้วก็ดึงตุ๊กตาในมือมาถือเอาไว้เอง
“แต่..”
“ไม่เป็นไร ขอบใจ” ชานยอลยิ้มแล้วซุกหน้าลงที่ตุ๊กตาหมีในอ้อมอก คริสที่เห็นแบบนั้นก็อยากจะเอามันมากระทืบๆแล้วโยนลงถังขยะจริงๆ
“เฮ้ยไอ้เซฮุนสายไหมเว๊ยโทรบอกไอ้จงอินเลย! น้องชานยอลรอพี่ตรงนี้นะ” แล้วคริสกับเซฮุนก็วิ่งกันไปซื้อสายไหมปล่อยให้ชานยอลกับเทายืนกันอยู่สองคน พอไม่มีใครแล้วจื่อเทาก็เลยสะกิดเพื่อนตัวเอง
“แล้วทำไมไม่ไปยิงเองวะ” ชานยอลหันมาเลิกคิ้วใส่
“ก็ไม่เห็นต้องทำนิ” จื่อเทายักไหล่อย่างไม่สนใจ ก็ชานยอลน่ะเก่งในเรื่องยิงปืน ปาเป้า ปาโป่งจะตาย.. ก็บอกแล้วว่าเพื่อนเขาน่ะกำลังมีความรักเต็ม 100%
พอหันไปมองเพื่อนก็เห็นว่ายังกอดซุกหน้าที่เจ้าตุ๊กตาเหมือนเดิม พอมองตามสายตาไปก็เห็นว่าคริสที่ซื้อสายไหมอยู่หันมาโบกมือหยอยๆให้ ฮวางจื่อเทาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะกินลูกชิ้นอร่อยๆไปคนเดียว
หลังจากเดินเล่นกันอีกสักพักใหญ่ๆพวกเขาก็เตรียมกลับหอกันได้แล้ว ไม่ใช่เพราะงานวัดเลิกแล้วหรอกแต่ของที่เอามาขายหมดแล้วต่างหาก ยังไงก็ยังมีงานอีกหลายวัน ทุกคนก็เลยกลับหอกันและจะขึ้นไปแบ่งเงินกำไรกัน ตอนที่นั่งรถกลับมาก็สังเกตเห็นแล้วล่ะว่าฟ้ามันแดงๆคล้ายกับจะมีฝนแต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่ ลมก็แรงบางทีลมอาจจะพัดเมฆฝนให้ลอยไปไกลก็ได้
ห้องของคริสอยู่ชั้น 3 ส่วนห้องของเพื่อนนั้นอยู่ชั้น 4 ทุกคนเข้ามานั่งกองกันในห้องเพื่อแบ่งเงิน ชานยอลกับเทาก็ตามมาด้วยเพราะยังไม่อยากกลับหอ หลังจากที่แบ่งเงินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น พวกคริสก็ขอตัวก่อนเพราะตัวเองต้องไปส่งชานยอลอีก แต่ทว่าพอเดินลงมาที่หน้าตึกฝนก็ตกหนักเสียแล้ว
“อ้าวฝนตกแล้วจะกลับกันยังไงล่ะเนี่ย” ชานยอลเอ่ยถามเมื่อเห็นสายฝนที่โปรยลงมาแล้ว ต่อให้มีร่มพวกเขาก็ฝ่ากลับไปไม่ได้หรอก
“กลับไม่ได้ก็ขึ้นไปนอนห้องพี่ไหม?” คริสหันไปถาม ชานยอลหันมามองด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว
“เฮ้ยพี่ไม่ได้หมายความไม่ดี ก็กลับไม่ได้ขึ้นไปนอนที่ห้องพี่ไงพี่ไม่ได้ชวนไปทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” ชานยอลพูดขำแต่ไอ้คนที่จะโดนกล่าวหาน่ะไม่ขำนะกลัวน้องคนดีของพี่จะคิดไปไกล.. ซึ่งพี่ก็คิดไปไกลจริงๆนั่นแหละ
“แล้วตกลงจะขึ้นไปนอนกับพี่ไหม” คริสเกาหัวแล้วก็ถามด้วยสีหน้ายิ้มแหยะๆ กลัวว่าน้องจะคิดเป็นอื่น
“คืนนี้ขอรบกวนด้วยนะ” สิ้นคำพูดคริสแทบอยากจะวิ่งออกไปตากฝนตะโกนให้โลกสะเทือนเลย ดีใจแบบอยากจะกู่ร้องบอกให้ก้องโลก!!
คืนนี้พี่บ่าวจะได้นอนกับน้องนางฟ้าแสนน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ๊งฟริ้งของพี่แล้ว!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น