ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter - 5

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 56


    มาแล้วค่ะะะะะะ ช้าไปหน่อย แต่ก็ยังมานะ 55555555555555  
     
    ช่วงนี้อากาศดีเนอะ~ รักษาสุขภาพนะคะ #ตอนนี้เรากำลังไม่สบายอยู่ อยากจะขอพี่คริสมาดูแลสักวัน *ร้องฮร่าย*
     
    คิดถึงทุกคนนะคะ มีคนคิดถึงเรื่องนี้อยู่ไหมนะ...?
     
     
     
    ____________________________________________
     
     
     
    ร้านดอกไม้ของที่บ้านขานยอลเป็นร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ย่านธุรกิจ เป็นร้านไม่ใหญ่นักแต่ก็เป็นร้านที่ขายดีไม่น้อยเลยทีเดียว ร้านนั้นสร้างด้วยไม้สีขาวเป็นหลักแล้วก็ตบแต่งไว้อย่างน่ารักด้วยฝีมือของคุณแม่ชานยอล เมื่อเปิดประตูเข้ามากลิ่นหอมอวลของเหล่าดอกไม้ก็ส่งกลิ่นหอมต้อนรับ เด็กในร้านอีกสองคนเมื่อเห็นว่าใครมาก็กระดี้กระด๊าดีใจกันยกใหญ่
     
    และด้วยความที่ยังง่วงอยู่เมื่อรับทักทายจากเด็กในร้านชานยอลก็หนีไปนั่งหลังเคาน์เตอร์แล้วเท้าคางนั่งหลับทันที เด็กทั้งสองก็มองชานยอลแล้วก็หันไปมองหน้าคริสที่พาเจ้านายมาส่ง จริงๆก็ไม่อยากตอบหรอกแต่ทนสายตาที่มองมาพร้อมกับคำถามที่ผลัดกันถามแทบจะทุกวินาทีแบบนี้ไม่ได้น่ะสิ ก็เลยต้องตอบ
     
    “นอนไม่พอ สงสัยเมื่อคืนไม่ดูหนังก็เล่นเกม มีอะไรก็ไปทำไปเดี๋ยวเฮียดูเอง” แล้วเด็กทั้งสองก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เด็กสองคนนี้พ่อของชานยอลรับมาเห็นว่าเป็นเด็กโดนทิ้งคุณปาร์คใจดีก็เลยให้งานทำ เลี้ยงด้วยความรักและความเอ็นดูไม่ต่างกับชานยอลและลู่หาน คริสมองชานยอลที่นั่งหลับสัปหงกหัวจะตกแหล่ไม่ตกแหล่แล้วก็ขำเลยต้องเดินไปนั่งข้างๆค้ำชานยอลเอาไว้ พอทีนี้ได้หมอนหนุนชานยอลก็เอียงหัวไปพิงซะเลย คริสที่มองอยู่ก็หัวเราะเบาๆ
     
    “มึงนี่มันเป็นภาระจริงๆ” ถึงจะบ่นว่าแบบนั้นแต่คริสก็ไล้ปลายนิ้วกับแก้มของชานยอลเบาๆ กลัวว่าอีกคนจะตื่น พอชานยอลสัปหงกหัวจะตกจากไหล่คริสก็โอบเอวชานยอลไว้กันตก เด็กสองคนที่กำลังจัดดอกไม้ตามออเดอร์ของลูกค้าอยู่ก็หัวเราะคิกคักกันเอง แหม... ก็เวลาที่เฮียกับลูกพี่ใหญ่สวีทกันน่ะมันน่ารักจะตายไป~
     
    คริสนั่งเช็คโซเชียลเน็ตเวิร์คในมือถือพร้อมกับเหลือบตามองคนที่นอนพิงหัวกับไหล่เขาเป็นระยะๆก็กลัวว่านอนๆอยู่แล้วจะหัวตกลงมาโขกโต๊ะทำให้เป็นภาระเขาอีกน่ะสิ เด็กในร้านอีกสองคนก็ช่วยกันยกตะกร้าดอกไม้ที่จัดตามออเดอร์ลูกค้ามาวางเรียงไว้ที่หน้าประตูเพื่อเตรียมการนำส่ง แต่ตะกร้าหลายใบที่วางเรียงกันอยู่รถที่มีของร้านก็คงจะไม่พอ
     
    “ไปส่งที่ไหนน่ะแล้วจะไปยังไงกัน” คริสเอ่ยถามพร้อมกับประคองชานยอลที่ทำท่าจะนอนหัวตกไหล่เขาเป็นรอบที่สามล้านกว่าๆ
     
    “ไปส่งที่โรงแรมใกล้ห้างน่ะเฮีย รถส่งของเสียเอาไปซ่อมอยู่เหลือแต่มอไซด์”
     
    “เออถึงถามไงว่าจะไปยังไง” เพราะตอนเดินเข้าร้านมาก็เห็นแต่รถมอเตอร์ไซด์นี่ล่ะ เด็กสองคนมองหน้ากันเองแล้วก็ส่ายหน้าให้กัน ถ้าจะไปด้วยมอเตอร์ไซด์ก็คงจะเสียเวลาอยู่มากโข คาดว่าพรุ่งนี้เช้าก็ยังคงขนไม่หมด
     
    “ชานยอล... ไอ้เห.ชานยอลตื่น” เขย่าตัวปลุกแล้วก็ยังไม่ยอมตื่น ดึงแก้มก็ยังไม่ตื่นยังมีหน้ามาปัดมือเขาออกอีกแน่ะ
     
    “ตื่นก่อนสิวะ เร็วๆ” เขย่าก็ไม่ตื่นแถมยังจะขยับตัวมากอดคอ ซุกหน้าที่คอหลับต่ออีกแน่ะ คริสลูบหัวชานยอลเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่เผยออกมาอย่างไม่รู้ตัว
     
    “ตื่นก่อนเร็วๆ” ชานยอลส่ายหัวไปมาพร้อมกับส่งเสียงอื้ออาอย่างขัดใจ คริสหัวเราะเสียงเบาแล้วโอบชานยอลไว้ทั้งตัว
     
    “ตื่นก่อนเดี๋ยวกูซื้อขนมให้กิน” ชานยอลลืมตาแล้วเงยหน้าออกจากซอกคอของคริส ดวงตากลมที่ยังคงปรือปรอยมองหน้าคริสอย่างเบลอๆ
     
    “จะไปไหนอ่ะ” คริสเอื้ออมือไปจัดผมยุ่งๆของชานยอลให้เข้าที่ก่อนที่จะตีแก้มของคนยังไม่ตื่นดีเบาๆ ชานยอลแบะปากใส่แล้วจับมือที่ตีแก้มตัวเองให้ออกห่าง
     
    “ตื่นแล้วไม่ต้องตีแล้วมึง แล้วนี่จะไปไหน”
     
    “ไปช่วยส่งดอกไม้ กินเค้กมะเดี๋ยวกูซื้อมาให้ ต้องไปส่งใกล้กับห้างที่มีร้านเค้กที่มึงชอบอยู่ เอาป่ะ?”
     
    “เอาๆ เอาไวท์ช็อคกับบานาน่าช็อคนะ” พอพูดถึงของกินคนง่วงงาวหาวนอนก็ตาใสแจ๋วขึ้นมาทันทีเลย คริสก็เลยเขกหัวให้สักทีเบาๆแต่ชานยอลร้องลั่นร้านเลย ไอ้เด็กสองคนที่มองอยู่นานก็แอบหัวเราะคิกคักกันเลยได้สายตาโหดจากชานยอลไปหนึ่งที คริสลุกขึ้นยืนแล้วคว้ากุญแจรถที่วางไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนที่จะเดินอ้อมเคาน์เตอร์ออกมา
     
    “เดี๋ยวเอารถเฮียไป จูฮวานไปกับเฮียส่วนซองวานอยู่นี่กับลูกพี่มึงนะ” ชานยอลแบะปากใส่แผ่นหลังของคริสที่ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าของร้านซะเอง คนง่วงก็กำลังเลื้อยตัวไปกับเคาน์เตอร์เพื่อเตรียมนอนอีกรอบแต่เสียงทุ้มก็ดังลอยมาทำเอาคนจะนอนต่อสะดุ้งโหยง
     
    “ส่วนมึงไอ้ชานยอล ถ้ามึงนอนอีกกูจะกลับมาตบมึง ซองวานดูลูกพี่มึงด้วย” ดวงตาคมที่มองมาทำเอาชานยอลแบะปากใส่แล้วก็แถมแลบลิ้นให้อีกสักที ผัวกูก็ไม่ใช่สั่งกูอยู่ได้!!!
     
    ชานยอลนั่งกอดอกทำหน้าไม่สบอารมณ์มองเด็กทั้งสองกับคริสช่วยกันยกตะกร้าดอกไม้เรียงใส่ในรถของคริส เจ้าตัวที่ไม่มีอะไรทำก็เลยลุกขึ้นเดินเข้าไปด้านหลังหยิบกระป๋องน้ำอัดลมมาเปิดดื่มซะเลย รถแวนสีดำขับออกไปพร้อมกับจูฮวานที่นั่งอยู่ด้านหน้า ซองวานเดินเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มล้อเลียนเดินเข้ามาเกาะเคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้าม
     
    “ลูกพี่ว่าเฮียโคตรเท่เลยป่ะ” ชานยอลเลิกคิ้วมองเด็กตรงหน้าอย่างสงสัย 
     
    “อืม ใช่เท่มาก เห.มากด้วย ทำไมวะ” 
     
    “ลูกพี่ว่าเฮียแมนมากป่ะ” ชานยอลขมวดคิ้วก่อนที่จะนั่งเท้าคาง ยกกระป๋องน้ำขึ้นดื่มแล้วก็คิดไปถึงเวลายามปกติของผู้ชายหน้าโฉดนั่นว่าแมนไหม
     
    ตั้งแต่รู้จักกันมาเขากับคริสก็ตีกันมาเรื่อย ทะเลาะกันทุกวัน เคยมีเรื่องถึงขั้นชกต่อยกันมาแล้วก็เถอะแต่เป็นเขานี่แหละที่เป็นคนชกคริส หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เริ่มขยับความสัมพันธ์จากคู่กัดมาเป็นเพื่อนกัน เวลาที่เขามีเรื่องทุกครั้งเขาก็จะเจอคริสเสมอ โดยที่ไม่ต้องเรียกร้องคริสก็จะโผล่หน้ายื่นมือมาช่วยเขาเสมอ ถ้ามาลองสังเกตดีๆ คริสมักจะอยู่ข้างๆเขาเสมอตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันเลยล่ะมั้ง  ไม่ว่าจะตอนไหนเขาก็จะมองเห็นคริสเสมอ
     
    คริสไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขา ซ้ำยังช่วยเหลือเขาโดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเวลาไหนตัวเขาก็จะเห็นคริสเสมอ ยามสุขเราก็สุขไปด้วยกัน ถึงแม้ยามทุกข์มันจะไม่เคยมานั่งทุกข์ร้อนอะไรกับเขาเลยก็เถอะแต่คริสก็ไม่เคยทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวเลย ไหนจะเรื่องเมื่อกี้เอาจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องของมันเลย แต่มันก็ช่วยโดยที่ไม่ต้องร้องขอ
     
    แต่ถ้าจะให้ว่ากันจริงๆ ... คริสก็โคตรเท่ โคตรแมนเลยมั้งเนอะ~
     
    “ว่าไงลูกพี่นั่งหน้าเคลิ้มเลยนะ~” ซองวานเอ่ยแซวเข้าให้ คนที่โดนหาว่าทำหน้าเคลิ้มก็ยกกระป๋องน้ำในมือจะเขวี้ยงหัวเข้าให้
     
    “แล้วลูกพี่ว่ายังไง” ชานยอลทำเสียงจิ๊จ๊ะ ทำหน้ารำคาญคนถามสุดๆแต่ซองวานกลับยิ้มหน้าแป้นแล้น
     
    “เออๆ เฮียมึงแมนมากๆ จะถามทำไมวะไอ้นี่นิมีอะไรจะไปทำก็ไปเลยไปเดี๋ยวจะฟ้องพ่อว่าอู้งานคอยดู” ซองวานไม่สะท้านยังคงยิ้มหวานเข้าสู้
     
    “แล้วลูกพี่ชอบเฮียป่ะ” คนที่กำลังดื่มน้ำก็แทบพ่นใส่คนถาม ดีนะที่ว่าชานยอลกลืนทัน
     
    “นี่ถามเห.อะไรเนี่ย!!”
     
    “ก็แค่ถามว่าลูกพี่ชอบเฮียหรือเปล่าแค่นั้นเอง ตอบมาๆๆ ผมอยากรู้” 
     
    “ไม่ตอบโว๊ย จะไปไหนก็ไปเลยไป!” ซองวานพองลมเต็มสองแก้มอย่างขัดใจ
     
    “ลูกพี่ไม่ชอบเฮียเหรอ”
     
    “แล้วทำไมกูต้องชอบ อย่าบอกนะว่า....” ซองวานพยักหน้ารับเบาๆ
     
    “ก็ถ้าลูกพี่ไม่ชอบ ซองวานชอบเฮียนะ” ทีนี้คนได้คำตอบก็อ้าปากค้าง ทำตาโตอย่างตกใจเลยน่ะสิ ซองวานเองก็ได้แต่ทำหน้าเขินแต่แอบไขว้นิ้วไว้ด้านหลัง เขารู้หรอกน่าว่าเฮียน่ะเป็นของลูกพี่ ไม่ยุ่งหรอกก็แค่แหย่เล่นไปงั้นแหละ คิๆ ลูกพี่เขาน่ะสมองช้าจะตายไปเถอะอย่าหาว่านินทาเลย
     
    “เอาจริงดิ” ซองวานพยักหน้ารับอย่างเขินอาย ถ้ามีรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมก็ให้ไปเลยเถอะ
     
    “ถ้าลูกพี่ไม่ชอบ ยกเฮียให้ซองวานนะ”
     
    “ไม่ได้โว๊ย!!! เอ่อ... ก็.. ก็มันเป็นเพื่อนกูไง เป็น... มันเป็นคนไม่ใช่สิ่งของนะเว๊ยกูจะยกให้ได้ไง ก็ไปถามมันเอาเองดิ” พอเผลอตัวขึ้นเสียงใส่ก็เลยแอบกระแอมให้คอโล่งไปสักสองที ในหัวก็ตีกันวุ่นเพื่อหาทางออกเลย ทำไมเขาต้องกันไม่ให้คริสกับซองวานด้วยล่ะ แต่ยังไงก็ไม่ได้! ไม่รู้ว่าทำไมแต่ไม่ให้! นั่นเพื่อนกูนะเว๊ย!!
     
    ยังไม่ทันได้ต่อบทสนทนาลูกค้าก็เข้าร้านเสียแล้ว ชายหนุ่มตัวผอมบางที่เดินเข้ามาอย่างเขินอายตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์ 
     
    “ขอช่อดอกกุหลาบสีแดงครับ ช่วยจัดช่อเป็นรูปหัวใจด้วยนะครับ” ชานยอลกระพริบตามองคนตรงหน้าด้วยความงงงวย
     
    “คือ.. ผมจะไปให้แฟนน่ะครับ ครบรอบวันที่เราคบกัน 2ปี” พอเห็นสายตาสงสัยชายหนุ่มก็เลยตอบข้อสงสัยให้ ชานยอลยิ้มกว้าง(ที่ได้รู้เรื่องของคนอื่น)
     
    “แน่นอนครับ รอสักครู่ใหญ่ๆนะครับเดี๋ยวผมจัดให้ ซองวานไปจัดมาเลยเดี๋ยวลูกพี่จัดการเอง!” 
     
    ขอบอกเลยนะว่าฝีมือการจัดดอกไม้ของชานยอลน่ะไม่เป็นรองใคร(เยอะ)หรอกนะ!! ก็แค่รองพ่อ แม่ ซองวาน จูฮวานแค่นั้นแหละ เห็นคนรักกันชานยอลล่ะมีความสุข~ จริงๆคือว่างไม่อยากจะนั่งมองเฉยๆให้หัวมันคิดไปฟุ้งซ่านน่ะสิ ซองวานชอบคริสเหรอ? แล้วคริสล่ะ? ที่ตามมาที่ร้านนี่จะมาหาซองวานหรือเปล่า นี่มันเรื่องอะไรยังไง
     
    วอทแฮปเพ่นกับความคิดกูวะเนี่ย!!? ฟุ้งซ่านจนโดนหนามกุหลาบทิ่มนิ้วนั่นแหละ ซองวานจะขอทำเองชานยอลก็ไม่ยอม ไม่ได้หรอกถ้านั่งนิ่งๆมองหน้าซองวานเขาก็กลัวตัวเองจะฟุ้งซ่านมากกว่านี้ นี่สารภาพเลยว่าในหัวนี่คิดไปถึงตอนที่คริสกับซองวานคบกันแล้วนะ ไม่เอานะเว๊ย!!!
     
    “ทำต่อทีนะ” ชานยอลส่งทุกอย่างให้ซองวานที่ยืนลุ้นอยู่ข้างๆทำต่อ ส่วนตัวเองก็เดินหนีไปหน้าร้านเพื่อสงบสติอารมณ์และความคิดในหัวที่ตีกันจนยุ่งเหยิง ชานยอลขยี้หัวจนผมที่เริ่มยาวแทบจะไม่เป็นทรง
     
    “มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ยปาร์คชานยอล!!” ยืนหงุดหงิดได้ไม่นานคุณลูกค้าก็เดินออกมาจากร้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ชานยอลก้มหัวลงรับคำขอบคุณจากลูกค้า พอได้เห็นลูกค้ามีรอยยิ้มกลับไปแค่นี้ตัวเขาก็มีความสุขล่ะ เมื่อก่อนชานยอลเคยแปลกใจว่าทำไมพ่อเขาถึงต้องมาเปิดร้านดอกไม้เล็กๆแบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนพ่อของเขาก็ทำงานในบริษัทใหญ่โต 
     
    พอตัวเขาได้ลองมาคลุกคลีกับที่นี่ดูเขาก็รู้เลยว่าสิ่งเล็กๆมันก็สามารถสร้างความสุขให้ตัวเขาได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองรวยล้นฟ้าแต่เขาก็สามารถมีความสุขได้ ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ขัดสนอะไร ขอแค่ให้พ่อกับแม่มีความสุข มีรอยยิ้มในทุกๆวันนั่นก็เป็นเรื่องดีแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าพ่อกับแม่เขาจะรักร้านนี้มาก ร้านที่ช่วยกันสร้างขึ้นมาด้วยกันสองคน ร้านที่ทำให้บ้านเขามีความสุข
     
    “ขอโทษครับ” ในระหว่างที่กำลังยิ้มอารมณ์มีความสุขอยู่นั้น อยู่ๆก็มีใครไม่รู้มาสะกิดหลังชานยอลเบาๆ พอเจ้าตัวหันไปก็เจอหนุ่มนักธุรกิจที่มายืนยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า
     
    “มีอะไรครับ” 
     
    “ผมจะขอซื้อดอกไม้สักดอกได้ไหมครับ” แม้จะดูแปลกใจแต่ชานยอลก็พยักหน้าตอบรับกลับไป
     
    “คุณอยากได้ดอกอะไรล่ะครับ จะเข้าไปดูในร้านก่อนไหม” คนตรงหน้าส่ายหน้า ชานยอลก็ยิ่งงง เอ้า แล้วจะเอาอะไรวะ ซองวานเดินออกมาจากร้านเพื่อมาดูลูกพี่ใหญ่ทันที
     
    “คุณบอกเด็กในร้านก็ได้ว่าอยากได้ดอกอะไร เดี๋ยวเขาจะจัดให้เองครับ” ยิ้มกว้างให้อีกหนึ่งทีแล้วหมายว่าจะเดินเข้าร้านไปก่อนเพราะเริ่มรู้สึกแปลกใจน่ะแหละ จะซื้อดอกไม้ไม่เข้าร้านแล้วจะมาทำไมถ้ามาถามทางพ่อจะสอยให้ร่วงเลย แต่ไอ้อาการสายตาวิบวับนี่มันยังไง? ไม่รู้ล่ะให้ซองวานจัดการดีกว่า เรื่องนี้ปาร์คชานยอลจะไม่ยุ่ง *โบกมือรัวๆ*
     
    “เดี๋ยวสิครับ” ตอนที่กำลังจะหมุนตัวเดินเข้าร้าน ข้อมือก็โดนคว้าไว้เสียแล้ว ชานยอลหันไปมองแล้วก็ทำหน้าตกใจ แหงล่ะ เขาไม่เคยโดยคนไม่รู้จักมาจับมือถือแขนเลยนะ ฮูอาร์ยูครับมึง!!
     
    “คุณเป็นใคร” โอเค ไม่ต้องถามมีคนถามให้แล้ว คริสโผล่มาจากไหนไม่รู้จับข้อมือของอีกฝ่ายแล้วดึงมือออกจากข้อมือของชานยอลก่อนที่จะแทรกเข้ามายืนบังชานยอลไว้ การที่กลับมาแล้วเห็นคนอื่นมาจับข้อมือชานยอลนี่มันพาลให้หงุดหงิดเสียจริง
     
    “ผมก็แค่อยากจะซื้อดอกไม้น่ะครับ” แต่คริสไมได้คิดแบบนั้น เจ้าตัวหันไปมองด้านหลังที่จูฮวานเดินมาพร้อมกับถือถุงเค้กมาด้วย
     
    “จูฮวานรับลูกค้า” คริสหันไปคว้ามือของชานยอลแล้วฉุดเข้าร้านไปเลยแต่ก็ไม่ลืมที่จะคว้าถุงเค้กติดมือเข้าไปด้วย เห็นซองวานตัวเล็กๆหรือจูฮวานที่ตัวสูงแต่ผอมบางแบบนั้นแต่ทั้งสองก็เทควันโด้สายดำนะเขาถึงไม่ได้ห่วงว่าใครจะทำอะไรซองวานกับจูฮวานได้หรอก แต่ไอ้คนที่เดินตามเขามานี่ล่ะ คริสเหวี่ยงชานยอลให้ไปนั่งที่เก้าอี้หลังเคาน์เตอร์ตัวเดิม ตัวเขาวางกล่องเค้กไว้ข้างๆก่อนที่จะยืนกางสองแขนคร่อมชานยอลไว้
     
    “อะ... อะไรอ่ะ” ชานยอลที่ยังคงประมวลผลไม่ทันได้แต่กระพริบตามองคนที่ทำหน้าดุที่อยู่ไม่ห่าง
     
    “มึงนี่มันยังไงวะ ให้ห่างสายตาไม่ได้เลยนะ” กระพริบตาให้หลายๆปริบเลยก่อนที่จะเอียงคอทำหน้าไม่เข้าใจใส่ คริสเขกหัวให้หนึ่งที ชานยอลกุมหัวพร้อมกับค้อนตาใส่
     
    “มึงนี่มันยังไงวะ พ้นสายตากูหน่อยเดียวชอบมีผีมาตามมึงเหลือเกินนะ” ชานยอลแบะปากใส่
     
    “กูไม่ใช่คนอวดผีนะมึง”คริสยกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะเบาๆ
     
    “แต่มึงเป็นคนของกู” ไม่รู้ทำไมแต่ชานยอลรู้สึกว่าอะไรในอกซ้ายมันเต้นเร็วๆ รัวๆจนจะทะลุออกมานอกอกนี่ล่ะ นี่ถ้าทำได้จะควักมันให้ออกมาดิ้นสเต็ปข้างนอกเลยเถอะ! แก้มกลมของชานยอลเริ่มซับสีเลือดจางๆ
     
    “กู... กูไปเป็นคนของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ มั่วว่ะ”
     
    “ตั้งแต่มึงเกิดแล้วมั้ง” ชานยอลหัวเราะแล้วทุบอกคริสไปสักที คริสก็ละมือข้างหนึ่งมาลูบที่อกตัวเอง ถึงจะไม่ได้แรงมากแต่ก็เจ็บนะเว๊ย เดี๋ยวมีเอาคืน!
     
    “ประสาทว่ะ ถ้ากูเป็นคนของมึง แล้วมึงอ่ะ”
     
    “กูทำไม?” คริสเลิกคิ้วถาม ชานยอลก้มหน้าลงกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจว่าจะถามดีไหม แต่ไอ้เรื่องนี้มันก็วนเวียนอยู่ในหัวมานานแล้ว
     
    “ว่าไงกูทำไม” ชานยอลเงยหน้าขึ้นแล้วสบตากับดวงตาคมที่ทอดมองลงมา
     
    “กูเป็นคนของมึง แล้วมึงเป็นคนของกูหรือเปล่า” คริสกระตุกยิ้มนิดหนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า
     
    “เออดิ ถามทำไมวะ” ชานยอลก้มหน้าลงแล้วกัดริมฝีปากอีกรอบอย่างกังวลใจ ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองถามออกไปเนี่ย มันควรถามหรือเปล่า
     
    “มึงชอบซองวานหรือเปล่า” คริสเลิกคิ้วแล้วละสายตาจากเสี้ยวหน้าของชานยอลไปมองซองวานที่จัดร้านอยู่ด้านนอก ซองวานกับจูฮวานที่(ทำทีว่า)กำลังจัดร้านก็แอบเหล่เข้ามาด้านในร้านเป็นระยะอย่างอยากรู้อยากเห็น พวกเขาไม่อยากขัดเวลาสวีทของเฮียกับลูกพี่ใหญ่หรอกนะแต่ก็อยากรู้อ่ะว่าสวีทกันยังไงจะได้เอามาล้อได้ คิๆ
     
    “ทำไมกูต้องชอบซองวาน” ชานยอลเงยหน้ามองคริสที่ทำคิ้วขมวดอย่างโคตรจะติดใจ 
     
    “มึงไม่ได้ชอบซองวานใช่ป่ะ?” คริสพยักหน้ารับแต่ก็ยังคงความสงสัยไว้เต็มสตรีม
     
    “เออ แล้วถามทำไม” ทีนี้ดวงตากลมก็ล่อกแล่กไม่สบกับดวงตาคมอีกเลย ใครจะกล้าบอกล่ะว่าไอ้ซองวานมันมาทิ้งระเบิดอะไรไว้!
     
    “กูถามว่าถามทำไม” ชานยอลยู่ปากใส่แล้วก็ส่ายหัวไปมา
     
    “ถามเฉยๆ อยากรู้”
     
    “เออๆ กูก็ไม่รู้หรอกว่ามึงจะถามทำไม ซองวานมันน้องมึงมันก็เหมือนน้องกู เข้าใจหรือยัง” ชานยอลที่แอบลอยยิ้มพยักหน้ารับเบาๆ คริสก้มลงฝากสัมผัสไว้ที่หัวของชานยอลก่นอที่จะผละตัวออก
     
    “เอ้าแด.เค้กซะ กูซื้อมาให้แล้ว” ชานยอลหมุนเก้าอี้กลับไปมองกล่องเค้กแล้วก็ยิ้มอารมณ์ดี ลืมเรื่องวุ่นๆเมื่อกี้ไปหมดสิ้น ไม่รู้ว่าลืมเพราะจะได้กินเค้กหรือลืมเพราะคำพูดเหล่านั้นกันแน่
     
    “เยส! หยิบส้อมก่อนๆ” ชานยอลอารมณ์ดีหมุนตัวจะไปด้านหลังร้านแต่คริสจับเก้าอี้ไว้ไม่ให้หมุนไปไหน
     
    “นั่งอยู่นี่ล่ะเดี๋ยวกูไปหยิบให้” ชานยอลชูนิ้วโป้งให้สองนิ้ว
     
    “จัดว่าดีงามครับ” คริสหัวเราะแล้วเขกหัวชานยอลไปสักทีก่อนที่จะเดินไปด้านหลังร้านไปหยิบส้อมมาให้
     
    นี่ขอพูดเลยว่าไม่มีใครในโลกนี้จะสบายเท่าปาร์คชานยอลอีกแล้วล่ะ อยากกิน อยากทำอะไรก็มีคนทำให้ มีคนตามใจตลอด ขอบอกเลยว่าชานยอลนิสัยเสียไปแล้วเถอะ ใครๆก็พากันเอาใจแล้วก็ตามใจจนชานยอลไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่ก็ดีนะ ชานยอลชอบ~ 
     
    ชานยอลจิ้มชิ้นเค้กขึ้นมากินด้วยสีหน้าอารมณ์ดียิ้มหน้าบานเป็นจานข้าวหมา(แบบที่คริสกำลังคิด) แถมใจดีเอาใจคนซื้อมาให้ด้วยการเปิดกระป๋องน้ำอัดลมให้ด้วยนะแต่ไม่แบ่งเค้กให้กินหรอก เสียดายของ! แต่ก็แบบเห็นมันอุตส่าห์ขับรถไปส่งของให้ ไหนจะซื้อเค้กมาให้อีก(นี่ยังไม่นับที่ลบเรื่องกวนใจให้หายออกไปจากหัวได้อีกนะ) ก็เอาน่าตอบแทนสักหน่อย
     
    “กินเปล่า” ชานยอลยื่นชิ้นเค้กพอดีคำไปหา คริสหันมองเค้กก่อนที่จะเลยมองไปที่ชานยอล เจ้าตัวยังยื่นส้อมเข้ามาหาใกล้ๆจนคริสต้องอ้าปากรับเค้กคำนั้นมากิน เมื่อคริสกินเค้กแล้วชานยอลก็หันกลับมาตักเค้กกินบ้างก่อนที่เจ้าตัวจะนึกอะไรได้ก็คว้ามือถือในมือของคริสมาหน้าตาเฉย ก็ไม่สนหรอกว่าคริสจะทำอะไรค้างไว้ คริสก็เขกหัวชานยอลไปสักทีแล้วก็แย่งส้อมมาตักเค้กกินเองซะเลย
     
    “โอ๊ะ... อีกไม่กี่วันก็วันเกิดน้องจุนแล้วนิ” คริสหรี่สายตามองคนข้างตัวที่ยิ้มกริ่มดูมีเลศนัยยังไงชอบกล
     
    “แล้วทำไม”
     
    “เอ้า! ก็กูจะได้ชวนน้องจุนไปเดทไง วันเกิดจะได้ให้ของขวัญเลยทีเดียว” ชานยอลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อารมณ์ดีนักล่ะ คริสดึงมือถือคืนก่อนที่จะใช้มันเคาะหัวเพื่อนไม่เบานัก ชานยอลก็ร้องโอดโอยแช่งชักหักกระดูกไปสิ อู๋อี้ฟานไม่สน
     
    “มึงอย่างหวัง” ชานยอลค้อนใส่ประหลักประเหลือก 
     
    ...เออแล้วมึงคอยดู!!!!...
     
     
     
    คอยดูหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าชานยอลจะกระดิกตัวไปไหนจะมีหมาตัวโตๆคอยตามเป็นเงาตลอด เรียกว่าเงายังน้อยไป เรียกว่าผีตามขอส่วนบุญจะเห็นชัดกว่า!! มันตามเข้าไปแม้จะเข้าห้องน้ำนี่ถ้าไม่ห้ามมันคงเข้ามาคอยอยู่ในห้องน้ำห้องเดียวกันด้วยมั้งเนี่ย โคตรจะอึดอัด โคตรจะเวรกรรม!! อุตส่าห์หาข้ออ้างว่าต้องไปส่งน้องนะ เดี๋ยวน้องแบควีนนะ มันก็ดันส่งไอ้ลู่ไปรับส่งน้องแทน น้องฮุนก็ดันไปกลับเองอีก โธ่ถังกะละมังข้างฝา พอบอกว่าต้องไปส่งน้องจุนกับเทานะ ดูแม่งดิออกรถใหม่ให้น้องเฉยเลย!!!
     
    รวยนักเหรอวะ!!!? เออ!! รวยโคตร!!! (เล่นเองตบเองชงเอง) ใครได้มันไปทำสามีล่ะก็คงสบายชาตินี้ไปยันชาติหน้าๆๆ พูดแล้วก็หมั่นไส้มัน! เกลียดมันด้วย หึ๊ยย.. ไปนอนให้หนอนแทะไป!!! 
     
    ได้มันแล้วสบายไปทั้งชาติ....? หรือกูควรเอามันมาทำเมียดีวะ? เอ?? อย่าเลยฟ้าจะผ่าเอา แค่มันตามติดแทบหายใจรดต้นคออยู่แล้วนี่ก็สยองพอล่ะ ถ้าเกิดได้มันมาเป็นเมีย... นี่มันไม่สิงกูเลยเหร๊อ!!!
     
    “เป็นอะไรของมึง” คริสเดินกลับมาพร้อมกับถาดข้าวเซ็ทใหญ่ ชานยอลมองคนที่ลงนั่งข้างๆแล้วก็แบะปากใส่ 
     
    “เกลียดมึง” คริสยกยิ้มมุมปากนิดหน่อยก่อนที่จะหัวเราะหึหึ
     
    “กูก็เกลียดมึง” โอ้โห้พูดแบบนี้ปาร์คชานยอลขึ้นเลย!!! กำลังจะหันไปฟัดหน้ามันเลยอยู่ๆก็รู้สึกเหมือนโดนทับจากอีกด้าน หันไปมองก็เห็นจงอินที่ไม่รู้ว่ามันมาจากตรงไหน ที่ไหน ยังไงกำลังโถมตัวกอดชานยอลอยู่
     
    “อะไรของมึงเนี่ยไอ้จงอิน กอดทำไมปล่อย!” สะบัดแล้ว แกะมือมันแล้วก็ยังไม่ออก... บิดาเป็นปลาหมึกกลับชาติมาเกิดหรือไง นั่นๆ ดูสายตาของผีเจ้ากรรมนายเวรกูหน่อยคิมจงอิน!!
     
    “ไอ้จงอินปล่อย” น้ำเสียงเย็นๆแบบนี้ไม่ใช่ของชานยอลแน่นอน จะมีแต่ก็คุณชายอู๋คนเดียวนี่ล่ะ จงอินปล่อยมือที่โถมกอดชานยอลออกแล้วมานั่งดราม่าปาดน้ำตา(ปลอมๆ)
     
    “เป็นอะไรวะ” แล้วคนเป็นห่วงเพื่อนอย่างชานยอลก็เลยอดที่จะถามไถ่มันไม่ได้
     
    “หิวข้าว ฮือ... เลี้ยงข้าวหน่อย เงินที่ส่งหนังสือพิมพ์ยังไม่ได้เลย เมื่อเช้าร้านที่เอากระป๋องไปขายก็หยุดอ่ะ ฮืออออ หล่อรวยสปอร์ตโซลหิวข้าว~~” ชานยอลกระพริบตาปริบๆมองเพื่อนด้วยความเห็นใจ(ปนอนาถนิดๆ) ส่วนคริสก็นั่งกุมขมับ
     
    “มึงต้องไปขอไอ้คริสแล้วล่ะ มันริบกระเป๋าตังกูไปแล้ว” ก็ตั้งแต่บอกว่าจะซื้อของขวัญให้น้องจุนนี่ล่ะ พ่อจ้าวประคุณรุนช่องฉกประเป๋าเงินไปเลยแถมมือถืออีกด้วย ตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่าปาร์คชานยอลเกาะอู๋อี้ฟานแด.เต็มๆ
     
    “อ้าวไปทำอีท่าไหนให้มันริบล่ะวะ นอกใจมันอ่ะดิ หนีเที่ยวใช่ไหมล่ะ~” 
     
    “เดี๋ยวก็ถีบคว่ำ ไปขอมันเลยไปกูจะแด.ข้าว” โบกมือไล่ชิวๆแล้วก็ก้มหน้าลงเพื่อกินข้าว อาหารเช้าเซ็ทที่คริสสั่งมาเป็นเซ็ทพิเศษกินได้สองคน จริงๆเขาก็ไม่ค่อยชอบหรอกแต่คิวสั้นไงพ่อคนขี้เกียจรอก็เลยสั่งอันนี้มาให้กิน จงอินย้ายข้างไปขอให้คริสเลี้ยงข้าวแล้วฉะนั้นกุ้งชุปแป้งทอดกับแซลมอนนี่ก็เสร็จกูล่ะ คิๆ
     
    อีกสองวันก็วันเกิดน้องจุนแล้วนี่พูดเลยว่าปาร์คชานยอลยังไม่ได้ซื้อของขวัญแล้วก็ยังไมได้จองโต๊ะอาหารที่โรงแรมเลยนะ จะทำอะไรได้ล่ะมือถือก็โดนยึด ไหนจะกระเป๋าเงินอีก จะไปขอพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ น่าเจ็บใจนัก! จะให้อะไรน้องจุนเป็นของขวัญดีนะ~ ชานยอลไม่รู้หรอกว่าตอนที่ตัวเองอมปลายตะเกียบแล้วทำท่าคิดเนี่ยถูกคนข้างตัวมองอยู่ จริงๆคริสก็มองชานยอลไม่ละสายตาอยู่แล้วนะแต่เจ้าตัวไม่เห็นเองก็เท่านั้น
     
    คิดออกแล้ว... ของขวัญที่ไม่ต้องใช้เงิน ของขวัญที่จะทำให้น้องจุนมาเป็นของพี่ชานยอล หึๆ
     
    “คิดอะไรเห.ๆอยู่ใช่ไหมมึง” ชานยอลสะดุ้งหลุดจาภวังค์แล้วหันไปมองคนที่ทำให้ฝันของเขาสลายด้วยสายตาอาฆาต นี่กำลังเคลิ้มไปถึงตอนที่เขา.... หึ๊ย!! พูดแล้วชานยอลสยิว~~
     
    “คิดอะไร! ไม่มี๊!!” ส่ายหน้าปฏิเสธยกใหญ่ แต่มีหรือที่คริสจะเชื่อ
     
    “ถ้ามึงคิดอะไรเห.ๆอยู่ก็เลิกคิดซะนะ” 
     
    “ก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรไง อย่ามากวนตี.นะ!” คริสหรี่สายตามองอย่างจับผิด ชานยอลที่รู้สึกร้อนตัวและสันหลังหวะนิดๆก็ร้อนวูบวาบเลย
     
    “ไม่รู้ตัวสินะว่าเวลามึงคิดอะไรเห.ๆนี่มันออกมาทางสีหน้าหมดน่ะ” ชานยอลทำตาโต อ้าปากค้างอย่างตกใจ นี่เขาทำจริงๆเหรอ? เป็นจริงๆเหรอวะ?
     
    “จริงเหรอวะ”
     
    “เปล่า กูหลอก” ชานยอลวางตะเกียบลงกับโต๊ะอย่างโมโหนัก ไหนจะเสียงหัวเราะทุ้มต่ำนั้นอีก มันน่าโมโหนัก!! ก็เลยแก้แค้นโดยการกัดไหล่แม่งเลยสักทีแรงๆ เอาให้มิดจมเขี้ยวไปเลย!!
     
    “โอ๊ย!! เป็นหมาอีกแล้วนะมึง!!” พอชานยอลปล่อยคริสก็ผลักหัวซะแทบกระเด็น
     
    “โอ๊ยกูเจ็บนะ!!” ชานยอลใช้แขนยันกับเก้าอี้ไว้กันไม่ให้ตัวเองล้มหน้ากระแทกเก้าอี้ ร้องโวยวายแล้วพลิกแขนดู แขนขาวเป็นรอยแดงแล้ววันนี้ดันใส่แขนสั้นมาด้วยไง เด่นชัดเลยทีนี้
     
    “ไหนมาดูดิ เจ็บมากไหม” ชานยอลสะบัดสายตามอง ในดวงตากลมคลอไปด้วยม่านน้ำตา
     
    “เจ็บดิ” คริสที่เห็นแบบนั้นก็โอบกอดชานยอลไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ลูบแขนข้างที่เป็นรอยแดงเบาๆ
     
    “ขอโทษๆ เดี๋ยวเลิกเรียนพาไปกินไอติมนะ” พยักหน้ารับเบาๆพร้อมกับแอบลอบยิ้มไปด้วย
     
    หึๆ... มึงเสร็จกูแล้วล่ะไอ้คริส!!!!
     
     
     
     
     
     
     
     
    และแล้ววันที่ชานยอลโคตรจะตั้งตารอคอยก็มาถึง วันเกิดของจุนมยอน ที่บ้านก็จัดงานเลี้ยงให้ตามปกติแต่ไมได้จัดใหญ่โตอะไรจะมีก็แต่พวกเพื่อนๆนั่นแหละที่มากัน ฝั่งเพื่อนเจ้าของงานก็มาทั้งจงแดและมินซอก ไหนจะเพื่อนฝั่งลูกชายคนโตของบ้านอย่างชานยอล จงอิน(ที่ก็ไม่รู้ว่ามันมาทำไมเหมือนกัน) แล้วก็ลู่หานที่วันนี้ต้องไปรับน้องแบคจากชมรมที่โรงเรียน เมื่อองค์ประชุมพร้อมก็เริ่มงานเลี้ยงกันเลย
     
    งานเลี้ยงเริ่มช่วงเย็นๆก็เป็นการนั่งกินข้าว กินขนม พูดคุย ให้ของขวัญกันตามประสาเด็กมุ้งมิ้งน่ารักแบบคิมจุนมยอน เมื่อเห็นว่าเด็กๆสนุกสนานกันคุณและคุณนายก็เลยออกไปดินเนอร์ ขับรถชมวิว นั่งฟังเพลงด้วยกันตามประสาคู่รักลัลล้าดีกว่า งานเลี้ยงก็เลยมีแต่เพื่อนพ้องน้องพี่กันทั้งนั้น เหล่าเด็กรับใช้ในบ้านก็คอยเสิร์ฟอาหาร เสิร์ฟขนม น้ำกันให้วุ่นล่ะ 
     
    ชานยอลที่มีคริสคอยประกบไม่ห่างก็ไม่ได้แสดงทีท่าวุ่นวายอะไรกับน้องจุนมยอนนัก แหงล่ะ คืนนี้ลูกพี่ชานยอลมีแผนการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คนคิดการณ์ใหญ่ใจมันต้องนิ่ง! ชานยอลก็เลยได้แต่นั่งดื่มเหล้าในแก้วของตัวเองนิ่งๆ มีบ้างที่แอบเผลอคิดไปไกลจนหลุดเสียงหัวเราะออกมา คริสที่นั่งอยู่ข้างๆก็ได้แต่หรี่สายตามอง รู้แหละว่ามันต้องมีความคิดเลวๆอะไรในหัวแน่ๆ ก็ดูเสียงหัวเราะกับหน้าตายิ้มเจ้าเล่ห์ของมันสิ พอลองมองตามสายตาไปก็เห็นว่าดวงตากลมนั้นจับจ้องอยู่ที่เค้กวนิลลาปอนด์ใหญ่ อยากเอาเค้กโป๊ะหน้ากูล่ะสิมึง... ชานยอลไม่ชอบเค้กวนิลลา แล้วไอ้อาการหัวเราะหึหึกับที่เหลือบมองเขานิดหน่อยนี่มัน...
     
    “ชานยอล... ชานยอล...” คริสเรียกพร้อมกับมือที่สะกิดแขน ชานยอลสะดุ้งนิดหน่อยก่อนที่จะหันมาหา 
     
    “ตามมานี่” ยังไม่ทันได้ถามก็โดนลากข้อมือให้ตามไปเฉยเลย คริสลากชานยอลให้ตามมาที่ห้องครัว เด็กที่คอยดูแลเรื่องห้องครัวไม่มีใครอยู่สักคนเพราะฉะนั้นก็เลยไม่ต้องเกรงใจใคร คริสเหวี้ยงชานยอลให้ไปยืนรอที่ข้างตู้เย็นส่วนตัวเองก็ผละไปเปิดตู้เย็นมุดหัวหาอะไรสักอย่างที่ชานยอลแอบมองแล้วก็มองไม่เห็น 
     
    “มึงนี่แม่งโคตรชอบใช้กำลังเลยให้ตาย” ชานยอลลูบข้อมือตัวเอง เพราะผิวขาวก็เลยเห็นรอยง่าย คริสถือกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆออกมาจากตู้เย็นแล้วมองชานยอลที่แบะปากใส่พร้อมกับค้อนใส่ซะตัวเขาแทบพรุนแล้วก็ขำ
     
    “จะแด.ไหมล่ะ” คริสวางกล่องนั้นลงบนเคาน์เตอร์ครัว พอเปิดกล่องได้เท่านั้นแหละคนที่ยังงอนอยู่ก็ทำตาโตแล้วถลาเข้ามาเกาะแขนทันที
     
    “เค้กช็อคโกแลต!! กินดิ โห้ย~ คุณชายนี่ช่างแสนดีอะไรอย่างนี้” ชานยอลหมุนตัวไปหยิบส้อมมาตัดชิ้นเค้กกินซะเลย รสขมนิดๆ หวานหน่อยๆกับอุณหภูมิเย็นๆของช็ฮคโกแลตที่ละลายอยู่ในปากนั้นทำเอาชานยอลยิ้มกว้างอารมณ์ดี
     
    “แล้วอย่าคิดชั่วๆเอาเค้กของจุนมยอนมาป้ายหน้ากูล่ะ” ชานยอลมองค้อนใส่ แม้จะยังงงงวยว่าตัวเองไปคิดไว้ตอนไหนก็เถอะ
     
    “ใครจะกล้าทำมึงล่ะ ทำมึงกูก็ตายดิไม่เอาหรอก” คริสหัวเราะเบาๆแล้วโอบเอวชานยอลไว้
     
    “เออรู้ก็ดี กินมั่งดิ” ชานยอลที่กำลังกินเค้กทำตาโตหันมองคริสอย่างสงสัย 
     
    “มึงชอบกินเค้กตั้งแต่เมื่อไหร่” รู้ว่ามันน่ะไม่ได้เกลียดพวกของหวานหรอกแต่ถ้าเลี่ยงได้ก็จะไม่กิน ชานยอลตัดเค้กเป็นชิ้นใหญ่หน่อยแล้วจิ้มใส่ปลายส้อมไว้
     
    “เปล่า เห็นมึงกินแล้วอยากกิน” ชานยอลหัวเราะแล้วป้อนเค้กให้ก่อนที่จะเอาส้อมที่ยังเปื้อนช็อคโกแลตนั้นเข้าปากตัวเอง คริสยกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วขยับตัวยืนซ้อนหลังกอดเอววางคางเกยไหล่ชานยอลไว้
     
    “ถ้ามึงอยากจูบกู จูบเลยก็ได้นะ”
     
    “ห๊ะ!!” ชานยอลเอียงคอแล้วหันกลับไปถาม รอยยิ้มของคริสที่มองยังไงแม่งก็โคตรจะเจ้าเล่ห์เลย
     
    “ไม่เห็นจะต้องจูบกูทางอ้อมเลย จูบตรงๆก็ได้นะ” ยังไม่ทันได้แย้งอะไรริมฝีปากบางได้รูปนั้นก็กดทาบลงมาเสียแล้ว คนที่ยังไม่เข้าใจอะไรตรงๆ อ้อมๆก็ยังประมวลผลไม่ทัน คิดวนในหัวจนลืมไปแล้วว่าตัวเองน่ะโดนเขาจาบจ้วงอยู่ รสหวานที่ได้สัมผัสพาเอาเคลิ้มจนลืมไปแล้วว่าตอนนี้ชานยอลยืนเอียงหน้าให้เขาจูบแบบเต็มใจโดยที่ไม่รู้ตัว
     
    “อ๊ะ... ไอ้ห่.!! มาจูบกูทำไมเนี่ย!!!” กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่คริสถอนจูบออกมาแล้วหัวเราะนั่นแหละ ชานยอลถึงได้สติฟาดอกคนแกล้งเขาสักทีแรงๆ
     
    “แล้วมายืนให้กูจูบเองทำไมล่ะ” อ้าว ความผิดกูอีก! ด่ามันไม่ได้ก็มองค้อนใส่แม่งซะเลย แล้วก็กินเค้กต่อไม่แบ่งด้วย โมโหด้วย พยายามขยับตัวขยุกขยิกให้คนที่กอดซ้อนหลังอยู่รำคาญแต่คริสกลับหัวเราะไม่ยอมหยุด เออ!! ขาดอากาศหายใจตายห่.ไปเลย!!
     
    “คืนนี้ถ้ามึงเมาก็ขึ้นไปนอนห้องกู อย่าสะเออะกลับบ้านกับไอ้ลู่เด็ดขาด” 
     
    “ทำไมวะ” คริสเขกหัวไปทีหนึ่ง คนเจ็บก็สะบัดตัวแล้วหมุนตัวกลับไปมองหน้าหาเรื่องทันที “กูเจ็บนะ!!”
     
    “เออกูก็ทำให้เจ็บเนี่ยล่ะ มึงคิดว่ามึงเมาแล้วมันจะไม่เมาหรือไง” ชานยอลแบะปากใส่แล้วก็หมุนตัวกลับมากินเค้กต่อไม่สนใจมันซะเลย
     
    “พูดอะไรให้มันรู้ความ กินเสร็จก็ออกมา” คริสขยี้ผมชานยอลก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องครัว คนที่โดนด่าว่าโง่กลายๆก็แบะปากใส่ คอยดูเถอะมึง!! คืนนี้กูมุดเข้าห้องน้องจุนได้เมื่อไหร่นะกูจะเอาคืนมึงทั้งต้นทั้งดอกเลยไอ้เห.!
     
    พอกินเสร็จชานยอลก็เดินจากห้องครัวไปห้องรับแขกที่จัดงานเลี้ยงเล็กๆ คว้าแก้วเหล้าตัวเองได้ก็กระดกของเก่าให้หมดแล้วเดินไปหาลู่หานที่นั่งอยู่โซฟาอีกฟากชงให้ ชานยอลลงนั่งที่เท้าแขนของโซฟาข้างตัวลู่หานรอให้มันชงเหล้าให้ ล้วงมือหยิบมือถือมากดตอบข้อความหาคุณชายปาร์คว่าคืนนี้ไม่กลับบ้านจะนอนบ้านคริสเพราะวันนี้มีปาร์ตี้วันเกิดน้องจุนสุดที่เลิฟ
     
    ลู่หานส่งแก้วที่ชงใหม่ให้ ชานยอลรับมาแล้วก็ลองจิบเบาๆ เอาตรงๆใครก็ชงเหล้าให้เขาไม่ถูกใจเท่าลู่หานจริงๆ เพราะคนสอนให้เขาลองดื่มพวกนี้มันก็ลู่หานและแน่นอนว่าตัวชานยอลชินรสมือของลู่หานมากกว่าใคร ชานยอลที่ยังเคืองคริสไม่หายก็นั่งแอ้งเม้งที่เดิมไม่ลุกไปไหนจนคนที่มองตาจิกแทบถลนควันจะออกหู ซูโฮกับแบคฮยอนมองหน้าพี่ใหญ่แล้วก็มองหน้ากันเอง เซฮุนก็มองนิ่งๆแล้วหันมาปัดมือจงอินที่พยายามจะลูบหลังมือเขาออก
     
    “ชานยอล” น้ำเสียงเรียกนั้นช่างเรียบนิ่งและบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าประมุขใหญ่ของบ้าน(ในตอนนี้)กำลังโมโห คนโดนเรียกก็นั่งลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้กระดกแก้วในมือ ยังไม่พอยังเอื้อมมือไปหยิบขนมเข้าปากอีแน่ะ
     
    “ชานยอล.. หรือมึงจะให้กูลุก” เท่านั้นเองชานยอลสะบัดสายตาข้ามฝั่งมาหาเลย
     
    “ไม่ต้องกูลุกเอง! เรียกกูอยู่ได้มึงกับกูมีกาวตัวติดกันหรือไง ห่.! ให้กูนั่งตักมึงเลยมะ?”” ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาคนเรียกด้วยสีหน้าหงิกงอ
     
    “แล้วมึงจะนั่งไหมล่ะ?” ชานยอลที่กำลังก้าวขาหยุดชะงักก่อนที่จะส่งขายาวๆของตัวเองเตะหน้าแข้งมันแรงๆสักที
     
    “ไม่นั่งโว๊ยไอ้เห. เถิบไป!!” ชานยอลใช้ขาดันขาคริสให้ถอยแล้วตัวเองก็ก้าวเข้าไปนั่งที่เดิม
     
    “นึกว่าจะแน่” 
     
    “ให้นั่งตักมึงนะ กูไปนั่งตักไอ้ลู่ดีกว่า” อยู่ดีๆก็โดนพาดพิงทำเอาสำลักเหล้าที่เพิ่งกระดกเข้าไปปากทันที ชานยอลหันมาเห็นก็หัวเราะงอคว่ำงอหงายพิงคนข้างๆแล้วก็ตีขามันไปด้วย เออดีทำร้ายทางอ้อมซะเลยปากหมาดีนัก คริสมองไอ้ตัวข้างๆที่หัวเราะเสียสติไปแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจกับมันนัก
     
     
     
     
     
    ยิ่งดึงยิ่งคึกก็ยิ่งเมา น้องแบคโดนไล่ขึ้นห้องนอนตั้งแต่หัวค่ำแล้ว แน่นอนว่าน้องยังเด็กจะมาข้องแวะกับอบายมุขมากมายก็ไม่ได้ เซฮุนเองก็ไม่ค่อยได้แตะอบายมุขเหล่านี้หรอกขอพอเป็นกระสัยแล้วก็หนีขึ้นห้องไปเหมือนกัน เมื่อมีแต่เหล่าพี่ๆแล้วคราวนี้ก็จัดกันชุดใหญ่จนเมาแทบหัวจะทิ่มกันอยู่แล้ว จงแด มินซอก จื่อเทา จุนมยอนที่เปิดวงไพ่เล็กๆก็สับไป เมาไป 
     
    ไอ้พวกตัวใหญ่ก็ดวลเหล้าช็อตกันเป็นที่สนุกสนาน และแน่นอนว่าคนคออ่อนอย่างจุนมยอนก็คอพับเมาหลับคาอกเทาที่ยังคงนั่งเล่นไพ่กินเงินจงแดที่ยังไม่ล้มต่อไป จนสงสารจุนมยอนนั่นแหละน้องเทาเทาเลยได้ฤกษ์ปิดกระดาษแล้วอุ้มพี่จุนจุนขึ้นไปนอนบนห้องโดยที่ชานยอลไม่ได้สนใจยังสนุกกับการดวลช็อตต่อช็อตอยู่ จงแดที่เห็นเทาอุ้มจุนมยอนขึ้นชั้นสองไป ก้มลงมองที่ตักเห็นมินซอกนอนหนุนตักเจ้าตัวก็ล้มหงายนอนกับพื้นหลับบ้าง เปิดไปหนึ่งราย...
     
    คนเล่นดวลช็อตก็มีลู่หาน จงอินกับชานยอล แน่นอนว่าคริสไม่ได้เล่นแต่ก็กระดกแก้วในมือไม่วางเหมือนกัน จนเริ่มรู้สึกว่ามันกำลังจะเกินลิมิตนั่นล่ะถึงได้วาง เพราะไม่งั้นพรุ่งนี้เช้าล่ะก็แฮงค์แน่ๆ ตัวเขาไม่ชอบเลยเวลาที่ตัวเขาต้องมาแฮงค์ตอนเช้า แน่ๆว่าคงมีใครบางคนแฮงค์พรุ่งนี้แน่ๆ คริสเดินขึ้นไปนอนบ้างปล่อยให้มันที่เหลือดวลกันเอง จงอินที่ล่อแล่ ลู่หานก็นั่งตาฉ่ำและชานยอลที่หัวเราะไม่หยุด บอกแล้วนะว่าให้ชานยอลขึ้นไปนอนไม่รู้มันฟังรู้เรื่องไหม ยังจะหันหน้ามาหัวเราะให้อีกแน่ะ
     
    “เฮ้ยเหล้าหมด!” ชานยอลเทขวดเปล่าที่แทบจะไม่เหลือสักหยด ลู่หานกับจงอินก็มองขวดนั้นแล้วนั่งนิ่งๆ
     
    “ก็เลิกดิวะ มุมใครมุมมัน” แล้วลู่หานก็ลุกขึ้นเดินเซๆไปที่โซฟาตัวยาวที่ห่างไกลพวกที่กองกันแล้วนอนตัวลงนอน
     
    “เออเลิกๆ เฮ้ยไอ้จงอินห้องน้องจุนอยู่ไหนวะ” ถึงชานยอลจะมาค้างบ้านนี้ไม่ค่อยบ่อยเพราะส่วนใหญ่คริสจะไปนอนบ้านเขา แต่ก็ไม่เคยรู้เลยว่าห้องของคนอื่นอยู่ไหน รู้แค่ว่ามีสองฝั่งซ้ายขวา ฝั่งละ 2ห้องแล้วด้านในสุดก็มีอีกห้องหนึ่งแต่ห้องนั้นเป็นของน้องแบคเพราะเคยออกมาตอนที่น้องแบคเดินออกมาพอดี และแน่นอนว่าชานยอลจำห้องคริสได้
     
    “สืบมาแล้วโว๊ย!! ชั้น2 ห้องแรกฝั่ง... ฝั่งไหนวะ” เกาหัวตัวเองสอง สามทีก่อนที่จะมองลู่หานที่หลับไปแล้ว หันมองจงแดมินซอกก็ไมได้ช่วยอะไร มองตัวเองก็...
     
    “ฝั่งไหนล่ะวะ!”
     
    “ซ้ายไง!!” แต่จงอินยกแขนขวาขึ้นมา ชานยอลที่มองอยู่ก็พยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแบบเซๆจะล้ม ไอ้จงอินก็ไม่ช่วยกันเลย ช่วยได้ยังไงก็ไม่ไหวด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละแล้วเดินเป๋ๆไปที่บันไดเพื่อขึ้นชั้นสองของบ้าน
     
    “ไปไหนวะมึง~”
     
    “ไปหาน้องจุนไงวะ~”
     
    “เออโชคดี~~” จงอินยกมือให้ ชานยอลหันมายกมือตอบพร้อมกับคว้าจับราวบันไดไว้เพราะเกือบตกบันได เซฮุนที่เดินลงมาได้ยินบทสนทนาพวกนั้นก็มองชานยอลแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “อรุณสวัสดิ์” โบกมือแล้วก็ยิ้มกว้างให้เซฮุนไปหนึ่งทีก่อนที่จะพยายามเกาะราวบันไดเดินขึ้นไปข้างบน
     
    “หมีอ้วนตื่น ขึ้นไปนอนข้างบน” ชานยอลหันไปหรี่ตามองแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนี้สติสัมปชัญญะไม่มีเหลือแล้ว ชานยอลเดินเกาะราวบันไดขึ้นไปก่อนที่จะสะดุดบันไดขั้นสุดท้ายจนหน้าแทบทิ่มดีนะใช้มือยันพื้นไว้ได้ทัน
     
    “อึ๊บ!” กว่าที่จะลุกขึ้นมาได้ก็คลาน ก็หมุนตัวอยู่หลายรอบจะมึนนั่นแหละ ชานยอลลุกขึ้นเกาะผนังขึ้นได้ก็มองไม่เห็นห้องอะไรเลยสักห้อง มองเห็นแต่บันไดเพราะยืนหันผิดด้าน จำได้ลางๆว่าซ้ายแล้วก็ยกแขนขวาตามแบบจงอินก่อนที่จะยิ้มกว้างอย่างเสียสติแล้วก็กระดึ๊บๆเดินไปด้านข้างตามมือนั้นไปจนกับผนังแล้วกระดึ๊บไต่กำแพงไปเรื่อยจนเจอประตู ทีนี้ลูกพี่ชานยอลก็ยิ้มกริ่มเลย
     
    ถูกแล้ว... แผนการในหัวของชานยอลคือรวบหัวรวบหางน้องจุนซะเลย!! แล้วจากนั้นน้องจุนก็จะเป็นของพี่ชานยอล~ รับรองว่าเมาๆกันแบบนี้ยังไงน้องจุนก็ไม่รู้สึกตัวหรอกนี่พูดเลยว่าปาร์คชานยอลพร้อม! พอเอื้อมมือไปลองเปิดประตูดู..... ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อคซ้ำยังเปิดได้อีกแน่ะ เสร็จพี่ชานยอลล่ะ!! น้องจุนมาเป็นของพี่ชานยอลเถอะ!!!
     
    เมื่อเปิดประตูได้ชานยอลก็เดินเข้าไปด้วยท่าเซๆ ขาเป๋ๆ เซฮุนที่ประคองจงอินเดินขึ้นมาก็ได้แต่ทำหน้างง... ก็ไหนได้ยินแว่วๆว่าจะไปหาพี่จุนมยอนไงแล้วทำไม...
     
    ห้องข้างในไม่ได้มืดสนิทแต่ยังมีแสงสลัวอยู่ ชานยอลมองเห็นว่าตรงหน้าน่ะมีเตียงกับคนนอนอยู่ แน่นอนจะเป็นใครได้ล่ะนอกเสียจากน้องจุนมยอนของพี่ชานยอล พอเดินประชิดถึงเตียงชานยอลก็ปีนขึ้นเตียงแล้วมุดผ้าห่มที่จุนมยอนห่มไว้ทันที คร่อมทับแทบจะโถมน้ำหนักทั้งตัวทับคนหลับอยู่แล้ว แม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เอะใจว่าทำไมน้องจุนตัวโตขึ้น ชานยอลซบหน้าลงกับซอกคอยาวแล้วงับเบาๆ
     
    “น้องจุนจ๋า~~”
     
    “ไอ้เห.ชานยอลอะไรของมึงเนี่ย นอนทับกูทำไม!!”
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×