ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] Impossible Miracle Love [คู่จิ้นตามใจฉัน]

    ลำดับตอนที่ #4 : [SongFic] Sehun x Suho - ใครบางคนจากบนฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 56


    Title: ใครบางคนจากบนฟ้า
    Pairing: Sehun x Suho
    Author: BettyNoona
    Note: เป็นภาคต่อ ไม่สิ เป็นอารมณ์ต่อเนื่องจากการแต่งที่พยายามสอดแทรกฮุนโฮ 5555555 ใครอยากอ่านก็เข้าไปแซ่บๆ เฟสฮุนโฮได้ค่ะ อิอิ
    http://my.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=862391&chapter=19

    เพลงนี้มาจากเพลง ใครบางคนจากบนฟ้า ของวง FLURE ค่ะ เพราะมาก ><














    ...เป็นไปได้ไหม โชคชะตาหรือว่าอำนาจบางอย่าง คนสองคน จึงพบกัน
    และใครที่สร้างสรรค์ ให้เกิดความรักขึ้นบนโลก คนสองคน จึงรักกัน
    ...

    เสียงดีดกีต้าร์ร้องเพลงดังลั่นหน้าคณะสถาปัตยกรรมแถมพ่วงมาด้วยเสียงช้อนเคาะขวดเหล้า มันเป็นการอุกอาจมากที่มาตั้งวงเหล้าอยู่หน้าคณะแบบนี้ แต่ใครละจะสนจริงไหม?

    “ไอ้เซฮุนแก้วมึงละลายว่ะ เดี๋ยวกูชงเหล้าให้” แล้วเพื่อนตัวดีมันก็เอาแก้วผมไปชงเหล้า ผมก็นั่งดีดกีต้าร์บนเสื่อไปเรื่อย จะว่าไปคณะผมนั้นก็ตั้งอยู่ไกลจากคณะอื่นอยู่นะ แต่ก็นั่นแหละทำให้พวกผมถึงได้มาตั้งวงเหล้าพ่วงวงไพ่ข้างๆได้ไง

    “โห้ยไอ้สัดไคมึงกะให้กูเมาเลยไงวะ จะมอมกูเหรอครับมึง” ว่าแล้วก็เหล้าเหล้าเข้มๆมากระดกเสียสองอึกใหญ่ๆ ว๊า นี่แม่งแก้วเล็กไปหรือเหล้าอร่อย สองอึกหมดแก้วเลย

    “เอ้าไอ้สัดนี่ เบาเว๊ยเบาเปลืองเหล้า” แต่มันก็เอาแก้วผมไปชงมาให้ใหม่ ปริมาณเท่าเดิมและความเข้มลดลงอีกนิด นิดจริงๆ

    “โว๊ว ร้องเพลงต่อเลยไอ้น้อง!!” ขี้เหล้าไม่เปลี่ยนครับพี่รหัสผม วันนี้วันเกิดมันครับก็เลยต้องมานั่งก๊งเหล้าอยู่หน้าคณะแบบนี้ แต่จะว่าไปวันไหนคณะผมก็พากันก๊งเหล้าได้หมดล่ะ

    “ร้องเพลงไรดีพี่” ผมปรับสายกีต้าร์นิดหน่อยก่อนที่จะรอแกคุยหันไปถามเมียแก ซึ่งมันก็เพื่อนผมนี่ล่ะให้จบ

    “เพลงเหี้ยไรก็จัดไปครับไอ้น้อง” ก็แล้วมึงจะปรึกษากันทำไมวะ แต่ก็นะไม่อยากพูดมากเดี๋ยวแม่งตบกบาลเอา

    ผมก็นั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงไปตามสะดวกผม เพลงที่ผมชอบ วงอินดี้ที่เหมาะกับคนแนวๆอย่างผม ดังนั้นผมก็เลยดีดร้องเพลงแม่ผ่องศรี วรนุชเลยครับ

    “เสียงรถด่วนขบวนสุดท๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย~” แล้วทุกคนแม่งก็โห่ครับ โห่พร้อมเขวี้ยงเศษซากขนมมาให้ผมด้วย

    “ไอ้สัดมึงร้องส้นตีนอะไรของมึงเนี่ย!!” พี่รหัสครับ ปาไม้เสียบลูกชิ้นมาเลยครับ ดีนะไม่ปักหัว พี่แม่งใจร้ายว่ะทำร้ายคนหล่อ

    “อ้าวก็พี่บอกเพลงอะไรก็ได้ เลยจัดวงอินดี้ให้เลย”

    “อินดี้พ่อง! ร้องดีๆ ร้องไม่ดีมึงซ่อมนะหนู” แล้วผมก็เลยหันหน้ากลับมาดีดกีต้าร์ตามเดิม แต่สายตาผมก็เห็นอะไรขาวๆที่เดินมาไกลลิบๆ

    ร่างเล็กๆ ขาวๆค่อยๆเดินเข้ามาทางพวกผมที่นั่งเกาะกลุ่มกันทั้งแทบจะทั้งคณะ เมื่อเข้ามาใกล้ๆผมถึงรู้ว่าเป็นคน แต่ผิวของเขาขาวมาก ขาวเสียจนผมคิดว่าถ้ามายืนอยู่ตรงหน้าผมคงตาบอด แล้วยิ่งแดดสาดผิวขาวจัดนั้นมันก็ยิ่งขาวขึ้นอีก จนดูว่าคนนั้นแทบจะเรืองแสงได้อยู่แล้ว

    แล้วเขาก็เดินกล้าๆ กลัวๆเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม พวกคนอื่นก็หยุดสรวลเสเฮฮากัน มองว่าคนนี้มาทำอะไรที่นี่ จากสภาพผิวขาวๆ ใบหน้าน่ารักที่แดงเรื่อยตรงแก้ม ผมสีน้ำตาลออกส้มยามสะท้อนแสงแดดที่สไลด์เข้ากับใบหน้าของเขา ดูแล้วไม่ใช่พวกเซอร์ เถื่อน(สถุน)แบบพวกผมแน่ๆ

    “นางฟ้า” ผมกระพริบตาปริบๆมองคนตรงหน้าที่เรืองแสงแล้วมายืนทำแก้มแดงๆ ปากสีชมพูแย้มยิ้มหลบกับกองกระดาษในอ้อมแขน อีกมือก็ส่งยื่นกระดาษอะไรก็ไม่รู้มาหาผม

    “อันนี้ของคณะพวกนายนะ” ผมค่อยๆยื่นมือที่สั่นโคตรๆไปรับมันมาไว้ คนตรงหน้ายังคงยิ้มให้ผมและผมว่าผมคงไม่เมาแล้วเหล้า เมายิ้มของคนตรงหน้าแม่งนี่ล่ะ

    “ไปนะ แล้วก็.... เราไม่ใช่นางฟ้านะ” ยิ้มทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหลบออกไป แล้วเสียงแซวก็ค่อยดังขึ้นมา

    “ให้พี่ไปส่งไหมครับน้องซูโฮ!! / โว้ว คนน่ารักมาที่คณะอีกนะครับ!! / มานั่งดื่มกับพวกผมไหมคร๊าบบบ~” ผมเองก็ได้แต่มองตาคนที่หันกลับมายิ้มๆแล้วก้มหัวลงคล้ายว่าจะขอโทษที่ตัวเองคงไมได้เข้ามาร่วมวง ทำไมน่ารักแบบนี้อ่ะ หัวใจผมก็เต้นรัวเชียว

    “เฮ้ยเป็นเหี้ยไรครับคุณเซฮุน” ไคกอดคอผมแล้วทำเสียงกรุ้มกริ่มจนอยากยกขาขึ้นถีบยอดหน้ามันสักที

    “เป็นอะไรมึง เห็นซูโฮเข้าหน่อยตาค้างเลยไงวะ” แล้วมันก็หัวเราะร่วน

    “มึงรู้จักนางฟ้าคนนั้นเหรอวะ!!!” ไอ้ไคเลิกคิ้วแล้วมองหน้าผมแบบงงก่อนที่มันจะหัวเราะเสียกลิ้งไปขนคนอื่น

    “มึงไม่รู้จักซูโฮหรอวะ? ไอ้เหี้ยมึงไปอยู่ไหนมา!! เขารู้จักกันทั้งมหาลัยอ่ะ นั่นซูโฮเดือนคณะบริหาร” เดือน? ผมว่าเขาน่าจะเป็นดาวมากกว่านะ แต่จะว่าไปเป็นนางฟ้าของผมดีกว่า

    “ไค ... กูจะจีบซูโฮ” ไอ้ไคนิ่ง คนอื่นก็นิ่ง แล้วพวกแม่งก็โวยวายแถมลุกขึ้นมารุมสกรัมผมอีก ข้อหาที่ริอาจจะไปยุ่งคนน่ารักของพวกมัน แต่ผมตั้งมั่นไว้แล้วว่าจะไปจีนนางฟ้าคนนั้น

    ผมว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เราได้พบกัน ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรืออะไรที่ทำให้เราได้พบกัน ผมจะไม่ปล่อยเขาให้หลุดไปหรอก นั่นนางฟ้าของผมเลยนะ!!!

    แม่ครับ เซฮุนเจอลูกสะใภ้ของแม่แล้วครับ!!!!

    ...ก็เหมือนที่เธอได้เจอฉัน อะไรที่ทำให้เราได้รักกัน
    หากเป็นบัญชาจากบนฟ้า อยากขอให้เป็นอยู่อย่างนี้ นานตราบชั่วนิรันดร์
    ...

    “กูเท่ยังวะ” ไอ้ไคแทบถุยน้ำลายรดหน้าผมเมื่อผมถามมันว่าผมหล่อไหม ทำไมวะ ผมก็ออกจะหล่อนะ ผมก็ขาวดั่งหยวกกล้วย จริงๆก็คล้ำหน่อยๆอ่ะ หน้าตาก็หล่อเหลาเกลี้ยงเกลา อ่า.. จริงๆก็แบบวันนี้ลืมโกนหนวดว่ะ แต่งตัวก็ถูกระเบียบมหาวิทยาลัย อือ.. จริงๆแล้วก็แบบเสื้อนักศึกษายับๆกับกางเกงยีนส์สีซีดที่ไม่ค่อยโดนน้ำกับรองเท้าเตะหนีบ ผมก็ทรงเกาหลีอินเทรนด์นะ ก็แค่มันยาวไปหน่อยแล้วก็ยุ่งๆเอง

    “เออ “หล่อเหี้ยๆ หล่อสัดๆ หล่อลืมตายอ่ะมึง”

    “นี่มึงชมกู?” ผมหรี่ตามองมันนิดหน่อย ซึ่งมันก็ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวๆที่ตัดกับผิวดำๆของแม่งก่อนที่จะพยักหน้า

    “ชมสิวะ” แล้วมันก็ตบไหล่ผมแรงๆหลายที ไอ้สัดนี่!!

    ก่อนที่จะได้กระทืบมันอย่างที่ใจยาก ผมก็เห็นเป้าหมายเดินลงมาจากตึกคณะบริหาร พอเขาเห็นผมสองคนที่สภาพก็ไม่ได้ต่างกันเลย (ระหว่างผมกับไอ้ไค) เขาก็ตาโต แล้วผมก็ได้เห็นแก้มขาวๆของเขาขึ้นสีแดง จะว่าไปคนผิวขาวมากๆนี่ก็เห็นง่ายนะ ผมก็เลยเข้าไปหาเขาอย่างเท่ที่สุด แต่ทำไมคนอื่นๆแม่งเดินหลบไปหมดเลยวะ

    นี่กูหล่อทำลายล้างขนาดนั้น??? (กล้าเนอะมึง = =)

    “เอ่อ... ซูโฮครับ ผมชื่อเซฮุนนะ .. ไอ้สัดไคอย่าดัน!” หันไปพูดเสียงหวานกับคนที่ยืนกอดหนังสือเล่มใหญ่ๆสองสามเล่มแนบอกก่อนที่จะหันไปแยกเขี้ยวกับเพื่อนตัวเองที่แม่งดันกูอยู่ได้ ดันหาพ่อมึงเหรอ!!

     “อื้ม” คำตอบรับสั้นๆเบาๆที่ได้ฟังแล้วก็แบบใจเต้นอ่ะ แบบว่ารู้เลยว่ายิ้มจนปวดแก้มเลยอ่ะ ผมสังเกตเห็นว่าแก้มของนางฟ้าแดงมากๆ หรือเขาจะร้อนกันนะ วันนี้ก็อากาศร้อนด้วยล่ะ ขนาดหลังเสื้อผมยังเปียกเหงื่อเลย แล้วแดดก็ส่องก็ส่องโดนตัวเขาอยู่ด้วยนะ นี่อาจจะเป็นเพราะแดดส่องก็ได้มั้งแก้มเขาถึงแดง

    “ร้อนเหรอครับ” ผมเอาตัวและมือบังแดดให้เขา ซึ่งนางฟ้าก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแบบตกใจก่อนที่จะก้มลงซุกหน้าลงกับหนังสือที่หอบไว้

    “อะ...อื้อ นิดหน่อย แดดแรงเนอะ” พูดไปก็ซุกหน้าลงกับหนังสือไป ผมเลยจัดการดึงหนังสือกองนั้นออก บังใบหน้าขาวๆของนางฟ้าผมได้ยังไงกัน นางฟ้าดูตกใจอ้าปากค้างมองไปที่หนังสือในมือของก่อนที่จะเงยหน้ามองผม ใบหน้าขาวสว่างที่แดงระเรื่อนั้นทำเอาหัวใจของเต้นรัว

    “ไปกินข้าวกันไหมครับ” นางฟ้าของผมกัดปากเพียงนิดก่อนที่จะพยักหน้ารับทั้งๆที่ยังก้มหน้าลงแบบนั้น

    อยากกู่ร้องบอกให้ก้องโลกครับ วันนี้จะได้กินข้าวกับนางฟ้าด้วย!!!

    แล้วเราสามคน (ผม นางฟ้าของผมแล้วก็ไอ้ไค เสร่อตามมาจริง) ก็เดินเข้าโรงอาหารของคณะสถาปัตยกรรม ก็แบบว่าจะทำเท่เลี้ยงไง จะกินคณะอื่นก็แพงยิ่งคณะบริหารนะค่าข้าวแพงสุดแล้วถ้าไม่นับแพทย์ที่แพงพอๆกันน่ะนะ ก็เลยมากินคณะผมดีกว่า ถูกแล้วก็ได้เยอะด้วย หุหุ

    แต่เหมือนคิดผิดไงก็ไม่รู้แฮะ เหล่าบรรดารุ่นพี่ รุ่นน้องแม่งเดินเข้ามาแซวตลอดเลย ทำเอานางฟ้าของผมได้แต่นั่งก้มหน้ากินข้าวไม่ยอมเงยหน้าเลยอ่ะ จนผมก็กวาดสายตามอง ใครยุ่งเดี๋ยวกูเตะ!!

    “ขอโทษนะครับ แหะๆ” นางฟ้าที่นั่งตรงข้ามผมเงยหน้าขึ้นแล้วส่ายหน้าให้เบาๆ

    “ไม่เป็นไร อาหารที่นี่ก็อร่อยดี อร่อยกว่าคณะเราอีก” อู้ยยยย มากินทุกวันก็ได้นะ ผมเลี้ยงได้ จริงๆก็แปะค่าข้าวไว้นั่นแหละ ไว้ค่อยมาเคลียร์ตอนสิ้นเดือน ป้าๆที่นี่ใจดีครับ ยอมให้แปะค่าข้าวไว้ด้วย ซึ้งจัง

    “ถ้าแบบนั้นมากินข้าวกับผมทุกวันเลยไหม” หยอดครับ และแก้มของนางฟ้าก็แดงขึ้นมาอีก เอ? ผมว่าในนี้ไม่มีแดดนะ ทำไมนางฟ้ายังร้อนอีกนะ

    “จะเลี้ยงเราทุกวันหรือเปล่าล่ะ” อะโห้ พูดมาแบบนี้ถวายหัวหมดตัวก็ยอมครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

    “มาให้เลี้ยงสิครับ” แล้วผมก็ว่าสงสัยต้องไปยื่นเรื่องให้คณบดีติดแอร์ที่นี่แล้วนะ นางฟ้าของผมร้อนบ่อยจัง

    หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็เดินกลับมาส่งนางฟ้าของผมที่คณะบริหาร แน่นอนไอ้เชี่ยไคไม่อยู่แม่งสงสัยไปจีนเด็กคหกรรม ตอนที่เดินกลับแดดเที่ยงก็ร้อนเปรี้ยงเลย ผมก็เลยใช้หนังสือหนาของนางฟ้ามาบังแดดให้เขาแล้วเดินไปด้วยกัน

    “ไม่ต้องบังให้เราก็ได้นะ เซฮุนไม่ร้อนหรอ” อู้ยยย แค่นี้เอง เรื่องจิ๊บๆครับ ผิวด้านๆของผมทนร้อน ทนแดด ทนฝนยิ่งกว่าสีเบเยอร์อีกครับ

    “ไม่หรอก บังให้น่ะดีแล้วผิวของนางฟ้าจะได้ไม่เสียไงครับ” สงสัยแดดจะแรงไปนะ ผมเห็นแก้มนางฟ้าแดงอีกแล้ว นางฟ้าของผมขี้ร้อนนะ ตั้งมั่นไว้แล้วว่าเย็นนี้จะไปเดินตลาดนัดซื้อพัดลมมือถือมาให้นางฟ้า

    “ถึงแล้ว ขอบคุณนะที่เลี้ยงข้าวแล้วก็บังแดดให้” ผมมายืนส่งนางฟ้าอยู่ที่ตีนบันไดคณะ ต้องพานางฟ้าเข้าร่มก่อนเดี๋ยวผิวขาวๆจะดำไปซะก่อน ผมละอยากจะเอาน้ำไปรดพระอาทิตย์จริงๆ ส่องแดดได้แดดดี

    “เลิกเรียนกี่โมงครับ เดี๋ยวมารับไปกินข้าวเย็น” นางฟ้าก้มหน้าลงแล้วเกาแก้มเบาๆ

    “เลิกห้าโมงนะ”

    “ถ้างั้นเดี๋ยวห้าโมงมารับนะครับ” แล้วผมก็คืนหนังสือให้นางฟ้า รอให้นางฟ้าเดินขึ้นบันไดไปก่อนผมค่อยเดินกลับคณะตัวเอง ไปนั่งก๊งเหล้าดีดกีต้าร์ต่อ ฮุๆ พูดถึงเหลาแล้วเปรี้ยวปาก ส่วนงานก็ไว้ค่อยทำยังไม่มีอารมณ์ทำ

    จะว่าไป เวลาที่ผิวขาวๆขึ้นสีแดงๆนี่ น่ารักจัง น่ารักเป็นที่สุดเลย~ นางฟ้าของผม~~~ ฮิ้ววววววววววววววววววววว(?)~

    ...ให้เธอและฉัน เก็บเอาไว้ ทุกความอบอุ่น ทุกความสุข
    อยู่เป็นคู่กันตลอดไป แค่รู้สึกอยู่ว่ารักโอบกอดเราไว้
    ...

    ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอนางฟ้าของผมอยู่ครับ รออยู่หน้าคณะนี่ล่ะ คนอื่นๆก็มองมาไม่รู้จะสมเพชหรือจะชื่นชมน่ะนะ ก็มีแค่ไอ้แก่สีแดงหนึ่งคัน ฮอนด้ารุ่นเก่ากึก อาจจะเป็นรุ่นแรกของฮอนด้าเลยมั้งแต่ขอบอกเครื่องยังแรงนะจ๊ะสาวๆ ของตกทอดมาจากคุณบิดาที่รักเลยนะเนี่ย ผมจอดรถหน้าคณะบริหารแล้วก็นั่งรอมันบนเบาะรถนี่ล่ะ รอแบบนี้แม่งทุกวัน คนก็มองแม่งทุกวัน ขอบอกไว้ก่อนนะจ๊ะ เบาะหลังของพี่มีไว้ให้นางฟ้าซ้อนคนเดียวนะจ๊ะนะจ๊ะ

    วันนี้นัดไปเดทกัน อุ้ย เขินจุงเลอ~~ จริงๆก็เปล่านัดเดทหรอกแค่จะไปเดินเล่นที่งานของคณะคหกรรม วันนี้เห็นว่ามีออกซุ้ม ออกร้าน ปาเป้า ปาโป่งคล้ายงานวัดเนอะ ฮ่าๆๆ นั่งรอไม่นานนางฟ้าตัวขาวก็วิ่งเข้ามาหาก่อนที่จะหอบเหนื่อยอยู่ข้างหน้าผม ผมก็เลยล้วงผ้าเช็ดหน้าที่ซัก ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มและรีดอย่างดีออกมาจากกระเป๋าเสื้อยับๆของผม แล้วเช็ดเหงื่อที่ข้างแก้มของนางฟ้าเบาๆ

    “ขอโทษนะที่มาช้า พอดีอาจารย์ปล่อยคลาสช้าน่ะ”

    “ไม่เห็นต้องวิ่งมาเลย ผมรอได้” แล้วก็ฉีกยิ้มกว้างๆคืน นางฟ้าเองก็ยิ้ม ผมเลยรับหนังสือเล่มหนาพวกนั้นมาถือไว้แล้วเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำแร่ที่ผมซื้อมาเปิดฝาให้นางฟ้าของผม น้ำธรรมดาไม่ได้ครับเดี๋ยวนางฟ้าของผมผิวไม่สวย

    “ขอบคุณนะ” นางฟ้ารับน้ำไปดื่ม ผมก็เอาหนังสือพวกนั้นวางไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ แล้วก็เอาไอ้แก่ลงจากขาตั้ง นางฟ้าก็ได้อัญเชิญขึ้นมาซ้อนมอเตอร์ไซด์สุดหรู(?)ของผมทันที

    “แล้วไคล่ะ ไม่มาเดินด้วยกันเหรอ” นางฟ้าถามขึ้นมาหลังจากผมจอดรถเบนซ์สุดหรูของผมเอาไว้ ไม่ต้องล็อคล้อครับ ไม่มีใครกล้าแตะหรอกครับ แตะปุ๊บ เศษเหล็กแม่งร่วงกราวครับ ก๊ากๆๆ

    “เดี๋ยวก็เจอในงาน” ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้หนึ่งที แต่นางฟ้าของผมหน้าแดงอีกแล้ว ทำไมกันล่ะเนี่ย นี่เย็นแล้วนะ สงสัยจะขี้ร้อน แล้วผมก็หยิบพัดลมมือถือประจำตัวของนางฟ้าออกจากกระเป๋ากางเกง พัดลมมือถืออันเล็กแต่แรงลมไม่เล็กตามขนาดเลยสีแดง ผมกดเปิดให้มันทำงานแล้วส่งให้นางฟ้าที่ยิ้มเขินๆแล้วรับมา พอเห็นนางฟ้าหน้าแดงผมก็จะยื่นให้ทันที แล้วก็ได้รอยยิ้มเขินๆมาให้ทุกทีเหมือนกัน ผมหล่อล่ะสิ ดูแลคุณดีอันดับหนึ่งประดุจการบินไทยนะครับ (สโลแกนมันมั่วๆเนอะ ฮ่าๆๆ)

    แล้วผมกับนางฟ้าก็เดินเข้าไปหาของกินกัน คนมาเยอะมากครับเป็นหมื่นแสนล้านคนเลย (อันนี้ก็เวอร์ไป) เดินซื้อของกินบ้าง ชิมฟรีบ้างก็มีความสุขกันไปครับ ด้วยเพราะคนเยอะมากและก็มีพวกผู้ชายอื่นชอบเดินเข้ามาทำท่าจะชนนางฟ้าของผม ผมก็เลยต้องกันนางฟ้าของผมจากไอ้พวกนั้น ไม่ได้นะ นางฟ้าของผมคนเดียว ผมเลยดึงให้นางฟ้ามาเดินอยู่ข้างหน้าผมแล้วผมก็วางมือไว้ที่เอวของนางฟ้าไว้ข้างหนึ่ง พอเห็นพวกไหนทำท่าจะเดินเข้ามาชนผมก็จะได้รั้งให้นางฟ้าหนีทัน

    ผมเจอไอ้ไคแล้วครับ อยู่กับเด็กที่เรียนคหกรรมจริงๆด้วย ไปช่วยเขาขายขนมเสียอย่างนั้น ผมว่าคนนี้มันคงจริงจังล่ะ เห็นเทียวไล้เทียวขื่อน้องเขาอยู่นาน น้องเขาน่ารักนะผิวขาวๆ ตากลมๆ แต่ก็น่ารักสู้นางฟ้าผมไมได้หรอก คิๆ น้องเขาทำขนมอร่อยมาก ผมเคยได้ชิมแล้วล่ะเมื่อปีที่แล้วมันไปเหมาขนมของซุ้มน้องเขามา เออแม่งทำเป็นรวย! ก็มันรวยจริงแหละ แต่รวยเชี่ยไรมายืมเงินผมอีกห้าพันเพื่อไปกินข้าวกับน้องหลังจากมันเหมาขนมเสร็จ ข้าวเหี้ยไรห้าพันวะ นี่กูโดนหลอกยืมเงินป่ะวะ (ถึงตอนหลังมันจะคืนแล้วก็เหอะ)

    “อ้าวไอ้เซฮุน มาๆๆ ซื้อเร็วๆ อร่อยมาก ซูโฮอยากกินอะไรครับหยิบเลยๆ เดี๋ยวให้ไอ้เซฮุนจ่าย” ไอ้ไคกวักมือเรียกพร้อมกับระริกระรี้(?)ขายขนมสุดชีวิต

    “ไม่เป็นไรเราจ่ายเองก็ได้นะ” แล้วนางฟ้าของผมก็หัวเราะเบาๆ

    “ไม่เป็นไรหรอก อยากกินอะไรหยิบเลย ฝีมือน้องคยองซูของไอ้ไคน่ะอร่อยมาก” น้องคยองซูที่ว่าแกก็ทำตาเหลือกแล้วก็แก้มแดงไปตามระเบียบ เอ.. ผมว่าน้องเขาก็คงจะขี้ร้อนเหมือนกันเนอะ

    “อันนี้ชิมได้ไหม” นางฟ้าของผมชี้ไปยังจานที่มีขนมชิ้นเล็กๆที่ตัดพอดีคำวางเรียงอยู่ในนั้นอย่างสวยงาม

    “ชิมได้ครับ กินหมดเลยก็ได้เพราะว่าของเขาอรอ่ยมาก” ไอ้ไคก็ยังทำหน้าที่สามีที่ดีขายของให้น้องเขาอยู่ นี่มึงเรียนสถาปัตหรือคหกรรมวะ กูเริ่มสับสน

    “ว๊าว อร่อยจริงๆด้วย” นางฟ้าของผมจิ้มขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมากินแล้วก็ทำตาโต เป็นประกายเลยครับ แล้วนางฟ้าของผมก็จิ้มขนมอีกชิ้นขึ้นมาแล้วยื่นมาทางผมที่ยืนเยื้องๆอยู่ด้านหลัง

    “ลองกินสิ อร่อยนะ” แล้วก็ยิ้มกว้างซะจนตาโตๆนั้นเล็กหยีไปเลย อ๊ายยยยยยยย(?) น่ารักเนอะ~~

    “เอาอีกไหม” พอผมพยักหน้า นางฟ้าของผมก็จิ้มขนมชิ้นอื่นมาลองให้ผมกินแล้วคอยถามว่าอร่อยไหม พอผมบอกว่าอร่อยเขาก็ยิ้มกว้างเหมือนเป็นคนทำเองเลยเนอะ

    แล้วปรากฏว่าผมก็เหมาขนมซุ้มของไอ้ไคไปทุกอย่างเลยเพราะคนข้างๆนี่หรอกนะ แล้วเราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ คนด้านในๆก็เริ่มบางตาลง เพราะยังคงอัดกันแน่นอยู่ที่พวกซุ้มด้านหน้าๆที่เป็นของกินแบบเดินถือกินได้ ส่วนด้านในหน่อยจะเป็นพวกของกินหนักๆ พวกข้าว ก๋วยเตี๋ยวที่ต้องนั่งกินกับโต๊ะที่เขาจัดไว้ให้ นางฟ้าของผมเลยเปลี่ยนมาเดินข้างๆผมแล้วสอดมือจับกับผมแทน

    ว่าตัวนิ่มแล้ว มือก็นิ่มเหมือนกันนะ จะว่าไปผมก็เขินนะเนี่ยเราเพิ่งจะจับมือกันครั้งแรกเลยนะ นางฟ้าของผมก้มหน้าลงแล้วก็หันหน้าไปทางอื่น ฟินว่ะแม่ง!! แล้วด้านในผมก็เห็นมีซุ้มปาโป่ง แน่นอนผมก็เลยลานางฟ้าไปเล่น ของรางวัลก็มีเยอะแยะมากมาย ทั้งตุ๊กตา ของใช้ วิทยุ และที่ทำเอาผมตาวาวก็เหล้า เบียร์ (นี่แม่งในมหาลัยนะเนี่ย)

    “อ๊ะ ตุ๊กตาหมี” นางฟ้าของผมพูดขึ้นเบาๆ แต่ผมก็ดันได้ยิน

    “อยากได้เหรอครับ” นางฟ้าไม่ตอบแต่กลับยิ้มให้ผมเสียแทบน็อค

    “พี่ครับ ไอ้หมีนั่นต้องทำไงถึงจะได้อะครับ” ผมเลยเบนไปถามคนประจำซุ้มแทน

    “ปาโดน7ดอกเอาไปเลยน้อง”

    แล้วผมก็จ่ายเงินไป40บาทเพื่อลูกดอก7ดอกมาปาลูกโป่งให้แตก นางฟ้าเองก็ยืนเป็นกำลังใจให้ รอบด้านก็เริ่มมีคนเดินเข้ามากันแล้ว ผมก็หยิบลูกดอกขึ้นมาแล้วเขวี้ยงออกไป แล้วมันก็พุ่งทะลุตรงกลางลูกโป้งแตกดังปัง นางฟ้าของผมตบมือแล้วยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ

    แล้วเสียงปังของลูกโป่งดังขึ้นอีก6ครั้งซ้อน นางฟ้าของผมก็ดีใจใหญ่ถึงกับกระโดดอย่างกับเด็กๆ แล้วไอ้ตุ๊กตาหมีนั้นก็มาอยู่ในอ้อมแขนของนางฟ้าของผม นางฟ้าของผมดูดีใจมากครับ กอดมันแน่นเลยแล้วก็ยิ้มกว้างๆเอาหน้าซุกกับขนนุ่มๆของมัน คือบอกตามตรงอิจฉาว่ะ

    “ขอบคุณนะเซฮุน” นางฟ้าของผมยิ้มกว้างแล้วมองหน้าผม ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มตอบ

    “ไม่เป็นไรครับ นางฟ้าชอบก็พอแล้ว” พอเรียกว่านางฟ้า นางฟ้าของผมก็ก้มลงซุกกับขนนุ่มๆของมันอีก อ๊าก!!! อิจฉา กูจะฆ่ามึงไอ้หมี!!!

    “เซฮุน....” ผมเห็นว่าแก้มนั้นแดงขึ้นอีกแล้ว เอ? นางฟ้าของผมแพ้ขนไอ้หมีนั่นหรือเปล่าครับ

    “ครับ”

    “ก้มลงมาหน่อยสิ” ผมก็ก้มหน้าลงมาหา นางฟ้าของผมตัวเล็กน่ารัก ไม่ได้เตี้ยนะ เอ๊ะ บอว่าไม่ได้เตี้ยไง ใครบอกนางฟ้าผมเตี้ย พ่อต่อยปากแตกนะจ๊ะ

    “จุ๊บ” นางฟ้าของผมเอาตุ๊กตาหมีบังอีกด้านก่อนที่จะเขย่งปลายเท้าขึ้นอีกนิดแล้วจุ๊บที่ปากผมเบาๆ แปบเดียวแล้วผละออกไป แหม เรามาดีฟคริสก็ได้นะจริงๆแล้วอ่ะ

    “อ่า...” แล้วผมก็เกาต้นคอแก้เขิน ส่วนนางฟ้าของผมก็เอาตุ๊กตาตัวนั้นบังหน้าเอาไว้

    งื้ออออออ แม่คร๊าบบบบบบบบบ เตรียมสินสอดเลยคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ

    ...อาจมีบางครั้งต้องห่างไกลเพื่อได้เรียนรู้บางอย่าง ให้สองคนได้รักกัน
    ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น นานแค่ไหนก็ไม่หวั่น แค่สองคนยังรักกัน
    ...

    “ขอโทษนะ แต่ตอนนี้เรายังติวอยู่เลย” เสียงหวานๆของนางฟ้าดังลอดมาตามสาย นี่ก็วันที่สี่แล้วนะที่ผมไม่ได้เจอนางฟ้าเลย ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วนางฟ้าของผมก็ต้องอ่านหนังสือติว เหมือนวันนี้ที่ผมมารอรับและเห็นว่านานแล้วก็เลยโทรไป

    “แล้วจะกลับบ้านกี่โมงครับ เดี๋ยวผมนั่งรอ”

    “ไม่ต้องหรอก เซฮุนกลับไปทำงานเถอะใกล้สอบแล้วนะ” ปฎิเสธแบบนี้ทุกวันเลยอ่ะ ผมถอนหายใจเบาๆ

    “ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

    “เซฮุนด้วยนะ เราเป็นห่วง” ถึงจะยิ้มกริ่มแต่ก็อยากเจอคนพูดตรงหน้าอ่ะ

    “เฮ้อ~”

    แล้วก็ต้องกลับมาห้องเพื่อทำงานส่งอาจารย์ คณะผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องสอบหรอก ส่วนใหญ่จะทำงานเป็นชิ้นเป็นอันเสียมากกว่า แต่ก็นะ บางทีก็อยากเจอหน้ากันบ้างอ่ะ พอกลับมาก็เจอไอ้ไคนั่งเล่นเกมรอผม เพื่อนคนอื่นๆที่ต้องมาทำงานกันก็นั่งๆ นอนๆ ระเกะระกะชะมัด เห็นไหมว่านางฟ้าของผมเป็นสิ่งเดียวที่มองแล้วเจริญหูเจริญตา

    แล้วผมก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเมื่อมันสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้า

    ขอโทษนะ เราไม่อยากสอบตก เซฮุนเข้าใจเรานะ
    ไว้สอบเสร็จ เราไปเที่ยวกันนะ

    แค่นี้ก็เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตผมแล้วครับ ฮืออออออออ

    “เฮ้ยๆ ลุกๆๆ ทำงานๆๆๆ” แล้วผมก็ต้องแงะพวกมันขึ้นมาทำงานส่งอาจารย์ กำลังใจดีซะขนาดนี้อะเนอะ~


    จะว่าไปไอ้การไม่เจอหน้ากันหลายๆวันติดกันนี่ก็ดูดพลังไปไม่น้อยนะ วันนี้ก็เลยเรียกพลังคืนมาโดยการ นั่งก๊งเหล้าแม่งหน้าคณะอีกแล้วครับท่าน แล้วก็นั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงสุดอินดี้ของผมไป

    “เห็นโบว์แดงแสลงในใจ เห็นยามไหน ใจหายยามนั้น~” พวกผีๆทั้งหลายก็ลุกกันขึ้นเซิ้งอย่างเมามันส์ ไอ้ห่าเด้งเบาๆ เดี่ยวเหล้ากระเฉาะใส่หัวกู

    “อินดี้มากครับพี่!!!” แล้วเสียงเชียร์ก็มาเต็มครับ หุ้ย พวกมึงแม่งขี้เหล้าว่ะ ด่าพวกมันในใจแล้วก็ยกแก้วเหล้าตัวเองขึ้นมาดื่ม อุ้ย ด่ามันก็เข้าตัวกูเองนิหว่า อิอิ

    “ลูกพี่ จังซี่มันต้องถอน!!!!” พวกมึงนี่เรื้อนนะ แล้วผมก็เริ่มดีดบรรเลงเพลงใหม่

    “งึกๆงักๆมันเป็นงึกๆงักๆ  งึกๆงักๆมันเป็นงึกๆงักๆ มันเป็นกะอึ่กกะอั่ก มันเป็นจึ๊กๆจั๊กๆ มันเป็นอยากได้จั๊กกั๊ก มันเป็นบ่คึกบ่คัก~~” แล้วพวกแม่งก็เคาะขวดเหล้า เคาะแก้ว ลุกขึ้นมาเซิ้งอย่างเมามันส์ ไอ้ห่าเหล้าหยดใส่หัว

    ร้องเพลงก๊งเหล้ากันไปก็เผลอมองไปด้านหน้าที่เมื่อเดือนก่อนเคยมีผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆ ตัวเรืองแสงได้เหมือนนางฟ้าเดินเข้ามาหาผม อา.... คิดถึงนางฟ้าอีกแล้ว เหมือนกลายเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว พอว่างทีไรก็คิดถึงนางฟ้าทุกที คิดถึงตากลมๆคู่นั้น คิดถึงผิวขาวๆ คิดถึงริมฝีปากสีแดงๆกับแก้มกลมๆที่ชอบแดงตลอดเวลา กลิ่นหอมๆจากนางฟ้าของผม อ๊า.... พูดแล้วก็ละเหี่ยใจ

    “คิดถึงใจจะขาดแล้วเอย คิดถึงที่เคยได้ชมได้เชยชื่นใจ คิดถึงรอยยิ้มเพราพริ้มผ่องใส คิดถึงจนใจจะขาดรอนรอน~~” อยู่ๆปอยฝ้ายไหงกลายไปสุนทราภรณ์ได้ล่ะเนี่ย ไอ้พวกที่เต้นกันอยู่ดีๆแม่งก็ทำหน้างงแล้วจับคู่กันลีลาศ เรื้อนหนักกว่าเดิมอีกพวกมึง

    “ไงวะ นั่งเศร้าเป็นหมาซึมเลยมึง” แล้วไอ้ไคก็เดินมานั่งกอดคอผม หลังจากที่ผมส่งกีต้าร์ให้คนอื่นมาเปลี่ยนเล่น ผมก็ยกแก้วเหล้าชนกับไอ้ไคที่ยื่นมารอ

    “เครียดว่ะ อยากเจอนางฟ้า” ไอ้ไคส่ายหน้าอย่างระอา อะไรล่ะ ก็กูอยากเจออ่ะมึง!

    “เดี๋ยวก็ได้เจอแล้ว แม่งมาทำหน้าเศร้าเสียรสเหล้าหมด”

    “ถุย! ไอ้ห่าก็คิดว่าห่วงกู” แล้วมันก็หัวเราะเสียงดังเลยครับ นั่งอยู่ได้ไม่นานพี่รหัสผมก็เดินมาเลยครับ เดินมาทิ้งตัวลงข้างๆผมแถมยังกอดคอผมไว้อีก

    “ไงไอ้น้องรักน้องเลิฟของพี่” หน้าตาพี่รหัสผมหล่อมาก แม่งเป็นเดือนคณะผมนะครับ แต่แม่งเรื้อนสุดตัวพ่อเลย

    “หนีเมียมาได้แล้วเหรอพี่? เห็นเมียพี่คุมทุกฝีก้าว” อยู่กับพี่รหัสทีไร ปากหมาทุกทีครับ

    “อุ้ย ไม่ได้เรียกหนี เรียกแว่บออกมาแปบนึงเว๊ย!!” นั่งโงนเงนคล้ายกับจะล้มพับเสียให้ได้ล่ะพี่กู แต่ก็ยังอุตส่าห์ตอบกูได้อีกนะ

    “ไหงมานั่งหน้าหงิกเป็นปลาส้นตีนงี้วะไอ้น้องเลิฟ! ทำหน้างี้กูล่ะอยากจะเอาตีนสะกิดเลยว่ะ ก๊ากๆๆ”แล้วแกก็หัวเราะเสียงดัง นี่ถ้าไม่หล่อทำตัวทุเรศไม่ได้นะครับ

    “แล้วพี่มามีไรเนี่ย จะให้ผมร้องเพลงแต่งงานให้ป่ะล่ะ?” พี่แกทำหน้าเคลิ้มก่อนที่จะพยักหน้ารับ

    “ไปจัดมาเลย~ แต่เดี๋ยวกูบอกข่าวก่อน ไอ้ห่าอย่าขัดเดี๋ยวกูลืม” แล้วพี่แม่งก็นั่งทำหน้าคิด ไอ้ห่าพี่กูเรื้อนแล้ว

    “อ้าวไม่ถามกูเหรอว่าเรื่องอะไร” แล้วใครบอกให้กูอย่าขัดวะ!

    “เออๆ เรื่องไรพี่” พี่แกยิ้มกระตุกมุมปากแบบที่แกชอบทำ ไอ้ห่า นี่มึงเมาจริงหรือเมาเล่นเนี่ย

    “น้องนางฟ้าของมึงน่ะ กำลังมีคนตามจีบอยู่นะ ไอ้เลย์วิศวะ” ชิบหาย!!!!! แล้วพี่กูก็หัวทิ่มนอนเอกเขนกไปด้านหลังเลย

    “ไอ้ชานยอลผัวมึงหลับแล้ว มาเก็บซาก!!” ไอ้ไคตะโกนเรียกเพื่อนสนิทพวกผมให้มากู้ซาก เพื่อนผมก็น่ารักครับ ลุกขึ้นเซนิดๆแล้วเดิมาเอาเท้าสะกิดผัวมัน อู้ยยย สูงอีกนิดจากไหล่เป็นหน้าเลยนะ

    “เมียจ๋า~” พี่แกก็กอดข้อเท้าเพื่อนผมไว้แน่นเลยครับ ทุเรศชิบ ว่าแต่เมื่อกี้?

    “เลย์วิศวะ”

    “ไอ้สัดรู้แล้ว ไม่ต้องย้ำไอ้ไค!”

    แล้วหลังจากสร่างเมาแล้วเพราะไอ้เรื่องเมื่อกี้ผมก็พาไอ้ไคไปแอบดักซุ่มดู เวลานี้ผมจำได้ว่านางฟ้าของผมจะลงมาซื้อของกินเพราะเป็นเวลาช่วงเบรกของการติว และแน่นอนผมเห็นนางฟ้าของผมแล้วแต่ผมกำลังรอดูไอ้คนที่มันกล้ามาจีบนางฟ้าของมันนั่นแหละ ขนาดนี้กลุ่มเพื่อนและนางฟ้าของผมกำลังยืนซื้อลูกชิ้นปิ้งอยู่นั้น (พูดแล้วอยากกินด้วย ขอเนียนออกไปกินด้วยได้ไหมเนี่ย) ก็มีผู้ชายก็หน้าตางั้นๆใส่ช็อปสีเทาพร้อมกับดอกกุหลาบแดงหนึ่งดอกในมือ ผมแทบจะถลาไปแล้วถ้าไม่มีไอ้ไคจับไว้

    ผมไม่ได้ยินว่าทั้งคู่คุยอะไรกันแต่ผมเห็นมันยื่นดอกไม้ไปให้นางฟ้าของผม นางฟ้าของผมพูดอะไรไม่รู้สักพักก็ส่ายหน้าไม่ยอมรับดอกไม้นั้น จากนั้นมันผู้นั้นก็เดินจ๋อยๆกลับไป ก๊ากๆๆ ดอกไม้ถูกๆ(?)ของมึงสู้ตุ๊กตาแสนแพง(?)ของกูไมได้หรอกว่ะ!! อยากจะหัวเราะให้สะเทือนไปถึงม้ามเลย แล้วกลุ่มเพื่อนเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างกับนางฟ้าของผม เขาทำท่าก้มหน้าลงแล้วก็ยกมือปิดแก้มด้วย น่ารักน่าเอ็นดูจุงเบย~

    ผมแค่เห็นว่านางฟ้าของผมไม่รับดอกไม้จากไอ้นั่นก็พอแล้วครับ นั่นก็แปลว่าผมน่าจะมีสิทธิ์จีบเขาอยู่สินะ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ แค่รู้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยังรับน้ำใจของผมก็พอแล้ว แหม พระเอกจริงกู ทำตัวอย่างกับหมาเห่านางฟ้าไปได้

    ...ใครบางคนจากบนฟ้า ขีดโชคชะตาให้เราได้พบกัน
    ให้เธอมายืนอยู่ตรงนี้ และฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ สุขด้วยกันทุกวัน
    ...

    คนไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตาหรือพรหมลิขิตเลยนะ ไม่เชื่อเลยจนมาเจอกับคนที่วิ่งหอบมาหาผม นางฟ้าของผมกำลังยืนหอบเหนื่อยผมก็เลยได้แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าหอมๆมาเช็ดเหงื่อให้ ผมก็ไม่รู้แหะว่าอะไรที่ทำให้นางฟ้าของผมวิ่งจากคณะเขามาหาผมถึงที่นี่ได้ ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่สระน้ำกลางมหาลัย ใบหน้าขาวแดงไปหมด ผมเลยล้วงหยิบพัดลมมือถือมาเปิดแล้วจ่อเป่าให้นางฟ้าของผม เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมด้วยแต่ก็ยังหอบเหนื่อยไม่หาย

    “วิ่งมาทำไมครับ ทำไมไม่โทรหาจะไปรับ” ผมถามออกไป นางฟ้าของผมก็ได้แต่มองหน้าผมแล้วก็กัดริมฝีปากเอาไว้ อา.. กลัวว่าริมฝีปากสีแดงๆนั้นจะช้ำจังเลย

    “เซฮุน... เราไม่ดีตรงไหนเหรอ?”

    “หา???? อะไรไม่ดี ยังไง อะไร นางฟ้าพูดถึงอะไรครับ” นางฟ้าของผมกัดปากแล้วก้มหน้าลง ผมเห็นว่าน้ำตาของนางฟ้าไหลด้วยล่ะ อ่า สวยงามที่สุด เฮ้ยมึง! ใช่เวลาปะวะ

    “ระ..ร้องไห้ทำไมครับ ใครทำอะไรนางฟ้า บอกมาเลยเดี๋ยวผมไปกระทืบให้เอง เป็นอะไรครับ อย่าร้องไห้เลยนะ” ผมก็ทำอะไรถูก ไม่รู้จะทำยังไงดีจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้นางฟ้าก็เอาแต่ก้มหน้าทิ้งน้ำตาลงพื้นหญ้าอ่ะ ฮือออออ อยากเอาขวดแก้วมาเก็บน้ำตานางฟ้าไว้ห้อยคอ

    “นางฟ้า อย่าร้องไห้สิครับ” มือจะเอาไปวางตรงไหนก็ไม่รู้ เก้ๆ กังๆ ไปหมดเลย แล้วคนตรงหน้าก็ยิ่งร้องไห้สะอื้นใหญ่ ใครกันนะช่างใจร้ายมาทำร้ายจิตใจนางฟ้าของผม ถ้ารู้ว่าเป็นใครนะพ่อจะกระทืบให้ไส้แตกเลย!!

    “ยะ...อย่าร้องนะครับ” แล้วผมก็กอดนางฟ้าไว้แนบอก แล้วก็ลูบหลังปลอบด้วย

    “ทำไมเซฮุนใจร้ายแบบนี้อ่ะ”

    “หา?” แล้วนางฟ้าก็ทุบอกผมใหญ่เลย นี่ผมไปทำอะไรนางฟ้ากันละเนี่ย ยังคิดไม่ออกเลยนะ

    “คุยกับผมก่อน ผมไปทำอะไร ผมไม่ได้ใจร้ายนะ” นางฟ้าของผมเงยหน้าจากอกของผม ใบหน้าขาวที่แดงๆแล้วมีน้ำตานี่ทำเอาฟินนาเร่อย่างบอกไม่ถูก แต่มันใช่เวลามาฟินนาเร่ไหมมึง?

    “ถ้าเซฮุนไม่ชอบเราก็บอกเราตรงๆสิ ทำไมต้องมาแกล้งทำดีกับเราด้วย”

    “หา?????” ยิ่ง งงหนักเลยทีนี้ อะไรวะ เมื่อกี้เหมือนรู้สึกโดนสารภาพรักแปลกๆ หัวใจเต้นรัวเหมือนกลองตีเลยง่ะ

    “ใครแกล้ง ผมไม่ได้แกล้งนะ ผมก็.. เอ่อ... แบบว่า ก็เพราะชอบนั่นแหละถึงเข้าหา” ก็เกาหัว เกาหูแก้เขินล่ะงานนี้ นางฟ้าตรงหน้าก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปอีก

    “พูดอีกรอบได้ไหม” แล้วหน้าแดงๆนั้นก็ยิ้มให้ผม ก็แบบได้น่ะได้แต่เขินว่ะ

    “ผมชอบ .. ไม่สิ รักนางฟ้านะครับ” นางฟ้าตรงหน้าก็หน้าแดงกว่าเดิมอีกแถมยังก้มหน้าเสียคางชิดอกอีก

    “อา... จะขอมากไปไหมถ้าจะเรียกชื่อเราอ่ะ พะ..พูดอีกทีได้ไหม”

    “เซฮุนรักซูโฮครับ” แล้วนางฟ้าก็น็อคเอ้าท์ แดงไปทั้งตัวเลย หูก็แดง ปากก็กัดไว้ก็แดง สองมือที่จับกันก็แกะ เกาๆ เอ? ท่าแบบนี้ เขินใช่ปะ? ผมหรี่ตามองนางฟ้าตรงหน้าก่อนที่จะหันหน้าเข้าหาสระน้ำแล้วตะโกนสุดเสียง

    “เซฮุนรักซูโฮครับ!!!! นางฟ้าซูโฮของเซฮุน ห้ามใครยุ่ง ถ้ามายุ่งกูกระทืบไส้แตกนะครับ!!!”

    “บ้า เซฮุน!! หยุดนะ!!” นางฟ้าก็ทั้งตีแขน ทั้งดึงเสื้อผมใหญ่เลย เวลาเขินนี่นางฟ้าก็น่ารักนะเนี่ย

    “แล้วเมื่อกี้ทำไมบอกว่าผมใจร้ายล่ะครับ” นางฟ้าก้มหน้าแล้วก็ยกมือขึ้นลูบผมตัวเอง น่าร๊อคอ่ะ!!!

    “ก็พี่รหัสของเซฮุนมาบอกเราว่า เซฮุนมายืนพล็อดรักกับคนอื่นที่ริมสระน้ำอ่ะ เราก็เลยวิ่งมาดู” อะหื้อ... ไอ้พี่ส้นตีนแกล้งกูนะครับ แต่ก็นะก็ต้องขอบคุณใช่ป่ะเอาตามตรง มีประโยชน์ก็วันนี้ล่ะวะพี่รหัสกู

    “ไม่ใช่คนอื่นนะ ก็ยืนพล็อดรักกับนางฟ้านี่ล่ะ” แล้วก็ได้ฝ่ามืออรหันต์มาอีกหนึ่งทีที่อก

    “ไม่คุยด้วยแล้ว” แล้วนางฟ้าก็หมุนตัวเดินหนีไปแต่ผมไวกว่าคว้าเอวนางฟ้ามากอด

    “อ๊ะ! ปล่อยนะเซฮุน!!”

    “ไม่ปล่อยครับ กว่าจะจับนางฟ้าได้เล่นเอาซะเหนื่อยเลย” นางฟ้าของผมหันมาทำหน้าบึ้งใส่

    “เราไม่ใช่นางฟ้านะ”

    “เป็นนางฟ้าของผมคนเดียวเนอะ” แล้วผมก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าปากแดงๆของนางฟ้าหวานที่สุด!! อยากชิมไปเรื่อยๆ ตลอดไป ทุกวันได้เลยยิ่งดี~~ นางฟ้าของผมคนเดียว

    ...ให้เธอและฉันได้เรียนรู้ ทุกความอบอุ่น ทุกความสุข
    อยู่เป็นคู่กัน ตลอดไป แค่รู้สึกอยู่ว่ารักโอบกอดเราไว้
    ...

    “รักซูโฮนะครับ”
    “เราก็รักเซฮุนนะ”

    ...ให้รู้สึกอยู่ว่ารักโอบกอดเราไว้...








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×