ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Sweet line Project] KrisYeol : My puppy คุณหมาแสนรัก [END]

    ลำดับตอนที่ #4 : My puppy - 4

    • อัปเดตล่าสุด 31 ม.ค. 57


    ยังคงสั่งจองฟิคได้อยู่นะคะ~ 
     
    นี่พูดเลยว่าอิชชี่พี่คริสยังไงก็ไม่รู้ *ซุกอก* #ผิด 55555555
     
    ถ้ามีผู้ชายแบบนี้มาดูแลจริงๆ หัวใจวายตายพอดี TwT ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงหรือคะถึงได้เนี่ย 5555555
     
    สวัสดีปีใหม่จีนค่ะ เฮงๆ ร่ำรวยๆ คิดสิ่งใดสมปรารถนานะคะ รักจากใจ
     

     
    ______________________________
     

     
     
    ชานยอลไม่รู้วิธีการจัดการหัวใจที่เต้นระรัวยิ่งกว่ากลองนี้ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันลดจังหวะลง อีกสักนิดบางทีตัวเขาอาจจะได้เห็นหัวใจของตัวเองออกมาเต้นอยู่ตรงหน้าก็เป็นได้ ตั้งแต่ตอนนั้นชานยอลก็ไม่ได้พูดกับคริสอีกเลย แน่ล่ะใครจะกล้า! แค่หันไปมองหน้าแค่นี้ก็หัวใจสั่นแล้ว!! ก็เลยต้องเงียบมาตลอดทางแยกขึ้นไปเก็บของให้ ส่วนพ่อคนตัวสูงที่ทำให้หัวใจเขาไม่ปกติก็เข้าห้องครัวไปเสียแล้ว
     
    ชานยอลที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้นเท้าคางไว้กับโต๊ะเล็กทีวีแล้วก็กดเปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้บ้านนี้มันเงียบเกินไปก็กลัวว่าใครบางคนอาจจะหูผีจนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นรัวๆน่ะสิ นัยน์ตาคมสีดำสนิท แพขนตายาว ปลายจมูกโด่งกับริมฝีปากบางได้รูปนั้นยังคงติดตาอยู่ไม่ยอมคลาย พอหลับตาลงก็เห็นนัยน์ตาคู่นั้นอยู่ในห้วงความคิด
     
    “โอ๊ยบ้าไปแล้ว!” ชานยอลฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วขยี้ผมไปมา ตัวเขาคงจะบ้าไปแล้วจริงๆนั่นแหละ
     
    “ชานยอลครับ” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกมาพร้อมกับฝ่ามือที่แตะเข้าที่ไหล่ คนที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองก็สะดุ้งโหยง ผงะตัวถอยเลยน่ะสิ คริสหัวเราะเบาๆแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
     
    “มื้อเย็นเสร็จแล้วครับ จะกินเลยไหมครับ” เอ่ยถามไปก็กลั้วเสียงหัวเราะไป ทีนี้คนที่แทบจะล้มกลิ้งกับพื้นก็เกิดอาการเขินอายขึ้นมาทันตาเลย
     
    “กินสิ!” ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินนำลิ่วไปเลย ทิ้งให้คริสยืนหัวเราะขำๆอยู่ตรงนั้นคนเดียว
     
    “สปาเก็ตตี้ครีมซอส!!” พอเดินมาถึงโต๊ะก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอาหารน่าตาน่ากินวางอยู่สองจาน โอเค.. เมนูนี้มันก็ไม่ได้ทำยากอะไรแต่มันก็ดูจะแปลกประหลาดไปหน่อยหรือเปล่าที่น้องไข่หวานจะทำเป็น? หรือโลกนี้มันพลิกเอียงกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว
     
    “โอ๊ะ.. อร่อย!” ลองชิมไปคำหนึ่งก็ต้องยิ่งแปลกใจเมื่อรสชาติมันอร่อยใช้ได้เลย คริสที่เดินตามเข้ามาก็ลงนั่งที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะพร้อมกับรอยยิ้ม
     
    “อร่อยก็กินเยอะๆนะครับ ชานยอลน่ะผอมไปแล้วนะรู้หรือเปล่า” คริสไม่ได้โป้ปดแต่ชานยอลผอมไปจริงๆ ยิ่งช่วงที่มีปัญหากับคนใจร้ายคนนั้นชานยอลก็ยิ่งไม่ค่อยจะกินอะไร แก้มกลมๆที่เขาชอบก็ตอบลงจนน่าใจหาย ตัวเขาตั้งใจแล้วว่าเขาจะขุนให้ชานยอลกลับมาอ้วนเหมือนเดิม
     
    “จริงเหรอ? ผอมจริงเหรอ? ทำไมไม่เห็นรู้สึกเลยนะ” ชานยอลโคลงหัวไปมาก่อนที่จะยักไหล่และเลิกสนใจ
     
    “ช่างเถอะกินข้าวกันดีกว่า”
     
    ชานยอลกับคริสนั่งกินมื้อเย็นด้วยกัน และคริสก็ยิ้มรับคำชมจากชานยอลที่ชมแทบไม่ขาดปากเลยว่าตัวเขานั้นทำอาหารได้อร่อย ไหนจะเมื่อเช้าและตอนนี้อีก คนที่ได้รับคำชมก็ยิ้มไปสิ มันน่าดีใจน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ
     
     
     
    จบมื้อเย็นก็ต่อด้วยยามค่ำคืนที่ชานยอลเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเขาจะให้คริสไปนอนที่ไหน ก็ในเมื่อบ้านหลังนี้เหลือห้องนอนแค่ห้องเดียว จะให้คริสลงไปนอนที่โซฟามันก็ดูไม่ดีและไม่น่าสบายเลย จะให้ไปนอนที่มุมของน้องไข่หวานตามเดิมก็ไม่ได้อีก
     
    “ชานยอลให้ผมลงไปนอนโซฟาข้างล่างก็ได้นะ ผมนอนได้” คริสบอกพร้อมกับที่จะหมุนตัวเดินจะเดินลงไปนอนที่โซฟาข้างล่างจริงๆ
     
    “ไม่ได้ๆๆ นายจะลงไปนอนที่ข้างล่างได้ยังไงกัน!” ชานยอลถลามายืนกางแขนกันไม่ให้คริสเดินไปที่ประตูห้องนอน คริสเลิกคิ้วทำท่าสงสารชานยอลก็เลยเดินมาดันหลังให้คริสเข้าไปอาบน้ำ
     
    “ไม่ต้องมาทำหน้างงเลยก็นอนด้วยกันนี่แหละ ก็นอนด้วยกันทุกคืนจะเป็นอะไรไปล่ะ” ชานยอลดันหลังมาส่งถึงหน้าห้องน้ำแถมพร้อมด้วยบริการหยิบชุดนอนและผ้าขนหนูให้ด้วย
     
    “แต่...” คริสที่รับเสื้อผ้ามาถือแล้วก็จะค้าน ชานยอลยกมือเท้าเอวแล้วถลึงตาใส่
     
    “ตอนนี้ตัวโตแล้วไม่ใช่ฟังกันแล้วใช่ไหม” แล้วทีนี้ใครจะกล้าหืออะไรได้อีกล่ะ
     
    “อาบน้ำเป็นหรือเปล่า ต้องให้เข้าไปอาบให้ไหม” ชานยอลเอียงคอถามไถ่ คริสทำตาโตอย่างตกใจแว่บนึงแล้วก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
     
    “ไม่ต้องหรอก ผมอาบได้” 
     
    “แน่ใจนะ” เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับมาอย่างหนักแน่นชานยอลก็เลยต้องยอมปล่อยให้น้องไข่หวานในร่างคนเข้าไปอาบน้ำเองคนเดียว ปกติเขาก็อาบน้ำพร้อมกับน้องไข่หวานอยู่หรอก ก็อย่างว่าหมาเด็กเวลาอาบน้ำมันก็เลอะใช่ไหมล่ะ? พอเลอะก็เลยอาบมันทั้งหมา ทั้งคนไปเลย ประหยัดน้ำดี
     
     
     
    ไม่นานคริสก็อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จ ชานยอลที่อาบน้ำเสร็จเป็นคนแรกนั่งพิงหัวเตียงดูรายการตลกอยู่บนเตียง พอเห็นคนตัวโตเดินหัวเปียกออกมาก็หัวเราะคิกคักลงจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนมาแล้วเรียกให้คริสไปนั่งรอที่เตียง คริสก็เดินไปนั่งลงที่พื้นข้างเตียงแทนที่จะนั่งบนเตียง ชานยอลหันมาก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าตัวจะนั่งที่พื้นทำไม
     
    “ทำไมไม่ขึ้นไปนั่งบนเตียงล่ะ” ชานยอลเดินกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้สำหรับเช็ดผม คริสที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นก็ยิ้มส่งให้แล้วส่ายหัว
     
    “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเตียงของชานยอลเปียกแล้วจะโดนตี” ชานยอลหัวเราะเสียงร่าเริงเมื่อนึกไปถึงเจ้าอ้วนกลมที่ชอบวิ่งหนีเขามาหลบใกล้ๆเตียงแล้วชานยอลก็จะขู่ว่าถ้าทำเตียงเปียกนะจะตีให้ร้องไห้เลย น้องไข่หวานที่แสนดีก็จะวิ่งหนีไปรอบๆห้องแทน น่ารักซะไม่มีล่ะ!
     
    “ไม่ตีหรอก ใครจะกล้าตีนายกันล่ะ” ชานยอลก้าวขึ้นเตียงแล้วขยับตัวไปนั่งซ้อนหลังของคริสที่นั่งอยู่บนพื้น สองขาคร่อมตัวกั้นคริสเอาไว้ ผ้าขนหนูที่ยังแห้งค่อยๆซับหยดน้ำจากเส้นผมสีน้ำตาลทองนั้นเบาๆ เส้นผมนิ่มสีสว่างค่อยๆถูกซับหยดน้ำช้าๆอย่างเบามือจนเริ่มที่จะแห้ง คริสที่นั่งอยู่นิ่งๆก็ค่อยๆวาดรอยยิ้มออกมา รู้สึกสุขใจและมีความสุข เหนือสิ่งใดคนด้านหลังของเขาก็มีความสุขเช่นกัน
     
    “เสร็จแล้วล่ะ” ชานยอลเอ่ยบอกพร้อมกับเอาผ้าผืนนั้นที่ชื้นน้ำวางไว้บนตัก คริสขยับตัวหมุนกลับไปหาชานยอลแล้วจับสองมือที่วางอยู่บนตักมาแนบแก้มของตัวเอง ฝ่ามือนิ่มที่ค่อนข้างเย็นเพราะชื้นน้ำแนบเข้ากับแก้มอุ่นๆจนรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของคนที่นั่งต่ำกว่า
     
    “ขอบคุณครับชานยอล” คริสส่งยิ้มให้ ชานยอลก็ส่งยิ้มตอบ ดวงตากลมสบเข้ากับดวงตาคมอีกครั้ง ชานยอลขยับปลายเรียวนิ้วไล้ที่แก้มอุ่นเบาๆ
     
    “นอนได้แล้วพรุ่งนี้ฉันมีเรียนนะ” ชานยอลจะดึงมือออกแต่คริสกลับไม่ยอมปล่อย
     
    “พรุ่งนี้ผมไปด้วยได้ไหม” ชานยอลทำท่าคิดมองคนที่อ้อนขออยากไปเรียนด้วย ใบหน้าที่เว้าวอนขอไปด้วยแลดูน่ารักเหมือนตอนที่น้องไข่หวานชอบมาคลอเคลียเวลาที่เขาจะต้องไปเรียนทุกที เพราะถ้าตัวเขาไม่อยู่บ้านน้องไข่หวานก็จะต้องอยู่คนเดียว 
     
    การที่อยู่คนเดียวคงจะเหงามากเลยน่ะสิ ถึงแม้จะไม่มีใครคนนั้นอยู่ด้วยแต่เขาก็ยังน้องไข่หวานคอยอยู่เป็นเพื่อนแต่น้องไข่หวานกลับต้องอยู่บ้านคนเดียวตอนที่เขาออกไปเรียนหรือออกไปเที่ยวกับใครคนนั้น น้องไข่หวานคงเหงามากเลยสินะ
     
    “ไปด้วยก็ได้แต่ต้องทำตัวดีๆนะ รู้ไหม” คริสยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
     
    “ผมจะเป็นเด็กดีครับ รักชานยอลที่สุดเลย” ไม่รู้ทำไมพอได้ยินคำบอกรักกับดวงตาที่เป็นแววประกายตัวเขาถึงได้ใจสั่นแล้วก็รู้สึกเขินแบบนี้นะ
     
    “ปล่อยมือเลยจะนอนแล้ว” ชานยอลดึงมือออก คริสก็ยอมปล่อยมือแล้วหยิบผ้าขนหนูที่ตักของชานยอลมาถือไว้เอง ชานยอลขยับตัวไปลงนอนหันหลังให้บนเตียงในฝั่งของตัวเองทิ้งให้คนร่วมห้องเดินไปปิดไฟให้ และแน่นอนว่าคริสก็รู้หน้าที่ดี เดินไปแขวนผ้าขนหนูกับราวตากในห้องจากนั้นก็ไปเปิดไฟ ชานยอลพลิกตัวไปกดเปิดโคมไฟที่หัวนอนให้ คริสเดินกลับมานอนอีกฝั่งที่ชานยอลเหลือไว้ให้
     
    พื้นเตียงข้างตัวยวบลงเมื่อมีใครอีกคนขึ้นเตียงมานอนด้วย ชานยอลทำตาโตตกใจพยายามซุกตัวให้เล็กที่สุด คริสนอนหันข้างมองแผ่นหลังของชานยอลที่ห่างออกไปเพียงเอื้อมมือ ใจจริงก็อยากที่จะโอบกอดคนตัวบางนั่นแล้วกล่อมให้ฝันดีแต่ทว่าเขาก็ต้องยั้งใจและมือเอาไว้ 
     
    คริสขยับตัวลุกขึ้นดึงผ้าห่มขึ้นห่มตัวของชานยอลไว้ คนที่ยังเกร็งอยู่ก็กลั้นหายใจหลับตาแน่น เมื่อห่มผ้าให้ชานยอลเรียบร้อยคริสก็ลงนอนแล้วยกผ้าขึ้นห่มตัวเองบ้าง ในบรรยากาศที่สลัวและเงียบสงบแบบนี้ตัวเขาก็กลัวว่าเจ้าของห้องที่อาจจะหลับไปแล้วจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาน่ะสิ... ก็หัวใจของเขาเต้นเบาเสียเมื่อไหร่ล่ะ
     
    “ฝันดีนะครับชานยอลของผม” น้ำเสียงทุ้มกระซิบเอ่ยบอกเบาๆท่ามกลางค่ำคืนที่แสนเงียบนี้ ชานยอลที่นอนตัวเกร็งอยู่ก็ค่อยๆคลายความเกร็งลงแล้ววาดรอยยิ้มก่อนที่จะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมกับใครอีกคนที่เป็นเจ้าของประโยคเมื่อครู่
     
     
     
    ...ชานยอลของผม... อย่างนั้นเหรอ? ฟังดูอบอุ่นไม่น้อยเลยนะ
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×