ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Sweet line Project] KrisYeol : My puppy คุณหมาแสนรัก [END]

    ลำดับตอนที่ #3 : My puppy - 3

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 57


    ใครอยากได้เล่มน้อยนี้ก็ดูรายละเอียดได้เลยนะคะ ปิดจองวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557
    http://writer.dek-d.com/bettynoona/story/viewlongc.php?id=898378&chapter=40
     

    ไม่รู้ว่าาจะอยากเป็นพี่คริส หรืออยากเป็นน้องชานยอลดี *ร้องฮร่ายทั้งรอยยิ้ม*
     

     
    __________________________________________
     

     
     
    มื้อนี้ผ่านไปด้วยดี คนที่บอกว่าจะดูแลก็เริ่มทำหน้าที่ทันที ทั้งเก็บจานไปล้างให้ ไหนจะมาจัดการเก็บกวาดครัวให้สะอาดเอี่ยมเหมือนเดิมอีกล่ะ ชานยอลที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ก็ยิ้มกริ่มเลยสิ ก็ไม่คิดหรอกว่านะว่าลูกหมาที่ตัวเขาเลี้ยงมาจะทำตัวน่ารักแบบนี้ ดูๆไปแล้วคริสคนนี้ก็เก่งอยู่พอตัวเลยล่ะนะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีเลยล่ะ มองคนที่ทำความสะอาดอยู่ในครัวแล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเจ้าตัวไม่มีเสื้อผ้านินาก็คงจะต้องพาไปซื้อนั่นแหละ
     
    แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น.. มันอยู่ที่เวลานอนมากกว่า คนตัวสูงยาวนั่นจะนอนที่ไหน? ในบ้านหลังนี้มีห้องนอนสองห้องก็จริงแต่อีกห้องตัวเขาก็ทำเป็นห้องเก็บของไปแล้วเพราะอยู่คนเดียว ถ้าเช่นนั้นก็ต้องนอนด้วยกันน่ะสิ ปกติน้องไข่หวานก็นอนด้วยอยู่แล้วนอกจากจะนอนบนเตียงแล้วยังมีมุมที่นอนเล็กๆให้ด้วยแต่ดูท่าว่าของแบบนั้นคงใช้ไม่ได้แล้วล่ะ 
     
    ถ้าจะว่าไปเขาก็นอนกับน้องไข่หวานแทบจะทุกวัน ถ้าจะนอนกับน้องไข่หวานที่เป็นคนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ
     
    “คริสมานี่ๆ” ชานยอลกวักมือเรียกคริสที่เดินออกมาจากห้องครัวหลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว เจ้าตัวรีบเดินมานั่งที่พื้นข้างๆชานยอลทันที 
     
    “ขึ้นมานั่งข้างบนสิ ตัวก็โตนั่งข้างบนได้แล้วนะ” ชานยอลว่าอย่างขันๆก่อนที่จะดึงแขนของคริสให้ขึ้นมานั่งข้างตัวเอง
     
    “เดี๋ยวเราไปข้างนอกกันนะต้องไปซื้อเสื้อผ้าให้นายด้วย ไหนจะของใช้ส่วนตัวอีกล่ะ” คริสยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
     
    “นายจะอยู่กับฉันในร่างนี้อีกนานหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้แต่.. อย่าเพิ่งทิ้งฉันไปเลยนะ” คริสไล้ปลายนิ้วกับแก้มใสของชานยอลแล้วดึงเจ้าตัวเข้ามากอดแล้วลูบหลังเบาๆ
     
    “ผมจะอยู่จนกว่าชานยอลจะไม่ต้องการผม” ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดมาและถ้อยคำสัญญานั้นเรียกให้ชานยอลยิ้มออกมาได้ ตัวเขาก็หวังไว้แบบนั้น อย่าเพิ่งเอาคริสไปจากเขาเลยนะ
     
    “เดี๋ยวเราออกไปข้างนอกกันเถอะ รอแปบนะขึ้นไปเอาของก่อน” ชานยอลผละตัวออกแล้วชี้นิ้วสั่งก่อนที่จะลุกขึ้นวิ่งขึ้นไปหยิบกระเป๋าเงินบนห้องนอน พอเดินลงมาก็เห็นว่าคริสกำลังเดินดูกรอบรูปต่างๆในบ้านอยู่
     
    “ไปกันเถอะ” เมื่อเรียบร้อยแล้วชานยอลก็พาคริสออกจากบ้านทันที 
     
    ชานยอลโบกแท็กซี่ให้พาไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าในละแวกใกล้บ้าน ตัวเขาขับรถไม่เป็นเพราะฉะนั้นก็เลยไม่มีรถยนต์จะมีก็แต่จักรยานที่ใช้ปั่นเวลาไปเรียนเท่านั้น เพียงไม่นานทั้งสองก็มาถึงห้างสรรพสินค้า ชานยอลเดินนำคริสเข้าไปด้านในตัวห้าง 
     
    วันนี้มีคนมาเดินเที่ยวเยอะมากพอสมควรอาจจะเพราะวันนี้เป็นวันหยุดก็ได้ล่ะมั้งเลยทำให้มีคนมาเดินเที่ยวตากแอร์ในนี้เยอะมากเป็นพิเศษ ดวงตาโตหันไปมองคริสที่มองซ้ายหันขวาแล้วก็เลยเลื่อนมือไปจับกับมือของคริส เจ้าตัวหันมามองชานยอลก็เลยส่งยิ้มไปให้
     
    “จับมือไว้จะได้ไม่หลง ขนาดตอนเป็นลูกหมายังวิ่งซนจนหลงเลยเป็นคนก็คงไม่ต่างกันหรอก” คริสหัวเราะแล้วกระชับมือที่จับกันอยู่ให้แน่นๆ
     
    “ถ้าอย่างนั้นชานยอลก็อย่าปล่อยมือผมนะ” ด้วยถ้อยคำและสายตาอ้อนวอนนั้นก็ทำเอาคนฟังแทบจะเขินจนตัวจะระเบิดอยู่แล้ว ชานยอลหันกลับมาแล้วก็เดินนำลิ่วๆจูงมือคนด้านหลังให้ตามมาโดยที่ไม่หันกลับไปมองอีกเลย คริสที่มองอยู่ก็ระบายยิ้มออกมา ถึงไม่ต้องบอกก็รู้หรอกว่าคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าน่ะเขินอายแค่ไหน ก็แก้มกลมๆนั้นกำลังเจือสีแดงอยู่น่ะสิ..
     
     
    ชานยอลพาคริสพาไปเลือกเสื้อผ้าก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากจะเลือกให้คนตัวโตแล้วก็เลือกให้ตัวเองด้วย ถ้าจะว่าไปตัวของชานยอลไม่ค่อยได้ออกมาช้อปปิ้งอะไรมากมายนักหรอก เงินที่ใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการกินแล้วก็ค่าเล่าเรียนเสียมากกว่าแต่วันนี้ถือว่าเป็นวันพิเศษเพราะฉะนั้นก็เลยไม่คิดอะไรให้ยุ่งยาก คริสก็ได้แต่เดินตามต้อยๆ ยืนนิ่งๆเป็นหุ่นให้ชานยอลหยิบจับเสื้อตัวนั้นที ตัวนี้ทีมาลองทาบดู คนที่ยืนเป็นหุ่นก็ไมได้ว่าอะไร เพียงแค่เห็นคนตรงหน้ายิ้ม ตัวเขาก็ยิ้มตามไปด้วย
     
    เข้าออกร้านนั้น ลองเสื้อผ้าร้านนี้กันเป็นว่าเล่นเลย ชานยอลสนุกที่ได้ลองแกล้งน้องไข่หวานที่เป็นคนและคริสเองก็สนุกที่ชานยอลมีความสุข ชานยอลเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตาจริงๆนั่นแหละ ชานยอลหันไปหยิบเสื้อผ้ามาลองทาบที่ตัวของคริสแล้วบอกให้เจ้าตัวถือไว้ก่อนที่จะหันไปหยิบอีกตัวที่เป็นไซส์ของตัวเองแต่แบบเดียวมาลองทาบที่ตัวเองดู
     
    “ตัวนี้ดีไหม นายว่าไง” คนโดนถามมองเสื้ออีกตัวที่ชานยอลเอามาทาบที่ตัวเองแล้วก็ยิ้ม แหงล่ะก็มันเป็นเสื้อคู่นี่นะเขาก็ต้องตอบว่าดีน่ะสิ
     
    “ดีครับ” ชานยอลหันกลับมายิ้มตอบเมื่อได้ยินคำตอบที่ถูกใจ และเป็นอันว่าเสื้อสองตัวที่เหมือนกันนี้ก็ได้ไปอยู่ในมือของพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
     
    “ซื้อของเสร็จเรากลับไปทำมื้อเย็นกินที่บ้านนะ ฉันไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน” ชานยอลที่กำลังเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์หันกลับมามองผู้ชายตัวสูงที่เดินตาม
     
    “ได้ครับ ชานยอลว่าไงผมก็ว่าตาม” ชานยอลยิ้มกริ่มแล้วก็หันกลับมาจัดการจ่ายเงิน ถุงเสื้อผ้าทั้งหลายก็คริสก็แย่งมาถือเสียหมด ชานยอลจะช่วยแบ่งมาถือเจ้าตัวก็ไม่ยอม ก็เลยต้องยอมให้เจ้าตัวถือไปคนเดียว
     
    “เดี๋ยวลงไปซื้อของใช้ของนายแล้วก็ซื้อของเข้าบ้านกันนะ” ชานยอลเกี่ยวแขนของคริสไว้ ก็ไม่มือให้จับก็จับแขนไว้ก็ได้ เดี๋ยวหาย
     
    “เย็นนี้ชานยอลอยากกินอะไรเดี๋ยวผมทำให้” คนโดนถามทำหน้าคิดก่อนที่จะยิ้มออกมา
     
    “สปาเก็ตตี้ .. ว่าแต่นายทำเป็นเหรอ?” คริสยิ้มแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้
     
    “เดี๋ยวก็รู้ครับ” คนที่โดนมองจ้องซะใกล้ก็เกิดอาการตัวร้อนๆ ใจสั่นไปหมดก็เลยหันไปมองรอบรอบตัวแล้วก็ลากคนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแปลกๆไปต่อคิวที่ร้านไอศกรีมซะเลย
     
    “กิน... กินไอติมกันนะ” คริสกระตุกยิ้มบางๆแล้วเดินตามไปยืนข้างๆ 
     
    “นายจะกินอะไร” ชานยอลหันไปถามเมื่อถึงคิวของตัวเองแล้ว แต่คริสก็ยกสองมือให้ดูว่าไม่มีมือถือถ้วยไอศกรีมหรอกนะ ชานยอลยู่หน้าใส่
     
    “ถามว่าจะกินอะไรไม่ได้จะให้ถือสักหน่อย! ไม่ต้องกินเลยไป” 
     
    แล้วคริสก็ไม่ได้กินไอศกรีมจริงๆ ชานยอลเดินถือถ้วยไอศกรีมแล้วก็ตักกินคนเดียว ไม่เผื่อแพร่คนข้างตัวที่เดินยิ้มตามหลังมาด้วยเลย แต่ด้วยความที่เป็นห่วงกลัวว่าคนที่เดินตามจะน้อยใจเพราะน้องไข่หวานตัวอ้วนกลมเป็นบ่อยๆเวลาที่ชานยอลลืมให้อาหารหรือลืมพาออกไปวิ่งเล่น เจ้าตัวกลมก็จะทำเมินไม่ยอมเข้ามาหาทุกที
     
    “อ่ะ กินสิแล้วจะมาทำงอนอีกไม่ได้นะ” ชานยอลหยุดเดินแล้วตักเนื้อครีมเย็นสีสดใสของไอศกรีมส่งให้คนที่ก้าวเดินมาหยุดอยู่ข้างตัว แม้จะทำหน้าแปลกใจแต่คริสก็ยอมอ้าปากรับไอศกรีม
     
    “ตอนเป็นลูกหมาชอบงอน ตอนเป็นคนถ้างอนมากๆจะตีให้หลังลายเลยคอยดู” ชี้นิ้วคาดโทษพร้อมทำหน้าดุใส่แต่ยังไงคนมองก็ไมได้มองว่ามันน่ากลัวเลยสักนิด
     
    “ใครจะกล้างอนชานยอลกันล่ะครับ” ชานยอลยักไหล่แล้วก็หันหน้าหนีรอยยิ้มกว้างๆที่ส่งมาให้
     
    “ก็ดีแล้ว เอ้าช่วยกินหน่อย” แล้วชานยอลก็ตักไอศกรีมป้อนคริสไปตลอดทางที่เดินไปด้วยกัน
     
     
    หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าเสร็จก็ต้องซื้อพวกของใช้ส่วนตัวให้คนร่วมบ้านคนใหม่แล้วก็ของสดเพื่อตุนไว้ทำอาหารอีก คริสก็เดินเข็นรถเข็นตามหลังชานยอลที่ทำหน้าที่หยิบตามรายการที่ลิสต์ไว้ในหัว หยิบจับโน้นนี่นั่นด้วยความเคยชินและไม่ต้องถามคนข้างหลังสักคำจนได้ของที่ครบตามต้องการนั่นแหละ ชานยอลก็เลยเดินไปยังส่วนของของใช้ส่วนตัวแล้วหันไปมองคนที่เดินตามเข้ามา
     
    คริสก็เหมือนจะรู้ว่าควรต้องมาช่วยกันเลือกแล้ว เดินมาช่วยกันเปิดฝาขวดดมไป ดมมาก็พาลจะมึนกันเอา ก็เลยตัดสินใจเอาแบบที่คนพามาเลือกใช้นั่นแหละดีกว่าและดูจะเซฟที่สุดแล้ว ชานยอลที่กำลังจะเดินไปหยิบก็ด้วยความซุ่มซ่านเลยเดินสะดุดเข้าให้ อ้อมแขนยาวก็ตวัดกอดรัดชานยอลไว้
     
    ก็ไม่อาจรู้ว่าด้วยเวทมนต์กลใดทำให้ชานยอลกับคริสได้ประสายตากัน มองสบสายตา มองจ้องกันและกัน แล้วพาลอะไรในอกก็สั่นไหวระรัวยิ่งกว่าจังหวะกลอง ใบหน้าคมในสายตาค่อยๆก้มหน้าลงต่ำพร้อมกับมือที่โอบกระชับให้แนบชิด ก้มลงมาใกล้จนห่างกันเพียงคืบ ชานยอลหันหน้าหนีเมื่อคริสยังก้มหน้าลงมาต่ำ ปลายจมูกโด่งเฉียดแก้มใสไปเพียงนิด เลยผ่านไปยังใบหูขาวที่เริ่มแดงระเรื่อ
     
    “ระวังหน่อยสิครับ” เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่เสียแทบชิดก็ทำเอาคนโดนกอดแนบซะทั้งตัวไปไม่เป็น ชานยอลที่กำแขนเสื้อของคนกอดไว้ก็พยักหน้ารับอย่างคนสติไม่ค่อยจะอยู่กับตัว คริสหัวเราะในลำคอก่อนที่จะค่อยๆดันตัวของชานยอลออก
     
    “ชานยอลครับ” คริสลูบแก้มของชานยอลเบาๆ คนที่โดนปลายเรียวนิ้วสัมผัสที่แก้มก็สะดุ้งนิดหน่อยแล้วก้าวเท้าถอยหลัง ทำหน้าตาเหรอหรา ยกมือเกาหัวตัวเองแล้วก็หันหลังไปยกสองมือปิดหน้าซะเลย ชานยอลขยี้ผมตัวเองพร้อมกับย้ำสองเท้าไปมา แต่เหนือสิ่งใดไอ้อาการที่หัวใจเต้นเร็วซะจนแทบทะลุอกนี่ล่ะ.. เรื่องใหญ่แล้ว
     
    คริสที่มองอยู่ก็ยิ้มขำแล้วก็พาลไปคิดถึงคนที่เคยเห็นหน้าคนนั้น คนที่โชคดีคนนั้น คนที่ได้ใจของคนน่ารักตรงหน้าเขาไปครอง คนที่เขาเคยอิจฉาอยู่ลึกๆ ตัวเขาเฝ้ามองทั้งชานยอลและใครคนนั้นอยู่นานแล้ว จนตัวเขาได้รับโอกาสที่ดีแบบนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยมันไปเด็ดขาด
     

    คนน่ารักตรงหน้าของเขาต้องได้รับการปกป้อง การถนุถนอมมากกว่าที่โดนทำร้ายจิตใจแบบนั้น.. เขาทนไม่ได้จริงๆ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×