ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกก มีใครยังรอและคิดถึงอยู่ไหมคะะะะะะะะะะะะะะ
หวังว่าทุกคนจะยังรอเราอยู่นะคะ *ร้องฮร่าย*
________________________________________________
เมื่ออีกฝ่ายไม่รับสาย ตัวเขาก็ได้แต่กดวางสายแล้วก็มองหน้าจออยู่แบบนั้น นี่เป็นมาอาทิตย์กว่าแล้วนะที่ชานยอลไม่รับสายเขาเลย ไม่ว่าจะโทรไปหรือส่งข้อความไป แต่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบกลับมาเลย อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ กลัวว่าจะเป็นอะไร กลัวว่าจะร้องไห้อยู่คนเดียว
“เฮ้อ...” คิดไปก็เท่านั้น วางมือถือลงกับโต๊ะแล้วก็จัดการกินข้าวเที่ยงตรงหน้าให้หมดก่อนที่จะหมดเวลาพักของเขาเสียก่อน
“ไงไอ้เทามานั่งทำหน้าแพนด้าป่วยอะไรตรงนี้วะ” เสียงเรียกมาพร้อมกับฝ่ามือที่ตบเข้าที่หลังไม่เบานัก พอหันไปเห็นก็เจอเข้ากับหัวหน้าของเขาที่ยืนยักคิ้วส่งมาให้
“แล้วหัวหน้ามากินข้าวเหรอ”
“เออสิ นี่มันพักเที่ยงนะเว๊ย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า งานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเสร็จแล้วนิ จะไปก็ได้นะ” ก็เพราะรู้น่ะสิว่าลูกน้องเขาน่ะชอบแอบแว่บออกไปหาคนสำคัญของมัน ดีที่ว่างานที่ส่งให้ไปนั้นไม่เคยผิดพลาดและมันก็ออกมาดีเกินคาด เพราะฉะนั้นจะไปว่ามันก็ไมได้ ถ้ามากไปก็ต้องเตือน แต่นี่ก็เห็นอยู่ติดโต๊ะมาเป็นอาทิตย์แล้วเนี่ย ก็เลยเกิดอาการสงสัย
“ไม่ดีกว่าครับหัวหน้า ผมกลัวไปเจอแจ็คพ็อตเข้า” ถ้าเขาไปแล้วชานยอลอยู่กับคริส แน่นอนว่าคนลำบากก็คือตัวชานยอลเองนั่นแหละ เขาไม่อยากทำให้ชานยอลลำบากใจ
“อย่าไปซีเรียสดิวะเฮ้ย รักเขาชอบเขาก็ลุยไปเลย!! กลัวอะไรวะ” อยากจะโน้มตัวไปตบไหล่ลูกน้องที่อยู่ตรงข้ามอยู่หรอกนะ แต่พอดีแขนสั้นไงตบไม่ถึง เอาแต่คำพูดไปก็แล้วกันนะ
“แต่ว่าผม...”
“จะไปกังวลอะไรวะ ถ้ามัวแต่ชักช้าเสียเขาไปตลอดชีวิตจะหาว่าพยอนแบคฮยอนไม่เตือนนะเว๊ย!!”
...นั่นสินะ ถ้าเอาแต่ชักช้าบางทีเขาอาจจะเสียชานยอลไปตลอดกาลก็ได้...
ก็กะว่าจะแอบไปหาสักหน่อยก็ดันมีงานด่วนขึ้นมา ต้องเข้าประชุมด่วนเพราะเหมือนว่านิตยสารที่กำลังจะตีพิมพ์นั้นมีปัญหาเลยต้องประชุมกันเพื่อแก้ไข เทารับหน้าที่แปลข่าวจากต่างประเทศแล้วก็พิสูจน์อักษร เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาถึงต้องเข้าร่วมประชุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ก็ได้แต่หวังว่าการประชุมนี้จะจบโดยไวเพราะยังไงเขาก็อยากไปหาชานยอลอยู่ดี ก่อนที่จะเข้าห้องประชุมเทาส่งข้อความไปหาชานยอลอีกรอบก่อนที่จะปิดเสียงแล้วเข้าประชุมไป ก็หวังว่าอีกคนที่ได้รับข้อความจะอ่านมัน
การประชุมดำเนินไปจนถึงช่วงเย็น หลังจากเลิกประชุมได้เทาก็รีบหลบออกจากห้องประชุมทันที เพราะหัวหน้าใหญ่ทำท่าจะขวนไปเลี้ยงมื้อเย็นแล้วแน่นอนว่าอาจจะได้มีคุยงานต่อ ทิ้งเรื่องงานไว้ให้เป็นงานของหัวหน้าแบคฮยอนดีกว่า
เทาขับรถมินิคูเปอร์สีดำของตัวเองไปเรื่อยๆไม่รีบร้อย เพราะถึงรีบไปยังไงถ้าชานยอลไม่ลงมาเขาก็ไม่เจออยู่ดี ช่วงเย็นชานยอลจะต้องลงมาซื้อของเพื่อทำมื้อเย็นแน่ๆ จากที่ดูเวลาแล้วอาจจะเป็นช่วงท่ชานยอลเดินกลับ เอาน่า.. ขอให้ได้เจอสักนาทีก็ได้ ขอถามไถ่แล้วก็ขอดูให้เห็นกับตาว่าชานยอลสบายดี แค่นี้เขาก็พอใจแล้วล่ะ
ถ้าชานยอลยังยิ้มได้ เขาก็จะยิ้ม
ถ้าชานยอลมีความสุข เขาก็มีความสุข
เมื่อขับรถมาถึงคอนโดที่ชานยอลอยู่กับคริสแล้ว เทาก็เลือกที่จะวนรถไปจอดที่ฝั่งตรงข้ามแล้วนั่งรถชานยอลในรถ ลองกดโทรหาอีกคนก็ไม่รับสาย ถ้าว่ากันตามตรงเขารู้สึกตงิดใจพักใหญ่ๆแล้วล่ะว่าชานยอลกำลังเปลี่ยนไป จะต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆคนตาโตถึงไม่ยอมรับสายเขา ชานยอลไม่เคยไม่รับสายเขา มันแปลกมากเกินไป
นั่งรออยู่ไม่นาน ชานยอลก็เดินกลับจากการไปซื้อของพอดี เรือนร่างบางในกรอบสายตาของเทาดูผอมลงไปนิดหน่อยเลยยิ่งทำให้คนตัวบางนั้นผอมบางกว่าเดิม เทาลองกดต่อสายหาใครอีกคนดูก็เลยชานยอลหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ขมวดคิ้วลังเลว่าจะกดรับดีไหม...
แต่แล้วชานยอลก็เลือกที่จะปล่อยให้มันดังแบบนั้นต่อไปโดยที่ไม่กดรับและไม่กดตัดสาย เทาลงจากรถแล้วเดินข้ามฟากไปหาชานยอลทันที ดวงตากลมโตที่เห็นใครอีกคนยืนอยู่ตรงหน้าก็เบิกตากว้างอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าเทาจะบุกมาหาถึงที่นี่ ถ้าตัวเองไม่โทรเรียกให้มาเทาก็ไม่เคยมาหาที่นี่สักครั้ง
ใบหน้าของเทาที่มองมานั้นดูโกรธมาก ชานยอลก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา ดวงตาดุของเทาที่มองมามันดูทั้งโกรธและตัดพ้อยิ่งนัก
“ทำไมไม่รับสาย” คำถามแรกที่รอดจากปากเทา คนถามไม่ได้ถามด้วยอาการโกรธเกรี้ยวแต่ถามด้วยความเป็นห่วงเสียมากกว่า ชานยอลที่หันหน้าหลบสายตาก็เอาแต่กัดปากไม่กล้าพูดอะไร
“ชานยอลตอบ”
“ก็ไม่มีอะไร.. คริสอยู่นะเทารีบกลับเถอะ” ชานยอลมองสอดส่ายสายตาไปยังด้านหลังเทาที่เป็นทางเข้าออกของคอนโด ก็กลัวว่าคริสจะลงมาตามนั่นแหละ
“มันอยู่เหรอ? นายถึงไม่รับสายฉันใช่ไหม” ชานยอลกัดปากอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้า
“อืม ถ้าฉันรับสายแล้วคริสรู้.. เขา...” เทาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“โอเค ฉันทำให้นายลำบากใจสินะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะเทา อย่าเข้าใจผิดสิ” ชานยอลลืมตัวขยับเข้าใกล้แล้วจับแขนของเพื่อนเอาไว้ เทาหันหน้าหนี เพราะถ้าให้พูดตรงๆเขาเจ็บปวดเกินกว่าที่จะมองชานยอลได้จริงๆ
“เอาเถอะ นายสบายดีแค่นี้ฉันก็หายห่วงแล้ว ไปล่ะ” เทาดึงแขนออกจากมือชานยอลแล้วเดินกลับไปที่รถ
“เดี๋ยวก่อนเทา!” ชานยอลวิ่งไปหาเทาแล้วดึงข้อมือเพื่อนไว้ เทาหันมามองแล้วก็ยิ้มให้ แต่เป็นรอยยิ้มที่ชานยอลมองยังไงก็ฝืนอยู่ดี
“ขอโทษฉันไม่กล้ารับสาย ฉันกลัวคริส...” เทายกมือขึ้นแล้วลูบหัวชานยอลเบาๆ
“เข้าใจแล้ว ถ้ามีอะไรก็ส่งข้อความมาก็แล้วกันนะ ไปก่อนนะ” ชานยอลช้อนตามองเทาที่ส่งยิ้มมาให้แล้วก็ค่อยๆยิ้มตาม เทาใช้หลังนิ้วชี้ลูบแก้มของคนที่กำลังส่งยิ้มมาให้เขาเบาๆ
“โกรธฉันหรือเปล่า”
“ฉันไม่เคยโกรธนายชานยอล” แต่ฉันโกรธตัวเองที่ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ต่างหาก... แน่นอนว่าประโยคหลังเทาพูดในใจไม่อาจหาญพูดมันออกไปหรอก
“กลับดีๆนะ” ชานยอลยกมือขึ้นโบกลา เทาก็หัวเราะเบาๆแล้วยื่นมือไปขยี้ผมของชานยอลเบาๆ
“ถ้าถึงแล้วจะส่งข้อความบอกแล้วกันนะ” ชานยอลพยักหน้ารับ เทาก็เดินผละออกไป
“พลอดรักกันเสร็จแล้วเหรอ? น่าจะมีต่ออีกหน่อยนะ” แต่เสียงทุ้มที่ดังขึ้นก็ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ชานยอลกับเทาหันไปมองก็เห็นคริสยืนกอดอกมองอยู่นานแล้ว
“คริส! มันไม่มีอะไรนะ” ชานยอลรีบเดินไปหาคริสทันที คริสก็แค่ปรายสายตามองแล้วยกยิ้มมุมปากเท่านั้น
“เหรอ? แต่ที่ได้ยินกับที่เห็นนี่มันไม่ใช่นะ ฉันบอกไว้ว่ายังไงชานยอล” คริสไม่ได้แตะต้องตัวชานยอลแต่สายตาคมที่มองมานั้นช่างบาดลึกกรีดไปทั้งใจ
“เฮ้ย มึงเข้าใจผิดนะเว๊ยคริส กูไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น” คริสปรายตาหันไปมองเทา
“แล้วมาแถวนี้ทำไม คอนโดมึงไม่ได้อยู่ที่นี่นิ ขับรถผ่านมาหรือไง? ตลกดีนะ”
“คริสขึ้นห้องกันเถอะนะ” ชานยอลควงแขนคริสแล้วพยายามจะพาให้ขึ้นห้องแต่คริสกลับสะบัดแขนออก
“ทำไมกลัวฉันรู้หรือไงว่าจะนัดทำอะไรๆกัน ชานยอลนายเป็นของฉันนะ!!” คริสบีบต้นแขนของชานยอลแน่นจนชานยอลเบ้หน้า ของที่ถือมาก็หล่นลงพื้น
“ไอ้คริสมึงปล่อยชานยอล มึงไม่เห็นหรือไงว่าชานยอลเจ็บ” เทาเข้ามาแกะมือของคริสให้ปล่อยชานยอลออก แต่คริสก็ไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังจะบีบเรียวแขนนั้นให้แรงกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
“ไอ้คริสกูบอกให้ปล่อย!” คริสปรายสายตามองเทาก่อนที่จะปล่อยมือจากชานยอลจริง คริสผลักชานยอลให้ถอยก่อนที่จะผลักอกเทาแรงๆแล้วซัดหมัดเข้าที่มุมปากหนึ่งทีถ้วน
“กูก็ปล่อยแล้วไง” คริสกระตุกยิ้มแล้วเอียงคอซ้ายขวายั่วเย้าอารมณ์โกรธของเทา
“ไอ้คริสมึง!” เทาใช้หลังมือปาดเลือดที่มุมปากก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่คริสแล้วซัดหมัดเอาคืน
“หยุด!! เทาหยุดเดี๋ยวนี้!!!” ชานยอลวิ่งเข้าไปแทรกกลางแล้วดันเทาออก เทาที่เงื้อมหมัดจะชกคริสอีกครั้งก็ต้องชะงักมือไว้ เพราะไม่เช่นนั้นคนที่จะโดนก็คือชานยอลเองนั่นแหละ
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะเทา!” ชานยอลผลักเทาให้ออกห่างแล้วตีหน้าดุใส่ เทาเองก็มองชานยอลด้วยสายตาตัดพ้อ
“คริสเจ็บมากหรือเปล่าขึ้นห้องกัน เทากลับไปก่อนนะ” ชานยอลพูดกับเทาแต่ไม่ได้หันหน้ามามองคนที่พูดถึงเลยสักนิด ชานยอลประคองคริสให้เดินเข้าคอนโดไป คริสที่ปาดเช็ดเลือดที่มุมปากก็หันกลับมายิ้มเยาะเทา
เทาที่ยืนมองชานยอลประคองคริสไปก็ยิ่งปวดใจ เขาก็เจ็บเหมือนกัน ไม่ได้เจ็บแค่ตัวแต่เจ็บที่ใจด้วย ทั้งๆที่เขาจะช่วยแท้ๆแต่ทำไมชานยอลถึงมองไม่เห็นเขาบ้างเลย หยดน้ำตาลูกผู้ชายหยดผ่านแก้มไปหนึ่งหยด แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะบรรยายความเจ็บปวดในใจของคนที่หัวใจถูกกรีด
ถุงและข้าวของต่างๆถูกเทาเก็บให้เหมือนเดิมแล้วเดินเอาขึ้นไปคืนที่ห้อง สองมือที่หิ้วถุงพวกนั้นกำแน่นจนเส้นเลือดที่ข้อมือปูดขึ้นมา เขากำลังระงับอารมณ์ไม่ให้ตัดพ่อคนตากลมไปมากกว่านี้ แค่เท่านี้เทาก็เห็นแล้วว่าชานยอลไม่เคยมองและไม่เคยเลือกเขาเลย
ฮวางจื่อเทาแพ้อู๋อี้ฟานแบบหมดรูปเลยล่ะ
เมื่อถึงหน้าห้องเทาแขวนถุงเหล่านั้นเข้ากับที่เปิดประตู ตัดสินใจอยู่ว่าจะเคาะประตูเรียกดีไหม แต่ก็ชะงักมือได้ทัน เขาไม่อยากรบกวนเวลาของชานยอล ชานยอลที่มีความสุข ชานยอลที่มีรอยยิ้มน่ารักๆ นั่นคือสิ่งที่เทาต้องการ
ทำไมนะเวลาที่เขาจะฮึดทำอะไรสักอย่าง สวรรค์ต้องกลั่นแกล้งเขาทุกครั้ง เขาเป็นคนบาปมากเลยหรือ? ถึงไม่สมหวังในรัก หรือเพียงเพราะเขาแอบรักเพื่อนสนิทของเขา เขาถึงได้ต้องมาทนทุกข์ใจแบบนี้
“ขอโทษนะชานยอล แต่ฉันเลิกรักนายไม่ได้แล้ว” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่เทาจะเดินจากมา เขาคงต้องหยุดเดินเพื่อที่จะคอยมองรอยยิ้มของชานยอลอยู่ที่เดิม เพราะเขายิ่งก้าวมากเท่าไหร่ ชานยอลก็ยิ่งถอยห่างจากเขามากเท่านั้น
บางทีตอนนี้เขาคงต้องกลับไปรักษาแผลของตัวเองเสียก่อน เพราะเขาไม่มีคนมารักษาให้เหมือนคนหลังบานประตูนี้หรอก
“เดี๋ยวฉันทำแผลให้นะ” ชานยอลผละไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล แต่คริสเดินตามไปปัดมันทิ้ง
“อ๊ะ!!”
“ถ้าไม่ลงไปเห็นเองคงจะเล่นชู้กับมันไปอีกนานเลยสินะ” น้ำเสียงที่เย็นเหยียบถูกสาดใส่ชานยอล ดวงตาคมดุมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเย้ยหยัน มุมปากก็กดลงต่ำอย่างนึกระอา
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะคริส ฟังฉันก่อน” ชานยอลคว้าจับมือของคริส แต่เจ้าตัวสะบัดออก
“ไม่ใช่อะไรก็เห็นๆกันอยู่ หรือจะต้องให้เห็นว่าไปนอนกับมันก่อนอย่างนั้นเหรอ?” ชานยอลยกมือขึ้นหมายว่าจะตบเข้าให้สักฉาดแต่ก็ทำไม่ลง ได้แต่กำมือแล้วทิ้งลงข้างตัว
“ทำไม? จะตบเหรอ? ก็ตบสิแล้วฉันจะเอาคืนให้เจ็บกว่าที่นายตบอีก!” ชานยอลที่กั้นน้ำตาไว้จนขอบตาแดงกร่ำมองค้อนใส่แล้วเดินหนีออกมา กะว่าคืนนี้เขาจะเป็นฝ่ายไปนอนที่อื่นบ้างถ้าคริสยังพูดจาไม่รักษาน้ำใจแบบนี้ เขาจะลองทำตัวให้เหมือนคริสบ้าง
“จะไปไหน!! จะไปหามันใช่ไหม!!!” คริสตามมาคว้าข้อมือชานยอลแล้วกระชากเข้าหาตัว มือใหญ่ของคริสกำรอบข้อมือของชานยอลแล้วบีบแรงจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำ
“ปล่อยนะ!!! ฉันจะไปหาใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายห๊ะคริส!!” มือข้างที่โดนบีบก็พยายามสะบัดมือให้หลุด ส่วนอีกข้างก็ทุบที่อกคริสหนักๆเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อย
“ลืมไปแล้วหรือไงว่านายเป็นของฉัน!! ปาร์คชานยอล!!!”
“แล้วทำไมทีนายยังไปนอนกับคนอื่นได้เลยทำไมฉันจะทำบ้างไม่ได้!” ใบหน้าของชานยอลเริ่มแสดงความโกรธ คริสก็ยิ่งโกรธจนหน้ามืดตามัวไปหมด ตอนนี้ทั้งคู่กำลังร้อนและคงจะไม่มีสิ่งใดดับมอดอารมณ์โกรธนี้ที่ปะทุได้
“คงจะลืมไปแล้วสินะว่านายเป็นของฉันชานยอล หึ.. ดีต่อจากนี้ก็อย่าได้ออกไปไหนอีกเลย!!!”
“คริสปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะ!!!!” ชานยอลพยายามแล้วที่จะไม่ถลาไปตามแรงฉุดลากแต่ตัวเองก็แรงน้อยเกินกว่าที่จะต้านทาน คริสลากชานยอลให้เดินตามเข้ามาที่ห้องนอนแล้วเหวี่ยงชานยอลอย่างแรงไปที่เตียง คนที่โดนเหวี่ยงมาก็จุกตัวงอจนพูดไม่ออกเลย คริสเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าค้นอะไรบางอย่างออกมา
“คริสไม่เอานะ” ชานยอลเอ่ยห้ามด้วยเสียงแผ่วเบา มองสิ่งที่คริสถือมาด้วยอาการใจสั่น ตอนนี้ชานยอลเริ่มกลัวแล้วกลัวว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาคิด
“ฉันคงต้องย้ำสินะว่านายเป็นของฉัน” คริสจัดการล็อคข้อเท้าของชานยอลด้วยโซ่ลามแล้วนำปลายอีกด้านไปล็อคไว้ที่ขาเตียง สายของโซ่นั้นยาวพอที่จะให้ชานยอลเดินอยู่ในห้องได้แต่ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้
“คริสไม่เอาแบบนี้” แม้น้ำตาจะไหลรินจนแทบหมดตัว คนโกรธก็ไม่คิดที่จะเอามันออก คริสมองชานยอลที่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วก็กระตุกยิ้ม
“ไงยังจะไปหามันได้อีกไหม” คริสคร่อมทับตัวชานยอลแล้วโน้มหน้าลงใกล้แต่ชานยอลเบี่ยงหน้าหนี ปลายเรียงนิ้วแข็งบีบคางชานยอลให้หันกลับมาหา
“จำเอาไว้อย่าคิดที่จะหนีไปหาคนอื่นอีก”
คริสป้อนจูบที่รุนแรงมาให้ จูบที่ไร้ซึ่งความหวานและความรัก หยดน้ำตาที่ไหลรินไม่ได้ช่วยให้อารมณ์โกรธของคริสทุเลาลงเลย ความเจ็บปวดและความขมขื่นที่ถูกยัดเหยียดมาให้ยิ่งทำให้ชานยอลเจ็บปวดในใจมากเข้าไปอีก หัวใจโดนบีบสลายไม่มีชิ้นดี
ชานยอลเป็นคนที่มีหัวใจและความรู้สึก แต่ทำไม.. เขาถึงโดนกระทำแบบนี้ โดนกระทำแบบที่เขาไม่ใช่คน ไม่มีความรู้สึก และไม่มีหัวใจ
คริสใจร้าย.. เขารู้มานานแล้ว คริสทำให้เจ็บช้ำ... เจ็บทั้งตัวและหัวใจ ชานยอลรักคริส แล้วคริสรักชานยอลแบบที่ชานยอลรักหรือเปล่า ความรักของเรายังเป็นแบบเดียวกันอยู่หรือเปล่า
ความรัก ความอ่อนโยน ความหอมหวานในรักมันหายไปไหนเสียแล้ว ชานยอลที่โดนยัดเหยียดความเจ็บปวดมาให้ถึงกับร้องไม่ออก ทั้งจุกที่ช่องท้อง เสียดที่หัวใจและด้านล่างที่โดนล่วงล้ำแบบไม่สนใจใยดี คริสไม่ปราณีเขาเลยแม้สักนิด ไม่ผ่อนปรนให้เขาเลยแม้สักหน่อย เจ็บไปทั้งตัว
ยามที่คริสลากริมฝีปากผ่านตัวเขาไป มันจะทิ้งรอยกัดไว้ด้วย รอยที่ห้อเลือดและบางทีก็เลือดซิบ ชานยอลดันไหล่ของคริสให้ออกห่าง แต่เจ้าตัวกลับสนใจที่จะทำร้ายเขามากกว่าเขาที่ได้แต่นอนส่งเสียงสะอื้น
ความเจ็บยังคงแล่นริ้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
แก้วใบใสใบเดิมที่อยู่หมิ่นเหม่ขอบโต๊ะ ตอนนี้มันตกลงแตกกระจายอยู่ที่พื้นเสียแล้ว
เศษแก้วชิ้นน้อยใหญ่กระจัดกระจายไปทั่ว ถ้าผู้คนที่มองไม่เห็นและเดินเหยียบมัน.. มันก็จะตำให้เจ็บปวดและที่แผลก็จะเลือดไหลแสบไปถึงทรวง
เศษความรักและความทรงจำดีๆที่แสนมีค่าแตกสลายไปแล้ว คริสจะรู้บ้างหรือเปล่านะว่าชานยอลร้องไห้เสียใจจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด... ทั้งคืน
ทั้งคืนกับความเจ็บปวด... ที่ไม่สิ้นสุด
...คริส นายยังรักและถนอมฉันเหมือนดั่งสัญญาที่นายเคยพูดไว้หรือเปล่า...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น