ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] KrisYeol Ft. EXO - Silent Night -

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1 - เริ่มต้นนับหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 57


    ปาร์คชานยอลเด็กเรียนดีที่ต้องย้ายที่เรียนตามพ่อแม่ไปเรื่อยๆ เพราะการทำงานของคุณพ่อเลยทำให้เด็กหนุ่มไม่ค่อยมีเพื่อนที่สนิทสักเท่าไหร่ แม้จะอ่อนโยนและร่าเริงแต่ก็ไม่เคยมีแก๊งเพื่อนมาหาที่บ้านหรือแม้จะโทรมาหาเมื่อทราบข่าวว่าเขาต้องย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน
     
    และเมืองนี้ เมืองเล็กๆที่ห่างไกลจากตัวเมืองเรียกได้ว่ามากโข ที่ที่ครอบครัวปาร์คย้ายมาและมันจะเป็นที่สุดท้ายและจะลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ในพื้นที่เล็กๆแห่งนี้มีโรงเรียนอยู่เพียงสามแห่งเท่านั้น โรงเรียนสหศึกษาสองแห่ง และโรงเรียนประจำชายล้วน ที่บ้านตกลงปลงใจว่าจะให้ลูกชายเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำ อย่างน้อยหน้าที่การงานของผู้จัดการสาขาและเซลล์หน้าที่ขายที่ต้องเดินทางไปเมืองข้างๆต้องลำบากใจที่จะทิ้งลูกชายให้อยู่บ้านคนเดียว
     

    โรงเรียนประจำชายอันชองฮวา
     

    ดวงตากลมมองโรงเรียนใหม่เบื้องหน้าก่อนที่จะเผยยิ้มกว้างออกมา ดวงตาฉายแววประกายอย่างถูกใจเพราะตึกเรียนที่กว้างใหญ่และดูหรูหรานี่อีก บอกตรงๆเลยมันถูกใจปาร์คชานยอลสุดๆ! การที่จะต้องมาเริ่มต้นที่นี่ก็อาจจะไม่เลวนัก
     
    “นักเรียนใหม่ชานยอลใช่หรือเปล่า” เดินพ้นประตูรั้วมาได้ไม่กี่ก้าวก็เจอเข้ากับผู้ชายร่างสูง ใบหน้าดูใจดี ใบหน้าล้อมด้วยกรอบแว่นตาสีดำที่ทอดสายตามาหาอย่างอบอุ่น
     
    “ชะ.. ใช่ครับ” เพราะโดนทักกะทันหันก็เลยทำเอาร่างเพรียวบางสะดุ้งโหยงแล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าว คนที่เอ่ยเสียงทักนั้นหัวเราะเบาๆ น่าแปลกที่ทำไมชานยอลมองแล้วรู้สึกว่าคนๆนี้อบอุ่นเสียเหลือเกิน
     
    “พ่อชื่อชิลฮยอน เป็นผู้อำนวยการและผู้ดูแลทีนี่ โอ๊ะ.. จะเรียกพ่อว่าพ่อเหมือนที่นักเรียนทุกคนเรียกก็ได้นะ” เมื่อแนะนำตัวเสร็จชานยอลก็ก้มหัวเคารพแล้วก้าวเท้าเข้ามาหา อาการตกใจหายวับไปกับตาเมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มและรอยยิ้มที่เจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์
     
    “ครับคุณพ่อชิลฮยอน” คุณพ่อชิลฮยอนยิ้มอบอุ่นแล้วผายมือให้ชานยอลเดินตามมา
     
    “ชานยอลคงจะรู้กฎระเบียบของที่นี่แล้วใช่ไหม? ถ้ายังไม่รู้ก็อ่านในหนังสือระเบียบการก็ได้ เดี๋ยวพ่อจะพาชานยอลขึ้นไปที่ห้องเรียนนะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะเพื่อนๆในห้องน่ะใจดีแล้วก็ดื้อๆ ซนๆกันทั้งนั้นเราคงไม่เหงาหรอก” คุณพ่อชิลฮยอนหันมาเผยรอยยิ้มให้
     
    แม้ชานยอลจะทำหน้าสงสัยแต่แล้วก็ต้องร้องอ๋อออกมาเมื่อคิดได้ว่าคุณพ่อคงจะเห็นใบประวัติของเขาที่มันย้ายโรงเรียนบ่อยเสียเหลือเกิน ด้วยเหตุผลที่จะต้องย้ายตามที่ทำงานของพ่อ
     
    คุณพ่อชิลฮยอนเดินนำชานยอลขึ้นตึกเรียนและอธิบายให้ฟังว่า ที่โรงเรียนแห่งนี้มีตึกเรียนอยู่สามตึก ที่อยู่ด้านหน้า และด้านหลังก็จะเป็นตึกนอนที่แยกตามแต่ละชั้นปี กระเป๋าเสื้อผ้าของชานยอลที่มาถึงก่อนเจ้าตัวนั้นถูกครูผู้ดูแลหอนำไปวางไว้ในห้องพักให้แล้ว
     
    แม้ตัวตึกด้านนอกจะดูไม่ค่อยหรูหราเท่าไหร่ แต่พอเข้ามาด้านในกลับต้องเปลี่ยนความคิด ด้วยของประดับและสไตล์การตกแต่งนั้นเรียกได้ว่าไม่แพ้โรงแรมหรูๆเลย ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆก่อนที่จะเดินตามขึ้นบันไดไม้ใหญ่ตรงหน้าขึ้นไปชั้นบน
     
    คุณพ่อชิลฮยอนหันมายิ้มเมื่อเห็นว่าเด็กในปกครองกำลังทำหน้าตาตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ใหม่ๆที่มาพบเจอ สองขายาวพาเดินก้าวไปยังห้องเรียนใหม่ของเด็กนักเรียนคนใหม่ ชั้นมัธยมปลาย 2-C ห้องกิจกรรม บานประตูห้องที่ทำด้วยไม้ถูกเลื่อนออก แล้วทุกสิ่งในห้องก็หยุดชะงัก ครูประจำคาบวิชาหันมายิ้มแล้วก้มหัวลงทักทายผู้อำนวยการ
     
    “เอ้าเด็กๆ วันนี้พ่อพาเพื่อนใหม่มาอยู่ด้วยยังไงก็ดูแลกันด้วยนะ” ชานยอลที่เดินตามเข้ามาส่งรอยยิ้มให้เพื่อนๆที่มองมาที่เขาอย่างสนใจ แต่กลับไม่ใช่ใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่หลังสุดข้างหน้าต่าง ดวงตาคมคู่นั้นจ้องมาที่เขานิ่งไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาเลยสักนิด ยิ้มให้ก็ไม่ยิ้มให้ เหอะ!
     
    “แนะนำตัวหน่อยชานยอล” คุณพ่อชิลฮยอนหันมายิ้มแล้วผายมือให้ ชานยอลก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้าแล้วก้มหัวลงทักทายทุกคน
     
    “สวัสดีทุกคนผมชื่อชานยอล ปาร์คชานยอล ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” เมื่อแนะนำตัวเสร็จก็ส่งยิ้มให้ก้มหัวลงอีกครั้ง
     
    “ฝากหัวใจด้วยก็ได้นะ!” ใครสักคนเอ่ยแซวขึ้นมาเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นๆในห้องได้ ชานยอลหันมองแล้วก็หัวเราะเบาๆ แต่ใครคนนั้นยังคงนั่งนิ่งจนชานยอลนึกหวั่น
     
    “เอาล่ะๆยังไงก็ฝากดูแลเพื่อนใหม่ด้วยนะ ชานยอลไปนั่งตรงนั้นนะที่ข้างๆคริสคนที่สูงที่สุดนั่นแหละ” คุณพ่อผายมือให้ ชานยอลก็กล่าวขอบคุณแล้วก้มหัวลาก่อนที่จะเดินไปนั่งที่ ว่าแล้วเชียว .. ต้องมานั่งข้างไอ้ผู้ชายหน้าโหดจนได้ คิดว่าจะรอดแล้วเชียว แต่ก็อย่างว่าในห้องนี้เหลือที่ว่างแค่ที่เดียวเอง
     
    “อ่า.. สวัสดีคริส” ชานยอลเอ่ยทักทาย คริสที่มองตามชานยอลทุกฝีก้าวจนมาหยุดที่ที่ว่างข้างกันก็พยักหน้าให้แล้วหันกลับมาสนใจกับบทเรียนในหน้าหนังสือต่อ ไอ้นี่นิ!!
     
    ชานยอลทิ้งตัวลงนั่งกับที่แล้วก็แอบแบะปากใส่ไอ้คนข้างๆที่ทำหน้านิ่งเป็นหิน เป็นปูนก่อนที่จะดึงกระเป๋ามาเปิดหาหนังสือวิชานี้ แต่ทว่าหนังสือของวิชานี้ตัวเขาไม่มี เรียกว่าวันนี้ทั้งวันเขาไม่มีหนังสือเรียนเลยดีกว่า เพราะหนังสือเรียนจะมาส่งให้เขาตอนเย็นและเขาจะต้องไปรับที่ห้องของผู้อำนวยการเสียด้วย
     
    “อ้าว..” ก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ทำปากยู่ก่อนที่จะหยิบกล่องดินสอและสมุดเปล่าที่เตรียมมาจดทุกอย่างในวันนี้ออกมา
     
    “นี่ๆชานยอลไม่มีหนังสือใช่ป่ะ มาดูด้วยกันก็ได้นะ” เพื่อนอีกด้านสะกิดเรียก ชานยอลหันไปมองก็เห็นผู้ชายตัวเล็กๆ ตาโตๆกำลังส่งยิ้มมาให้
     
    “ขอบคุณนะ” ชานยอลขยับโต๊ะกับเก้าอี้เข้าไปชิดกับโต๊ะของเพื่อนใหม่ เมื่อโต๊ะชิดกันหนังสือเล่มหนาก็วางลงตรงกลางเพื่อสำหรับคนสองคนอ่านทันที
     
    “เราชื่อคยองซูนะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
     
    “เช่นกันคยองซู”
     
    เพื่อนคนแรกในรั้วโรงเรียนใหม่ .. ที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอกนะ
     
    ชานยอลเหลือบสายตาไปมองด้านซ้ายที่มีร่างสูงนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือ .. ก็ไม่เชิงดีเสียทีเดียวเนอะ
     

    ผ่านวิชาแรกไปได้อย่างสวยงาม และวิชาต่อไปก็ค่อนข้างทะลักทุเลนิดหน่อย ชานยอลไม่เก่งภาษาอังกฤษ ถึงจะเป็นเด็กเรียนดีก็เถอะแต่ก็ใช่ว่าจะเก่งไปหมดเสียทุกวิชานินา แต่ก็ยังดีที่อาจารย์ประจำวิชาเห็นใจอยู่บ้าง ให้การบ้านอย่างเดียวไม่เรียกเด็กใหม่ตอบ เขาเจอทุกโรงเรียนที่ย้ายมาเลยพอรู้ว่ามีเด็กใหม่มาก็ต้องเรียกให้ยืนตอบทุกที
     
    หลังจากคาบเรียนช่วงเช้าผ่านพ้นไป ในช่วงเริ่มพักเที่ยงพวกเพื่อนๆก็กรูกันเข้ามาพูดคุยแล้วทำความรู้จักด้วยทันที คนที่เอ่ยแซวเขาว่าฝากใจด้วยก็ได้รีบวิ่งปรี่เข้ามาหาเขาคนแรกเลย คิมจงแด ผู้ชายที่ดูน่าจะซนอยู่ในระดับท็อปแน่ๆ และคนอื่นๆในห้องที่พามาแนะนำตัวกับเขา ชานยอลเพิ่งรู้ว่าก๊วนของคยองซูเพื่อนตัวเล็กที่แอบหนีมานั่งหลังห้องมีด้วยกันสิบเอ็ดคน รวมเขาไปด้วยก็มีกันสิบสองคน
     
    คนอื่นๆในห้องก็พากันโวยวายที่คยองซูได้เขาไปเข้าร่วมกลุ่มก่อน วันแรกของการเรียนที่นี่ก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆเลย อย่างน้อยก็ไม่โดดเดี่ยวเหมือนที่อื่น
     
    “เฮ้ยไปกินข้าวกันเถอะ ป่านนี้คนเต็มโรงอาหารแล้วมั้ง” เซฮุนลุกขึ้นยืนแล้วตบโต๊ะเรียกเพื่อนๆที่ไม่มีใครยอมไปกินข้าวกันสักคน
     
    “เฮ้ยไปๆ วันนี้มีของชอบด้วย” แบคฮยอนยิ้มกว้างอารมณ์ดี คือถ้ากระโดดโลดเต้นได้ก็คงทำไปแล้ว
     
    “ไปชานยอลไปกินข้าวกับพวกเราดีกว่า” มินซอกยิ้มจนแก้มกลมๆดันลูกตาเป็นขีดโค้ง
     
    “อ่า งั้นก็ไปกันเถอะ”
     
    แล้วนักเรียนห้อง 2-C ก็พากันยกโขยงไปห้องอาหาร พวกเพื่อนต่างก็เฮโลคุยกันแล้วเดินไปตามทาง ชานยอลก็เดินตามไปรั้งท้าย แต่ก็ยังมีคนที่เดินรั้งท้ายกว่าเขาอยู่อีกคนหนึ่ง ผู้ชายร่างสูงกว่าเขา และตาเรียวคมดูดุนั้น เจ้าของมันกำลังเดินอยู่ด้านหลังเขา ทำเอาชานยอลก้าวขาแทบไม่ออก เพราะกลัวจะโดนจับหักคอเอาน่ะสิ ถ้าเดินก้าวเท้าผิด
     
    ชานยอลที่มัวแต่หันกลับไปมองด้านหลังเพราะรู้สึกหวาดๆกับคนที่กำลังเดินตามหลังเขามา คือกลุ่มเพื่อนก็อยู่ด้านหน้าแล้วมาเดินรั้งท้ายอยู่ด้านหลังเขาทำไมกัน โอ๊ยฟุ้งซ่าน! บอกตรงๆ ปาร์คชานยอลโคตรกลัวสายตาของคนๆนั้นเลยเถอะ!
     
    “เฮ้ย!!” เพราะมัวแต่กังวลกับรังสีอำมหิตด้านหลังก็เลยทำให้ชานยอลที่เดินไม่มองทางก้าวพลาดเกือบจะตกบันได้ แต่อ้อมแขนยาวก็ตวัดเอวเล็กแล้วดึงรั้งแขนไม่ให้กลิ้งตกบันไดไว้ได้ทัน ดวงตากลมสบเข้ากับดวงตาคู่เรียว แผ่นหลังบางแนบชิดกับแผ่นอกกว้าง
     
    “ซุ่มซ่าม” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ลอยมากระทบหูทำเอาชานยอลสะดุ้งโหยงแล้วผละถอยหนี
     
    “เดี๋ยวก็ตกบันไดจริงๆหรอก” น้ำเสียงเข้มและสายดุมาพร้อมกับแรงบีบและรั้งไม่ให้ตัวของชานยอลขยับไปไหน จะว่าก็ว่าเถอะเวลานี้คริสโคตรน่ากลัวเลย โฮ.. พ่อจ๋าแม่จ๋ามารับชานยอลกลับบ้านด้วย!!
     
    “ขะ.. ขอโทษ” ชานยอลพูดเสียงเบา คนตัวสูงกว่าก็ส่งเสียงแค่เหอะตอบกลับไป คริสประคองจับชานยอลให้เดินลงบันไดมาดี เพราะถ้าได้กลิ้งตกลงมาล่ะก็ไม่กระดูกหักก็ตายกันล่ะ
     
    โรงอาหารนั้นเป็นห้องกว้างขว้างคล้ายกับห้องโถงใหญ่ มีโต๊ะตั้งเพื่อรอตักอาหารให้เหล่านักเรียนถึงสองแถวฝั่งซ้ายและขวา โต๊ะนั่งก็เพียงพอต่อความต้องการ เหล่าเพื่อนๆที่เดินมาถึงก่อนก็กำลังยืนต่อแถวแล้วพูดคุยเล่นกันเรื่อยเปื่อย
     
    คริสและชานยอลที่เข้ามาช้าสุดก็เดินไปต่อแถว ชานยอลที่หันมองโน้น มองนี่จนเกือบจะหลุดแถวก็โดนสองฝ่ามือใหญ่จับเข้าที่ไหล่แล้วดันให้กลับเข้ามาอยู่ในแถวเช่นเดิม ชานยอลหันไปส่งยิ้มแหยๆให้ก่อนที่จะหันกลับมาแล้วยืนตรงไม่กล้าหลุดนอกแถวอีกเลย
     
    โต๊ะของกลุ่มคริสมีโต๊ะประจำ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ชานยอลจะหาไม่เจอ ก็พวกก๊วนในห้องน่ะคุยและเล่นกันเสียงดังจะตายไป โดยเฉพาะแบคฮยอนและคยองซูขี้โวยวาย แต่เรื่องมันจะยากก็ตรงที่ทั้งโต๊ะเหลือที่ว่างข้างเขาเพียงที่เดียว คนที่เดินตามมานั่งข้างๆจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่เจ้าของความน่ากลัวนั้น
     
    ชานยอลเหลือบสายตามองคนข้างกายแล้วคล้ายดั่งกับเห็นไอดำอำมหิตลอยอยู่รอบๆตัวของคริส พลันนึกไปถึงหนังผีที่ดูเมื่อคืนก่อนๆแล้วก็หนาวสะท้าน คริสปรายสายตามามองเหมือนจะรู้ว่าโดนแอบมอง เจ้าของดวงจากลมสะดุ้งโหยงแล้วก้มหน้าลงกินข้าวตามเดิม ไม่พูดไม่จาอะไรอีก
     
    วันแรกในโรงเรียนนี้ถือว่าดีทีเดียว ถ้าไม่นับไอ้คนข้างๆน่ะนะ หลังจากมื้อเที่ยงก็จะเข้าสู่ชั่วโมงเรียนบ่าย คยองซูที่กลับไปนั่งที่แล้ว และข้างๆก็ดันเป็นฮวางจื่อเทาที่ชอบหลับในห้องเสียอีก แล้วไงล่ะทีนี้ ตัวช่วยเดียวที่เหลืออยู่
     
    “อ่า.. คริสขอดูหนังสือด้วยได้ไหม” ถามด้วยเสียงอ้อมแอ้มเบาๆ คริสหันหน้ามาจากนอกหน้าต่างแล้วมองอีกคนที่นั่งทำหน้าหงอยๆ
     
    “ก็ดูสิ” พอได้ยินคำตอบ ชานยอลก็รีบขยับโต๊ะเข้าไปชิดแล้วดูหนังสือด้วยทันที มุมปากของคนที่นั่งหน้านิ่งปล่อยรังสีน่ากลัวอยู่นานยกขึ้นนิดหนึ่ง ถึงจะนิดเดียวแต่ชานยอลก็เห็นมัน
     
    บางทีในโรงเรียนแห่งนี้อาจจะเป็นเรื่องดีๆทุกเรื่องก็ได้นะ

     


    “ห๊ะ??” ชานยอลทำหน้างงเมื่อหลังเลิกเรียนแล้วเจ้าตัวบอกให้เพื่อนพาไปที่ห้องของคุณพ่อชิลฮยอนหน่อยเพราะตัวเขาจะต้องไปเอาหนังสือเรียนแต่เพื่อนๆกลับบอกว่าวันนี้มีเวรทำความสะอาดบ้าง ซ้อมกีฬาบ้าง และเข้าประชุมสภานักเรียนบ้าง คนที่ว่างเหลือรอดก็มีแค่...
     
    “คริสก็พาชานยอลไปหน่อยสิ” ขอบใจนะจางอี้ชิง
     
    “ก็ไปสิ” คริสลุกขึ้นยืนแล้วเหวี่ยงสะพายกระเป๋าตัวเองพาดบ่าแล้วเดินนำออกไป ชานยอลก็กระวีกระวาดคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งตามออกไป
     
    ทางที่คริสพาเดินมาเป็นทางออกประตูหลังของตึก เดินไปเรื่องๆจะเห็นตึกที่เป็นห้องของผู้นำนวยการ สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ ดูท่าว่าโรงเรียนนี้คงได้รับรางวัลพืชสวนโลกดีเด่นแน่ๆ ไม่นานชานยอลก็มาถึงหน้าห้องของคุณพ่อชิลฮยอน คริสเคาะประตูสามที คุณพ่อก็ส่งเสียงมาว่าให้เข้ามาได้
     
    พอเข้ามาด้านในก็เห็นว่าคุณพ่อกำลังเคลียร์เอกสารอยู่บนโต๊ะ ในห้องมีต้นไม้กระถางเล็กๆ และมุมเครื่องชงกาแฟด้วย บรรยากาศอบอุ่นจนชานยอลเผยรอยยิ้มออกมา คุณพ่อชิลฮยอนลุกขึ้นเดินมาส่งถุงหนังสือให้ชานยอลแต่คริสคว้าไปถือไว้ให้เอง
     
    “ดูแลเพื่อนด้วยนะคริส พ่อฝากเพื่อนใหม่ด้วยนะ” คุณพ่อยิ้มอบอุ่นแล้วตบบ่าคริสเบาๆ
     
    “ครับ”
     
    “วันนี้เรียนเป็นไงบ้างล่ะชานยอล พอไหวใช่ไหม?” พอคริสรับปากคุณพ่อก็หันมาถามชานยอล
     
    “ก็พอไปไหวครับ”
     
    “ดีแล้ว ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามคริสได้นะ คนนี้น่ะเก่งระดับหัวกะทิเชียวนะ” คุณพ่อแกล้งทำเป็นป้องปากซุบซิบนินทา แต่ทว่าเสียงพูดกลับอยู่ในระดับเดิม ชานยอลระบายยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
     
    “ครับ สงสัยคงต้องได้ติวด้วยกันแน่ๆ” ชานยอลและคุณพ่อหัวเราะด้วยกัน
     
    “โอ๊ะ กลับหอกันเถอะวันนี้วันแรกชานยอลมาอยู่ที่นี่ อาจจะต้องการเวลาเยอะๆเพื่อจัดของ” เมื่อคุณพ่อทำท่าจะกลับไปสะสางงานที่ค้างไว้ต่อคริสกับชานยอลก็ขอตัวลาออกมา
     
    คริสพาชานยอลกลับมาที่หอของปีสองฝั่งซ้าย เพราะฝั่งขวาจะเป็นหอของพวกมัธยมต้น ตึกหอนอนมีห้าชั้น ชั้นที่คริสพาเดินนำไปนี้อยู่ที่ชั้นสาม ชานยอลก็เดินตามเขาต้อยๆไม่ถามอะไรสักคำ ดวงตากลมก็เอาแต่กวาดมองนั่นนี่รอบกายจนลืมไปแล้วว่าตัวเองจะต้องมีห้องนอนในหอนี้
     
    คนตัวสูงกว่าเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่งก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปแล้วเปิดรอให้เพื่อนใหม่ที่เดินมองซ้ายมองขวาด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มเข้ามาในห้อง พอชานยอลเดินเข้ามาในห้องก็เห็นเซฮุนกับคยองซูอยู่ที่เตียงสองชั้นด้านซ้าย คริสเดินไปวางของที่โต๊ะของตัวเองแล้วก็เดินไปนั่งที่เตียงฝั่งขวาชั้นล่าง เออ.. แล้วเขามาทำอะไรอยู่ตรงนี้
     
    “เอ่อ... แล้วห้องของเราอยู่ไหนอ่ะ” คริส เซฮุน และคยองซูหันมองหน้ากันเองก่อนที่จะเป็นเซฮุนและคยองซูที่หัวเราะออกมา คือถ้าคยองซูหัวเราะมากๆจะตกจากเตียงชั้นสองไหมยังไง
     
    “ห้องของชานยอลก็ห้องนี้ไง ชานยอลนี่เป็นคนตลกดีนะ” คยองซูหัวเราะซะจนตาหยีเลย เซฮุนชี้นิ้วไปที่เตียงว่างฝั่งตรงข้ามชั้นบน
     
    “โน้นที่นอนของนาย” ชานยอลมองตามแล้วก็กระพริบตาปริบๆ
     
    “นึกว่ารู้ห้องตัวเองแล้วซะอีก” คริสเลิกคิ้วมองชานยอลแล้วหัวเราะเบาๆ โอเคปาร์คชานยอลกลายเป็นตัวอะไรไปแล้ว!!!
     


    การอยู่โรงเรียนนี้น่ะไม่ยากหรอก แต่ที่ยากน่ะไอ้เพื่อนรวมห้องนี่แหละ!!!!!

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×