ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
สวัสดีค่ะ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ... เราก็มาทำความรู้จักกับพี่คริสเอกประมงกันอย่างเป็นทางการเนอะ >__<
ลืมพี่คริสในเรื่องอื่นๆของเราไป แล้วคุณจะรู้ว่าพี่คริสคนใหม่ไฉไล(?)กว่าเดิม(?)!!! อิอิ
เลิ๊บๆแฟนฟิคของเราทุกคนนะคะ *สาดจูบ*
___________________________________
“อะไรนะไอ้คริส!!!” น้ำเสียงทองแดงรุ่นใหญ่อย่างบิดาของคริสตวาดลั่นไปทั้งบ้าน ทั้งเจ้าตัวและแม่ก็เลยต้องยกมือปิดหูกันไว้ นี่ถ้าปิดไม่ทันคงหูแตกไปแล้ว
“ก็บอกไปแล้วไงพ่อไม่ได้ยินเหรอ” สิ้นคำถามของคริสไม้สานแหในมือของพ่อแทบจะลอยปลิวไปไปเฉาะกบาลเข้าให้
“อะไรของพ่อนิ ก็บอกอยู่ว่าสอบติดที่กรุงเทพ”
“กูบอกให้มึงเรียนที่นี่แล้วใครใช้ให้มึงไปที่โน้น ไม่คิดจะช่วยกูกับแม่มึงทำมาหากินหรือไงวะ!” พ่อทิ้งงานในมือแล้วลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับคริส แม่ที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็กลัวว่าสองพ่อลูกจะได้มีเรื่องกันจริงๆก็รีบเข้ามาห้าม
“ก็ไปเรียนที่โน้นจะได้ไปเอาความรู้มาพัฒนาที่นี่ไง พ่อไม่เข้าใจคริส!!!” นี่บอกเลยว่าจำมาจากในละครสักช่องอ่ะที่แม่ชอบเปิด กำลังจะหล่อแล้วเชียวมาตกม้าตายเอาอีกประโยคสุดท้ายนี่ล่ะ
“นี่แน่ะไม่เข้าใจคริส!” พ่อก็เลยฟาดขาเข้าให้เลยหนึ่งป้าบใหญ่ทำเอาเซถลาไปหลายก้าวเลย
“โห้นี่ขึ้นเลยๆ นี่พ่อกล้าทำพี่คริสสุดหล่อในย่านนี้ได้ยังไง!”
“ถ้ามึงหล่อนะไอ้ลูกลิงตกต้น กูนี่หล่อกว่ามึงอีก!!” แล้วจากนั้นทั้งพ่อทั้งลูกก็สะบัดหน้าหันกันไปคนละทางอย่างไม่มีใครยอมกัน
คริสเสียใจที่พ่อมาเกทับว่าหล่อกว่าก็หนีออกจากบ้าน... ไปเดินเลียบทะเลเล่นอยู่หน้าบ้านเดินช้าๆเอื่อยๆทำตัวเป็นพระเอกมิวสิคที่กำลังช้ำรักกับนางเอกสาว(ที่ก็ยังไม่มีสักคน) เดินเตะน้ำเตะทรายไปเรื่อยก็ต้องกลับขึ้นบ้านเพราะแม่เรียกให้ไปช่วยซ่อมแหจะได้เสร็จไวๆ
“กำลังซึ้งเลย ขัดใจคนหล่อจังเลยนิ” ถึงจะบ่นแต่ประกาศิตพร้อมมีดอีโต้ในมือ(ที่คาดว่าคงเอาไว้สับหัวปลาทำมื้อเย็น)นั้นก็รีบพาให้คริสวิ่งกลับเข้าบ้านให้ไวที่สุด ก็ใครล่ะจะไม่กลัว!!
คริส เด็กใต้ตัวดำผมรากไทรที่มั่นในฝีมือการหาปลาพอๆกับมั่นในหน้าตาตัวเอง ด้วยความที่สูงกว่าเด็กคนอื่นๆแถมยังตั้งตนเป็นลูกพี่ใหญ่ของเด็กๆแถวนั้นอีกตัวเองก็เลยได้เป็นหัวหน้าแก๊งสมใจ เรื่องการเรียนก็งั้นๆแต่อาศัยอ่านหนังสือเยอะๆก็เลยสอบติดในเมืองกรุงได้
ส่วนเรื่องการหาปลานี่ขอบอกเลยว่าหน้าตาพี่หล่อแค่ไหน วิธีการเอาตัวรอดในท้องทะเลของพี่ก็กล้าแกร่งตามหน้าตานี่ล่ะ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกไปเรียนไกลๆหรอกก็เพราะเป็นห่วงนี่แหละแต่เจ้าตัวกลับรั้นว่ายังไงก็จะไปแล้วก็แอบไปยื่นเรื่องสมัครเข้าที่มหาวิทยาลัยในกรุงโดยที่ไม่บอก ตอนนี้ก็คิดว่าจะเป็นเรื่องเหมือนกันนั่นแหละ
แต่แล้วที่บ้านก็ยอมให้คริสไปเรียนไกลๆ อย่างน้อยก็อาจจะได้อะไรดีๆมาปรับใช้ที่นี่บ้างก็ได้ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าต้องยกความดีความชอบให้คุณแม่สุดที่รักที่ยอมกล่อมจนพ่อใจอ่อนจนได้ ก็รู้ว่ารักว่าห่วงแต่คนหล่ออย่างพี่ต้องออกไปผจญภัยสิ คนจะหล่อและดูดีมันต้องลุยๆ ถูกป่ะ?
จริงๆแล้ว.. มันก็มีเหตุที่ทำให้คริสอยากจะไปเรียนที่นั่นให้ได้อยู่เหมือนกัน มันดูเหมือนเพ้อฝันนะแต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าพี่เชื่อสุดใจ!!
คือแบบนี้.. พี่เคยฝันว่าพี่หลงทางอยู่ที่ไหนสักที่ เดินวนยังไงก็ไม่เจอทางออกสักทีแล้วทันใดนั้นพี่ก็เจองูตัวใหญ่สีขาวเลื้อยผ่านมา พี่ก็เลยจับมาต้มกินซะ! เฮ้ย!! ไม่ใช่.. ก็พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็โดนมันรัดเข้าให้ แบบนี้แปลว่าจะได้เนื้อคู่ใช่มะ? พอตื่นมาพี่ก็เห็นชื่อมหาวิทยาลัยนี้เป็นชื่อแรกพี่ก็เลยคิดว่าเนื้อคู่ของพี่จะต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะจ๊ะ.. แต่เรื่องความหล่อของพี่น่ะของจริง!
วนจนได้หนอคนเรา...
จนถึงวันที่จะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปตามล่าหาความฝันที่เมืองกรุง วันนี้มีแม่มาส่งที่สถานีรถไฟแต่พ่อไม่ยอมมา เอาจริงนะเห็นพี่หล่อๆแบบนี้แต่พี่ก็สะเทือนใจจนอยากจะร้องไห้เหมือนกันนั่นแหละแต่ร้องไม่ได้เพราะมันจะไม่คีพลุคคูลสุดๆเลย
เรื่องที่พักในกรุงนั้นไม่มีปัญหาเพราะที่มหาวิทยาลัยจะมีหอพักสำหรับนักศึกษาอยู่แล้ว แบ่งแยกหญิงชายแต่คณะที่เลือกไม่ค่อยมีผู้หญิงเรียนนัก หอที่มีของคณะประมงก็เลยจะเป็นหอของผู้ชายทั้งหลายเหล่ไปในบัดดล พวกผู้หญิงถ้ามีหลงมาเรียนก็จะให้ไปนอนกับอีกคณะหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตเดียวกัน
จริงๆพี่ก็อยากจะเรียกพวกบริหาร วิศวะ กฎหมาย นิเทศอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่มันไม่มีประโยชน์สำหรับบ้านพี่ไง เพราะพี่จะต้องเป็นคนกลับไปพัฒนาน่านน้ำทะเลและการจับสัตว์ทะเลของพี่ให้ยิ่งใหญ่เฟื่องฟู่อู้ฟู่เพื่อรอรับเมียของพี่.. พอพูดถึงแล้วก็เขินอ่ะบอกไปเลยตรงๆ
เมียของพี่นี่จะเป็นคนยังไงนะ จะน่ารักหรือเปล่า ขาวหมวยเอ็กซ์อึ๋มไหม? อ่า.. แค่คิดก็ฟินล่ะ!! แต่ถ้าเมียพี่(ในอนาคต)จะไม่สวยก็ไม่เป็นไรนะเพราะยังไงพี่หล่อลูกของเราก็ต้องออกมาหน้าตาดีอยู่แล้ว หึหึ
กว่าจะถึงกรุงได้ก็หลับไปหลายตื่นจนไม่รู้วันรู้คืนรู้สายแล้วว่าตอนนี้ผ่านไปกี่ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงจนได้!! เอาล่ะมาเริ่มผจญภัยกันเถอะ!!!! ชีวิตต่อจากนี้ในเมืองกรุงของพี่คงจะสวยหรูเหมือนแสงสีตามท้องถนนและตามบ้านช่องนั่นแหละ แค่คิดก็สนุกล่ะ
“แต่ก่อนอื่นต้องไปที่หอของมอให้ได้ก่อนแล้วแม่งไปยังไงวะ” คริสบ่นพึมพำกับแผนที่ที่ตัวเองวาดอย่างลวกๆ ให้ตายสิน่าจะหาใครมาเป็นเพื่อนหรือเจอใครสักคนที่จะช่วยได้นะ!
กว่าจะมาถึงหอได้ก็เดินทางมาซะแทบจะมืดค่ำ เพราะคริสเลือกที่จะมาถึงเมืองกรุงในตอนเช้าๆจะได้มีเวลามาตามหาว่าไอ้มหาวิทยาลัยที่ตัวเองสอบติดเนี่ยมันอยู่ที่ไหน ก็นับว่าโชคดีที่คิดแบบนี้ กว่าจะมาถึงได้ที่นี่ได้ก็ได้รับการช่วยเหลือมาหลายทอดหลายต่อเหลือเกิน แต่ก็ถึงว่าเป็นกำไรให้พ่อคนหล่อฟินกับการผจญภัยกับการย่างก้าวแรกในเมืองกรุงก็แล้วกัน
เพราะมหาวิทยาลัยนี้ค่อนข้างไกลก็เลยมีส่วนของหอพักอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยด้วย หากนักศึกษาคนไหนที่จะมาถึงก่อนวันรายงายตัวก็ให้ติดต่อที่หอและหอจะทำเรื่องที่พักให้ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่คริสจัดการติดต่อไว้แล้วไม่เช่นนั้นมาถึงก็ไม่ได้ขึ้นห้องมาอาบน้ำนอนแผ่กลางเตียงหรอก
ด้วยเพราะห่างไกลและนักเรียนมีไม่เยอะมากเท่าไหร่ก็เลยได้นอนกันห้องละสองคน แต่ตอนนี้รูมเมทของคริสยังไม่มาก็เป็นเรื่องดีงามที่คริสจะได้เลือกฝั่งของห้องก่อนว่าตัวเองจะนอนที่ฝั่งไหนและจับจองเตียงด้านไหน ยัดกระเป๋าทั้งหลายไว้ในตู้เสื้อผ้าและอาบน้ำเสร็จก็มาล้มตัวลงนอนทันที บอกเลยว่าเหนื่อยมาก!! พอพักสักคืนแล้วพรุ่งนี้จะไปเดินสำรวจคณะสักหน่อย เพราะอีกสองวันถึงจะเป็นวันรายงานตัว
คนหน้าตาดีที่สุดของจังหวัดก็มักจะเตรียมการล่วงหน้าไว้เป็นอย่างนี้เสมอๆ หนูๆต้องเข้าใจพี่ด้วยนะจ๊ะ~
เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน~ แหมเพลงเข้ามาในหัวเลยแต่พี่คริสคนหล่อหน้ามนยิ่งกว่าข้าวหลามหนองมนก็ไม่ได้นอนขี้เซาอะไรหรอกนะ พอตะวันโผล่พ้นสาดแสงเข้ามาทางหน้าตาพี่ก็ตื่นล่ะ คนหล่อก็ต้องตื่นมารับโอโซนตอนเช้าหน้าจะได้ใสๆตึงๆ
วันนี้คริสก็เดินสำรวจรอบมหาวิทยาลัยเพราะคิดว่ามันจะกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหนกันเชียว ที่หอมีจักรยานให้ใช้ได้แต่เรื่องแค่นี้ไม่ครณามือพี่หรอก... ซะเมื่อไหร่ล่ะ เอาเป็นว่าจากหอพักมาถึงตัวตึกเรียนได้ก็ลิ้นจะห้อย เมื่อวานที่มาถึงเข้าทางด้านหลังที่เป็นหอพักพอดีไง
ไม่เป็นไรถึงซะว่าคนหล่อต้องมีการเรียนรู้ โอเคพี่รับได้
สองคณะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของที่นี่คือคณะประมงและพืชศาสตร์ เป็นตึกใหญ่สองตึกที่ตั้งอยู่ห่างกันพอสมควร ดูจากแผนที่ในหนังสือคู่มือ(ที่แอบไปยืมมาจากคนดูแลหอ)แล้วก็เห็นว่าด้านหลังอีกทางที่เข้าไปค่อนข้างไกลเหมือนกันจะมีบ่อน้ำใหญ่ไว้เพื่อการประมงและมีสวนไว้สำหรับไร่สวน พื้นที่ที่ใช้เรียนก็เลยน้อยแต่พื้นที่สำหรับลงมือปฏิบัตินั้นก็ต้องกว้างขวางเพื่อรองรับการลงมือทำจริง
แต่คริสก็ไม่คิดที่จะเดินไปดูบ่อน้ำกับสวนนั่นหรอกนะ ลำพังแค่เดินจากโซนหอพักมาที่ตึกเรียนได้ก็หอบเป็นหมาหอบแดดอยู่แล้ว ถ้าต้องเดินไปถึงโน้นตายกันพอดี คนหล่อตายไปนี่โลกใบนี้คงเศร้าน่าดู อ๊า.. พี่ล่ะไม่อยากให้ทุกคนเศร้าใจเพราะฉะนั้นพี่ก็จะไม่เดินไปเด็ดขาดและแน่นอนว่าถ้าถึงตอนเรียนก็จะปั่นจักรยานมา
คนหน้าตาดีเวลาเดินไกลๆก็เหนื่อยเป็นนะ น้องๆโปรดเข้าใจพี่อู๋ด้วย
กว่าจะถึงวันรายงานตัวพี่อู๋คงได้นอนเหี่ยวเฉาอยู่คนเดียวในห้องน่ะสิ นี่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าพี่ก็เหงาเป็น ให้มานั่งๆนอนๆอยู่ในห้องแคบๆไม่มีใครคุยด้วยนี่มันไม่ใช่อย่างแรง!! พี่ก็ได้แต่ฆ่าเวลาไปกับเกมในมือ หึหึ เห็นพี่หล่อๆ เท่ๆ เรียกได้ว่าสาวเห็นสาวหลงแบบนี้จะเล่นเกมอะไร?
ไอโฟน? พี่ไม่มีหรอก แท็ปแล็ต? โอ๊ย.. ก็ไม่มีเหมือนกัน
พี่เล่นเกมแพคแมนในซัมซุงฮีโร่ที่รักษาอย่างดีไม่มีรอยถลอกบอบช้ำสร้างความเสียหน้าให้กับเจ้าของที่หน้าตาดีเป็นที่หนึ่งของประเทศอย่างพี่ นอนเล่นไปอย่างนั้นอ่ะจนรูมเมทมาถึงห้อง มาถึงไม่เคาะประตูอะไรเลยมันก็ไขกุญแจเปิดข้ามาซะอย่างนั้น สงสัยคงไม่คิดว่าจะมีคนมาก่อนหน้า โอเคพี่หน้าตาดีพี่เลยอภัยให้
‘โอเซฮุน’ คือชื่อของรูมเมทร่วมห้องของคริส ชายหนุ่มหน้าตาดี(แต่น้อยกว่าลูกพี่อู๋) ตัวผอมแห้งซ้ำยังขาวผ่องเป็นหยวกกล้วยเชียว มันจะมีแรงกล้าสู้แดดสู้ลมเหรอวะนิ? หน้าตาดูไม่ค่อยรับแขกเลยแต่ช่างเถอะพี่ไม่สน หลังจากที่เซฮุนจัดการข้าวของเสร็จก็ก็เดินมาลงนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถอนหายใจสองสามเฮือก
“เป็นอะไรของนายนิ?” คริสหันไปถามด้วยสำเนียงคนใต้ เซฮุนที่ได้ยินก็หันมามองคริสด้วยสีหน้าตกใจ
“อ้าวเป็นคนใต้เหรอ?”
“คนใต้แล้วมันทำไม จะหาเรื่องกันเหรอ?” คริสเตรียมจะลงจากเตียงไปไฝว์ด้วยแล้ว
“ไม่ใช่แบบนั้น ก็คิดว่านายเป็นพวกเด็กช่างซะอีก ตอนแรกนึกว่าเข้าห้องผิด” คริสขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ไม่ได้อยากจะใส่ใจอะไรอีก
“แล้วตกลงมีปัญหาอะไร ถอนหายใจทำไม” เซฮุนแบะปากแล้วไหวไล่เบาๆ
“ว่าแต่นายชื่ออะไร กูชื่อเซฮุน”
“อี้ฟาน เรียกกูคริสก็ได้” แล้วทั้งสองก็จับมือทำความรู้จักกัน
“ขอนอนก่อนนะถึงเวลากินข้าวเรียกกูด้วย” แล้วเซฮุนก็ขยับตัวหันหลังนอนไปเลย ทิ้งความสงสัยให้ลูกพี่อู่คนหล่อเลยว่ามันจะถอนหายใจทำซากปรักหักพังอะไรของมัน ถามก็ไม่ตอบ
แต่ก็ช่างเถอะ.... เรื่องของคนอื่นคนหล่ออย่างพี่ไม่อยากยุ่ง นอนเล่นเกมต่อดีกว่า
และแล้วก็ถึงวันรายงานตัวจนได้ วันนี้ทั้งคริสและเซฮุนก็ตื่นสายกันจนได้แม้ว่าจะตั้งนาฬิกาปลุก(ของเซฮุน)แล้วก็ตาม ก็เมื่อคืนดันนั่งก๊งเหล้าเล่นไพ่กับพวกในหอไง ผลมันก็เลยเป็นประการละฉะนี้ คริสกับเซฮุนและแก๊งเพื่อนของเซฮุนอีกสองคนก็จับจักรยานของใครของมันแล้วรีบปั่นหน้าตั้งไปที่ตึกเรียน วันนี้เรียกรวมตัวมนุษย์ทุกผู้คนที่ลานกลางตรงส่วนทางแยกของสองคณะ
หลังจากที่จอดรถจักรยานได้คริสก็รวบแฟ้มหน้าตะกร้ารถที่ตอนแรกมันก็เป็นระเบียบดีหรอกแต่ตอนนี้มันไม่เป็นระเบียบแล้ว ก็เล่นปั่นมาไวกว่าสามจีซะขนาดนั้นดีเท่าไหร่แล้วที่มันไม่ปลิวหายไปน่ะ
“เฮ้ยเร็ว!” เสียงใครสักคนเร่ง คริสก็รวบแฟ้มแล้ววิ่งตามกันไป
พอวิ่งทะลุใต้ตึกประมงได้ก็รีบวิ่งไปรวมกลุ่มทันที คือตอนนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าไปยืนต่อแถวอยู่ส่วนไหนของพวกนักศึกษาทั้งหมดแล้ว เอาน่ายืนเนียนๆไปก่อน มองรอบตัวก็หาพวกเซฮุนไม่เจอเพราะเมื่อกี้ก่อนที่จะวิ่งมาถึงไอ้แฟ้มเจ้ากรรมดันร่วงตกพื้นซะอย่างนั้น ลมก็พัดปลิวพี่อู๋คนหล่อก็ตามเก็บไปสิ เก็บหมดก็มาโผล่ที่เขาเข้าแถวกันแล้ว เอาวะขอยืนด้วยนะขอพี่คนหล่ออาศัยเนียนๆหน่อย
“นายๆ นี่ของนายหรือเปล่า” คริสที่หันมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครสักคน เขาก็ตัวสูงนะทำไมถึงมองเซฮุนไม่เจอ พอโดนสะกิดเรียกก็หันไปหาก็เจอเข้ากับใบหน้ากลมน่ารักๆที่ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับใบอะไรสักอย่างขาวๆในมือ
“ของนายหรือเปล่า” คนที่เห็นว่าอีกฝ่ายยังทำหน้าตาตกใจอ้าปากค้างก็หัวเราะเบาๆแล้วยื่นใบกระดาษในมือไปให้อีกครั้ง คริสกระพริบตาปริบๆมองคนข้างกายที่ตัวสูงพอๆกันแล้วก็มาทำหน้าตาน่ารักยิ้มแป้นแล้นแบบนี้ โอ๊ยหัวใจพี่อู๋จะระทวย!!
“อะ.. เออของเราเองแหละขอบใจนะ” คริสที่พยายามจะพูดภาษากลางก็เอ่ยออกไปด้วยสำเนียงแปลกๆพร้อมกับยื่นมือไปรับใบกระดาษนั้นมา แล้วปลายนิ้วก็แตะโดนมือของคนข้างตัวด้วยยังไงล่ะ โอ๊ยพี่อู๋จะเป็นลม!!
“ไม่เป็นไร” อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น ไม่ได้หัวเราะหรือตลกอะไรกับสำเนียงแปลกๆแปร่งๆของคริสที่พยายามจะพูดสำเนียงกลางเลยสักนิด
ยังไม่ทันที่จะได้ถามไถ่อะไรต่อเสียงพูดใส่ไมค์ของรุ่นพี่ที่เรียกให้น้องๆมารวมตัวกันและอยู่ในแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ทว่าสายตาของคริสไม่ได้มองตรงไปด้านหน้าแต่กลับหันไปมองไปที่คนข้างตัวเสียอย่างนั้น พอได้มองก็เลยได้สำรวจเครื่องของคนที่กำลังตั้งใจและสนใจฟังพวกรุ่นพี่ที่มาช่วยจัดระเบียบให้น้องๆ
ดวงตาโตๆ สองแก้มกลมๆที่ชมพูระเรื่อ ปากอิ่มสีชมพูสด ผิวขาวๆที่ทำให้เครื่องหน้าดูเด่นมากยิ่งขึ้น ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ซอยไม่สั้นมากเกินไป ดูๆไปก็... น่ารักไม่หยอกเลย โอ๊ยหัวใจเต้นจนจะทะลุ!!!
เหมือนว่าเธอจะรู้ตัว.. เธอก็หันมามองแล้วก็ยิ้มให้หนึ่งทีก่อนที่จะหันกลับไปมองที่พวกรุ่นพี่ตรงหน้าเช่นเดิม พี่รู้สึก.. พี่รู้สึกว่าหัวใจของพี่ถูกเธอขโมยไปเสียแล้ว!!! หรอยแรง! แม่จ๋าพี่อู๋คนหล่อเจอเนื้อคู่แล้ว!!!!
ไม่รู้ว่ายืนมองคนข้างตัวนานแค่ไหน ก็รู้แต่ว่าแก้มกลมๆนั้นจากที่สีชมพูอ่อนๆก็เริ่มที่จะสีเข้มขึ้น เอหรือว่าจะร้อนกันนะ ถ้าคนน่ารักของพี่อู๋ร้อนเดี๋ยวพี่จะช่วยบังแดดให้นะ.. แต่ตรงนี้แดดก็ไม่ส่องนิหว่าเพราะโดนร่มเงาของต้นไม้พอดี ตอนนี้คริสไม่ได้ฟังแล้วว่ารุ่นพี่จะบ่นจะพล่ามอะไรไปยาวกี่กิโล ตอนนี้ที่เขาสนก็คือคนข้างตัวนี่แหละ
“มองอะไรนักหนาล่ะ” แม้ว่าน้องคนน่ารักจะไม่ได้หันมาแต่พี่อู่คนหล่อก็มั่นใจว่าประโยคนั้นน้องต้องพูดกับพี่แน่ๆ
“ไม่ได้มอง~” คนน่ารักเหล่สายตาหันมามอง
“ก็เห็นอยู่ มองทำไมมองข้างหน้าโน้น” เห็นไหมชัดเลย..คนน่ารักพูดกับพี่คนหล่อจริงๆด้วย
“ก็ข้างหน้ามันไม่น่ามอง สู้คนข้างๆก็ไม่ได้” ไม่รู้ทำไมคนน่ารักถึงทำท่าเหมือนจะยิ้มแล้วก็เม้มปาก ฮั่นแน่ๆน้องสาวหลงพี่แล้วน่ะสิ~
“นี่เธอชื่ออะไรเหรอ” คริสสะกิดแขนของคนข้างตัวแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ คนน่ารักก็แค่เหลือบสายตามามองแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ยอมบอก
“บอกหน่อยสิจะได้บอกแม่ถูก” คนน่ารักหันมาเอียงคอทำหน้างงใส่ โอ๊ย!! ถูกใจพี่บ่าวอย่างแรง!!! ไม่เกรงใจพ่อแม่น้องพี่จะอุ้มกลับบ้านจริงๆด้วย!!
“ทำไมต้องบอกแม่ล่ะ?”
“ก็บอกแม่ไงว่าเจอเนื้อคู่แล้ว” คนน่ารักทำหน้าตกใจ ตาโตอ้าปากค้าง ขนาดตกใจยังน่ารัก! เอาใจพี่บ่าวไปเลยน้อง!
“บ้าใครเป็นเนื้อคู่นายกันประสาท!” ด่าเสร็จก็หันหน้าหนีไปเลย ผู้หญิงด่าเขาว่าผู้หญิงรัก ถ้าคนน่ารักด่าแปลว่ารักพี่มาก!!!
“ก็คนน่ารักนั่นแหละ” ทีนี้คนน่ารักหันมาฟาดแขนเข้าให้ด้วยหนึ่งที เกิดมาก็เพิ่งจะเคยฟาดคนนี่ล่ะ
“ไม่คุยด้วยแล้ว ไม่ต้องมาเข้าใกล้เราเลยนะ” ทำหน้างอนใส่แล้วก็หันหน้าหนีทำท่าจะขอแลกที่กับเพื่อที่ยืนข้างๆแต่คริสก็คว้ามือจับกับมือของคนน่ารักเสียก่อน
“คุยกันเถอะนะ น้องชื่ออะไรพี่บ่าวชื่อคริสนะ” คนน่ารักหันมายิ้มกับสำเนียงทองแดงนั้น รอยยิ้มน่ารักๆทำเอาพี่บ่าวใจเต้นตึกๆอย่างกับกลองหนังตะลุง
“ไม่พูดกลางแล้วเหรอ?” คริสทำหน้าตกใจเพราะคิดว่าคนน่ารักอาจจะฟังไม่ออก คริสเกาต้นคอแก้เขินก่อนที่จะพูดภาษากลางด้วยสำเนียงตลกๆให้ฟัง
“คนน่ารักชื่ออะไร พี่ชื่อคริสนะ” คนน่ารักที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างก็โดนขัดด้วยน้ำเสียงของใครอีกข้าง
“ชานยอลรู้จักเหรอน่ะ” มาทั้งเสียงและโผล่หน้ามามองด้วย คริสทำตาโต
“ก็ไม่นะ” ชานยอลหันไปส่ายหน้าให้เพื่อน ดวงตาเรียวคู่นั้นตวัดมองมาที่คริสด้วยความไม่เป็นมิตรอย่างไม่ปิดบังแล้วมันผู้นั้นก็ดึงชานยอลให้ไปยืนที่ตัวเองแทน ส่วนตัวมันน่ะหรือ? ก็ย้ายมายืนข้างพี่นี่ไง ไอ้ลูกหมีแพนด้าหลงฝูง!!!
คนน่ารักชื่อชานยอลเหรอ? แหมชื่อน่ารักเข้ากับตัวดีจัง~ อยากจะเคลิ้มแต่ไม่มีเวลาจะเคลิ้มก็ดูไอ้แพนด้าตาดำนี่สิยังจะมามองอีก รู้จักพี่อู๋น้อยไปล่ะมึง!!
ว่าแต่.. ไอ้นี่มันเป็นอะไรกับน้องชานยอลคนน่ารักนางฟ้าประจำใจของพี่อู๋กันล่ะ?
อย่าบอกนะว่า... น้องชานยอลมีผัวแล้ว? แม่มึงแล้วไหมล่ะ!! แต่ก็ไม่กลัว คนอย่างพี่ อู๋อี้ฟานลูกแห่งท้องทะเลไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว! จะให้พี่ล้มแพนด้าสักฝูงเอาไว้ทำเหยื่อล่อไอ้หลามพี่ก็จะไม่หวั่น!!
ชานยอลที่โดนเพื่อนดึงไปยืนแทนที่ก็ทำหน้าตกใจแล้วหันมองคริส ไอ้คนที่กำลังจะมีเรื่องกับเขาพอเห็นหน้าตาตอนตกใจของชานยอลก็ยิ้มให้หวานเชียว แหม.. ไม่ได้ห่วงเลยว่าเงิงโผล่จนจะเฉาะกบาลคนที่อยู่ตรงกลางอยู่แล้วน่ะ พอเห็นอีกคนยิ้มไม่ถือสาหาว่าไม่มีมารยาทชานยอลก็เลยส่งยิ้มหวานๆให้อีกหนึ่งที
อุเหม่.. ถึงน้องนางจะมีผัวพี่ก็จะไม่ถอย!! เพราะพี่จะเอาน้องมาทำเมียไม่ได้เอาผัวน้องมาทำเมีย เพราะฉะนั้นไอ้ลูกหมีแพนด้ามึงเตรียมตัวเป็นอาหารไอ้หลามลูกรักกูเสียเถอะ!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น