ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] BaekDo Ft. KaiChen, KrisYeol - The Rules of Love

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 57


    ทุกคนชอบเราก็ดีใจค่ะ อิอิ
     
    นี่บอกเลยว่าชอบลุคนี้ของคยองมากค่ะ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ถูกใจฝุดๆๆๆๆๆๆ
     
    มาดูกันสิว่าจะมีเรื่องวุ่นๆอะไรกันอีก
     
    ปล. นอกจากจงแดจะเพลียพี่จงอินแล้ว บางทีนูนาก็เพลียด้วยค่ะจงแด =___________=


     
     
    ___________________________________________
     
     

     
     
    “คยองซู!!!! เอาแชมพูให้หน่อย!!” แบคฮยอนที่อยู่ในห้องน้ำตะโกนออกมา คนที่นั่งดูรายการทีวีอยู่ก็ต้องลงจากเตียงไปหาให้เพราะเพิ่งไปซื้อกันมาเมื่อวันก่อน 
     
    “เอ้าได้แล้ว” คยองซูใช้ขวดยาสระผมเคาะประตูห้องน้ำ แบคฮยอนเปิดประตูแล้วโผล่มาแค่ช่วงบนออกมารับขวดยาสระผม
     
    “ขอบใจ” ยิ้มให้อีกทีแล้วก็ปิดประตูไปอาบน้ำต่อ คยองซูส่ายหน้ายิ้มขำๆแล้วก็กลับไปนั่งดูโทรทัศน์ต่อ
     
    แบคฮยอนที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ท่อนล่างก็พันแค่ผ้าเช็ดตัวเท่านั้น คยองซูนั่งอ่านนิยายอยู่บนเตียง เมื่อโทรทัศน์ว่างแบคฮยอนก็ตรงไปดึงเครื่องเล่นเกมมาต่อทันที คยองซูเหลือบตามองก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา แทนที่จะเช็ดผมให้เรียบร้อยก่อนนะ 
     
    เมื่อต่อเกมเสร็จก็นั่งเล่นเกมสนุกเขาล่ะ ลืมไปแล้วมั้งว่าผมยังไม่แห้งน่ะ แบคฮยอนนั่งที่พื้นพิงเตียงเล่นเกม ผ้าผืนเล็กที่ให้เช็ดผมก็พาดคอไว้ คยองซูปิดหนังสือที่อ่านแล้วมองแบคฮยอนที่ส่งเสียงเชียร์ตัวที่ตัวเองเล่นอยู่แล้วก็อยากจะหยิบหมอนปาให้หัวหลุดเลย
     
    “แบคฮยอนหยุดเกมแล้วเช็ดผมก่อน” แต่แบคฮยอนก็ไม่ทำตามแค่ส่งเสียงรับรู้เท่านั้นเอง
     
    “พยอนแบคฮยอน!!” โอเคพอสเกมให้ไวเลย แบคฮยอนลุกขึ้นไปแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยเลย เช็ดผมขยี้แรงๆให้มันแห้งไวๆ จากนั้นก็เอาผ้าเช็ดตัวไปแขวนพึ่งไว้ คยองซูที่มองตามก็เห็นแบบนั้นก็เปิดปนังสืออ่านต่อไป แบคฮยอนหันมามองแล้วก็แอบถอนหายใจ นึกว่าแม่คนที่สองจะพิโรธซะแล้วสิเนี่ย
     
    แบคฮยอนกลับไปนั่งเล่นเกมเหมือนเดิม เล่นไปเรื่อยๆจนรู้สึกเบื่อๆนั่นแหละ การนั่งเล่นเกมคนเดียวมันก็เบื่อนะอยากหาเพื่อนเล่นด้วยมากกว่า ไว้เดี๋ยวลองโทรไปชวนไอ้จงอินมาเล่นด้วยกันดีกว่า แบคฮยอนกดพอสเกมแล้วก็นอนพาดหัวไปกับเตียงก็เห็นคยองซูที่นั่งพิงหลังกับหัวเตียงก้มหน้าอ่านนิยายเล่มใหญ่ในมือ 
     
    ...ไม่รู้ทำไมแต่ริมฝีปากมันถึงได้ยิ้มไปเองทุกทีสิน่า...
     
     
    “คยองซู” เอ่ยเรียกแต่คนถูกเรียกกลับนิ่งเฉยไม่ได้ยินเสียงอย่างนั้น
     
    “คยองซู” ลองเพิ่มเสียงอีกนิดเจ้าตัวก็ไม่ขยับ ไม่ส่งเสียงตอบรับเลยสักนิด แบคฮยอนก็เลยจัดการลุกขึ้นแล้วปีนขึ้นเตียงยื่นหน้าไปใกล้ๆคนที่ดูท่าว่ากำลังเข้าฌาน คยองซูก็ยังไม่สนใจจนคนคิดแกล้งยิ้มกริ่ม
     
    “คยองซู~” คยองซูที่ก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ก็ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนรบกวน รู้สึกเหมือนเสียงเรียกมันอยู่ใกล้แบบแปลกๆ แสงสว่างก็เหมือนจะมืดลงกว่าเดิม
     
    “อ๊ะ..” คยองซูที่หันไปมองก็ต้องผงะถอยเพราะใบหน้าของรูมเมทที่อยู่ใกล้มากขนาดที่ว่าถ้าไม่ถอยใบหน้าออกล่ะก็ปลายจมูกคงได้ชนกันเสียแล้วน่ะสิ ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกว่าข้างในมันเต้นรัวเร็วจนได้ยินแต่เสียงเต้นเร็วๆของในอก
     
    “อะ... อะไร” แบคฮยอนยิ้มจาตาวาดโค้งเป็นขีด
     
    “อะไร มีอะไร” คยองซูที่ผงะถอยซะตัวแทบจะเอนไปอีกทาง แบคฮยอนก็ยังคงยิ้มอยู่แบบนั้นการที่ได้เห็นใบหน้าของรูมเมททำตาโต แก้มแดงๆนี่มันหาดูได้ยากนะเพราะฉะนั้นต้องเซฟใส่สมองไว้
     
    “พยอนแบคฮยอน!!” คยองซูแผดเสียงเรียก แบคฮยอนก็เลยต้องจำยอมเลิกแกล้งแล้วขยับตัวถอยไปนั่งดีๆ
     
    “สอบมิดเทอมเสร็จไปเที่ยวกันมะ ได้หยุดยาวด้วยนะ” คยองซูหันไปคว้ามือถือมากดดูปฏิทินแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย
     
    “ก็ดีจะไปไหนล่ะ ไอ้ที่ไปเมาตามผับหัวทิ่มไม่เอานะบอกไว้ก่อนเลย” คยองซูเหลือบสายตามองและดักคอไว้ก่อน ไอ้คนที่คิดว่าจะไปเมาตามผับพร้อมกับสอยสาวๆไปนอนก็เป็นอันต้องพับเก็บไป
     
    “ก็ไม่ใช่หรอกแหมมึงก็.. ก็แบบไปเที่ยวทะเลไหม แบ็คแพ็คไหมหรืออยากไปไหนอะไรแบบนี้หรอก มึงก็มองกูร้ายตลอด กูออกจะเป็นคนดี” คยองซูเลิกคิ้วแล้วมองหน้าแบคฮยอนแบบสงสัยอย่างไม่ปิดบัง คนที่ถูกเพื่อนมองแบบนั้นก็ยู่หน้าแล้วขยับตัวไปนอนหนุนตักเพื่อน
     
    “พยอนแบคฮยอนออกจะเป็นผู้ชายดีๆ น่ารักที่น่าค้นหา” คยองซูหัวเราะหึหึแล้วจิ้มนิ้วเฉดหัวของแบคฮยอนแรงๆ
     
    “น่าลักไปฆ่าทิ้งน่ะสิ” แบคฮยอนลุกขึ้นนั่งแล้วทำหน้างอใส่
     
    “โห้ยอะไรวะ มึงเป็นเพื่อนกูมึงก็ต้องเข้าข้างกูสิวะ!” คยองซูยิ้มนิดหน่อยแล้วไหวไหล่หยิบหนังสือมาเปิดอ่านอีกรอบแต่แบคฮยอนดึงมันออกแล้ววางไว้ด้านหลังตัวเองไม่ให้คนตัวเล็กกว่าได้หยิบถึง
     
    “เอาหนังสือไปทำไม เอามา” คยองซูแบมือแล้วกระดิกนิ้วให้ด้วยแต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมคืน
     
    “บอกมาก่อนดิว่าอยากไปเที่ยวไหน” คยองซูถอนหายใจแล้วนั่งพิงหลังกับหมอนที่เอามารองหลังแล้วส่ายหน้า
     
    “แล้วแต่ มึงอยากไปกูก็ไปโอเคยัง? เอาหนังสือมา” แบคฮยอนไม่ยอมคืนแล้วหันไปหยิบมือถือมากดโทรหาเพื่อนๆ
     
    “โทรไปไหนน่ะ” คยองซูถาม แบคฮยอนชี้นิ้วขึ้นไปด้านบนหมายความว่าโทรไปอีกห้อง ห้องของจงอินกับจงแด
     
    “เฮ้ยอยู่ไหนวะเสียงดังว่ะ” แบคฮยอนเอ่ยถามกับปลายสายเมื่อได้ยินเสียงดังจอแจจากอีกฝั่ง
     
    “อยู่ข้างนอกลงมากินข้าวกับยาใจ ว่าแต่โทรมามีอะไร” เหมือนแบคฮยอนจะได้ยินเสียงตีแล้วก็เสียงด่าด้วยนะ ไอ้สองคนนี้นิเล่นกันอยู่ได้
     
    “จะให้ช่วยคิดไงว่าหยุดยาวหลังมิดเทอมจะไปไหนกันแล้วก็จะชวนมึงมาเล่นเกมด้วย” คยองซูที่อยากจะเอาหนังสือคืนก็พยายามจะอ้อมมือไปด้านหลังของแบคฮยอน แต่แบคฮยอนกลับเบี่ยงตัวไม่ให้คยองซูได้หยิบได้แล้วก็ทำหน้าดุใส่เพราะตัวเขาคุยโทรศัพท์อยู่ พอคยองซูดิ้นมากๆเข้าก็เลยกอดล็อคตัวไว้ซะเลย
     
    “เออๆกินข้าวเสร็จก่อนนะจะไปเล่นที่ห้อง” ตกลงกันได้แบคฮยอนก็ตัดสายแล้วกดโทรหาคู่รักนินจา มืออีกข้างก็กอดคยองซูไว้แบบนั้นแหละ คยองซูที่โดนกอดก็อิงลงพิงไหล่ของแบคฮยอนไว้แล้วก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว ก็ชอบนินะจะไม่ให้ยิ้มได้ยังไงกันล่ะ
     
    “ฮัลโหลทำอะไรกันอยู่วะ” 
     
    “มะ.. ไม่ได้ทำ มีอะไรวะ” ถ้าไม่ได้ทำทำไมต้องตอบด้วยเสียงสั่นๆด้วยวะ แต่ช่างเถอะไม่ใช่ปัญหาของพยอนแบคฮยอน
     
    “เออจะให้ช่วยคิดว่าหลังมิดเทอมจะไปไหนดี ไปคิดๆไว้ไว้เจอกันที่มอที่ค่อยคุยกัน”
     
    “อะ.. อืม.. ได้ๆ ไอ้คริสมึงจะใส่เข้ามาทำไมวะห๊ะกูคุยโทรศัพท์อยู่นะ .. เออมีอะไรอีกเปล่าวะ” แบคฮยอนขมวดคิ้วชักจะเริ่มอยากใส่ใจล่ะว่าพวกมันทำอะไรกัน
     
    “ไม่มี ว่าแต่มึงทำอะไรอยู่เนี่ย” ที่ถามนี่เพราะอยากรู้ล้วนๆ ไอ้เสียงตอบรับแบบนั้นมันก็นะ.. น่าสงสัยน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ
     
    “ไม่ได้ทำ อ๊ะไอ้คริส .. ฮัลโหลโทรมาขัดจังหวะทำไมวะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่ ไม่ต้องโทรมาอีกนะมึงไว้ไปคุยกันที่มอ..” จากเสียงของชานยอลเปลี่ยนเป็นคริสพูดๆเสร็จมันก็ตัดสายไปเลย อะไรของมันวะ!! แต่จากบริบทแปลความหมายได้ว่า.. กำลังเอากันสินะ แหม่พวกมึง..
     
    บางทีก็นึกสงสัยนะว่าผู้ชายมันเอากันได้ด้วยเหรอแล้วมันจะรู้สึกแบบไหน อยากรู้มันก็ต้องลองใช่ไหมล่ะ? แล้วจะไปลองกับใครกันล่ะทีนี้ พอก้มหน้าลงมองก็เห็นว่าตัวเองยังกอดคยองซูไว้อยู่ .. นี่เพื่อนนะเว๊ย พอเลิกคิด!
     
    “เดี๋ยวไอ้สองจงจะมาที่ห้องนะ” แบคฮยอนปล่อยอ้อมแขนที่กอดรัดคยองซูไว้ เจ้าตัวก็พยักหน้ารับรู้ แบคฮยอนเอื้อมมือไปด้านหลังแล้วก็หยิบหนังสือมาคืนให้
     
    “จะเล่นเกมทั้งคืนอีกหรือไง” ก็เพราะวันนี้และพรุ่งนี้เป็นวันหยุดน่ะสิ คาดว่าจะต้องมีโต้รุ่งแน่ๆ
     
    “ก็ทำนองนั้นแหละไม่งั้นไม่เรียกไอ้จงอินมาหรอก” แบคฮยอนหัวเราะแบบเจ้าเล่ห์แล้วก็ขยับลงจากเตียงไปนั่งเล่นเกมรอคนที่จะมาปะทะฝีมือด้วย คยองซูส่ายหน้าไปมา ก็แบบนี้ทุกทีแหละเวลาวันหยุดถ้าไม่ไปผับก็จะเล่นเกมทั้งคืนแต่มันก็เป็นความสุขของแบคฮยอนเขานั้นแหละนะ
     
    นั่งเล่นเกมไปจงอินกับจงแดก็มา จงอินเตรียมพร้อมฟาดมือกับแบคฮยอนแล้ว จงแดซื้อขนมและกับข้าวมาฝากเผื่อว่าห้องนี้จะยังไมได้กินข้าวกัน พอเพื่อนหิ้วเสบียงมาส่งคนที่กินข้าวไปแล้วก็หิวอีกแล้วน่ะสิ คยองซูก็เลยไปตั้งโต๊ะนั่งกินข้าวอีกรอบ จงแดก็นั่งคุยไปจิ้มลูกชิ้นที่ซื้อมาไป มีความสุขเขาล่ะ
     
    ส่วนไอ้พวกที่เล่นเกมก็เรื่องของมันอยากกินก็จัดการกันเองแล้วกัน พอกินเสร็จก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงอ่านนิตยสารด้วยกัน จงอินกับแบคฮยอนยังคงส่งเสียงเชียร์เกมฝั่งตัวเองต่อไปแม้จะน่ารำคาญแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จงแดกับคยองซูสุมหัวกันดูนิตยสารแฟชั่นไปเรื่อยๆ ที่เอามาดูนี่ไม่ได้เข้าใจแฟชั่นหรอกเอามาวิพากวิจารณ์เสียมากกว่า เรียกว่าถ้าเจ้าตัวมาได้ยินคงกลับไปผูกคอตายแน่ๆ
     
    แบคฮยอนกับจงอินนั่งเล่นเกมกันไปเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว แบคฮยอนขอพอสเกมเพราะว่าจะไปเข้าห้องน้ำถึงได้รู้ตัวว่านั่งเล่นกันมานานจนเลยเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วโมงแล้ว พอลุกขึ้นยืนก็เหมือนขามันยึดๆ เส้นมันตึงๆ พอหันกลับไปมองบนเตียงก็ทำตาโตตกใจลืมไปเลยว่าเหน็บกินขา แบคฮยอนใช้ขาเตะเรียกจงอินที่ขยับตัวบิดไล่ความเมื่อย
     
    “อะไรของมึงวะ” จงอินมองแบคฮยอนที่ทำหน้าตาตกใจเกินเหตุแล้วหันไปมองว่ามันมองอะไร
     
    “เฮ้ย!!!” จงอินลุกขึ้นยืนทำหน้าตกใจบ้างที่เห็นคยองซูนอนคว่ำหน้าเกยอยู่บนอกของจงแด ทำไมยาใจของพี่ถึงทำกับพี่แบบนี้ พี่ยังไม่เคยได้นอนหนุนอกของยาใจพี่เลยแล้วทำไมน้องต้องให้คนอื่นมานอนหนุนด้วย หัวใจของพี่ปวดร้าวเหลือเกิน ฮือ…
     
    “เอาไงอ่ะ” แบคฮยอนหันมาถาม คือถ้าปลุกแบคฮยอนคงโดนด่าสามวันไม่ซ้ำน่ะสิ จงอินส่ายหน้าไม่รู้เพราะถ้าจะให้เขาเสี่ยงตายไปปลุกจงแดล่ะก็.. ไม่เอาด้วยหรอกโดนกระทืบมามันไม่คุ้มนะ
     
    “เป็นไรมึงไอ้จงอินทำหน้าอย่างกับขี้ไม่ออก” จงอินแบะปากทำหน้าจะร้องไห้แล้วชี้นิ้วไปที่สองคนบนเตียง
     
    “สะเทือนใจ อิจฉาอ่ะไม่เคยนอนหนุนน้องจงแด” แบคฮยอนหันไปมองแล้วก็ถอนหายใจ 
     
    เอออิจฉาเหมือนกันยังไม่เคยโดนหนุนอกเลยอ่ะ .. แต่ไม่ได้พูดหรอกแค่รู้สึกแวบๆขึ้นมาในใจแค่นั้นเอง บางทีพยอนแบคฮยอนก็เริ่มจะกลัวความคิดตัวเองเหมือนกัน เริ่มนอกลู่นอกทางแล้ว
     
    “แล้วคืนนี้พี่จงอินจะนอนหลับตาได้ยังไงในเมื่อยาใจของพี่ปันอกให้คนอื่นนอนหนุน พี่จงอินอยากจะนอนหนุนอกน้องใจแทบขาด ทำไมน้องจงแดถึงทำกับพี่แบบนี้” แบคฮยอนถอนหายใจแล้วมองไอ้คนที่เพ้อพร่ำพรรณาแล้วก็อยากจะถีบมันสักที ส่ายหน้าแบบเอือมระอาแล้วก็เดินหนีไปเข้าห้องน้ำไม่สนใจมันอีกเลย 
     
    พอเดินออกมาก็เห็นไอ้จงอินขึ้นไปนอนเบียดกับจงแดซะแล้ว ไอ้นี่นิก็พยายามเหลือเกินนะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าที่มันเต๊าะๆจงแดนี่คือจะเอาจริง แหย่เล่นๆหรือยังไงแต่เห็นมันไปนอนเบียดกับเขาแล้วก็สงสารนะ ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชมันก่อนดี คนอะไรพยายามจนเกินพอดี ถ้ามันโดนเบียดตกเตียงจะไม่สงสัยเลยเถอะ
     
    พอมองที่นอนว่างๆข้างคยองซูแล้วก็...
     
    “งี้กูก็นอนพื้นคนเดียวดิวะ” แบคฮยอนเกาหัวตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เอาวะพื้นก็พื้น!
     
     
     
     
    แบคฮยอนมามหาวิทยาลัยพร้อมคยองซูตามเดิม วันนี้มีเรียนคาบบ่ายคาบเดียว ตัวเดียวและเป็นวิชาที่เอาจริงๆมาเรียนที่ไรอยากจะหลับทุกที ตอนที่เดินเข้ามาเจอจงอินเดินเดินออกจากร้านขายของในมหาวิทยาลัยด้วย จงอินทักสองเพื่อนตัวเล็กด้วยการยักคิ้วพร้อมดูดน้ำในขวดทักทาย ทั้งสามเดินเข้าไปด้านในก็เห็นจงแดไปยืนดูอะไรอยู่ที่บอร์ด แล้วก็ไม่ต้องถามถึงคู่รักนินจานะไม่ไหนไม่มีใครรู้หรอก
     
    คยองซูเดินเข้าไปดูบ้างก็เห็นมีแต่พวกแปะรับนักศึกษาฝึกงานกันทั้งนั้น แบคฮยอนเดินไปยืนกั้นให้ที่ด้านหลังไม่ให้คนอื่นมาเบียดทั้งๆที่ตัวเองก็ตัวไมได้ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก จงอินก็เดินเข้าไปกอดคอจงแดที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว พอเจ้าตัวหันไปมองว่าใครก็ถอยหน้าหนีแทบไม่ทันก็เล่นยื่นหน้ามาซะแบบนี้ นี่ถามจริงจะเลิฟซีนกลางมอหรือไงคิมจงอิ๊น!!
     
    “แหมคึกคักแต่เช้าเชียว” ชานยอลกับคริสเดินเข้ามาดูบ้าง ชานยอลดูดตัวดูดในมือแล้วก็กวาดสายตามองไปตามแผ่นใบปลิวต่างๆ คริสก็ยืนกอดคอชานยอลอยู่ใกล้ๆ
     
    “เฮ้ย! พวกมึงมาจากไหนกันวะนั่น” แบคฮยอน คยองซู จงอินกับจงแดหันไปมองคริสกับชานยอล
     
    “ก็มาจากร้านขายของไง” คริสเป็นคนตอบ ชานยอลก็พยักหน้า
     
    “เฮ้ยแต่กูก็เพิ่งมาจากร้านขายของนะ” จงอินทำหน้าตาเหรอหรา 
     
    “ก็มึงไม่เห็นเองนิ ว่าแต่ไปนั่งได้ยังขี้เกียจยืนแล้วเนี่ย” ชานยอลมองหน้าเพื่อนทุกคนแล้วก็เดินนำไปเลย คริสก็เดินกอดคอไปด้วยกัน อีกสี่คนที่เหลือก็ได้แต่มองหน้ากันไปมาแล้วก็ตัดสินใจเดินตามพวกมันไป แบคฮยอนกอดคอคยองซูแล้วพาเดินไปด้วยกัน 
     
    กลุ่มคนตรงหน้าคือพวกกลุ่มรุ่นน้องของคณะอื่นที่คุยกันโหวกเหวกเสียงดัง เดินมาทางนี้พร้อมกับแก้วน้ำในมือ ไม่มองใคร ไม่มองทาง แบคฮยอนขยับให้คยองซูไปเดินอีกด้าน คยองซูมองแบคฮยอนด้วยความไม่เข้าใจว่าจะดันเขาไปอีกทางทำไม แล้วก็ประจักษ์แก่ใจเมื่อแบคฮยอนผลักอกของคนที่เดินไม่ดูทางและกำลังจะชนให้ออกห่าง 
     
    แก้วน้ำในมือของเด็กคนนั้นก็เลยหกใส่ตัวเองพร้อมกับที่พวกทั้งกลุ่มหยุดเดินแล้วหันมาเจอแบคฮยอนทำหน้าไม่พอใจใส่ จงอินกับจงแดที่เดินอยู่ใกล้ๆก็เดินเข้ามารวมด้วย เด็กฝ่ายนั้นดูท่าหาเรื่องเพราะคิดว่าตัวเองเป็นแก๊งใหญ่กว่าสี่คนตรงหน้า 
     
    “อะไรของพวกพี่เนี่ย” แบคฮยอนยกมุมปากขึ้นยิ้ม
     
    “กูควรถามพวกมึงมากกว่าไหมล่ะ เดินภาษาอะไรไม่ดูทาง” เด็กพวกนั้นก็ทำท่าจะหาเรื่อง คยองซูที่ไม่ค่อยอยากมีเรื่องก็พยายามดึงแขนแบคฮยอนให้เลี่ยงซะแต่แบคฮยอนก็ไม่ยอม ดึงมือออกแล้วดันคยองซูไปด้านหลัง 
     
    “แล้วพวกพี่ไม่เห็นเหรอว่าพวกผมเดินมา พวกพี่คนน้อยกว่าก็ต้องหลบดิ” นี่พูดเลยว่าลูกพี่พยอนแบคฮยอนกับพี่คิมจงอินอยากจะไฝว์เอาให้เลือดกลบปากสักที
     
    “พวกมึงจะเอาใช่มะ?” แบคฮยอนถามเตรียมพร้อมซัดให้ร่วงเลย แต่คยองซูคว้าแขนของแบคฮยอนไว้ “อย่ามีเรื่องเลยน่า” แบคฮยอนหันไปมอง คยองซูก็ส่ายหน้าไม่ให้มีเรื่อง
     
    “พวกพี่ต้องขอโทษเพื่อนผมดิ ถ้าพี่ไม่ผลักมันน้ำก็ไม่หกป่ะ” ยังถามด้วยน้ำเสียงกวนเบื้องล่างอีก คยองซูพยายามรั้งแบคฮยอนไว้ จงแดก็จับมือของจงอินไว้ไม่ให้เข้าไปสอยเด็กปากดีพวกนั้นแม้พวกมันจะน่าก็เถอะ
     
    “ถ้ากูไม่ผลักน้ำก็หกใส่กูแทนไง” เด็กพวกนั้นมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ คยองซูกรอกตาไปมาแล้วปล่อยมือแบคฮยอนมายืนกอดอก ถ้าแบคฮยอนจะซัดพวกมันเขาก็จะไม่ห้ามล่ะเริ่มหมั่นไส้
     
    “แล้วกูต้องขอโทษด้วยมะ?” ชานยอลกับคริสเดินกลับมา คริสเลิกคิ้วมองเด็กกลุ่มนั้นมือก็ยังกอดคอชานยอลไม่ปล่อย ชานยอลยืนกอดคอกยักคิ้วทักทายพวกเด็กนั้น
     
    “พะ.. พี่คริส” เด็กพวกนั้นทำตาโตอ้าปากค้างกันเป็นแถว
     
    “นี่เพื่อนพี่เหรอ” ใครสักคนถาม
     
    “เออเพื่อนรักกูเอง” สิ้นคำคริสพวกเด็กทุกคนก็ขอโทษแบคฮยอนเป็นการใหญ่แล้วก็รีบสลายตัวให้ไวเลย แบคฮยอนดูอารมณ์เสียมากแต่คยองซูกลับยิ้มแล้วรู้สึกดีที่แบคฮยอนเป็นห่วงเขาคนแรก เพราะถ้าตัวเขาไม่โดนดันไปอีกข้างก็คงจะเป็นเขานี่แหละที่โดนน้ำนั่นหกใส่แทน
     
    “ไปเหอะ” คริส ชานยอล จงอินกับจงแดเดินไปแล้วแต่แบคฮยอนยังหงุดหงิดอยู่เลย
     
    “ขอบคุณนะ” แบคฮยอนหันไปมองคยองซูที่สอดมือเข้ามากอดแขนตัวเอง ดวงตากลมๆนั้นมองมาที่เขาแล้วก็มีรอยยิ้มให้ด้วย โอ้โห้ไม่รู้ทำไมแต่ลูกพี่พยอนรู้สึกเหมือนถูกแปะแข็งเลย
     
    “ขอบ... ขอบคุณอะไร” คยองซูยังคงยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร คยองซูเดินนำออกไปก่อนปล่อยให้แบคฮยอนยืนเรียกสติและอาการเต้นของหัวใจให้เบาลงหน่อย ก็บางทีก็กลัวว่าใครจะได้ยินหรือเปล่าล่ะ!!
     
    “คยองซูเดี๋ยวดิ บอกก่อน” แต่คยองซูก็ไม่ยอมบอกยังคงเดินตรงดิ่งไปไม่ยอมหันกลับมา แบคฮยอนยิ้มแล้ววิ่งตามไปกอดล็อคคอคยองซูไว้ คนตัวเล็กกว่าจับแขนที่ล็อคคอตัวเองแล้วหันไปมองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแน่นอนว่าคนอยากรู้ก็ไม่ยอมปล่อยหรอก
     
    “ไหนบอกมาสิ” แบคฮยอนเขย่าแขนที่ล็อคคอคยองซูที่ยิ้มปากเป็นรูปหัวใจเบาๆ คยองซูก็ส่ายหน้าเบาๆ
     
    “จะไม่บอก?” คยองซูพยักหน้าแล้วมองแบคฮยอนที่เลิกคิ้วแบบนั้น แบคฮยอนที่เห้นแบบนั้นก็หัวเราะแล้วแกล้งล็อคคอคยองซูไม่ปล่อย
     
    ใครจะกล้าบอกกันล่ะว่าขอบคุณที่ปกป้องนะ.. โดนล้อตายเลย
     
    พอมาถึงโต๊ะประจำแบคฮยอนก็ปล่อยแขนจากคยองซู ทั้งสองลงนั่งแล้วก็มองเพื่อนอีกสี่คนที่มองมาด้วยสายตาแปลกๆ คือยังไงอะไรลูกพี่พยอนไม่เข้าใจ อยากจะถามแต่ไอ้จงแดก็ขัดจังหวะด้วยเรื่องของการไปเที่ยวเสียนี่ แหม..พูดเรื่องเที่ยวแล้วพี่พยอนก็ไม่ใส่ใจอะไรล่ะ
     
    “โอ๊ะนึกออกแล้ว คริสๆๆๆๆ” ชานยอลตีขาของคริสรัวๆตามเสียงเรียกชื่อ คริสจับมือของชานยอลให้หยุดตีแล้วขมวดคิ้วมอง
     
    “อะไรตีทำไมวะเนี่ย” เออไม่ใช่แค่คริสงงคนเดียว คนอื่นก็งงด้วยไง อยู่ดีๆก็ฟาดคนอื่นเสียอย่างนั้น ไหวปะวะปาร์คชานยอล!
     
    “นั่นไงบ้านยายมึงอ่ะ ที่ทำบังกะโลริมทะเลไง” 
     
    “เอองั้นไปทะเลมะ? ที่พักฟรี” สิ้นคำว่าฟรีคนที่ใช้เงินเป็นอย่างพี่พยอนกับจงอินก็รีบตอบรับทันที คยองซูหันมองคนข้างตัวแล้วก็ส่ายหน้าไปมา นี่ก็ไม่สงวนท่าทีเลยอยากได้ของฟรี
     
    “ฟรีจริงปะวะ” จงแดเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ คริสมองจงแดแล้วก็พยักหน้าให้
     
    “ชานยอลมันขออะไรคนในบ้านกูก็ให้หมดอ่ะ” โอเคปิดประเด็น
     
    “แต่หัวใจของพี่จงอินถึงน้องจงแดจะไม่ขอแต่พี่ก็พร้อมที่จะมอบให้นะจ๊ะ” จงอินทำท่าควักหัวใจแล้วส่งให้ จงแดทำหน้าเมื่อยใส่แล้วทำท่าจับหัวใจนั้นมา จงอินก็ยิ้มกริ่มเลยสิแต่แล้วก็ต้องทำท่าเศร้าสร้อยเมื่อจงแดโยนทิ้งลงกับโต๊ะ
     
    “เมื่อก่อนพี่ก็ไม่เชื่อหรอกนะแต่ตอนนี้พี่เชื่อหมดใจเลย.. คนน่ารักใจร้ายทุกคน” จงอินทำท่าร้องไห้กระซิกๆแล้วซุกซบจงแด เจ้าตัวก็แค่กรอกตาไปมาอย่างระอาก็แค่นั้นแต่ก็ไม่คิดที่จะผลักหรือดันจงอินให้ออกห่าง แบคฮยอนที่หมั่นไส้ก็ยื่นขาเตะใส่มันเลย
     
    “แล้วไม่มีอะไรให้กูบ้างเหรอ?” คยองซูแบสองมือไปทางแบคฮยอน ลูกพี่เลิกคิ้วมองคนข้างๆที่ส่งยิ้มมาให้ ทำไมวันนี้คยองซูยิ้มบ่อยจังวะ โอ๊ย!! นี่ไม่อยากพูดเลยว่าพี่พยอนฟินจุงเบย!!!
     
    “เอาทั้งชีวิตกูไปดูแลเลย” คยองซูยู่หน้าใส่แล้วฟาดแขนไปสักที แบคฮยอนก็หัวเราะเลยน่ะสิ ถูกใจสุดๆเลยเถอะ
     
    “เฮ้ยขึ้นเรียนเหอะจะเริ่มคลาสล่ะ” จงแดมองนาฬิกาแล้วบอกกับทุกคน 
     
    คยองซูหันไปมองแบคฮยอนที่เดินตามขึ้นบันไดอยู่ด้านหลังแล้วกำลังดันหลังเขาให้เดินขึ้นไป แบคฮยอนยิ้มให้เมื่อคยองซูหันมามอง ดวงตากลมจ้องคนที่ดันหลังด้วยสายตาห้ามปรามแต่แบคฮยอนก็ยังยิ้มไม่ดันหลังคยองซูให้เดินขึ้นบันไดไป
     
    แบคฮยอนกับจงอินไปนั่งอยู่หลังคริสกับชานยอลแล้วก็แอบฟุบหลับ คยองซูที่นั่งข้างจงแดเยื้องๆกับพวกแอบหลับก็กำลังตั้งใจจดเลคเชอร์เพราะรู้หรอกว่ายังไงสองคนนั้นก็ต้องหลับแน่ๆ แบคฮยอนก็เป็นแบบนี้ตลอด แอบหลับแทบจะทุกวิชาที่เป็นเลคเชอร์ 
     
    คนที่นั่งเท้าคางแล้วหันไปมองคนหลับก็วาดรอยยิ้มบาง คยองซูหันกลับมาก่อนที่จะก้มหน้าลงสเก็ตรูปคนด้านหลังที่ฟุบหน้าหลับ ใครบอกว่าพยอนแบคฮยอนไม่สนใจเรียนคนเดียวล่ะ.. คนที่นั่งสเก็ตรูปอยู่นี่ก็ไม่สนใจเหมือนกันนั่นแหละ
     
    แบคฮยอนกับคยองซูรู้จักกันตอนมัธยมต้นเพราะได้เรียนห้องเดียวกันแล้วก็ต้องนั่งข้างกัน ตอนแรกก็ไม่คิดที่จะรู้จักกับเด็กผู้ชายหน้าตาหยีๆดูไม่น่าไว้ใจคนนั้นหรอกแต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงแอบติดใจกับรอยยิ้มของคนนี้เสียเหลือเกิน ได้คุยกันมากๆเข้าซ้ำยังจะถูกจับมารวมกลุ่มกับคู่เพื่อนซี้อย่างคริสชานยอลและจงอินจงแดอีก.. พอได้คุยกัน ได้มองรอยยิ้มนั้นมากๆ คยองซูก็ชอบรอยยิ้มนั้นไปโดยที่ไม่รู้ตัว
     
    แบคฮยอนมักจะเป็นคนที่ปกป้องคยองซูเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่หลวง คยองซูไม่ชอบมีเรื่องไอ้เรื่องที่จะมาต่อยตีกับชาวบ้านนี้ก็ขอเถอะ แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็มักจะโดนแบคฮยอนปกป้องเสมอ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกแบคฮยอนก็จะช่วยคยองซูตลอด พยอนแบคฮยอนอาจจะคิดว่าโดคยองซูเป็นเพื่อนสนิท.. แต่คนๆนี้น่ะมันคิดไปไกลกว่านั้นเสียอีก ช่วยรู้ตัวสักทีสิ
     
    คยองซูเก็บรายละเอียดของรูปวาดนั้นด้วยรอยยิ้มจนไม่เห็นว่าจงแดที่นั่งอยู่ข้างกันกำลังมองอยู่ จงแดแอบยิ้มกับเพื่อนตัวเล็กที่ดูจะมีความสุขเหลือเกินที่ได้แอบวาดรูปของใครบางคนเอาไว้ คยองซูน่ะไม่ค่อยยิ้มหรอกแต่ไม่รู้ทำไมเวลาที่อยู่กับแบคฮยอนเจ้าตัวถึงยิ้มบ่อยนักนะ บางทีก็แอบหมั่นไส้นะคนหนึ่งแอบรัก อีกคนก็ดูแลดีจังเลย.. ต่างกับเขาที่ดูไม่ออกว่าที่เข้ามาทำดีด้วยนี่แค่หยอกเล่นหรืออะไร
     
    หมดชั่วโมงเรียนแบคฮยอนกับจงอินก็ตื่นพร้อมกับอาจารย์ปล่อยเลิกคลาสพอดี... อย่างกับนกรู้ เก็บข้าวของเสร็จก็พากันเดินออกจากห้องเรียนหวังว่าจะไปกินข้าวด้วยกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับห้องใคร บ้านมัน แต่ยังเดินไม่ทันพ้นประตูห้องเรียนก็มีหญิงสาวเดินมาควงแขนแบคฮยอนเสียแล้ว
     
    “อ้าวมินอาว่าไงจ๊ะคิดถึงพี่แบคเหรอจ๊ะ” เอ่ยถามด้วยเสียงหวาน หญิงสาวก็ท่าท่าเอียงอายแล้วตอบรับ คยองซูที่มองอยู่ก็มองด้วยสายตาที่คงไม่มีใครเดาความหมายได้ ขอบอกเลยว่าคนที่แอบเกาะติดสถานการณ์น่ะขนลุกเกรียว
     
    “ไปกินข้าวกับมินอาไหมคะ มินอาคิดถึงแบคฮยอนจังเลย” 
     
    “เอาสิอยากกินอะไรบอกเลยจ้ะ” แบคฮยอนยิ้มและตอบรับคำชวนนั้นอย่างยินดี คยองซูถอนหายใจแล้วกรอกตาไปมา เอาเถอะ.. พอมีสาวๆมาทีไรโดคยองซูกลายเป็นอากาศธาตุทุกทีสิน่า
     
    “ไปกันเถอะ” คยองซูเอ่ยบอกกับทุกคนแล้วก็หมุนตัวหันหลังจะเดินลงบันไดแต่ก็ชนเข้ากับใครสักคนที่ออกมาจากคลาสเดียวกัน
     
    “โอ๊ะ.. ขอโทษครับเป็นอะไรไหมครับ” อ้อมแขนแข็งแรงของคนที่ตัวเขาชนตวัดกอดคยองซูเอาไว้ คนตัวเล็กที่โดนแขนเดียวก็วาดโอบรอบตัวก็แหงนหน้าขึ้นมองสบตากับดวงตาคู่สวยนั้น
     
    “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ” คยองซูที่วางสองมืออยู่บนอกแน่นกล้ามของคนโอบตัวเองตอบกลับเบาๆ ดวงตากลมมองจ้องคนนั้นไม่วางตา แบคฮยอนที่หันมาเห็นก็ทำตาโตตกใจ ไอ้คนนั้นก็โอบเพื่อนเขาไม่ปล่อยนี่มันน่าหงุดหงิด!
     
    “แน่ใจนะครับว่าไม่เจ็บตรงไหน” คยองซูมองหน้าของคนที่ช่วยไว้แล้วพยักหน้าพร้อมกับวาดส่งรอยยิ้มให้เสียเต็มริมฝีปาก แบคฮยอนที่มองอยู่ก็ของขึ้นน่ะ เฮ้ยๆๆ นั่นรอยยิ้มของพี่พยอนนะเว๊ย!!!
     
    “โทษๆ พอได้แล้วมั้ง” แบคฮยอนปัดมือของหญิงสาวออกแล้วเดินเข้าไปดึงคยองซูออกจากอ้อมกอดของที่กอดเพื่อนตัวเล็กของเขาไม่ปล่อย นี่ไม่รู้ทำไมถึงหงุดหงิดจังวะแล้วอะไรกันคนข้างตัวยังจะมาก้มหน้าทำท่าเขินอีก โว๊ย!!! พยอนแบคฮยอนอยากจะบ้า!!
     
    “ถ้าคุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ เราเรียนคลาสเดียวกันคิดว่าคงได้เจอกันอีกนะครับ” ยังๆๆ ยังจะมาร่ำลาอะไรอีก!!!
     
    “ครับแล้วเจอกันอีก” แบคฮยอนทำตาโต อ้าปากค้างหันไปมองคยองซูที่เอ่ยตอบรับแบบนั้น เฮ้ย!! อะไรวะ!!! ไม่ได้นะเว๊ยจะมาเจออะไรอีกไม่ให้เจอแล้วโว๊ย!!!
     
    “ขอให้เดินตกบันไดเลยแม่ง!!” คยองซูหันไปฟาดแขนแบคฮยอนแรงๆด้วยสีหน้าดุ
     
    “ทำไมพูดแบบนี้ห๊ะแบคฮยอน” แบคฮยอนหันมาทำหน้ายู่ใส่ นี่โดคยองซูกล้าดุลูกพี่เหรอ!!!
     
    “อะไรๆ มาเคลียร์กันเลยมา” แล้วแบคฮยอนก็ลากคยองซูไปเลย พวกเพื่อนที่เหลือและรวมถึงหญิงสาวก็ได้แต่ยืนมองกันล่ะทีนี้
     
    “ตกลงเหลือเราสี่คนใช่ไหมเนี่ย” จงแดเอ่ยถาม คริสกับชานยอลมองตามแล้วก็ลอบยิ้มให้กัน ส่วนจงอินก็กอดแขนจงแดแล้วแนบหน้าลงที่แขนก่อนที่จะพยักหน้ารับ จงแดเหลือบมองแล้วก็แอบกลั้นยิ้มเหมือนกัน เวลาจงอินน่ารักแล้วไม่ทำตัวเสี่ยวน่ะก็น่ารักดีนะ... แต่คนมองน่ะสนุกกว่าอีก
     
     
     
     
     
     
    แบคฮยอนลากคยองซูกลับมาถึงห้องไม่ยอมพูดด้วยตั้งแต่หน้าห้องเลคเชอร์แล้ว คยองซูที่มองอยู่ก็ทำหน้านิ่งๆไม่ได้ใส่ใจ แบคฮยอนที่เหลือบมองก็ยิ่งไม่สบอารมณ์แทนที่เพื่อนตัวเล็กจะใส่ใจหันมาถามเขาสักนิดแต่นี่.. กลับไม่มีสักคำ ซ้ำยังจะมาทำหน้าไม่ใส่ใจใส่อีกแน่ะ พยอนแบคฮยอนจะไม่ทนนะ!!!!
     
    คยองซูหันหลังไปวางกระเป๋าแล้วก็แอบยิ้มกับตัวเองก่อนที่จะทำหน้านิ่งหันไปมองแบคฮยอนที่ยืนงุ่นง่านอยู่กลางห้อง คนตัวสูงกว่านิดหน่อยยืนเท้าเอวแล้วก็ยกมืออีกข้างลูบหน้าผากไปมาอย่างคิดไม่ตก คยองซูที่เห็นว่าแบคฮยอนยังไม่พูดอะไรก็เลยเดินไปรอที่ขอบเตียง แบคฮยอนถอนหายใจแล้วมองหน้าคยองซูที่มองอยู่ก่อนแล้ว
     
    “ชอบมันเหรอ” คนโดนถามเอียงคอใส่พร้อมกับมองคนถามด้วยสายตาไม่เข้าใจ ดวงตาโตจับจ้องมาที่แบคฮยอนทำเอาคนโดนมองเริ่มจะรู้สึกประหม่าแล้ว โอ๊ย!! ใจเย็นเว๊ยกูเนี่ยใจเย็นๆ!!
     
    “ใคร?” แบคฮยอนหันหน้าไปทางอื่น คยองซูตอนทำตาโตๆมองมาที่เขาแล้วเอียงคอใส่นี่... ทำไมมันน่ารักร้าวราวหัวใจพี่พยอนงี้วะ!!!
     
    “ไอ้คนที่ไปยืนให้มันกอดน่ะชอบมันเหรอ” คยองซูร้องอ๋อเบาๆด้วยรอยยิ้ม ทำไมรู้สึกอิจฉาตาร้อนๆวะ
     
    “ก็ชอบนะ เท่ดี” แบคฮยอนอ้าปากค้างมองคยองซูด้วยความเหลือเชื่อ
     
    “ห๊ะ!!!” คยองซูยิ้มแล้วยกขาขึ้นไขว้ก่อนที่จะเท้าคางไว้กับขาที่ไขว้กัน
     
    “ก็ได้ยินไม่ใช่เหรอ? หูตึงแล้วหรือไง” ขอบอกเลยว่าพยอนแบคฮยอนสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้วเนี่ย!!!
     
    “ชอบมันได้ยังไง!! นั่นผู้ชายนะเว๊ย!! มึงจะไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไงกันวะ!!” คยองซูเอียงคอใส่อย่างไม่เข้าใจ ว่ากันตรงๆแบคฮยอนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันถ้าเพื่อนเขาไปได้เสียกับผู้หญิงคนไหนตัวเขาก็ไม่เคยใส่ใจแต่ถ้าคิดจะไปเสียเอกราชให้ผู้ชายที่ไหนเขาไม่ยอมนะเว๊ย!!
     
    “อะไรของนายน่ะแบคฮยอนผีเข้าหรือไง” คยองซูหัวเราะแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาหาแบคฮยอนที่ยังยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์เหมือนเดิม
     
    “ถ้าไม่ให้ไปกับผู้ชายอื่นแล้วจะให้ไปกับใครกัน” คยองซูที่ยืนแทบชิดยกมือขึ้นไล้ตามโครงกรอบหน้าของแบคฮยอนเบาๆ ไล้จากข้างขมับลงมาที่ปลายคาง แบคฮยอนมองสบตากับคยองซูอย่างหลงใหล นัยน์ตาโตสีดำสนิทที่ทอแววประกายอยู่ตรงหน้ามันกำลังสะกดแบคฮยอน
     
    “นายเหรอ?” คยองซูกระดิกปลายนิ้วสัมผัสปลายคางของแบคฮยอนซ้ำๆก่อนที่จะจับปลายคางได้รูปของคนตัวสูงกว่าให้โน้มลงมาหา
     
    “ตลก” ว่าแล้วก็หันปลายคางของแบคฮยอนไปอีกด้านด้วยแรงที่ไม่เบานัก คยองซูเดินเลี่ยงไปที่หน้าประตูห้องน้ำแล้วเริ่มถอดชุดนักศึกษาออก แบคฮยอนยืนหันหลังทำท่าฮึดฮัดไม่สบอารมณ์อยู่เลยไม่เห็นว่าคยองซูกำลังทำอะไร คยองซูที่กำลังปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาหันหน้ากลับไปมองแล้วก็กดรอยยิ้มที่ริมฝีปาก 
     
     
     
    ...ก็เอาสิ แล้วมาดูกันว่าฉันหรือนายที่จะอกแตกตายก่อนกัน...


     
    พยอนแบคฮยอนคงจะไม่รู้ว่าโดคยองซูน่ะ ถ้าอยากได้อะไรแล้วก็ต้องก็ได้!!!!
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×