ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 : Rule 08 ห้ามโกหก
สวัสดีค่ะ บตนนค่ะ อยากจะขอพูดอะไรสักนิดนะคะ จะได้เข้าใจตรงกันนะ
เราจะไม่เลิกแต่งเรื่องนี้หรือเรื่องอื่นที่เราวางแพลนไว้แล้ว เราวางคู่ไว้แบบไหนเราก็จะไม่เปลี่ยน
อาจจะไม่ถูกใจใคร อาจจะไม่มีใครชอบ หรืออาจจะในหลายๆอย่าง แต่บอกไว้ตรงนี้เลยว่า 'เราจะทำตามความพอใจและแพลนของเราต่อไป'
ขอโทษจากใจถ้าไม่ถูกใจใคร แต่เราไม่อยากหักทิ้งกลางคัน เรารักเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ(ที่เรามีในมือ) เรารักมันมากจริงๆ เราไม่อยากปิดและจะทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ
ด้วยรักและอยากให้เข้าใจ
Betty Noona
ปล. เห็นข้อความมิสฮวางล่ะคิดถึงค่ะ หายไปนานส่งเครื่องบรรณาการมาให้เราเดี๋ยวนี้เบยยยยยยยยย
_________________________________
พยอนแบคฮยอนกำลังเซ็ง.. ไม่ได้เซ็งคนตัวเล็กหรอกอย่ามองพี่พยอนแบบนั้นดิ! แต่พี่พยอนกำลังเซ็งไอ้คนตัวดำข้างๆเนี่ย อยู่ๆมันก็ลากออกมาจากห้องแต่เช้าเลย บอกว่ามันจะไปหาของขวัญครบรอบวันที่ได้จับมือกับน้องยาใจของมันครั้งแรก นี่อยากจะถามมันเหมือนกันมึงจะให้ทุกวันครบรอบเลยไหม คุยกันครั้งแรก สบตากันครั้งแรก โดนตีครั้งแรกและเอากันครั้งแรก... ไม่ไหวว่ะเพลียกับแม่งจริงๆ
แต่อย่ามาถามพี่นะ.. พี่จำไม่ได้หรอก จำได้แค่วันเกิดก็บุญหัวแล้วเถอะ ไม่งั้นโดนโกรธนี่ยาวไปสามซอยแปดโลเลยนะเว๊ย! แต่ว่างั้นงี้แม่งไม่ใช่ธุระกงการอะไรของกูเลยนะทำไมกูต้องลุกจากที่นอน ลุกจากการกอดคนตัวนิ่มๆมากับมันด้วยวะ โอ๊ยชีวิต!
“กูจะซื้ออะไรให้น้องยาใจดีวะ ช่วยคิดหน่อยดิ” จงอินหันมาถามเพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะซื้ออะไรให้ดีก็เลยต้องชวนแบคฮยอนออกมาด้วย ก็ไม่เชิงชวนหรอกเรียกว่าบังคับดึงมันออกจากเตียงจะง่ายกว่า
“ดิลโด้ไหมล่ะมึงน้องยาใจจะได้คิดถึงมึงตลอดเวลา” แบคฮยอนกรอกตาไปมาแล้วออกความเห็นไปงั้นๆแหละ จงอินขยับเข้ามากอดคอแบคฮยอน
“ไม่ต้องหรอกของกูก็พอ ว่าแต่มึงล่ะสนใจซื้อไปใช้เองมะเผื่อคยองซูจะไล่มึงออกจากห้อง” แบคฮยอนมองค้อนซะตาแทบถลน
“พูดงี้ต่อยกับกูไหมล่ะ!” จงอินหัวเราะร่วนสะใจที่เอาคืนได้
“นี่กูซีเรียสนะเว๊ย ซื้ออะไรดีวะ” แบคฮยอนสะบัดมือจงอินออกแล้วกรอกตาไปมา เมียมึงมึงยังไม่รู้ กูเป็นใครกูจะรู้เหรอวะไอ้ห่า!
“ก็ของทั่วๆไปไง ตุ๊กตางี้ ดอกไม้งี้แล้วก็ทำการ์ดให้ด้วย” จงอินคิดตามแล้วก็ส่ายหน้า
“ไม่เอาอ่ะแหววไปเดี๋ยวน้องจงแดจะเขวี้ยงทิ้งซะก่อน” แบคฮยอนถอยหายใจ
“เอางี้น้องจงแดยาใจของมึงชอบอะไรก็ซื้อให้ไปเหอะ มันก็แค่วันจับมือกันครั้งแรกไม่ใช่วันที่พวกมึงได้เสียกันไม่สำคัญเท่าหรอก”
“เฮ้ยสำหรับกูมันสำคัญทุกวันนะเว๊ย!”
“ถ้าสำคัญทุกวันแล้วทำไมมึงถึงมาให้ของขวัญวันนี้วะห๊ะ” กรี๊ดใส่หูมันได้พี่พยอนจะทำ
“ก็วันนี้มันวันพิเศษนิหว่า เร็วดิมาช่วยคิดหน่อย”
“โอ๊ยกูไม่รู้มึงเป็นผัวมันก็คิดสิวะ!” อะไรๆก็ไม่เอา แค่มึงจับกดลงเตียงก็จบแล้วไหมคิดเยอะจังวุ้ย!
“เอองั้นไปร้านตุ๊กตากัน” เอ้าไอ้เวร!
“เฮ้ยพวกมึงอยู่กันครบเลยนะ” แบคฮยอนกับจงอินมองหน้ากันก่อนที่จะเบ้หน้าอย่างเสียอารมณ์ ครบอะไรล่ะมีกันแค่นี้ พอมองไปที่คนทักแล้วเห็นว่าเป็นใครจงอินก็แทบจะพุ่งเข้าไปถีบยอดหน้าอยู่แล้ว
“มึงใจเย็นดิวะวันนี้วันพิเศษของมึงไม่ใช่เหรอไง!” แบคฮยอนคว้าแขนจงอินไว้แน่น กลัวแม่งฟิวส์ขาดแล้วไปกระโดดถีบคนตรงหน้ากลางห้างเอาน่ะสิ
“หลีกทางไป” จงอินมองจ้องคนตรงหน้าอย่างโกรธเกรี้ยวแต่ก็ต้องกักเก็บอารมณ์ครุกรุ่นนั้นเอาไว้ คนตรงหน้าเคยมีเรื่องกับจงอินมาแล้ว เป็นเรื่องเมื่อสมัยจงอินยังอยู่ชมรมฟุตบอลตอนปีหนึ่งเทอมแรกที่โดนคนตรงหน้าแกล้งสกัดให้บาดเจ็บเพื่อที่เขาจะไม่ผ่านการคัดเลือกและออกจากชมรมไป จงอินกับคนตรงหน้าเจอกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วและมันก็ไม่ใช่เรื่องดีที่ดันเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันได้ ... ซวบชิบอ่ะ
“กูต้องหลีกด้วยเหรอ? เจอมึงวันนี้ก็ดีแล้วมาตัดสินกันหน่อยไหมเรื่องวันนั้นยังไม่จบหรอกนะ” จงอินยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะหึหึเย้ยคนตรงหน้า
“วันที่มึงจักรยานคว่ำหน้าเกือบแหกน่ะเหรอ? มันก็ไม่เกี่ยวกับพวกกูนะมึงต่างหาก”
“เออน่ารำคาญว่ะไปเหอะพวกกูมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ อย่ามามัวไร้สาระอะไรเลยว่ะ” แบคฮยอนดึงแขนจงอินให้เดินเลี่ยงออกมา เขาก็ไม่ได้อยากจะมีเรื่องอะไรด้วยหรอกนะ แม่งคือเรื่องไม่เป็นเรื่องไงทำเป็นเรื่องใหญ่โต
“ป๊อดก็บอกเหอะ” แบคฮยอนกับจงอินมองหน้ากันแล้วก็พยักหน้าให้กันอย่างรู้ความหมาย
โอเค.. ในเมื่อมันหยามมาก็จัดไป จัดไปอีท่าไหนไม่รู้พี่พยอนกับพี่จงอินก็เสียท่าโดนมันต่อยไปสองที มันกับพวกของมันก็สะบักสะบอมไม่ต่างกันหรอกแต่ที่ต่างกันก็คือพวกมันเจ็บตัวกว่าเยอะแค่นี้แหละ เห็นแบบนี้พวกพี่ก็เก่งสายบู๊นะจะบอกนอกจากหน้าตาดีอย่างเดียวน่ะ
แล้วแผนการจะซื้อของขวัญครบรอบวันพิเศษก็ต้องเป็นอันพับเก็บไป ทีนี้ก็เลยต้องมานั่งหน้าช้ำที่ป้ายรถเมล์รอให้หายเจ็บอีกสักหน่อยจะได้โบกแท็กซี่กลับบ้านชานยอลกันแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเคราะห์หามกรรมซัดกันแน่ที่คริสกับชานยอลขับรถผ่านมาพอดี มันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ.. อ่านได้จากสายตาของปาร์คชานยอล
“นี่พวกมึงไปทำอะไรกันมา” จงแดถามเป็นรอบที่สิบกว่าแต่ก็ไม่ได้คำตอบ จงอินเอาแต่ทำหน้าอ้อนอยู่นิ่งๆให้ทายาให้ แบคฮยอนเองก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ถ้าบอกว่าทำไมถึงได้แผลบนหน้ามาล่ะก็คาดว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ตายดีแน่ๆ ดูได้จากสสายตาของคริสและสายตาอยากรู้อยากเห็นของชานยอล
“แบคฮยอนไปมีเรื่องกับใครมา” คยองซูจ้องตาดุใส่แต่แบคฮยอนก็ได้แต่ยิ้มแหะๆใส่ พอยิ้มทีก็ตึงปากแล้วก็ร้องโอดโอยทุกทีจนคยองซูรำคาญที่จะถาม
“หรือว่าพวกมึงทะเลาะกันเองเหรอวะ! ต้องใช่แน่ๆ” ชานยอลที่เดินไปเดินมาหันมาสรุป ทุกสายตาหันไปมองคนที่ทำหน้าอิ่มเอมที่แก้ปัญหาได้แล้ว
“ไม่ใช่หรอกพวกมันจะทะเลาะกันทำไมล่ะ” จงแดค้าน ชานยอลหันไปทำหน้าคิ้วขมวดใส่
“แล้วอย่างนั้นพวกมันจะมีรอยบนหน้าได้ไง กูว่ามันต้องมีเรื่องกันแน่ๆเถียงกันไม่ลงรอยล่ะสิท่า” ชานยอลถอนหายใจแล้วส่ายหน้าก่อนที่จะเดินเข้ามาแล้วจับมือของแบคฮยอนกับจงอินให้จับกันไว้
“ดีกันเถอะอะไรที่เถียงกันไม่ลงตัวก็ช่างมันเหอะ เชื่อกู” ชานยอลทำหน้าตาจริงจัง แบคฮยอนกับจงอินได้แต่มองหน้ากันแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยกับชานยอล
“เออๆตามนั้น” เอาน่าอย่างน้อยชานยอลก็ทำให้คนอื่นไม่ได้สนใจอะไรมาก มันเป็นเรื่องของจงอินคนเดียวจะให้คนอื่นมายุ่งด้วยได้ยังไงกันล่ะ แม้ว่าทุกคนจะเชื่อแต่คนตัวเล็กน่ะไม่ได้เชื่อหรอกนะ
หลังจากที่ทายาและกินข้าวกันเสร็จคยองซูกับแบคฮยอนก็เดินขึ้นมาบนห้องนอน คยองซูไม่พูดก็พอจะดูออกหรอกนะว่าแบคฮยอนน่ะโกหก แน่นอนว่าแบคฮยอนกับจงอินน่ะไม่ได้มีเรื่องกันเองหรอกต้องมีเรื่องกับคนอื่นอยู่แล้ว.. ก็คนรักเพื่อนทั้งสองคนจะไปมีเรื่องกันเองได้ยังไง ถึงจงอินจะชอบพูดอะไรนอกเรื่องหรือชอบเสี่ยวบ่อยๆแต่จงอินก็ไม่เคยมีปัญหาสักครั้ง.. ยกเว้นที่ชอบไปกวนประสาทจงแดน่ะนะ
“แบคฮยอนถามจริงๆไปมีเรื่องกับใครมา” คยองซูยืนกอดอกมองคนที่นั่งซี๊ดปากอยู่ข้างเตียง แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้
“ไม่มีจริงๆ” แบคฮยอนจับมือแล้วดึงคยองซูให้เข้ามาใกล้ก่อนที่จะกอดเอวคนตัวเล็กไว้
“บอกไม่ได้เหรอ? ไหนบอกว่าจะไม่โกหกกันไง” คนตัวเล็กยกมือลูบผมของแบคฮยอนเบาๆ แบคฮยอนกอดคยองซูแล้วแนบหน้าซุกอก
“บอกไม่ได้จริงๆ” คยองซูถอนหายใจแล้วดันมือของแบคฮยอนออกจากตัว
“งั้นก็ไม่ต้องคุยกัน” คยองซูจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแต่แบคฮยอนดึงมือไว้แล้วดึงให้คนตัวเล็กมานั่งที่ตักพร้อมกับสอดมือกอดเอวเล็กไว้ไม่ให้ไปไหน
“ไม่ใช่ไม่อยากบอกแต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของไอ้จงอินไง เขาไม่กล้าพูดหรอก” คยองซูทำหน้าสงสัยแล้วกอดรั้งให้แบคฮยอนเอนหัวมาพิงตัวเขาก่อนที่จะลูบเส้นผมไปมา
“แล้วทำไมถึงได้ไปร่วมวงได้ล่ะหื้ม?” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคยองซูที่นั่งอยู่สูงกว่าแล้วก็ยิ้มแหยะๆ
“ก็อยู่ตรงนั้นด้วยพอดีน่ะก็มันจะรุมไอ้จงอินนิก็เลย.. นิดนึงน่ะ ที่รักไม่โกรธเขานะ” คยองซูยิ้มแล้วก็พยักหน้า
“อืมไม่โกรธหรอกแต่อย่าทำให้เป็นห่วงอีกนะ” แบคฮยอนพยักหน้าแล้วก็กอดคยองซูพร้อมกับแนบหน้ากับอกเล็กไว้
“ทราบแล้วครับ” คยองซูยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ
“ไปอาบน้ำไปทั้งตัวมีแต่ฝุ่นเดี๋ยวที่รักอาบน้ำเสร็จจะทายาให้อีกรอบนะ” คยองซูขยับตัวลงจากตักแบคฮยอนก็เลยต้องยอมปล่อยอ้อมแขนที่กอดเอวเล็กออก
“ไม่อาบน้ำให้เขาเหรอที่รักจ๋า~” คยองซูยิ้มแล้วส่ายหน้า
“อาบเองสิเดี๋ยวฉันจะลงไปเอากล่องยา” แบคฮยอนทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ คยองซูยิ้มกว้างแล้วแนบสองมือกับแก้มของแบคฮยอน
“ไม่ต้องมาทำหน้าขัดใจเลย ไปอาบน้ำเลยอาบเสร็จเดี๋ยวให้กอดนอนด้วยก็ได้” คยองซูแกล้งบีบแก้มแบคฮยอนแล้วส่ายไปมา
“จริงนะ” แบคฮยอนยกมือสองมือจับมือของคยองซูแล้วยิ้มกว้างจนริมฝีปากวาดเป็นสี่เหลี่ยม คยองซูพยักหน้าแค่นี้พี่พยอนก็ลัลล้าล่ะ คยองซูยิ้มขำมองตามหลังแบคฮยอนที่ดูจะดีใจเหลือเกินเข้าห้องน้ำไป
คนตัวเล็กลงมาเอากล่องยาข้างล่างบ้านแอบเห็นว่าคริสกับชานยอลกำลังทำอะไรอยู่ในครัว สวีทหวานกันน่ารักเชียว หันซ้ายหันขวาไม่เห็นจงแดกับจงอินก็คิดว่าคงขึ้นห้องไปเหมือนกันนั่นแหละ ก็ไม่รู้นะว่าจงอินจะโดนสวดยาวหรือเปล่าก็จงแดไม่ชอบให้เพื่อนมีเรื่องกับใครนินา.. โดยเฉพาะกับจงอิน จงแดน่ะไม่อยากให้คนเสี่ยวของมันเจ็บตัวหรอก
คยองซูหยิบกล่องยาบนโต๊ะหน้าโซฟามา เหลือของเขาอยู่กล่องเดียวก็แปลว่าจงแดคงเอาอีกกล่องขึ้นไปแล้ว พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของแบคฮยอนดัง ก็ไม่น่าแปลกใจถ้าคนในห้องน้ำจะไม่ได้ยินเสียงก็เล่นอาบน้ำไปร้องเพลงไปอย่างกับจะเปิดคอนเสิร์ตแบบนั้น คยองซูส่ายหน้าขำๆแล้วก็เดินไปหยิบมือถือที่อยู่บนเตียงมาดู
“แบคฮยอนม๊าโทรมา!” คยองซูเคาะประตูห้องน้ำเรียก
“รับให้หน่อย!” แบคฮยอนตะโกนตอบกลับมา
“สวัสดีครับม๊าแบคฮยอนอาบน้ำอยู่ครับ” คยองซูกดรับสายให้ น้ำเสียงของปลายสายดูดีใจเหลือเกินที่ได้ยินเสียงของคยองซู
“เดี๋ยวผมจะบอกแบคฮยอนให้นะครับ สวัสดีครับม๊า” แล้วก็กดวางสายเมื่อมะม๊าพูดธุระที่โทรมาจบ มะม๊าบอกให้แบคฮยอนกลับบ้านหน่อยแล้วม๊าก็ชวนเขาไปด้วย ใจจริงก็ไม่ค่อยอยากไปหรอกไม่ใช่เพราะไม่ชอบหรือมีอะไรกับบ้านของแบคฮยอนหรอก.. แต่ไปทีไรก็คิดถึงบ้านตัวเองทุกที
“เอ๊ะ..” คยองซูมองมือถือในมือที่มีสายเรียกเข้าอีกครั้ง ใจจริงก็ไม่ได้อยากเสียมารยาทหรอกนะแต่อยากรู้จังว่า ‘แฮยอง’ นี่มันคือใคร
“แบคฮยอน~ คุณม๊าบอกว่าแบคฮยอนจะกลับบ้านเหรอ? จะไปวันไหนอ่ะเดี๋ยวเราไปหาที่บ้านนะ~” ยังไม่ทันที่คยองซูจะได้พูดอะไรปลายสายก็ทักทายเสียงใสเชียว
“แฮยองคิดถึงแบคฮยอนมากเลยอ่ะ หลังจากวันนั้นที่เราไปกินข้าวด้วยกันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยอ่ะ คิดถึงจะแย่อยู่แล้วอ่ะ~” สาวเจ้าก็ยังคงพูดไม่เลิก คยองซูถอนหายใจ
“ขอโทษทีนะ แบคฮยอนอาบน้ำอยู่ส่วนจะไปบ้านม๊าวันไหนขอไม่บอกนะไว้ว่างก็จะไปกันเอง ไม่ต้องโทรมาอีกแค่นี้นะ” แล้วคยองซูก็กดตัดสายไปเลยถึงผู้หญิงคนนั้นจะโทรมาอีกคยองซูก็จะตัดสายอีก!!
แบคฮยอนที่อาบน้ำแล้วอารมณ์ดีก็เดินฮัมเพลงออกมาจากห้องน้ำ นี่บอกเลยว่าถึงจะอาบน้ำแล้วเจ็บปากไปบ้างก็พออภัย เจ็บเพราะแหกปากร้องเพลงอารมณ์ดีเนี่ยล่ะ! ก็แหมจะได้นอนกอดน้องยาใจ.. เฮ้ยไม่ใช่ล่ะ นอนกอดน้องตัวเล็กตาโตเลยนะ คิคิ พูดแล้วพี่พยอนอารมณ์ดีอยากตัดฉากไปตอนกลางคืนเลยอ่ะ!! นี่ไม่ได้หื่นนะบอกไว้เลย
แต่จะหื่นไม่ออกก็ตอนที่เปิดประตูออกมาเจอคนตัวเล็กตาโตนั่งกอดอกไขว้ห้างทำหน้านิ่งอยู่ปลายเตียงนี่ล่ะ.. ทำไมรู้สึกเหมือนเงาหัวจะขาดเลยวะ!!!
“อ่า.. ที่รักเป็น...”
“แฮยองนี่ใคร” โอเค บรรลัย!!!!
แบคฮยอนนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นตรงหน้าตัวเล็กมานานหลายนาที คือไม่รู้จะอธิบายยังไงดีอ่ะ ถ้าบอกตรงๆจะโดนดีดไหมหรือถ้าไม่บอกนี่จะโดนกระทืบหรือเปล่าคือก็กลัวอยู่หรอกนะบอกไว้เลย! แล้วดูตาโตๆที่มองจ้องมาดิโอ้โห้น่ากลัวว่ะพี่พยอนใจสั่นไปหมดแล้วเนี่ย โกหกก็ไม่ได้ไม่โกหกก็ไม่ได้ โอ๊ยชีวิตกูจะมาสิ้นสุดมันวันนี้เหรอวะ!!
คยองซูมองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ อยากจะถามเหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงมีเบอร์ใหม่ของแบคฮยอนได้แล้วเธอเป็นใครกัน ข้างในน่ะมันร้อนจนลุกเป็นไฟแต่ท่าทางที่แสดงออกกลับเย็นเป็นน้ำแข็งจนคนที่นั่งอยู่ต่ำกว่าทำหน้าแหยงอย่างหวาดกลัว
“ตกลงจะพูดไหม” น้ำเสียงเย็นๆที่ถามออกมาทำเอาแบคฮยอนใจเสีย นี่ถ้ามีมีดอยู่ใกล้มือรับรองเลยว่ามันจะต้องมาปักอยู่บนหัวเขาแน่ๆ แบคฮยอนเขยิบเข้าไปใกล้แล้วกอดขาคยองซูไว้ข้างหนึ่ง
“อย่าเพิ่งโกรธเลยนะคนดีฟังพี่ก่อนนะ.. คือมันไม่มีอะไรจริงๆนะที่รัก” คยองซูกรอกตาไปมาอย่าคิดมาใช้ลูกเสี่ยวแบบจงอินเด็ดขาด เพรานี่โดคยองซูไม่ใช่คิมจงแด!!
“หน้าฉันดูเหมือนเล่นมากใช่ไหม” แบคฮยอนขยับตัวออกแล้วยิ้มแหยะๆ ขยับตัวไปนั่งก้มหน้าคุกเข่าทำตัวเจียมเจี๋ยมเหมือนเดิม
“คือแบบว่า.. แฮยองคือ.. จริงๆมันก็ไม่มีอะไร.. แบบว่ายังไงดีอ่ะ.. คือแบบ… มันไม่มี... จริงๆนะ..” คยองซูถอนหายใจแล้วมองแบคฮยอนที่พูดอึกๆอักๆ
“พยอนแบคฮยอน!!!!!!”
“ครับ! คือมันไม่มีอะไรเลยแฮยองเคยเป็นเพื่อนบ้านเฉยๆแต่ว่าย้ายไปแล้วเพราะต้องไปเรียนที่ต่างประเทศอันนี้คงแค่กลับมาเที่ยวเฉยๆนอนไหนไม่รู้ไม่ได้ถามแต่ไม่มีอะไรนี่เรื่องจริงครับ!!” หลังจากที่โดรคยองซูตะโกนเรียชื่อเข้าให้ แบคฮยอนก็สะดุ้งโหยงหลับตาแน่นแล้วพูดออกไปรวดเดียวจบม้วน คาดว่าถ้าแร๊พได้พี่พยอนคงทำแล้ว
“ก็แค่นี้” คยองซูกรอกตาไปมา แบคฮยอนค่อยๆลืมตาขึ้นมองคยองซุที่นั่งกอดอกแล้วยิ้มอยู่ตรงหน้า
“ไม่โกรธเหรอ”
“โกรธ! แต่เชื่อว่าที่รักจะไม่โกหกใช่ไหม” คยองซูลงเน้นทุกพยางค์ แบคฮยอนพยักหน้ารับรัวๆ
“ไม่ได้โกหกเลยครับ ส่วนเรื่องเบอร์นั่นม๊าเป็นคนให้อ่ะ” คยองซูพยักหน้ารับแต่แล้วก็เหมือนจะนึกอะไรออก
“แฮยองนี่ใช่คนที่นายเคยชอบใช่ไหม?” แบคฮยอนทำหน้าตาตื่นตกใจ
“รู้ได้ไงอ่ะ” คยองซูไม่ได้รู้ทุกเรื่องหรอกแต่จำได้ว่าจงอินกับชานยอลเคยพูดให้ฟังว่าแบคฮยอนมีคนที่ชอบเป็นคนข้างบ้าน
“ช่างมันเถอะว่าแต่จะไปหาม๊าเมื่อไหร่”
“ที่รักอยากไปเมื่อไหร่ล่ะ” แบคฮยอนลุกขึ้นมานั่งข้างๆคยองซูบนเตียง
“พรุ่งนี้ไหมล่ะเผื่อจะอยากอยู่บ้านกับม๊ากับป๊าหลายๆวัน” คยองซูหันมองแบคฮยอนที่ยิ้มกว้างอารมณ์ดี คยองซูที่น่ารักมักจะคิดถึงคนอื่นเสมอเลย แบบนี้แหละที่ทำให้แบคฮยอนรู้สึก... รักคนตัวเล็ก
...มันก็คงเรียกว่ารักแหละเนอะ…
“ก็ได้นะแล้วที่รักจะอยู่กับเขาไหม” คยองซูเลิกคิ้วแล้วเอียงคอใส่
“แล้วอยากให้อยู่หรือเปล่าล่ะ” แบคฮยอนขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วช้อนแก้มคยองซูไว้
“อยากให้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตเลย” ว่าแล้วแบคฮยอนก็ยื่นหน้าเข้าไปกดทาบริมฝีปากด้วย คยองซูหลับตาลงแล้วตอบรับจูบนั้นที่ถูกป้อนมาให้
“โอ๊ย!” ก็เพราะเจ็บปากอยู่ไงแล้วดันทะลึ่งอยากจะดีพ เป็นไงล่ะก็เจ็บปากเอาน่ะสิ คยองซูลืมตามองคนตรงหน้าที่ร้องโอ๊ยๆกุมปากไว้แล้วก็หัวเราะ
“เดี๋ยวทายาให้ กินยาแล้วก็นอนซะจะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระให้อีก” แบคฮยอนบึนปากใส่แต่คยองซูกลับหัวเราะไม่สนใจเลยสักนิดว่าหัวใจของพี่พยอนจะเจ็บร้าวแค่ไหน
“เฮ้ยจะไปไหนน่ะ” ชานยอลที่กำลังจะบอกคุณแม่บ้านว่าเช้านี้จะทำอะไรเป็นมื้อเช้าหันไปเห็นเพื่อนตัวเล็กสองคนหิ้วกระเป๋าลงมาจากบันได
“ไปบ้านม๊าแบคฮยอนน่ะ” ชานยอลพยักหน้ารับรู้
“แล้วไปนอนเลยใช่มะ? งั้นให้ไอ้สองจงนั่นนอนนี่ไปก่อนก็ได้ว่าแต่จะกินข้าวเช้าก่อนเปล่า”
“ไม่อ่ะว่าจะไปกินที่บ้านม๊า” แบคฮยอนตอบ ชานยอลมองหน้าที่มีรอยช้ำๆแล้วก็นึกห่วงกลัวมันจะโดนมะม๊ามันซ้ำเอาน่ะสิ
“งั้นรอแปบจะให้ไอ้คริสไปส่ง มันไปเอาของให้พ่อมันที่บ้าน”
“ไม่ต้องหรอกเราเกรงใจ” คยองซูหันไปบอกชานยอลแล้วก็ยิ้มให้
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า โอ๊ะมาพอดีเลย.. คริสเดี๋ยวไปส่งแบคฮยอนกับคยองซูที่บ้านม๊าแบคฮยอนหน่อยนะ” ชานยอลหันไปบอกคริสที่เดินเข้าบ้านมา จงอินกับจงแดที่ตื่นแล้วหิวก็เดินลงมาจากบันไดเหมือนกัน
“อ้าวจะไปไหนกันวะ” จงแดถาม โอเคตกลงต้องรีรันใหม่ใช่ไหม
“จะไปบ้านกูนี่แหละ” แบคฮยอนหันไปมองด้านหลังบอกจงแด
“ไม่ต้องไปส่งหรอกเดี๋ยวพวกกูนั่งแท็กซี่ไปเอง” แล้วก็หันมามองคริส
“เฮ้ยไม่เป็นไรไปส่งได้แค่นี้เอง” คริสยกมือโบกปัดๆทำท่าว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
“ไม่เป็นไรหรอกคริส เราเกรงใจจริงๆ” คริสยิ้มแล้วเดินมาขยี้หัวคยองซู
“ไม่เป็นไรหรอกน่าจะได้ซื้อโจ๊กเจ้าประจำกลับมาด้วย อยากกินไหม” ไอ้คำสุดท้ายน่ะหันไปพูดกับชานยอลนะ
“เอาดิๆ คยองซูไม่ต้องเกรงใจหรอกน่าคนกันเองสิทธิพิเศษสำหรับเมียน้อย” แล้วชานยอลกับคยองซูก็หัวเราะกันเอง คริสก้าวเข้ามายืนข้างๆกอดคอชานยอลไว้แล้วระบายยิ้มมองแบคฮยอนที่ทำหน้าเหมือนอยากจะขัดมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“แล้วเมียเก็บอย่างกูล่ะ” จงแดทำหน้างอนใส่ชานยอล ชานยอลขมวดคิ้วทำท่าคิด
“อ๋อ~ ก็มีสิทธิ์ให้แต่ไม่พิเศษเท่ากูกับคยองซูนะ” จงแดหัวเราะแล้วก็ส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆ
“แล้วชู้อย่างเก๊าะล่ะ~” ทุกสายตาหันไปมองจงอินที่ทำหน้าแบ๊วเอานิ้วจิ้มปาก ทุกอย่างเงียบเชียบ จงอินก็ทำหน้าแบ๊วหันมองทุกคน
“ทำไมอ่ะเก๊าะไม่น่ารักเหรอ” จงแดตบหน้าผากตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมา
“พอเถอะจงอิน กูขอไม่มีชู้ได้ไหมวะ” สิ้นคำของคริสทุกคน็หัวเราะกันใหญ่
“ไม่ต้องไปใส่ใจชู้เลยมึง ไปส่งคยองซูกับแบคฮยอนได้แล้วเดี๋ยวมันก็สายหรอกมัวแต่เล่นกับไอ้จงอินอยู่ได้” จงอินทำหน้าบู้ใส่ชานยอล
“เออๆไปเลยเดี๋ยวไปส่ง เดี๋ยวกลับมานะ” คริสรั้งคอของชานยอลเข้ามาแล้วกดจูบที่แก้ม
“อย่าลืมโจ๊กนะ” คริสยิ้มแล้วขยี้เส้นผมของชานยอลจนยุ่งก่อนที่จะเดินออกจากไปตามแบคฮยอนกับคยองซู
“เบื่อไอ้พวกหวานไม่แคร์สื่อว่ะ” จงอินแบะปากใส่ ชานยอลก็เลยยักคิ้วให้
“แล้วไง? จงแดไปเข้าครัวกันดีกว่า ไปทำน้ำหวานกินกัน” ชานยอลกอดคอแล้วพาจงแดเดินไปที่ห้องครัว
“เฮ้ยรอด้วยดินั่นยาใจของกูนะ!!”
คริสขับรถไปส่งแบคฮยอนกับคยองซูโดยที่มีแบคฮยอนนั่งหน้าและคยองซูนั่งอยู่ด้านหลัง ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงที่หมายเมื่อส่งแบคฮยอนกับคยองซูเรียบร้อยคริสก็ขับรถกลับทันทีเพราะต้องไปซื้อโจ๊กเจ้าประจำไปฝากเจ้าเด็กตัวน้อยของเขาน่ะสิ
คยองซูเดินนำเข้าบ้านโดยทีแบคฮยอนเป็นคนหิ้วกระเป๋าและเดินอยู่ด้านหลัง พอเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นใครเลยสักคนแต่เหมือนจะได้ยินเสียงพูดคุยอยู่ด้านหลังบ้านซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นห้องครัว แบคฮยอนเดินนำไปก่อนแล้วก็เห็นมะม๊ายืนคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง
“ม๊าผมมาแล้ว~” แบคฮยอนเอ่ยเสียงทักมะม๊ากับผู้หญิงคนนั้นก็หันมามอง
“อ้าวมาแล้วเหรอ” มะม๊ายิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
“มาแล้วเหรอโชคดีจังที่แฮยองมาที่บ้านแบคฮยอนวันนี้” คยองซูที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังก็ก้าวเท้าออกมาเพื่อมองหญิงสาวคนนั้น
“โอ๊ะคยองซูไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะลูก” มะม๊ายิ้มให้ คยองซูก็ยิ้มตอบ
“ม๊าสบายดีเหรอครับ ไม่ได้มาหาม๊าตั้งนานมะม๊ายังสวยอยู่เลยน้า~” คนชมก็ยิ้ม คนโดนชมก็ยิ้ม คนที่ยืนอยู่ข้างๆคยองซูก็ยิ้มเหมือนกันแต่จะมีอยู่คนหนึ่งนั่นแหละที่ยิ้มไม่ออก
“กินข้าวมากันหรือยังลูก กินเลยไหมม๊าทำข้าวต้มเสร็จพอดีเลยแฮยองช่วยวางที่โต๊ะหน่อยนะ”
“ให้ผมช่วยไหมครับ” คยองซูอาสา
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ไปนั่งรอที่โต๊ะเลยแบคฮยอนพาคยองซูไปนั่งรอไปลูก”
“ไปกันเร็วหิวจนจะกินที่รักได้ทั้งตัวแล้วนะ” แบคฮยอนดึงมือคนตัวเล็กแล้วมองสบตาอย่างสื่อความหมาย คยองซูยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ไม่ให้กินหรอกน่า” แล้วก็แลบลิ้นให้ด้วย แบคฮยอนหัวเราะแล้วกอดคอพาคยองซูไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวด้านนอก
คยองซูรู้สึกได้ว่าหลังจากที่ตัวเขาได้เจอหญิงสาวที่ชื่อแฮยองแล้วสายตาที่เธอแอบเหลือบมองเขามันดูเหมือนการประกาศศึกกลายๆ.. อ๋ออยากได้แบบนี้ใช่ไหม? ฉันจัดให้ได้เลยนะ คยองซูแอบยกยิ้มส่งกลับคืนหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แฮยองมองตอบกลับด้วยสายตาถือดีและไม่ยอมลดลา
แบคฮยอนขยับเอนตัวมาทางคยองซูแล้วยื่นช้อนมาตักช้อนชิ้นหมูในชามของคนตัวเล็กไป คยองซูก็ทำตาโตมองแบคฮยอนอย่างตกใจไอ้คนที่ขโมยของเขาไปแล้วก็ได้แต่ยิ้มลอยหน้าลอยตา คยองซูชูนิ้วใส่หมายว่าแบคฮยอนจะต้องโดนทำโทษแน่ๆแต่เจ้าตัวก็ยังจะมายิ้มแต้แล้วเคี้ยวโชว์ให้ดูอีกแน่ะ
“เดี๋ยวเถอะ” คยองซูตีที่หน้าขาของแบคฮยอนเบาๆ
“แล้วนี่จะมานอนที่บ้านม๊ากี่วันล่ะเนี่ย” ม๊าเอ่ยถามแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“ก็ว่าจะมานอนจนกว่าม๊าจะไล่อ่ะ” แบคฮยอนยิ้มแล้วนั่งเท้าคางยักคิ้วให้ส่วนอีกมือก็เลื่อนไปจับกับมือของคยองซูใต้โต๊ะ
“เอองั้นไล่เลยล่ะกัน” แล้วมะม๊าก็หัวเราะ แบคฮยอนทำหน้างอนใส่
“ก็ไม่ไปอ่ะ” แล้วทั้งแม่ทั้งลูกก็หัวเราะกันสนุกเชียวแต่ที่ไม่สนุกน่ะคยองซูที่น่ะที่โดนลูบขาอยู่เนี่ย ตีมือก็แล้วดันออกก็แล้วแต่มือของแบคฮยอนก็เลื้อยมาลูบจนได้
“แบคฮยอนหยุดเดี๋ยวนี้นะ” คยองซูพูดเบาๆแล้วจับมือของแบคฮยอนไว้ เจ้าตัวก็หันไปทำหน้าไม่รู้เรื่องใส่
“เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะ” แบคฮยอนยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“คืนนี้นอนพื้นไปเลย” พอได้ยินว่านอนพื้นทีนี้หัวใจพี่พยอนก็เจ็บปวดเลย แบคฮยอนทำหน้าเจ็บปวดแล้วจับมือคยองซูไว้
“ไม่นอนพื้นนะ ไม่เอาอ่ะเจ็บหลัง”
“ก็เลิกลุ่มล่ามได้แล้ว” แบคฮยอนบึนปากใส่แต่ก็ยอมปล่อยมือออก คุณม๊าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา เอากับลูกเธอสิหน่า..
“คยองซูสบายดีใช่ไหมลูก ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ”
“สบายดีครับ แบคฮยอนดูแลผมดีครับม๊าไม่ต้องห่วง” คยองซูยิ้มแล้วแอบเหลือบมองแฮยอง ไอ้คนที่โดนชมก็ยิ้มไปสิยืดอกไปสิ
“จริงน่ะ? พูดเล่นหรือเปล่าคยองซูลูกไอ้นี่น่ะนะจะไปดูแลใครได้” มะม๊าทำหน้าไม่เชื่อแล้วมองแบคฮยอนด้วยหางตา
“โห้ยม๊า! นี่บอกเลยนะว่าพี่พยอนดูแลคยองซูดีประดุจคนรู้ใจอ่ะ” แบคฮยอนหัวเราะร่วน คยองซูก็ตีแขนคนพูดมากไปเบาๆก่อนที่จะเหลือบมองหญิงสาวด้วยสายตาที่เหนือชั้นกว่า แฮยองได้แต่ฮึดฮัดอยู่ในใจที่เธอทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เธอดึงความสนใจจากแบคฮยอนไม่ได้เลย
“แล้วไปรู้ใจคยองซูได้ยังไงกันล่ะห๊ะ” แบคฮยอนมองคยองซูแล้วก็ยิ้มกว้าง
“ก็อยู่ในใจนิจะไม่ให้รู้ใจได้ยังไงกันล่ะเนอะ” แล้วทีนี้คนพูดก็หัวเราะสนุกเชียว ไอ้คนอายก็อายไปสิ
“ม๊าครับผมขอขึ้นห้องก่อนได้ไหมครับ”
“อิ่มแล้วเหรอคยองซู ขึ้นห้องไปพักเลยก็ได้ลูกมาเหนื่อยๆเดี๋ยวจานพวกนี้ม๊าให้แฮยองช่วยเก็บเอง” คยองซูยิ้มแล้วหันไปยิ้มให้แฮยองด้วย คนที่ได้รับรอยยิ้มก็ยิ่งอยากจะลุกขึ้นอาละวาดซะให้ได้เลย
“ไม่ต้องตามมาเลยนะ” คยองซูหันไปชี้นิ้วใส่ แบคฮยอนที่ทำท่าจะลุกตามก็เลยได้แต่ทำหน้าหงอยถอยกลับมานั่งที่เดิม
คยองซูเดินไปที่บันไดแบคฮยอนก็มองตามตาละห้อยเชียว คือพี่พยอนอยากตามไปด้วยไงแต่แบบคนตัวเล็กไม่ยอมให้ตามไปอ่ะ คนตัวเล็กก้าวเท้าขึ้นบันไดไปแล้วสองขั้นก็หันหน้าไปมองที่โต๊ะกินข้าวก็เห็นว่าแบคฮยอนยังคงมองมาไม่ละสายตา ริมฝีปากสีหวานวาดรอยยิ้มให้แล้วทิ้งสายตาใส่ก่อนที่จะก้าวเท้าขึ้นบันได้ไป
อ้าว แล้วๆๆๆๆ แบบนี้ก็เสร็จพี่สิครับ!!! แบคฮยอนคว้าแก้วน้ำมาดื่มน้ำให้หมดก่อนที่จะลุกออกจากโต๊ะแล้ววิ่งตามคนตัวเล็กขึ้นไปข้างบน มะม๊าเรียกก็บอกแค่ว่าจะขึ้นไปนอนเธอก็ได้แต่ส่ายหน้ากับลูกของเธอ ส่วนแฮยองก็ได้แต่นั่งกำมืออยู่ใต้โต๊ะ ไอ้สายตาที่มองหากันน่ะอย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะ!!!
คนตัวเล็กหาห้องนอนของแบคฮยอนไม่ยากเลยก็หน้าประตูติดว่าห้องพี่แบคคนหล่อนี่นะ ไม่รู้ก็แย่แล้วล่ะ คยองซูเปิดประตูเข้าไปห้องของแบคฮยอนในความทรงจำเป็นยังไงมันก็ยังคงเป็นแบบนั้นและที่สะอาดก็เพราะฝีมือของมะม๊าหรอก คยองซูเดินไปที่เตียงนอนสีขาวสะอาดแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนคว่ำกับหมอนนิ่มๆ หมอนใบนี้นิ่มกว่าหมอนที่ห้องอีกแหะ.. ทุกอย่างดีหมดทุกอย่างยกเว้นก็แต่ผู้หญิงคนนั้นนั่นแหละ หึ.. จะแข่งกับโดคยองซูน่ะเร็วไปร้อยชาตินะ
คยองซูปิดเปลือกตาลงแล้ววาดรอยยิ้มซึมซับความอุ่นสบายนี้ บานประตูห้องนอนถูกเปิดและปิดลงพร้อมกับล็อคกลอนประตูด้วย แบคฮยอนปีนเตียงขึ้นมาแล้วนอนคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ คยองซูลืมตาแล้วหันมองแบคฮยอนที่ก้มหน้าลงมาหาเสียแทบชิดเลย ยังไม่ทันด้พูดอะไรริมฝีปากได้รูปก็ทาบลงมาเสียแล้ว
ริมฝีปากขยับตอบรับจูบกัน แบคฮยอนทิ้งตัวลงทับคยองซูแล้วกดจูบให้ลึก คนตัวเล็กหยุดจูบนี้ด้วยการเบี่ยงหน้าหนีแบคฮยอนก็ตามมากดจูบตามแนวซอกคอแทบ คนใต้ร่างก็ได้แต่ประท้วงด้วยเสียงนั่นแหละเพราะทั้งตัวโดนปิดกั้นทางหนีไว้แล้ว
“นี่มันที่บ้านนะ”
“แล้วไงอ่ะ ห้องนอนฉันไม่มีใครมายุ่งหรอกน่า” แบคฮยอนขบเม้มทำรอบสีจางที่ด้านหลังคอของคยองซู
“ไม่กลัวมะม๊าจับได้หรือไง” แบคฮยอนหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะจับคยองซูพลิกตัวมาหา
“มะม๊าไม่รู้หรอกถ้าที่รักไม่ครางเสียงดังน่ะนะ” คยองซูยิ้มแล้วจับหน้าของแบคฮยอนสะบัดหันไปทางอื่นอย่างหมั่นไส้
“ก็อย่ามากอดฉันสิจะได้ไม่ต้องครางเสียงดัง” แบคฮยอนหันหน้ากลับมาแล้วยักคิ้วให้
“ไม่ต้องครางแต่เรียกชื่อพี่พยอนก็ได้นะครับ” คยองซูหัวเราะเบาๆแล้วยกมือขึ้นเกี่ยวคอรั้งให้แบคฮยอนก้มลงมาจูบกัน แบคฮยอนก็จูบคยองซูแทบลืมหายใจ
“ไม่เอานะนี่มันยังเช้าอยู่เลยไม่เจ็บปากหรือไง” แบคฮยอนเลิกคิ้วแล้วโคลงหัวไปมา
“เจ็บปากน่ะเรื่องเล็กแต่ไม่ได้เอาน้องนี่ล่ะเรื่องใหญ่”
“อือ.. แบคฮยอนอย่ามาเบียดสิ!” แล้วคิดว่าพี่พยอนจะฟังไหมล่ะ? ก็ไม่น่ะสิ
คยองซูก็ปล่อยเลยตามเลย ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้ายัยผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าเขาเป็นอะไรๆกับแบคฮยอนแล้วจะยอมหยุดไหม หรือถ้าอยากจะเข้ามาแทรกก็มาเลยเชิญตามสบาย
...โดคยองซูน่ะไม่ชอบแบ่งของของตัวเองให้ใครหรอกนะ ถ้ากล้าก็เข้ามาลองดูสิ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น