ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Prelude
        ในที่สุดการสอบปลายภาคก็มาถึง
        “เล่นได้ดีแล้วล่ะ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว” อเล็กซ์พูด
        “จริงเหรอ” ฉันพูด “แต่เอาเวลาอ่านหนังสือมาซ้อมอย่างนี้จะเป็นไรมั้ยนะ”
        “ไม่เป็นไรหรอก ดีซะอีก เล่นแล้วใจสงบ จะได้มีสมาธิอ่านหนังสือไงล่ะ” อเล็กซ์พูด
        “อย่าเอาคนอื่นไปรวมกับพวกสมองเหนือมนุษย์อย่างนายเซ่” อลันตะโกนอย่างโกรธๆ
        “แล้วทำไมอลันถึงมานั่งอ่านหนังสือในนี้ล่ะ” ฉันถาม
        “มีเพลงให้ฟัง อ่านแล้วสบายใจดี”
        “นายก็เหมือนกันแหละ”
        “สอบวันนี้เป็นไงมั่ง” อเล็กซ์ถาม
      “ก็น่าจะโอเคนะ” ฉันบอก
      “ไม่อยากพูดถึง” อลันพูดเหนื่อยๆ
      “ตอนปิดเทอมมีใครจะมาโรงเรียนมั้ย” ฉันถาม
      “เราสองคนมาเล่นเล่นเบสบอลกันน่ะ แต่แค่ตอนต้นๆเท่านั้นนะ หลังจากนั้นเราจะกลับบ้าน
ที่อยู่อีกเมือง เชลซีจะมาซ้อมเปียโนเหรอ”
        “อื้ม”
      “งั้นดีเลย พอเราเล่นเสร็จแล้วจะมาหาละกัน จะมาช่วงไหนล่ะ”
      “คงตอนบ่ายๆถึงเย็นน่ะ”
      “งั้นโอเคเลย วันนี้กลับกันรึยัง เหนื่อยแล้ว”
      “กลับสิ สอบพรุ่งนี้ก็เต็มที่นะ วันสุดท้ายแล้ว” ฉันพูด
      “โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ บ๊ายบาย”
      “บ๊ายบาย”
      ในที่สุดการสอบปลายภาคก็ผ่านพ้นไป
      “โอเค ดาเนียล ผลสอบอาทิตย์ก่อนผลออกมาแล้วนะ คะแนนดีทีเดียวล่ะ”
      “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
      “ครูยื่นเรื่องให้แล้ว ผลออกมาเธอได้รับอนุญาตให้เลื่อนชั้นได้ ยินดีด้วย”
      “ขอบคุณมากนะคะ” ฉันพูดอย่างดีใจ
      “เอ้า งั้นนี่ กรอกใบระเบียบการนี่ซะ แล้วเดี๋ยวมาตามเวลาที่เขากำหนดด้วยนะ”
      ฉันเดินออกมาจากห้องพักครูอย่างอารมณ์ดี
      “ว่าไง ผ่านใช่มั้ย”
      ฉันพยักหน้าให้อลันกับอเล็กซ์
      “แจ๋วเลย งั้นพรุ่งนี้มาโรงเรียนสิ พวกเราจะมาเล่นเบสบอลตั้งแต่เที่ยง ตอนบ่าย ซัก4-5โมง
จะรีบไปหาที่ห้องดนตรี”
      “มาแน่อยู่แล้วล่ะ ก็พวกเธอจะกลับบ้านมะรืนนี้แล้วนี่”
      “ใช่ อย่าผิดนัดล่ะ ไปห้องดนตรีกันต่อเลยแล้วกัน”
      เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านตอนเวลาอาหารเย็นพอดี
      ปิดเทอมแล้วเหรอ ฉันคิด แย่จังแฮะ คงไม่ค่อยได้เจอใครอีกนานทีเดียวนะ บ้านนี้ก็เป็นที่
ที่ไม่น่าอยู่ซักเท่าไร อลันกับอเล็กซ์จะกลับบ้านมะรืนนี้แล้ว คนที่พอจะคุยด้วยได้ก็คงไม่มี
      เอาเถอะ ฉันบอกตัวเอง จะออกไปเที่ยวบ่อยๆแล้วกัน พรุ่งนี้ขอให้สนุกละกันนะ
      ฉันดับไฟ แล้วล้มตัวลงนอน
      แต่ในตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เหมือนกับฝันร้ายที่ไม่มีทางหนีพ้นกำลังจะเกิดขึ้น
      วันรุ่งขึ้นฉันไปถึงโรงเรียนตอนบ่ายโมงพอดี ฉันเข้าไปในห้องเปียโนเหมือนที่เคย แล้วนั่ง
ซ้อมเพลงที่อเล็กซ์สอนไปพลาง
      วันนี้อากาศดีทีเดียวนะ ฉันคิด ตึกนี้ก็เงียบสงบ และร่มรื่น บรรยากาศดีๆแบบนี้สบายใจจริงๆ
        ขณะนั้นเอง ประตูของห้องดนตรีก็เปิดออก ฉันไม่ได้หันหลังไปมอง แต่อยู่ๆก็ได้ยินเสียง
ของตกดังตุ้บ ฉันจึงหันไปมองแบบไม่ได้คิดอะไร แต่ว่า
        “วิลล์ แบลร์?”
      ฉันพูดขึ้นเบาๆ วิลล์ แบลร์ รองประธานชมรมยืนอยู่นิ่งๆห่างจากประตูหลายฟุต แต่จะว่าไป
ดูเหมือนจะกลัวจนขยับตัวไม่ได้มากกว่า ทั้งเขา และฉันต่างแปลกใจพอๆกัน แต่ดูเหมือนแบลร์จะ
ตั้งสติได้ เขาหันหลังแล้ววิ่งไปที่ประตู
      แต่ฉันไวกว่า “เดี๋ยว!” ฉันวิ่งเข้าไปขวางระหว่างเขากลับประตู พลางกระแทกประตูปิด แบลร์
ชะงัก ฉันสังเกตเห็นหน้าของเขาซีดไม่มีสีเลือด ดวงตาเบิกโพลง
      “ฉันมีเรื่องจะถามค่ะ” ฉันเดินเข้าไปพลางจ้องหน้าของแบลร์ เขาทำท่าจะหนีอีก แต่ฉันเข้าไป
ขวางไว้ แล้วเดินต้อนเขาเข้าไปในห้อง
      “นั่งลงก่อนเถอะค่ะ” ฉันพูด
     
      เขายอมนั่งลงแต่โดยดี ความกลัวยังไม่จางหายไปจากใบหน้า ตัวของเขาสั่นเหมือนควบคุม
ตัวเองไม่อยู่
      “ทำไมถึงต้องหนีฉันด้วย”
      แบลร์ก้มหน้าลง ไม่มีอะไรหลุดออกมาจากปากเขา
      ฉันย่อตัวลงมา “รุ่นพี่คะ ” ฉันพูดพลางจ้องตาของเขา
      คราวนี้ดูเหมือนความกลัวจะทวีเพิ่มขึ้น ตาของเขาลุกโพลง แล้วในวินาทีนั้นเอง
      “เหวอออ!!!!” แบลร์ลุกพรวดขึ้นมา รีบวิ่งไปที่ประตูอีกรอบ “เดี๋ยวสิ!” ฉันถูกชนจนหกล้ม แต่
ความลุกลี้ลุกลนก็ทำให้แบลร์วิ่งโซเซ ฉันฉุดเขาไว้ได้ก่อนที่จะบิดลูกบิดประตู เขาล้มลงอีกรอบ แต่
ฉันก็ยังจับเสื้อเขาไว้แน่น
      พริบตาหนึ่งที่ฉันบังเอิญสบตาเขา ฉันเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่นั่นคงจะสายไป
      “อ๊ะ! ”
      มือของแบลร์รวบเขาที่คอของฉัน ฉันพยายามตะโกน แต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา
      “ แกรนหาที่เอง” แบลร์พูด “ทำไมแกถึงยังไม่ตาย ฉันอุตส่าห์หนีออกมาจากที่นั่นแล้ว! ทำไม
แกถึงยังตามมาอีก ทำไมแกจ้องฉันอย่างกับมองฉันทะลุปรุโปร่งเหมือนตอนนั้นอีก ทำไมแกถึงเล่น
เพลงนั่น อย่าใช้สายตานั่นมองฉันนะ! ”
      ฉันฟังคำพูดต่อไปของเขาไม่ออก ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง แล้วหยิบปากกาที่อยู่ใน
นั้นออกมา แทงเข้าไปที่มือของแบลร์เต็มแรง
      “โอ๊ย!!!” แบลร์ตะโกน
ฉันวิ่งหนีอย่างทุลักทุเลจะไปที่ประตู แต่แบลร์เข้ามาขวาง ฉันจึงต้องเดินถอยหลัง ไปชนกับชั้นวางของ
ของหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น
      หนีไม่ได้แล้ว ฉันคิด
      “หนีไม่ได้แล้วสินะ ” แบลร์พูด “แกจะต้องตายจริงๆทีนี้ล่ะ อีออส ”
      เอ๋ อีออสเหรอ
      ชั่วพริบตาที่ฉันเผลอหยุดคิด แบลร์ก็พุ่งเข้ามา ฉันกลิ้งหลบไปด้านข้าง แต่ตอนนั้นเอง
      ตุบ
      เอ๋
      จู่ๆเหมือนหัวใจฉันเต้นผิดจังหวะ ฉันรู้สึกเหมือนสติกำลังค่อยๆเลือนหายไป
      ไม่นะ ไม่ใช่ตอนนี้
      ตุบ
      ตาของฉันเริ่มมองอะไรไม่เห็นแล้ว
      ตุบ
     
      แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบลง
        “เล่นได้ดีแล้วล่ะ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว” อเล็กซ์พูด
        “จริงเหรอ” ฉันพูด “แต่เอาเวลาอ่านหนังสือมาซ้อมอย่างนี้จะเป็นไรมั้ยนะ”
        “ไม่เป็นไรหรอก ดีซะอีก เล่นแล้วใจสงบ จะได้มีสมาธิอ่านหนังสือไงล่ะ” อเล็กซ์พูด
        “อย่าเอาคนอื่นไปรวมกับพวกสมองเหนือมนุษย์อย่างนายเซ่” อลันตะโกนอย่างโกรธๆ
        “แล้วทำไมอลันถึงมานั่งอ่านหนังสือในนี้ล่ะ” ฉันถาม
        “มีเพลงให้ฟัง อ่านแล้วสบายใจดี”
        “นายก็เหมือนกันแหละ”
        “สอบวันนี้เป็นไงมั่ง” อเล็กซ์ถาม
      “ก็น่าจะโอเคนะ” ฉันบอก
      “ไม่อยากพูดถึง” อลันพูดเหนื่อยๆ
      “ตอนปิดเทอมมีใครจะมาโรงเรียนมั้ย” ฉันถาม
      “เราสองคนมาเล่นเล่นเบสบอลกันน่ะ แต่แค่ตอนต้นๆเท่านั้นนะ หลังจากนั้นเราจะกลับบ้าน
ที่อยู่อีกเมือง เชลซีจะมาซ้อมเปียโนเหรอ”
        “อื้ม”
      “งั้นดีเลย พอเราเล่นเสร็จแล้วจะมาหาละกัน จะมาช่วงไหนล่ะ”
      “คงตอนบ่ายๆถึงเย็นน่ะ”
      “งั้นโอเคเลย วันนี้กลับกันรึยัง เหนื่อยแล้ว”
      “กลับสิ สอบพรุ่งนี้ก็เต็มที่นะ วันสุดท้ายแล้ว” ฉันพูด
      “โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ บ๊ายบาย”
      “บ๊ายบาย”
      ในที่สุดการสอบปลายภาคก็ผ่านพ้นไป
      “โอเค ดาเนียล ผลสอบอาทิตย์ก่อนผลออกมาแล้วนะ คะแนนดีทีเดียวล่ะ”
      “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
      “ครูยื่นเรื่องให้แล้ว ผลออกมาเธอได้รับอนุญาตให้เลื่อนชั้นได้ ยินดีด้วย”
      “ขอบคุณมากนะคะ” ฉันพูดอย่างดีใจ
      “เอ้า งั้นนี่ กรอกใบระเบียบการนี่ซะ แล้วเดี๋ยวมาตามเวลาที่เขากำหนดด้วยนะ”
      ฉันเดินออกมาจากห้องพักครูอย่างอารมณ์ดี
      “ว่าไง ผ่านใช่มั้ย”
      ฉันพยักหน้าให้อลันกับอเล็กซ์
      “แจ๋วเลย งั้นพรุ่งนี้มาโรงเรียนสิ พวกเราจะมาเล่นเบสบอลตั้งแต่เที่ยง ตอนบ่าย ซัก4-5โมง
จะรีบไปหาที่ห้องดนตรี”
      “มาแน่อยู่แล้วล่ะ ก็พวกเธอจะกลับบ้านมะรืนนี้แล้วนี่”
      “ใช่ อย่าผิดนัดล่ะ ไปห้องดนตรีกันต่อเลยแล้วกัน”
      เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านตอนเวลาอาหารเย็นพอดี
      ปิดเทอมแล้วเหรอ ฉันคิด แย่จังแฮะ คงไม่ค่อยได้เจอใครอีกนานทีเดียวนะ บ้านนี้ก็เป็นที่
ที่ไม่น่าอยู่ซักเท่าไร อลันกับอเล็กซ์จะกลับบ้านมะรืนนี้แล้ว คนที่พอจะคุยด้วยได้ก็คงไม่มี
      เอาเถอะ ฉันบอกตัวเอง จะออกไปเที่ยวบ่อยๆแล้วกัน พรุ่งนี้ขอให้สนุกละกันนะ
      ฉันดับไฟ แล้วล้มตัวลงนอน
      แต่ในตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เหมือนกับฝันร้ายที่ไม่มีทางหนีพ้นกำลังจะเกิดขึ้น
      วันรุ่งขึ้นฉันไปถึงโรงเรียนตอนบ่ายโมงพอดี ฉันเข้าไปในห้องเปียโนเหมือนที่เคย แล้วนั่ง
ซ้อมเพลงที่อเล็กซ์สอนไปพลาง
      วันนี้อากาศดีทีเดียวนะ ฉันคิด ตึกนี้ก็เงียบสงบ และร่มรื่น บรรยากาศดีๆแบบนี้สบายใจจริงๆ
        ขณะนั้นเอง ประตูของห้องดนตรีก็เปิดออก ฉันไม่ได้หันหลังไปมอง แต่อยู่ๆก็ได้ยินเสียง
ของตกดังตุ้บ ฉันจึงหันไปมองแบบไม่ได้คิดอะไร แต่ว่า
        “วิลล์ แบลร์?”
      ฉันพูดขึ้นเบาๆ วิลล์ แบลร์ รองประธานชมรมยืนอยู่นิ่งๆห่างจากประตูหลายฟุต แต่จะว่าไป
ดูเหมือนจะกลัวจนขยับตัวไม่ได้มากกว่า ทั้งเขา และฉันต่างแปลกใจพอๆกัน แต่ดูเหมือนแบลร์จะ
ตั้งสติได้ เขาหันหลังแล้ววิ่งไปที่ประตู
      แต่ฉันไวกว่า “เดี๋ยว!” ฉันวิ่งเข้าไปขวางระหว่างเขากลับประตู พลางกระแทกประตูปิด แบลร์
ชะงัก ฉันสังเกตเห็นหน้าของเขาซีดไม่มีสีเลือด ดวงตาเบิกโพลง
      “ฉันมีเรื่องจะถามค่ะ” ฉันเดินเข้าไปพลางจ้องหน้าของแบลร์ เขาทำท่าจะหนีอีก แต่ฉันเข้าไป
ขวางไว้ แล้วเดินต้อนเขาเข้าไปในห้อง
      “นั่งลงก่อนเถอะค่ะ” ฉันพูด
     
      เขายอมนั่งลงแต่โดยดี ความกลัวยังไม่จางหายไปจากใบหน้า ตัวของเขาสั่นเหมือนควบคุม
ตัวเองไม่อยู่
      “ทำไมถึงต้องหนีฉันด้วย”
      แบลร์ก้มหน้าลง ไม่มีอะไรหลุดออกมาจากปากเขา
      ฉันย่อตัวลงมา “รุ่นพี่คะ ” ฉันพูดพลางจ้องตาของเขา
      คราวนี้ดูเหมือนความกลัวจะทวีเพิ่มขึ้น ตาของเขาลุกโพลง แล้วในวินาทีนั้นเอง
      “เหวอออ!!!!” แบลร์ลุกพรวดขึ้นมา รีบวิ่งไปที่ประตูอีกรอบ “เดี๋ยวสิ!” ฉันถูกชนจนหกล้ม แต่
ความลุกลี้ลุกลนก็ทำให้แบลร์วิ่งโซเซ ฉันฉุดเขาไว้ได้ก่อนที่จะบิดลูกบิดประตู เขาล้มลงอีกรอบ แต่
ฉันก็ยังจับเสื้อเขาไว้แน่น
      พริบตาหนึ่งที่ฉันบังเอิญสบตาเขา ฉันเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่นั่นคงจะสายไป
      “อ๊ะ! ”
      มือของแบลร์รวบเขาที่คอของฉัน ฉันพยายามตะโกน แต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา
      “ แกรนหาที่เอง” แบลร์พูด “ทำไมแกถึงยังไม่ตาย ฉันอุตส่าห์หนีออกมาจากที่นั่นแล้ว! ทำไม
แกถึงยังตามมาอีก ทำไมแกจ้องฉันอย่างกับมองฉันทะลุปรุโปร่งเหมือนตอนนั้นอีก ทำไมแกถึงเล่น
เพลงนั่น อย่าใช้สายตานั่นมองฉันนะ! ”
      ฉันฟังคำพูดต่อไปของเขาไม่ออก ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง แล้วหยิบปากกาที่อยู่ใน
นั้นออกมา แทงเข้าไปที่มือของแบลร์เต็มแรง
      “โอ๊ย!!!” แบลร์ตะโกน
ฉันวิ่งหนีอย่างทุลักทุเลจะไปที่ประตู แต่แบลร์เข้ามาขวาง ฉันจึงต้องเดินถอยหลัง ไปชนกับชั้นวางของ
ของหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น
      หนีไม่ได้แล้ว ฉันคิด
      “หนีไม่ได้แล้วสินะ ” แบลร์พูด “แกจะต้องตายจริงๆทีนี้ล่ะ อีออส ”
      เอ๋ อีออสเหรอ
      ชั่วพริบตาที่ฉันเผลอหยุดคิด แบลร์ก็พุ่งเข้ามา ฉันกลิ้งหลบไปด้านข้าง แต่ตอนนั้นเอง
      ตุบ
      เอ๋
      จู่ๆเหมือนหัวใจฉันเต้นผิดจังหวะ ฉันรู้สึกเหมือนสติกำลังค่อยๆเลือนหายไป
      ไม่นะ ไม่ใช่ตอนนี้
      ตุบ
      ตาของฉันเริ่มมองอะไรไม่เห็นแล้ว
      ตุบ
     
      แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบลง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น