ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Silent Requiem

    ลำดับตอนที่ #5 : Intermezzo

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 48


           “อืม…ดาเนียล ผลการเรียนของเธอนี่ใช้ได้ทีเดียวนะ”



           “ขอบคุณมากค่ะ” ฉันพูดอย่างหวาดๆ



           “ดีแล้วล่ะ ทั้งที่ตอนต้นเทอมขาดเรียนไปมากขนาดนั้น แต่ผลกลับออกมาดี ถ้าเป็น

    แบบนี้ ถึงเวลาเรียนจะไม่พอ ก็อาจได้รับพิจารณาให้เลื่อนชั้นได้นะ”



           รอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นที่มุมปากของฉันเพราะสะกดไม่อยู่ “จริงเหรอคะ”



           “อืม ใช่ สอบคราวหน้าก็พยายามเข้านะ”



           “ค่ะ”



           ฉันเดินออกจากห้องพักครู แคลร์รออยู่ตรงนั้น



           “ว่าไงจ๊ะ หน้าระรื่นเชียวนะ”



           “ไม่มีปัญหา” ฉันพูดอย่างอารมณ์ดี “ดีจัง ทีนี้ก็สบายใจขึ้นเยอะเลย”



           “น่าอิจฉาแฮะ เชลซีน่ะถึงเข้ามากลางเทอมก็ยังเรียนเก่งขนาดนี้ ฉันสิ ทั้งที่พยายาม

    ตั้งใจเรียนแต่ก็ไม่เข้าหัวเลย”



           “ไม่หรอกน่า เดี๋ยวไปติวหนังสือด้วยกันอีกนะ ดูหนังสือสองคนเข้าใจขึ้นเยอะเลย” ฉัน

    พูดชวน



           นั่นสินะ ฉันคิด ทำไมทั้งที่ฉันเข้ามาเรียนได้ไม่นานแต่กลับเข้าใจได้เร็วก็ไม่รู้ บางทีก็

    มีความรู้สึกสบายใจที่ได้เรียน



           เมื่อก่อนนี้ฉันเป็นคนยังไงนะ? ความคิดนี้แวบขึ้นมาในหัวฉันหลายครั้งแล้ว เป็นอย่างที่

    เป็นในทุกวันนี้รึเปล่า? เป็นคนขยันเรียนมั้ย เรียบร้อยหรือร่าเริง แล้วเปียโนล่ะ เล่นเป็นรึเปล่า

    ทั้งหมดนี่เป็นสิ่งที่พ่อและแม่แทบไม่ได้พูดถึง ฉันเองก็แทบไม่เคยถามเลย เพราะรู้ว่าคงไม่

    ได้รับคำตอบ



           “อ๊ะ…จริงสิ แคลร์ เดี๋ยวฉันต้องไปห้องชมรม กลับห้องก่อนก็ได้นะ ฉันคงกลับก่อน

    หมดเวลาพักกลางวันนะ แล้วเจอกัน”



           “แล้วเจอกันจ้ะ”



           ฉันไปฝึกเปียโนที่ห้องชมรมได้หลายวันแล้ว ทรอยที่เป็นประธานให้รุ่นพี่ปี2ที่ว่างๆมา

    สอน เธอชื่อโจนส์ ออสบอร์น เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบๆ แต่ก็ใจดีกับเด็กใหม่อย่างฉัน



           “สวัสดีค่ะ” ฉันพูดอย่างเหนื่อยๆเพราะวิ่งมา



           “อ้าวหวัดดีจ้ะ เชลซี” เธอหันมา “เข้ามาเลย”



           “ขอโทษที่มาช้านะคะ”



           “ไม่ช้าหรอกจ้ะ เมื่อกี้ฉันมาก่อนเวลาเพราะจะซ้อมมือด้วย” เธอพูด “เอาล่ะ เมื่อวาน

    เธอเริ่มเล่น2มือได้ดีขึ้นแล้วนะ ฉันเลยเอาเพลงที่ยากขึ้นหน่อยมาให้ เธอเองก็เรียนได้เร็วดี

    แค่นี้ไม่มีปัญหาหรอกมั้ง นั่งก่อนสิ เดี๋ยวฉันเล่นให้ฟังรอบนึง”



           โจนส์เล่นเพลงให้ฉันฟัง ระหว่างที่ฟังอยู่นั้นฉันก็พูดขึ้นมา



           “ขอโทษนะคะ ถามอะไรหน่อยได้มั้ย”



           “ได้เลยจ้ะ ว่ามาสิ” เธอเล่นต่อไปอย่างไม่ติดขัด



           “คือ..รองประธานที่ชื่อวิลล์ แบลร์น่ะค่ะ ทำไมช่วงนี้ถึงไม่เห็นหน้าเขาเลยคะ?”



           “อ๋อ…หมอนั่นน่ะเหรอ ฉันลองถามมือไวโอลินดูแล้วล่ะ เห็นว่าบังเอิญไปเจอเข้า เขา

    บอกว่าพักนี้วิลล์ทำท่าหวาดๆยังไงไม่รู้ ชอบกลับบ้านก่อน วันซ้อมของดนตรีคลาสสิกก็ไม่

    ยอมมา จนวันซ้อมของพวกคนในวงดนตรีโรงเรียนนั่นแหละถึงยอมโผล่หน้ามาบ้าง ยังกับ

    หนีอะไรซักอย่าง”



           “เหรอคะ” ฉันพูดเสียงอ่อน หรือว่าบางที เขาอาจกำลังจะหนีฉันอยู่นะ…



           ฉันไม่เคยเจอกับวิลล์ แบลร์เลยจนถึงวันนั้น อย่างน้อยก็เท่าที่จำได้ เคยคิดอยู่เหมือน

    กันว่าจะลองถามดูว่าเขามีความเกี่ยวข้องอะไรกับฉันรึเปล่า แต่ดูจากที่เขาหนีหน้ามาตลอด

    ทำให้ไม่มีโอกาสได้ถาม แล้วต่อให้เจอกันจริงๆ ฉันก็คงไม่กล้าถามด้วย



           “เอ้าลองเล่นดูนะ” เธอพูด “วางมือตรงนี้ ก่อนอื่นดูเครื่องหมายข้างหน้ากุญแจก่อน…”

           หลังจากดูฉันเล่นไปสักพัก โจนส์ก็พูดขึ้น



           “โอเค ยังตะกุกตะกักนิดหน่อยแต่ถ้าขยันซ้อมก็ใช้ได้ แล้วก็…อาทิตย์ หน้านี่จะมีบาง

    วันที่ฉันต้องเตรียมสอบเก็บคะแนน ตอนนั้นพวกคนอื่นๆก็ไม่ว่าง พอนึกออกมั้ยว่าจะขอให้ใคร

    สอนได้ ไม่งั้นก็ต้องเลื่อนไปอาทิตย์หน้าเลย”



           “เหรอคะ ก็คิดว่าคงมีค่ะไม่ต้องห่วง” ฉันพูด



           “เหรอ งั้นก็ดีแล้วล่ะ โทษทีนะ”



           “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…ฉันต่างหากที่รบกวนมาตลอด”



           ฉันกลับมาตอนหมดเวลาพักพอดี รีบกระหืดกระหอบมานั่งที่โต๊ะ ไม่กี่วินาทีต่อมาอาจารย์

    ก็เข้าสอน



           “เฮ้ ว่าไง ฝึกเปียโนสนุกมั้ย” อลันพูด



           “อื้อ สนุกดี แต่เหนื่อยเหมือนกันนะ” ฉันพูด “เออนี่ อเล็กซ์ไปไหนล่ะ”



           “แอบหนีไปงีบน่ะ” อลันบอก “มีอะไรเหรอ”



           “คืองี้ อาทิตย์หน้ารุ่นพี่ที่ชมรมเขาไม่ว่างมาสอนน่ะ ถ้ายังไง อลันหรืออเล็กซ์มีใครว่างรึ

    เปล่า ถ้าว่างมาสอนฉันหน่อยได้มั้ย”



           “อืม ฉันว่างก็จริง แต่คงสอนไม่ไหวมั้ง รู้แค่พื้นฐานนิดเดียวเอง เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวฉันถาม

    อเล็กซ์ให้ หมอนั่นคงจะว่างน่ะ”



           “อืม ขอบคุณมากนะ” ฉันหันกลับมาขณะที่ครูเริ่มสอน





           “เฮ้ เชลซี”



           ฉันหันไปมองในขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน



           “อ้าว อเล็กซ์เหรอ”



           “รู้ได้ไงน่ะ” อเล็กซ์พูด “แปลกแฮะ แยกฉันกับอลันออกด้วยเหรอ”



           “ใช่เซ้นส์นิดหน่อยน่ะ แม่นเหมือนกันนะเนี่ย”



           “เรื่องสอนเปียโนน่ะ”



           “หือ”



           “ตกลงจะให้สอนวันไหน”



           “ฉันถามรุ่นพี่โจนส์มาแล้ว รู้สึกจะเป็น วันจันทร์กับพฤหัสน่ะ”



           “เหรอ อืม วันนั้นฉันไม่ว่าง ต้องไปช่วยงานชมรมน่ะ”



           “เหรอ” ฉันผิดหวังหน่อยๆ



           “เอ่อ แต่ตอนเย็นว่างนะ ถ้าอยู่ได้ฉันจะสอนให้”



           “อยู่ได้สิ ขอบคุณมากนะ”



           “ไม่เป็นไร แต่ฉันเลิกเล่นไปนานแล้วนะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขอโทษไว้ก่อนละกัน”



           “ไม่เป็นไรจ้ะ เออ ว่าแต่อเล็กซ์อยู่ชมรมอะไรเหรอ?”



           “ชมรมคอมพิวเตอร์ ช่วงนี้งานยุ่งมากเลยล่ะ”



           “อ้าว แล้วทำไมอลันถึงไม่ไปด้วยล่ะ”



           “หมอนั่นไม่ได้เข้าชมรมหรอก เห็นบอกว่าเอาเวลาไปพักผ่อนดีกว่า”



           “เหรอ คนที่ไม่เข้าชมรมก็มีเหมือนกันนี่เนอะ” ฉันพูด “จะว่าไป ฝาแฝดนี่ก็มีเรื่องที่ต่างกัน

    เหมือนกันนะ”



           “อือ ช่าย…” อเล็กซ์พูด “ทุกอย่างน่ะแหละนะ ต่อให้เหมือนกันขนาดไหน ถ้าไม่ใช่สิ่งเดียว

    กัน ก็ต้องแตกต่างกันอยู่ดี”



           “จริงด้วยสินะ” ฉันพูด “อ้าว ฉันต้องกลับบ้านก่อนแล้วล่ะ ขอตัวก่อนนะ บ๊ายบาย”



           “อือ บ๊ายบาย”





           ฉันวิ่งไปอีกทาง ถึงตอนนั้นฉันยังไม่รู้ตัว แต่นาฬิกาที่เคยหยุดเดินมานาน ได้เริ่มเดินต่ออีก

    ครั้งหนึ่งแล้ว…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×