ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fiction++!! gintama hiji X oki

    ลำดับตอนที่ #4 : บทเรียนภาคพิเศษตอน4: แผนเดิมๆน่ะ ใช้ไม่ได้ผลหรอก

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 54


    บทเรียนภาคพิเศษตอนที่สี่: แผนเดิมๆน่ะ ใช้ไม่ได้ผลหรอก

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

          

     

    ไปต่อกันซะที่ไหนล่ะวะ!? ตูไม่ได้ไปไหนกับมันเฟ้ย!!

    ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด เรื่องเมื่อวานจบลงด้วยอาวุธป้องกันตัวที่เรียกว่าเข่า ถือว่าเป็นอาวุธคู่กายที่ขาดไม่ได้เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นแบบไหนนะ?

     

    _//////////////////_

     

    บ้าเอ๊ย!!

    คนตัวเล็กสลัดหัวไล่ความคิด  ทั้งๆที่ ที่นี่มันห้องประชุมแท้ๆ คิดอะไรไปนั่น

    ฝ่ายตัวการนั่งยิ้มชวนให้คนตัวเล็กรู้สึกหงุดหงิด

    หมู่นี้มีแต่อารมณ์หงุดหงิด

     

    หงุดหงิดโว้ยยยย!!

     

     

    ฝ่ายคนอารมณ์ดีนั่งยิ้มเสียจนคนเป็นหัวหน้าอดแซวไม่ได้

    “อารมณ์ดีเชียวโทชิ ฝันดีรึไง?”

    คนอารมณ์ดีมองหน้าหัวหน้า และหันไปมองลูกน้องร่างเล็กแล้วอดขยับมุมปากไม่ได้

    จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ไงล่ะคร๊าบบบบบบ~ 

                   

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    บ้าเอ๊ย!! หมู่นี้ลงทุนอะไรไปก็มีแต่เสียกับเสีย เมื่อคืนก็เหมือนกัน เล่นเอาซะพูดไม่ออกเลย ถือว่ายังดีที่รอดมาได้ ไอ้บ้านั่นมันน่าฆ่านัก

     

    ตั้งแต่มันเล่นงานเราได้ชักเอาใหญ่ เริ่มทำตัวแปลกๆ

     

    ไอ้เราก็รู้สึกไปด้วย_////////////_

     

    ไม่ได้ล่ะ ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ต้องแย่แน่ๆ

     

    ฉันไม่จนมุมง่ายๆหรอก ไอ้ฮิจิคาตะ!!

     

     

    ว่าแล้วพี่แกก็ย่องเข้าห้องศัตรูอีกครั้งโดยสิ่งที่หมายไว้คือหัว!

     

    งานนี้แกไม่รอด ไอ้หอก!

    แน่นอนว่าวันนี้พี่แกวางแผนมาดี ไม่ต้องพิธีรีตอง ชักดาบมาบั่นคอเลย แต่อย่างนี้เรียกว่าวางแผนเหรอเนี่ย--?

     

    เปิดประตูอย่างระวัง  กลัวไอ้หมอนั่นมันจะตื่นซะก่อน   ว่าแล้วก็ย่องไปคุกเข่าข้างคนนอนชักดาบขึ้นมาชูเหนือหัว

    หมับ!

    ยังไม่ทันจะแทงด้วยซ้ำ กลับถูกคว้าตัวไว้แถมยังโดนคร่อมอีกต่างหาก!

    สะใจจริงๆ(คหสต.)

    “จะทำอะไรครับ^^”เสียงนุ่มๆแถมยังพูดเพราะ กระซิบลงมาเบาที่ข้างหู ทำเอาคนฟังขนลุก

    “แก! ไอ้ฮิจิคาตะ”ทั้งโกรธทั้งอาย

    “จะมาทำร้ายกันอีกแล้วเหรอ ไม่นึกว่าแผนนี้มันซ้ำไปหน่อยเหรอ...หืม?”คนข้างบนเริ่มไซร้ไปตามซอกคอ มือก็ปลดดาบลง มืออีกข้างก็ไล้ไปตามร่างกาย คนข้างล่างเอียงหลบแต่ไม่ค่อยเป็นผลเท่าใดนัก

    “อย่า...” เสียงที่ห้ามอย่างไม่หนักแน่นทำเอาคนฟังขยับมุมปาก

    อา...น่าแกล้งชะมัด

    “อย่าเสียงดังสิ... อยากให้คนอื่นได้ยินเหรอ”กระซิบลงเบาๆที่ข้างหูก็ไม่ว่า แต่แอบงับหูด้วยเนี่ยมัน...

    “ไอ้บ้า...”คนปากร้ายยังมิวาย

    ด้วยความรำคาญหรือยังไงมิทราบ พี่แกประกบปากลงบดขยี้คนข้างล่างให้จำนน ร่างกายที่เบียดลงมาแสนจะอึดอัดแต่กลับอบอุ่นอย่างประหลาด ความร้อนที่เผื่อแผ่ลงมาทำให้คนข้างล่างร้อนไปหมดทั้งร่างกาย แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมง่ายๆ ใช้ทุกมือผลักคนข้างบนหวังจะให้กระเด็น แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ เมื่อเฮฟวี่เวทลงน้ำหนักมาเต็มที่  แค่นี้ จิ๊บๆ

    แต่คนตัวเล็กไม่ใช่คนยอมอะไรง่ายๆจริงๆ ใช้มือที่สาม(?)ที่ชาร์จพลังมาเรียบร้อย ถีบกลางอกเต็มแรงจนกระเด็นแต่ไม่ไกลอย่างที่หวังไว้เท่าใดนัก แต่ก็เป็นผลดีที่ได้โอกาสควักบาซูก้าจากกระเป๋ามิติที่สี่ หวังจะยิงถล่มให้ราบแต่คนข้างหน้าก็ไม่ยอมคว้าเอาไว้

     

    ขืนทำแบบนี้ตำรวจก็มาก่อนจบน่ะสิ(จบอะไร?) ไม่ยอมพลาดโอกาสหรอกเฟ้ย!

     

    โดนแย่งอาวุธ แถมยังจะโดนกดอีกรอบอีก การต่อสู้ครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก โดยมีซิงเป็นเดิมพัน(?)

     

    ตอนนี้คนผมน้ำตาลกำลังแย่เมื่ออยู่ในสภาพถูกกดแต่มือก็ยังแข็งขืนเอาไว้

    “จะฆ่ากันก็จูบก่อนสิ ยอมให้ฆ่าเลยเอ้า!!”ยักคิ้วอย่างกวนส้น

    ไอ้หมอนี่เคยหื่นขนาดนี้ด้วยเหรอวะเนี่ย!!

    “ไอ้!

    ริมฝีปากประกบกันอีกครั้ง  คราวนี้ทั้งหนักหน่วงทั้งรุนแรง จนคนข้างล่างแทบจะละลาย มือไม้ไร้เรี่ยวแรงอ่อนยวบยาบลงในบัดดล คนข้างบนอมยิ้มอย่างมีชัยก่อนจะแปรเปลี่ยนให้เป็นจูบที่หอมหวานละมุนลิ้น บรรยากาศหอมหวานที่ได้รับที่คนข้างบนมอบให้ เริ่มทำให้คนข้างล่างเคลิ้มตาม

    ทำไมนะ...

     

    ความรู้สึกที่ไม่เป็นตัวเองจู่โจมมาที่คนร่างเล็ก ที่ทั้งรู้สึกดีและเย็น ในตัวมันเบาหวิวๆจนจะลอยให้ได้ ความรู้สึกที่มีต่อคนตรงหน้าเองก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดๆ แต่สิ่งนั้นมันคืออะไรล่ะ?

    ขณะที่มือของคนข้างบนกำลังเลยเถิด คนที่สติเกือบหลุดเด้งตัวขึ้นมาจับเสื้อของตัวเองปกปิดร่างกาย(มันถอดกันแล้วเรอะ!)มองฝ่ายตรงข้ามอย่างหาเรื่องทั้งที่หน้ายังแดงแปร๊ด คนผมดำที่ตกใจเล็กน้อยพอรู้ตัวหน้าก็เริ่มขึ้นสี

    “...”

    “...”

    ต่างฝ่ายต่างเงียบ นั่งจ้องตากันเหมือนไก่ชน ติดอยู่ตรงที่ไม่พุ่งใส่กันสักทีเนี่ยสิ

    แต่ก็นะ  สายตาจากคนผมดำที่ร้อนแรงกว่าทำเอาคนผมน้ำตาลหลบตาก่อนแหละ

    “ขอ...”คนผมดำเอ่ยขึ้น

    “?”

    “ขอโทษนะ  แต่ขออีกรอบเหอะ” กำลังจะพุ่งมา แต่คราวนี้คนตัวเล็กลุกทันที

     

    ขืนอยู่ไปมีแต่เสียกับเสีย

     

    จะมาฆ่ามันแท้ๆ

     

    ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ

    ไหงกลายเป็นแบบนี้วะ??

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    จะว่าไป ทั้งเมื่อคืนหรือจะเมื่อเช้า มันช่างทำให้เขาอารมณ์ดีมากมาย

    “ฝัน...?  หึๆ ไม่รู้สิครับ แต่จะฝันหรือเกิดขึ้นจริงผมก็รู้สึกดีทั้งนั้น” ท่านรองหัวเราะในลำคอ คนที่ได้ยินแล้วรู้สึกอายมันมีจริงนะเว้ย!!

    ความเมพที่มีในตัวของท่านรองที่เพิ่มมากขึ้นแม้แต่กอริล่าเองยังรู้สึกได้

    “อืม..แปลกๆเนอะ ปกติเจ้าโอคิมันจะร่าเริงอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นโทชิไปได้ไง อย่างกับโดนดูดพลังเนอะ”

    ดูดพลังรึเปล่าน่ะไม่รู้ แต่ถ้าดูดปากอ่ะ แน่ๆ

    ท่านรองหัวเราะเบาๆผิดกับลูกน้องที่ดูจะเดือดมากขึ้น

     

    ใจเย็นๆไว้ ไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธ เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่เห็นๆ หาโอกาสแก้แค้นท่าจะง่ายกว่า

    ผู้ชายที่สูญเสียความเยือกเย็นไป เรียกความมั่นใจกลับมาจนเหมือนเดิม

    รอยยิ้มซาดิสม์ก็กลับมาอีกครั้ง

     

    หึๆ แกยิ้มได้ไม่นานหรอก ฮิจิคาตะ เรื่องเมื่อเช้าแค่วู่วามไปหน่อยเท่านั้นเอง งานนี้แหละแกเอ๋ย~ฮ่าๆๆ

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    เมื่อประชุมเสร็จเหล่าตำรวจกินเมืองต่างก็แยกย้ายไปลาดตระเวนตามหน้าที่ ท่านรองของเราขึ้นเกี้ยวเตรียมไปลาดตระเวนพร้อมยามาซากิ ทันทีที่เกี้ยวออกตัว รอยยิ้มมาดร้ายก็โผล่มาอีกสักรอบ  คุณชายซาดิสม์ที่คืนชีพ ขับเกี้ยวตามมาอีกคัน พร้อมประกบข้าง ท่านรองของเราไม่ทันระวัง หันไปเจอยิ้มสุดจิตที่โผล่มาพร้อมบาซูก้าคู่ใจถึงกับหน้าซีด

     

    เอาแล้วไง  อิทธิฤทธิ์แม่มดซาดิสม์

    ท่านรองรู้ตัวดีว่าเล่นกับของใหญ่มักจะมีจุดจบอย่างนี้

     

    กรี๊ดดดดดดดด! หนูไม่นิยมบทแบบนี้

    ยามาซากิเริ่มเห็นอาแปะถือเคียวลางๆ

     

    “อย่า!!” ไม่ทันละ เพราะพี่แกเล่นยิงสามนัดกะเอาตาย งานนี้กลายเป็นตำรวจปิ้งแหงๆ

    ตู้ม!!!!!!

     

    รอยยิ้มทมิฬฉายแววโลดอีกครั้ง

    เฮ้อ..สบายใจเลยแฮะ.

     

    คนที่คลานออกมาจากเกี้ยวเผา นั่งอยู่บนพื้นพลางถอนหายใจ

    จนได้สิน่า ไอ้รอยยิ้มนั่นน่ะ

    พลางยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงยิ้มใหญ่ๆสุดซาดิสม์นั่น

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

      หน้าช็อป อิน คาบุกิโจ

    “ว้าว มีแข่งDeath R∆ce กันอ่ะน่อ”หมวยสาวที่มาพร้อมกับสาหร่ายดองคาปาก

    “แข่งขับเกี้ยวนรกนะเรอะ มันก็แค่ไอ้พวกทำผิดที่ถูกจับได้ใช้วิธีฆ่ากันบนเกี้ยว แทนการขึ้นแท่นประหารนั่นล่ะว้า”

    “อ๊ะ นั่นมังอามายองเลอร์จิกป่วงนี่นา อีแข่งเร๊กเร๊ก ด้วยอ่ะน่อ”

    “มันจะเป็นไปได้ไงหา ก็การแข่งนี้มีแต่นักโทษ... เฮ้ย!

    พึ่งจะเห็นจริงๆนะเนี่ย

    ภาพที่เห็นคือสองหนุ่มนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างๆเกี้ยวที่ถูกเผาจากซากระเบิดโดยมีเงาอาแปะถือเคียวอยู่ลางๆ

    “อ่า... ไม่ใช่เดธเรซหรอก อย่างนี้เขาเรียกว่า ตำหนวดที่เอาเงินภาษีมาใช้ทิ้งๆขว้างๆนาเหวย”

    “แล้วอาแปะถือเคียวนั่งคืออาไรอ่ะ?”

    “อันนั้นเค้าเรียกว่า ลางร้ายล่ะมั้ง?”

    สาวหมวยพยักหน้าหงึกหงัก

    “แล้ว....ลื้อจาไปไหนนนน!!??”สาวหมวยตะโกนลั่น เมื่อเห็นคุณพ่อถูกลากคอจากหัวหน้าขับไล่ต่างแดนที่วิ่งจ้ำอ้าวหนีคุณตำหนวด

    “ไม่รู้เฟ้ยยย! ถามซึระมันเด้!!

    “ไม่ใช่ซึร้า!คาซึร้าตังหาก!!”ดูมัน... มุขมหาอมตะ ยังมีอารมณ์ตะโกนกลับ

    “อย่าหนีน้า!”ที่ตามมาติดๆคือตำหนวดดาวSที่ลากคอตำหนวดมายองเลอร์ เอ๊ะ หรือเรียกว่าจิกหัวดี?

    “เจ็บ!ปล่อยซีฟระ!!

    นอกจากไม่ปล่อยแล้วยังกระชับมือให้แน่นอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ท่านรองตั้งตัวไม่ทัน  เมื่อกี๊ยังนั่งอยู่ดีๆต้องมาออกกำลังทางหัวซะงั้น แถมทางเลี้ยวยังเยอะจนชนกะอะไรต่อมิอะไรแม้กระทั่งถังขยะ  แต่ไหงอาแปะถือเคียวถึงลอยมาตรงนี้เนี่ย??

    “ปล่อยตูเด้! ตูเห็นอาแปะแล้วนาเฟ้ย!

    “ทักทายสิครับ”ไอ้คนพูดมันไม่ได้หันมาดูข้างหลังเล้ย อาแปะถือเคียวเริ่มเอาเคียวซ้อมมือดูไปคล้ายวงสวิงกอล์ฟชอบกล

    “เอ็งจะซ้อมมือทำแป๊ะไร ตูไม่ยอมตายหรอกเฟ้ยยย!!

    อาแปะถือเคียวทำท่าทักทายท่านรองอย่างเป็นกันเอง

    “ตูไม่รู้จักเอ็งเฟ้ยยย!

    “คุณฮิจิคาตะ เดี๋ยวก็ไปอยู่ด้วยกันแล้ว แนะนำตัวหน่อยสิครับ”

    “เอ็งเห็นใช่ไหม?? สรุปเอ็งเห็นใช่ม้ายยยย!??”

    “ตูยังไม่ถึงฆาตเฟ้ยย! ไปไหนก็ไป!

    อาแปะถือเคียวเริ่มไม่แน่ใจ เปิดสมุดสีดำ หน้าปกเขียนว่าเดธโน้ต -0-

    ฮิจิคาตะ โทชิจิ?

    “ไม่ช่ายยยย! ตูฮิจิคาตะ โทชิโร่!

    เท่านั้นแหละ อาแปะก็กำปั้นทุบมือเหมือนนึกขึ้นได้ แอบทำท่าเศร้าๆ

    “ตูไม่ใช่เหยื่อเอ็ง! อย่ามาตีหน้าเสื่อมเฟ้ยย!

    อาแปะถือเคียวก็หายไป เป็นจังหวะเดียวกับที่หนุ่มS ของเราหยุดพอดี

    “มันหนีเข้าที่นี่ครับ”

    ข้างหน้าเขียนป้ายเด่นเป็นสง่าว่า เลิฟโฮเทล

    มันเข้าไปทำอะไรของมันฟระ??

    ข้างใน หญิงสาวหน้าหวานในชุดกิโมโนชายสั้นใบหน้ามีสีที่แต่งเติมเดินยิ้มหวานมาต้อนรับแขกที่เป็นสองหนุ่ม

    “สวัสดีค่ะ รับห้องแบบไหนคะ?”

    “ห้องที่ผู้ชายสองคนที่ผมยาวๆกับผมเงินน่ะ อยู่ไหน?”

    หญิงสาวอมยิ้มรับแขก

    “ไม่ได้ค่ะ เป็นความลับของลูกค้า”

    “แต่ผมเป็นตำรวจ! ห้องไหนที่สองคนเข้าไปแล้วหาไม่เจอ”ว่าแล้วก็โชว์ตราของชินเซ็นงุมิ

    “ห้อง1021ค่ะ”

    ทันทีทันใดเลยนะคุณเธอ

    หน้าห้อง1021

    ชายหนุ่มสองคนยืนประจันหน้าประตู หลังจากนั้นก็ตัดสินใจไขกุญแจเข้าไปข้างในทันที

    “เฮ้ย!!”ถึงกับผงะ

    มันมาทำอะไรของมันวะ??

    ภายในห้องเป็นเขาวงกตขนาดใหญ่ที่เป็นกำแพงอย่างหนา สูงประมาณสองถึงสามเมตร ถ้าคิดจะปีนคงยาก ดูแล้วซับซ้อนสมกับเป็นที่หลบภัยอย่างดี

    แต่ว่า ไอ้ห้องแบบนี้ทำไมมันมาอยู่ในเลิฟโฮเทลวะ?

    คำแนะนำการใช้งาน

    -ห้องนี้มีชื่อว่า เขาวงกตหลงทางรัก

    -ภายในเขาวงกตจะพบกับความเร้าใจ ตื่นเต้น และการผจญภัยมากมายที่ชวนให้คุณรู้สึกรักคนข้างๆมากขึ้น เมื่อเดินเข้าไปข้างใน

    -ตามจุดต่างๆของเขาวงกตมีเซ็กส์ไอเทมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ที่ได้พบ

    -ข้างในจะไม่พบกับความน่าเบื่อเลย แม้คู่รักจะเบื่อกันแล้วตามทำให้เกิดอารมณ์คึกคักยิ่งขึ้น

    -หากอารมณ์ขึ้นจนมีการกดนอน ระบบเซ็นเซอร์จะทำงาน โดยมีเตียงขึ้นมาทันที ขอให้คุณสนุกกับการใช้งาน

    ข้อควรระวัง

    -หลงทาง

    คำเตือน

    -ออกมายากนา

    -เราเตือนคุณแล้วนา

    ห้อง1021

    “คุณฮิจิคาตะครับ ดูนี่สิ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เกิดอาการเกร็งขึ้นกระทันหัน ถ้าไม่อ่านก็ไม่คิดอะไรอยู่หรอก_/////////_

    ไอ้คนข้างตัวก็เหมือนกัน ไหงถึงหันมาสร้างซีนส่ออย่างนี้ฟระ เดี๋ยวจับปล้ำซะให้เข็ด

     

    “เอิ่ม... เรา เข้าไปกันเถอะ”ท่านรองหันมาตีขรึม ถึงแม้ข้างในไม่ได้รู้สึกขรึมสักนิด

    ฝ่ายคนตัวเล็กรู้ตัวดี ว่าบรรยากาศอย่างนี้ไม่ค่อยดีต่อตนเองสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่ทำได้คือ...ไม่สนใจ

     

    อาวล่ะ...ถ้าเราไม่สนใจก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    ทั้งสองเดินเข้าไปในเขาวงกตอย่างระมัดระวัง แต่ไม่รู้อะไรน่ากลัวกว่ากันระหว่างตัวเค้าเองกับสิ่งแวดล้อม

    อืม...เท่าที่ดูมาก็ไม่มีอะไร แล้วไอ้พวกนั้นมันไปอยู่ไหนล่ะ

     

    ฟู่...

    เครื่องจับสัญญาณทำงาน เมื่อมีการก้าวเท้ามายังจุดสัญญาณ ลมที่ผสมน้ำก็เป่าเข้ามาใกล้ๆหูของท่านรอง เล่นเอาท่านรองสยิวสะท้านไปทั้งร่างกาย

    ชิบ..ลอส!

    เครื่องอะไรของมันวะ?

    แอบสบถในใจ

    หันไปมองคนข้างหลังที่ยังไม่รู้ชะตากรรมชีวิตสักเท่าไหร่

    “แก... มานำมั้ย?”

    ตอนนี้ คนเดินนำกลายเป็นคุณชายซาดิสม์ที่ดูจะไม่ร้อนไม่หนาวกับรอบๆตัวเท่าใดนัก ผิดกับท่ารองที่เอาแต่มองเหลียวซ้ายแลขวาอย่างกับคนมีพิรุธ

     

    ไอ้เมื่อกี๊...เค้าเรียกว่า เซ็กไอเท็มรึยังวะ?

     

    อันนั้นมันแค่เรียกน้ำย่อย ตอนนี้ เมนูหลักกำลังเล่นงานท่านรองจากทางด้านหลังซะแล้ว

     

    ไอ้การเดินอย่างระวังโดยการชิดตามกำแพงเขาวงกต ทำให้เกิดเหตุการณ์พิศดาร ระบบเซนเซอร์ที่ติดกำแพงทำงาน ล็อคคนระวังตัวเอาไว้ แถมยังลูบคลำไปทั้งตัว  ท่านรองของเราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะพาชีวิตคนข้างหน้ารอดออกจากที่นี่ไหม

    “เฮ้ยๆ!!

    ไอ้มือประหลาดเริ่มเลยเถิดถึงขั้นปลดช่วงล่างลง คุณชายซาดิสม์เห็นท่าไม่ดีจึงจัดการเอาดาบฟันฉะมือทั้งหมดออก

    “ข...ขอบใจ”

    “ระวังตัวบ้างก็ดีนะครับ”

    คนเขาอุตส่าห์ระวังตัวแทบตาย อีตานี่ดันเดินเข้าหากับดักเฉยเลย ไอ้ฉากเมื่อกี๊ก็เหมือนกัน อันตรายชะมัด ถ้าโดนแบนจะว่าไงเนี่ย

     

    เริ่มรู้สึกรักคนข้างๆอย่างที่ประกาศซะแล้ว แต่ไอ้จริงๆก็รักมันมาตั้งนานแล้วล่ะ

    คุณชายซาดิสม์เดินอย่างไม่เกรงกลัวจะโดนทำอันตราย คงเพราะถนัดทำอันตรายให้คนอื่นมากกว่าล่ะมั้ง นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะท่านรองเองก็ดูจะไม่รอดเหมือนกัน

     

    แต่ต่อให้ระวังตัวแค่ไหนมันก็มีพ้นสายตากันบ้าง ท่านรองปีศาจที่เริ่มหงุดหงิดเดินไปสะดุดเชือกที่วางอย่างจงใจจนเผลอไปกอดคนข้างหน้าล้มไม่เป็นท่า

    “เฮ้ย!

    นั่นแหละ ดูเหมือนจะมีการวางแผนมาอย่างดี พอล้มปุ๊บก็มีเชือกตาข่ายบินมาจากไหนไม่รู้ลงมาทางคนล้มทั้งสอง ทำให้ขยับออกจากกันยากเย็นยิ่งขึ้น งานนี้คนตัวเล็กถึงขั้นสติแตก

     

    “เอ็ง! ฮิจิคาตะ ออกไปนะ!

     

    “เห็นมั้ยล่ะวะว่ามันออกไม่ได้ หาอะไรมาตัดเชือกนี่ออกสิวะ”

     

    ยิ่งดิ้นยิ่งดูเหมือนพื้นที่มันยิ่งน้อยขึ้น ร่างสูงที่พยายามจะออกแต่เชือกเริ่มกระชับขึ้นจนเนื้อแนบเนื้อ คนตัวเล็กทั้งโกรธทั้งอายแกวีนหนัก

    “ออกป๊ายยยย!”คนตัวเล็กเริ่มโวยวาย เมื่อรู้ตัวว่าบรรยากาศเริ่มพาไปเสียแล้ว

     

    “ใจเย็นสิวะ อย่าขยับสิ กลัวอะไรนักหนา”ร่างสูงที่ดูจะฉุนเหมือนกันเหมือนเริ่มนึกขึ้นได้แล้วสักที

     

    อดยิ้มไม่ได้  ไอ้ที่โวยเพราะคิดแบบนี้เองหรอกเหรอ

     

    “ทำไม? กลัวเหรอ” รอยยิ้มปีศาจหื่นโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง งานนี้คนตัวเล็กกลัวจริงๆแน่

     

    คนตัวสูงเริ่มเบียดคนข้างล่างด้วยแรงตัวเอง  เอามือกระชับอ้อมกอดจนคนตัวเล็กรู้สึกได้ คนตัวเล็กที่พยายามขยับออก รู้ดีว่ามันไม่เป็นผลอีกแล้ว  หลังจากที่ซ่อนเอาไว้ทีไร ก็มักจะแพ้เสียงนี้...ความรู้สึกนี้

     

    “ไม่ได้กลัวโว้ยยย!!”พยายามฝืนตัวให้ถึงที่สุด แต่พอเจอสายตานั้นก็ปวกเปียกอีกแล้ว เฮ้อ...แพ้มันทุกทีสิน่า

    “นั่นสินะ เป็นคนที่ชอบทำให้คนอื่นกลัวนี่...”ท่านรองมองหน้าคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างจงใจ ในขณะที่คนตัวเล็กเอาแต่หลบอยู่ท่าเดียว

     

    อย่าไปมอง บางทีอาจจะแพ้จนไม่เหลืออะไรเลยก็ได้

     

    เส้นผมสีดำสนิทน่าสัมผัส

     

    ดวงตาสีดำที่เหมือนดั่งต้องมนต์สะกด

     

    ที่แพ้ทุกครั้งก็ดวงตาเย้ายวนคู่นี้นี่แหละ

     

    “อย่ามองนะ”เผลอหัวเราะออกมาเบาๆ ก็คนข้างล่างเคยทำเสียงน่ารักอย่างนี้ที่ไหนล่ะ

     

    ไม่ให้มองได้ไงล่ะ เวลาอย่างนี้คนผมน้ำตาลกลับดูน่ามองยิ่งกว่าเป็นไหนๆ ใบหน้าแดงซ่านที่แสดงความรู้สึกมาไม่ตรงกับปากนั้นแทบอยากแสดงความเป็นเจ้าของให้ได้เร็ววัน ดวงตาสีแดงที่อยากได้มาครอง

    ให้มองเพียงเขาผู้เดียว...

     

    “ทำไมล่ะ? ออกจะน่ามอง” คนข้างบนมองตามอย่างไม่ลดละเอามือใหญ่รวบแขนคนข้างล่างอย่างง่ายดาย ในที่สุดก็ได้สบตาสักที ดวงตาที่ซ่อนความน่ารักเอาไว้ไม่มิดเอาซะเลย ปากที่เม้มอย่างจะอยากเอาลิ้นเข้าไปแทรกออกซะให้เข็ด บรรยากาศในเชือกที่ไม่น่าจะโรแมนติกกลับทำให้คนข้างบนอยากจะฝังความดรแมนติกไว้ในกายคนข้างล่างเสียแล้ว

     

    คนผมดำฝังใบหน้าของตนลงลำคอเรียวระหงอย่างตั้งใจและเนิ่นนานมืออีกข้างที่ยังว่างหันมาโน้มคอคนผมน้ำตาลให้ยินดีรับกับการกระทำ ก่อนจะถอนออกแล้วไล้ขึ้นมาบนริมฝีปากอิ่ม แล้วประทับจูบบนกลีบปากนุ่มอย่างอ้อยอิ่งพยายามจะแทรกลิ้นเข้าให้ริมฝีปากเผยอออก คนผมค่อยๆละจากริมฝีปากอวบอิ่มแล้วกระซิบลงข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

     

    “ยอมให้จูบเถอะ...นะครับ”

     

    คนตัวเล็กหน้าแดงซ่าน อ้าปากหวังจะด่าแต่โดนคนผมดำฉวยริมฝีปากกดลงมาจนแรงที่เคยขยับเขยื้อนได้เริ่มหมดลงอย่างช้าๆ แต่ความเร็วของทางเดินหายใจเริ่มถี่

     

    เป็นจูบที่หอมหวานอีกครั้ง แม้ไม่รู้จะเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็มิอาจลืมได้เลย ยากที่ถอนสายตาและหัวใจ ออกจากคนที่ทำสัญญาครั้งนี้ได้

     

    แต่ละครั้งที่ทำสัญญา เหมือนโดนดูดกลืนทั้งตัวและหัวใจเอาไว้ ถ้าทุกอย่างหมดไป จะเอาอะไรมาทำสัญญาล่ะเนี่ย

     

    คนข้างล่างจะรู้ไหมนะ ว่าจังหวะการเต้นของหัวใจคนข้างบนน่ะ ผิดปกติตั้งแต่มีคนๆนี้อยู่ตรงหน้าทุกครั้งเลย

    เหลือแต่ว่า จะสังเกตบ้างรึเปล่า?

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    ตัดฉากมาที่พนักงานต้อนรับกิโมโนชายสั้น ตอนนี้เจ้าหล่อนแอบยิ้มอย่างภูมิใจแม้ว่าจะเสียดายบ้าง ที่ผู้ชายหล่อๆบนโลกหายไปถึงสี่คน แต่เพื่อเกียรติบัตรพนักงานดีเด่น เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แม้วิธีนั้นจะสกปรกเพียงใดก็ตาม

     

    แต่ว่า ตำรวจสมัยนี้ก็น่าโง่จริงๆ

    คิดเหรอว่าฉันจะยอมบอกความลับของลูกค้า โฮะๆๆ

     

    ตอนนี้ตำรวจหนุ่มทั้งสองยังไม่รู้ชะตากรรมว่าตนถูกหลอกให้เปิดห้อง พอออกมาก็คงต้องจ่ายเงิน

    ก็ใช้ห้องไปแล้วนี่(?)

    แต่คาดว่าคงมีความสุขกับมันอยู่ไม่น้อยล่ะนะ^^

     

    ส่วนอีกฟากหนึ่งที่วิ่งเข้าโรงแรมก่อนตอนนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมเลยแฮะ

    ไว้ลุ้นกันในตอนหน้าเอาละกัน

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×