ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลัง Short fic #JJP #Jinson

    ลำดับตอนที่ #31 : (OS)NiorB:On again

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 893
      44
      9 ก.ย. 61


    On again

    And you know I can see what you're doing to me, it's sabotage

    But the wind in your hair just keeps calling me there, it's natural

    Couple: Jinyoung x JB

    Status: Finished

    Theme: On and off couple

    Feedback: #ฟิคบตน

     

     

     

     

     

     

     

    “บอมมึงถ่ายแก้เซตนี้ให้ที แอลเปลี่ยนแบบแล้ว คนเก่าแม่งไม่เป็นงานเลย

    ไม่ได้ยังไง

    คนโดนใช้ถามพลางเอากล้องออกมาเซ็ตเตรียมถ่ายโฟโต้ชู้ตโปรโมทเสื้อให้คณะ ครั้งก่อนแจบอมเป็นตากล้องให้แต่ยังมีงานที่ต้องถ่ายแก้อีกสองสามเซ็ตเพราะยังไม่มีภาพที่เข้าตา ซึ่งบอมไม่มีปัญหาตราบใดที่ค่าขนมของเขาเพิ่ม เขาก็พร้อมจะมาถ่ายแก้ให้ตลอดนั่นแหละ

    อีกอย่าง หญิงสาวตรงหน้าซึ่งเป็นแม่งานครั้งนี้มันกำชับมาอย่างดีว่าวันนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ  ก็ถือว่ามาเก็บงานให้มันละกัน

    คือ..ไม่รู้ดิ น้องหล่อนะ แต่พอถ่ายโคลสอัพแล้วแววตาน้องแม่งว่างเปล่า เหมือนมองหน้าขอนไม้อยู่อ่ะนึกออกป่ะ

    น้องได้ยินมึงพูดคงร้องอ่ะแอล

    ช่างน้องมัน แต่คนนี้แอลแคสมาดี หล่อและมีความสามารถ อยากจะดันเข้าโมเจ๊หมิวเลยอ่ะ

    ไหนล่ะ เก่งแต่มาสาย คนเขาก็ไม่จ้างนะ

    บอมยกกล้องขึ้นเล็กและลองกดชัตเตอร์เพื่อเช็คว่าแสงและระบบอื่นๆทำงานเข้ากันได้ดีตามที่ต้องการแล้ว ภาพสตูดิโอพื้นหลังสีเหลืองสดใสปรากฏบนจอแม็คบุ๊คตามที่เขาต้องการแทบทันที

    ผมมาสายเหรอครับ

    น้ำเสียงทุ้มก้องเต็มไปด้วยความอารมณ์ดีของคนที่ถูกพูดถึงเรียกความสนใจจากตากล้องได้เป็นอย่างดี ดวงตาคมว่างเปล่าไปชั่ววินาทีก่อนจะสบเข้ากับตากลมสวยอีกคู่ที่กำลังมองมา

    ยิ้มให้เขาเหมือนไม่มีอะไร เก่งชะมัด

    สายอะไรน้องจีน อย่าไปฟังไอ้บอมมันลูก แล้วนี่แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วเนอะ เริ่มถ่ายเลยนะงั้นพี่ไม่อยากให้ดึก

    ไม่รอให้อีกคนตอบรับ หญิงสาวก็ลากนายแบบคนเดิมมาอธิบายงานพร้อมกับแกะท่าเรฟที่หามาให้อีกคนฟัง บอมแทบไม่ได้สนใจว่าคนตรงหน้ากำลังพูดอะไร แค่พยายามกลืนก้อนมวลน้ำตาที่จุกคอเขาไม่ให้มันไหลออกมา

    ภาพครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันย้อนเข้ามาในหัว และบอมก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บ

    บอม พร้อมนะ

    อือ

    ขอสายตาความรักนะคะน้องจีน

    ความรักเหรอ

    เยี่ยมไปเลย แบบนั้นแหละ

    คนแบบจีนไม่รู้จักของพรรค์นั้นหรอก

     

     

     

     

     

     

    น้องจีนไม่สนจะเข้าวงการจริงๆเหรอ พี่ว่ามันต้องรุ่งแน่ๆ

    ตากล้องเหลือบมองเพื่อนตัวเองที่พยายามตื๊อนายแบบกิตติมาศักดิ์ตรงหน้าด้วยสายตาระอา จีนยังคงยิ้มมิตรภาพไว้บนหน้าได้ดีแต่บอมรู้ดีว่าน้องกำลังอึดอัด เขาเองก็ไม่อยากยุ่งเพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของเขาแล้ว

    แต่ก็นั่นแหละ

    น้องไม่อยากทำมึงก็อย่าไปบังคับเขาดิ

    มันอดไม่ได้

     “ไม่เป็นไรครับพี่บอม ไว้ผมคิดดูอีกทีนะพี่แอล

     “เปลี่ยนใจแล้วติดต่อพี่ก่อนเลยนะ เดี๋ยวพี่ติดต่อโมดีๆให้

    แอล มาคัดรูปกับกูนี่มา

    โอ้ย มึงนี่ขัดกูจังเลย เออๆ ไหนเอามาดูซิ

    คนโดนบ่นยื่นแม็คบุ๊คให้หญิงสาวก่อนจะหันไปสบตาคนเป็นน้อง จีนสบตาเขานิ่ง แววตาเย็นชาไร้อารมณ์แตกต่างจากก่อนหน้านี้จนแทบเป็นคนละคน บอมอยากยิ้มให้แต่ก็รู้ดีว่าน้องคงไม่อยากเห็น

     “ผมขอตัวนะพี่

    คงยิ้มให้ได้แค่ตอนต้องแสดงละครต่อหน้าคนอื่นนั่นแหละ

     “งั้นบอมมึงไปส่งน้องหน่อยดิ ดึกแล้ว

    ไม่เป็นไรพี่ หอผมมันไกล พี่คงไม่รู้จัก

    นอกนั้นก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้า

    ทางผ่านพอดี

    ความเงียบเข้าครอบคลุมสตูดิโอ บอมยังคงมองคนที่ทำตาโตใส่เขานิ่ง โชคดีที่แอลเอาแต่สนใจภาพตรงหน้าจนไม่ได้มาสงสัยว่าทำไมบอมถึงรู้ว่าจีนพักที่ไหน ถึงอย่างนั้นน้องมันก็ยังส่งสายตาไม่ชอบใจมาให้อยู่ดี

    ผมมีธุระต่อน่ะครับ

    บอมแค่นหัวเราะกับคำตอบนั้น และได้รับค้อนวงใหญ่จากคนเป็นน้องก่อนที่อีกฝ่ายจะหันไปยิ้มกับแอลทันทีที่เธอเงยหน้าจากจอ จีนเก่งที่หลอกคนได้ทั้งโลกด้วยรอยยิ้มใสซื่อน่ารักนั่น

    ทั้งที่เก่งขนาดนั้นทำไมไม่หลอกเขาต่อล่ะ

    หลอกว่ารักเขา หลอกว่าที่ผ่านมามันจริง เพราะยังไงเขาก็ยอมให้น้องหลอกอยู่แล้ว

    แต่จีนเลือกที่จะสารภาพกับเขาตรงๆว่าไม่เคยรักกัน ที่ผ่านมาก็แค่เรื่องสนุกของคนเหงาสองคนเท่านั้น จีนบอกว่าไม่อยากให้บอมเสียเวลาพยายามอีก เลยเลือกที่จะปล่อยให้เขาไปเจอคนอื่น โดยที่ไม่ได้สนใจสักนิดว่าเขาต้องการมั้ย

    บอมก็แค่อยากมีน้องอยู่ข้างๆ

    งั้นกูไปนะแอล กลับดีๆนะจีน

    แต่เหตุผลแค่นั้นรั้งจีนไว้ไม่ได้

    ความรักของเขา อย่างมากก็ทำได้แค่ทำให้อีกคนสงสาร เหมือนที่เป็นมาตลอดตอนที่คบกัน

    เรียกว่าคบกันก็คงไม่ได้ เพราะจีนไม่เคยตอบตกลงเขาตรงๆ มีแค่จูบหวานๆแทนคำพูดที่บอมคิดไปเองว่านั่นคือการตอบตกลง

    ช่างเถอะ ไม่ว่าที่ผ่านมามันคืออะไร วันนี้มันจบแล้ว ไม่มีเหตุผลต้องไปนั่งคิดถึงมันอีก

     “พี่บอม

    เจ้าของชื่อชะงักเมื่อจู่ๆก็โดนน้ำเสียงคุ้นเคยเรียกเอาไว้ บอมพยายามควบคุมสติไม่ให้เผลอดีใจ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้าอีกคนเหมือนไม่ได้แปลกใจอะไร

    ผมขอกลับด้วยสิครับ

                    แม้ใจจะเต้นแรงมากๆก็ตาม

                   

     

     

                   

                   

                    บอมไม่รู้ว่าทำไมจีนถึงเปลี่ยนใจ แต่เขาดีใจที่น้องยอมมากับเขา

    กุญแจรถของบอมถูกจีนแย่งไปแทบทันทีที่พ้นสายตาของแอล คนตรงหน้าไม่เหลือเค้าหนุ่มน้อยมิตรภาพที่คอยยิ้มรับทุกคำพูดของคนอื่นแล้ว มีแค่ใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ก็เท่านั้น

                    ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเลยบอมรู้ การที่น้องมันทำตัวแสนดีกับคนทั้งโลกแต่เลือกที่จะเย็นชาใส่เขาแบบนี้ เขาไม่ควรรู้สึกว่ามันพิเศษ แต่บอมก็แค่คนโง่คนหนึ่งที่ไม่เคยใช้สมองกับเรื่องของจีนได้เลยสักครั้ง

                    น้องเป็นตัวของตัวเองที่สุดเมื่ออยู่กับเขา บอมรู้แค่นั้น

                    เป็นจีนที่บอมรู้จักมาตลอด

                    “ไม่นึกว่าจะเจอพี่ที่นี่

    คนที่ทำหน้าที่ขับรถเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน อาจเป็นเพราะการจราจรในช่วงหัวค่ำบีบบังคับให้คนสองคนที่นั่งเงียบมานานต้องยอมคุยกัน บอมไม่รู้ว่าคำถามนั้นเป็นการชวนคุยหรือเปล่า แต่มันก็ดึงความรู้สึกเก่าๆกลับมาจนแทบลืมไปเลยว่าพยายามตัดใจอยู่

    ไม่นึกเหมือนกัน ถ้ารู้ก็คงไม่รับปากไอ้แอล

                    สามเดือนแล้วที่พยายาม แต่ไม่เคยได้ผลเลย

                    “ไม่อยากเจอผมขนาดนั้นเลยเหรอ

                    เปล่า

                    เพราะไม่อยากให้น้องต้องมาอึดอัดกับการมีอยู่ของเขาต่างหาก

                    แต่บอมเลือกที่จะเงียบ ปล่อยให้อีกคนเชื่อไปอย่างที่ตัวเองพูดเพราะเถียงไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ความรู้สึกของเขาไม่ได้มีผลกับอีกคนมากพอจะเปลี่ยนคนที่รักใครไม่เป็นอย่างจีนให้หันกลับมารักเขาได้

                    อย่างมากก็แค่สงสาร

                    “ผมเข้าใจ พี่คงไม่อยากเจอคนนิสัยไม่ดีแบบผมหรอก

                    น้ำเสียงทุ้มเจือหัวเราะเอ่ยขึ้นเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ดวงตาคู่สวยกลับมองตรงไปยังท้องถนนเบื้องหน้านิ่งๆโดยไม่สนใจเขา ริมฝีปากอิ่มๆนั้นไม่ยิ้มด้วยซ้ำ

                    น้องทำเหมือนเสียใจ แต่ทำไมถึงต้องเสียใจในเมื่ออีกคนเป็นฝ่ายทิ้งเขาไปเอง

                    “...”

                    “ผมเคยคิดว่าถ้าเราบังเอิญเจอกัน พี่คงยืนจ้องผมไม่เลิก ส่งสายตาน่าสงสารมาให้จนผมใจอ่อนอีก แต่วันนี้ไม่เห็นทำอย่างนั้นเลย

                    “...”

                    “ตัดใจจากผมได้แล้วใช่มั้ย

                    มันง่ายแบบนั้นก็ดีสิจีน

                    บอมรู้ว่าจีนก็แค่ถามเขาตามประสาคนรู้สึกผิด  น้องคงไม่ได้มาใส่ใจจะหาคำตอบเรื่องความเป็นไปของเขาหรอก แต่ส่วนลึกของใจเขาก็ยังหวัง

                    หวังว่าที่น้องถาม เพราะน้องแคร์

                    “จีนสบายดีมั้ย

                    “พี่ไม่ตอบคำถามผม

                    “ก็ไม่รู้จะตอบทำไม ในเมื่อจีนน่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

                    ความเงียบเข้าครอบคลุมห้องโดยสารอีกครั้ง บอมมีเรื่องจะบอกน้องเป็นร้อยเรื่องโดยเฉพาะในช่วงสามเดือนที่ไม่เจอกัน แต่พอมานึกว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากรู้ก็เลยได้แต่เงียบ

                    “ยังไม่เลิกเอาแมวมาเล่นบนรถอีกเหรอ

                    เป็นอีกครั้งที่จีนเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน แต่ครั้งนี้บอมมองลอดผ่านความมืดไปมองอีกคนเช่นเดียวกับที่อีกฝ่ายหันกลับมาหาเขา เราสบตากันแค่เสี้ยววิก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายยอมแพ้ไปเสียเอง

                    “ผมเห็นขนแมวติดเบาะเต็มเลย

                    ใจเขายังเต้นอยู่ แต่มันเป็นการเต้นที่เจ็บไปหมด

                    “พาน้องไปฉีดยามา

                    “ตัวเล็กสบายดีมั้ย

                    “สบายดี แต่เดี๋ยวนี้เปิดประตูไว้ไม่ได้เลย

    ชอบหนีเที่ยวเหรอ

    อือ เหมือนจีนเลย

    “...”

    โทษที

    แจบอมหันหน้าไปอีกทาง พยายามไม่สนใจบรรยากาศน่าอึดอัดที่เป็นอยู่ตอนนี้ อยากตบปากตัวเองที่ขุดเอาเรื่องเดิมๆมาพูดจนเสียบรรยากาศไปหมด

    ผมเป็นแฟนที่แย่มากใช่มั้ย

    “...”

    ทำไมตอนคบกันไม่เห็นบ่นเลยล่ะ

    งั้นเหรอ อาจเพราะตอนคบกันเขารู้ว่าตัวเองรับมือกับอะไรล่ะมั้ง

    คนรอบตัวเขาบอกเสมอว่าบอมจะต้องเสียใจเข้าสักวัน เพราะคนอย่างจีนไม่ใช่คนที่จะจริงจังกับใคร ตอนนั้นบอมก็แค่คิดว่า เขาเป็นข้อยกเว้นเหมือนหนังรักโรแมนติกที่เคยดูผ่านตาสมัยเด็กๆ

                    “บ่นตอนนี้ทันมั้ย

    แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่

                    เสียงไฟเลี้ยวดังเป็นจังหวะแทนบทสนทนาที่จบไป จีนเลี้ยวรถเข้าสู่ลานจอดรถใต้คอนโดของตัวเองโดยผ่านจุดตรวจอย่างทุกครั้ง รปภ.เหลือบมองสติ๊กเกอร์หน้ารถเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้เข้าไปเช่นทุกที

    ความเรียบง่ายนั้นตอกย้ำว่าครั้งหนึ่งบอมเคยไปมาที่นี่บ่อยแค่ไหน

                    แต่สิ่งหนึ่งที่จีนอาจไม่รู้ คือแม้แต่ตอนที่เลิกกันแล้ว บอมก็ยังขับรถมาจอดที่นี่อย่างลืมตัวอยู่หลายครั้ง

                    รถจอดลงที่ขอบทาง ความเงียบแสนอึดอัดยังปกคลุมทั้งห้องโดยสาร เหมือนต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที

    บอมรอให้อีกคนบอกลาเขาเหมือนครั้งสุดท้ายที่เจอกัน

                    แต่จีนไม่ยอมพูดอะไร แค่นั่งเงียบๆ ไม่ลงจากรถด้วยซ้ำ

                    “พี่บอม

                    “...”

                    “ไม่รู้ว่าช้าไปมั้ย แต่...ขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจ

                    “ถ้าหมายถึงตอนคบกันก็ไม่ต้องขอโทษหรอก

                    “...”

                    “ตอนนั้นไม่ได้เสียใจ เสียใจตอนเลิกกันมากกว่า

                    ดวงตาคู่สวยมองตรงมาพร้อมแววตาที่เขาอ่านไม่ออกว่าอีกฝ่ายคิดอะไร บอมไม่เคยเดาใจจีนได้เลยสักครั้ง และครั้งสุดท้ายที่เดา เขาก็พลาดคิดว่าอีกฝ่ายคงรักเขาเหมือนกัน

                    เขาเดาผิด และคงไม่กล้าเดาอีกแล้ว

                    “เราเลิกกันเพราะพี่ไม่ควรต้องมาทนรักคนอย่างผม

                    เราเลิกกันเพราะจีนอยากไปต่างหาก

                    “อือ รู้แล้ว

                    แต่เถียงไปก็เท่านั้น บอมบอกน้องไปก็คงรั้งอีกคนไว้ไม่ได้อยู่ดี เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออก หันไปหาอีกคนเพื่อจะจ้องมองอีกฝ่ายให้เต็มตา ยิ้มปลอบใจถูกส่งไปให้คนตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนลูกแมวที่เขาเลี้ยงไว้ไม่มีผิด ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจนบอมเผลอเอื้อมมือไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

                    แล้วเขาก็เผลอคิดถึงตอนที่เรานอนดูหนังบนเตียง บอมนั่งพิงหัวเตียงโดยมีน้องซบศีรษะลงกับขาของเขา  จีนล้วงมือหยิบป็อปคอร์นจากถังข้างตัวเข้าปากเรื่อยๆ ปล่อยให้เขาเล่นผมอีกคนไปโดยไม่ใส่ใจ

                    ใครจะนึกว่าเขาจะหมดโอกาสทำแบบนั้นแล้ว

                    “จีนไม่ต้องรู้สึกผิดกับอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องสงสารด้วย แค่ดูแลตัวเองอย่าให้ต้องห่วงก็พอ

                    คำเอ่ยปลอบส่งไปยังอีกคน บอมค่อยๆดึงให้คนตรงหน้าซบเข้ากับไหล่

                    “เดี๋ยววันหนึ่งคงตัดใจได้แหละ

                    “...”

                    “แต่ไม่ใช่วันนี้

                    ความอบอุ่นจากผิวของจีนซึมผ่านเสื้อเข้ามาถึงไหล่ของเขา ลมหายใจร้อนเป่าถี่แผ่วเบาผ่านคอเขาไป เนิ่นนาน ก่อนจีนจะเป็นฝ่ายถอยไปเอง

                    เราสบตากันอีกครั้ง นานแล้วที่ไม่ได้กันใกล้ๆแบบนี้ ใกล้จนลมหายใจเป่าผ่านถึงกัน

                    อยากจูบ

                    “ผมไปนะ

    แต่ไม่มีสิทธิ

    อือ

    ไม่มีแม้แต่สิทธิจะขอด้วยซ้ำ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

               

                พี่บอมนั่งอยู่บนโต๊ะหินอ่อน รื้อค้นกระเป๋ากล้องของไอ้เด็กกันต์อย่างสนใจ

                รอยยิ้มสดใสประดับอยู่บนหน้า สนุกกับการคุยเรื่องจิปาถะอย่างออกรส ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครเดินผ่านมา

    “สมน้ำหน้า”

                แจ็คซ้ำเติมแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความกังวลตอนที่หันไปมองเพื่อนสนิท จีนยังคงนิ่ง ละสายตาจากภาพตรงหน้าไปไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

                เป็นครั้งแรกที่จีนรู้สึกเป็นหมาหัวเน่าอย่างเต็มตัว

                “อ้าว พี่จีน ทางนี้พี่”

                รุ่นน้องหนุ่มวางกล้องลงในกล่อง โบกไม้โบกมือให้จีนกับแจ็คเดินไปหา โดยไม่ทันสังเกตว่าคนที่นั่งอยู่ก่อนกำลังทำหน้าตกใจแค่ไหน

                เราสบตากัน และครั้งนี้จีนไม่หลบตา

                ริมฝีปากแดงสดเม้มแน่น ก่อนคนตรงหน้าจะดีดตัวลุกจากโต๊ะ คว้ากระเป่าบอกลาไอ้กันต์ผ่านๆ

                คนไหล่กว้างกำลังจะเดินสวนเขาไปพร้อมรอยยิ้มฝืนๆนั่น ทำเหมือนเราเป็นแค่คนรู้จักกันผ่านๆแบบที่จีนขอไว้

                แต่ครั้งนี้จีนคว้าแขนอีกคนไว้ ดึงเบาๆพอให้พี่บอมยอมสบตาเขาอีกครั้ง

                “อยู่ก่อนสิพี่ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องกล้อง”

                จีนเอ่ยเสียงเรียบ เหลือบมองกล่องเลนส์ราคาแพงของรุ่นน้องแล้วกลับมาดวงตาเรียวที่เต็มไปด้วยความสับสนอีกครั้ง

                “อ้าวรู้จักกันเหรอ ดีเลยพี่ กันต์ขี้เกียจมานั่งอธิบายคนเดียว เดี๋ยวพี่แจ็คมันก็กวนอีก”

                “อ้าวมึง กูอยู่ของกูดีๆ”

                แจ็คโวยวาย ไล่เตะก้นคนหาเรื่อง ปล่อยให้บอมยืนมองหน้าจีนนิ่งอย่างไม่เข้าใจ

                “ไหนบอกไม่อยากให้ทักข้างนอก”

                “นึกว่าพี่อยากให้ทักซะอีก”

                น้ำเสียงยียวนของจีนทำให้คู่สนทนาขมวดคิ้ว บอมรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียง และเขาก็ไม่อยากคุยกับจีนตอนนี้

                “ไม่อยากแล้ว”

                คนแก่กว่าเลี่ยงสั้นๆ พยายามจะเดินหนี อุตส่าห์บอกเด็กนั่นไปแล้วว่าไม่รู้จักจีน ถ้าความแตกก็เสียหมาสิวะ

                “แต่ผมอยากบอก”

                “ทำไมอยู่ๆก็ดื้อขึ้นมา”

                บอมถามออกไปตรงๆ หางตาเห็นว่าทั้งแจ็คทั้งกันต์เอาแต่คุยกันจนไม่ได้มาสนใจบรรยากาศแปลกๆของพวกเขา จีนรั้งแขนเขาเข้าไปใกล้มากขึ้น มากเกินกว่าคนรู้จักกันจะทำ

                เป็นอะไรขึ้นมา ไม่ชอบเวลาจีนพาลเลย

                “ผมไม่ได้ดื้อ พี่นั่นแหละดื้อ”

                นี่คือหนึ่งในข้อเสียของจีน ที่น้อยคนนักจะได้สัมผัสตรงๆ จีนดื้อ ไม่ได้ดื้อเงียบด้วย แค่ดื้อ บทจะงี่เง่าก็โคตรจะงี่เง่าเสียจนรับมือไม่ถูก และแจบอมก็มักจะแก้ปัญหาด้วยการพยายามคุยด้วยเหตุผล

                แต่จะคุยด้วยเหตุผล ก็ต้องรู้ก่อนว่าอีกคนหงุดหงิดอะไรมา

                หรือโกรธที่เขามาสุงสิงกับเพื่อนตัวเอง ก็เลยคิดว่าเขาอยากบอกคนอื่นเรื่องของเรา แล้วจบที่การประชดกัน

                เหนื่อยจะเดา จีนเอาแต่ใจจนคาดเดาอะไรไม่ได้สักอย่าง

                บอมถอนหายใจยอมแพ้ ส่วนจีนก็ยกยิ้มมุมปาก

                จีนชนะ

                แต่พอเห็นเสี้ยวหน้านิ่งสนิทของอีกคน ทำไมจีนกลับรู้สึกเหมือนตนแพ้เสียอย่างนั้น

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

    มีคนบอกว่า มนุษย์โง่ที่สุดตอนทำตามใจตัวเอง

    บอมเองก็เคยเชื่ออย่างนั้น จนกระทั่งมาได้ลองสวมบทบาทคนโง่ ถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วไม่มีใครโง่ทั้งนั้น

    การตัดสินใจทั้งหมด ทุกคนต่างรู้ผลลัพธ์ของมันดี แต่ก็ยังยอมทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้ความสุขในช่วงสั้นๆเหล่านั้น แม้ตามหลักแล้วมันจะไม่มีวันคุ้มค่า แต่มันคุ้มเสมอในสายตาของคนที่ยอมแลก

    คนพวกนั้นไม่ได้โง่

     “จีน?

    แค่ตกหลุมรัก

    “มาได้ไง”

    บอมเอ่ยถามผู้มาเยือน พยายามนึกหาเหตุผลที่จีนจะมาเคาะประตูห้องเขากลางดึกแบบนี้ ทั้งที่เมื่อตอนเย็นอีกฝ่ายก็ดูไม่ได้สนใจอะไร

    จริงๆบอมคิดว่าเรื่องของเราคงจบตั้งแต่ที่สตูดิโอวันนั้นแล้วด้วยซ้ำ

    วันนั้นจบลงที่บอมนอนร้องไห้จนปวดหัวในเช้าวันถัดมา เขาเอาแต่คิดถึงกอดบนรถอยู่หลายวัน คิดว่านั่นคงเป็นกอดสุดท้ายของเรา

    แต่ตอนนี้ จีนยืนอยู่ในห้องของเขา หน้าแดงก่ำ กลิ่นเหล้าฉุนจมูก

    เหมือนกับจูบของเจ้าตัวไม่มีผิด

    จีนเอาแต่พึมพำคำว่าคิดถึงใส่หูซ้ำแล้วซ้ำเล่า จูบและกอด แน่นอนว่าบอมไม่ปฏิเสธหรอก

    อาจเพราะเขาไม่รู้ว่าเช้าวันต่อมา จีนจะหายไป และทำเหมือนเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน

     

     

     

     

     

     

     

     

    แจ็คไม่ชอบเวลาจีนเมาเลย

    ไม่เคยชอบ และไม่เคยเห็นด้วยกับการกระทำของเพื่อนเขาเลยแม้แต่น้อย

    มึงมันเหี้ย

    รีบไปได้มั้ย กูสายแล้ว

    แจ็คถอนหายใจก่อนจะหันไปโฟกัสกับการขับรถคันงามออกจากลานจอดรถคอนโด  เขาไม่ควรอยู่ที่นี่แต่แจ็คต้องถ่อมาเพราะเพื่อนรักของเขาโทรปลุกแต่เช้าให้มารับ

    มารับที่คอนโดพี่บอม

    ใจดำชิบหาย

    แจ็ค

    เออๆ กูพูดไม่ได้หรอก พี่แม่งก็ยอมมึงตลอดอ่ะ

    แจ็คเลือกที่จะเอาความหงุดหงิดของเขาไปลงกับวิทยุตรงหน้า นิ้วเรียวกดเบาๆที่จอเพื่อให้เครื่องเล่นเพลงตามที่ตั้งไว้ ปล่อยให้เพื่อนใช้เวลากับการทบทวนตัวเองอย่างเช่นทุกครั้ง

    เผื่อครั้งนี้จะคิดได้

    จะได้เลิกทำตัวแบบนี้ซะที

    เบาเสียงหน่อย

    ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆจากคนขับ จนจีนต้องเอื้อมมือไปกดปิดเพราะสมองแฮงค์ๆของเขาไม่พร้อมจะฟังเสียงอะไรทั้งนั้นรวมถึงเสียงบ่นของเจ้าของรถด้วย

    พี่มันตื่นยัง ตอนมึงออกมาอ่ะ

    แต่เพื่อนเขาไม่บ่น มันถามคำถามที่น่ารำคาญแทน

    ยัง

    โอ้โห ไอ้..

    ไม่มีคำด่าใดๆหลุดจากปากแจ็ค เหมือนมันหมดคำจะด่าไปนานแล้ว แทนที่จะมานั่งสนใจอาการของเพื่อนที่ทำเหมือนทุกครั้งจีนเลือกที่จะปรับเอนเบาะรถและหลับตาให้หัวหนักๆของเขาได้พักแทน

    ทำไมจีนจะไม่รู้ว่าที่ตัวเองทำมันแย่แค่ไหน

    แต่เขาหยุดตัวเองไม่ได้ เขาทำไม่ได้

    “ทำไมไม่กลับไปคบกันให้มันจบๆวะ

    ถ้าคบกันรอดกูจะเลิกกับเขามั้ย

    แต่ที่มึงทำนี่โคตรเหี้ยเลยนะจีน มึงไปให้ความหวังพี่มันแบบนั้นพี่เขาก็รอมั้ย

    คนโดนกล่าวหาไม่ตอบแต่เลือกที่จะหลับตาแกล้งหลับไปเสียดื้อๆ จีนรู้ว่าแจ็คไม่ใช่คนใจแข็งด่าเขาได้นานหรอก อีกหน่อยก็ยอมแพ้ไปเอง แค่เอาความเงียบสู้เหมือนทุกครั้ง

    และมันได้ผล แจ็คเงียบไปแล้วเหลือแค่สมองหนักๆของเขาที่เกิดจากแอลกอฮอล์เมื่อคืนกับการพักผ่อนไม่กี่ชั่วโมง ภาพและสัมผัสต่างๆยังวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมไปไหน เหมือนหนังเรื่องโปรดที่ไม่ว่าเขาเห็นกี่ครั้งก็ต้องเปิดดู

    แม้จะรู้ตอนจบอยู่แล้วก็ยังเปิด

    เมื่อคืนมึงกลับไงวะ

    จีนเปิดบทสนทนาขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน เสียงดนตรีแรปถูกปิดไปเมื่อเจ้าของรถเห็นว่าไม่มีใครสนใจมันแล้ว แจ็คถอนหายใจกับคำถามนั้น ตาโตๆเหมือนลูกหมาไม่เหลือแววขี้เล่นอย่างเวลาที่อยู่กับคนนอก ซึ่งนั่นปกติสำหรับจีน

    แจ็คไม่ใช่คนเฮฮา โดยเฉพาะกับคนที่สนิทมากๆ

    เหมือนเดิม

    เหมือนเดิม?

    เออ

    แล้วมาด่ากู ไอ้หมา

    จีนแสยะยิ้มมุมปากมองเสี้ยวหน้าของเพื่อนรักที่ดูจริงจังกับการมองถนนตรงหน้าเกินจำเป็น คงพยายามหาทางหลบตาเขาอยู่

    แจ็ครู้ดีว่าตัวมันเองก็ไม่ต่างกับเขาเท่าไหร่

    กูบอกพี่มันไปแล้วว่ากูไม่คิดอะไร แค่ขับรถกลับไม่ไหว

    ก็ไปค้างห้องเขาอยู่ดีป่ะวะ

    ก็กูเมา แล้วมึงก็ทิ้งกูกับรถไว้อ่ะ

    แท็กซี่ก็มี

    แต่..

    แต่มึงก็ยังยอมให้พี่มาร์คมารับ ปากบอกไม่ชอบๆแต่ก็ไม่เคยไล่เขาเลย แบบนี้เรียกว่าไม่ให้ความหวังเนอะ

    คำประชดประชันนั้นเรียกค้อนวงโตจากคนขับได้ดี จีนแค่นหัวเราะและหันไปสนใจแดดยามสายนอกหน้ารถแทน ภาพตึกสูงจากทางด่วนสวยงามเหมือนทุกครั้ง ก่อนภาพเมื่อคืนจะย้อนกลับมาในหัวอีกรอบ

    คงต้องทนคิดถึงเรื่องนี้ไปทั้งวันอย่างทุกครั้งนั่นแหละ

    กูไม่ได้ชอบพี่มันจริงๆนะจีน

    เสียงพึมพำเหมือนย้ำกับตัวเองของแจ็คเรียกความสนใจจากคู่สนทนาให้หันไปหา มือหนาตบลงบนบ่าและบีบเบาๆเป็นคำตอบรับว่าอีกฝ่ายเชื่อเขาและเป็นการปลอบประโลมเบาๆให้กันเหมือนทุกครั้ง

    พวกเขาเป็นคนใจร้าย และรู้ตัวดี

    จีนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง คีย์การ์ดที่เขาแอบหยิบมาจากหัวเตียงของพี่บอมกลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้งหลังหลังจากที่เขาคืนให้อีกฝ่ายไปเมื่อหลายเดือนก่อน

    ไม่รู้หยิบมาทำไม ทั้งๆที่ไม่คิดจะกลับไปซะหน่อย

    จีนไม่อยากทำร้ายพี่บอม นั่นคือเหตุผลที่เขาเดินอออกมา

    แต่เขาไม่เคยเอาชนะความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้เลยสักครั้ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     สามเดือนกับการตัดใจว่ารับมือยากแล้ว สองเดือนที่จีนมาเคาะประตูห้องเขานั้นรับมือยากกว่ามาก

    ยิ่งหลังๆ จีนไม่เมาด้วยซ้ำ

    ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงกลับมา บอมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าน้องคิดถึงเขา

                    “...คิดถึง

                    แม้อีกคนจะพร่ำบอกไม่หยุดก็ตาม

                    เพราะจีนก็พูดวนอยู่แค่นั้น คิดถึง ขอโทษ คิดถึง

                    ไม่มีคำว่ารักสักคำ

                    ก็แปลกดีที่เขายังฟัง

                    ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่เข้าใจจริงๆ ต่อไปคงต้องไปขอโทษทุกคนที่เขาเคยหยามน้ำหน้าไว้ว่าเป็นพวกหัวอ่อน

     “จีนมากวนพี่รึเปล่า

    เพราะวันนี้ บอมโง่กว่าใครทั้งหมด

    โง่ พอจะปล่อยให้คนที่ทำร้ายเขาซ้ำๆ มานอนอยู่บนเตียงเดียวกันอีกแล้ว

    กวนไม่กวน จีนก็มาอยู่ดี

    จีนแตะนิ้วชี้ลงที่หางคิ้ว สัมผัสจุดสองจุดที่เรียงตัวกันเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของบอมโดยไม่พูดอะไรต่อ ส่วนบอมก็ปล่อยให้อีกฝ่ายสัมผัสไปเรื่อย เพราะสัมผัสจากจีนคือสิ่งเดียวที่ห้ามเขาไม่ให้ถามคำถามที่ค้างคาในหัวออกไป

    รักกันบ้างหรือเปล่า

    ถ้ารักกัน ทำไมตอนเจอหน้ากันถึงได้เย็นชาขนาดนั้น

    เดินหนีทำไม แกล้งยิ้มทำไม หลอกทุกคนว่าไม่รู้จักกันทำไม

    ก่อนหน้านี้ บอมคิดแค่ว่าช่างแม่งเหอะ จีนจะรักเขาหรือเปล่ามันไม่สำคัญ เพราะเขารักคนตรงหน้าไปแล้ว รักแบบไม่ได้เผื่อใจ เลยต้องคว้าทุกอย่างที่อีกคนหยิบยื่นให้ แม้มันจะเป็นความหวังเพียงน้อยนิด เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากคว้ามันไว้         

    บอมพยายามใจเย็น รอให้จีนพร้อมที่จะกลับมาเขา อดทนกับการกระทำเห็นแก่ตัวพวกนั้นเพียงเพราะเขาเชื่อว่าจีนจะกลับมา

     แต่จีนก็ไม่เคยกลับมา

                   “จีน

                และเขาคงไม่รอแล้ว

    บอมดันไหล่เจ้าของชื่อเมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจคำเรียกของเขา เอาแต่วนเวียนกับการกดริมฝีปากไปบนผิวจนตัวเขาร้อนไปหมด

    “ต่อไปอย่ามาที่นี่อีกนะ”

                    ริมฝีปากถูกกดจูบลงมาทันทีที่เขาพูดจบประโยค รุนแรงและรวดเร็ว น้ำหนักตัวของอีกคนโถมทับมาบนตัว กอดรัดเขาไว้ไม่ยอมให้ดิ้นหนีไปไหน

                   จีนไม่เคยพูดคำว่ารัก แต่บอมได้ยินมันชัดเจนในทุกครั้งที่เรากอดกัน

                   จูบของจีน เสียงดังกว่าคำว่ารักจากปากของทุกคนที่เคยบอกเขา

    ขอโทษ

    แต่วันนี้บอมแกล้งไม่ได้ยินมัน เขาอยากฟังคำว่ารักจากปากของคนที่เอ่ยคำขอโทษตอนนี้มากกว่า

    แต่จีนก็ไม่พูด เอาแต่ซุกหน้าลงกับคอของบอมนิ่ง รับไออุ่นจากผิวขาวเนียนนั่นไปเรื่อยๆ

    ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่เขาไม่อยากให้มันจบ

                   จีนกำลังหลงอยู่ในวังวนเดิมๆ ติดกับสัมผัสหอมหวานจากตัวคนตรงหน้าจนไม่สามารถออกห่างได้นานอย่างที่ตั้งใจไว้

     ในขณะเดียวกัน ก็ไม่คิดจะกลับไปยืนที่เดิม

                    เดี๋ยวบีก็ร้องไห้อีก แบบนี้อาจจะดีกว่า

                   “ไม่เป็นไร

    บอมตอบเสียงแผ่วก่อนจะกดจูบคนเห็นแก่ตัวหนักๆ ปล่อยให้สติของเขากลับไปอยู่ความหอมหวานตรงนั้น จะได้ไม่ต้องสนใจขอบตาร้อนผ่าวของตัวเอง

    สัมผัสของเรา หลอกล่อและดึงดูดกันและกันไม่ให้ทิ้งกันไปไหน และรุนแรงขึ้นในทุกๆครั้งที่เวลาของเราใกล้หมดลง 

    จริงๆแล้ว ถ้าจีนเผลอพูดคำว่ารักออกมาอีกแค่ครั้งเดียว บอมก็คงเปลี่ยนใจ

    “อย่าเปิดประตูให้ผมอีกเข้าใจมั้ยบี”

    แต่เขากลับไม่ได้ยินอะไร นอกจากคำเตือนปนเสียงหอบหายใจอย่างอดกลั้นของอีกคน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ก๊อกๆๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูดังลั่น ตามมาด้วยความเงียบ...

    เงียบจนเจ้าของห้องได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกของตัวเองที่ถี่ขึ้นเพราะความตื่นเต้น

    เสียงเคาะประตูสี่ครั้งจากด้านนอกในเวลาตีหนึ่งครึ่ง ชายหนุ่มไม่ต้องเดาเลยว่าคนที่เคาะเป็นใคร ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลังเลที่จะเปิดมัน อาจเพราะลึกๆแล้วบอมรู้ดีว่าเขาควรปล่อยให้คนที่เคาะถอดใจ

    แต่เขาทำไม่ได้

    แกร๊ก

    ไม่เคยทำได้

     “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเปิด

    นั่นคือคำทักทายแรกของคนเคาะ ใบหน้าคุ้นเคยที่เขาเจอครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน คนใจร้ายที่กอดเขาแล้วก็ไป ชายหนุ่มรุ่นน้องยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ กลิ่นแอลกอฮอล์ปนกลิ่นหวานของบุหรี่ไฟฟ้าลอยคว้างในอากาศรอบๆตัวคนพูด แต่บอมเลือกที่จะไม่ตอบ ปล่อยให้อีกคนเดินเข้ามาในห้องโดยไม่เอ่ยอะไร

    ตัวแดงไปหมด ไม่รู้ว่าดื่มไปเท่าไหร่

    เหมือนครั้งแรกที่จีนมาหาเขาไม่มีผิด

    ร่างสูงเดินโซเซไปนั่งลงบนเตียงโดยไม่ขอ แถมยังค่อยๆคลานไปนอนซบกับหมอนของเขาด้วยท่าทางเคยชินอีกต่างหาก เจ้าของห้องแค่ถอนหายใจและเดินเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ผู้บุกรุกยามวิกาลเปลี่ยนแทน

    บี

    คนไหล่กว้างชะงักกับชื่อเรียกขาน ไม่บ่อยนักที่จะได้ยินจีนเรียกเขาแบบนั้น  บอมสลัดความรู้สึกแปลกประหลาดที่แล่นพล่านในอกออกไปและหันไปสบตากลมโตของอีกฝ่ายเป็นเชิงตอบรับ

    เปิดประตูทำไม

    เสียงบ่นในคอเหมือนละเมอพูดแต่ก็พอจับใจความได้ มือไม้ก็ปัดป่ายไปทั่วเหมือนพยายามจะคว้าอะไรบางอย่าง

     “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเปิด บอกกี่ครั้งแล้วบี

    แต่ดวงตากลมโตกลับสะลึมสะลือเหมือนคนกึ่งกลับกึ่งตื่น นั่นทำให้บอมรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเมาและไม่ได้คาดหวังคำตอบจากเขา ถึงอย่างนั้นคำถามเดิมยังก้องอยู่ในหัวเขาอยู่ดี

    นั่นสินะ กี่ครั้งแล้วที่จีนบอกเขาว่าห้ามเปิดประตู ก็คงทุกครั้งที่อีกคนมาเคาะประตูห้องเขานั่นแหละ

    ทุกครั้งที่เมา

    ทุกครั้งเลย

    เปลี่ยนเสื้อก่อน

     เจ้าของห้องแค่พูดแค่นั้น ก่อนจะพยายามดึงคนเมาให้ลุกขึ้นเพื่อถอดเสื้อให้ เสื้อยืดสีดำคลุ้งกลิ่นเหล้าหลุดออกจากตัวพร้อมตัวของคนเป็นน้องที่โถมมาพิงตัวเขาที่ยืนอยู่ ใบหน้าร้อนซุกลงกับอกและนิ่งไป

    จีน

    ไม่มีเสียงตอบรับ มีแค่อ้อมแขนที่ยกขึ้นมากอดรัดเอวของเขาให้แน่นขึ้น

     “จีน

     บอมปล่อยให้อีกคนกอดเขานิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ทุกอย่างจบอย่างวันนี้ แต่เขาจะไม่โทษน้องเพราะมันเป็นความผิดเขาเอง

    จีนเตือนเขาแล้ว แต่เขาไม่ฟัง

    นอนนะ

    จีนบอกแล้วว่าไม่ให้เขาเปิดประตู แต่ทุกครั้งที่จินเคาะห้องเขา บอมก็อดไม่ได้ทุกที

    บี

    “...”

    จูบกัน

    คำขอร้องสั้นพร้อมมวลน้ำตาที่จุกอยู่ที่จมูกจนแสบไปหมด แต่คนหน้าแดงตรงหน้าคงไม่เข้าใจ ถึงได้มองเขาด้วยสายตาอ้อนวอนแบบนั้น ใบหน้าแดงก่ำยังคงเงยมองเขา และเขาก็ได้แค่ยิ้ม

    ไหนบอกว่าไม่ชอบจูบพี่แล้วไง

    แจบอมเอ่ยถาม ทวนคำพูดจากบทสนทนาตอนที่จีนบอกเลิกเขา

     “ไหนบอกเบื่อพี่แล้วไงจีน

    ความเงียบเข้าครอบคลุมห้องอีกครั้ง คนเป็นน้องแค่ก้มหน้าลงก่อนจะตะเกียกตะกายพยายามจะยืนทั้งที่สภาพก็ไม่ได้ทรงตัวได้เต็มร้อยนัก จนบอมต้องสอดแขนเข้าไปพยุงไม่ให้ล้ม

    ลมหายใจร้อนๆรดแก้มเขาเป็นจังหวะพร้อมกลิ่นเหล้าที่ตอกย้ำความจริงว่าทำไมอีกคนถึงได้มายืนให้เขากอดแบบนี้

    จีนเมา และน้องจะหนีไปทันทีที่น้องตื่นมา

    เหมือนทุกครั้ง

    ดวงตาคู่สวยที่บอมมักชื่นชมยังคงมองตรงมาที่เขาจนเขาต้องยอมสบกลับ ความหงุดหงิดไม่เข้าใจในดวงตาคู่นั้นกำลังทำให้เขาร้องไห้ แต่นั่นโอเค น้องคงจำไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้น้องก็ลืมแล้ว

    ก็แค่เมา

    บี...

    และเหมือนทุกครั้ง

    จีนขอโทษ

    ที่เขายอม...

     ---------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

                   

     

     

     

     

     

                ขออนุญาตตัดชับๆๆ เพราะไม่มีแรงเขียนแล้วจริงๆค่ะ ใครตื้นเต้นกับคัมแบ็คนี้บ้าง เราตื่นเต้นมากๆอยากเห็นโซโล่และไตเติ้ลแล้ว เผื่อจะมีอะไรให้กาวสนุก ปลุกไฟในการลั่นอีก55555555

                ฟีดแบ็คได้ที่แท็กเดิม >>> #ฟิคบตน ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ดีใจที่ได้กลับมาเขียนงานให้ทุกคนได้อ่านค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×