ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลัง Short fic #JJP #Jinson

    ลำดับตอนที่ #13 : (SF) JJP : Unfixed (1)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.77K
      55
      16 มี.ค. 61

    UNFIXED (1)


    คำเตือน : เรื่องนี้ตัวเอกไม่ฟิกโพสิชั่นนะคะ เพราะงั้นใครรับไม่ได้กดออกดีกว่าเนอะ 

    Couple: Jinyoung x JB 

    Position: Bnior x NiorB

    Status: Unfinished

    Rate: PG-18


    #UnfixedJJP



    It was all fun and game until someone falls in love.



    จินยองเป็นบาร์เทนเดอร์

    ความสามารถหนึ่งในฐานะบาร์เทนเดอร์คือการอ่านอารมณ์คนรอบข้างได้อย่างแม่นยำ และนั่นอาจเป็นเหตุผลให้ค่าตัวเขาแพงได้ขนาดนี้ เพราะจินยองรู้เสมอว่าใครกำลังรู้สึกดีรู้สึกแย่ แต่ก็นั่นแหละ บางครั้ง เซนส์มันก็พลาดกันได้

                 “พี่แจบอม...”

                เพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่สนใจแท้ๆ...

                “อื้อ...ใจเย็นๆสิ”

    ดันมาจบลงแบบนี้ซะได้

    จินยองไม่รู้ว่ามันเริ่มจากตรงไหน

    อาจเป็นคืนนั้น ตอนที่บอสจ้างดีเจคนใหม่ ดวงตาเฉี่ยวคมดุดันเหมือนหมาป่ากำลังมองตรงไปยังบูธดีเจโดยไม่วอกแวกสนใจรอบข้างแม้แต่น้อย

                แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังหันมาสบตาจินยองที่ยืนเช็ดแก้วในมือเตรียมทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์เหมือนทุกครั้ง

                อย่ายิ้มแบบนั้นอิมแจบอม

                นายไม่รู้หรอกว่าถ้าฉันอยากได้...ฉันจะไม่ยอมแพ้

                จินยองละสายตาจากร่างสูงที่ง่วนกับการใส่เฮดโฟน ปรับนู่นนี่มาสนใจแก้วในมือตัวเอง แล้วก็เผลอยิ้มขึ้นมาเสียอย่างนั้น

                เกลียดตัวเองชะมัด ใจง่ายไม่เคยเปลี่ยนเลยปาร์คจินยอง

                นิยายปรัมปราบอกว่าสัมผัสจากการถูกดูดกลืนนั้นช่างหอมหวาน เป็นความหอมหวานที่ปะปนความทุกข์ทรมานของฝ่ายถูกกระทำ จินยองอยากแย้งเพราะเซ็กคือเซ็ก และมันไม่เคยหอมหวาน

                มันฝาดเฝื่อน เหมือนรสชาติของผิวกายขาวสะอาดของคนตรงหน้า

                เยือกเย็น เหมือนกลิ่นบุหรี่ที่เจือมาในรสจูบรีบร้อนนั้น

                หยาบคาย จนทิ้งร่องรอยมากมายไว้บนผิวของกันและกันอย่างไร้มารยาท

                และมันเจ็บปวด...แต่ไม่เป็นไร เพราะจินยองอดทนเก่ง

                Top...”

                เสียงแหบพร่าเอ่ยโดยไม่แม้แต่จะละสายตามามอง ไหล่กว้างบดเบียดบาร์เทนเดอร์หนุ่มเข้ากับผนังห้องเก็บเครื่องดื่มจนขยับแทบไม่ได้

    “...or bottom?

                ขนาดนี้แล้วก็คงไม่ต้องถามแล้วมั้งว่าจะให้จินยองเล่นบทไหน

                แต่ถามมา จินยองก็จะตอบให้

     

                “Both

     

                และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่คู่นอนของเขาชะงักเพราะคำตอบตรงไปตรงมา ถึงโลกของวันไนท์สแตนด์จะกว้าง แต่มันไม่เคยกว้างพอสำหรับคนอย่างเขา

                น่าจะโกหกเหมือนทุกครั้ง เลือกเอาสักอย่าง แต่ก็นั่นแหละ

                คนตรงหน้าก็ใช่ว่าจะไม่น่าโดนรังแก

                Both?

                จินยองสบสายตาที่เต็มไปด้วยแววประหลาดใจของอีกฝ่ายแต่ไม่เอ่ยอะไรขึ้นมา ป่วยการอธิบาย บางที คืนนี้มันอาจจะสั้นกว่าที่คิด

                “...Perfect

                หรือยาวนานกว่าทุกครั้ง

     

               

     

               

                แค่สัปดาห์เดียวที่แจบอมเริ่มงานที่คลับ เขาก็ได้เพื่อนมาแล้วหนึ่งคน

                แต่มิตรภาพของพวกเขานั้นแปลกประหลาด เพราะเราไม่คุยกัน ไม่เคยถามไถ่อะไรที่จะทำให้รู้จักกันมากขึ้น

                ถึงอย่างนั้น ก็ยังรู้จักกันและกันดีกว่าใคร

                อาจเพราะผลประโยชน์อย่างเดียวที่พวกเขามีร่วมกัน...

                “อย่าทำรอยที่คอสิวะจินยอง!

                ...คือเซ็ก

                เซ็กที่ไร้ขอบเขต

                เซ็กที่ยิ่งรีบร้อน ยิ่งเซ็กซี่

                เซ็กซี่เพราะมันเต็มไปด้วยความต้องการที่หยุดยั้งไม่ได้ของคนสองคน ยิ่งรีบก็ยิ่งรุนแรง จนไม่มีเวลามาถนอมกันและกัน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เต็มไปด้วยความวาบหวาม โดยเฉพาะเมื่อเสื้อเชิ้ตขาวของบาร์เทนเดอร์หนุ่มถูกถอดจนร่นลงมาที่ไหล่ แต่ก็ยังค้างคาอยู่ตรงนั้นแค่เพียงพอให้ริมฝีปากสามารถลากผ่านส่วนที่ต้องการได้ แต่ก็ไม่มากพอจะลงไปกองอยู่ที่พื้น

                กระดุมเชิ้ตสีดำของแจบอมเองก็ยังค้างคาอยู่ไม่เต็มหน่วยเต็มเม็ด ต่อสู้กับแรงฉุดกระชากของคนที่จู่ๆก็ลากเขาเข้ามาที่ห้องเก็บของหลังคลับโดยไม่พูดไม่จา

    แจบอมพยายามดันไหล่บาร์เทนเดอร์หน้าหวานออกไม่ให้อีกฝ่ายทำตามใจ แต่ก็แพ้เพราะสุดท้ายกลับเป็นเขาเองที่โดนจับหันตัวกระแทกหน้าเข้ากับผนังห้องดังโครม

                เดี๋ยว ไม่ใช่ละ

                “จินยองมึง...”

                “เด็กเสิร์ฟใหม่เหรอพี่...เข้าใจเลือกนะ”

                แจบอมกัดฟันกรอด พยายามยื้อมือออกจากการเกาะกุมของคนที่จู่ๆก็มาเล่นผิดกติกา ในขณะที่อีกฝ่ายก็เอาแต่วุ่นวายกับการแกะกระดุมกางเกงเขาอยู่นั่น

                “วันนี้มันตากู”

                เสียงขู่ฟ่อๆแต่ก็ไม่ยักได้ผล อีกคนแค่ยกยิ้มแล้วกดริมฝีปากลงกับใบหูคนงอแงก่อนจะไล่ลงไปตามแนวสันกราม ลำคอ...

                ฮื่อ...โซนอันตราย อันตรายมากๆ

                “เก็บแรงไว้ใช้กับจีน่าเถอะ ส่วนตรงนี้ก็ปล่อยให้ผมจัดการ”

                “ไม่..อย่าโกงสิวะ ฮื่อ”

                “พี่ก็อย่าดื้อกับผมสิ” น้ำเสียงทุ้มพร้อมมือร้อนๆที่จงใจบีบเบาๆแถวท้องน้อย ตามด้วยริมฝีปากที่ลากย้อนกลับมาคลอเคลียใบหูของแจบอมอีกหน

                บ้าเอ้ย แจบอมเกลียดที่มันรู้ทันว่าตรงไหนที่แจบอมจะแพ้ มันจะไม่น่าหงุดหงิดเลยถ้าแจบอมไม่ได้เคลิ้มไปกับสัมผัสเอาแต่ใจของคนตรงหน้าแต่อย่าให้ถึงตาเขาบ้างละกัน

                “อะ...ฝาก..ฝากไว้ก่อน..เถอะ”

    จะจัดการให้เดินไปชงเหล้าไม่ได้เลย!

               

    “นี่โกรธจริงจัง?

                เสียงทักทายพร้อมแก้ววิสกี้ที่ตั้งลงตรงหน้า แจบอมเหลือบมองมันเล็กน้อยแล้วก็หันไปสนใจคอมที่เปิดมิกซ์เทปใหม่ค้างไว้ต่อ ปล่อยให้บาร์เทนเดอร์ขี้เอาแต่ใจ เดินอ้อมมานั่งที่บาร์ข้างๆแล้วเท้าคางมองคนหน้าดุทำงานด้วยแววตาขบขัน

                “โหย ไม่ยอมคุยด้วยเลยว่ะ”

                แจบอมปรับจุดโฟกัสไปที่มุมจออีกฝั่งเพื่อไม่ใช่หางตาเห็นหน้าหงึๆของอีกฝ่าย น่ารักมากมั้ง คิดว่าจะยอมง่ายๆเหรอวะ

                แจบอมไม่ชอบคนขี้โกง เล่นนอกกติกา

                เพราะแจบอมจะชนะได้ก็ต่อเมื่อมันเป็นเกมที่แฟร์

                แต่จินยองน่ะ เห็นหน้าตาใสซื่อแบบนี้ ทำไมมันร้ายนักวะ

                “พี่”

                “...”

                “พี่แจบอมครับ”

    แจบอมเหลือบมองเสือที่จู่ๆก็กลายร่างเป็นแมวมาคลอเคลียมือเขาเล่น พลางเหลือบมาสบสายตาเขาด้วยแววตาแบบนั้นอีก

                เก่งเหลือเกินปาร์คจินยอง ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครถึงได้อยากได้นัก

                อย่านะแจบอม มึงจะหันไปมองหน้ามันไม่ได้ อย่าหลงกลเสียงอ้อนปลอมๆของเสือในคราบลูกแมวเด็ดขาด

                “พี่จะเมินผมทั้งคืนเลยเหรอ”

                แต่แจบอมชอบแมว ชอบมากๆ

                ชอบที่จะต้องตกเป็นทาสความเอาแต่ใจ ยอมทำตามทั้งๆที่ก็รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เจ้าของตากลมโตนั่นก็ไม่เคยจะเชื่อฟังเขาเลยสักครั้ง

                “อย่ามาทำตัวหน่อมแน้ม  ไม่อิน”

                คราวนี้มีเพียงเสียงหัวเราะถูกใจของอีกฝ่ายเท่านั้น จินยองเลิกทำตัวออดอ้อนเป็นสาวน้อยแล้ว แต่ก็ยังนั่งอยู่ตรงข้างเขาไม่ยอมไปไหน

                “ไปต่อที่ห้องผมมั้ย”

                “ไม่ไป”

                “คิดหน่อยก็ได้พี่”

                จินยองเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน แจบอมรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้จริงจัง เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นชัดเจน และมันก็มากพอจะรู้ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้

                แต่จินยองก็คือจินยอง

                จินยองที่เอาวิสกี้มายื่นให้แจบอมทุกวัน ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่มีวันดื่มมัน

                จินยองเหมือนวิสกี้แก้วนั้น รสขมปร่าแต่กลับหอมหวนอย่างน่าประหลาด หอมจนแจบอมอาจเพลินและเผลอลิ้มลองมากจนเกินความสามารถที่ร่างกายจะรับไหว แล้วก็เริ่มคุมสติไม่ได้ ทำอะไรบ้าบอที่ยามเมื่อตื่นมากับความหนักอึ้งของร่างกายในตอนเช้า เขาคงทำใจมองหน้าอีกฝ่ายไม่ลง

                เพราะงั้น เขาควรรักษาระยะห่างอันแสนปลอดภัยไว้ให้ดี ดีกว่าที่จะให้มันจบแบบแย่ๆ

                แจบอมพับจอแมคบุ๊คลงเป็นสัญญาณบอกว่างานของเขาในค่ำคืนนี้จบลง เขาเอื้อมไปคว้าข้อมือของคนที่นั่งเงียบมาเพื่อดูเวลาจากหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเรือนสวยของอีกฝ่าย

                ตีสองครึ่งแล้ว แจบอมควรกลับบ้าน

                “กลับละ”

                จินยองพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย มองตามคนไหล่กว้างที่คว้าข้าวของจากบาร์เดินออกจากประตูคลับไป

     ไม่มีจูบล่ำลา ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกเสียดาย

                สัมผัสจากมือร้อนยังคงคาอยู่ที่ข้อมือเขาอย่างน่าประหลาด จินยองรู้ว่ามันคงเลือนหายไปแล้ว มีแต่สมองเขานั่นแหละที่หลอกตัวเองว่าความอบอุ่นนั้นยังคงวนเวียนอยู่บนผิวแบบนั้น

                มวนบุหรี่ถูกเคาะออกจากซองอย่างเชื่องช้า จินยองคาบมันไว้ในปากเตรียมจ่อเปลวไฟเข้ากับปลายของมันด้วยท่าทีเหม่อลอย

                แต่ทุกอย่างก็ชะงักลงทันทีที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง เปลวไฟดับลง บุหรี่มวนเดิมถูกนิ้วเรียวคีบจากปากมาวางไว้บนเคาเตอร์บาร์

                อย่าทำร้ายตัวเองด้วยความสุขฉาบฉวย นั่นคือสิ่งที่จินยองกำลังฝึกตัวเอง นายกอบโกยความสุขจากอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่เสพติดมัน

                จินยองจัดการกับการเสพติดของตัวเองได้ดีเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามีCasual Sex กับใครสักคน มันก็ต่างออกไปตรงที่คนนี้เข้ากันได้ดีกว่าคนอื่น มันเลยโหยหามากเป็นพิเศษ

                เหมือนเจอบุหรี่ที่ถูกใจ ต่อให้ต้องจ่ายแพง ดั้นด้นขับรถไปถึงช็อปนอกเมือง มันก็ไม่เคยเกินกำลัง ตราบใดที่จินยองห้ามตัวเองไม่ให้เสพติดมันได้

    สุดท้ายแล้ว มันก็จะจบลงเหมือนทุกความสัมพันธ์ที่จินยองเคยมี

                ก็แค่คนอีกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

    ผ่านมา...

                ...แล้วก็จะผ่านไป

               

     

     

     

    ความสัมพันธ์แบบ Friend with benefits

    ถึงจะเป็นเพื่อนกันเพราะผลประโยชน์ แต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันอยู่ดีใช่รึเปล่า

    งั้นก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง

    “มันจะไม่เป็นไรจริงๆเหรอวะพี่”

    คำถามนั้น แจบอมก็ถามตัวเองอยู่เช่นกัน และยังคงวนเวียนคิดหาคำตอบมาตลอดทางตั้งแต่ที่ขับรถออกมา จนมาถึงที่นี่

    “ก็แค่ช่วงที่มึงยังหาคอนโดไม่ได้”

    แจบอมมองสีหน้าลังเลของคนเด็กกว่า เลยเลือกจะคว้าเอากระเป๋าเดินทางที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นรถแทน แจบอมรู้ดีว่าคนตรงหน้าคงกังวลเรื่องระยะห่างที่เราสองคนวางเอาไว้ ถือว่าเก่งทีเดียวกับคนที่มีความสัมพันธ์แบบนั้นมาได้สามเดือนโดยไม่เคยมีปัญหากัน

    แต่ฝ้าคอนโดถล่มลงมาขนาดนั้น ไม่ตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว ยังจะมาห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก

    “ผมไปพักโฮสเตลก่อนก็ได้นะจริงๆแล้ว”

    “จินยอง”

    “เออๆ ไม่เถียงแล้ว”

                จินยองยกมือยอมแพ้ รีบขนกระเป๋าที่เหลือมาใส่รถก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าเจบอมพร้อมแบมือเป็นเชิงขออะไรบางอย่าง

                “ให้ผมขับ”

                ใช่เรื่องดิ รถก็รถกูมั้ย

                “พี่ขับรถเหี้ยอ่ะ ผมรอดจากฝ้าหล่นใส่หัวแล้ว ก็อย่าให้ต้องมาตายบนรถพี่เลย”

                จินยองเบ้หน้าเมื่อโดนหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ไหล่แทนคำด่า จินยองลูบแขนพลางมองคนที่ยืนฟึดฟัดเพราะโดนดูถูกฝีมือขับรถอย่างรอคอย และในที่สุด อีกฝ่ายก็ยื่นกุญแจมาให้จนได้

                “ขับดีๆ”

                ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็เดินหนีขึ้นไปนั่งอีกฝั่ง ปล่อยให้จินยองยิ้มตามท่าทางเด็กๆนั้นไปเงียบๆ

                ถึงจะดื้อยังไง แจบอมก็เป็นคนมีเหตุผลเสมอ และนั่นคือสิ่งจินยองชื่นชมในตัวแจบอม ความเข้าอกเข้าใจในเรื่องต่างๆอย่างผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันก็มีมุมเด็กๆให้ได้เห็น มันทำให้จินยองรู้สึกวางใจที่จะพึ่งพาอีกฝ่าย แต่ก็สนุกที่ได้แกล้งเช่นกัน

                คอนโดของแจบอมใหญ่กว่าของจินยองแต่ไกลจากคลับที่พวกเขาทำงานกว่าเช่นกัน ด้วยเหตุนั้น จินยองเลือกที่จะพักใกล้ๆในที่พักขนาดเล็กแม้ราคาจะสูงเพราะไม่อยากขับรถ แตกต่างจากคนตรงหน้าที่ต้องการพื้นที่ในการทำนู่นทำนี่ คอนโดจึงเป็นห้องชุดที่มีสองห้องนอนแต่ถูกปรับให้กลายเป็นสตูดิโอขนาดเล็กไปแทนแล้ว

                จินยองวางสัมภาระของตัวเองลงในห้องรับแขก กวาดตามองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้เข้าใจผิด

                “ห้องพี่โคตรดีอ่ะ”

                ใช่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่จินยองได้ก้าวเข้ามาอยู่ในโลกส่วนตัวของแจบอม

                แล้วมันก็อดตื่นเต้นไม่ได้

                “เอาของไปเก็บไป เดี๋ยวให้ป้าแม่บ้านหาผ้าห่มมาเพิ่มให้”

                “ผมนอนโซฟาได้นะพี่”

                “ก็ให้นอนโซฟาอยู่แล้ว กูจะเสียสละห้องให้มึงทำไมล่ะ”

                เอ้อ ไอ้เราก็นึกว่าจะทำตัวพระเอก

                จินยองมองตามคนไหล่กว้างที่เดินคุยโทรศัพท์ออกไป ปล่อยให้เขายืนงงอยู่คนเดียว ความรู้สึกแปลกๆกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ จินยองรีบสะบัดมันออกอย่างไม่รอช้า

                ก็แค่เพื่อนที่ช่วยกันตอนเดือดร้อน ก็เท่านั้นเอง

                หยุดคิดมากได้แล้วจินยอง

                ผู้อาศัยพาตัวเองไปจัดการเก็บข้าวของให้เข้าที่ ห้องนอนแจบอมตกแต่งอย่างง่าย เหมือนไม่ได้ตกแต่งเพิ่มเติมเลยหลังจากย้ายเข้ามา ไม่มีกรอบรูป ภาพวาด ฟิกเกอร์ ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ทำงาน อาจเพราะอีกฝ่ายมีสตูดิโอแยกไปแล้วละมั้ง แต่ก็ตามประสาหนุ่มโสดนั่นล่ะ ผ้าห่มพับไว้ลวกๆบนเตียง เสื้อยืดใช้แล้วที่คาอยู่บนปากตะกร้า เสื้อแจ็คเกตวางพาดไว้บนขอบเตียงไม่ยอมแขวนให้เรียบร้อย สิ่งเล็กๆน้อยๆแต่กลับขัดตาจนจินยองอดไม่ได้ ต้องเริ่มจัดการให้มันเข้าที่ แม้อาจจะโดนดุทีหลังแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้รกหูรกตาล่ะวะ

                แจบอมหายไปไหนไม่รู้นานสองนาน คงออกไปตามแม่บ้านมั้ง เพราะงั้น จินยองเลยอาศัยจังหวะนี้อาบน้ำเลยละกัน นี่ก็หกโมงแล้ว อีกเดี๋ยวก็ต้องไปทำงานจะได้ไม่แย่งห้องน้ำกับแจบอม

                นึกถึงตอนอยู่กับรูมเมทสมัยมหาลัยเลยแฮะ

                “หูย มีเครื่องทำน้ำอุ่นทำไมไม่เปิดวะ” ร่างสูงพึมพำเมื่อน้ำที่ไหลผ่านฝักบัวกลับเย็นเฉียบ เอาวะ ขอเปิดหน่อยละกัน ไว้เขาจะช่วยค่าไฟทีหลั-

                ครืด

                “เห้ยพี่”

                จินยองวิ่งหลบเข้ามุมห้องน้ำเมื่อจู่ๆก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเปิดม่านเข้ามาโดยไม่บอกกล่าว ถึงจะนอนกันมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เขินป่ะวะ

                “อายอะไร หลบดิ กูอาบด้วย”

                โว้ย อะไรของพี่มันเนี่ย

                “อาบจะเสร็จละเนี่ย พี่ออกไปก่อนดิ”

                จินยองมองคนทำหูทวนลม ล้างเนื้อล้างตัวโดยไม่สนคำโวยวายของเขาเลยได้แต่เลยตามเลยเปลี่ยนเป็นคว้าสบู่ของตัวเองมาชะโลมตัวแทนไม่ให้เสียเวลา

                แต่ถูไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นแหละ

                “หอม”

                พูดเปล่าๆไม่ว่า มาซะเสียงกระเส่าเชียว

                 จนได้สิวะ

                “พ..พี่ เดี๋ยวพี่”

                จินยองยกมือยันตัวกับฝาผนังไม่ให้ตัวเองโดนเบียดมากไปกว่านี้ ริมฝีปากเย็นชืดเริ่มลากผ่านลำคอเขาไปช้าๆจนไปถึงไหล่มนมน และโดยสัญชาตญาณของเขา จินยองเผลอเอียงคอให้อีกฝ่ายลากริมฝีปากได้ง่ายดายขึ้น

                เซ็กในห้องน้ำ...ความแปลกใหม่อีกอย่างที่จินยองไม่เคยได้ลอง

                   "อ๊ะ..พี่ครับ"

                “ขอเก็บค่าที่พักหน่อยนะจินยอง”

               



                #UnfixedJJP

     



                “สายเลยเนี่ย”

                แจบอมเดินตามหลังคนขี้บ่นเข้าไปในคลับและพยายามที่จะไม่หัวเราะ จินยองมองค้อนให้อีกครั้งก่อนจะสะบัดผมเปียกๆของมันไปที่บาร์เครื่องดื่มเพื่อเตรียมทำงาน ความผิดเขาที่ไหน ถ้าจะโทษก็โทษสบู่หอมๆกับตัวเองนั่นแหละ

                ใครจะไปนึกว่าจินยองตอนผมเปียกๆจะเซ็กซี่ขนาดนั้น ก็ไม่เคยเห็นกันตอนอาบน้ำเลยนี่หว่า เจอกันแต่ที่คลับตลอด

                สบู่นั่นอีก เล่นเอาแผนประหยัดเวลาโดยการอาบน้ำพร้อมกันเสียไปหมด

                “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีเจกูจะเปิดแต่เพลงรักมั้ยวะวันนี้”

                เสียงยียวนของเจ้าของคลับดังมาพร้อมแขนที่กอดคอเขาแน่นเป็นเชิงทักทาย

                มาร์ค ต้วน

                ผู้ชายหน้าสวยที่นิสัยขัดกับความน่ารักชิบหาย

                “เพลงรักห่าอะไร”

                “แหนะ ผมเปียกมาทั้งคู่ขนาดนั้น”

                “พอเลย กูจะเช็คซาวด์” แจบอมตัดบท ส่วนมาร์คก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้ดีเจหนุ่มทำหน้าที่ ส่วนตัวเองก็เดินไปเช็คงานในส่วนอื่นๆ แจบอมเหลือบมองไปทางบารืที่จินยองยืนเช็ดแก้วอยู่เงียบๆ

                ก็แค่มีอะไรกันเหมือนทุกครั้ง ทำไมครั้งนี้มันถึงสลัดออกจากหัวไม่ได้สักทีวะ

                พอแล้วอิมแจบอม ถ้าวอกแวกแบบนี้ งานวันนี้เป๋แน่ๆ มีสติหน่อย เรื่องนั้นน่ะ เอาไว้คิดเมื่อไหร่ก็ได้

                เสียงเพลงบีทหนักดังขึ้น เช่นเดียวกับใจของแจบอมที่ค่อยๆสงบลง

                หรือเต้นเร็วเหมือนเดิม แค่เจ้าตัวไม่ได้ยินก็เท่านั้น

               

     

                แจบอมเปิดเพลงพลาดไปสี่ครั้ง นับเป็นสถิติที่น่าตกใจสำหรับแจบอม แม้คนอื่นจะไม่ทันสังเกตก็ตาม

                มือหนายกแก้ววิสกี้ที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มยกมาเสิร์ฟให้เหมือนทุกครั้งขึ้นมาแกว่งเล่น ตาเรียวเล็กมองตามของเหลวสีอำพันเป็นการแก้เบื่อระหว่างรออีกฝ่ายเช็คสต็อกเป็นรอบสุดท้าย

                “กี่โมงแล้ว?

                แจบอมพึมพำถามจนคนที่นับขวดรัมอยู่ต้องหันมาหา จินยองเดินมาหาดีเจหนุ่มที่ซบหัวลงกับบาร์โดยไม่สนใจความสะอาดแล้วยื่นข้อมือให้อีกฝ่าย แจบอมจับข้อมือนั้นเพื่อกวาดตามองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเรือนสวยของจินยองเหมือนทุกครั้งด้วยความเคยชิน

                ตีสอง

                “ใกล้เสร็จยังเนี่ย”

                “เสร็จแล้วๆ”

                จินยองเดินไปล้างมือแล้วรีบกวาดสัมภาระของตัวเองมาถือ แล้วเร่งฝีเท้าจนทันคนที่เดินนำออกมาโดยไม่รอ

                แจบอมกดปลดล็อกรถแล้วโยนของตัวเองไว้ที่เบาะหลังก่อนจะส่งกุญแจให้จินยอง

                “อย่าขับเก้าสิบนะมึง”

                สั่งแค่นั้นแล้วเดินขึ้นรถไปหน้าตาเฉย

                จินยองชักจะตามอารมณ์คนตรงหน้าไม่ทัน คงง่วงละสิถึงได้ผลักหน้าที่ขับรถมาให้เขาแบบนี้ แต่ก็ดีแล้ว ไม่อยากนั่งรถตีนผีของพี่มันเหมือนกัน ยิ่งดึกๆรถโล่งๆแบบนี้ยิ่งไม่อยาก

                จินยองจอดรถที่ใต้คอนโดแล้วเหลือบมองเวลาอีกครั้ง ตีสองยี่สิบแล้ว

                “ไหนกุญแจห้อง”

                “ฮื่อ” แจบอมดิ้นหนีมือที่ดันแก้มตัวเอง ตาเรียวค่อยๆลืมขึ้นตามด้วยการหาวปากกว้างเป็นการปิดท้าย

                เจ้าของคอนโดเดินโงนเงนไปทางลิฟต์ปล่อยให้จินยองต้องรีบหยิบเป้ของทั้งเขาทั้งของแจบอมเดินตามให้ทัน ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงห้อง

                “อย่าเพิ่งนอน” จินยองรีบไปคว้าแขนคนที่ทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีที่มาถึงก่อนอีกฝ่ายจะได้ท่าสบาย

                “โอย จะนอนนน”

                “ไปอาบน้ำไป เมื่อกี้ฟุบหน้ากับบาร์มาด้วย สกปรก”

                “เออ ช่างหน้ากูเถอะ”

                จินยองถอนหายใจมองคนเป็นพี่งอแงเอาแต่มุดหน้าเข้ากองผ้าห่มอย่างจนปัญญา เอาไงดีวะ

                “พี่”

                “ฮื่อ”

                อ่ะ มุดหนีเข้าไปอีก

                “แจบอม”

                ไม่มีการตอบรับ จินยองกระชากผ้าห่มที่อีกฝ่ายยกไปปิดหน้าเพื่อหนีแสงออกเผยให้เห็นใบหน้างอง้ำกับหัวยุ่งๆของอีกฝ่าย

                “ถ้าพี่ไม่อาบ ผมนี่แหละจะมานอนบนเตียง”

                “...”

                “แล้วจะถีบพี่ให้ไปนอนบนพื้น”

                “...”

                “เข้าใจมั้ยครับ”

                “...”

                “หนึ่ง”

                “เออๆ ลุกแล้วๆ”

                จินยองมองเจ้าของห้องที่ยอมลุกจากกองผ้าห่มด้วยสีหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปยังห้องน้ำ

              "วุ่นวายจริง”

                ยัง ยังจะบ่น จินยองอยากตามไปจัดการเด็กดื้อถึงในห้องน้ำถ้าไม่ติดว่าเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เลยเลือกที่จะไปจัดการตัวเองที่ห้องน้ำด้านนอก ดีที่พอมีอุปกรณ์อาบน้ำสำรองพอให้ใช้จะได้ไม่ต้องเข้าไปแย่งอีกฝ่าย

                ก็แค่อีกวันที่ยาวนานมากๆ แต่อีกหน่อยคงชิน

                หรือบางที เขาอาจจะต้องรีบหาที่พักใหม่ให้ได้เร็วๆ ก่อนที่ตัวเองจะเคยชินกับการอยู่ร่วมกับใครอีกคน

     

                #UnfixedJJP



    XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXx

    ช่วยเม้นต์ส่งกำลังใจกันหน่อยน้า

    อย่าคาดหวังอะไรกับเรามากนะคะ เราแต่งตามอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น มาเปิดเรื่องใหม่ยังไงก็ช่วยกันส่งฟีดแบ็คด้วยนะคะ #UnfixedJJP

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×